ออสเตรเลีย ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมสูง ครั้งนี้ก๊อตและ Traveloka เลยอยากจะพาทุกคนไปเที่ยวต่างแดนออนทัวร์กันที่ออสเตรเลีย ดินแดนที่ไม่ได้มีดีแค่จิงโจ้ และโคอาล่า แต่เค้ายังมีที่เที่ยวให้เราได้ไปตามเก็บอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติสวยๆ อย่างทะเล ภูเขา และที่เที่ยวในเมืองที่รสชาติกลมกล่อม ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร มิวเซียม ที่รอให้เราได้ไปสัมผัสและต้องไปให้เห็นกับตา โดยเฉพาะเมืองที่ได้รับรางวัลอย่าง เมลเบิร์น และ บริสเบน สองเมืองสุดชิคที่ติดอันดับมีความน่าอยู่ที่สุดในโลก ซึ่งเค้าครองแชมป์กันหลายปีซ้อนเลยหล่ะ
นอกจากนี้ออสเตรเลียเค้ายังป๊อบจ๋าในเรื่องของความเริ่ดของกาแฟ จนถูกตั้งฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของกาแฟที่เลื่องลือไกลระดับโลก นี่ก๊อตยังไม่นับเส้นทางโรดทริปที่สวยที่สุดในโลกอย่าง Great Ocean Road อีกด้วยนะ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ออสเตรเลียเด้อ ก๊อตคอนเฟิร์มเลยว่าออสเตรเลียคือดีจัด ถือเป็นประเทศที่กลมกล่อมที่สุดเท่าที่เคยได้ไปเที่ยวมา และแน่นอน ช่วงนี้เค้าเปิดประเทศแล้ว สาย TravelGlobal ที่รักในการเที่ยวต่างประเทศอย่างชาวเราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ก๊อตแนะนำเลยแหละ
เอาล่ะ ก๊อตจะพาทุกคนไปเที่ยว 7 เมืองในออสเตรเลีย ที่ต้องไปเที่ยวซักครั้งในชีวิต ซึ่งก๊อตเชื่อว่าพอทุกคนอ่านจนจบแล้ว ต้องเกิดอาการอยากไปเที่ยวตามรอยแน่นอน!
1. ซิดนีย์ (Sydney)
ซิดนีย์แทบจะเป็นเมืองแรกในใจของใครหลายๆ คนเมื่อนึกถึงออสเตรเลีย ด้วยความที่ซิดนีย์นั้น ถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และหลายคนอาจจะติดภาพโอเปราเฮ้าส์ (Sydney Opera House) ที่เราจะได้เห็นพลุเฉลิมฉลองตอนขึ้นปีใหม่ในทุกๆปีในทีวี เห็นบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กแบบนี้ เอาจริง หลายคนแทบจะเข้าใจผิดว่าซิดนีย์คือเมืองหลวงออสเตรเลียไปแล้ว แต่นี่อยากจะบอกว่า จริงๆ ไม่ใช่นะเอ้อออ เพราะเมืองหลวงที่แท้จริงของออสเตรเลียคือ แคนเบอร่า (Canberra) นาจาา
ด้วยความที่ซิดนีย์นั้นใหญ่มาก ทำให้ซิดนีย์เองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างเยอะและหลากหลาย ถ้าใครที่ไม่เคยมาเที่ยวซิดนีย์เลย ก็ต้องมาเก็บแลนด์มาร์คชื่อดังของเค้าซักหน่อย อย่าง โอเปราเฮ้าส์ (Sydney Opera House) ที่ถือเป็นไอคอนของแดนจิงโจ้นี้ไปแล้ว หรืออย่างการไปเดินเล่นชมวิว สะพานฮาร์เบอร์ (Harbour Bridge) ที่ใหญ่โตอลังการ และถ้ามีโอกาส เราสามารถไปปีนไต่บนสะพานเพื่อดูวิวเมืองซิดนีย์ได้อีกด้วย หรือใครที่อยากจะเที่ยวชมเมือง หรือช้อปปิ้งเบาๆ ซิดนีย์ถือเป็นอีกเมืองที่เดินเล่นและช้อปปิ้งได้สนุก อย่างถนน Pitt Street หรือแม้แต่ห้างเก่าแก่อย่าง Queen Victoria Building (QVB) ที่มาเต็มหลายร้อยร้านนั่นเอง
