ช่วงนี้หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านแทบทั้งวัน ถึงจะปลอดภัยจากเชื้อโควิด แต่ปัญหา ‘ฝุ่น’ และสิ่งสกปรกภายในบ้านก็อันตรายไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าใครเป็นภูมิแพ้ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งจาม ทั้งน้ำมูกไหล ไม่หายสักที ถึงแม้ว่าจะปัดกวาดเช็ดถูจนสุดแรงแล้ว แต่ปัญหานั้นก็ยังไม่หายไป
เมื่อไม่นานมานี้ก๊อตได้ลองใช้ Roborock H7 เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Roborock ที่ได้เปลี่ยนให้การทำความสะอาดบ้านของก๊อตนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกมากขึ้น ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะหยิบไปทำความสะอาดห้องไหนก็สะดวกและสะอาดอย่างแน่นอน
มาทำความรู้จักกับ Roborock กันก่อน
หากใครยังไม่เคยคุ้นแบรนด์นี้ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก๊อน ‘โรโบร็อค (Roborock)’ เป็นแบรนด์อุปกรณ์ทำความสะอาดระดับโลก ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นที่ปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ โดยมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหมด 2 ชนิด คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นอัจฉริยะ และ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย โดยเค้าตั้งใจว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยทำให้คนได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน Roborock นั้นก็เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราด้วย
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H7
สำหรับบางคนการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องที่วุ่นวายและใช้เวลานาน อุปกรณ์ที่มีก็ไม่ได้ตอบโจทย์กับทุกห้องภายในบ้าน บางบ้านจึงละเลยเรื่องการทำความสะอาดไป แต่ถ้าหากทุกบ้านนั้นมี Roborock H7 เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบนั้นก็หมดห่วงได้เลย เพราะเจ้าเครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้จะมาเปลี่ยนให้การทำความสะอาดที่ยาวนานกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
Roborock H7 เครื่องดูดฝุ่นน้ำหนักเบาที่มาพร้อมหัวแปรงทำความสะอาดทั้งหมด 4 แบบ สามารถทำความสะอาดทุกพื้นผิวในบ้าน หรือแม้แต่ในบริเวณที่เข้าถึงได้ยากก็ยังทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ที่สำคัญเจ้า H7 ตัวนี้มีเทคโนโลยีกรองฝุ่นที่สามารถกรองสิ่งสกปรกเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็นสูงสุด 99.99 %
ใครที่เป็นภูมิแพ้หรือบ้านไหนมีน้องหมาน้องแมวและเด็กเล็ก ก็มั่นใจได้เลยว่าอากาศภายในห้องจะบริสุทธิ์และปลอดภัย เรียกได้ว่าแค่มี Roborock H7 เครื่องเดียวก็ทำให้บ้านสะอาดน่าอยู่ทุกวัน
คุณสมบัติเด่นๆ ของ Roborock H7
สำหรับบ้านใครที่มีสิ่งที่ต้องการทำความสะอาดมากมาย การใช้ Roborock H7 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ด้วย มอเตอร์ขนาด 420 W สร้างแรงดูดที่แรงและคงที่ถึง 160 AW ทำให้เราสามารถทำความสะอาดฝุ่น และสิ่งสกปรกบนพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะพื้นทั่วไป บนพรม เตียงนอน และโซฟา ได้ง่าย รวดเร็ว และยาวนานมากขึ้นด้วยแบตเตอรี่ LiPO ที่ทำให้เราใช้ทำความสะอาดได้ยาวต่อเนื่อง 90 นาที ต่อการชาร์จเต็ม ซึ่งระยะเวลาชาร์จนั้นก็สั้นมาก ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอย่างรวดเร็วเพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น
