ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ใครแพลนเที่ยว โตเกียว (Tokyo) แล้วกำลังดูอยู่ว่าควรเข้าพักย่านไหนดี มีที่พักไหนและโรงแรมดีๆ ที่เหมาะกับเงินในกระเป๋าเรากันบ้าง รีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันแบบครบหมดไม่มีกั๊ก เอาว่าอ่านจบแล้วตัดสินใจได้แน่นอนว่าจะเข้าพักย่านไหน หรือเลือกโรงแรมยังไงให้เหมาะสมที่สุด ว่าแล้ว มาเริ่มหาที่พักในโตเกียวไปด้วยกันเร้วว!

โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เยอะมากที่สุดในโลกอีกด้วย เดิมทีในช่วงปี ค.ศ. 1868 โตเกียว เป็นที่รู้จักในชื่อของ “เอโดะ” ซึ่งมีลักษณะเป็นเมืองเล็กๆ ก่อนจะถูกพัฒนาและเติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันนี้โตเกียวเปรียบเป็นศูนย์กลางในการช้อปปิ้ง แหล่งรวมความบันเทิง วัฒนธรรม และอาหารให้เราได้มาเลือกสรรกันอย่างไร้ขีดจำกัด โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของโตเกียวก็มีอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่าง โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower), วัดเซนโซจิ (Senso-ji) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมากราบไหว้ขอพร หรือจะเป็นย่านกิน-ย่านช้อปปิ้งทั้ง ชินจูกุ (Shinjuku), ย่านกินซ่า (Ginza) และย่านชิบูย่า (Shibuya) ทั้งหมดนี้ยังอยู่ที่ โตเกียว (Tokyo) อีกด้วย

Go to top

แนะนำย่านที่พักและโรงแรมในโตเกียว (Tokyo)

คนที่กำลังหาที่พักใน โตเกียว (Tokyo) อยู่ล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราพักในย่านกินซ่า (Ginza), อาซากุสะ (Asakusa), ชินจูกุ (Shinjuku) และ ชิบูย่า (Shibuya) ได้เลย เนื่องจากทั้ง 4 ย่านนี้มีรถไฟใต้ดิน (Tokyo Metro) สาย Ginza Line พาดผ่าน ซึ่งเราสามารถเดินทางไปยังย่านเหล่านี้ได้สะดวก โดยรถไฟใต้ดิน (Tokyo Metro) นั้น ถือเป็นรถไฟสายหลักที่เราจะได้ใช้งานบ่อยที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในโตเกียวเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ อีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกไม่แพ้กัน คือ รถไฟ JR สาย Yamanote Line เพราะรถไฟสายนี้จะวิ่งเป็นวงกลมเชื่อมต่อศูนย์กลางหลักๆ ของเมืองโตเกียวเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว (Tokyo), อูเอโนะ (Ueno), อิเกบูกูโระ (Ikebukuro), ชินจูกุ (Shinjuku), ชิบูย่า (Shibuya) และชินากาว่า (Shinagawa) โดยย่านที่พักที่ก๊อตแนะนำและมีรถไฟ JR สาย Yamanote Line ผ่านนั้น คือ สถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area) 

ซึ่งทั้งห้าย่านนี้นั้น มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ บัตเจท ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว รวมไปถึงแพลนเที่ยวของแต่ละคน เพราะแต่ละย่านก็จะมีจุดเชื่อมต่อรถไฟสายหลักอื่นๆ ไปยังเมืองต่างๆ รอบๆ โตเกียวด้วยนั่นเอง ดังนั้น เลือกตามที่ตัวเองชอบและสะดวกได้เลยนา สำหรับใครที่เลือกย่านจะไปปักหลักได้แล้ว ก็ลองดูๆ โรงแรมที่ก๊อตแนะนำต่อตามด้านล่างนี้ได้ครับ อันนี้คัดมาให้แบบเริ่ดๆ แล้ว

Go to top

1. ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
สายช้อปปิ้ง-กิน-เที่ยว แถมเดินทางสะดวกอีก