ความเริ่ดของซิดนีย์ยังไม่จบ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าคนออสซี่นั้นชอบเล่นกีฬาทางน้ำกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเซิร์ฟ ที่เราสามารถไปนั่งชิลริมทะเลดูคนเค้าเล่นเซิร์ฟกันได้ หรือถ้าอยากเห็นอะไรที่โคตรคูล เราสามารถไปดูคนออสซี่เค้าว่ายน้ำในสระว่ายน้ำติดมหาสมุทรที่มีอยู่เยอะมากในซิดนีย์ ซึ่งสระว่ายน้ำแบบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซิดนีย์เค้าเล้ย ถ้าให้ก๊อตแนะนำ ให้ไปเที่ยวที่ หาดบอนได (Bondi Beach) เล้ย มีครบทุกอย่างที่บอกไป บอกเลยว่าโคตรคูล
นอกจากที่เที่ยวที่ก๊อตเกริ่นมาแล้ว ซิดนีย์เค้ายังมีที่เที่ยว กิจกรรมอื่นๆ ให้เราได้ไปสัมผัสอีกเพียบ เอาเป็นว่าก๊อตเล่าเป็นชั่วโมงก็ไม่จบ ของแบบนี้ต้องมาเที่ยวและเห็นเองด้วยตา สัมผัสเองด้วยใจเว้ย เด้อ 555555
ที่เที่ยวในซิดนีย์ (Sydney)
– Circular Quay
– Museum of Contemporary Art Australia (MOCA)
– The Rocks
– Sydney Harbour Bridge
– Royal Botanic Gardens + Sydney Opera House
– Bondi
– Bondi Beach
– Bondi Iceburgs
– Bondi to CooGee Walk
– Chinatown + CBD
– Paddy’s Haymarket
– ดู๋ดี๋ป้ายแดง ซิดนีย์
– Chinatown + Sydney Town Hall
– Queen Victoria Building (QVB)
– Pitt Street
– ไฮด์ปาร์ค (Hyde Park)
อ่านรีวิวเต็ม ซิดนีย์ คลิก
2. บริสเบน (Brisbane)
บริสเบน เมืองจัดจ้านที่ใหญ่โตเป็นอันดับสามของประเทศออสเตรเลีย ที่มักจะถูกนักท่องเที่ยวมองข้ามและหันไปเที่ยวเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์และเมลเบิร์นแทน โดยบริสเบนเนี่ย เค้าคือเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) ที่เก๋ไก๋ด้วยชายหาดเทียมที่สร้างด้วยมนุษย์ อย่าง ‘สตรีทส์ บีช (Streets Beach)’ ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณ์ South Bank Parklands ใจกลางเมืองติด CBD เลย ซึ่งชายหาดเทียมอันนี้ ถือเป็นไอคอนของบริสเบน ที่เมืองอื่นในออสเตรเลียไม่มีนะเอ้อ
นอกจากนี้ ใน South Bank Parklands ยังมีสวนสวยๆ มีบาร์ ร้านอาหาร และยังมี ชิงช้าสวรรค์บริสเบน (Wheel of Brisbane) ซึ่งที่นี่ถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่ใหญ่โต ดีงาม และโครตชิล บอกเลยว่าห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวบริสเบนเลย เพราะนี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองนี้เลยนะเว้ย
นอกจากนี้ ทั่วเมืองบริสเบนเอง เค้ายังมีคาเฟ่ และร้านอาหารชิคๆ ที่เราสามารถมองหาได้ทั่วทุกมุมตึก และที่ถูกใจก๊อตเหลือเกินคือ บริสเบนเองยังมีมิวเซียม แกลอรี และห้องสมุดที่ตั้งอยู่รวมกันเป็นกระจุก คล้ายเป็นมิวเซียมแคมปัสเบาๆ ที่โคตรดีย์ และที่เริ่ดสุดของออสเตรเลียคือ ทุกอย่างเข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียตังค์ซักดอลเล้ย
สุดท้าย อากาศของบริสเบนถือว่าดีงาม เพราะที่นี่ไม่หนาวจัดหรือร้อนเว่อร์วังเหมือนเมืองอื่นอีก ก๊อตเลยไม่แปลกใจว่าทำไมบริสเบนถึงได้กลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ขนาดนี้ เอาล่ะ! พูดเยอะจะหาว่าก๊อตคุย แต่อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยวบริสเบนจริงๆ นะ แล้วจะประทับใจจนต้องอยากกลับมาซ้ำอีกครั้งแน่นอน
ที่เที่ยวในเมืองบริสเบน (Brisbane)
