HashCornerHashCorner
  • Home
  • Travel
    • Thailand
    • Asia
      • China
      • Hong Kong
      • Indonesia
      • Japan
      • Laos
      • Macao
      • Myanmar
      • Singapore
      • South Korea
      • Taiwan
      • Vietnam
    • Europe
      • France
      • Switzerland
      • United Kingdom
    • Oceania
      • Australia
      • New Zealand
    • USA
    • Hotels
  • Lifestyle
    • Lifestyle
    • Recommended
    • Shopping Guide
    • Shop
  • About / Collaboration
  • ไทย
    • English
HashCornerHashCorner
  • Home
  • Travel
    • Thailand
    • Asia
      • China
      • Hong Kong
      • Indonesia
      • Japan
      • Laos
      • Macao
      • Myanmar
      • Singapore
      • South Korea
      • Taiwan
      • Vietnam
    • Europe
      • France
      • Switzerland
      • United Kingdom
    • Oceania
      • Australia
      • New Zealand
    • USA
    • Hotels
  • Lifestyle
    • Lifestyle
    • Recommended
    • Shopping Guide
    • Shop
  • About / Collaboration
  • ไทย
    • English
0
29K
0
Home Travel China Beijing รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
  • Beijing
  • China

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

  • 28/05/2025
  • 4 comments
  • 12 minute read
Total
0
Shares
0
0
0

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ปักกิ่ง (Beijing) ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองใน Bucket List ของก๊อต ด้วยความที่ก๊อตรู้จักประเทศจีนมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งบ้านก๊อตที่มีเชื้อสายจีนด้วยแล้ว เราจะได้ยินเรื่องเล่าของประเทศจีน สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างกำแพงเมืองจีน รวมถึงประวัติศาสตร์ชาติจีนกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกกันเลย พอวันหนึ่งที่ก๊อตได้มาเยือนปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของกำแพงเมืองจีน มันเลยเหมือนชีวิตคอมพลีทมาก 

สำหรับการมาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) ในรีวิวนี้ของก๊อตนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าจะดูเหมือนเป็นการมาท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ เนื่องจากที่นี่คือศูนย์กลางประเทศและเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญของจีนเลย ไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) และ พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) นั่นเอง พอได้มีโอกาสมาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) เราเลยจะเที่ยวกันแบบจัดเต็มและตามเก็บทุกแลนด์มาร์คกันเลยที ดังนั้น ใครที่กำลังอ่านหน้านี้อยู่ ทุกคนจะได้ออกเดินทางสู่ปักกิ่งไปกับก๊อต ท่ามกลางความกลมกล่อมในเรื่องของอารยธรรม ประวัติศาสตร์ ผสมผสานเข้ากับความสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว บอกเลยว่า ปักกิ่ง (Beijing) ดีย์งามมาก ก๊อตแนะนำว่าต้องมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต 

Go to top

รู้จักปักกิ่ง (Beijing)

ปักกิ่ง (Beijing) เมืองหลวงของประเทศจีน ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดย ปักกิ่ง (Beijing) ยังเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางทางการเมือง วัฒนธรรม และการศึกษาของประเทศ โดยในอดีตช่วงปี ค.ศ. 1912 ปักกิ่งในขณะนั้นได้สูญเสียสถานะการเป็นเมืองหลวงของจีน โดยได้มีการแต่งตั้งเมืองหนานจิงขึ้นเป็นเมืองหลวงในขณะนั้นแทน จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1949 เหมา เจ๋อตง (Mao Zedong) หรือประธานเหมาที่เป็นนักการเมืองร่วมในช่วงเวลานั้น ได้มีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นมา โดยได้ให้ ปักกิ่ง (Beijing) เป็นเมืองหลวงอีกครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1949 มาจนถึงปัจจุบัน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยตอนนี้ ปักกิ่ง (Beijing) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองชั้นนำทางด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และวัฒนธรรมในประเทศจีนไปเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก เนื่องจากปักกิ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติและบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงหลายแห่ง อีกทั้งยังมีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 21 ล้านคน จึงเป็นหนึ่งในเมืองที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ยังไม่หมดเท่านั้น ความเริ่ดของ ปักกิ่ง (Beijing) คือเค้าเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) พระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก, สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างกำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China) และพระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace) ยังไม่หมดเท่านั้นที่ ปักกิ่ง (Beijing) ยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง มหาวิทยาลัยดังๆ หลายแห่งอีกด้วย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ปักกิ่ง (Beijing) เลื่องลือในเรื่อง ‘เป็ดปักกิ่ง’ หนึ่งในอาหารที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่ชื่ออาหารก็บอกอยู่แล้วว่าปักกิ่ง ใครที่อยากลิ้มรสเป็ดปักกิ่งแบบออริจิ ก๊อตบอกเลยว่าไม่มีที่ไหนตอบโจทย์ได้เท่ากับการมากินที่ที่อีกแล้ว เรียกได้ว่ามาเที่ยวเมืองเดียว เราจะได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองที่มีมาอย่างยาวนาน จนถึงบทบาทในฐานะมหาอำนาจระดับโลกในยุคปัจจุบันกันเลยทีเดียว ใครที่มาเที่ยวจีน ยังไงก็ต้องมาเยือนเมืองหลวงเค้าสักครั้ง ก๊อตบอกเลยว่าดีย์งามทุกตารางเมตรแน่นอน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ที่เที่ยวปักกิ่ง (Beijing) 

  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum)
  • เขตศิลปะ 789 (789 Art District)
  • ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing)
  • กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)
  • กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) 
  • กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) 
  • หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven)
  • ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market)
  • หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing)
  • ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Lake Houhai) 
  • ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street)
  • วัดลามะ / หยงเหอกง (Yonghe Temple)
  • จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)
  • พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City)
  • สวนจิ่งซาน (Jingshan Park)
  • พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)
  • ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street)

ที่พักปักกิ่ง (Beijing)

  • Howard Johnson Paragon Hotel Beijing
  • Bolly Wood Hotel
  • The Universal Studios Grand Hotel
Go to top

แนะนำที่พักในปักกิ่ง (Beijing) 

คนที่กำลังหาที่พักใน ปักกิ่ง (Beijing) อยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปนอนย่านไหนดี เพื่อให้ตอบโจทย์การเที่ยวของตัวเองมากที่สุด ก๊อตจะแนะนำย่านที่พักให้ โดยขอแบ่งแยกออกเป็นย่านต่างๆ ตามนี้เลย ซึ่งแต่ละย่านเค้าจะมีจุดเด่นและความสะดวกสบายต่างกันออกไป รวมถึงราคาที่พักที่เหวี่ยงขึ้นลงตามแต่ละพื้นที่อีกด้วย ยังไงทุกคนลองดูตามที่ก๊อตแนะนำก่อนได้ พยายามคัดมาให้แล้ว

⚡️ดูแนะนำที่พักและโรงแรมในปักกิ่ง (Beijing) ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

#1. ย่านหวังฝูจิ่ง (Wangfujing) – ช้อปมันส์ เที่ยวแลนด์มาร์กสะดวก!

ถ้าถามก๊อตว่าพักย่านไหนในปักกิ่งดี นี่ขอแนะนำ หวังฝูจิ่ง (Wangfujing) ก่อนเลย เพราะย่านนี้คือตัวท็อปของปักกิ่งที่รวมทุกอย่างไว้แบบครบสุดๆ ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง กิน เที่ยว แถมยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี ตั้งแต่ยุคราชวงศ์หมิง เดิมทีที่นี่เป็นเขตที่พักอาศัยของขุนนางและชนชั้นสูง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นย่านการค้าสุดฮิตของปักกิ่งอย่างทุกวันนี้ ซึ่งถ้าใครที่เป็นสายช้อปคือต้องชอบ เพราะที่นี่มีทั้งห้างใหญ่ๆ และร้านแบรนด์ดังๆ อย่าง Wangfujing Department Store, Beijing APM หรือ Intime Lotte ให้เลือกเดินกันเพลินทั้งวันทั้งคืน ส่วนสายกินก็ไม่น้อยหน้า เพราะเค้ามี ตลาดกลางคืนหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Snack Street) ที่เต็มไปด้วยสตรีทฟู้ดแบบจีนแท้ๆ ตั้งแต่ลูกชิ้นหมาล่า ซาลาเปาย่าง ไปจนถึงแมลงทอดสุดท้าทาย ใครชอบลองของแปลกต้องจัด!

ส่วนเรื่องการเดินทางไม่ต้องห่วงเลย สะดวกมากๆ เพราะที่นี่มี รถไฟใต้ดินสาย 1 สถานีหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Station) ซึ่งสายนี้เป็นเส้นสำคัญผ่านทั้งจัตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวดังอีกหลายแห่งในเมืองปักกิ่ง เอาเป็นว่า ถ้าอยากได้ย่านพักที่ครบเครื่องสุดในปักกิ่ง หวังฝูจิ่งนี่แหละที่ก๊อตแนะนำ!

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (7,000 ++ บาท/คืน): The Peninsula Beijing / Mandarin Oriental Wangfujing / Waldorf Astoria Beijing
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (ราคา 4,000-7,000 บาท/คืน): Hilton Beijing Wangfujing / Grand Hyatt Beijing / Park Plaza Beijing Wangfujing / Beijing Hotel NUO
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ราคาต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน): Happy Dragon City Culture Hotel / Citytel Inn / Inner Mongolia Grand Hotel Wangfujing

#2. ย่านหูท่ง (Hutong Areas) – ฟีลจีนโบราณ เดินเพลินถ่ายรูปสวย!

ใครอยากสัมผัสเสน่ห์เมืองปักกิ่งแบบเก่าแท้ๆ ก๊อตขอแนะนำย่านหูท่ง (Hutong Areas) เลย เพราะที่นี่คือย่านเมืองเก่าอันโด่งดังของปักกิ่งที่ยังคงรักษาความเป็นจีนโบราณไว้อย่างดี หูท่งเป็นตรอกซอกซอยแคบๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (Yuan Dynasty) เก่าแก่กว่า 700 ปี โดยปัจจุบันยังคงมีบ้านเรือนแบบดั้งเดิม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่เก๋ๆ ซ่อนตัวอยู่เพียบ เหมาะมากกับคนที่ชอบเดินเล่น ชอบถ่ายรูป หรืออยากชิลจิบกาแฟในบรรยากาศจีนย้อนยุค

ด้านการเดินทางก็ง่ายมาก ถ้าจะไปย่านโฮ่วไห่ นั่งรถไฟใต้ดินสาย 8 ลงสถานี Shichahai เดินแป๊บเดียวก็ถึง ส่วนย่านหนานโหลวกู่เซี่ยงก็ง่ายไม่แพ้กัน มีรถไฟใต้ดินสาย 6 และสาย 8 ลงที่สถานี Nanluoguxiang ได้เลย ถ้าใครอยากได้ฟีลจีนโบราณแบบแท้ๆ แนะนำพักย่านนี้ รับรองว่าได้รูปสวยไม่ซ้ำใครแน่นอน!

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (5,000 ++ บาท/คืน): Aman at Summer Palace, Beijing / The Orchid Hotel, Beijing
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (3,000-5,000 บาท/คืน): Beijing Downtown Backpackers Accommodation / Nostalgia Hotel Beijing Yonghe Lama Temple / Jingshan Garden Hotel
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 3,000 บาท/คืน): Peking Youth Hostel / Peking Yard Hostel / Happy Dragon Alley Hotel

#3. ย่านกั๋วเม่า (Guomao / CBD) – ใจกลางเมืองสุดโมเดิร์น ไฮไลท์ตึกระฟ้าเพียบ!

ถ้าใครชอบบรรยากาศเมืองใหญ่ ตึกสูงๆ สไตล์โมเดิร์นสุดๆ ก๊อตบอกเลยว่าย่าน กั๋วเม่า (Guomao) หรือที่เรียกกันว่า CBD (Central Business District) คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากๆ ย่านนี้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดของปักกิ่ง เต็มไปด้วยตึกระฟ้าอันโด่งดังอย่าง China World Trade Center, CCTV Headquarters หรือ China Zun ที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ และเป็นตึกที่สูงที่สุดในปักกิ่งด้วย นอกจากตึกสวยๆ แล้ว ย่านนี้ยังมีห้างลักชู ร้านอาหารอินเตอร์ คาเฟ่เก๋ๆ และบาร์บน Rooftop ไว้นั่งชิลชมวิวเมืองปักกิ่งได้แบบเต็มอิ่ม สายช้อปปิ้งก็ถูกใจแน่นอนเพราะมีทั้งห้างดังอย่าง China World Mall และ SKP Beijing ห้างที่ติดอันดับหรูที่สุดในจีนเลยล่ะ

ที่สำคัญ กั๋วเม่ายังเป็นทำเลที่เหมาะมากสำหรับการเดินทางเที่ยวปักกิ่ง เพราะมีสถานีรถไฟใต้ดิน Guomao Station ที่เป็นจุดตัดของรถไฟใต้ดินสาย 1 และสาย 10 เรียกได้ว่าจะไปเที่ยวแลนด์มาร์กไหนในปักกิ่งก็ง่ายและสะดวกมากๆ เลย สรุปใครที่ชอบความทันสมัย อยากอยู่ใจกลางเมืองใกล้ทุกอย่าง ก๊อตแนะนำกั๋วเม่าเพราะลงตัวและครบเครื่องจริง!

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (7,000 ++ บาท/คืน): Rosewood Beijing / China World Summit Wing Beijing / Park Hyatt Beijing Hotel
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (4,000-7,000 บาท/คืน): Hotel Jen Beijing by Shangri-La / China World Hotel, Beijing / Grand Millennium Beijing
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน): Jianguo Hotel Beijing

#4. ย่านเฉียนเหมิน (Qianmen & Dashilan) – ฟีลเมืองเก่าคลาสสิก เที่ยวใกล้แลนด์มาร์กดัง!

