วันวาเลนไทน์นี้ ถ้ายังไม่มีไอเดียว่าจะพาแฟนไปสวีทที่ไหน นี่มี 3 ร้านลับและร้านเปิดใหม่ที่ผมคิดว่าโคตรดีย์ เป็น hidden gems ที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะอยู่ติด BTS พระโขนง ที่เราสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปกินได้เลยง่ายๆ ไม่ต้องห่วงรถติด อ่านเสร็จแล้ว .. ชวนแฟนแล้วจูงมือออกจากบ้านไปฉลองความรักในวันวาเลนไทน์ กับ 3 ร้านนี้ให้เร็วก่อนมันจะเป็นถูกแชร์ฟ่อนบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คกันเถอะ
The Orange’s Tea
ร้านแรกที่อยากแนะนำคือร้าน The Orange’s Tea ร้านชาเก๋ๆ ที่เจ้าของร้านบินไปเรียนถึงเมลเบิร์นเพื่อศึกษาเรื่องของชาโดยเฉพาะ จนออกมาเป็นร้าน The Orange’s Tea ที่เป็นคาเฟ่เน้นขายชาหลายรสชาติแบบละมุนๆตอนนี้ ที่นี่ถือเป็น hidden gems แห่งใหม่ที่น้อยคนจะรู้จัก นี่เลยอยากแนะนำให้มาลอง เพราะนอกจากชาที่ดีงามแล้ว การตกแต่งร้านยังชิคไม่แพ้กัน แถมด้านบนของร้านชายังเป็นโฮสเทลเก๋ๆอีกด้วย
The Orange’s Tea อยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 3 หรือถ้าเรามาลง BTS พระโขนง ให้เดินเข้าตรงซอยสุขุมวิท 69 แล้วเลี้ยวขวาเดินอีกแปปนึงก็ถึงแล้ว
ไปถึงทั้งทีก็เลยสั่งชา Signature ของที่นี่ไป 3 ตัวรวด มีสองตัวเป็นชาไนโตร ซึ่งหลายคนคิดว่าการสกัดเย็นมีเฉพาะกาแฟ แต่บอกเลย ชาเค้าก็มีการสกัดเย็นหรือไนโตรเหมือนกัน นี่เป็นความรู้ใหม่ของผมเลย 5555
(รูปซ้าย) อันซ้ายคือ Hipster Moroccan’ Nitro (130 บาท) เป็นชาดำไนโตรที่มีรสหอมกลิ่นมินท์ อันขวา Bloody Sweet Heart (120 บาท) คือชาอู่หลง ที่มีรสลิ้นจี่ หอมด้วยกลิ่นกุหลาบ (120 บาท)
(รูปขวา) Dark Paradise Iced Tea (120 บาท) รีเฟรชด้วยชาดำกับผลไม้แบบฟรุ๊ตตี้ อันนี้สดชื่นนน
โดยรวมคือชอบบรรยากาศมากกกก มีที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านในแล้วแต่เราจะชอบ ร้านตั้งอยู่ในซอยซอยปรีดีพนมยงค์ 3 หรือถ้าเรามาลง BTS พระโขนง ให้เดินเข้าตรงซอยสุขุมวิท 69 ซึ่งซอยนี้คนไม่เยอะพลุกพล่าน ทำให้นั่งแบบชิลๆแบบแฮปปี้ สรุปคือ รักเลย ❤
Okinawa Kinjo
เรายังวนเวียนกันตรงซอยสุขุมวิท 69 ติดกับ BTS สถานีพระโขนง ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนอาหารญี่ปุ่น แนะนำให้มากินต่อที่ร้าน Okinawa Kinjo ได้เลย ซึ่งหากเราเดินผ่านร้านนี้ หน้าตาร้านข้างนอกอาจจะดูธรรมดาหน่อยๆ แต่จะบอกว่าที่นี่แหละคือร้านอาหารญี่ปุ่นที่ทำโดยคนญี่ปุ่นของจริง และเป็นสไตล์โอกินาว่าของแท้ที่เป็น hidden gems ย่านพระโขนงเลยล่ะ คนแถวนี้เค้ารู้จักร้านนี้กันเป็นอย่างดี
บรรยากาศร้าน Okinawa Kinjo คือสไตล์ญี่ปุ่นคลาสสิกจ๋า
กำแพงรอบร้านเต็มไปด้วยโปสเตอร์ภาษาญี่ปุ่นติดเยอะแยะมากมาย
คือฟีลมันอบอุ่นแบบโฮมมี่มากกกกกกก
ถามว่า .. มากินร้าน Okinawa Kinjo ควรสั่งเมนูอะไร?