ไม่ว่าจะต้องทำความสะอาดสักกี่ห้อง Roborock H7 ก็ทำงานได้อย่างเร็วแรงเต็มพิกัดและประสิทธิภาพการใช้งานก็ไม่ลดลงแม้ว่าจะมีฝุ่นอยู่ในกล่องเก็บฝุ่นมากขนาดไหน หรือแม้แต่ตอนแบตเตอรี่เหลืออยู่น้อยก็ยังทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเค้าได้รับการการันตีจาก TÜV Rheinland บริษัทการทดสอบระดับสากลเชียวนะ
ใช้งานไปนานแล้ว แบตเหลือเท่าไหร่? เราสามารถเช็คระยะเวลาการใช้งานและปริมาณแบตคงเหลือได้ผ่านจอ OLED ที่มีความคมชัดและแสดงข้อมูลได้อย่างชัดเจนบนตัวเครื่องได้เลย และเรายังสามารถปรับระดับความแรงในการดูด ล็อกโหมดการทำงานปัจจุบันและโหมดป้องกันไม่ให้เด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงมากดเล่น (Child Lock) ได้อีกด้วย
นอกจากแรงดูดที่ทรงพลังแล้ว Roborock H7 ยังมีเทคโนโลยีการกรองฝุ่นและอากาศที่ดีที่สุดถึง 5 ชั้น ที่สามารถกรองสิ่งสกปรกและสารก่อภูมิแพ้ ที่มาจากไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เชื้อราและสิ่งสกปรกขนาดเล็ก ได้ด้วยฟิลเตอร์กรองฝุ่นระดับ HEPA ที่สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน ถึง 99.99% อีกทั้ง Roborock H7 นั้นมีเสียงการทำงานที่เงียบมาก เพราะเค้าใช้เทคโนโลยีเก็บเสียงจากช่องเก็บเสียงและฟิลเตอร์ซึ่งเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี แถมยังลดการไหลของอากาศได้อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าอากาศที่ออกมานั้นเป็นอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะมากสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ และบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก
ความพิเศษของเครื่องดูดฝุ่น Roborock H7 คือเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานกับถุงเก็บฝุ่นในตัว (Dust Bag Support) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน หรือถ้าหากว่าเราใช้งานในรูปแบบปกติ เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ก็สามารถถอดฟิลเตอร์กรองฝุ่นและชุดกล่องเก็บฝุ่นทั้งหมดมาล้างทำความสะอาดได้ง่ายมาก ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องดูดฝุ่นให้ใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วย
อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของ Roborock H7 ที่จะช่วยทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องสะดวกยิ่งขึ้นนั้นคือ น้ำหนักของเครื่องที่เบาเพียง 1.46 กิโลกรัม ทำให้เราใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น จะยกเคลื่อนที่ไปที่ไหนก็สะดวก หรือแม้แต่การใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ฝ้าเพดาน ก็จับได้ถนัดมือ ไม่ว่าจะมุมไหนก็สะอาดได้อย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุม
อุปกรณ์เสริม Roborock H7
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H7 จะทำงานไม่ได้เลยหากขาดหัวดูดทำความสะอาด ซึ่งรุ่นนี้เค้ามาพร้อมกับหัวดูดทั้งหมด 4 แบบ ให้เราเลือกใช้ได้กับทุกพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด เดี๋ยวจะพาทุกคนมาดูความเจ๋งของแต่ละตัวกัน
หัวดูดฝุ่นและแปรงปัดสำหรับทุกพื้นผิว (Multi-Surface Floor Brush)
หัวดูดอเนกประสงค์ที่ทำความสะอาดได้กับทุกพื้นผิวภายในบ้าน เช่น พรม และ พื้นเนื้อแข็งทุกชนิด ได้ในครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวดูดในพื้นผิวที่ต่างกัน เพราะหัวดูดชนิดนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการหมุนของแปรงปัดที่สูง 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นอะไรที่เร็วมาก และเมื่อเครื่องดูดฝุ่นทำงานอยู่บนพรมจะมีโหมดเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติ (Auto Carpet Boost) ด้วยความเร็วและแรงแบบนี้ทำให้ไม่ว่าสิ่งสกปรกจะมีมากแค่ไหน แค่ใช้หัวดูด Multi-Surface Floor Brush แค่ตัวเดียวก็สะดวกสบายมาก
หัวดูดและมอเตอร์แปรงปัดความเร็วสูงแบบเล็ก (Motorized Mini-Brush)
ปัญหาที่พบได้บ่อยในหลายๆ คนนั่นคือไม่ว่าจะนั่ง จะนอนที่ไหนในบ้านก็รู้สึกว่าไม่สบายตัว ถึงแม้จะเปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือทำความสะอาดเบาะโซฟาแล้วแต่ก็ยังไม่ช่วยอะไร เนื่องจากในพื้นที่นั้นมีไรฝุ่นสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก หัวดูด Motorized Mini-Brush จึงออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับดูดสิ่งสกปรกที่เป็นสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น บนเตียงนอน หมอน โซฟา และเบาะรถยนต์ ได้อย่างง่ายดาย บ้านไหนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็สามารถนำไปทำความสะอาดบนพื้นผิวที่มีขนสัตว์ติดได้เลย มอเตอร์แรงและเร็วมากดูดแค่แปปเดียวก็สะอาดเหมือนได้ห้องใหม่
หัวดูดฝุ่นแบบมีขนแปรง (Dusting Brush)
หัวดูดขนาดเล็กที่สามารถทำความสะอาดในรายละเอียดเล็กๆ เช่น รางหน้าต่าง แป้นคีย์บอร์ด ชั้นวางหนังสือ และผ้าม่าน ซึ่งสามารถใช้งานได้ 2 รูปแบบคือ การต่อหัวดูดกับเครื่องโดยตรง เพื่อดูดทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงง่าย อย่างการดูดบนโต๊ะหรือตู้ที่ไม่ได้สูงมากนัก และ การต่อหัวดูดกับท่อต่อแบบยาว (Baton) เพื่อทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงยาก และอยู่ในบริเวณที่สูงมากๆ เช่น มุมเพดาน นั่นเอง และด้วยเครื่องที่น้ำหนักเบา การทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนที่สูงนั้นก็ทำได้คล่องแคล่วและจับใช้ได้อย่างถนัดมือ
หัวดูดเล็กแบบแข็ง (Crevice Tool)
ในบริเวณที่เข้าถึงยากและที่แคบๆ ที่ต้องการแรงดูดที่สูง เช่น หลังตู้วางของ และมุมต่างๆ ที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นในการเข้าถึง หัวดูดแบบ Crevice Tool ก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าสิ่งสกปรกจะอยู่ลึกแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคกับการทำความสะอาดของเราเลย และเมื่อต่อหัวดูด Crevice Tool เข้ากับข้อต่อเฟดอ่อน (Flex Tube) การทำความสะอาดก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นอีกขั้น เพราะท่อต่อมีลักษณะยืดหยุ่นและโค้งงอได้มาก สามารถที่จะปรับและกำหนดทิศทางของหัวดูดให้เข้าถึงสิ่งสกปรกได้อย่างตรงจุด
MagBase™
นอกจากหัวดูดทำความสะอาดที่มาพร้อมแบบจัดเต็มแล้ว Roborock H7 เค้ายังได้คิดและต่อยอดเครื่องดูดฝุ่นให้ผู้ใช้ได้สะดวกสบายมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเรื่องการจัดเก็บอุปกรณ์นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน การจัดเก็บนั้นต้องง่ายและประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน หากว่ามีวิธีจัดเก็บอุปกรณ์ที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วตามบ้านนั้นยิ่งดีเข้าไปใหญ่ Roborock H7 เลยได้ออกแบบวิธีการเก็บหัวดูดที่ตอบโจทย์ความสะดวกและประหยัดพื้นที่ด้วย MagBase™ (Flexible Accessory Storage) แถบแม่เหล็กที่ติดมากับตัวหัวดูดแต่ละชนิด ซึ่งสามารถเอาไปติดเข้ากับพื้นผิวที่เป็นแม่เหล็กภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น และ เตาอบ
นอกจากนี้ยังสามารถนำหัวดูดแต่ละชนิดไปติดเข้ากับ แท่นชาร์จ (Standing Dock) ที่มีดีไซน์ทันสมัย เข้ากับทุกห้อง ทุกดีไซน์ภายในบ้าน ราวกับว่าเป็นของแต่งบ้านเก๋ๆ ชิ้นหนึ่ง และยังทำให้การจัดเก็บ Roborock H7 นั้นเป็นเรื่องที่สะดวกและพร้อมใช้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะใช้ในการแขวนหัวดูดแล้วยังสามารถใช้ Standing Dock ให้เป็นแท่นชาร์จแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองใช้ Roborock H7