ใครอยากสัมผัสความคลาสสิกของปักกิ่งในสไตล์เมืองเก่าดั้งเดิม ก๊อตแนะนำให้พักย่าน เฉียนเหมิน (Qianmen) กับ ต้าสือหลาน (Dashilan) เลย ย่านนี้ตั้งอยู่ทางใต้ของจัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง บรรยากาศเหมือนหลุดไปในยุคอดีตแบบจีนโบราณเลยแหละโดยย่านที่เด่นสุดของที่นี่ก็คือ ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street) ที่เป็นถนนคนเดินสายหลักที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารสไตล์จีนโบราณ และยังมีแบรนด์เก่าแก่ดั้งเดิมที่ดังๆ ของจีน เช่น ร้านเป็ดย่างเฉวียนจวี้เต๋อ (Quanjude) หรือร้านชาสุดคลาสสิกที่เปิดมานานหลายสิบปี ถ้าเป็นสายถ่ายรูปบอกเลยว่าถ่ายเพลิน เพราะตึกเก่าแต่ละหลังสวยและมีเสน่ห์สุดๆ ส่วนย่าน ต้าสือหลาน (Dashilan) ที่อยู่ติดกันก็คึกคักไม่แพ้กันนะ ที่นี่เน้นร้านค้าสไตล์จีนแท้ๆ ตั้งแต่ร้านขายชา ร้านขายยาจีนโบราณ ไปจนถึงร้านขนมและของฝากน่ารักๆ แบบจีนๆ ที่ก๊อตเชื่อว่าหาซื้อกลับบ้านได้เยอะเลย

ส่วนการเดินทางบอกเลยว่าง่ายสุดๆ เพราะมีรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานีเฉียนเหมิน (Qianmen Station) ออกจากสถานีเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงใจกลางย่านเฉียนเหมินเลย แถมยังสามารถเดินเท้าต่อไปยังจัตุรัสเทียนอันเหมินกับพระราชวังต้องห้ามได้อีกด้วย ใครชอบเที่ยวแลนด์มาร์กสำคัญแบบง่ายๆ ย่านนี้คือใช่ สรุปคือถ้าอยากสัมผัสเสน่ห์จีนโบราณแบบเน้นๆ เดินเล่นชิลๆ เที่ยวสบายๆ ใกล้ที่ดังๆ ก๊อตว่าพักแถวเฉียนเหมินกับต้าสือหลานนี่ก็ตอบโจทย์เหมือนกัน

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (5,000 ++ บาท/คืน): Mandarin Oriental Qianmen, Beijing / New World Beijing Hotel / The PuXuan Hotel and Spa
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (3,000-5,000 บาท/คืน): CitiGO Hotel Beijing Tian’anmen Square
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 3,000 บาท/คืน): Yitingzhenshe Hotel Beijing Tiananmen Square / Yitingzhenshe Hotel Beijing Qianmen / Home Inn (Beijing Qianmen Subway Station Beijing Fang Branch)
Go to top

ข้อมูลแน่นแล้ว มาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) กันเล้ย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) มาเริ่มเที่ยวปักกิ่ง (Beijing) กันที่มิวเซียมสุดชิคและคูลที่สุดสำหรับก๊อตกัน ใครที่เป็นสายอาร์ต ก๊อตบอกเลยว่ามิวเซียมที่นี่ดีทั้งงานแสดงนิทรรศการ และพื้นที่จัดแสดงที่ถ่ายรูปออกมาได้กิ๊บเก๋มากตั้งแต่ตัวอาคารที่ทำงานสถาปัตย์ได้เก๋ไก๋ รวมถึงงานจัดวางที่ทำถึงแบบที่สุด

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ซึ่งที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2014 โดยนักสะสมงานศิลปะที่มีชื่อเสียงอย่างหยาน ซื่อเจี๋ย (Yan Shijie) และเฉา เหมย (Cao Mei) เพื่อเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและทั่วโลก ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ชื่นชอบศิลปะที่มักจะเวียนมาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาดสาย โดยที่นี่จะมีค่าเข้าชมมิวเซียมอยู่ที่ 150 หยวน (~695 บาท) ต่อคน ถ้าพูดจากใจแล้ว ค่าเข้าชมที่นี่ก็ราคาแรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน สำหรับใครที่อยากซื้อตั๋ว ก๊อตแนะนำให้ซื้อออนไลน์ล่วงหน้า ซึ่งบ้างครั้งเราอาจจะได้ส่วนลดที่ถูกกว่าซื้อหน้างานนะเออ

🎫 ตั๋วเข้าชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) [ซื้อผ่าน Trip.com]

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ลักษณะอันโดดเด่นของ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ ดีไซน์และการออกแบบอาคารที่เป็นอิฐแดงตามชื่อของมิวเซียม โดยโครงสร้างเก๋ๆ ที่เราเห็นกันนี้ ได้รับการออกแบบมาจากดง ยูกัน (Dong Yugan) ที่ได้ผสมผสานองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เข้ากับอิทธิพลการออกแบบแบบจีนดั้งเดิม ภายใต้แรงบันดาลใจจากสวนจีนคลาสสิก ทำให้มิวเซียมนั้นจะมีทั้งโซนจัดแสดงศิลปะ สวนจีนที่มีทั้งต้นไม้เขียวๆ และสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับงานนิทรรศการที่จัดแสดงอยู่นั้น จะเป็นการจัดแสดงแบบหมุนเวียน โดยจะมีผลงานทั้งภาพวาด ประติมากรรม วิดีโอ และงานศิลปะติดตั้ง จากทั้งศิลปินจีน และศิลปินจากทั่วโลก เข้ามาจัดแสดงเอาไว้ ดังนั้น ใครที่มาเที่ยวหลังก๊อตอาจจะไม่ได้เจองานแบบเดียวกันเหมือนในรีวิวนี้ก็ได้ ซึ่งแต่ละงานบอกเลยว่าโคตรดีย์ และประทับใจมาก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ซึ่งงานส่วนมากที่จัดแสดงนั้นจะเป็นงานแบบ Contemporary Arts แบบร่วมสมัยที่ผสมผสานหลากหลายมีเดียเข้าไว้ด้วยกัน แถมมีหลากหลายชิ้นงาน และมีการแบ่งแยกโซนออกเป็นหลายห้องให้เราได้เดินชม ซึ่งนี่ยกให้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิฐแดง (Red-Brick Art Museum) เป็นอีกหนึ่ง Art Museum ที่ดีที่สุดของจีนแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบงานศิลปะท่ามกลางสถานที่สวยๆ บอกเลยว่าต้องมา

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

นอกจากดูงานศิลปะกันแล้ว ก๊อตอยากชวนทุกคนเดินออกไปด้านนอกของอาคาร ซึ่งเราสามารถเดินผ่านประตูด้านหลังของมิวเซียมได้เลย โดยด้านนอกนั้น จะเป็นพื้นที่ที่เราสามารถเดินดูสถาปัตยกรรมของตึกที่ทำด้วยอิฐแดงได้แบบชิวๆ ซึ่งเค้าจะมีทั้งที่เป็นตึกยกสูงจากพื้น มาพร้อมดาดฟ้าเปิดโลกให้ได้ขึ้นมาส่องวิว หรือจะเป็นโซนกำแพงสไตล์จีนที่เล่นกับส่วนเว้าส่วนโค้งของโครงสร้าง จนได้ออกมาเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งแต่ละมุมนั้น แค่มายืนโพสต์ท่าเฉยๆ ก็สวยทะลุจอแล้ว โดยวัยรุ่นจีนเค้ายกให้ที่นี่เป็น Instagramable Spot ที่ชิคที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจีนเลยทีเดียว คือมา ปักกิ่ง (Beijing) ต้องมาเช็คอินให้ได้

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
Go to top

เขตศิลปะ 789 (789 Art District)

เขตศิลปะ 789 หรือ 789 Art District ถ้าให้ก๊อตบอกว่าย่านไหนเริ่ด มีความชิค และฮิปสุดติ่งของปักกิ่ง (Beijing) ล่ะก็ ตัวก๊อตขอยกตำแหน่งนี้ให้กับ 789 Art District เลยจ้า เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมความอาร์ททั้งคาเฟ่ บาร์ แกลอรี่ ร้านค้าเก๋ๆ สตรีทอาร์ท รวมถึง Installation Arts เยอะแยะมากมาย ใครที่เป็นเด็กศิลป์นี่ต้องชอบแน่นอน ซึ่งก๊อตเองคิดว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งย่านที่เจ๋งม๊ากก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ก่อนที่จะมาเป็น 789 Art District ที่นี่เคยเป็นย่านที่ตั้งโรงงานอุตสากรรมอิเล็กทรอนิกทางทหารที่ร่วมมือกันระหว่างจีนและโซเวียต ในช่วงทศวรรษปี 1950 ก่อนถูกเปลี่ยนเป็นความร่วมมือกับเยอรมันตะวันออกแทนในเวลาต่อมา ดังนั้น ตึกที่เราจะได้เห็นใน 789 Art District ส่วนมากนั้นจะได้รับอิทธิพลมาจากเยอรมันใน สไตล์เบาเฮาส์ (Bauhaus) ที่เน้นสเปซด้านในที่กว้างขวาง บวกกับทำช่องรับแสงธรรมชาติที่ทำให้ตัวตึกดูโปร่ง โล่งสบายนั่นเอง เมื่อยุคสมัยผ่านไป โรงงานเริ่มย้ายออกและปิดตัวลง จนกระทั่งในช่วงทศวรรษปี 1990 ศิลปิน ดีไซน์เนอร์และองค์กรเกี่ยวกับศิลปะเลยเริ่มเข้ามาจับจองพื้นที่และเปิดเป็นแกลอรี่ อาร์ทสตู รวมถึงร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ จนเข้าสู่ช่วงต้นทศวรรษปี 2000 789 Art District ได้กลายเป็นย่านอาร์ตอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ซึ่งบอกก่อนว่า 789 Art District ข้างในนั้นโคตรกว้าง และมีร้านและแกลอรี่ต่างๆ มากกว่า 400 แห่งเลยทีเดียว คือมาที่นี่ ก๊อตบอกเลยว่าวันเดียวไม่พอแน่นอน ไม่ว่าจะมาเก็บงานอาร์ต ช้อปปิ้ง หรือตะลอนกินแบบจริงจัง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

บรรยากาศของ 789 Art District ปัจจุบันนี้ เรายังคงได้ดื่มด่ำกับตัวอาคารเก่าที่เค้าปรับปรุงและรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี โดยเป็นที่ตั้งของหอศิลป์มากกว่า 200 แห่ง ซึ่งจัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งชาวจีนและต่างประเทศ ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ที่จัดแสดงจะเป็นศิลปะร่วมสมัยในรูปแบบต่างๆ รวมถึงภาพวาด ประติมากรรม ภาพถ่าย การติดตั้ง และมัลติมีเดีย โดยหอศิลป์ที่พลาดไม่ได้ในนี้เลยก็คือ UCCA Center for Contemporary Art, Pace Beijing และ Gallery Yang นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรี่อีกเพียบที่เค้าจะมีทั้งแบบเข้าชมฟรี และเสียเงิน ให้ได้เลือกกัน อันนี้ใครสะดวกแบบไหนก็ลองเดินส่องแล้วเข้าไปดูตามที่ตัวเองชอบได้เลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

นอกจากใน 789 Art District จะเต็มไปด้วยหอศิลป์ แกลเลอรี่จัดแสดงผลงานแล้ว ใครที่กลัวว่ามาแล้วจะไม่มีอะไรทำ ก๊อตจะบอกว่าเค้ายังมีโซนอื่นๆ ทั้งออฟฟิศ ร้านขายของที่ระลึก ไปจนถึงช้อปขายสินค้างานอาร์ตอยู่ด้วยนา อย่างใครที่อยากมาช้อปสินค้าน่ารักๆ มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ก๊อตแนะนำให้เดินช้อปตามร้านต่างๆ ได้เลย เพราะของที่ขายก็จะมีตั้งของแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฮนด์เมด และอีกสารพัดที่มีให้ช้อปแบบละลานตา อย่างพวกร้านที่ขายงานอาร์ตก็จะมัดรวมไอเท็มน่ารักๆ จากศิลปินมากหน้าหลายตาเอาไว้ให้เราได้ช้อปในราคาที่เอื้อมถึงอีกด้วย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ส่วนใครที่เดินจนเมื่อยแล้วอยากเติมพลัง ใน 789 Art District ก็มีโซนร้านขายอาหาร และเครื่องดื่มอยู่ด้วย ยิ่งพวกชานมไข่มุก ในนี้มีอยู่หลายร้านเลย อย่างก๊อตก็มีแวะไปดื่ม Hey Tea ร้านชานมไข่มุกที่เค้าเคยมาเปิดที่ไทย แต่ตอนนี้ปิดไปแล้วมาด้วย คือบอกเลยว่า 789 Art District นั้นมีอะไรให้เราได้ทำเยอะแยะเลย เค้าเป็นมากกว่าพื้นที่ศิลปะ แต่มันเป็นเหมือนศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยว และคนปักกิ่งมาเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกัน ขนาดที่ว่ามีคนเอาตะกร้อมาเตะกันเลย ใครกำลังมองหาสถานที่เที่ยวที่มาเดินเที่ยว และเมาท์มอยกันได้แบบจอยๆ แถมได้ชมงานอาร์ต ไม่มีที่ไหนตอบโจทย์เท่ากับ 789 Art District อีกแล้ว

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing)

มาถึงปักกิ่ง (Beijing) หากใครไม่ได้มาเยือน ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) และตะลุยเล่นเครื่องเล่นของเค้า ก๊อตบอกเลยว่าพลาดมาก เพราะที่นี่ถือว่าเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่มาพร้อมโซนพิเศษอย่างกังฟูแพนด้าที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น โดย ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) ถือว่าเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ แห่งที่ 5 ของโลก และแห่งที่ 3 ในเอเชีย  โดยเริ่มสร้างกันในปี ค.ศ. 2016 ด้วยงบประมาณในการก่อสร้างกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดย ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) เคยขึ้นแท่นเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ ภายในถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซน คือ The Wizarding World of Harry Potter, Transformers Metrobase, Hollywood, WaterWorld, Minion Land และ Jurassic World Isla Nublar และ Kung Fu Panda Land of Awesomeness ซึ่งโซนพิเศษที่มีเฉพาะ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) เท่านั้น คือ ‘Kung Fu Panda’ นั่นเอง ที่เป็นแอนิเมชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจีนนั่นเอง ​​

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

เนื่องจาก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) มีรายละเอียดเยอะมาก ตั้งแต่การซื้อตั๋ว ไฮไลท์เครื่องเล่นห้ามพลาด หรือมีแต่โชว์ต่างๆ ก๊อตทำรีวิวแยกโดยเฉพาะแบบละเอียดยิบ ใครที่อยากอ่านรีวิว ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing)  คลิกอ่านที่นี่เลย 

ซื้อบัตรสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) ที่ไหนดี และเค้ามีแบบไหนบ้าง?

ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday (⭐️ แนะนำ): วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี คือการซื้อบัตรผ่าน Klook หรือ KKdays นั่นเอง โดยเว็บ OTAs เองจะเปิดขายบัตรล่วงหน้าแค่ 2 เดือน เมื่อเราซื้อตั๋วมาแล้วจะได้รับเป็น QR Code ที่สามารถไปสแกนที่หน้าประตู โดยที่เราไม่ต้องปริ้นท์ตั๋วใดๆ บอกเลยว่านี่เป็นอีกช่องทางที่ก๊อตคิดว่าสะดวกมากที่สุดในการมาเที่ยวยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) แล้ว 

สำหรับบัตรสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) จะมีขายกันอยู่หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นบัตรแบบ 1 วัน, 1.5 วัน และ 2 วัน ซึ่งจำนวนวันเหล่านี้คือระยะเวลาที่เราสามารถใช้บัตรเข้าไปเล่นภายในสวนสนุกได้นั่นเอง

🎫 เช็คราคาและซื้อบัตรสวนสนุกยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]

สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดใน ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) นั้น ใครที่เป็นสายรถไฟเหาะ ชอบความหวาดเสียว ระทึกใจ แนะนำให้มาลองเล่น Decepticoaster รถไฟเหาะความเร็วสูงที่มีธีมเกี่ยวกับดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ซึ่งจะจำลองการไล่ล่าที่เข้มข้นและตื่นเต้นในโลกของ Transformers หรือจะเป็นเครื่องเล่นที่มีเครื่องเดียวในโลก เฉพาะที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) อย่าง Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior ที่มาในธีมจีนจ๋าๆ กับการล่องเรือผ่านฉากจากในหนังเรื่องกังพูแพนด้า ที่เราจะได้พบปะกับโป หมีแพนด้าตัวอ้วนใหญ่ที่หลงใหลในเรื่องของกังฟู ที่มาพร้อมกับตัวละครอื่นๆ อย่างนางพยัคฆ์, ไต้ลุง, อาจารย์ชิฟู และตัวละครอื่นๆ อีกเพียบ  หรือแม้แต่ Jurassic World Adventure เครื่องเล่นที่เค้าอิงมาจากหนัง Jurassic Park แบบที่ยกเอาฉากบนเกาะ Isla Nublar ที่เราจะได้เข้าไปสัมผัสกับเหตุการณ์หายนะที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกจากกรง ท่ามกลางความโกลาหลที่สุดแสนจะวุ่นวาย ยังไม่หมดเท่านั้น ในโซนอื่นๆ ของสวนสนุกยังมีเครื่องเล่นสนุกๆ ให้เราได้มาเล่นแบบจัดหนักจัดเต็มกันอีกด้วยนา บอกเลยว่าไม่ควรพลาดสักเครื่องเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยรวมแล้ว ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) เป็นอีกหนึ่งสวนสนุกที่ก๊อตบอกเลยว่าประทับใจมาก อย่างแรกเลยคือพื้นที่ของปาร์คที่ยิ่งใหญ่เดินกันจนขาลากจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ปาร์คปิด แถมแต่ละโซนก็เล่นใหญ่จัดเต็มทั้งพวกฉาก พร๊อพ มุมถ่ายรูป ทุกอย่างล้วนถอดแบบมาจากหนังเรื่องดังของเค้าได้สมจริงจนเหมือนตัวก๊อตหลุดเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวละครด้วยเลย แถมเหล่าเครื่องเล่นก็มีหลากหลาย ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งสวนสนุกที่ใครมาก็ต้องชอบกันอย่างแน่นอน 

คลิกอ่านรีวิวเต็ม ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) ได้ที่นี่

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)

มาถึงเมืองหลวงของเค้าซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) แน่นอนว่าเราจะพลาดกันได้ยังไง โดยต้องบอกกันก่อนว่า กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) เค้าจะถูกแบ่งออกเป็น 10 ด่าน ซึ่งแต่ละด่านนั้นจะมีเอกลักษณ์และทิวทัศน์ของวิวที่สวยงามต่างกันออกไป โดยความยิ่งใหญ่ของ กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ก๊อตบอกเลยว่า หากจะมาเก็บให้ครบทุกด่านนั้น ต้องมากันหลายรอบมาก ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตได้ไปมาแล้ว 2 ด่าน คือ ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) และ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) โดยก๊อตจะพาทุกคนเที่ยวกันไปทีละด่านกันเลย ซึ่งก๊อตบอกก่อนว่าทั้งสองด่านนี้ไม่ได้ไปครั้งเดียวหรือภายในวันเดียวกันนะ เพราะการเที่ยวแต่ละด่านนั้นค่อนข้างกินเวลาค่อนข้างมาก อาจจะครึ่งวันถึงหนึ่งวันเต็มเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับประวัติของ กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ต้องย้อนกลับไปมากกว่า 2,300 ปี โดยตอนแรกในช่วงยุคก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้ แต่ละรัฐของจีน เค้ามีทั้งกลุ่มเล็ก-กลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน โดยแต่ละรัฐต่างสร้างกำแพงเมืองของตัวเองขึ้นมาเพื่อป้องกันข้าศึกต่างๆ แต่แล้วเมื่อ ฉินสื่อหวงตี้ (Qin Shi Huang) แห่งรัฐฉิน ได้ทำสงครามและรวมทุกรัฐเข้าด้วยกันเป็นประเทศจีน ท่านก็ได้สถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิองค์แรก และสั่งให้เชื่อมต่อทุกกำแพงของทุกรัฐขึ้นมาเป็นกำแพงยาวกว่า 5,000 กิโลเมตร จนเค้าเรียกกำแพงนี้ว่า ‘กำแพงหมื่นลี้’ (Wan-Li Changcheng / 万里长城) ที่เราคุ้นชื่อกันดี โดยคำว่า ‘ลี้’ แปลว่าครึ่งนึงของหมื่น ก็คือตามความยาวของกำแพงในยุคนั้นนั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

จากยุคของจิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองก็ถูกสร้างและต่อเติมมาเรื่อยๆ กว่า 2,000 ปี โดยเฉพาะในราชวงศ์หมิงที่สร้างกำแพงเมืองจีนเพิ่มขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะด่านกำแพงเมืองจีนดังๆ ไม่ว่าจะเป็นด่านปาต้าหลิง (Badaling), ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) ที่เราจะไปกัน หรือแม้แต่ ด่านจินซานหลิ่ง (Jinshanling) ที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันนั้น ก็เป็นกำแพงของราชวงศ์หมิงทั้งนั้นเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) 

เริ่มต้นกันที่ด่านแรกก่อนกับ กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) สำหรับเหตุผลที่ก๊อตเลือกมาด่านนี้ เนื่องจากเป็นด่านที่ตัวกำแพงค่อนข้างสมบูรณ์ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองมาที่ด่านนี้น้อยกว่าด่านปาต้าหลิง (Badaling Great Wall) เยอะมากนั่นเอง สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก แนะนำให้เรียกแท็กซี่ผ่าน Didi ได้เลย แต่ถ้าใครที่อยากมาด้วยรถสาธารณะ อาจจะยาวไกลซักหน่อย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับค่าเข้ากำแพงเมืองจีนของ กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) จะอยู่ที่ 45 หยวน (~210 บาท) เป็นพื้นฐาน โดยเราสามารถปีนขึ้นกำแพงได้เอง แต่ถ้าใครขี้เกียจแบบก๊อตล่ะก็ สามารถเลือกซื้อเคเบิ้ลคาร์เพิ่มเติมได้ โดยราคาขาเดียวจะอยู่ที่ 100 หยวน (~468 บาท) แต่หากไป-กลับจะอยู่ที่ 140 หยวน (~652 บาท) ด้วยเคเบิ้ลคาร์หรือถ้าใครอยากจอยมากขึ้น เราสามารถเลือกนั่งกระเช้าขึ้นและไถรถสไลด์เดอร์ลงแทนก็ได้ในราคาเท่ากัน แน่นอนว่า วัยก๋ากั่นแบบเรานั้นต้องเลือกเป็นแบบนั่งกระเช้าขึ้นไปและนั่งสไลด์เดอร์ลงมาแน่นอน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

เมื่อเราขึ้นกระเช้ามายังกำแพงเมืองจีนด้านบนแล้ว ระหว่างทางขึ้นมาเราจะเห็นกำแพงทอดตัวยาวตามภูเขาสลับซับซ้อนไปมา ซึ่งวิวจากมุมสูงนั้นบอกเลยว่าโคตรสวย โดยเราจะใช้เวลานั่งกระเช้าขึ้นมาไม่นาก็มาถึงสถานีด้านบนกันแล้ว โดยก๊อตจุดแรกที่ก๊อตจะเดินไปก็คือ ทางด้านขวาเพื่อปีนขึ้นไปสุดฝั่งของ กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) จากนั้นค่อยเดินย้อนกลับมาทางด้านซ้ายเพื่อเล่นสไลด์เดอร์ลงมานั่นเอง (แต่แอบบอกว่าเดินไม่สุดทางนะ เพราะเหนื่อย คือกำแพงเค้ายาวมากจริงๆ 555555)

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

กำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) ถือว่าเป็นอีกด่านหนึ่งที่สวยมาก แบบโคตรสวย อีกทั้งตอนที่ก๊อตไปนั้น คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนมากมีแต่ฝรั่งและคนต่างชาติมาเที่ยว โดยเรื่องการบำรุงรักษาของกำแพงที่ด่านนี้ ถือว่าเป็นด่านกำแพงเมืองจีนที่ถูกบูรณะให้มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด ทางเดินกว้างใหญ่และเดินง่ายม๊ากก จะมีก็แต่ทางชันขึ้นบันไดบางช่วงที่อาจจะทำให้เราเหนื่อยหน่อย เพราะขั้นบันไดคือสูงและชันเอาเรื่อง แต่โดยรวมของด่านนี้ ส่วนตัวก๊อตถือว่าดีมากเลยแหละ แถมยังมีกระเช้าขึ้น-ลงให้อีก คือสบายมาก มันช่วยย่นระยะเวลาไปได้เยอะเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

⚡️ใครที่อยากมา กำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) ช่วงที่สวยที่สุดของปี แนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง เพราะต้นไม้ทั้งหมดบนภูเขาจะผลิดอกไม้บานๆตอนฤดูใบไม้ผลิ และเป็นสีส้ม-แดงในฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง แต่ถ้าใครที่มาหน้าร้อนแบบก๊อตนี่ มันก็จะเขียวๆ ร้อนๆ แบบนี้แหละ 5555555

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

เดินจนหนำใจ ได้ภาพสวยๆ กันแล้ว ก็ได้เวลาสไลด์เดอร์ลงจากกำแพงเมืองจีนไปยังด้านข้างล่างกัน ซึ่งจากภาพทุกคนอาจจะคิดว่าดูเหมือนหวาดเสียว แต่ของจริงไม่ได้ขนาดนั้นนะ แถมยังสนุกมากอีกด้วย โดยรถที่เราจะนั่งสไลด์เดอร์ลงนั้น เราสามารถควบคุมตัวรถโดยการดึงคันโยกให้ไหล และเบรคได้สบาย ส่วนทางสไลด์ลงคือคดเคี้ยวกำลังดีไม่อันตราย ถ้าใครยังวัยแจ๋วอยู่ และอยากสนุกละก็ ก๊อตแนะนำลงมาด้วยวิธีนี้ได้เลย 

เที่ยวกำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) ให้ง่ายขึ้นแบบไม่ต้องเดินทางไปเอง

ถ้าใครอยากขึ้นกำแพงเมืองจีนแบบสะดวกสบาย ไม่ต้องต่อรถเมล์ นั่งรถไฟหลายต่อ ก๊อตจะบอกว่าเค้ามีทั้งทัวร์ หรือมีบริการรถรับ-ส่งจากตัวเมืองปักกิ่งไปยัง กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) ด้วย บอกเลยว่ามันน่าจะสะดวกกว่าการนั่งรถเมล์ไปเองเยอะ ยังไงลองดูตัวเลือกจากข้างล่างได้เลย นี่แอบอ่านรีวิวในนั้นมา เห็นเค้าบอกกันว่าดีมากเลยแหละ แถมใน Klook ยังมีขายตั๋วเข้ากำแพงเมืองจีนด้วย คือเริ่ดสุด 

  • 🎫 + 🚌 ซื้อบัตรเข้ากำแพงเมืองจีน พร้อมรถรับส่ง ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) [ผ่าน Klook]
  • 🎫 ซื้อบัตรเข้ากำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) [ผ่าน Trip]
Go to top

กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) 

ไปกันต่อที่ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) อีกหนึ่งด่านสุดป๊อบยอดนิยมของนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนจีนเอง เพราะนอกจากจะอยู่ใกล้กับตัวเมือง ปักกิ่ง (Beijing) มากที่สุดแล้ว ยังเป็นด่านที่คนจีนเค้านิยมมาเดินกันแบบแตกแตนโดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ถือว่าแน่นขนัดกันอีกด้วย 

สำหรับ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) เราสามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่มีสถานีรถไฟปาต้าหลิงฉางเฉิง (Badaling Changcheng Railway Station) อยู่หน้าทางเข้าด่านกันเลยทีเดียว โดยการเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) ของก๊อตนั้น ครั้งนี้ขาขึ้นไปเราจะนั่งกระเช้า ส่วนขากลับเราจะเดินกลับลงมานั่นเอง จากประสบการณ์ที่จริงที่เดินมาแล้วนั้น ทุกคนไม่ต้องกลัวว่าจะยากลำบาก เพราะรูทที่ก๊อตเดินคือขึ้นกระเช้าไปจุดสูงของกำแพง จากนั้นค่อยๆ เดินไล่ระดับลงมาเรื่อยๆ จนถึงอีกประตูหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนไม่ต้องกลัวเหนื่อย สามารถเดินชมวิวชิลๆ ไปได้เลย 