ย่านชินจูกุ (Shinjuku) เป็นอีกหนึ่งย่านที่ครึกครื้นมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยก็ว่าได้ หากใครเป็นสายกิน สายเที่ยวกลางคืน และสายช้อปปิ้ง ซึ่งก๊อตบอกเลยว่า ย่านชินจูกุ (Shinjuku) นั้นตอบโจทย์มาก เพราะที่นี่คือย่านศูนย์กลางความบันเทิงที่ครบเครื่องมากที่สุดของญี่ปุ่นแล้ว นอกจากนี้ แถวๆ ชินจูกุเองยังเป็นย่านที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเดินทางภายในโตเกียวหรือแม้แต่เดินทางออกไปยังเมืองอื่นๆ เพราะเค้ามีสถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku Station) ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่หนาแน่นมากที่สุดในโลก จนครั้งหนึ่งเคยได้รับการบันทึกโดยกินเนสบุ๊คมาแล้วแบบเบอร์นั้นเลย 

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ที่เที่ยวใน ย่านชินจูกุ (Shinjuku) นั้นมีเยอะมาก ตั้งแต่ สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เราสามารถมาเดินเล่น หลีกหนีความวุ่นวาย และมาหาความสงบและผ่อนคลายจิตใจได้เป็นอย่างดี คาบูกิโจ (Kabukicho) ย่านบันเทิงชื่อดังที่มีเจ้าก็อตซิลล่าตัวใหญ่เป็นแลนด์มาร์ค อีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งอยู่เยอะมาก นอกจากนี้ ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ยังมีย่านเที่ยวกลางคืนทั้งบาร์ อิซากายะ และร้านอาหารเยอะมาก ไล่ตั้งแต่ โกลเด้นไก (Golden Gai) ย่านเล็กๆ ที่ถูกแบ่งเป็นซอยย่อยๆ ที่ภายในนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมด้วยการรวบรวมเอาหลากหลายบาร์เก่าแก่มารวมเข้าไว้ในที่เดียว หรือจะเป็น ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho) ตรอกที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหาร และร้านแบบอิซากายะให้เราได้เข้าไปดื่มด่ำได้ฟีลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มีรอให้เรามาเที่ยวอยู่ใน ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แล้ว

ข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านชินจูกุ (Shinjuku)

ก่อนจะไปดูว่ามีโรงแรมและที่พักไหนแนะนำใน ย่านชินจูกุ (Shinjuku) นี้บ้าง ก๊อตเอาข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของทุกคน ตามด้านล่างนี้เลย

  • ข้อดีของการเข้าพักในย่านชินจูกุ (Shinjuku)
    • มีที่ช้อปปิ้งเยอะ: เป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง และมีร้านค้ามากมายให้ได้มาเดินช้อปกันแบบกระจาย
    • บรรยากาศครึกครื้น: เป็นย่านที่จัดจ้านไปด้วยแสง สี เสียง จากร้านอาหาร บาร์ และสถานบันเทิงในยามค่ำคืน
    • เดินทางสะดวก: เรื่องการเดินทางภายในย่านนี้ก็สะดวก เพราะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku Station) โดยมีรถไฟ JR หลายสายที่เชื่อมต่อไปยังทุกส่วนของโตเกียว นอกจากนี้ยังมีรถไฟใต้ดินทั้ง Tokyo Metro และ Toei ที่ครอบคลุมเส้นทางต่างๆ ภายในย่านอีกด้วย หรือถ้าใครอยากเดินทางจากโตเกียวไปเที่ยวยังเมืองอื่นๆ ที่นี่ก็มีรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) ที่เราสามารถนั่งไปเที่ยวยังฮาโกเน่ หรือจะเป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษ Fuji Excusion ที่วิ่งตรงไปสู่คาวากุจิโกะได้อีกด้วย ถือเป็นอีกย่านที่เดินทางสะดวกที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ หลายคนอาจสับสนเรื่องรถไฟความเร็วสูง สถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku Station) จะไม่มีรถไฟความเร็วสูงชินคันเซน (Shinkansen) นะ
  • ข้อเสียของการเข้าพักในย่านชินจูกุ (Shinjuku)
    • คนเยอะ เสียงดังรบกวนในเวลากลางคืน: เนื่องจากชินจูกุ (Shinjuku) เป็นหนึ่งในย่านที่ครึกครื้น รวมถึงมีแหล่งที่เที่ยวกลางคืนขนาดใหญ่ของโตเกียวอยู่เต็มไปหมด ดังนั้น เราอาจจะต้องทำใจในความคนเยอะ และช่วงเวลากลางคืนอาจจะมีเสียงดังรบกวน ใครที่อยากหาที่พักท่ามกลางความเงียบสงบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงย่านชินจูกุไว้เลย