– ศาลาว่าการบริสเบน (Brisbane City Hall)
– พิพิธภัณฑ์แห่งบริสเบน (Museum of Brisbane : MOB)
– โบสถ์อัลเบิร์ตสตรีท ยูไนติ้ง (Albert Street Uniting Church)
– ควีนสตรีทมอลล์ (Queen Street Mall)
– Coffee Iconic Cafe Garden
– Gallery of Modern Art (GOMA)
– ป้ายบริสเบส (Brisbane Sign)
– Nodo Donuts CBD
– South Bank Parklands
– สตรีทส์ บีช (Streets Beach)
– Kangaroo Point Lookout
– Boundary Street Markets
– เขตรักษาพันธุ์โคอาล่าโลนพาย (Lone Pine Koala Sanctuary)
– สวนพฤกษศาสตร์บริสเบน – ภูเขาคุตธา (Brisbane Botanic Gardens, Mt Coot-tha)
– จุดชมวิวเมืองบริสเบน – ภูเขาคุตธา (Brisbane Lookout, Mt Coot-tha)
– Fish Lane + Gelato Messina South Brisbane
อ่านรีวิวเต็ม บริสเบน คลิก
3. โกลด์โคสต์ (Gold Coast)
โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองสวรรค์ของคนรักทะเล ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของออสเตรเลีย ถือเป็นเมืองน้องที่อยู่ใกล้กับบริสเบนเพียงแค่นั่งรถไฟมาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ซึ่งเค้าได้ฉายาว่าเป็นเมืองเซิร์ฟ เพราะมีคลื่นลมทะเลเหมาะกับการโต้คลื่น จนเกิดเป็นย่าน เซิร์ฟเฟอร์ พาราไดซ์ (Surfer Paradise) ซึ่งเป็นแนวชายหาดยาวสวยๆ ที่เราสามารถลงไปเล่นเซิร์ฟ อาบแดด หรือจะเล่นน้ำก็ได้หมด
โดยชื่อของ โกลด์โคส (Gold Coast) เค้าได้มาจากแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ตกกระทบลงบนชายหาด Surfer Paradise ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น สะท้อนเป็นภาพสีทองออกมาให้ได้ชม ก็เป๊ะ ลงตัวเข้ากับชื่อเมืองของเค้านั่นเอง
นอกจากนี้ โกลด์โคสต์ (Gold Coast) ยังถูกยกให้เป็นเมืองอันดับหนึ่งในเรื่องของการศึกษาที่ดีที่สุดในออสเตรเลียเลยนะ เป็นเมืองที่มีความเจริญแบบรวดเร็วติดจรวด และที่ป๊อบสุดที่ทุกคนต้องมาคือเค้ามีที่เที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสายเที่ยวธรรมชาติ สายผจญภัยรักในกิจกรรมผาดโผน หรือสายแฟรักในการช้อปปิ้ง ที่นี่เค้าก็มีหมด จนกลายเป็นเมืองพักผ่อน ตากอากาศของคนออสซี่ไปเรียบร้อย
ที่เที่ยวในเมืองโกลด์โคส (Gold Coast)
– Paradox Coffee Roasters
– เซิร์ฟเฟอร์ พาราไดซ์ (Surfer Paradise)
– หาดเบอร์เลห์ เฮดส์ (Burleigh Heads Beach)
4. เมลเบิร์น (Melbourne)
เมลเบิร์น (Melbourne) เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย เมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนออสเตรเลียเลยก็ว่าได้ โดยเมลเบิร์นนั้นมีขนาดเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย และยังมีรางวัลการันตี ว่าเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก โดยครองสถิตินานถึง 7 ปีซ้อน เพราะฉะนั้นผู้คนที่นี่จะเป็นมิตรและเป็นกันเองมาก แถมเมลเบิร์นเองยังขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ จนถูกขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงกาแฟ (Coffee Capital) ของโลกเลยทีเดียว ใครที่ชอบดื่มกาแฟ หรือเป็นสายคาเฟ่ฮ็อปปิ้ง เมลเบิร์นเนี่ยแหละคือเหมาะสุด
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อีกความกลมกล่อมของเมลเบิร์นนั้น คือการที่เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน นั่นเลยทำให้เมลเบิร์นกลายเป็นเมืองที่หาของกินง่ายสุดสำหรับคนบ้านเรา มาหมดทั้งอาหารจีน เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี หรือแม้แต่อาหารไทยที่มีทุกซอกทุกมุม ใครที่อยากกินอาหารอร่อย ย่านใจกลางเมืองอย่าง CBD คือเพียบ โดยเฉพาะตรงย่านไชน่าทาวน์ ที่ของกินโคตรอร่อย รวมคาเฟ่และกาแฟที่เริ่ดเลอที่สุดของออสเตรเลีย ใครที่เป็นสายกินนี่ห้ามพลาดเลย
นอกจากนี้ เมลเบิร์น เองยังมีงานสตรีทอาร์ทคูลๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมเมือง ผสมกับสถาปัตยกรรมในสไตล์วิคตอเรียและแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว โดยรวมแล้ว เมลเบิร์น ถือเป็นเมืองที่ก๊อตรักและอยากมาอยู่มากที่สุด ด้วยความที่มันกลมกล่อม อยู่ง่าย บ้านเมืองเป็นระเบียบ รวมถึงมีระบบขนส่งสาธารณ์ที่สะดวกสบาย ก๊อตเลยโคตรชอบและอยากกลับมาเที่ยวเรื่อยๆ ซ้ำๆ มากที่สุดในออสเตรเลียแล้ว คือมันดีย์มาก และอยากให้ทุกคนได้มาจริงๆ เด้อ
ที่เที่ยวในเมลเบิร์น (Melbourne)
– แม่น้ำยาร์รา (Yarra River)
– สถานีรถไฟฟลินเดอร์สตรีท (Flinders Street Railway Station)
– โฮซิเออร์ เลน (Hosier Lane)
– หาดไบรท์ตัน (Brighton Beach)
– เบิร์กสตรีทมอลล์ (Bourke Street Mall)
– Higher Ground Cafe
– ตลาดควีนวิคตอเรีย (Queen Victoria Market)
– Market Lane Coffee
– หอสมุดแห่งรัฐวิคตอเรีย (The State Library of Victoria)
– หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย (National Gallery of Victoria: NGV)
– Lune Croissanterie CBD
– พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น (Melbourne Museum)
– สวนฟิตซรอย (Fitzroy Garden)
– สวนสนุกลูน่าพาร์ค เมลเบิร์น (Luna Park Melbourne)
– หาดเซนต์กิลดา (St. Kilda Beach)
อ่านรีวิวเต็ม เมลเบิร์น คลิก
5. เกาะฟิลลิป (Phillip Island)
ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากเมลเบิร์น ที่ก๊อตอยากแนะนำให้เราไปเที่ยว คือ เกาะฟิลลิป (Phillip Island) เกาะเล็กๆ น่ารักรูปร่างเหมือนหัวปลาโลมา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และสัตว์ท้องถิ่นของออสเตรเลีย ที่เราจะได้เห็นเกือบทุกชนิดได้จากบนเกาะนี้เลย สำหรับไฮไลท์เด็ดของเค้าคือการมารอดูน้องเพนกวินตัวเล็กที่สุดในโลก ที่พากันเดินพาเหรดจากทะเลขึ้นฝั่งกลับบ้าน ซึ่งเราจะได้เจอน้องๆ กันแบบใกล้ชิดอีกด้วย
แค่นั้นยังไม่หมดนะ มาถึงเกาะฟิลลิปก็ต้องมาเล่นกับเหล่าจิงโจ้กันแบบใกล้ชิดที่จะอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า หรือจะเดินดูน้องโคอาล่าที่นอนปุ๊กปิ๊กตามต้นยูคาลิปตัสในศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า แวะไปส่องน้องแมวน้ำนับพันตัวบนเกาะแมวน้ำ (Seal Rock) รวมถึงไปดูการรีดนมวัวและไถขนแกะบน เกาะฟาร์มเชอร์ชิล (Churchill Island Heritage Farm) ทั้งหมดที่ก๊อตเล่ามาเนี่ย เราสามารถทำได้แบบวันเดย์ทริป ไปเช้า-เย็นกลับได้เลยนะ นี่ว่าเกาะฟิลลิปเค้าเหมาะมาสำรวจสัตว์คิ้วท์ๆ มากก หรือแค่มาเดินชิลๆ ดื่มด่ำบรรยากาศของท้องทะเลสีฟ้าครามสดใส นี่ก็ว่าคุ้มค่าแล้ว ส่วนธรรมชาติที่นี่เนี่ยย ต้องมาเห็นเองด้วยตานาจาาา เว่อร์วังมาก บอกเลยย