สำหรับค่าเข้ากำแพงเมืองจีนนั้น จะอยู่ที่ 40 หยวน (~187 บาท) / คน ซึ่งยังไม่รวมค่ากระเช้าไป-กลับ 140 หยวน (~656 บาท) หรือตั๋วขาเดียว 100 หยวน (~468 บาท) นั่นเอง โดยราคากระเช้าจะไม่รวมกับราคาค่าเข้ากำแพงเมืองจีนนะ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับการนั่งกระเช้าขึ้นไปยังกำแพงเมืองจีนนั้น บอกเลยว่าเร็วมากกกก ฟีลขึ้นไปนั่งกันยังไม่ทันจะได้เอากล้องออกมาเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ หรือชมวิวต้นไม้ท่ามกลางแนวกำแพง เราก็มาถึงสถานีด้านบนกันแล้ว นับเวลาแล้วเราใช้เวลานั่งกระเช้าเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ใครที่คิดว่าจะถ่ายรูปบนกระเช้าสวยๆ ขึ้นมาแล้วให้กดรัวๆ เลย เพราะมันไวจริง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยรูทการเดินเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) ของก๊อตนั้น เราจะเริ่มกันที่บริเวณป้อม 8 จากนั้นจะค่อยๆ เดินย้อนกลับลงมายังป้อม 1 โดยตอนซื้อตั๋วเค้าบอกว่าจะใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าใครเป็นสายคอนเท้นต์ ชอบถ่ายรูปเหมือนก๊อต เวลาที่ใช้อาจจะนานกว่านี้หน่อย เมื่อเราออกมาจากสถานีกระเช้าแล้วโผล่มายังป้อม 8 นั้น แม่เจ้าเอ้ย คนคือมหาศาลมาก ก๊อตแนะนำว่าเราไม่ต้องรีบถ่ายรูปตรงนี้ก็ได้ เพราะระหว่างทางเดินที่เราจะไปนั้น ยังมีวิวของต้นไม้และหุบเขาที่มีแนวกำแพงแบบสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปแบบฟินๆ เลย โดยตลอดเส้นทางเดินจะมีทั้งทางลาดชันและเป็นพื้นราบธรรมดา ส่วนตัวก๊อตคิดว่าไม่ได้เดินยากมาก แต่ถ้าคนที่กลัวความสูง อาจจะมีขาสั่นกันบ้างเล็กน้อย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ความเว่อร์วังของ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) คือทิวทัศน์ที่เราสามารถมองออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ตัวกำแพงที่ตั้งลดหลั่นเรียงไปตามแนวเขายังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยก๊อตนั้นเดินลงมาตามเส้นทางของเค้าเรื่อยๆ ผ่านทั้งทางเรียบและทางลาดชันไปตามแนวเขา แต่เราก็สามารถแวะหยุดถ่ายรูปตามมุมที่ชอบได้ ซึ่งความเริ่ดอีกอย่างคือ ตลอดแนวทางเดินจะมีป้อมต่างๆ ที่เป็นเหมือนหอสังเกตการณ์ ซึ่งตั้งอยู่สูงกว่าปกติ โดยเราสามารถเดินขึ้นบันไดไปยังด้านบนได้ ใครอยากได้ภาพมุมสูงท่ามกลางวิวแบบพาโนราม่าลองขึ้นไปได้เลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) นั้น ในสมัยราชวงศ์หมิงที่นี่ถือเป็นหนึ่งในป้อมสังเกตการณ์บนกำแพงเมืองจีน โดยเค้าสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการสังเกตการณ์ศัตรู รวมถึงเป็นที่เก็บอาวุธในสมัยนั้นอีกด้วย และที่เราเห็น กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) มีขนาดใหญ่กว่าชาวบ้านชาวเมืองเขา นั่นก็เพราะว่า ตัวป้อมนั้นตั้งอยู่บนทำเลที่ดี ทำให้สอดส่ายหาศัตรูได้ง่าย ที่นี่เลยถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่จนได้รับฉายาว่าเป็น กำแพง 8 ทิศ กันเลยทีเดียว 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ซึ่งก๊อตเองก็เดินลัดเลาะลงมาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีหยุดถ่ายรูป ดื่มด่ำกับวิวและความยิ่งใหญ่อลังการของกำแพงที่มองออกไปแล้วแทบไม่เห็นจุดสิ้นสุดนี้ด้วยความอึ้งและทึ่งในฝีมือของคนที่เค้าสร้างกันในอดีตม๊ากก เพราะนอกจากกำแพงจะอยู่บนเขาสูงแล้ว ขนาดเวลาผ่านมานับพันปี กำแพงที่เราเห็นอยู่นี้ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบมาก คือนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ถึงได้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เพราะสิ่งก่อสร้างที่ก๊อตกำลังยื่นชื่นชมอยู่นี้ ของจริงมันมหัศจรรย์จนอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตาสักครั้งจริงๆ 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยเราใช้เวลาเดินกันอยู่ราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็กลับมาถึงป้อม 1 ที่อยู่ด้านล่างกันแล้ว ถือเป็นอันจบการมาเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) ที่ประทับใจไม่น้อยไปกว่า ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall of China – Mutianyu) เลย หากใครที่อยากมาพิชิตกำแพงเมืองจีนเป็นครั้งแรก แล้วเลือกไม่ถูกว่าจะไปด่านไหนก่อนดี ส่วนตัวก๊อตแนะนำ กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China – Badaling) เลย เพราะนอกจากจะเดินทางง่าย มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงมาถึงหน้าด่านแล้ว เส้นทางเดินยังไม่ยากมาก นี่ว่าผู้หลักผู้ใหญ่มาเดินได้สบายๆ หรือถ้าใครอยากจะเลือกไปด่านอื่นๆ สามารถเลือกตามที่ชอบได้เลยนา เพราะแต่ละด่านเค้าก็จะมีความสวยที่ต่างกันออกไป แต่บอกเลยว่ามีเสน่ห์และยิ่งใหญ่ตระการตาแน่นอน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของปักกิ่ง (Beijing) ที่โคตรดัง รองจากพระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) และ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) เลยก็คือ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) ที่ใครหลายคนอาจจะเคยเห็นรูปตำหนักทรงกลมอันโด่งดังมาบ้างแล้ว ก๊อตจะบอกว่ามันคือที่นี่เลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดย หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1406 โดยจักรพรรดิหย่งเล่อ ของราชวงศ์หมิง เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีบูชาบวงสรวงขอพรจากสวรรค์ ซึ่งปีที่สร้างนั้น เป็นปีเดียวกันเป๊ะกับการก่อสร้างพระราชวังต้องห้าม แต่เมื่อเทียบขนาดไซซ์กับพระราชวังต้องห้ามแล้ว ที่นี่มีขนาดใหญ่กว่า 4 เท่า โดยมีพื้นที่กว่า 2.7 ล้านตารางเมตร กันเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันนี้ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกไปเป็นที่เรียบร้อย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับการเข้าไปด้านในของ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) เราจะต้องซื้อบัตรที่ด้านหน้าทางเข้ากันก่อน โดยก๊อตแนะนำให้ซื้อบัตรคอมโบไปเลย ในราคา 34 หยวน (~159 บาท) ไม่ต้องไปซื้อแยกด้านใน โดยราคานี้จะรวมค่าเข้าสถานที่ไฮไลท์ด้านใน 3 ที่ ได้แก่ ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿), ตำหนักหวงฉุงหยีว์ (Huangqiongyu Pavilion / 皇穹宇) และ แท่นหยวนซิวถาน (Huanqiu Altar / 圜丘) ให้เรียบร้อย เอาล่ะ ได้บัตรแล้วเรามาเริ่มเดินสำรวจข้างในกันเลย โดยตอนที่ก๊อตมานั้น บรรยากาศร่มรื่นมาก หลังจากเดินเข้ามาเราจะเจอกับทางเดินทอดยาวลึกเข้าไปด้านใน ที่สองข้างทางนั้นรายล้อมไปด้วยสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา ซึ่งจะมีคนจีนวัยคุณลุงคุณป้าเค้ามานั่งพักชิวๆ บ้างก็มานั่งจิบชาอยู่ประปราย 

  • 🎫 ซื้อบัตร หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) [ผ่าน Klook] / [ผ่าน Trip]

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยจุดแรกที่ก๊อตเข้ามาจะเป็นโซน Guardroom ซึ่งจะเป็นโซนตำหนักของคนสำคัญในยุคนั้น ภายในจะแบ่งโซนย่อยออกไปอีก ไม่ว่าจะเป็น อาคารหลักอย่าง Beamless Hall ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างไร้คาน ที่ถูกสร้างขึ้นมาในปีที่ 18 ของจักรพรรดิ หยงเล่อ (ค.ศ. 1420) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิง ว่ากันว่าอาคารหลังนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานในยามที่จักรพรรดิเดินทางมาที่นี่อีกด้วย โดยปัจจุบันนี้ภายในอาคารหลักไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นพื้นที่จัดแสดงเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงบัลลังก์พระที่นั่งของจีกรพรรดิให้ได้ชมแบบใกล้ชิดเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับบริเวณรอบๆ ของห้องโถงหลักจะเป็นโซน Living Hall หรือห้องโถงรับแขกที่ในอดีตจักรพรรดิเคยใช้เป็นห้องถือศีลอด ภายในแบ่งย่อยออกเป็น 5 ห้อง ซึ่งจะเป็นทั้งห้องนอนของจักรพรรดิ ห้องนอนในช่วงฤดูหนาว ห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน โดยตัวอาคารจะรายล้อมไปด้วยสนามหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น สมกับเป็นโซนพักผ่อนจริงๆ 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿)

ไปกันต่อที่ตำหนักไฮไลท์ที่ก๊อตเห็นรูปบ่อยเว่อร์ใน Instagram นั่นคือ ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿) เห็นรูปสวยๆ ใน Instagram แล้วคนน้อยเว่อร์ แต่หน้างานบอกเลยว่า คนเยอะมากก แต่ต้องยอมให้กับความยิ่งใหญ่สวยงามของเค้า ด้วยอาคารไม้ทรงกลมที่สร้างขึ้นเพื่อพิธีบวงสรวง สูงถึง 3 ชั้น โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องสีน้ำเงินที่สะดุดตามาแต่ไกล ซึ่งความเจ๋งของการสร้างพระตำหนักนี้คือ ไม่ว่าเราจะมองมาจากทางด้านไหน เราจะเห็นภาพตำหนักทรงกลมที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะหมดเลย อีกทั้งด้านในของตำหนักไม้นี้ไม่มีคานและไม่ใช้ตะปูในการสร้างซักชิ้นเลยนะ ทำให้ในปี ค.ศ. 1998 ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

เกร็ดความรู้เล็กน้อยที่อยากบอกคือ คนจีนเค้าเชื่อกันว่าสวรรค์นั้นมีรูปทรงกลมโค้ง ซึ่ง ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿) แห่งนี้มีรูปร่างทรงกลมโค้งตามความเชื่อของคนบ้านเค้าเลย ส่วนพื้นดินคนจีนเชื่อกันว่ามีรูปทรงสี่เหลี่ยม โดย ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿) ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้จักรพรรดิฮ่องเต้ทำพิธีบวงสรวงสวรรค์และเทวดา เพื่อให้พืชพันธุ์ธัญญาหารภายนั้นอุดมสมบูรณ์ รวมถึงฟ้าฝนตกตามฤดูกาลนั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ตำหนักหวงฉุงหยีว์ (Huang Qiong Yu Pavilion / 皇穹宇)

มาต่อกันที่ ตำหนักหวงฉุงหยีว์ (Huangqiongyu Pavilion / 皇穹宇) ที่เป็นตำหนักเก็บแผ่นป้ายเทพเจ้าที่ใช้ในพิธิบวงสรวงสวรรค์และเทวดา ความเก๋ของตำหนักนี้คือ กำแพงล้อมรอบตำหนักที่เค้าเรียกกันว่า กำแพงสะท้อน (Echo Wall) ที่คนสองคนสามารถคุยกระซิบผ่านข้ามกำแพงทั้งสองฝั่งได้ ซึ่งตอนที่เราเข้าไปในนั้น จะเห็นว่ามีคนจีนเค้ายืนพูด และส่งเสียงร้องดังๆ อยู่เต็มไปหมด ซึ่งก๊อตก็ได้ลองมาแล้ว มันแอบได้ยินเสียงสะท้อนจริงๆ นะ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โซนสุดท้ายที่ก๊อตมาก็คือ แท่นหยวนซิวถาน (Huanqiu Altar / 圜丘) หรือแท่นบวงสรวงฟ้าหินอ่อน ทำหน้าที่เป็นเป็นแท่นให้จักรพรรดิ์ได้ใช้เพื่อบวงสรวงบูชาเทพเจ้า โดยจุดศูนย์กลางของแท่นจะมีแผ่นหินวงกลมโผล่ขึ้นมา ตรงนั้นเรียกว่า เทียนซินสือ (Tianxin Shi / 天心石) หรือ หินใจกลางสวรรค์ ที่หากเราเปล่งเสียงออกไปจากแผ่นหินนี้ เสียงจะขยายจนทุกคนได้ยินกันหมด ซึ่งตอนที่ก๊อตไปนั้น หน้างานเค้าไม่มีใครมาเปล่งเสียงเล่นกันหรอก ส่วนมากคนจีนเค้าจะมายืนกันบนแผ่นหินแล้วหันหน้าไปทาง ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน (Qinian Pavilion / 祈年殿) แล้วทำท่าทางเหมือนยืนขอพรกันมากกว่า ถือเป็นอีกจุดที่คนมารอคิวขึ้นไปเหยียบบนแผ่นหินกันแบบแตกแตนมาก ซึ่งพอก๊อตขึ้นไปยืนด้านบนหินเสร็จแล้ว เราก็เดินลงมาถ่ายรูปเล่นอยู่บริเวณรอบๆ แท่นกันอีกนิดหน่อย จากนั้นก็เดินกลับออกมาจ๊า

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

และนี่ก็คือการมาเที่ยว หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) ของก๊อต ที่หลายคนอาจจะคิดว่ามันใหญ่โตขนาดนี้ มาแล้วจะเที่ยวครบหรือเปล่านั้น เอาจริงจากที่ไปมา ก๊อตว่าเราใช้เวลาเที่ยวไม่นานเท่าไหร่ เพราะจุดไฮไลท์มีแค่สามจุดเท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่เค้าก็จะพุ่งเป้ามากันเลย ส่วนสถานที่อื่นนอกเหนือจากในรีวิวนี้ ใครมีเวลาเหลือแล้วอยากเดินชมก็สามารถเดินเตร็ดเตร่เข้าชมตามจุดต่างๆ ได้ ส่วนตัวก๊อตแล้ว หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tiantan Temple of Heaven) เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่เว่อร์วังอลังการเอาเรื่อง สถาปัตยกรรมต่างๆ ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แถมเรื่องความสวยงามนั้น ให้คะแนนเต็มสิบไม่หักเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market)

ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) สำหรับใครที่อยากช้อปของฝากแบบจีนจ๋าในราคาสบายกระเป๋า ท่ามกลางบรรยากาศเหมือนเราได้หลุดเข้าไปในเมืองโบราณของจีน มันไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับ ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) อีกแล้ว โดยที่นี่เป็นเป็นหนึ่งในตรอกย่านหูท่ง (Hutong) ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในปักกิ่งที่คนนิยมมาเดินกิน เที่ยว ช้อปกันเลยทีเดียว 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) นั้น ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ประมาณ 800 เมตร สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) ทำให้ถนนสายนี้มีอายุมากกว่า 740 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) เคยเป็นที่อยู่อาศัยของขุนนางและบุคคลสำคัญของเมืองหลายคน ซึ่งบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในถนนสายนี้ เป็นบ้านสไตล์โบราณซื่อเหอย่วน (Siheyuan-四合院) ที่เป็นสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบจีนโบราณที่เห็นได้เยอะในปักกิ่ง (Beijing) โดยมีลักษณะเป็นบ้านที่มีอาคารล้อมลานกลางบ้านทั้งสี่ทิศ โดยปัจจุบันนี้ แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานานแค่ไหน ปัจจุบันบ้านสไตล์นี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากพอสมควรเลย ดังนั้น ใครที่มาเยือน  ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) จะยังคงได้สัมผัสกลิ่นอายของความเก่าแก่ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาเลยเชียว

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ตัวก๊อตเองกว่าจะมาถึง ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) ก็บ่ายคล้อยแล้ว อากาศตอนนั้นมีแดดร่มลมตกกำลังดี ภายในถนนเต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายกันตั้งแต่ของปุ๊กปิ๊ก ไปจนถึงของฝากและของที่ระลึก อีกทั้งยังมีร้านอาหารจีนและร้านขายขนมสไตล์จีนๆ ตั้งเรียงรายไปตามสองข้างทางให้ได้ลิ้มรสกันอยู่ไม่ขาดสาย ยังไม่หมดเท่านั้น ที่นี่ยังมีคาเฟ่ที่ผสมผสานความเก่าแก่ของย่านเข้ากับความทันสมัยในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว คือเดินอยู่ในถนนสายนี้บอกเลยว่าไม่มีอด ไม่ต้องกลัวหิว สามารถเดินได้เรื่อยๆ กันได้เลย

👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️

ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยรวมแล้ว ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) มันเหมาะกับคนที่อยากมาเดินชิวๆ ช้อป กิน เที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ฟีลมาหาของกิน หาของฝากแบบออริจิจากจีนกลับไปฝากคนที่บ้าน ตลอดเส้นทางคนค่อนข้างคึกคัก ยิ่งพอพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วนั้น คนนี่มาเดินแตกแตนสุดๆ เอาเป็นว่าใครที่อยากมาสามารถสัมผัสบรรยากาศของปักกิ่ง (Beijing) ในห้วงของอดีตผ่านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ยังคงถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี ก๊อตอยากให้ลองมาเดินเล่นที่ ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) เลย รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน 

Go to top

หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing)

จากถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) ให้เราเดินไปต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวห้ามพลาดอย่าง หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) ตั้งอยู่ด้วย ความยิ่งใหญ่ของที่นี่คือในอดีตทั้งสองหอเคยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบอกเวลาอย่างเป็นทางการของเมือง​ปักกิ่ง (Beijing) ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว แต่ หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) ก็ยังคงเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งและตั้งตระหง่านและสวยโดดเด่นกลางเมืองปักกิ่ง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1272 ในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) สำหรับหอกลองนั้น มีลักษณะเป็นอาคารไม้สูง 46.7 เมตร ในอดีตการตีกลองภายในหอจะมีเอาไว้เพื่อบอกเวลาในช่วงกลางคืน ส่วนหอระฆัง โครงสร้างจะเป็นอาคารอิฐสีเทา สูง 47.9 เมตร ในอดีต คนเค้าจะตีระฆังภายในหอแห่งนี้เพื่อบอกเวลาในช่วงกลางวันให้กับชาวเมือง​นั่นเอง

โดยเส้นทางการเดินเที่ยวของก๊อตนั้น หลังจากเราออกมาจากถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Market) ทางทิศเหนือ แล้วเลี้ยวซ้ายและเดินเลียบมาตามข้างถนนเรื่อยๆ โดยจุดแรกที่มาเจอจะเป็น “หอกลอง” อาคารไม้สีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่หัวมุมถนน แต่ด้วยความที่ก๊อตมาถึงช่วงเย็นมากและตัวหอนั้นได้ปิดแล้ว เราเลยทำได้แค่เดินเก็บภาพบรรยากาศของหอกลองจากกำแพงด้านนอก ซึ่งแม้เราจะพลาดไม่ได้เข้าไปด้านใน แต่จากที่เห็นผ่านตานั้น อาคารของหอกลองยังคงสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างต่างๆ หลังคา ไปจนถึงลวดลายที่ประดับประดาอยู่รอบๆ อาคารนั้นก็ยังคงงดงามแม้จะอยู่คู่กับเมืองมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม ถือเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างของเมืองที่ยิ่งใหญ่มาก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

หากเรามองอีกฝั่งตรงข้ามของ “หอกลอง” เราจะได้เห็นกับ “หอระฆัง” ที่ตั้งอยู่เคียงคู่กัน กับอาคารอิฐสีเทาหลังโอ่อ่า รายล้อมไปด้วยแนวกำแพงสูง ที่มองจากด้านนอกนั้น ยังเห็นถึงความงดงามและสมบูรณ์ของตัวอาคารที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรได้เลย อย่างที่บอกไปว่าก๊อตมาช่วงเย็นมากแล้ว เราเลยไม่สามารถเข้าไปได้ ถึงกระนั้น บริเวณลานกว้างด้านหน้าของหอกลอง ยังครึกครื้นไปด้วยคนท้องถิ่นที่เค้ามาเดินเล่น นั่งเมาท์มอย ไปจนถึงออกกำกาย และทำกิจกรรมอยู่เยอะมาก ฟีลเหมือนเป็นลานสำหรับทำกิจกรรมของคนเมืองนี้เค้าเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ก๊อตมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหอระฆังมาฝากกัน แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นเพียงตำนานที่เล่าขานกันมา แนะนำให้อ่านเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเยี่ยมชมก็พอ เพราะมันเป็นเรื่องราวของการเสียสละครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างการสร้างระฆังยักษ์ในหอระฆังแห่งนี้โดยย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) จักรพรรดิหย่งเล่อ (Yongle Emperor) ทรงมีพระราชโองการให้สร้างระฆังยักษ์ขึ้นที่ หอระฆังแห่งปักกิ่ง เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงออกถึงอำนาจ และใช้มันทำหน้าที่บอกเวลาเมือง ขณะนั้นหัวหน้าช่างฝีมือที่ได้รับมอบหมายมีชื่อว่า หวังจื่อ (Wang Zhi) ซึ่งเป็นช่างตีระฆังสุดโด่งดังและเป็นที่ยอมรับเรื่องฝีมือระดับพระกาฬในยุคสมัยนั้น เป็นผู้ควบคุมการหลอมระฆัง

แต่เมื่อหวังจื่อได้ทำการหลอมระฆังขึ้นมา ปรากฎว่าระฆังแต่ละอันมีรอยร้าวและไม่ประสบความสำเร็จสักที ทำเอาจักรพรรดิเริ่มไม่พอพระทัย ถึงขั้นรับสั่งว่าหากยังสร้างระฆังไม่ได้สำเร็จ หวังจื่อจะต้องถูกประหาร โดยเรื่องนี้ไปถึงหูลูกสาวของหวังจื่อที่ชื่อ หนิวหลาน (Niulang) เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษานักพรตคนหนึ่ง ซึ่งท่านแนะนำว่าเพื่อให้ระฆังหลอมสำเร็จและไม่มีรอยร้าว ต้องใช้สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และความบริสุทธิ์หลอมรวมลงไปในโลหะจึงจะสำเร็จ ดังนั้น ในวันที่ต้องหลอมระฆังขึ้นมาใหม่ หนิวหลานได้ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยการกระโดดลงไปในเตาหลอมเพื่อเสียสละตัวเอง เมื่อหวังจื่อเห็นดังนั้นก็แทบใจสลาย แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ระฆังที่หลอมในครั้งนั้นกลับสำเร็จสมบูรณ์ ไร้รอยร้าว ซึ่งคนเค้าร่ำลือกันว่าทุกครั้งที่มีการตีระฆังอันนี้ขึ้นเมื่อใด แม้เสียงที่ได้ยินจะไพเราะมากแค่ไหน แต่มันกลับฟังดูโศกเศร้าเสียเหลือเกิน อย่างกับว่า หนิวหลานยังคงอยู่ในระฆังนี้ไม่ไปไหนนั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ปัจจุบันนี้ หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) แม้จะไม่ได้ใช้เป็นเครื่องมือในการบอกเวลาของเมืองแล้ว แต่ทางเมืองเค้าได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาชมด้านในของทั้งสองหอได้ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปด้านบนสุดเพื่อชมวิวมุมสูงของปักกิ่ง (Beijing) ได้อีกด้วย โดยในช่วงเย็นๆ บริเวณลานกว้างหน้า หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) ยังมีผู้คนมาเดินเล่น ทำกิจกรรม และออกกำลังกายกันเพียบ เป็นเหมือนจุดรวมตัวของคนในเมืองเค้าเลย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เก่าแก่ประจำเมืองที่ควรค่าแก่การมาเช็คอินเมื่อมาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) นั่นเอง

Go to top

ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Lake Houhai) 

หลังจากเดินเที่ยวรอบๆ หอกลองและหอระฆังแห่งปักกิ่ง (Drum Tower and Bell Tower of Beijing) เสร็จแล้ว ก๊อตแนะนำให้ทุกคนเดินไปต่อที่ ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Lake Houhai) ทะเลสาบขนาดใหญ่ใจกลางปักกิ่ง (Beijing) ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน โดยรอบๆ ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Houhai) ถือเป็นย่านกิน เที่ยว ช้อป ที่คนมาเดินเที่ยวกันแบบแตกแตนมาก ใครชอบบรรยากาศของการเดินเลียบทะเลสาบดูผู้คนพายเรือชิวๆ มาที่นี่บอกเลยว่าดีย์งาม ยิ่งใครมาช่วงเย็นๆ นะ บรรยากาศโรแมนติกโคตรๆ 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Lake Houhai)  เป็นทะเลสาบที่ถูกขุดขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้าม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสามของทะเลสาบปักกิ่ง โดยอีกสองแห่ง คือ ทะเลสาบเชียนไห่ (ทะเลหน้า) และทะเลสาบซีไห่ (ทะเลตะวันตก) โดยทั้ง 3 ทะเลสาบนั้น เรียกรวมกันว่า ซานไห่ (Shichahai) มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนปักกิ่ง (Beijing) เนื่องจากทั้ง 3 ทะเลสาบเคยเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางน้ำของเมืองในสมัยโบราณ โดย ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Houhai) ถูกขุดขึ้นมาเพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าเข้ามายังพระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ซึ่งบริเวณรอบๆ ของทะเลสาบในยุคสมัยนั้น เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ขายกันตั้งแต่ไวน์ อาหาร รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของโรงงานและเวทีแสดงโอเปร่าอีกพรึ่บพรั่บ ทั้งหมดนี้เลยทำให้ทะเลสาบแห่งนี้คึกคักและมีสีสันจนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดที่ผู้คนต่างมากันแบบครึกครื้นกันจนถึงทุกวันนี้

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ซึ่งที่ ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Houhai) หากเรามาเที่ยวหน้าร้อน บรรยากาศของทะเลสาบจะมีน้ำไหลเอื่อยๆ ตามสองข้างทางมีผู้คนเดินสวนกันไปมาให้ขวัก บ้างก็แวะถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของทะเลสาบ บ้างก็ยืนชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบ เป็นมู้ดที่ชิวและสโลว์ไลฟ์มาก แต่ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นๆ จะทำให้น้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง คนเค้าก็จะนิยมมาเล่นสกีกันในนี้ด้วยนะ เป็นอีกช่วงเวลาที่สวยเหมือนกัน เอาจริงส่วนตัวก๊อตคิดว่า ทะเลสาบโฮ่วไห่ (Houhai) เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ควรมา ใครชอบฟีลมาเดินเลียบทะเลสาบท่ามกลางบ้านเรือน อาคารสไตล์จีนเก่าแก่ นี่ว่ามาที่นี่ จะต้องชอบอย่างแน่นอน 

Go to top

ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street)

ไปช้อปปิ้งละลายทรัพย์กันต่อที่ ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) กันต่อ โดยก๊อตขอยกให้ที่นี่เป็นเบอร์หนึ่งของถนนช้อปปิ้งในปักกิ่ง เพราะตลอดทั้งเส้นของถนนนั้นเต็มไปด้วยห้าง ร้านแบรนด์ต่างๆ อยู่เยอะม๊าก โดย ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) ถือเป็นหนึ่งในย่านการค้าหลักของปักกิ่ง (Beijing) เลยก็ว่าได้ โดยมีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1279-1368) ก่อนจะได้รับการตั้งชื่อว่า หวังฝูจิ่ง (Wangfujing ) ในสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อ 500 กว่าปีที่ผ่านมา โดยชื่อของตลาด มีความหมายว่า “บ่อน้ำของตำหนักท่านอ๋อง” นั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) นั้น ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยช็อป และร้านค้าเรียงรายกันเป็นตับ ไม่ว่าจะเป็น Apple Store, ร้านเลโก้ (LEGO) ที่เป็นร้านเรือธงของเลโก้ที่ตกแต่งในสไตล์จีน อีกทั้งยังมีร้านหนังสือหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Bookstore) ที่สูงถึง 6 ชั้น อัดแน่นไปด้วยหนังสือจีนให้ได้มาหิ้วกลับบ้านเพียบ และยังไม่หมดเท่านั้น เค้ายังมีห้าง apm Beijing ที่มาพร้อมช็อปแบรนด์ดังจากทั่วโลก รวมถึงตามแนวถนนยังมีร้านค้าแบรนด์ฮิตอีกมากมาย แต่ที่เห็นแล้วฟู่ฟ่าแบบที่ว่าใครเป็นสายลักชูแบรนด์ชอบช้อปแบรนด์ไฮเอนด์มาแล้วกำเงินเอาไว้ให้ดี เพราะใน ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) มีห้างดังให้ได้เข้าแบบแตกแตน อย่างที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ Wangfujing Mall ที่ด้านในเต็มไปด้วยช็อปหรูอย่าง Louis Vuitton​, Chanel​, Prada​, Hermès, Dolce & Gabbana นอกจากนี้ยังมีให้ช็อปอื่นๆให้ได้มาช้อปกันกระจาย ใครมาเพื่อช้อป ก๊อตแนะนำให้ลิสมาให้ดีว่าจะซื้ออะไร พอมาถึงแล้วให้พุ่งตัวเข้าไปในช้อปนั้นๆ ได้เลย จะได้ไม่เสียเวลา

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

บรรยากาศของ ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) เรียกได้ว่าคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว คนจีนที่เค้าออกมาจับจ่ายใช้สอยกันแบบแตกแตน โดยร้านค้า แบรนด์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใน ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) จากที่ก๊อตเดินสำรวจมาสักพัก บอกเลยว่าครบครัน แถมราคาก็ถูกกว่าบ้านเราจริง แต่ที่ก๊อตชอบเลยคือ ที่นี่เค้าจะมีตรอกเล็กๆ หลายตรอกให้เราได้เดินเข้าไปช้อปกัน โดยตรอกที่ก๊อตแวะจะชื่อว่า ตรอกอาหารหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Snack Street) ซึ่งข้างในนั้นเป็นสวรรค์ของสายกินเลยก็ว่าได้ เพราะเต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่น และของกินเล่นอยู่เยอะม๊ากก ใครมาแล้วกลัวจะหาไม่เจอ จุดสังเกตให้มองหาซุ้มประตูจีนเว่อร์ๆ ที่ตั้งเด่นเห็นมาแต่ไกล ด้านในเค้าคือตรอกนี่เลย โดยบรรยากาศภายในตรอกนั้น จะมีแผงขายอาหารอยู่ตามสองข้างทางเต็มไปหมด ตั้งแต่อาหารท้องถิ่นยอดฮิตของคนจีนอย่างเกาลัดคั่ว ซาลาเปา ไปจนถึงสารพัดสัตว์อย่างแมงป่อง งู ปลาดาว ม้าน้ำ ก็ถูกนำมาปรุงอาหารขายกันเป็นตับ นอกจากนี้ก็จะมีของฝากแบบจีนจ๋าๆ ขายอยู่อีกเพียบ ใครอยากช้อปจอยๆ ได้กินอาหารท้องถิ่นแบบถึงพริกถึงขิง สามารถเดินเข้ามาในตรอกนี้ได้เลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ส่วนใครที่อยากกินข้าวแบบจริงจัง ใน ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) ยังมีฟู้ดคอร์ทอยู่ด้วย โดยบรรยากาศด้านในจะเหมือนโรงอาหารขนาดใหญ่ที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ท่ามกลางร้านอาหาร และสตรีทฟู้ดหลายสิบร้านที่เค้ารวมมาไว้ให้เราได้เลือกกินแบบจุใจในที่เดียว ยังไม่หมดเท่านั้น หากใครมาถึง ปักกิ่ง (Beijing) แล้วอยากลิ้มรสเป็ดปักกิ่ง ในถนนสายนี้เค้ามีร้านเฉวียนจยู้เต๋อ (Quanjude) เป็นร้านเป็ดปักกิ่งเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1864 อายุอานามนี่หลายร้อยปีกันเลย คือมาแล้วมั่นใจได้เลยว่า เราจะได้กินเป็ดปักกิ่งรสชาติออริจิกันอย่างแน่นอน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยรวมแล้ว ก๊อตใช้เวลาเดินเล่นอยู่ใน ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) อยู่หลายชั่วโมงเลย เพราะนอกจากเราจะแวะกินข้าวกันแล้ว ก๊อตยังเข้าออกช็อปเป็นว่าเล่น คือซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของฝากกับไทยเยอะมาก แอบเตือนไว้ก่อนเลยว่า ใครเป็นสายช้อป มาแล้วถ้าไม่มีคนมาห้าม มีล้มละลายแน่นอน 555555555

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

วัดลามะ / หยงเหอกง (Yonghe Temple)