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านชินจูกุ (Shinjuku)

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Hotel Gracery Shinjuku
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Park Hyatt Tokyo
Go to top

2. สถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area)
สายชอบความเนี้ยบ เดินทางสะดวก

ย่านสถานีโตเกียว (Tokyo Station) หรือ ย่านมารุโนะอุจิ (Marunouchi) เป็นย่านที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และความสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เนื่องจากย่านนี้เค้าตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทชื่อดังหลายๆ บริษัทอีกด้วย โดย สถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั้น ถือเป็นศูนย์กลางในการเดินทางของเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะสถานีนี้ถือเป็นสถานีหลักและมีรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นที่เชื่อมโตเกียวไปสู่เมืองอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยสถานที่เที่ยวไฮไลท์ในย่านนี้ที่ต้องมาเลยก็คือ สวนตะวันออกพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace East Gardens) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) หรือจะเป็น ย่านมารุโนะอุจิ (Marunouchi Area) และ อาคารชิน มารุโนะอุจิ (Shin-Marunouchi) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งช้อปปิ้งนั่นเอง ทั้งหมดนี้ต้องมาอยู่ที่ สถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area) เลยนา

ข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในสถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area)

ก่อนจะไปดูว่ามีโรงแรมและที่พักไหนแนะนำใน สถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area) นี้บ้าง ก๊อตเอาข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของทุกคน ตามด้านล่างนี้เลย

  • ข้อดีของการเข้าพักในสถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area)
    • เดินทางสะดวก: โลเคชันของย่านนี้ตั้งอยู่กลางเมืองโตเกียว ทำให้เราเดินทางไปเที่ยวได้สะดวก ถือเป็นอีกหนึ่งฮับการเดินทางของโตเกียวที่มีทั้งรถไฟ JR และรถไฟใต้ดิน ยิ่งใครที่ต้องเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ด้วยรถไฟชินคันเซ็น แล้วไม่อยากเดินลากกระเป๋าไกลๆ การพักแถวนี้ก็คือเริ่ดสุด ไม่ต้องทนลากกระเป๋าให้เมื่อยตุ้มเลยแหละ
    • ย่านเนี้ยบแบบผู้ดี: ย่านนี้ถือเป็นย่านที่มีความเป็นทางการและแฝงไปด้วยความหรูหราหมาเห่า เนื่องจากอยู่ใกล้กับพระราชวัง รวมถึงเป็นย่านธุรกิจที่มีสำนักงานใหญ่หลายบริษัทตั้งอยู่ ใครที่ชอบความเนี้ยบแบบผู้ดีนี่ต้องชอบแน่นอน เพราะเป็นที่ตั้งของสารพัดโรงแรมหรูตัวท็อปของญี่ปุ่น และยังมีร้านอาหารรางวัลมิชลิน รวมถึงมีแกลอรี่และพิพิธภัณฑ์เยอะมากๆ อีกด้วย
  • ข้อเสียของการเข้าพักในสถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area)
    • ค่าใช้จ่ายเรื่องการกินสูง: ด้วยความที่เป็นย่านเนี้ยบแบบผู้ดี ใครที่ชอบหาอะไรกินถูกๆ หรือสตรีทฟู้ดที่ราคาไม่ได้แพงมากจนเกินไป ต้องบอกว่าย่านนี้มีให้เลือกน้อยมาก เมื่อเทียบกับย่านชิบูย่า (Shibuya) หรือย่านชินจูกุ (Shinjuku)
    • ไม่ค่อยมีที่เที่ยวกลางคืน: สำหรับสายเที่ยวกลางคืน ย่านนี้เป็นย่านที่ที่เที่ยวน้อยเมื่อเทียบกับย่านอื่นๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ใครอยากไปเที่ยว สามารถไปตามบาร์ในโรงแรมหรูแทนได้

แนะนำที่พักและโรงแรมสถานีโตเกียว / ย่านมารุโนะอุจิ (Tokyo Station/Marunouchi Area)

  • โรงแรมและโฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน):
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Mandarin Oriental, Tokyo
Go to top

3. ย่านกินซ่า (Ginza)
สายช้อปปิ้งแบรนด์หรู ตามล่าร้านอาหารมิชลินสตาร์

ย่านกินซ่า (Ginza) ถือเป็นอีกหนึ่งย่านหรูหราและเป็นสวรรค์ของนักช้อปแบรนด์เนมที่มีแฟล็กชิปสโตร์แทบจะทุกแบรนด์ตั้งเรียงรายเป็นตับเรียงยาวกันไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากจะได้มาช้อปแล้ว ใครที่เป็นสายกินชอบตามล่าร้านอาหารมิชลินสตาร์ ย่านกินซ่า (Ginza) เองยังเป็นแหล่งรวมร้านมิชลินหลายร้านให้เราได้เลือกกินอยู่เยอะมาก แถมยังมี โรงละครคาบุกิซะ (Kabukiza Theatre) ที่เราจะได้ดูศิลปะการแสดงคาบุกิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น และยังมีตลาดปลาที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิตของโตเกียว อย่างที่แนะนำเลย คือ ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) ที่ขึ้นชื่อในด้านอาหารทะเลที่สดใหม่ ใครที่เป็นสายเมนูซีฟู้ดทั้งหลายมาที่นี่แล้วต้องชอบแน่นอน ทั้งหมดนี้มาสัมผัสกันได้ที่ ย่านกินซ่า (Ginza) เลย

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านกินซ่า (Ginza)

ก่อนจะไปดูว่ามีโรงแรมและที่พักไหนแนะนำใน ย่านกินซ่า (Ginza) นี้บ้าง ก๊อตเอาข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของทุกคน ตามด้านล่างนี้เลย

  • ข้อดีของการเข้าพักในย่านกินซ่า (Ginza)
    • ช้อปปิ้งสนุก: กินซ่า (Ginza) เป็นย่านที่รวมเอาทุกแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์เนมมาไว้ในย่านเดียว ใครที่เป็นสายแบรนด์เนมมาพักย่านนี้คือได้ช้อปปิ้งกันกระจายเลย
    • เดินสบาย: เนื่องจากย่านนี้เป็นย่านรวมร้านแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์เนม ย่านนี้เลยพ่วงความหรูหรามาด้วย ซึ่งทุกคนสามารถมาเดินชมความงามของฟาซาดแต่ละร้านที่ตกแต่งกันแบบจัดเต็มได้ที่ย่านนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งย่านที่เดินแล้วสบายตา ท่ามกลางถนนกว้างๆ ที่สะอาดสะอ้านเรียบร้อย 
    • มีร้านอาหารมิชลินสตาร์เยอะมากที่สุดในโตเกียว: กินซ่า (Ginza) ถือเป็นหนึ่งย่านที่มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เยอะมากที่สุดในโตเกียว โดยมีร้านมากระจุกอยู่ตรงนี้เกือบ 40 ร้าน ทำให้เหมาะสำหรับสายกินมากที่สุด 
    • เดินทางไปเที่ยวสะดวก: ย่านนี้ตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว ทำให้มีรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro หลายสถานีล้อมรอบ รวมถึงมีรถไฟใต้ดินถึง 5 สายวิ่งผ่านย่านนี้อีกด้วย ดังนั้น การเดินทางไปเที่ยวยังส่วนอื่นๆ ของโตเกียว หากเริ่มจากย่านนี้ถือเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมาก
  • ข้อเสียของการเข้าพักในย่านกินซ่า (Ginza)
    • ค่าที่พักแพง: ด้วยความที่เป็นย่านหรูหรา ต้องบอกเลยว่าย่านนี้ ราคาที่พักเอาคือเรื่องอยู่ แต่ใช่ว่าจะหาราคาดีๆ คุ้มค่าไม่ได้ คือมันยังมีที่พักราคาสบายกระเป๋าอยู่ เพียงแต่ว่ามีน้อยเท่านั้น
    • ไม่ค่อยมีที่เที่ยวกลางคืน: สำหรับสายเที่ยวกลางคืน ย่านนี้เป็นย่านที่มีที่เที่ยวกลางคืนน้อยมากเมื่อเทียบกับย่านอื่นๆ 

