รู้น่าาา สำหรับคอกาแฟและขนมหวานทั้งหลาย อาจจะอยากกินกาแฟมากเป็นพิเศษในช่วงกักกันตัวเอง และ Work From Home ที่บ้านใช่มั้ยล่ะ? ในโอกาสแบบนี้ นี่ก็เลยขอแนะนำ 3 ร้านคาเฟ่โคตรคูล (+อร่อย) ที่เค้าเปิดให้เราสามารถสั่งแบบ Takeaway และ Delivery เพื่อไปกินที่บ้านพร้อมทำงานได้เสมือนเราอยู่คาเฟ่อย่างนั้นเลย ซึ่งนี่ขอบอกเลยว่า 3 ร้านนี้คือเด็ดและคัดสรรมาแล้วว่าห้ามพลาด เรามาดูกันได้เลยว่ามีคาเฟ่ที่ไหนกันบ้างเด้อ
⚡️ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของไวรัสโควิด-19 นั้น เราจะไม่สามารถนั่งกินที่ร้านได้เนอะ ใครชอบหรืออยากทานร้านไหน แนะนำให้เราสั่ง Takeaway และ Delivery ได้เลย และเมื่อสถานการณ์เป็นปกติสุขเมื่อไหร่ เราสามารถไปกินแบบจัดเต็มพร้อมซึมซับบรรยากาศของคาเฟ่ได้อย่างจุใจกันได้เล้ย ตอนนี้ก็อดใจโดยสั่งกาแฟและขนมเค้ามากินที่บ้านกันก่อนเนอะ
คอมพิวเตอร์/โน๊ตบุ้ค ที่เหมาะกับการ Work From Home
ให้ดูที่สัญลักษณ์ Intel บนตัวเครื่อง 💻
สำหรับใครที่หาคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คดีๆ ที่มีประสิทธิภาพและเสถียรในการ Work From Home แล้วล่ะก็ ก๊อตแนะนำหลักการง่ายๆ ในการเลือกคอมพิวเตอร์ตัวใหม่เลย คือ ให้เราสังเกตสัญลักษณ์ Intel บนเครื่องโดยเฉพาะรุ่น 10th Gen ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่า การทำงานแบบ Work From Home ของเราจะเสถียรและมีประสิทธิภาพม๊ากก
เหตุผลที่ก๊อตให้เรามองหาสัญลักษณ์ Intel 10th Gen เพราะถ้าให้บอกกันตรงๆ นั้น การเลือก CPU ที่ดีและมีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์มากๆ เพราะมันคือหัวใจหลักของการประมวลผลทั้งหมดของเครื่องเราเลย โดยตัว Intel 10th Gen นี่แหละ คือตัวใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะรองรับการทำงานแบบ Multi-tasking หรือทำงานหลายๆ โปรแกรมพร้อมเดียวกัน อีกทั้งยังรองรับการทำงานของ Microsoft Offices และโปรแกรมตระกูล Adobe ได้เต็มที่อีกด้วย เห็นแบบนี้ ด้วยความที่ก๊อตเป็นบล็อกเกอร์ และต้องใช้ทำงานพวกเอกสาร รวมถึงแต่งรูป ตัดต่อวิดีโอ การเลือกใช้ Intel 10th Gen เลยตอบโจทย์สุดๆ เลยแหละ
สำหรับโน้ตบุคที่ก๊อตได้ลองใช้คือ โน้ตบุ๊คทูอินวัน HP Pavilion x360 14-DH1017TX ที่มาพร้อมกับ Intel Core i7-10510U ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์จาก Intel รุ่น 10th Gen ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด และด้วยความที่เป็น Core i7 ด้วยแล้ว บอกเลยว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ดูหนัง ฟังเพลง งานเอกสารที่สบาย แถมยังใช้งานโปรแกรมพวก Adobe Photoshop หรือ Adobe Premiere Pro ที่ก๊อตใช้เป็นประจำได้อย่างดิบดีอีกด้วย
ขุมพลังภายในจากโปรเซสเซอร์แข็งแกร่งแล้ว ตัวดีไซน์และความสะดวกสบายของโน้ตบุ๊คนี่คือชนะเลิศ เพราะน้ำหนักไม่มาก แถมยังพกพาไปเที่ยวหรือเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก และยังเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานในหลายรูปแบบทั้งแบบโน้ตบุ๊คปกติ พับตั้งเป็น Stand และ Tent หรือแม้แต่ใช้งานเป็น Tablet ได้อีก บอกเลยว่าคุ้ม คล่องตัว และเริ่ดเว่อร์ สรุปก็คือ ชอบมากจ้าาา! ♥️
ดังนั้น ขอสรุปอีกที วิธีที่ง่ายเวลาเราเลือกซื้อหรือใช้คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ้คนั้น ให้เรามองหาสัญลักษณ์ Intel ที่ติดอยู่บนตัวเครื่องด้วย รับรองว่าอุ่นใจ หายห่วง ส่วนใครที่สนใจโน้ตบุ๊คตัวนี้ คลิกซื้อได้เลยที่ https://bit.ly/2UJetUD เอาล่ะ เราไปดูคาเฟ่พร้อมสั่งของมากินอร่อยๆ แล้ว Work From Home แบบแฮปปี้ๆ กันดีกว่า กิกิ
1. DROP BY DOUGH
ร้านแรกที่เราอยากจะพาไปรู้จักคือคาเฟ่ ที่ก๊อตคิดว่าเก๋ที่สุดด้วยเอกลักษณ์ของดีไซน์ และขนมที่แตกต่างจากคาเฟอื่นด้วยการชูเรื่องโดนัทเป็นไฮไลท์ของร้าน ซึ่งร้านนั้นคือ DROP BY DOUGH ที่เจ้าของเค้าคือสองหนุ่มที่ชื่อโอ็ตเหมือนกัน และยังเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมีสไตล์โคตรโดดเด่นในชื่อ OATS x Somewhere อีกด้วย อันนี้เจ๋งมากนะเว้ย ทำทั้งคาเฟ่ ทำทั้งเพจท่องเที่ยวด้วย!