มาไหว้พระขอพรกันที่ วัดลามะ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า หยงเหอกวง (Yonghe Temple) ซึ่งถือเป็นวัดที่สวยงามและเป็นวัดศาสนาพุทธนิกายทิเบตแห่งเดียวในปักกิ่ง (Beijing) อีกด้วย โดยวัดแห่งนี้ถือว่ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1694 ซึ่งในสมัยนั้น ที่นี่เป็นเคยเป็นพื้นที่พระราชวังที่ประทับขององค์ชาย 4 ‘หย่งเจิ้ง’ ของคังซีฮ่องเต้มาก่อน จากนั้นในปี ค.ศ. 1744 เมื่อองค์ชายหย่งเจิ้งได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 3 พระองค์ได้พระราชทานพื้นที่แห่งนี้ สร้างเป็นวัดลามะนิกายจีวรเหลือง ก่อนที่วัดจะกลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายทิเบตมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับการจะเข้ามาที่วัดแห่งนี้ เราจะต้องเสียค่าเข้าคนละ 25 หยวน (~125 บาท) และหลังจากที่เราซื้อบัตรและเดินผ่านประตูเข้ามาแล้ว ให้เราเดินตรงยาวมาเรื่อยๆ โดยบริเวณภายในวัดนั้น จะมีหอพระตำหนักอยู่หลายหลัง ที่เราสามารถเดินทะลุเข้าไปได้เรื่อยๆ ซึ่งเราสามารถไหว้สักการะได้ในทุกหลังเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ความง่ายของการมาเที่ยวที่นี่ คือแปลนของวัดที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มันเลยทำให้เราสามารถเดินทะลุพระตำหนักในแต่ละชั้นไปได้เรื่อยๆ ตั้งแต่มหาตำหนักยงเหอกง (雍和门大殿, Yōnghémén Dàdià), ตำหนักหย่งโย่ว (永佑殿, Yōngyòu Diàn), ตำหนักฝ่าหลุน (法轮殿, Fălún Diàn) และพระตำหนักชั้นในสุด หอหมื่นสุข (万福阁, Wànfú Gé) นั่นเอง ก๊อตจะบอกว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ใช้เวลาเดินเที่ยวเอาเรื่องอยู่นะ เพราะพอเราเข้ามาแล้ว ถึงได้เห็นว่าจริงๆ พื้นที่ด้านในของวัดนั้น กว้างขวางมาก โดยมีเนื้อที่กว่า 6 หมื่นตารางเมตร แน่นอนว่าก๊อตใช้เวลาเดินสำรวจกันนานเลยล่ะ ซึ่งบรรยากาศด้านในก็จะเรียงรายไปด้วยตำหนักต่างๆ ท่ามกลางต้นไม้ที่เค้าปลูกแทรกเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างกลมกลืน มันเลยทำให้ตัววัดดูไม่แห้งจนเกินไป เข้ามาแล้วจิตใจและความรู้สึกคือสงบสุขมาก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับพระตำหนักที่สำคัญที่สุดที่ห้ามพลาดเลยคือ หอหมื่นสุข (万福阁, Wànfú Gé) ด้านในสุดที่มีพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรยปางยืน ความสูง 26 เมตร ที่แกะสลักด้วยไม้กฤษณาขาวท่อนเดียว จากเนปาลที่องค์ดาไลลามะที่ 7 ถวายให้กับเฉียนหลงฮ่องเต้ ในปี ค.ศ. 1753 ซึ่งความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรยองค์นี้ ถือเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักที่สูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังถูกบันทึกใน Guinness Book อีกด้วย ซึ่งองค์จริงคือสวยและยิ่งใหญ่มากจริงๆ งานแกะสลักแสดงให้เห็นว่าช่างฝีมืออย่างเทพ เพราะไม่ว่าก๊อตจะเงยหน้าขึ้นมองส่วนไหนของพระพุทธรูป ต่างก็งดงามเลอค่าไปหมดเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ใครที่ชอบเที่ยววัด หลงใหลในประวัติศาสตร์ และสิ่งปลูกสร้างเว่อร์วังอลังการ มาที่ วัดลามะ / หยงเหอกง (Yonghe Temple) ก๊อตบอกเลยว่าฟูลฟีลมาก คือเดินไปทางไหนก็เจริญหูเจริญตาไปหมดเลย ภายในวัดมันมีกลิ่นอายของความเก่าแก่ที่ผสมผสานไปกับความขลังที่ทำให้ใจของเราสงบมาก ก๊อตขอยกให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครมาเยือน ปักกิ่ง (Beijing) จะต้องมาให้ได้

Go to top

จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)

หากถามว่าจตุรัสไหนที่ใหญ่ที่สุดในโลก คำตอบจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย หากไม่ใช่ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) ลานจัตุรัสที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก สามารถจุคนได้กว่าหนึ่งล้านคน อีกทั้งยังเป็นจตุรัสที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยความเริ่ดคือ พื้นที่โดยรอบของจัตุรัสที่นี่ ล้อมรอบไปด้วยสถานที่สำคัญของรัฐบาลจีนอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City), อนุสรณ์สถานประธานเหมา (Mausoleum of Mao Zedong), ประตูเฉียนเหมิน (Qianmen Gate) และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน (National Museum of China) ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นสถานที่ที่เคยเกิดเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ของจีน โดยเฉพาะเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ในปี ค.ศ. 1989 ที่กลุ่มนักศึกษาจีนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และถูกสลายการชุมนุมโดยรัฐบาล โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1420 โดยราชวงศ์หมิง เป็นผู้ริเริ่มโครงการสร้าง ซึ่งขณะนั้น ถูกใช้เพื่อเป็นทางเข้าเขตในพระราชวังต้องห้าม โดยชื่อของจตุรัสถูกตั้งตามชื่อของ ประตูเทียนอัน ท่ีตั้งอยู่ทางทิศเหนือในเขตพระราชวังต้องห้ามอีกด้วย ซึ่งการเที่ยว จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) นั้นไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน เราเน้นเดินเล่นไปเรื่อยๆ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากทุกคน โดยทางทิศใต้จะมี อนุสรณ์สถานประธานเหมา (Mausoleum of Mao Zedong) ซึ่งจะเป็นอาคารหลังใหญ่ที่มีหลังคาสองชั้นตั้งสง่าอยู่ใจกลางจตุรัส ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์วีรชน (The Monument to the People’s Heroes) ซึ่งเป็นเสาหินอ่อนสูง 37.94 เมตร ที่แกะสลักชื่อวีรบุรุษที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์จีนเอาไว้ โดยอนุสาวรีย์วีรชนแห่งนี้ เค้าสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่ต่อสู้และเสียชีวิตในเหตุการณ์ปฎิวัติประเทศในช่วงศตวรรษที่ 19-20 นั่นเอง 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

แต่จุดที่เป็นไฮไลท์เลย จะเป็นมุมไหนไปไม่ หากไม่ใช่ ประตูเทียนอันเหมิน (Tiananmen Gate) ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ เพราะเค้าโดดเด่นด้วยภาพของประธานเหมาเจ๋อตง (Mao Zedong Portrait) ที่แขวนอยู่ตรงกลางประตูทางเข้าไปยังพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) นั่นเอง บรรยากาศตรงจุดนี้มีคนจีนอยู่มหาศาลมาก หางแถวนี่แทบมองไม่เห็น ซึ่งพวกเค้าจะถ่ายรูปกันก่อนที่จะข้ามถนนเพื่อเข้าพระราชวังต้องห้ามนั่นเอง แน่นอนว่าก๊อตก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปมุมนี้กับเค้าด้วยเหมือนกัน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
Go to top

พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City)

มาถึง พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) แลนด์มาร์คสุดยิ่งใหญ่ของปักกิ่ง (Beijing) ที่ใครมาเที่ยวปักกิ่ง จะต้องมาเยือนและสัมผัสกับสถาปัตยกรรมสุดล้ำค่าของพระราชวังเก่าแก่ด้วยตาของตัวเองสักครั้ง โดยที่นี่จะมีค่าเข้าชมขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา อย่างช่วงพีคๆ ไฮซีซั่นตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม ราคาจะอยู่ที่คนละ 60 หยวน (~279 บาท) แต่ในช่วงโลวซีซั่นตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม จะอยู่ที่คนละ 40 หยวน (~186 บาท) ซึ่งเราสามารถซื้อหน้างานหรือจะผ่านออนไลน์ได้เลยตามลิงค์ข้างล่าง ทั้งนี้ หากใครที่อยากเที่ยวแบบเจาะลึกมากขึ้น ทั้งเรื่องสถาปัตยกรรมสวยๆ รวมถึงอยากฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ก๊อตแนะนำให้เช่า Audio Guide ที่เป็นเครื่องบรรยายเสียงขณะเราเดินชมด้านในแต่ละจุดได้เลย ความเริ่ดคือเค้ามีภาษาไทยด้วยนะ สะดวกสบายมาก

  • 🎫 ซื้อบัตรเข้าพระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) [ผ่าน Klook] / [ผ่าน Trip.com]

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ถือเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมีพื้นรวมกว่า 720,000 ตารางเมตร ท่ามกลางพระตำหนักอีกกว่า 980 ตึก และมีห้องต่างๆ จำนวน 8,728 ห้อง ซึ่งใครที่คิดว่าจะมาเดินเที่ยวแบบวันเดียวแล้วเก็บครบไหม ก๊อตบอกได้เลยว่าเที่ยววันเดียวยังไงก็ไม่หมด เพราะพื้นที่ข้างในมันใหญ่ม๊าก ซึ่งการเดินเที่ยวของก๊อตจะเป็นแบบเดินยาวเป็นเส้นตรง ผ่านตำหนักที่สำคัญๆ จากนั้นก็จะไปส่องบรรยากาศตามส่วนอื่นๆ นิดหน่อย บอกเลยว่า ดูเหมือนเราเดินแค่นี้ แต่กินเวลาไปครึ่งวันเลยเด้อ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ที่ก๊อตกำลังเดินเข้ามาสำรวจนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1406 โดย จักรพรรดิหย่งเล่อ ในช่วงราชวงศ์หมิง โดยแบ่งเป็นวังหน้า (Outer Court) ที่มีอยู่ 3 ตำหนักสำคัญ โดยตำหนักเหล่านี้มีไว้ใช้ในยามที่ฮ่องเต้ออกว่างานราชการต่างๆ รวมถึงงานพิธีในราชสำนัก ซึ่งก๊อตมีสิ่งหนึ่งที่อยากให้สังเกตคือ บริเวณวังหน้าจะไม่มีต้นไม้ซักต้นเลย เนื่องจากวังหน้าเป็นสถานที่ใช้งานในราชสำนัก ดังนั้นฮ่องเต้ต้องเฉิดฉายพระบารมีอย่างที่สุด เพราะคนเค้าเชื่อกันว่าฮ่องเต้เป็นโอรสแห่งสวรรค์ และไม่มีอะไรที่สามารถบดบังฮ่องเต้ได้ เป็นเหตุให้บริเวณนี้ไม่มีต้นไม้นั่นเอง ส่วนโซนวังชั้นใน (Inner Court) จะเป็นที่ประทับส่วนตัวของฮ่องเต้และพระมเหสีบรรยากาศในโซนนี้จะดูร่มรื่นและปกคลุมไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ ดูมีชีวิตชีวามากกว่าโซนวังหน้ามาก

Go to top

ตำหนักไถ่เหอ (Hall of Supreme Harmony / Taihedian)

มาเริ่มเดินเที่ยวกันเลยที่แรกกับ ตำหนักไถ่เหอ (Hall of Supreme Harmony / Taihedian) ตำหนักที่สำคัญที่สุดของพระราชวังต้องห้ามและสูงที่สุดในจักรวรรดิจีนตอนนั้น ซึ่งเค้าว่ากันว่าห้ามมีตึกไหนสูงกว่าตำหนักหลังนี้โดยเด็ดขาด เพราะที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางการออกว่าราชการแผ่นดิน รวมถึงพิธีราชสำนักสำคัญต่างๆ ของฮ่องเต้ ตั้งแต่การราชาภิเศก งานคล้ายวันเกิด รวมถึงงานพิธีอภิเษกสมรสต่างๆ อีกด้วย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ตำหนักจงเหอ (Hall of Central Harmony / Zhonghedian)

เดินต่อมาที่ ตำหนักจงเหอ (Hall of Central Harmony / Zhonghedian) เป็นตำหนักที่เล็กที่สุดของวังหน้า ทำหน้าที่สำหรับเป็นที่พักของฮ่องเต้ก่อนออกราชการแผ่นดินที่ตำหนักไถ่เหอ ที่เราพึ่งเดินผ่านเข้ามานั่นเอง บริเวณตำหนักก็จะมีหลายส่วนที่เราสามารถเข้าไปส่องบรรยากาศด้านในได้ด้วยนะ ซึ่งเราจะได้ดื่มด่ำกับความโอ่อ่าของตำหนักที่ตกแต่งเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินเที่ยวชมกันแบบเนืองแน่นเลยล่ะ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ตำหนักเป่าเหอ (Hall of Preserved Harmony / Baohedian)

ตำหนักสุดท้ายของวังหน้าที่ก๊อตมา คือ ตำหนักเป่าเหอ (Hall of Preserved Harmony / Baohedian) ที่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองต่างๆ รวมถึงยังเป็นสถานที่จัดสอบจอหงวน ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ออกข้อสอบและคุมสอบด้วยพระองค์เองอีกด้วย โดย 10 คนแรกที่สอบจอหงวนได้คะแนนสูงสุดของการสอบจะได้รับการประกาศขานชื่อจากฮ่องเต้สู่สาธารณะชน ช่วงเวลานั้นคนเค้าถือว่าเป็นเกียรติอันสูงสุดของชีวิตกันเลย บรรยากาศของตำหนักนี้จะเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ด้านหน้ามีลานกว้างตั้งอยู่ ตรงกลางลานจะมีทางเดินสำหรับฮ่องเต้ที่ทอดยาวขึ้นสู่ตัวตำหนักอีกด้วย ใครมาเที่ยวหน้าร้อน ก๊อตแนะนำให้พกร่มกันมาด้วยก็ดี เพราะโซนนี้ไม่มีต้นไม้ให้เราได้หลบเข้าร่มกันเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ตำหนักเฉียนชิงกง (Palace of Heavenly Purity / Qianqinggong)

จากวังหน้า ก๊อตเดินผ่านเข้ามายังวังชั้นใน โดยเรามาเจอกับตำหนักแรกอย่าง ตำหนักเฉียนชิงกง (Palace of Heavenly Purity / Qianqinggong) ที่องค์ฮ่องเต้ใช้เป็นสถานที่สำหรับลงนามและตรวจเอกสารต่างๆ รวมถึงมีการจัดงานรื่นเริงตามโอกาสต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานพระบรมศพ โดยในอดีตได้มีการวางพระโกศขององค์ฮ่องเต้ไว้ที่ตำหนักหลังนี้เพื่อไว้อาลัยกับการจากไป ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างของท่านไปยังเขาจิ่งซาน (Jingshan Hill) เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อนั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

และนี่ก็คือตำหนักต่างๆ ที่ก๊อตพาทุกคนไปส่องและเก็บบรรยากาศมาฝากกัน โดย พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) นั้นเรียกได้ว่าเป็นพระราชวังสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 500 กว่าปี พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้โดยจักรพรรดิ์ในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1911 เกิดการปฎิวัติซินไห่ เพื่อโค่นอำนาจของจักพรรดิ์ราชวงศ์ชิงลงจากอำนาจ องค์ฮ่องเต้ผู่อี๋ จึงถือเป็นจักรพรรดิ์องค์สุดท้ายที่ได้ใช้พระราชวังแห่งนี้ และถือเป็นการสิ้นสุดการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และจักรวรรดิจีน ที่มีอายุกว่า 2,000 ปีของจีนโดยสมบูรณ์ ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่พระราชวังอย่างเดียว แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ รวมถึงมีคุณค่ากับเมืองอย่างหาคำเปรียบเปรยไม่ได้เลยทีเดียว ใครชื่นชอบพระราชวังเก่า และชอบส่องประวัติศาสตร์ บอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
Go to top