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านกินซ่า (Ginza)

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
The Tokyo EDITION
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
The B Ginza
Go to top

4. ย่านชิบูย่า (Shibuya)
สายช้อปปิ้งแบรนด์แฟชั่น ชอบการดูวิวสกายไลน์เมือง

ย่านชิบูย่า (Shibuya) ถือเป็นย่านศูนย์รวมความบันเทิงและร้านค้าปลีกเอาไว้มากมาย โดยย่านนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ 5 แยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ทางข้ามม้าลายที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในโลก จะเรียกว่าเป็นแยกที่คนเค้าใช้เป็นจุดตั้งต้นในการเริ่มออกเดินเที่ยวไปตามตรอกซอกซอย และสถานทื่เที่ยวใกล้เคียงเลยก็ว่าได้ โดย ย่านชิบูย่า (Shibuya) ยังเดินทางสะดวกเพราะมีสถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานีรถไฟหลักของโตเกียว โดยมีทั้งรถไฟ JR สายยามาโนเตะ (JR Yamanote Line) และรถไฟใต้ดินโตเกียว สายกินซ่า (Ginza Line) และสายฮันโซมง (Hanzomon Line) ทำให้สามารถเดินทางจากตรงนี้ไปยังย่านอื่นๆ ในโตเกียวได้สะดวกสบายนั่นเอง 

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

นอกจากนี้ใครที่เป็นตัวแม่ในเรื่องสายแฟ ชื่นชอบในการแต่งตัว ไม่ว่าจะสไตล์ไหนไม่ไกลจาก ย่านชิบูย่า (Shibuya) ยังมีอีกย่านที่น่ามาเที่ยวคือ ฮาราจูกุ (Harajuku) ย่านสำคัญทางวัฒนธรรมและแฟชั่นของวัยรุ่นในโตเกียวที่ไม่เคยหลับใหลทั้งในยามกลางวันและกลางคืน ภายในมีร้านอาหาร ร้านค้า สถานบันเทิงอยู่เยอะมาก ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคักที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นญี่ปุ่นจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม มาเดินเฉิดฉายกันไปมา

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

สถานที่เที่ยวแนะนำใน ย่านชิบูย่า (Shibuya) คือ 5 แยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ที่มีบรรยากาศสุดครึกครื้น ยิ่งใครมาเดินเล่นที่นี่ในช่วงกลางคืน จะได้ดื่มด่ำไปกับแสง สี เสียงจากจอ LED มากมายที่ติดอยู่ตามมุมตึก นอกจากนี้ยังสามารถเดินทะลุไปตามตรอกซอยซอยเพื่อไปยังแหล่งช้อปปิ้งภายในย่าน ซึ่งจะมีทั้งถนนช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าให้ได้มาละลายทรัพย์กัน รวมถึงใครที่อยากขึ้นไปชมวิวมุมสูงของทั่วทั้งย่านแบบจัดเต็ม ให้มาดูวิวบน ชิบูย่า สกาย (Shibuya Sky) ซึ่งตั้งอยู่บนตึก Shibuya Scramble Square อาคารที่สูงที่สุดใน ชิบูย่า (Shibuya) ได้เลย เราจะได้ชมวิวสกายไลน์เมืองโตเกียวบนชั้นดาดฟ้าแบบไม่เหมือนใคร 

ข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านชิบูย่า (Shibuya)

ก่อนจะไปดูว่ามีโรงแรมและที่พักไหนแนะนำใน ย่านชิบูย่า (Shibuya) นี้บ้าง ก๊อตเอาข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของทุกคน ตามด้านล่างนี้เลย