หลังจากที่ก๊อตได้ลองใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H7 ตัวนี้ ก๊อตรู้สึกว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ง่ายและทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั้งชิ้นเล็กและใหญ่ได้เร็วมาก และที่ทำให้ก๊อตรู้สึกตกใจก็คือหลังจากที่ใช้ Roborock H7 ทำความสะอาดไปแล้ว ในกล่องเก็บฝุ่นนั้นมีฝุ่นก้อนใหญ่มาก คือถ้ามองด้วยตาเปล่าก๊อตไม่รู้เลยว่าเตียงนอนและโซฟาที่เราใช้นั้นจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นที่เยอะขนาดนี้
คิดดูสิว่าถ้าต้องนอนทั้งวันทั้งคืนสุขภาพของเราจะแย่ขนาดไหน พอได้ดูดฝุ่นไปก็รู้สึกสะอาดและมั่นใจขึ้นมาก อีกหนึ่งสิ่งที่ก๊อตรู้สึกชอบมากก็เป็นเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชันของเครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ ที่ออกแบบมาได้โมเดิร์นทันสมัย ขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่เทอะทะ สามารถใช้งานและเคลื่อนย้ายได้สะดวกมาก ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน ทุกชีวิตภายในบ้าน และทำให้การทำความสะอาดบ้านของก๊อตเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกกว่าที่ผ่านมา
ราคา Roborock H7
ตอนนี้ Roborock H7 เค้าก็มีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ ราคาตัวเครื่องพร้อมหัวดูดทุกแบบจากราคาปกติ 39,900 บาทเหลือเพียงแค่ 19,900 บาทเท่านั้น และถ้าใครอยากครอบครอง Roborock H7 ไปพร้อมกับแท่นชาร์จ (Standing Dock) นั้นก็มีราคาพิเศษเช่นกัน จากราคาปกติ 43,800 บาท เหลือเพียง 20,900.- บาท
แค่ลดราคามันยังพิเศษไม่พอ ทาง Roborock เค้าขยายเวลาการรับประกันเพิ่มขึ้นจาก 2 ปีเป็น 3 ปีเต็ม อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านดีๆ ที่มาพร้อมโปรโมชั่นแรงๆ ขนาดนี้ คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม พลาดไม่ได้แล้วล่ะ
สรุป Roborock H7 โดยรวม
รูปแบบดีไซน์ | ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ดีไซน์สวย ทันสมัย เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ |
ระยะเวลาการทำงาน | ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน ประสิทธิภาพความแรงไม่ลดลง |
การใช้งาน | ⭐️⭐️⭐️⭐️ ในระยะยาวถือว่าใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ในการใช้งานครั้งแรกอาจยังต้องใช้ความเข้าใจในอุปกรณ์ค่อนข้างมาก |
น้ำหนัก | ⭐️⭐️⭐️⭐️ น้ำหนักกำลังดี ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป |
อุปกรณ์เสริม : หัวดูด | ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ เลือกใช้ได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน |
อุปกรณ์เสริม : Standing Dock | ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ดีไซน์สวย จัดเก็บสะดวกและเป็นระเบียบ เคลื่อนย้ายได้ง่าย |
MagBase™ | ⭐️⭐️⭐️⭐️ ฟังก์ชันที่ช่วยให้จัดเก็บอุปกรณ์ได้สะดวกมากขึ้น |
ความคุ้มค่า | ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ คุ้มค่ามาก เป็นเครื่องดูดฝุ่นมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีมากในราคาที่เหมาะสม |
ซื้อ Roborock H7 ได้ที่ไหน
ใครที่อ่านข้อมูล Roborock H7 แล้วสนใจสามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมแบบเต็มๆ ได้ที่เว็บไซด์ของทาง Roborock หรือ คลิกตรงนี้ได้เลย ส่วนใครที่อยากจับจองเป็นเจ้าของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นนี้ก็สามารถที่จะเข้าไปสั่งซื้อได้ตามนี้เลย