สวนจิ่งซาน (Jingshan Park)

เดินออกมาจากประตูทางเหนือของ พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ก๊อตบอกเลยว่ามันจะไม่คอมพลีท ถ้าเราไม่ได้ข้ามถนนแล้วมาเที่ยว สวนจิ่งซาน (Jingshan Park) ด้วย เพราะที่สวนแห่งนี้ จะมีเขาจิ่งซานที่เราสามารถปีนขึ้นไปดูวิว พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) อันยิ่งใหญ่ได้แบบเต็มตา ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่ก๊อตแนะนำว่าควรมาเลยคือ ช่วงเวลาตอนเย็นๆ ใกล้พระอาทิตย์ตกดินนั่นแหละ เพราะเราจะได้ดื่มด่ำกับแสงสุดท้ายของวันที่สวยแบบจับจิตจับใจมาก

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับ สวนจิ่งซาน (Jingshan Park) นั้น ในสมัยก่อนทำหน้าที่เป็นสถานที่ให้ราชวงศ์มาทำกิจกรรมผ่อนคลายร่วมกัน ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาได้ แต่ภายหลังทางการจีนเค้าได้เปิดเป็นสวนสาธารณะให้คนได้เข้ามาเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงชมความงามได้ ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ เขาที่มนุษย์สร้างขึ้นจากดินที่ขุดเป็นคลองรอบพระราชวัง โดยเค้าเอาดินเหล่านั้นมาทำเป็นเขาทั้งหมด 5 ลูก โดยลูกที่ยอดสูงสุดสำหรับการไปดูวิว พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) คือเขาตรงกลางที่มีศาลาวันชุน (Wanchun Pavilion) ให้เราได้ขึ้นมานั่งดูวิวนั่นเอง 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

บรรยากาศตอนที่ก๊อตเดินเล่นอยู่ด้านล่างนั้นค่อนข้างสบายเลย เพราะคนไม่ค่อยเยอะ แต่พอได้ขึ้นไปถึงศาลาด้านบนเขานั้น ถึงกับตกเพราะคนคือเยอะแบบแตกแตนสุดๆ แต่ยังดีที่เค้ามีที่นั่งให้เราได้มาหย่อนก้นชิวๆ คนเลยไม่เบียดเสียดกันมาก ซึ่งวิวจากบนนี้สามารถมองเห็นพระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) ได้แบบอลังการสุดๆ คือเราจะเก็บภาพมุมสูงของพระราชวังต้องห้ามได้แบบแทบจะครบทุกตำหนักในนั้นเลย แต่แอบเสียดายที่ก๊อตไม่ได้อยู่จนถึงพระอาทิตย์ตก เพราะก๊อตค่อนข้างไปเร็วเกิน กว่าพระอาทิตย์จะตกคืออีกหลายชั่วโมงเลย ก๊อตเลยตัดสินใจเดินกลับลงมาก่อน เพื่อเอาเวลาไปตามเก็บที่เที่ยวอื่นๆ ต่อนั่นเอง แต่ถ้าใครยากชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติๆ กับวิวพระราชวังต้องห้าม ยังไงก๊อตก็แนะนำให้มาตามรอยที่นี่ได้เลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)

พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) อีกสถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่งที่ห้ามพลาดกับอุทยานหลวงที่สวยที่สุดในจีน อีกทั้งยังมีความเก่าแก่และเลอค่าจนได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง” เมื่อปี ค.ศ. 1998 อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบพระราชวังเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองมาอย่างช้านาน ยังไงก็ต้องมาเยือน พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ด้วยเช่นกัน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับการจะเข้ามาเที่ยวใน พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) เราจะต้องซื้อบัตรเข้าชมด้วยนะ โดยจะมีทั้งแบบบัตรเข้าชม พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ที่ไม่รวมบัตรเข้าแลนด์มาร์คสำคัญด้านใน ราคา 30 หยวน (~140 บาท) แต่ในช่วงโลว์ซีซั่น ราคาจะลดเหลือ 20 หยวน (~93 บาท) และแบบคอมโบที่เราสามารถเข้าได้ทุกซอกทุกมุมในราคา 60 หยวน (~280 บาท) และในช่วงโลว์ซีซั่น จะเหลือคนละ 50 หยวน (~233 บาท) ส่วนตัวก๊อตเองคิดว่า ซื้อแบบธรรมดา 30 หยวน แล้วค่อยมาซื้อบัตรเข้าแต่ละสถานที่ด้านในก็ได้ เพราะขนาดพื้นที่พระราชวังมันใหญ่มาก และใช้เวลาเดินเยอะมากจริงๆ ทีนี้หากเราซื้อบัตรแบบคอมโบมา เราอาจจะเข้าทุกจุดได้ไม่หมดเพราะเวลาไม่พอ เพราะอย่างก๊อตเองนั้น ยังเข้าได้แค่สองที่คือ ถนนตลาดซูโจว (Suzhou Market Street) และ หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) หลังจากนั้นเวลาก็หมด อดเข้าที่อื่นๆ แล้ว 

  • 🎫 ซื้อบัตร พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) [ผ่าน Klook] / [ผ่าน Trip.com]

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับประวัติของ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘อี๋เหอหยวน’ มีประวัติศาสตร์มากกว่า 800 ปี ตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์จิ๋น โดยเริ่มจากการที่พื้นที่แห่งนี้มีทิวทัศน์สวยงาม และตั้งอยู่ไม่ไกลจากปักกิ่ง (Beijing) จากนั้นที่นี้ก็ถูกเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงได้มาพักผ่อนหย่อนใจ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1750 ที่จักรพรรดิเฉียนหลง ได้สร้างพื้นที่แห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นโดยการขุดทะเลสาบเพิ่ม (ทะเลสาบคุณหมิง / Kunming Lake) และนำดินนั้นมาถมเป็นเขาวั่นโซ่วซัน (Wengshan Hill / 万寿山) ที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘ภูเขาหมื่นปี’ ที่สูงตระหง่านและเป็นที่ตั้งของพระราชวังและสวนต่างๆ นั้น เลยส่งผลให้ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) เป็นที่รู้จักและเลื่องลือขึ้นมานั่นเอง

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

แต่พอเวลาผ่านมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1860 ช่วงที่ชาติตะวันตกได้เข้ามารุกรานประเทศจีน ทหารพันธมิตรอังกฤษ-ฝรั่งเศส ได้เข้ามาเผาทำลายพระราชวังแห่งนี้ จนทำให้พระราชวังได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1866 พระนางซูสีไทเฮาได้รับสั่งให้บูรณะพระราชวังขึ้นมาใหม่ แต่ก็โดนเผาทำลายอีกรอบจากกองกำลังทหารจากมหาอำนาจจักรวรรดินิยมในปี ค.ศ. 1900 ภายหลัง 3 ปี พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ได้ถูกบูรณะอีกครั้ง และได้มาสิ้นสุดประวัติศาสตร์จากการปฏิวัติซินไฮ่ และการล่มสลายของราชวงศ์ชิง จนในที่สุด จีนได้ประกาศให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะ และ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในเวลาต่อมา เห็นแบบนี้แล้ว พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในจีนที่ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มาอย่างโชกโชนเหมือนกันนะ

ถนนตลาดซูโจว (Suzhou Market Street) 

สำหรับการเดินเที่ยว พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) นั้น หลังจากที่ก๊อตเดินเข้าประตูทิศเหนือมา สถานที่แรกที่แวะนั่นคือ ถนนตลาดซูโจว (Suzhou Market Street) ที่เค้าสร้างจำลองถนนค้าขายในเมืองซูโจว ก๊อตจะบอกว่าที่นี่ถ่ายรูปสวยมากก มีความสวยงาราวมกับตลาดแบบจีนที่อาจจะไม่เก่าแก่ดั้งเดิมเหมือนเป๊ะๆ อย่างในสมัยก่อน แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วคือดีย์ทุกมุม ให้มู้ดเหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเลยทีเดียว

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะงงว่า ทำไมถึงมี ถนนตลาดซูโจว (Suzhou Market Street) อยู่ใน พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ด้วยเรื่องราวมันมีอยู่ว่า ในอดีตเฉียนหลงฮ่องเต้ ได้เดินทางไกลไปยังเมืองซูโจว ทีนี้ฮ่องเต้ได้เจอแม่ชีนางหนึ่งที่สวยงามจนฮ่องเต้หลงเสน่ห์ และอยากพาแม่ชีกลับมายังปักกิ่งด้วย แต่มันจะดูผิดประเพณีซักหน่อยที่จะให้แม่ชีมาเป็นนางสนม ฮ่องเต้เลยสร้างวัดใหม่เพื่อแม่ชีโดยเฉพาะที่ปักกิ่ง เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ไปหาได้สะดวก แต่พอเวลาผ่านไป แม่ชีเกิดความคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ฮ่องเต้เลยสร้าง ถนนตลาดซูโจว (Suzhou Market Street) ขึ้นมาใหม่ใกล้วัง และพาแม่ชีมาเซอร์ไพรส์ที่นี่ ประหนึ่งได้กลับมาเยือนบ้านเกิดให้หายคิดถึงนั่นเอง 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

วัดทิเบตสี่แผ่นดิน (Four Great Regions)

มาที่ วัดทิเบตสี่แผ่นดิน (Four Great Regions) ใน พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ที่ถือเป็นสถานที่สไตล์พุทธทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปักกิ่ง (Beijing) แล้ว ความเจ๋งของวัดทิเบตนี้คือ ฝั่งทางทิศเหนือจะเป็นตึกสไตล์ทิเบต ส่วนฝั่งทางทิศใต้จะเป็นตึกสไตล์ฮั่น ใครที่มาตามรอย ก๊อตอยากให้ลองสังเกตกันดู ถือเป็นการสร้างที่เอาความต่างมารวมกันในพื้นที่เดียวได้แบบดีงามมาก จากวัดตรงนี้ ก๊อตจะเดินข้ามวัดทิเบตเพื่อไปยังจุดไฮไลท์ต่อไปนั่นคือ หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) เน้อ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) + วิหารไผหยุน (The Hall of Dispelling Clouds) 

หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) แทบจะเป็นสัญลักษณ์ของ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ไปแล้ว เพราะหอนี้เป็นหอที่ตั้งอยู่กลางเขาวั่นโซ่วซัน อีกทั้งยังสามารถมองเห็นได้เด่นชัด ไม่ว่าเราจะยืนอยู่มุมไหนของพระราชวัง โดยบริเวณด้านในของ หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) จะเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมพันมือบนฐานดอกบัว 999 กลีบ ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีอายุเกือบ 450 ปีแล้ว ถือเป็นองค์ที่มีความเก่าแก่มากที่สุดอีกองค์ในจีนเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับวิวที่สวยที่สุดของ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ส่วนตัวก๊อตยกให้กับบริเวณด้านหน้าประตูรั้ว หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) คือเราสามารถมองเห็นทะเลสาบคุณหมิงได้ไกลสุดลูกหูลูกตามากกกก อันนี้ก๊อตเดินเที่ยวแล้วประทับใจสุดๆ ดังนั้น ใครที่มาเที่ยวที่นี่แล้ว หากเราไม่เข้ามาชม หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) ก๊อตบอกเลยว่าพลาดสุดๆ โดยค่าเข้านั้นถูกมาก เพียงคนละ 10 หยวน (~46 บาท) เท่านั้น

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

เมื่อเราดูวิวจนอิ่มเอมใจแล้ว เดินลงบันไดมาด้านล่างตรงฐานของ หอฝอเซียง (Tower of Buddhist Incense) ตรงนี้เค้าจะเรียกว่า วิหารไผหยุน (The Hall of Dispelling Clouds) ที่แปลได้ว่า ‘เมฆที่ปลิวออกมา’ เปรียบเปรยว่าวิหารแห่งนี้สวยเว่อร์วังดุจวิหารบนสวรรค์นั่นเอง เค้าบอกกันว่า ที่นี่เคยใช้เป็นห้องบรรทมของพระนางซูสีไทเฮา แต่แล้วจู่ ๆ เมื่อพระนางย้ายเข้าไปก็เกิดประชวรโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยพระนางเชื่อว่าเราไม่ควรสร้างห้องบรรทมใกล้สถานที่เขตศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิมที่หอฝอเซียงมากเกินไป จากนั้นพระนางจึงย้ายห้องบรรทมไปส่วนอื่น และเปลี่ยนวิหารไผหยุนให้กลายมาเป็นที่จัดพิธีฉลองวันพระราชสมภพของพระนางแทน

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ทะเลสาบคุณหมิง (Kunming Lake)

ที่สุดท้ายของการเที่ยวพระราชวังฤดูร้อน นั่นคือ ทะเลสาบคุณหมิง (Kunming Lake) ที่เราจะเดินเล่นรอบทะเลสาบ รวมถึงดูวิวพระราชวังที่มีหอฝอเซียงตั้งตระหง่ายและเป็นมุมฮิตที่เราเห็นกันบ่อยๆ นั่นเอง เห็นทะเลสาบคุณหมิงกว้างใหญ่ขนาดนี้ เค้าเป็นทะเลสาบนี้มนุษย์สร้างขึ้นเองนา แถมยังมีความลึกแค่ 1.5 เมตร เท่านั้นเองนะ

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ส่วนตัวก๊อตแนะนำให้เราเดินเล่นมายังเกาะเล็กๆ ตรงข้ามกับพระราชวังได้เลย เมื่อเราเดินมาทางเกาะเล็กๆ นี้ เราจะได้ดื่มด่ำกับวิวของรูปปั้นวัวสำริดสุดยิ่งใหญ่ พาวิลเลี่ยนอันงดงาม สะพานหินอ่อนที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เลอค่า ท่ามกลางวิวสวยๆ ของพระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ที่ห้อมล้อมไปด้วยสายน้ำที่ก๊อตมาทันช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกตรงนี้พอดี บอกเลยว่าผิวน้ำของทะเลสาบนั้น ระยิบระยับเปล่งแสงพร่างพราวไปทั่วบริเวณ เป็นวิวที่โคตรสวย ถือเป็นการจบการทัวร์พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ได้แบบคอมพลีทสุด

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street)