  • ข้อดีของการเข้าพักในย่านชิบูย่า (Shibuya)
    • เดินทางสะดวก: ย่านชิบูย่า (Shibuya) เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งในโตเกียว ทำให้มีเส้นทางรถไฟหลายสายครอบคลุม ซึ่งมันง่ายต่อการเดินทางไปเที่ยวไส่วนอื่นๆ ของโตเกียวแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงครบครัน: ย่านนี้ชื่อเสียงด้านการช้อปปิ้ง ตั้งแต่ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ในโอโมเตะซันโด (Omotesando) ไปจนถึงแฟชั่นวัยรุ่นราคาย่อมเยาในฮาราจูกุ นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวบันเทิงอัดแน่นอยู่มากมาย ทั้งโรงภาพยนตร์ โรงละคร และสถานบันเทิง
    • มีอาหารให้เลือกกินหลากหลาย: เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีอาหารให้นักท่องเที่ยวได้เลือกกินกันเยอะมาก ทั้งอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ไปจนถึงอาหารนานาชาติที่ขายกันตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปจนถึงร้านดังๆ ราคาแรงๆ
    • มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม: ย่านแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมประจำเมือง เช่น ทางม้าลายชิบูย่า (Shibuya Crossing) อันโด่งดัง, รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko Statue) และสวนสาธารณะโยโยงิ (Yoyogi Park) 
  • ข้อเสียของการเข้าพักในย่านชิบูย่า (Shibuya)
    • เสียงดัง คนพลุกพล่นาน: เนื่องจาก ย่านชิบูย่า (Shibuya) เป็นย่านที่มีผู้คนมาเที่ยวเยอะมาก ในช่วงเวลากลางคืนจึงค่อนข้างมีเสียงดัง ซึ่งใครที่ชอบความเงียบสงบหรือไวต่อเสียงรบกวน ไม่แนะนำให้พักในย่านนี้ 
    • ค่าใช้จ่ายสูง: ที่พักในย่านแห่งนี้ราคาแอบแพงกว่าที่พักขนาดเดียวกันในย่านอื่นๆ นอกจากนี้ราคาอาหารที่ขายอยู่ก็ราคาสูงกว่าย่านอื่นๆ ที่ไม่ได้ป๊อบมากเท่าย่านนี้ 

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านชิบูย่า (Shibuya)

  • โรงแรมและโฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน):
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Trunk Hotel
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
All Day Place Shibuya
Go to top

5. อาซากุสะ (Asakusa)
สายประวัติศาสตร์ หรือมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว

อาซากุสะ (Asakusa) คืออีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาดื่มด่ำกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของโตเกียว โดยในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้างานฝีมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงยังมีแผงสตรีทฟู้ดเปิดขายเรียงรายไปตามแนวถนน โดยสถานที่เที่ยวซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของย่านแห่งนี้เลยก็คือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือที่ใครๆ ต่างเรียกกันติดปากว่า วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) สถานที่ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมกันเป็นจำนวนมาก โดยทางเข้าของวัดยังมี ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise) ถนนช้อปปิ้งที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย นอกจากนี้ยังมีโตเกียวสกายทรี  (Tokyo Skytree) หอกระจายคลื่นที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเดินทางเที่ยวใน อาซากุสะ (Asakusa) ก็สะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ที่มีอยู่หลายสายซึ่งมันครอบคลุมสถานที่เที่ยวหลักๆ ได้แทบทุกที่เลย

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในอาซากุสะ (Asakusa) 

ก่อนจะไปดูว่ามีโรงแรมและที่พักไหนแนะนำใน อาซากุสะ (Asakusa) นี้บ้าง ก๊อตเอาข้อดีและข้อเสียของการเข้าพักในย่านนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของทุกคน ตามด้านล่างนี้เลย