ดีไซน์ของตกแต่งร้าน และขนมของ DROP BY DOUGH นั้น มาจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ รวมถึงของสะสมต่างๆ จากการไปเที่ยวของสองหนุ่มโอ๊ต โดยสถานที่ที่ประทับใจมากที่สุดของสองโอ๊ตนั้นเป็นทริปแถบสแกนดินาเวีย เลยนำมาเป็นแรงบันดาลใจและหล่อหลอมกลายเป็น DROP BY DOUGH ในรูปแบบที่อบอุ่น สบายๆ สไตล์ Scandinavian ตามที่เห็นนั่นเอง
สำหรับเมนู Takeaway และ Delivery ที่อยากแนะนำนั้น แน่นอนว่าต้องไม่พ้นโดนัทชื่อดังของเค้านั่นแหละ รสชาติที่ก๊อตชอบและได้สั่งมากินมี Classic Vanilla, Nutella and Hazelnut และ Raspberry Rose โดยความหวานของทั้งสามรสชาตินั้นคือไม่หวานจัด แต่หวานกำลังพอดีพอเหมาะ หั่นโดนัทกินที ไส้ก็ทะลักแบบเอิบอิ่มมาก คือโคตรชอบ! ใครชอบรสชาติไหนจัดได้เลย
กินหวานแล้ว นี่ก็อยากแนะนำให้สั่งกาแฟตัดรสหวานกันหน่อย ซึ่งก๊อตเลือก Black Lemon (150 บาท) กับกาแฟดำกับไซรัปเลม่อนที่กินแล้วตัดเลี่ยนได้ดีม๊าก แถมยังสดชื่นอีกด้วย ส่วนใครที่อยากตัดหวานแต่อยากมีความครีมมี่หน่อยๆล่ะก็ นี่จะแนะนำให้สั่ง Cream Coffee (150 บาท) แทน โดยท็อปปิ้งกาแฟดำด้านบนนั้นจะเป็นครีมชีสที่ไม่หวานมาก เหมาะกำลังดีเมื่อยกดื่มเป็นเลเยอร์จากชั้นครีมชีสจนถึงชั้นกาแฟดำนั่นเอง เริ่ด!
สั่ง DROP BY DOUGH แบบ Takeaway และ Delivery
🛵 สามารถแอดไลน์ร้าน DROP BY DOUGH ที่ @dropbydough ได้เลย
ถ้าใครอยากดูเมนูเพิ่มเติม ไปที่ Facebook Page หรือ Instagram ตามลิงค์ด้านล่างโลด
Facebook Page: facebook.com/dropbydough/
Instagram: instagram.com/dropbydough/
2. Entree Coffee & Brunch
ย้ายมายังคาเฟ่สไตล์เกาหลีอย่าง Entree Coffee & Brunch ที่ตกแต่งร้านด้วยโทนพาสเทลสีเขียว + เทา หน้าตาน่ารักที่พร้อมเสิร์ฟเบเกอรี่และเครื่องดื่มฟีลเกาหลี ที่เราไม่ต้องไปไกล แต่อยู่ใกล้แค่สีลมนี่เอง เก๋ไก๋เว่อร์ ซึ่งอันนี้ขอยอมรับจากใจจริงว่า นอกจากสไตล์ร้านที่ตกแต่งดีแล้ว ที่ชอบที่สุดของคาเฟ่ที่นี่คือ เค้กโคตรอร่อยยยยยย กินแล้วก็อยากกินอี๊ก มาดูกัน!
เค้กที่ก๊อตชอบและแนะนำเป็นพิเศษคือ Chocolate Flourless Cake (140 บาท) สำหรับคนที่ชอบความเป็นช็อคโกแลตแบบเต็มเนื้อเข้มข้น คือความช็อคโกแลตมาเต็มมากแบบหอมหวลราดด้วยครีมซอส คือโคตรดี ส่วนเค้กอีกตัวคือ New York Cheesecake (140 บาท) กับความคลาสสิคของชีสเค้กที่ละมุนด้วยชีสเข้มข้นแบบนวลๆ กินรวมกับคลัมเบิ้ลคืออร่อยสุด ด้วยความที่ส่วนตัวก๊อตชอบกินชีสเค้กมาก ตัวนี้สำหรับก๊อตถือว่าเริ่ดมาก
สำหรับเครื่องดื่ม นี่ขอแนะนำเป็น Special Drink ซึ่งถ้าใครที่ชอบกินกาแฟท็อปปิ้งซอฟท์ครีม ก๊อตจะขอแนะนำ Einspanner (140 บาท) ซึ่งตัวนี้ขอแนะนำให้ดื่มแบบเลเยอร์เพื่อลิ้มรสจากครีมไปยังกาแฟนั่นเอง แต่ถ้าใครไม่กินกาแฟ แต่อยากกินอะไรหวานๆ อร่อยๆ ล่ะก็ อีกตัวที่อยากแนะนำตอนนี้ที่เป็น Seasonal Drink สไตล์เกาหลีอย่าง Strawberry Latte (140 บาท) ที่หอมหวานด้วยตัวซอสจากสตอร์เบอร์รี่สดๆ กินด้วยกันกับนมสดและครีมโฟม ที่ถือว่าอร่อยลงตัว ซึ่งถ้าใครชอบกินของหวานล่ะก็ ตัวนี้คือเหมาะเหม็ง แนะนำสั่งกันได้เลย
สั่ง Entree Coffee & Brunch แบบ Takeaway และ Delivery
🛵 สามารถมาที่ร้านเพื่อสั่ง Takeaway ได้ หรือสั่งแบบ Delivery ด้วย LINE MAN เซิร์จ Entree Coffee & Brunch ได้เลย ถ้าใครอยากดูเมนูเพิ่มเติม ไปที่ Facebook Page หรือ Instagram ตามลิงค์ด้านล่างโลด
Facebook Page: facebook.com/entreebkk/
Instagram: instagram.com/entreebkk
3. Beaker and Bitter
ร้านสุดท้ายที่เราจะพาไปนั้นคือ Beaker and Bitter ย่านอารีย์ ที่มากับคอนเซ็ปโคตรคูลในธีมห้องแล็ปวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากฟังก์ชั่นของตึกที่แต่เดิมเคยเป็นสถานที่ผลิตยาของธุกิจครอบครัวมาก่อนนั่นเอง การตกแต่งของ Beaker and Bitter เลยมาในรูปแบบห้องแล็ป ตกแต่งด้วยของที่ใช้ในการทดลองวิทยาศาสตร์ อย่างพวกแก้วบีกเกอร์ด้วย ซึ่งถ้าเรามาในช่วงปกติ (ไม่ใช่ช่วงเคอร์ฟิว) เราสามารถแต่งตัวเป็นนักทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยชุดกาวน์ ถ่ายรูปเล่นเก๋ๆ ได้ด้วยน้า 555555
แต่ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ เรามาดูของกินอร่อยๆ กันดีกว่า เครื่องดื่มของ Beaker and Bitter นั้น จะเน้นแนวดื่มง่าย ถ่ายรูปสวย โดยตัวที่ก๊อตอยากแนะนำคือ Rose in Peach (R.I.P) / 145 บาท ที่เป็นกาแฟดำผสมไซรัปรสพีชที่ให้ความหวานเบาๆ อีกตัวคือ Cold Minty Latte (125 บาท) เป็นกาแฟนมผสมไซรัปมินต์ ที่ให้รสชาติที่สุดชื้นขึ้นเพราะมีความมินต์เป็นกิมมิคนั่นเอง
สำหรับขนมหวาน นี่เลือก Coconut Cake (145 บาท) มา ซึ่งทางร้านบอกว่าเค้กมะพร้าวเป็นตัวที่ขายดีและแนะนำ ตัวเค้กนี่นุ่มอร่อยเลยแหละ ระหว่างตัวเค้กนั้นจะมีเลเยอร์ที่เป็นครีมอยู่ พร้อมท็อปปิ้งด้วยครีมเนื้อมะพร้าว อร่อยแบบกรุบๆ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตัวด้านบนมีคสามครีมและเนื้อมะพร้าวมากกว่านี้ น่าจะฟินหนักมากขึ้น จากคนที่ชอบกินเค้กมะพร้าวมาก 55555
สั่ง Beaker and Bitter แบบ Takeaway และ Delivery
🛵 สามารถมาที่ร้านเพื่อสั่ง Takeaway ได้ หรือสั่งแบบ Delivery ด้วย LINE MAN เซิร์จ Beaker and Bitter ได้เลย แต่ถ้าใครที่อยู่ระแวกอารีย์อยู่แล้ว แนะนำให้โทรหาร้านโดยตรงเพื่อให้ทางร้านส่งให้ได้ (082 989 6946) ถ้าใครอยากดูเมนูเพิ่มเติม ไปที่ Facebook Page หรือ Instagram ตามลิงค์ด้านล่างโลด
Facebook Page: facebook.com/beakerandbitter/
Instagram: instagram.com/beakerandbitter