ปิดท้ายด้วยการพามาช้อปปิ้งในถนนอีกสายที่ป๊อบไม่แพ้กัน นั่นคือ ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street) ซึ่งอยู่ติดกับ หอประตูเฉียนเหมิน (Qianmen Gate Tower) ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) นั่นเอง ซึ่งเรามาได้ไม่ยาก สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 มาลงที่สถานีเฉียนเหมิน (Qianmen Station) ได้เลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ถ้าให้ก๊อตพูดว่า ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street) หลักๆ เลยเค้าก็คือ ถนนช้อปปิ้งนั่นแหละ ซึ่งถ้าใครยังไม่สะใจกับการเดินช้อปปิ้งที่ ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) แนะนำให้มาที่นี่กันต่อได้เลย ส่วนตัวก๊อตแล้ว นี่คิดว่า ถ้าอยากช้อปปิ้งแบบจริงจังโดยเฉพาะแฟชั้่น ก๊ฮตแนะนำให้ไปช้อปที่ถนนคนเดินหวังฝูจิ่งจะดีกว่า เพราะของที่นั่นเยอะกว่า รวมถึงมีแบรนด์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่าอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากได้ฟีลความเป็นเมืองเก่าที่อบอวลไปด้วยตึกรามบ้านช่องในสมัยราชวงศ์ชิงล่ะก็ ถนนเฉียนเหมิน (Qianmen Street) มาแล้วไม่ผิดหวัง เพราะเหมือนเราหลุดเข้าไปในตลาดสมัยโบราณที่ขายข้าวของแบบจีนจัดๆ ตั้งแต่ของฝาก ของกิน และของใช้ ไปจนถึงลูกประคำยังมีเลย ใครหาของฝากแบบจีนตะโกน แนะนำมาช้อปที่นี่ได้เลย ส่วนใครที่เวลาเหลือจะเดินมันทั้งสองถนนก็ได้จ๊า

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ตัวก๊อตเองมาที่นี่ เน้นเดินเล่นและชมบ้านชมเมืองมากกว่า ด้วยความที่มาค่ำๆ แล้ว หลายร้านก็เริ่มปิดแล้วล่ะ แต่มันจะมีบางซอยจากถนนใหญ่ ที่ก๊อตไปพบเจอมาคือ ถนนต้าชือหลาน (Dashilan Commercial Street) เราสามารถเดินเข้าไปและพบอีกโลกนึงที่เต็มไปด้วยร้านค้าและสตรีทฟู๊ด คนคือเยอะและพรึ่บพรั่บมาก นี่ก็เดินเล่นต่อและหาของกินไปเล้ย ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวถนนเฉียนเหมินแล้ว อย่าลืมมาแวะตรงนี้ด้วยนะ

Go to top

ที่พักในปักกิ่ง (Beijing)
Howard Johnson Paragon Hotel Beijing

ต้องบอกก่อนคือ โรงแรมในปักกิ่งถือว่าราคาสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โดยโรงแรมที่ก๊อตเลือกนั้น ถือว่าเป็นโรงแรมที่ราคาไม่แรง และถือว่าโอเคใช้ได้เลย ซึ่งที่แรกคือ Howard Johnson Paragon Hotel ที่เหมือนเป็นโรงแรมเก่าแก่ของปักกิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟปักกิ่ง (Beijing Railway Station) และยังติดกับสถานีรถไฟใต้ดินอีกด้วย ซึ่งทำเลถือว่าไม่แย่เลยนะเว้ย แถวๆ หน้าโรงแรมมีทั้ง KFC และ Mr. Lee (ที่โลโก้เป็นรูปลุงลี) รวมถึงมีซุปเปอร์มาร์เก็ตอีก 2-3 ร้านอีกด้วย พวกนี้คือสิ่งสำคัญในการเลือกโรงแรมนี่เลย เพราะเชื่อมั่นได้เลยว่า เราไม่อดตายแน่นอน 55555555

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ส่วนเรื่องของโรงแรมและตัวห้องพักของ Howard Johnson Paragon Hotel Beijing นั้น ต้องบอกจากใจจริงว่ามันเก่าหน่อยๆ แต่มันจะเก่าในสไตล์โรงแรมที่เคยหรูมาก่อน ไม่ได้เก่าแบบน่ากลัวขนลุก และถ้าถามว่าดีมั้ย ส่วนตัวก๊อตว่ามันคุ้มค่า คุ้มราคา ห้องใหญ่โต เตียงนอนสบาย ซึ่งพวกสิ่งอำนวยความสะดวกเค้าก็ครบครันเลย ถือว่ามาพักได้สบายๆ หากใครขี้เกียจหาโรงแรมเอง ที่นี่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน 

Go to top

Bolly Wood Hotel

โรงแรมสุดท้ายที่เรานอนกันใน Bolly Wood Hotel โรงแรมระดับ 3 ดาวที่มาในราคาเป็นมิตรแต่คุณภาพและการบริการเริ่ดมาก โดยที่นี่เป็นโรงแรมที่มีห้องพักทั้งหมด 86 ห้อง แถมยังตั้งอยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) ในระยะเดินถึงได้แบบชิลๆ อีกด้วย ใครที่อยากพักท่ามกลางย่านคึกคักๆ ก๊อตแนะนำที่นี่เลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

โดยโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ภายในมีห้องพักหลายไทป์ให้ได้เลือกเข้าพัก ซึ่งก๊อตพักเป็นห้องแบบ Featured Room ที่มาพร้อมกับเตียงนอน 2 เตียง และของอำนวยความสะดวกครบ ทั้งบาร์น้ำเล็กๆ ตู้เย็น ทีวี เครื่งปรับอากาศ ไปจนถึง Wi-fi ฟรีอีกด้วย ส่วนห้องน้ำแยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน ด้านในมีไดร์เป่าผมให้ใช้งานตามปกติเลย 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ส่วนอาหารเช้านั้น ที่นี่จะมีห้องอาหารให้เราได้มาฝากท้องกันด้วย โดยรายการอาหารจะเป็นอาหารจีนส่วนใหญ่ แต่ก็มีไข่ดาว ผักสด ผลไม้ รวมไปถึงเครื่องดื่ม ซีเรียลให้ได้เลือกกินร่วมด้วย โดยรวมคือประหยัดมื้อเช้าไปได้เลยล่ะ ซึ่งใครที่กำลังมองหาโรงแรมราคาไม่แรงมาก แถมยังไปไหนมาไหนสะดวก เข้าพักที่นี่บอกเลยว่าตอบโจทย์และคุ้มค่าเกินราคามาก

Go to top

The Universal Studios Grand Hotel

มากันที่โรงแรม The Universal Studios Grand Hotel สุดลักชูที่ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้า ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)  กันเลยทีเดียว ซึ่งเค้าได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากความสง่างามและคลาสสิกในยุคทองของฮอลลีวู้ดช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 โดยมีสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคและการตกแต่งภายในที่อิงไปตามหนังของยูนิเวอร์แซลนั่นเอง 

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

บรรยากาศของ The Universal Studios Grand Hotel เริ่มจากบริเวณด้านหน้าของโรงแรมที่มีน้ำพุตั้งเด่นสง่ามาแต่ไกล ท่ามกลางพื้นที่รอบๆ ที่เป็นแปลงกุหลาบหลากสีสันชวนให้รู้สึกชุ่มฉ่ำกันตั้งแต่ก้าวเท้าลงมาจากรถ พอเดินเข้ามาด้านในจะเป็นโซนของล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ในดีไซน์และโทนสีสุภาพทว่าคลาสสิกสุดๆ ส่วนตามผนังของโรงแรมจะมีงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ โปสเตอร์ภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และองค์ประกอบของสตูดิโอภาพยนตร์ที่ประดับประดาเอาไว้ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ท่องไปยังโลกของภาพยนตร์ อย่างกับเดินอยู่ในยุคทองของฮอลลีวู้ดที่ดูฟู่ฟ่าไปหมด

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

สำหรับห้องพักของ The Universal Studios Grand Hotel เค้ามีไทป์ห้องให้เลือกเยอะมาก อีกทั้งยังมีห้องที่แต่งตามธีมหนังของเค้า ไม่ว่าจะเป็นห้องธีมมินเนี่ยน หรือธีมกังฟูแพนด้าอยู่ด้วย แต่ที่ก๊อตนอนจะเป็นห้องแบบ ‘ดีลักซ์เตียงแฝด 2 เตียง มีหน้าต่าง’ ที่รวมอาหารเช้ามาเรียบร้อย ภายในห้องขนาด 30 ตารางเมตร มาพร้อมหน้าต่างที่มองออกไปเห็นวิวของปาร์คและเครื่องเล่นได้แบบกรุบกริบ มีเตียงนอนหนานุ่มไซซ์ใหญ่ 2 เตียง ที่ก๊อตพิสูจน์แล้วว่านอนหลับสบายมาก ส่วนตามมุมห้องตกแต่งด้วยโปสเตอร์หนังชื่อดังตามคอนเซ็ปต์ของโรงแรม และที่น่ารักเลยคือเค้ามีมาการองลายการ์ตูนน่ารักๆ และถ้วยใส่ผลไม้สดต้อนรับเราอีกด้วย ในส่วนของห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและแห้งออกจากกันชัดเจน โดยกั้นกลางเอาไว้ด้วยมุมล้างหน้าขนาดกำลังดี ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้งของใช้ในห้องน้ำ ตู้เย็นเล็ก เครื่องปรับอากาศ มินิบาร์ ไปจนถึง wi-fi ฟรีอีกด้วย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค  รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

และที่ก๊อตชอบมากคืออาหารเช้าของเค้า เพราะที่ The Universal Studios Grand Hotel อาหารเช้าละลานตาเว่อร์ โดยห้องอาหารของที่นี่ชื่อว่า The Lotus Garden ภายในเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับบ้านที่มาพักกันเป็นครอบครัวมาก ซึ่งเมนูอาหารจะถูกตั้งรวมเอาไว้ตรงกลางของห้อง และที่ก๊อตบอกว่าอาหารเค้าละลานตา อันนี้ไม่เกินจริง เพราะมีครบทั้งอาหารจีน อาหารฝรั่ง ไปจนถึงบาร์เครื่องดื่มเลย

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

ทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงคิดว่าโรงแรมเค้าเริ่ดมากแล้วใช่ไหม แต่ยังมีอีก เพราะใครที่เข้าพักใน The Universal Studios Grand Hotel จะได้รับสิทธิพิเศษเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการได้ถ่ายรูปกับตัวละครที่จะมารอเราในห้องอาหารตั้งแต่เช้าตรู่ สิทธิ์ในการซื้อสินค้าที่สโตร์ด้านล่างของโรงแรม รวมไปถึงยังได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าสวนสนุกก่อนเวลาถึง 1 ชั่วโมงผ่านทางทางเข้า Universal Studios Beijing VIP Experience อีกด้วย ก๊อตบอกเลยว่าการเข้าพักที่ The Universal Studios Grand Hotel เป็นอะไรที่สุขใจและสะดวกสบายสุดๆ แล้ว

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 

Go to top

สรุปการมาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) 

ทั้งหมดนี้คือการมาเที่ยว ปักกิ่ง (Beijing) ทั้งหมดของก๊อตเลย ใครมาเที่ยวจีนแล้วอยากมาเยือนเมืองหลวงของเค้า ก๊อตแนะนำว่าให้มาตามรอยแพลนนี้ได้ เพราะทุกที่ที่ก๊อตไปมานั้น เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกแลนด์มาร์คในเมืองเค้าเลย คือครบเครื่องสุดๆ แล้ว ซึ่งความประทับใจของก๊อตที่มีต่อ ปักกิ่ง (Beijing) เลยก็คือไวบ์ของเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์สถานที่สำคัญๆ เอาไว้ได้อย่างงดงาม เมืองจะไม่ได้ฟู่ฟ่าเหมือนเซี่ยงไฮ้ แต่มันมีเอกลักษณ์และกลมกล่อมในแบบที่ไม่เหมือนใคร เอาเป็นว่าใครชอบเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยแหล่งมรดกโลกต่างๆ ปักหมุดมาเยือน ปักกิ่ง (Beijing) คือใจฟูกลับไทยแน่นอน 

Go to top

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025

⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
>
  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)

รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
รีวิว ปักกิ่ง (Beijing) x จีน เที่ยวครบเก็บทุกแลนด์มาร์ค 
Related Topics
  • จีน
  • ปักกิ่ง
  • รีวิวต่างประเทศ
Related Stories
รีวิว หางโจว (Hangzhou) x จีน เที่ยวเมืองสรวงสวรรค์บนดิน 
Read
  • China
  • Hangzhou

รีวิว หางโจว (Hangzhou) x จีน เที่ยวเมืองสรวงสวรรค์บนดิน 

  • 07/06/2025
ที่พักหางโจว (Hangzhou): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Hangzhou
  • List

ที่พักหางโจว (Hangzhou): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 18/05/2025
รีวิว ซูโจว (Suzhou) x จีน เที่ยวเมืองโบราณเวนิสตะวันออก
Read
  • Suzhou

รีวิว ซูโจว (Suzhou) x จีน เที่ยวเมืองโบราณเวนิสตะวันออก

  • 07/05/2025
ที่พักปักกิ่ง (Beijing): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Beijing
  • List

ที่พักปักกิ่ง (Beijing): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 01/05/2025
รีวิว กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Badaling Great Wall) x จีน 
Read
  • Beijing

รีวิว กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Badaling Great Wall) x จีน 

  • 25/03/2025
รีวิว Toy Story Hotel x เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์
Read
  • Shanghai

รีวิว Toy Story Hotel x เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์

  • 10/03/2025
รีวิว Shanghai Disneyland Hotel x เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์
Read
  • Shanghai

รีวิว Shanghai Disneyland Hotel x เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์

  • 10/03/2025
รีวิว Universal Studios Beijing ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง (อัปเดตปี 2025)
Read
  • Beijing

รีวิว Universal Studios Beijing ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง (อัปเดตปี 2025)

  • 20/02/2025
4 comments
  1. Jojo พูดว่า:
    18/12/2019 เวลา 8:00 PM

    โม้เยอะ แต่ไม่บอกวิธีการเดินทาง หอยมาก..ก

    ตอบกลับ
    1. Hashcorner พูดว่า:
      19/12/2019 เวลา 11:27 PM

      ในนี้มีบอกเกือบทะกสถานที่นะครับ หรือลองช่วยเหลือตัวเองนะครับ แอพแผนที่มีเยอะแยะ กูเกิ้ลแมพก็พึ่งได้อยู่บ้าง แอพแผนที่จีนก็มี หรือไม่ก็ลองหารีวิวอื่นดูได้จ้า 🙂

      ตอบกลับ
  2. มายด์ พูดว่า:
    23/12/2019 เวลา 9:23 AM

    ไม่ทราบว่าพอแนะนำ ค่าเข้าชมได้มั้ยคะ และถ้าปักกิ่งเทียนจิน 8วัน ควรเตรียมเงินไปสักเท่าไหร่คะ เน้นเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ งานสถาปัตย์เยอะ อาจเดินทางเทียวไปมาเยอะ ไม่เน้นซื้อของค่ะ อาหารข้างทางเราโอเค ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบกลับ

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Review Subscription

สมัครรับรีวิวใหม่ล่าสุดก่อนใคร ผ่านทางอีเมล์

บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์

Hashcorner (แฮชคอร์เนอร์) คือ บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว + ไลฟ์สไตล์ ที่เน้นการเที่ยวต่างประเทศและในประเทศด้วยตัวเอง โดยเรื่องเล่าของเขาเน้นการนำประสบการณ์การท่องเที่ยวมาเล่าในมุมมองที่สนุกสนานผ่านตัวหนังสือและรูปถ่ายที่คนอ่านสามารถตามรอยการท่องเที่ยวได้จริง

Contact / Collaboration

Email: phakhawat@hashcorner.com
Tel: +66 61 632 4446

สมัครงานกับ HASHCORNER

หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ ฝีมือดี มีใจรักการท่องเที่ยว และอยากลองจอยทีมและลุยไปด้วยกัน ลองสมัครเข้ามากันได้เลย!

Input your search keywords and press Enter.