  • ข้อดีของการเข้าพักในอาซากุสะ (Asakusa)
    • ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย: อาซากุสะ (Asakusa) เป็นหนึ่งในย่านที่เก่าแก่ที่สุดของโตเกียว การมาเที่ยวที่นี่เราจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง ผ่านสถานที่ทางประวัติศาสตร์ อย่าง วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) และถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise) 
    • ที่พักราคาไม่แพง: ที่พักในย่าน อาซากุสะ (Asakusa) ถือว่าราคาไม่แรงมากนักเมื่อเทียบกับย่านอื่นๆ ในโตเกียว ใครที่อยากเซฟงบเที่ยวไม่ซีเรียสเรื่องที่พักมากนัก การเข้าพักในย่านนี้ตอบโจทย์มาก
    • คนหนาแน่นน้อยกว่า: แม้ว่า อาซากุสะ (Asakusa) จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่โดยทั่วไปแล้ว ย่านแห่งนี้กลับมีคนพลุกพล่ายน้อยกว่าย่านที่ดูมทันสมัยอื่นๆ ในโตเกียว บรรยากาศจึงดูผ่อนคลายมากกว่า
    • อาหารอร่อย: ในย่านนี้นับว่ามีชื่อเสียงในเรื่องของร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และอาหารข้างทางที่เราจะได้ดูเค้าปรุงอาหารกันแบบใกล้ชิด แถมรสชาติก็ยังอร่อยถูกปากคนไทยอีกด้วย
  • ข้อเสียของการเข้าพักในอาซากุสะ (Asakusa)
    • การเดินทาง: อาซากุสะ (Asakusa) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโตเกียว และมีสายรถไฟใต้ดินที่น้อยกว่าในย่านอื่นๆ ทำให้อาจไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวยังหลายๆ จุด รวมถึงออกเดินทางไปยังย่านใกล้เคียง 
    • สถานบันเทิงยามค่ำคืนมีน้อย: สถานบันเทิงยามค่ำคืนในย่านนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เมื่อเทียบกับชิบูย่า หรือชินจูกุ โดยที่นี่มีบาร์และคลับน้อยกว่า ใครที่อยากดื่มด่ำกับแสง สี เสียงอาจจะไม่ชอบใจได้  
    • ไม่ค่อยมีห้างใหญ่ๆ ให้เดิน: อาซากุสะ (Asakusa) ยังไม่ค่อยมีห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งช้อปทันสมัยๆ ให้เดินมากนัก ขาช้อปที่อยากเข้าห้างร้านอาจจะต้องเก็บเงินไปช้อปในย่านอื่นๆ แทน

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

แนะนำที่พักและโรงแรมอาซากุสะ (Asakusa)

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (7,000 ++ บาท/คืน):
  • โรงแรมและโฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน):
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
MIMARU Tokyo Asakusa Station
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
THE GATE HOTEL Kaminarimon
Go to top

แนะนำโรงแรมลักชูตัวท็อปในโตเกียว (Tokyo)

  • Aman Tokyo (Marunouchi): หนึ่งในโรงแรมตัวท็อปอันดับหนึ่งของโตเกียว และเป็น 1 ใน 2 โรงแรมของโตเกียวที่อยู่ในลิส The World’s 50 Best Hotels 2023 อันดับที่ 5 ของโลก โดยที่นี่ตั้งอยู่บนชั้น 33 ของตึก Otemachi Tower กับวิวที่เราสามารถมองเห็นสกายไลน์เมืองโตเกียวได้ล้อมรอบทั้งพระราชวังอิมพีเรียลและภูเขาไฟฟูจิในวันฟ้าใส ตัวห้องพักเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบเรียวกัง ตกแต่งหินและกระดาษวาชิ (กระดาษญี่ปุ่น) พร้อมอ่างแช่น้ำญี่ปุ่นแบบ ‘Furo’ ที่เราสามารถมองวิวโตเกียวได้แบบฉ่ำตา
  • Hoshinoya Tokyo (Kiyomi): เป็นอีก 1 ใน 2 โรงแรมของโตเกียวที่อยู่ในลิส The World’s 50 Best Hotels 2023 อันดับที่ 39 ของโลก กับที่พักแบบเรียวกังบนอาคารสูง 17 ชั้น สร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “เรียวกังญี่ปุ่นทรงหอคอย” เสมือนเป็นเรียวกังส่วนตัวโดยทั้งชั้นจะมีแค่ 6 ห้องต่อชั้นเท่านั้น แน่นอนว่าการพักที่นี่เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกในความสงบของเรียวกังท่ามกลางเมืองใหญ่อันแสนวุ่นวายของโตเกียว
  • The Tokyo EDITION (Toranomon): โรงแรม The EDITION แห่งแรกของญี่ปุ่น กับดีไซน์มินิมอลแบบกิ๊บเก๋ โดยส่วนกลางนั้นมีชีวิตชีวาด้วยการตกแต่งด้วยต้นไม้กว่า 500 ต้น จาก 23 สปีชีส์ ส่วนห้องพักเน้นความเรียบง่ายโทนสีขาวและสีของไม้ ที่ให้ฟีลลิ่งความหรูแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่ ความปังคือมีห้องวิวโตเกียวทาวเวอร์แบบใกล้ๆ และมี 15 ห้องที่มีระเบียงเทอร์เรซส่วนตัวบนชั้น 31 คือเริ่ดเกิน
  • Mandarin Oriental, Tokyo (Nihonbashi): อลังการกับล็อบบี้บนชั้น 38 ที่เพดานสูงสองชั้นกับกระจกบานใหญ่ที่เราสามารถมองเห็น Tokyo Skytree และภูเขาไฟฟูจิได้จากทั้งสองฝั่ง และที่นี่ยังมีห้องอาหาร บาร์ และเลาจน์ 12 แห่ง บนชั้น 37-38 ซึ่งวิวนั้นอลังการมาก แต่ให้รู้ไว้ก่อนว่าเค้าไม่มีสระว่ายน้ำนะ บอกไว้ก่อน
  • Bulgari Hotel Tokyo (Ginza): โรงแรมบุลการีแห่งที่ 8 ของโลก ที่ยกเอาความอิตาลีลักชูมาผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่น มาตั้งไว้ใจกลางโตเกียวบนชั้น 40-45 ของตึก Tokyo Midtown Yaesu มี Il Ristorante ที่กลายเป็นห้องอาหารอิตาลีระดับท็อปในญี่ปุ่น ดูแลโดยเชฟมิชลิน 3 ดาว อย่าง ‘Niko Romito’ ในความเก๋คือ ที่นี่มีห้อง Bulgari Suite ขนาด 400 กว่าตารางเมตร ที่ถือเป็นหนึ่งในห้องของโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีฟิตเนสและออฟฟิศส่วนตัวในห้องอีกด้วย
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Aman Tokyo
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Hoshinoya Tokyo
ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024
Bulgari Hotel Tokyo

