บางคนอาจจะเคยมาเที่ยวปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กันมาบ้างแล้วจากกระแสโด่งดังจากหนังไทยเรื่อง Pai in Love ปายอินเลิฟ ที่จุดกระแสปายดังระเบิดระเบ้อเมื่อ 7 ปีก่อน แต่สำหรับเรานั้น ครั้งนี้เป็นการมาเที่ยวปายครั้งแรกในชีวิตเลยแหละ (บางคนอาจจะคิดในใจว่า.. ว๊าย เชยจัง) ยอมรับว่าเชยจริง แต่ไม่เป็นไรน่า ที่เราได้มาครั้งนี้ เพราะได้รับเชิญจาก Hotel des Artists: Rose of Pai ให้มาเที่ยวที่ปายและทำให้เราได้รู้จักเมืองเล็กๆที่น่ารักเมืองนี้แหละน้อววว
ทำความรู้จัก Hotel des Artists: Rose of Pai
หากใครยังไม่คุ้นชื่อ Hotel des Artists เราจะบอกให้ฟังว่าตอนนี้เค้ามีอยู่ 3 ที่แล้วคือ เขาใหญ่ เชียงใหม่ และปาย ที่เรากำลังจะรีวิวนี่แหละ โดยแต่ละที่ของ Hotel des Artists จะมีนามสกุลต่อท้ายด้วยชื่อสถานที่ อย่างของเชียงใหม่ Hotel des Artists, Ping Silhouette ที่อยู่ติดแม่น้ำปิง และปาย Hotel des Artists: Rose of Pai กุหลาบเมืองปาย
ถ้าใครเคยมาปายมาก่อนแล้วได้เดินมาสุดถนนคนเดินตรงสะพานไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำปาย จะเห็นบ้านเรือนไทยตั้งตระหง่านเชิดหน้าสวยๆอยู่ริมน้ำ นั่นแหละ Hotel des Artists: Rose of Pai โรงแรมบูติคที่เริ่ดที่สุดในเมืองปาย
ที่นี่เค้ามีรางวัลการันตีระดับชาติอย่าง Thailand Boutique Awards 2010 ประเภท The Outstanding Award Renovation and Modification ด้วยการนำเฮือนไตกุหลาบเมืองปาย (เรือนไทยกุหลาบเมืองปาย เป็นชื่อที่เจ้าของเก่าได้ตั้งชื่อไว้) ที่เหลืออยู่หลังสุดท้ายริมแม่น้ำปายมาปรับปรุงใหม่ในแบบฉบับ “ที่พักสมัยใหม่ภายในกรอบบ้านเก่า”
เมื่อได้มาพักที่นี่แล้ว ความรู้สึกมันบอกออกมาจากใจเลยว่าที่นี่เป็นที่พักที่มีสเน่ห์และมีเอกลักษณ์มากที่สุดของปายเลยล่ะ
สัมผัสกุหลาบเมืองปาย
ก่อนจะไปถึงเมืองปาย ต้องผ่านการทดสอบด้วยการนั่งรถจากเชียงใหม่ไปปายด้วยจำนวนโค้ง 762 โค้ง ทำเอานี่มึนและหลับไปเลยระหว่างทาง ตื่นขึ้นมาอีกทีมาโผล่ที่ปายหน้าโรงแรม Hotel des Artists: Rose of Pai แล้ว แค่แรกเห็นด้านหน้าโรงแรมและมองลอดเข้าไปข้างก็ฟีลได้ถึงความมีสเน่ห์และความน่ารักของที่นี่แล้วจ้า เดินเข้าไป.. เค้าจะต้อนรับ Welcome Drink ด้วยชากลิ่นกุหลาบเย็นๆให้หายเหนื่อยก่อน จากนั้นเราก็พร้อมสำรวจที่นี่กันเล้ย ฮี่ฮี่
โรงแรมที่นี่จะมีขนาดไม่ใหญ่ จะกะทัดรัดอบอุ่นและเป็นกันเอง ด้านหน้าของโรงแรมจะมี Cafe’d tist คอยต้อนรับผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาเพื่อมานั่งชิลกินข้าวหรือกาแฟที่นี่ ถัดมาจากคาเฟ่จะเป็นบ้านหลังเล็กน่ารักที่ทำหน้าที่เป็นล็อบบี้โรงแรมนั่นเอง ส่วนห้องพักทั้งหมดของที่นี่จะอยู่บนเรือนกุหลาบเมืองปาย โดยมีห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีสองแบบให้เลือกพักคือ Deluxe และ River View บนเรือนไทยก็จะมีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ รวมถึงหนังสือและที่นั่งเล่นให้อ่านกันด้วยแหละ
เดินออกมาหน้าเรือนไทยฝั่งริมแม่น้ำปาย จุดนี้คือไฮไลท์สุดของรีสอร์ทที่นี่เลยแกรเอ้ยยย โดยเฉพาะช่วงเย็นๆพระอาทิตย์กำลังจะตกนี่ สวยม๊ากกกก!
ช่วงด้านหน้าเรือนไทยตรงนี้ เราสามารถมานั่งตากลมชิลๆได้ และที่สังเกตได้คือ ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาตรงสะพานนี้ ทุกคนจะแหงนหน้ามองมาที่ Hotel des Artists: Rose of Pai เพราะเรือนไทยสวยงามสะดุดตามากกก
นอนพักห้องวิวแม่น้ำปาย (River View)
เราจะมาเริ่มที่ห้องวิวแม่น้ำปายกันก่อน ห้อง River View จะมีทั้ง 4 ห้องพัก ข้าวของเครื่องใช้เรียกว่ามีพร้อมหมดตามฉบับโรงแรมชั้นนำไม่ว่าจะเป็น เตียงนอนขนาดใหญ่ ทีวี โต๊ะนั่งทำงาน เก้าอี้นั่งยาว ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น มินิบาร์ และที่ไฮไลท์คือระเบียงหน้าห้องที่มีเก้าอี้นั่งอ้อยอิ่งดูคนเดินไปเดินมาข้ามสะพานแม่น้ำปายนี่แหละแกรเอ้ย
การตกแต่งห้องใช้ของพื้นเมืองปาย ฟีลลิ่งแบบชาวเขาภาคเหนือและมีกลิ่นความจีนเข้ามาเล็กๆตามสไตล์จีนยูนานที่เป็นคนท้องถิ่น
ของใช้แต่ละอย่างก็จะมีกิมมิคของมันเอง อย่างโคมไฟบนโต๊ะทำงานเอาลูกคิดมาเป็นกิมมิก หมอนอิงมาจากการประชุนจากผ้าพื้นบ้าน กุญแจห้องทำจากเครื่องประดับหมวก โคมไฟในห้องน้ำที่มีรูปเมืองปายเป็นสิบๆติดรอบด้าน .. ตัวอย่างแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเค้าเอาใจใส่กับการตกแต่งและออกแบบแค่ไหน
ห้องพักดีลักซ์
ห้องพักแบบดีลักซ์ของที่นี่อุปกรณ์ครบครันเหมือนห้อง River View เลยล่ะ ต่างกันที่วิวและขนาดห้องแค่นั้นเอง เฟอร์นิเจอร์ห้องนี้เราว่าน่ารักกุ๊กกิ๊กกว่า มีความย่อส่วนอย่างเก้าอี้ข้างเตียงคือน่าร้ากกก โต๊ะทำงานก็ไซส์เล็กลงมาหน่อย แต่การตกแต่งยังคงเป็นสไตล์เดียวกัน ฟีลบรรยากาศแบบปายๆผสมความโมเดิร์นของข้าวของเครื่องใช้ เราว่ามันดูอบอุ่นน่ารักง่ะ แอร้ยยย
จัดเต็มกับ Cafe’d’ tist
Cafe’d’ tist อันนี้เราเลิฟมาก ใครที่ไม่ได้เป็นลูกค้าโรงแรมก็สามารถมานั่งชิลกินบรรยากาศปายที่นี่ได้เหมือนกัน .. แกร .. มันเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของ Hotel des Artists: Rose of Pai เลย จะบอกว่าอาหารและเครื่องดื่มที่นี่ดีงามมากกกกกก! แถมราคาน่าคบหาอีกด้วย คาเฟ่ที่นี่จะแบ่งออกเป็นสองอย่างคือ อาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพักที่โรงแรม และอาหารที่สั่งได้ทั้งวันแบบ All-day a la carte
อาหารเช้าที่ Cafe’d’ tist
เรามาดูเซ็ตอาหารเช้าสำหรับคนที่พักที่นี่กันก่อน เค้าจะมีรายการอาหารให้เลือกหลายอย่าง คือจะเลือกอะไรก็ได้ตามลิสเมนูที่มีทั้งหมด 13 อย่าง รวมถึงเครื่องดื่มทั้งกาแฟ ชา น้ำผลไม้ กินหมดแล้วสั่งใหม่ได้ถ้าไม่อิ่ม เอาล่ะ เราจะเลือกมาที่คิดว่าเด็ดดวง
เริ่มต้นด้วย Signature Dish ของที่นี่กับ Cafe’d’ tist Sandwiches เป็นเบค่อน มายองเนสและไข่ข้นๆประกบด้วยขนมปังบาแก็ต อร่อยมว๊ากก
อย่าพลาดกับ Eggs Benedict เริ่ดสุด สูตรเฉพาะที่นี่ อร่อยมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ต่อด้วย Eggs Benedict คือนี่ก็กิน Eggs Benedict มาค่อนข้างหลายที่นะ พอมาได้มากินที่ปายคือลืมทุกที่ที่เคยกินไปเลย โดยเฉพาะตัวไข่เค้าทำได้นุ่มเหมือนเป็นครีม กินเข้ากับเบค่อนและขนมปัง คือปังมาก
หากใครเป็นขาฟิตเนสต้องการโปรตีนแบบเต็มๆ พร้อมแป้งจากขนมปังไว้เป็นพลังงานในการเที่ยวเมืองปาย ขอแนะนำ Chicken ‘n’ Cheese Sandwiches อกไก่พร้อมโปะชีสบนสลัด ประกบด้วยขนมปังบาแก็ต เฮลตี้สุด!
ใครเป็นคอกาแฟ ที่นี่ก็มีพร้อมนาจา ลาเต้อาร์ทก็สั่งได้
ตบท้ายอาหารเช้าด้วยขนมพื้นเมืองของคนที่นี่ ‘แปงม้ง’ หรือ ‘เป็งม้ง’ อันนี้ย้ำว่าห้ามพลาดอีกเช่นกัน
Cafe’d’ tist แบบ a la carte
สำหรับอาหารแบบ a la carte ที่ขายใน Cafe’d’ tist จะเน้นอาหารไทยรสชาติไทยจ๋าเป็นหลักเลย อาหารเค้าไม่ตามใจปากฝรั่งนะแกร เผ็ดคือเผ็ด หวานเค็มเปรี้ยวตามแบบรสชาติไทยจริงจัง ซึ่งเราโคตรผิดคาดจากที่คิดไว้เพราะจากที่เห็นมา ส่วนมากคนที่มาทานอาหารที่นี่คือฝรั่งไง๊ มาดูดีกว่าว่าเรากินอะไรมั้ง เด็ดทุกอัน..บอกเลย
เริ่มต้นออเดิร์ฟด้วย Spring Rolls d’tists (95 บาท) มันคือป่อเปี๊ยะทูน่า ความกรอบด้านนอกของแป้งป่อเปี๊ยะกับความนิ่มของทูน่าแบบละลายในปาก คือกล้าพูดว่า สั่งเหอะแล้วจะไม่ผิดหวัง
Phad Thai d’tists (95 บาท) อันนี้คือดีงามที่สุดในการกิน Cafe’d’ tist ที่นี่กับผัดไทยกุ้งสด ที่เส้นเหนียวนุ่มและรสชาติที่อร่อยมากๆอ่ะ คือประทับใจจานนี้มาก เป็นอีกจานที่ต้องสั่ง
Gaeng Hung Lae with Pitta Bread (95 บาท) อาหารจานเด็ด ‘แกงฮังเล’ อาหารพื้นเมืองของภาคเหนือล้านนา เอาขนมปังพิตตาจิ้ม หรือจะกินกับข้าวก็ดีงาม
Spaghetti Bolognese with Mint Pork (95 บาท) สปาเกตตี้คลุกด้วยซอสโบโลเนสหมู
Tortillas Roll Chicken (110 บาท) ตอติญ่าโรลไส้ไก่
Tom Yum Kung (150 บาท) ต้มยำกุ้งที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ดีงาม และไม่ตามใจปากฝรั่ง รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อมตามสไตล์คนไทยจริงจัง
Somtam & Deep Fried Chicken Wing ส้มตำเสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่และไก่ทอด รสชาติไทยๆเช่นเดียวกัน หากใครชอบแบบปลาร้า ที่นี่ก็จัดให้ได้เหมือนกันนะเว้ย 5555
จากรายการเมนูข้างบนทั้งหมดที่ได้กินไป รสชาติอาหารคือเกินราคามาก แล้วดูราคาดิ.. ส่วนมากคือ 95 บาท ต้องบอกว่าคุ้มค่า คุ้มราคา รสชาติดีเกินราคา บรรยากาศร้านที่น่ารัก ผมนี่โคตรประทับใจเลย สามวันสองคืนที่ได้อยู่ปาย ผมกินแต่อาหารที่ Cafe’d’ tist นั่นแหละครับ ดีงามสุดแล้ว
สรุป
เราขอยกที่นี่ให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของปาย (จากใจ)
ด้วยเรื่องสถานที่ตั้งที่อยู่ริมแม่น้ำปายกลางใจเมือง สามารถเดินไปตลาดไนท์มาร์เก็ตแค่สิบกว่าก้าว รวมถึงทัศนียภาพสิ่งแวดล้อมที่นี่ที่ใครเดินผ่านไปผ่านมาคือต้องสะดุดตาแน่นอน การบริการลูกค้า.. พนักงานที่นี่ก็คือคนที่นี่เอง บริการน่ารักเป็นกันเองสุดๆ
ความคิดส่วนตัวคือคะแนนเต็ม 10 หมดทุกด้าน เราประทับใจกับการมาปายครั้งนี้มาก 80% มาจาก Hotel des Artists : Rose of Pai ที่นี่เลย
หากใครสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์ เข้าไปที่เว็บไซต์หรือเฟสบุคเพจของที่นี่ได้เลย
Hotel des Artists : Rose of Pai
เบอร์โทรศัพท์ : 085-215 0777, 085-215 0888
อีเมล : roseofpai@gmail.com
เว็บไซต์ : http://www.hotelartists.com/pai
ใครสะดวกจองออนไลน์บน Agoda.com สามารถดูรีวิวและเช็คเรทราคาได้เลย ที่นี่
3 comments
หรูหราแบบดั้งเดิม ธรรมชาติสุดๆ น่าพักมาก
อยากไปสักหลายๆครั้งเลยค่ะ
ว๊าวววว อยากไปนอนสโลไลฟ์กะแฟนเลย