ที่เที่ยวในเกาะฟิลลิป (Phillip Island)
– เกาะฟาร์มเชอร์ชิล (Churchill Island Heritage Farm)
– ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า (Koala Conservation Centre)
– เดอะน็อบบี้ (The Nobbies)
– ดูพาเหรดเพนกวิน
อ่านรีวิวเต็ม เกาะฟิลลิป (Phillip Island) คลิก
6. เกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road)
มาเที่ยวเมลเบิร์นแล้ว ไม่มา เกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road) คือไม่ได้ เพราะนี่ถือเป็นหนึ่งในโรดทริปที่ถูกขนานนามว่า สวยที่สุดในโลก ซึ่งเป็นถนนเลียบชายฝั่งที่มีระยะทางประมาณ 243 กิโลเมตร ไล่มาตั้งแต่เมืองวอนัมบูล (Warrnambool) ลากยาวจนถึงเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าทอร์คีย์ (Torquay) ใกล้ๆ เมืองจีลอง (Geelong) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมลเบิร์น (Melbourne) โดยระหว่างทาง 243 กิโลเมตรนี้ ก็จะมีที่เที่ยวหลายที่และมีหลายเมืองให้เราแวะ ซึ่งที่เที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นการดูหน้าผาและเสาหินที่ตั้งอยู่เลียบชายฝั่งของถนน Great Ocean Road ซึ่งทริปนี้ บอกเลยว่าเราจะได้ดูหินกันให้ตาแฉะกันไปข้าง แต่ต้องขอยกนิ้วให้ เพราะสวยอลังจริงๆ
สำหรับก๊อตใครที่ชื่นชอบในการชมวิวธรรมชาติ ไฮไลท์เด็ดสุดของ Great Ocean Road คือ ต้องมาตามรอยดูเสาหินสาวกทั้งสิบสอง (Twelve Apostles) กับเสาหินปูนที่เกิดจากการกัดเซาะหน้าผาหินของลมและคลื่นมหาสมุทรจนกลายเป็นถ้ำ จากนั้นส่วนเพดานของถ้ำพังทลายลงมาจนเหลือแต่เสาหินปูนขนาดใหญ่ 9 ต้น ซึ่งตอนนี้เหลือแค่ 8 ต้นแล้ว จากการที่มันพังลงมาเมื่อปี 2005 ดังนั้น เราควรต้องรีบมาเที่ยวที่นี่ก่อนที่มันจะพังกันไปหมดก่อนที่เราจะไม่ได้เห็นซักครั้งในชีวิตน้า
ที่เที่ยวในเกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road)
– Bells Beach
– Eastern View
– Princetown Wetlands Boardwalk
– Twelve Apostles
– Port Campbell
– The Arch
– London Bridge
– The Grotto
– Bay Of Martyrs
– Bay of Islands
– Gibson Steps
– Loch Ard Gorge
– The Razorback
– Mutton Bird Island Lookout
– Loch Ard Gorge
อ่านรีวิวเต็ม เกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road) คลิก
7. บลูเมาเท่น (Blue Mountains)
เขยิบกลับมาแถบซิดนีย์กันต่อบ้างกับ บลูเมาเท่น (Blue Mountains) ที่เที่ยวธรรมชาติชื่อดังที่เราสามารถเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริป โดย บลูเมาเท่น (Blue Mountains) นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเกรทดิไวดิ้ง (Great Dividing Range) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่มีอายุมากกว่าหลายร้อยล้านปีเลย
และด้วยความยิ่งใหญ่ของบลูเมาเท่นนั้น ถึงขั้นมีเรื่องเล่าเลยนะ ว่าผู้คนบางส่วนในสมัยก่อนเชื่อกันว่า ถ้าข้ามบลูเมาเท่นไปได้ จะถึงจีนไม่ก็อินเดียกันเลย คือพี่เค้าบิ๊กเบิ้มของจริง ไม่จกตา ส่วนชื่อที่แปลเป็นไทยว่าภูเขาสีฟ้าเนี่ยย มาจากต้นกัม (Gum Tree) ต้นไม้ในตระกูลยูคาลิปตัสที่ปกคลุมไปทั่วบลูเมาเท่น ซึ่งเค้ามีใบสีเขียมเข้ม พอหักลบหลบกันกับแสง ฝุ่น ไอน้ำ และละอองน้ำมันยูคาลิปตัสที่ระเหยขึ้นมา ทำให้เวลามองจากที่ไกลๆ จะเห็นทิวเขากลายเป็นสีน้ำเงิน เป็นที่มาของชื่อ บลูเมาเท่นนั่นเองจ้า
สำหรับก๊อตยกให้บลูเมาเท่นเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะสายธรรมชาตินั้นต้องถูกใจแน่นอน เพราะนอกจากธรรชาติสวยๆ แล้ว ยังมีเส้นทางเดินเทรลชมธรรมชาติเยอะมากจริงๆ ซึ่งบลูเมาเท่นเองนั้นเสมือนเป็นที่หลีกหนีความวุ่นวายจากซิดนีย์ เพื่อมาสูดอากาศให้ปอดเราสดชื่นนั่นเอง สำหรับจุดที่ก๊อตชอบมากที่สุดใน Blue Mountains นั่นคือน้ำตก Wentworth Falls ที่ใหญ่อลังการ น้ำคือไหลฟู่ฟ่าแบบโคตรสวย ทุกคนต้องมาเห็นเอง มันว้าวจริงๆ เว้ยย
ที่เที่ยวในบลูเมาเท่น (Blue Mountains)
– Wentworth Falls Track
– Echo Point / Three Sisters
อ่านรีวิวเต็ม บลูเมาเท่น (Blue Mountains) คลิก
TravelGlobal เที่ยวได้ไม่เกินงบ!
จองตั๋วเครื่องบิน ให้จองกับ Traveloka
และนี่ก็คือ 7 เมืองในออสเตรเลียที่ก๊อตได้ไปเที่ยวมา ซึ่งแต่ละสถานที่นั่นสวยงามสุดๆ ก๊อตขอยกให้ออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องตามไปเที่ยวเก็บสักครั้งในชีวิต เอาง่ายๆ แค่ได้ไปเที่ยวในเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก นี่ก็ว่าเปิดโลกตัวเองและคุ้มค่าสุดๆ แล้ว ยังไม่นับที่เที่ยวอื่นๆ ของเค้าอีกนะ ที่ช่วยเสริมให้ทริปออสเตรเลียของเราเพอร์เฟค และประทับใจเป็นที่สุด
ใครที่อยากออกเที่ยวต่างประเทศและกำลังมองหาตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียอยู่ ก๊อตแนะนำให้เราใช้ Traveloka สำหรับจองตั๋วเครื่องบินที่จะพาเราไปเที่ยวต่างแดนได้แบบแสนสุขใจ ขอกระซิบบอกว่า Traveloka เค้ามีโปรเด็ดๆ ตลอดเวลาเลยเน้อ แถมเรายังสามารถค้นหาเที่ยวบินใน Traveloka แล้วกดจองผ่านแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ของ Traveloka ได้ง่ายแบบสะดวกเว่อร์ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบราคาจากทุกสายการบิน ส่วนลดและโปรโมชั่นประจำเดือน รวมถึงเมื่อจองตั๋วเครื่องบินเสร็จ ข้อมูลของเรานั้นอยู่ครบจบในแอพ Traveloka แอพเดียว ถือว่าเหมาะมากกับสาย TravelGlobal ที่รักในการเที่ยวต่างประเทศ เนี่ยย! อ่านกันมาขนาดนี้แล้ว อดใจไม่จองไหวเร๊ออออ
✈️ จองตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลีย กับ Traveloka
> https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-australia📌 เช็คมาตรการสนามบินก่อนเดินทางไป ออสเตรเลีย กับTraveloka ได้ที่นี่
> https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travelอ่านบทความที่เที่ยวต่างประเทศ กับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/travel-global
1 comment
nice