นอกจากเรื่องท่องเที่ยว ปกติผมจะตื่นเต้นกับการได้ของเล่นแก็ดเจ๊ต หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆเสมอ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หูฟัง คอมพิวเตอร์ หรืออย่างทีวี เพราะนี่ชอบดูและลองเทคโนโลยีใหม่ๆมากกก แต่ครั้งนี้มาแปลกนิดนึง ถึงแม้ว่าผมจะตื่นเต้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จริง แต่ก็ยังไม่เคยตื่นเต้นกับเครื่องซักผ้าแหละ จนผมได้ลองมาใช้เครื่องซักผ้า LG Smart Inverter เครื่องนี้ที่ทาง LG ได้ส่งมาให้ผมกับที่บ้านใช้ 55555 บอกตรงๆว่าทึ่งและชอบหลายอย่างมาก ผมเลยอยากรีบเขียนและออกมาเป็นรีวิวนี้ให้อ่านกัน
มาลองซักผ้ากับ LG Smart Inverter
ตู้ซักผ้า LG Smart Inverter ที่ผมเลือกมาตั้งที่บ้านนั้นเป็นแบบฝาบน ขนาด 15 กิโลกรัม โดยพี่ช่างของ LG เค้าจะมาส่งให้ที่บ้านพร้อมติดตั้งให้เรียบร้อย อันนี้คือปลื้มมาก เพราะพี่ช่างเค้าจัดการให้หมดทุกอย่าง แถมบริการดีเว่อร์ จุดติดตั้งตู้ซักผ้าที่ผมเลือกตอนแรกไม่มีท่อน้ำ พี่ช่างก็เจาะรูสอดท่อน้ำให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานทันที เอาล่ะ ทีนี้เราก็มาลองเริ่มใช้ตู้ซักผ้ากันเลยดีกว่า ซึ่งครั้งนี้ผมเลยถือโอกาสซักเครื่องนอนของทั้งบ้านเลยก็แล้วกัน 555555
สิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกเลยคือ เมนูบนเครื่องซักผ้า LG Smart Inverter ที่ดูเหมือนจะเยอะ เข้าใจยาก แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มีปัญหาในการใช้งานจริง กลับกันเลยคือ มันง่ายต่อการเข้าใจซะอีก หลังจากที่เรากดปุ่มเปิดเครื่อง ก็ได้เวลาเอาผ้าลงตู้ ใส่ผงซักฟอก + น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในถาด พอถึงเวลาซัก เราก็แค่เลือกโปรแกรมการซัก โดยครั้งนี้ผมเลือก ‘เครื่องนอน’ มันก็จะตั้งระบบมาให้อัตโนมัติ แล้วกดปุ่ม ‘START’ เพื่อเริ่มซักได้ทันที ง่ายมากกกก ❤️
กดปุ่มเริ่มทำงานเรียบร้อย ตู้ซักผ้ามันก็จะซักของมันไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้น ผมก็สามารถปลีกตัวไปทำอะไรที่ตัวเองชอบอย่างแพลนเที่ยวได้สบายๆ จนบางทีลืมไปเลยว่าซักผ้าอยู่ (เอ๊าาาาาาาา!)
นี่อยากจะบอกว่า ตอนซักผ้า เครื่องมันเงียบมาก เงียบจนต้องเดินไปเช็คดูว่า เฮ้ย มันยังทำงานปกติใช่มั้ย ซึ่งตู้ซักผ้ามันก็ยังทำงานของมันไปเรื่อยๆนั่นแหละ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนตอนที่ปั่นผ้า เสียงปั่นก็สมู๊ทรื่นหู ไม่เด้งตู้มต้ามเสียงดังเหมือนตู้ซักผ้าเครื่องเก่าของผม 555555
เหตุผลที่เลือก LG Smart Inverter
มี 3 เหตุผลง่ายๆ ที่ตัวผมเลือกตู้ซักผ้า LG Smart Inverter คือ ประหยัด ช่วยถนอมผ้า ทนทานพร้อมประกันมอเตอร์ 10 ปี
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มันสวยสไตล์โมเดิร์นอยู่แล้ว เหตุผลอื่นๆในการเลือกซื้อตู้ซักผ้าคือเรื่องความประหยัด ซึ่ง LG Smart Inverter เค้าเคลมว่า เครื่องซักผ้าของเค้าประหยัดไฟฟ้ามากกว่าเครื่องซักผ้าทั่วไปด้วยนะ โดยการซัก 1 ครั้ง กินไฟแค่ 67 วัตต์ต่อชั่วโมง เท่านั้นเอ๊ง เปรียบเทียบง่ายๆกับเตารีด ถ้าเราใช้กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ไฟ 67 วัตต์ต่อชั่วโมง เราสามารถรีดเสื้อไปได้แค่ครึ่งตัวเองนะ ดังนั้น ผมคิดว่า LG Smart Inverter ประหยัดมาก แล้วยิ่งบ้านผมต้องซักผ้าเกือบทุกวัน ถือว่าประหยัดค่าไฟไปได้เยอะโคตรเลยล่ะ
อีกอย่างคือเรื่อง การถนอมผ้า เพราะตู้ซักผ้า LG Smart Inverter เค้ามีเทคโนโลยี TurboDrum™ ที่ระบบซักหมุนสวนทางของถังและจานซัก ทำให้ผ้าเกิดการบิดและขยี้ตัว ไม่ต่างจากการซักด้วยมือ ทำให้มั่นใจว่าผ้าที่เราซักนั้นสะอาดแน่นอน รวมถึงระบบ Smart Motion ที่ถังซักเค้าสามารถหมุนได้สามรูปแบบ รองรับทุกการซักของชนิดผ้าเพื่อให้การถนอมผ้านั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการซักผ้าที่มีคราบสกปรกฝังแน่น ผ้าบอบบาง หรือแม้แต่การลดการพันกันของผ้า ซึ่งผมก็พึ่งรู้ว่า เทคโนโลยีของตู้ซักผ้านั้นไปไกลมากจริงๆ
ที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องของมอเตอร์ที่ทำงานได้เงียบสุด แถมแรงสั่นตอนซักก็แทบไม่ได้ยิน จุดนี้คือดีงามมากเพราะเป็นจุดที่รู้สึกได้จากการใช้งานจริง อีกทั้งมอเตอร์เค้าถูกดีไซน์แบบมีตัวครอบกันฝุ่น กันแมลง และป้องกันความชื้นได้อย่างดิบดี เลยยิ่งมีความทนทานเข้าไปอี๊กกก ส่วนการรับประกันมอเตอร์ LG เค้าใจดีมีมาให้ถึง 10 ปีเลย ก็เป็นอีก 1 ความอุ่นใจที่ผมได้รับจากเค้านี่ล่ะ
สรุป: บริการดี ดีไซน์โมเดิร์น เครื่องทำงานเงียบ
เอาจริงๆ คือประทับใจการบริการของช่างที่มาติดตั้งเครื่องซักผ้าให้เราตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเค้าสุภาพและบริการดีมาก อีกเรื่องคือนี่คือเครื่องซักผ้าที่ทำให้เราตื่นเต้น ถูกใจหน้าตาได้ตั้งแต่แรกเห็น เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของงานดีไซน์ ที่ชอบสุดๆคือความเงียบนี่แหละ เงียบจนผมต้องเดินไปดูหลายครั้งว่ามันยังซักผ้าของมันปกติดีอยู่ใช่มั้ย อันนี้พูดจริงๆ 55555