ถ้าเราอยากลิ้มรสชาติแบบโอกินาว่าของแท้ ก็ต้องสั่ง Okinawa Style Goya Champuruu ซึ่งมันคือผัดมะระแบบโอกินาว่าที่ใส่หมูคุโรบุตะไปด้วย อันนี้อร่อยจริง มันจะไม่ขมมากเหมือนมะระไทย (จานด้านซ้ายรูปข้างล่าง)
ผัดมะระโอกินว่า สั่งเป็นเซต 300 บาท นอกจากได้ผัดมะระแล้ว ยังมีโซบะขาหมูที่ร้านเค้าติดป้ายว่า มีคอลลาเจนเยอะอีกด้วย 55555555555 // เค้าบอกขาหมูเป็นอาหารของจักรพรรดิแห่งโอกินาว่านะเออ
คือนี่สั่งเยอะมาก แต่ที่อยากแนะนำอีกอันคือซูชิ คือคำโตและอัดแน่นมากแกร๊ อันนี้เป็นซูชิรวม 3 ชนิด คือ Salmon, Ikura และ Negitoro จานนี้ 299 ตกชิ้นละ 50 บาท
สรุปที่ผมสั่งไป คือมีทั้งชุดรวมซูชิ ชุดผัดมะระโอกินาว่า ชุดปลาซาบะย่างซอสเทอริยากิ รวมกัน 1,000 บาท ถ้วน เราว่าราคาโอเคเลย ไม่แพง
Asahi Rooftop Beer Garden at W District พระโขนง
ตกดึกมาลานเบียร์ต่อ ฮ่าา .. แนะนำให้จับมือแฟนแล้วมานั่งชิลกันต่อที่ลานเบียร์ลับๆกับ Asahi Beer Garden ที่อยู่บน Rooftop ของตึก E88 ตรง W District ซึ่งลานเบียร์นี้ไม่ธรรมดา เพราะเค้าเป็นลานเบียร์ที่โคตรชิลที่อยู่บน Rooftop และติดรถไฟฟ้าที่สุดในตอนนี้ ถือเป็น hidden gems ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ ซึ่งใครจะมาที่นี่ อาจจะหาทางขึ้นยากซะหน่อย ให้เราขึ้นลิฟท์ที่อยู่ติดกับห้องน้ำในตึก E88 แล้วกดชั้น RF ข้างบนสุด ออกมาเราจะเจอป้ายลานเบียร์ Super “Dry” Asahi เด่นอยู่ด้านหน้าเลย
นี่ได้ไปนั่งมาแล้ว การันตีว่าบรรยากาศดี วิวดี ลมพัดชิลๆ มีดนตรีสด
เรื่องอาหารไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเค้าจัดมาให้เต็มมากกกกกก
ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะให้มาเป็นติ่งเหมือนลานเบียร์ทั่วไป
ใครชอบซีฟู๊ด จัดเลยจ้า กุ้งเผา หอยหวาน กุ้งอบวุ้นเส้น
หรือถ้าใครอยากแซ่บนัวๆให้สั่ง ส้มตำ หมูย่าง ยำหมูยอ มาเต็มจริงๆ
นี่ไปกินมาเอง ถ่ายรูปเอง ตอนเขียนนี่ยังเปรี้ยวปากอยากกลับไปอีกรอบเลย 5555555
ดีขนาดนี้ แต่น่าเสียดายว่า ..
ลานเบียร์ลับที่นี่ มีถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
ดังนั้น ต้องรีบไปเลย