โรงแรมลักชูในโตเกียว (Tokyo) เตรียมเปิดในปี 2024-2025

1. Janu Tokyo (มีนาคม 2024): โรงแรมแบรนด์ใหม่ในเครือ Aman ตั้งอยู่ในโซนใหม่ Azabudai Hills กับตึกใหม่ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นที่ 330 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับ Tokyo Tower โดยมีห้องทั้งหมด 122 ห้อง เริ่มตั้งแต่ 55 ตร.ม. ไปจนถึงห้องสวีทขนาด 284 ตร.ม. พร้อมกับ Janu Wellness Center ขนาด 4,000 ตร.ม. ที่จะกลายเป็นยิมขนาดใหญ่มากที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในศูนย์สุขภาพแห่งนี้ด้วย ปังไม่ไหว

2. JW Marriott Hotel Tokyo (2025): แบรนด์ JW Marriott แห่งที่ 2 ในญี่ปุ่น และเป็นแห่งแรกในโตเกียว 

3. Fairmont Tokyo (2025): โรงแรมลักชู ‘Fairmont’ ภายใต้เครือ Accor โดยจะตั้งอยู่ในโซนใหม่ของเขตพิเศษยุทธศาสตร์แห่งชาติ (National Strategic Special Zone) โดยมีห้องพักทั้งหมด 219 ห้อง และมีวิวปังๆ ที่เราสามารถมองออกไปเห็นวิวของอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) ได้

ที่พักโตเกียว (Tokyo): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2024

ส่วนลดจองโรงแรมประจำเดือน

แน่นอนว่าการจองโรงแรมโดยเฉพาะต่างประเทศ พวกเรามักจะจองผ่านเว็บไซต์เอเจนซี่จองโรงแรมอย่างพวก Agoda, Booking.com, Expedia, Klook หรือเว็บอื่นๆ ตามแต่ที่เราสะดวกและคุ้นเคย เพราะว่าราคาถูกกว่า แถมมีตัวเลือกที่พักเยอะมาก แถมยังซัพพอร์ตภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ โดยที่เราไม่ต้องไปสู้ชีวิตคุยกับที่พักโดยตรงที่อาจจะมีเรื่องของภาษาที่เราอาจจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่นั่นเอง

ใครที่กำลังจะจองที่พักและโรงแรมและอยากหาส่วนลดจากเว็บต่างๆ ก๊อตหารวมไว้ให้หมดแล้วจากลิสนี้เล้ย

Go to top

อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗

ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย

ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)

1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)

9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)

18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)

32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)

38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)

39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)

44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)

⸺⸺⸺⸺

แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ

47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS

Related Topics
Related Stories

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *