ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) หรือเรียกสั้นๆ ว่า UBR เป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์แห่งที่ 5 ของโลก และแห่งที่ 3 ในเอเชีย อีกทั้งยังเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มาพร้อมความพิเศษอย่างโซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness โซนสุดพิเศษที่มีเฉพาะที่ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกเท่านั้น โดยโซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแอนิเมชันยอดนิยมอย่าง Kung Fu Panda ที่ใครอยากลองไปเป็น ‘โป’ นักรบมังกรผู้เก่งกาจแล้วร่ำเรียนวิชากังฟูในพระราชวังหยก โซนนี้เค้าสานฝันเราให้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโซนสุดป๊อบที่ใครมาเที่ยว UBR ต้องพุ่งตัวมาถ่ายรูปเป็นอย่างแรกเลยก็คือ The Wizarding World of Harry Potter™ โซนที่เราจะได้หลุดเข้าไปในโลกมหัศจรรย์ของแม่มด พ่อมด และสิ่งมีชีวิตสุดวิเศษ ที่ใครเป็นสาวกของหนังเรื่อง แฮรี่พอตเตอร์ บอกเลยว่ามาแล้วใจฟูสุดๆ เพราะเค้าจำลองหมู่บ้านฮอกส์มีด (Hogsmeade Village), รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ (The Hogwarts Express) และปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) มาได้แบบสมจริงเลย
สุดท้าย ที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับใครที่เป็นสายรถไฟเหาะที่รักในความหวาดเสียว ที่นี่เค้ามีเครื่องเล่น Decepticoaster รถไฟเหาะความเร็วสูงที่ตั้งอยู่ในโซน Transformers Metrobase ให้ได้มาเปล่งเสียงกรี๊ดกันอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดที่ก๊อตเกริ่นมานี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มที่เอามาเรียกน้ำย่อยทุกคนเท่านั้น เพราะรีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปเล่นเครื่องเล่นและสำรวจ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) กันแบบจัดเต็ม ระดับที่ว่าอ่านจบแล้วทุกคนสามารถมาเที่ยวตามได้เลย ฟีลเหมือนมีก๊อตจับมือเที่ยวแล้ว
สารบัญรีวิว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
เนื่องจากรีวิว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) หน้านี้คือละเอียดยิบมาก ก๊อตเลยแบ่งซอยย่อยออกเป็นหัวข้อเพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านง่ายขึ้น ใครอยากอ่านหัวข้อไหนก่อน หรืออยากคลิกอ่านเครื่องเล่นก่อนเลย สามารถจิ้มด้านล่างได้เลยนะครับ จะได้ไม่ต้องลากเมาส์ให้เมื่อยตุ้มนา
- รู้จักกับยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
- ซื้อบัตรสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ที่ไหนดี และเค้ามีแบบไหนบ้าง?
- บัตร Express Pass
- ทริคและการวางแผนเที่ยวยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- วิธีการมา ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
- เครื่องเล่นห้ามพลาดของยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
- โซน The Wizarding World of Harry Potter™
- โซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness
- โซน Transformers Metrobase
- โซน Minion Land
- โซน Jurassic World Isla Nublar
- โซน Water World
- โซน Hollywood
- The Universal Studios Grand Hotel
รู้จักกับยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง (Beijing) ของประเทศจีน ที่นี่ถือเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแห่งที่ 5 ของโลก และแห่งที่ 3 ในเอเชีย โดยสวนสนุกแห่งนี้เป็นโครงการที่มีการพูดคุยหารือระหว่าง ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ และนักพัฒนาชาวจีนมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2001 แต่กว่าจะได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนวันเวลาก็ล่วงเลยจนเข้าสู่ปี ค.ศ. 2014 และได้เริ่มสร้าง ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) จริงๆ เมื่อปี ค.ศ. 2016 ด้วยงบประมาณในการก่อสร้างกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท ภายใต้การออกแบบที่ผสมผสานความธีมภาพยนตร์ต่างๆ ของยูนิเวอร์แซลเข้ากับวัฒนธรรมและอิทธิพลของจีน
โดย ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ใช้เวลาการสร้างกว่า 5 ปี ก่อนจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 กันยายน ปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา พร้อมขึ้นแท่นเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ ภายในถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซน คือ The Wizarding World of Harry Potter, Transformers Metrobase, Hollywood, WaterWorld, Minion Land และ Jurassic World Isla Nublar และ Kung Fu Panda Land of Awesomeness ซึ่งโซนพิเศษที่มีเฉพาะ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) เท่านั้น โดยเป็นโซนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมจีนและแฟรนไชส์แอนิเมชันสุดฮิตอย่าง ’Kung Fu Panda’ นั่นเอง
นอกจากนี้ที่ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ‘Universal CityWalk Beijing’ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า ร้านอาหาร และความบันเทิงขนาดเท่าเมืองย่อมๆ ที่ตั้งอยู่ด้านนอกของสวนสนุก ข้างในเต็มไปด้วยร้านรวงมากมายที่อยู่ภายใต้อาคารสถาปัตยกรรมแบบจีนที่ผสมผสานเข้ากับความนาชาติได้อย่างทันสมัยและลงตัว เหมือนเป็นอีกเมืองที่ผุดขึ้นมาให้เราได้แวะมากินมื้อหนักๆ เพราะเค้ามีร้านอาหารชื่อดังอยู่หลายร้าน ทั้งชาบู หมาล่า อาหารจีน รวมไปถึงยังมีคาเฟ่ และโรงงานช็อกโกแลตจาก ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) เปิดให้บริการอีกด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งผลให้ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ฮอตฮิตและกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงอันดับต้นๆ ของจีน ซึ่งในแต่ละปีที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้หลักล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งแม้ว่าเค้าจะป๊อบมากขนาดนี้ แต่ทางสวนสนุกก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เพราะเค้ายังคงเพิ่มพื้นที่และเครื่องเล่น รวมถึงประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้คนที่มาเยือนอยู่เสมอ จนเรียกได้ว่า ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) เป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวที่สำคัญของปักกิ่งไปเป็นที่เรียบร้อย
ซื้อบัตรสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ที่ไหนดี และเค้ามีแบบไหนบ้าง?
สำหรับใครที่มีแพลนมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) และกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อบัตรเข้าสวนสนุกผ่านทางไหนดี ก่อนอื่นที่ทุกคนต้องรู้ก่อนเลยก็คือ บัตรเข้าสวนสนุก UBR จะมีขายกันอยู่หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นบัตรแบบ 1 วัน, 1.5 วัน และ 2 วัน ซึ่งจำนวนวันเหล่านี้คือระยะเวลาที่เราสามารถใช้บัตรเข้าไปเล่นภายในสวนสนุกได้นั่นเอง
สำหรับช่องทางการซื้อบัตรสวนสนุก UBR เราสามารถซื้อได้หลายทาง แต่ที่ก๊อตแนะนำเลยคือให้ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook ซึ่งเป็นวิธีการที่ก๊อตเลือกใช้แทบทุกครั้งที่ไปเที่ยวสวนสนุกมาแล้วจากทั่วโลก เพราะสะดวกสบาย จองได้เลยผ่านเว็บหรือแอพ โดยมีหน้าเว็บภาษาไทยที่ใช้งานง่ายอีกด้วย มากไปกว่านั้นการซื้อบัตรผ่านเว็บ OTAs เรายังได้บัตรมาในราคาที่ดีงาม ไม่ต้องกังวลว่าบัตรจะเต็มหรือต้องไปเสียเวลาต่อคิวซื้อหน้างานอีกด้วย
ประเภทบัตรสวนสนุกยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
🎫 บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) มีให้เลือกตั้งแต่ 1, 1.5 และ 2 วัน [คลิกซื้อผ่าน Klook]
- บัตรเข้าสวนสนุกที่เราสามารถเล่นได้ทุกเครื่องเล่นเอาไว้แล้ว โดยเค้าจะจำนวนวันให้เราเลือกเลยตั้งแต่ 1-2 วัน โดยบัตรเข้าสวนสนุกแบบ 1.5 วัน เราจะสามารถเข้าสวนสนุกได้หลังจากเวลา 14:00 น. ของวันแรกที่จองไว้ และกลับเข้าสวนสนุกอีกครั้งในวันถัดไปได้ในช่วงเวลาทำการปกติ ส่วนบัตรแบบ 2 วัน จะเป็นการเข้าสวนสนุก 2 ครั้งภายใน 7 วัน
ส่วนลด 1,000 บาท
หมดอายุ: 11-11-2024
หมดอายุ: 11-11-2024
ทริคและการวางแผนเที่ยวยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าจาก Klook มาก่อนได้เลย เพราะเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตรหน้างาน
- ถ้าตั้งใจว่ามาแล้วอยากจะเล่นเครื่องเล่นให้ครบทุกเครื่องนั้น รวมถึงเงินเหลือๆ หน่อย ก๊อตแนะนำให้ซื้อบัตร Express Pass ไปเลย บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก
- อย่าลืมโหลดแอป Universal Beijing Resort เพราะแอปเดียวช่วยชีวิตเราตอนที่อยู่สวนสนุกได้เยอะมาก
- สามารถดูเเผนที่สวนสนุกทั้งหมดได้ผ่านเเอป โดยในแอปมันจะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของสวนสนุก รวมถึงเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นใช้เวลาต่อแถวเข้าเล่นกี่นาที
- ใช้ดูแผนที่เครื่องเล่น และโซนต่างๆ ในสวนสนุกได้ รวมถึงรู้ว่าเครื่องเล่นไหนปิดบ้าง
- ใช้ดูว่าเวลาโชว์พาเหรดและโชว์การแสดงต่างๆ ว่าเค้ามีกี่โมง
- ให้มาถึงสวนสนุกในเวลาเช้าที่สุดเท่าที่จะมาได้ ยิ่งใครมาตั้งแต่สวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก เพราะเครื่องเล่นฮิตคนจะยังต่อแถวไม่เยอะ และแน่นอนว่าเราจะมีเวลามากพอในการรอเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้นเยอะม๊าก
- เข้ามาภายในสวนสนุกแล้ว แนะนำว่าให้รีบพุ่งตัวไปเล่นเครื่องเล่นฮิตได้เลย เพราะไม่เช่นนั้นเราจะรอคิวนานมาก หรือถ้าใครที่อยากมาถ่ายรูปสวยในโซน The Wizarding World of Harry Potter แบบไม่มีคน แนะนำให้วิ่งมาที่นี่ก่อนได้เลย
วิธีการเดินทางมา ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
1. รถไฟใต้ดิน (⭐️⭐️แนะนำ): การเดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีที่ก๊อตแนะนำมากที่สุดสำหรับไปเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) แล้ว โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับสวนสนุก UBR มากที่สุดคือสถานียูนิเวอร์แซล รีสอร์ท (Universal Resort Station) โดยเราสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีใกล้ที่พักของทุกคนในปักกิ่งได้เลย สำหรับสายรถไฟนั้นจะมีตามนี้เลย
สถานียูนิเวอร์แซล รีสอร์ท (Universal Resort Station) : ให้ขึ้นรถไฟสาย 1 (สีแดง) หรือ สาย 7 (สีเหลือง) มาลงที่สถานี สถานียูนิเวอร์แซล รีสอร์ท (Universal Resort Station) แล้วเดินออกทางประตู A/B/C
เครื่องเล่นห้ามพลาดของยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดใน ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) นั้น จริงๆ อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย แต่ถ้าให้ก๊อตเลือกเครื่องเล่นที่ก๊อตชอบมาล่ะก็ ก๊อตจะขอแยกออกเป็น 3 แบบ โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มเล่นเครื่องไหนก่อนดี ลองเลือกดูตามตารางด้านล่างนี้ให้เข้ากับความชอบของตัวเองได้เลย
เหตุผลที่ห้ามพลาด | เครื่องเล่นห้ามพลาดใน ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | – Decepticoaster |
เครื่องเล่นตื่นตาตื่นใจ เน้นประสบการณ์ | – Harry Potter and the Forbidden Journey™ – Despicable Me Minion Mayhem – Jurassic World Adventure |
มีที่เดียวในโลก เฉพาะที่ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) | – Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior – Jurassic World Adventure |
มาเริ่มเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) กันเล้ย
โซน The Wizarding World of Harry Potter™
เหล่ามักเกิ้ลทั้งหลาย โซนแรกที่ควรพุ่งตัวมาก่อนใครเมื่อปาร์คเปิดเลยก็คือ The Wizarding World of Harry Potter™ โซนที่เราจะได้หลุดเข้าไปในโลกมหัศจรรย์ของแม่มด พ่อมด และสิ่งมีชีวิตสุดวิเศษ ผ่านหมู่บ้านฮอกส์มีด (Hogsmeade Village) ที่ภายในคราคร่ำไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ของเหล่าบรรดาผู้วิเศษ หรือจะเป็นรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ (The Hogwarts Express) ที่ยกกันมาตั้งให้ได้เห็นกันแบบใกล้ชิด ไปจนถึงไฮไลท์หลักอย่างปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) ที่สมจริงราวกับก๊อตได้หลุดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในหนังแฮรี่ พอตเตอร์ กันเลยทีเดียว
หลังจากเราเดินพ้นแนวป่าสนเข้ามายัง โซน The Wizarding World of Harry Potter™ สิ่งแรกที่เห็นเลยก็คือ รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ (The Hogwarts Express) ขนาดใหญ่ที่จอดอยู่สถานีรถไฟในหมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade Village) ที่ทอดยาวเข้าไปหาตัวปราสาทที่อยู่ด้านใน โดยหมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade Village) นี้ ถือเป็นหมู่บ้านแห่งเดียวในอังกฤษที่มีพ่อมดแม่มดอาศัยอยู่และยังปราศจากมักเกิ้ล (หรือมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีสกิลเวทมนตร์) อีกด้วย บรรยากาศภายในนั้นจะเป็นบ้านเรือนที่ทำจากไม้มีหลังคาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะให้ความรู้สึกหนาวเย็นอยู่ตลอดทั้งปี ตามสองข้างทางเป็นร้านของเหล่าผู้วิเศษที่จะขายอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในฮอกวอตส์ แต่ข้างในจริงๆ จะเป็นร้านที่ขายของที่ระลึก สินค้าเกี่ยวกับแฮรี่ พอตเตอร์ ไปจนถึงร้านบัตเตอร์เบียร์เครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องแวะลิ้มลอง
หากใครที่อยากเล่นอะไรสนุกๆ ก๊อตแนะนำให้ลองซื้อไม้กายสิทธิ์กันก่อนได้เลย โดยไม้วิเศษนี้เราสามารถเอามาเล่นร่ายมนต์วาดคาถาไปบนอากาศในจุดต่างๆ ภายในโซน แล้วพวกข้าวของที่เห็นวางนิ่งๆ มันจะขยับยุกยิกไปมาได้ด้วยนะ เราสามารถเปิดดูในแอพของ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ได้เลยว่าจุดที่สามารถเล่นวาดคาถาได้อยู่ตรงไหนบ้าง เราจะได้ตามเก็บให้ครบทั้งหมด
สำหรับใครที่เดินทอดน่องส่องหมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade Village) จนหนำใจแล้ว ก๊อตมีอีกสองจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดในโซนนี้มาแนะนำเลยก็คือ บริเวณปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) หลังโตที่ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์มากที่สุดของโซนนี้เลยก็ว่าได้ โดยเค้าจะมีจุดสำหรับมายืนถ่ายรูปให้เห็นปราสาททั้งหลัง (อยู่ฝั่งซ้ายมือก่อนถึงปราสาท จะเป็นจุดเล็กๆ ที่อยู่ติดกับแม่น้ำ) ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าสนขนาดใหญ่ ซึ่งถ่ายรูปออกมาแล้วเว่อร์วังมาก ยิ่งใครแต่งตัวเป็นพ่อมดแม่มดมาด้วยนะ กิ๊บเก๋มาก
ส่วนอีกมุมที่ห้ามพลาดเลยก็คือ รถเหาะสีฟ้าสุดคลาสิก (Ford Anglia) ประจำตระกูลวีสลีย์ (Weasley) ที่ตกอยู่ในป่าต้องห้าม มุมนี้จะอยู่ถัดขึ้นมาจากจุดถ่ายวิวปราสาท ให้ทุกคนสังเกตดูพี่สาวชาวจีนที่พากันต่อแถวยาวๆ ได้เลย เราจะพบกับรถสีฟ้าที่ชนเข้ากับต้นไม้กลางป่า โดยมีฉากหลังเป็นปราสาทฮอกวอตส์ ซึ่งทั้งสองจุดนี้บอกเลยว่าเป็นมุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาดของโซน
เรียกได้ว่า The Wizarding World of Harry Potter™ เป็นโซนของเหล่าพ่อมดแม่มดที่หลงใหลในหนังเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ต้องมาเยือนกันสักครั้ง นอกจากจะเดินส่องบรรยากาศได้แบบเพลินๆ แล้ว ก๊อตบอกเลยว่าถ่ายรูปสวยทุกมุม เหมือนได้เป็นหนึ่งในผองเพื่อนของแฮรี่เลย
Harry Potter and the Forbidden Journey™
สำหรับเครื่องเล่นตัวท็อปในโซน The Wizarding World of Harry Potter™ จะเป็นเครื่องเล่นไหนไปไม่ได้ หากไม่ใช่ Harry Potter and the Forbidden Journey™ ที่ใครไม่ได้ซื้อ Express Pass มา ก๊อตบอกเลยว่า เครื่องเล่นนี้ต่อคิวยาวสะบัด ซึ่งก่อนที่เราจะได้เข้าเล่นนั้น เค้าจะให้เราเก็บสัมภาระทั้งหมดใส่ในล็อกเกอร์ก่อน จากนั้นเราจะได้เดินผ่านโถงกลางของปราสาทเข้าไปเรื่อยๆ ซึ่งระหว่างทางจะได้เจอกับพร๊อพมากมาย ทั้งกรอบรูปที่ตัวคนขยับได้ของเหล่าบุคคลสำคัญในฮอกวอตส์ที่ติดอยู่ตามบันไดวน ซึ่งคนในรูปจะมีการขยับท่าทางเหมือนพูดคุยกันอยู่จริงๆ นอกจากนี้ยังมีหมวกคัดสรรที่โคตรสมจริงตั้งอยู่บนแท่นวางที่ขยับยุกยิกส่งเสียงทักทายผู้คน ยังไม่หมดเท่านั้น เค้ายังมีห้องทำงานขนาดใหญ่ของดับเบิลดอร์ และฉากต่างๆ จากในหนังโผล่มาให้ได้ชมแบบละลานตามาก คือแม้ว่าเราจะใช้เวลาต่อแถวรอเล่นนาน แต่ระหว่างรอไม่มีเบื่อแน่นอน
สำหรับ Harry Potter and the Forbidden Journey™ เราจะได้ขึ้นไปนั่งบนยานที่เปรียบเสมือนเป็นไม้กวาดวิเศษ ที่พาเราท่องไปในโลกแห่งเวทมนตร์ของฮอกวอตส์ที่สมจริงด้วยเอฟเฟกต์แบบอัปเกรดสุดล้ำที่เราไม่ต้องใส่แว่นตา 3 มิติ ซึ่งการผจญภัยของเราก็จะได้ตัวละครหลักอย่างแฮรี่ เฮอร์ไมโอนี่ และรอน มานำพาเราบินว่อนเข้าไปในดินแดนแห่งเวทมนตร์ ทั้งการแข่งขันควิดดิชสุดมันส์ บินอยู่เหนือปราสาทฮอกวอตส์ รวมถึงไปเจอเข้ากับเหล่าผู้คุมวิญญาณสุดน่าสะพรึงกลัว ที่สมจริงด้วยฉากและพร๊อพแบบที่บินโฉบหัวเราไปมา จนหลบกันแทบไม่ทัน
โดยรวมแล้ว Harry Potter and the Forbidden Journey™ เป็นอีกเครื่องเล่นที่ก๊อตแนะนำว่ามาถึงยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) แล้วยังไงก็ต้องมาเล่น เพราะมันเป็นเครื่องเล่นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เอฟเฟกต์ด้านในคือสมจริงตระการตามาก พร๊อพก็เล่นใหญ่ทำถึงสุดๆ ใครที่อยากเข้าไปผจญภัยในโลกเวทย์มนต์ของแฮรี่และผองเพื่อน ที่ครบรสทั้งทั้งความตื่นเต้น หวาดเสียว และสนุกโคตรๆ การมาต่อคิวรอเครื่องเล่นนี้ ก๊อตบอกเลยว่ามันคุ้มค่ามาก
Flight of the Hippogriff™
ใครอยากพักเสียง ชมวิวปราสาทฮอกวอตส์จากอีกมุมที่เริ่ดไม่แพ้กัน ให้มาต่อคิวเล่น Flight of the Hippogriff™ รถไฟเหาะแบบซอฟท์ๆ ที่เราจะได้บินว่อนไปบนอากาศกับฮิปโปกริฟฟ์ สัตว์พิเศษในหนังแฮรี่ พอตเตอร์ ที่มีหัวเป็นนกอินทรียักษ์ ส่วนบริเวณลำตัวเป็นม้า โดยจะเป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะน่ารักๆ ที่บินโฉบขึ้นลงไปมาท่ามกลางป่าต้องห้าม แปลงฟักทองบนกระท่อมของแฮกริด ที่ส่วนตัวก๊อตคิดว่าเด็กๆ มาเล่นน่าจะชอบ เพราะจังหวะบินว่อนของเค้าไม่ได้เร็วมากนัก ฟีลเหมือนพาเรานั่งชมปราสาทที่อยู่ใกล้ๆ และโซน The Wizarding World of Harry Potter™ ที่อยู่รายล้อมมากกว่า
Flight of the Hippogriff™ สำหรับก๊อตจึงคิดว่าเค้าเหมาะกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ น้องๆ หนูๆ มาเล่นแล้วน่าจะกรี๊ดกร๊าดกันน่าดู แต่ถ้าผู้ใหญ่ที่ไม่ไม่ได้สันทัดเรื่องเครื่องเล่นหวาดเสียวๆ แต่ยังอยากลองนั่งรถไฟเหาะ ก๊อตว่า Flight of the Hippogriff™ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ตอบโจทย์นี้ได้เลย เพราะด้วยรางที่ไม่ยาวมากมันเลยใช้เวลาเล่นไม่นาน จังหวะหวาดเสียวเลยจะมีอยู่แป๊บๆ เท่านั้น ก็คือมาเล่นได้สบายเลย
Nighttime Magic at Hogwarts™ Castle
Nighttime Magic at Hogwarts™ Castle ถือเป็นโชว์ปิดท้ายในโซน The Wizarding World of Harry Potter™ ที่จะมีขึ้นทุกๆ 15 นาที ตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงช่วงปาร์คปิด โดยเราสามารถเช็ครอบและเวลาโชว์ได้ผ่านแอพของเค้าเลยนะ เนื่องจากในแต่ละวัน พระอาทิตย์ตกไม่เท่ากันนั่นเอง โดยโชว์ Nighttime Magic at Hogwarts™ Castle จะเป็นการเฉลิมฉลองบ้านทั้งสี่ของฮอกวอตส์ ได้แก่ บ้านกริฟฟินดอร์, บ้านฮัฟเฟิลพัฟ, บ้านเรเวนคลอ และบ้านสลิธีริน ซึ่งแต่ละบ้านเค้าจะมีสี และสัตว์ที่เปรียบเป็นตัวแทนประจำบ้านของใครของมัน โชว์นี้จึงเป็นการนำเอาสีเหล่านั้นมาสาดส่องไปยังตัวปราสาทฮอกวอตส์ให้เราได้ดูกันแบบยิ่งใหญ่ประมาณ 6 นาที/รอบ
ความเว่อร์วังคือแสงไฟที่ถูกส่องมามันไม่ใช่แค่สปอร์ตไลท์เป็นเส้นๆ เท่านั้น แต่ตัวไฟเค้ายังมีความพริ้วไหวไปตามจังหวะของดนตรี สาดส่องและไล่ระดับไปตามฐานของตัวปราสาท ก่อนจะไล่ขึ้นมายังตัวอาคาร ไปจนถึงยอดของปราสาทอีกด้วย ถือเป็นโชว์ที่เราจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับแสง สี เสียง ที่พร่างพราวอย่างกับยืนอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ของแฮรี่ และผองเพื่อนจริงๆ แม้จะเป็นโชว์ระยะเวลาสั้นๆ แต่บอกเลยว่าความประทับใจที่ได้รับนั้นมากมายเหลือเกิน
โซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness
ความพิเศษของ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) คือเค้ามีโซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness โซนสุดพิเศษที่มีเฉพาะที่ UBR แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเป็นโซนที่อิงมาจากหนังชื่อดังอย่าง Kung Fu Panda ซึ่งเป็นแอนิเมชันเรื่องแรกจากค่าย Dream Works Animation ที่ได้ผู้กำกับมือดีอย่าง จอห์น สตีเฟนสัน (John Stevenson) และ มาร์ก ออสบอร์น (Mark Osborne) มากุมบังเหียน โดยว่ากันว่าทั้งสองเดินทางมายังจีนเพื่อศึกษาวัฒนธรรมจีนและพบปะกับวงออร์เคสตราของจีนก่อนเริ่มทำหนังเรื่องนี้อีกด้วย
โดยโซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness ถูกออกแบบมาให้อยู่ในร่มขนาดใหญ่ ผ่านการจำลอง Valley of Peace โลกแห่งความแฟนตาซีที่เราจะได้สัมผัสไปกับฉากสำคัญจากหนัง ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านของโป (Po) นักรบมังกรในตำนาน ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง พระราชวังหยกที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนอันงดงาม ป่าไผ่เขียวชอุ่มและหุบเขาแห่งสันติภาพ ไปจนถึงหมู่บ้านแพนด้าที่ยกกันมาตั้งเอาไว้ได้แบบสมจริง นอกจากนี้ยังมีบริเวณใจกลางของโซนยังมีต้นไม้ขนาดมหึมา อย่าง ต้นพีชแห่งปัญญาสวรรค์ หนึ่งในสัญลักษณ์ของหนังเรื่องนี้อีกด้วย โดยต้นไม้ต้นนี้เป็นตัวแทนของปัญญาและคำแนะนำจากวิญญาณของปรมาจารย์อูเกว อาจารย์เต่ายักษ์กาลาปาโกสโบราณ เปรียบดั่งเป็นต้นไม้ในตำนานที่มีความสำคัญทางจิตวิญญาณ แน่นอนว่าเข้ามาในโซนนี้แล้ว เราจะได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเลย
ยังไม่หมดเท่านั้น ในโซนนี้ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง ร้านบะหมี่นายปิง (เตี่ยของโป) ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งของจริงเค้าทำเป็นเหมือนโรงเตี๊ยมให้บรรยากาศเหมือนเราหลุดเข้าไปในหนังจีนที่ข้างในนั้นขายบะหมี่ และอาหารจีนหลากหลายเมนูให้ได้เลือกลิ้มลอง อีกทั้งยังมาพร้อมกับมุมที่นั่งมากมายภายใต้การตกแต่งสไตล์จีนจัดๆ ด้วยภาพวาด ซุ้มหลังคา เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ล้วนแต่ถอดแบบมาจากในหนังทั้งนั้น สำหรับเครื่องเล่นในโซนนี้ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior เครื่องเล่นแบบล่องเรือที่เราจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู่กับเหล่าผู้ร้ายเคียงบ่าเคียงไหล่ของโปและผองเพื่อน แถมเค้ายังมีเครื่องเล่นเอาใจเด็กๆ อยู่อีกด้วยนะ ใครที่เป็นสาวกของโปและหนังเรื่อง Kung Fu Panda โซนนี้เข้ามาแล้วตาลุกวาวสุดๆ เป็นโซนที่พื้นที่กว้างขวางเดินเล่นอยู่ในนี้ได้ยาวๆ เลยล่ะ
Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior
เครื่องเล่นห้ามพลาดในโซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness อย่างที่ก๊อตบอกไปว่าต้องเล่นเลยก็คือ Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior เครื่องเล่นที่มาในธีมของการล่องเรือผ่านฉากที่ออกแบบมาอย่างประณีต ท่ามกลางเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นการฉายภาพสามมิติที่เหมือนจริงจนดูราวกับว่าโปและเพื่อนๆ ของเค้ามีชีวิตและมานั่งอยู่ข้าๆ บวกกับการใช้เทคนิค Animatronics หรือหุ่นจำลองสิ่งมีชีวิตที่มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ยิ่งทำให้โปและเพื่อนๆ ของเค้าดูมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior จึงเป็นเหมือนเครื่องเล่นที่เราจะได้กระทบไหล่โปแบบนั้นเลย
โดยเรื่องราวของเครื่องเล่น Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior เกิดขึ้นในช่วงที่โปได้เดินทางไปยังพระราชวังหยกเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ของอาจารย์ชิฟูในการฝึกฝนเพื่อเป็นกังฟูรุ่นต่อไป แต่จู่ๆ โปของพวกเราก็ดั้นไปทำโถที่คิดว่าเป็นโถใส่คุกกี้ธรรมดาๆ แตก ความซวยจึงเริ่มต้นขึ้นเพราะโถที่ว่านั่นคือ โถบรรจุอัฐ์ของนายพลไค (Kai) นักรบวิญญาณผู้โหดเหี้ยม ซึ่งพอไคหลุดออกมาได้ ฮีก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะไปทำลายหุบเขาแห่งสันติภาพให้สิ้นซาก นำมาสู่ภารกิจที่โปกับผองเพื่อนจะต้องช่วยกันกอบกู้โลกแห่งกังฟูด้วยการออกเดินทางไปตามล่าตัวไคกลับมานั่นเอง
ซึ่งเราจะได้ล่องเรือช้าๆ ไปบนแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ ด้วยความไม่เร็วมากนัก ผ่านสภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่ม และป่าไผ่สูงชะรูด ก่อนจะเจอเข้ากับภูเขาลึกลับ และถนนที่พลุกพล่านท่ามกลางวิถีชีวิตของตัวละครต่างๆ ในหมู่บ้านของโป ความระทึกมันอยู่ตรงที่จากล่องเรือในช่วงแรกๆ ที่ดูเงียบสงบ ทันใดนั้นเหล่าวายร้ายก็โผล่หน้าออกมาทีนี้พ่อพระเอกของเราเค้าก็จะไปออกสเต็ปวาดลวดลายกังฟูเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย พร้อมทั้งปกป้องเพื่อนๆ ไปในตัว ซาบซึ้งในตัวลูกชายอย่างกับตัวเองเป็นนายปิงมากวินาทีนั้น ซึ่งระหว่างทางแห่งการผจญภัยเราก็จะเจอกับตัวละครต่างๆ จากในหนังมายืนโบกไม้โบกมือส่งยิ้มให้ได้มองกันแบบไม่ละสายตา จนในที่สุดเราก็สามารถเอาชนะไคและช่วยหุบเขาแห่งสันติภาพเอาไว้ได้สำเร็จ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่มานั่งชมได้แบบเพลินๆ เหมาะกับคนที่มาเป็นครอบครัว หรือพาเด็กๆ มาด้วย ยิ่งใครที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องลงเรือมาเล่นกันเด้อ
โซน Transformers Metrobase
อีกหนึ่งโซนหลักที่ป๊อบมากที่สุดของ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ต้องยกให้กับโซน Transformers Metrobase เค้าเลย ใครที่เป็นแฟนๆ ของหนังจอยักษ์อย่างจักรวาล Transformers ภายในโซนนี้เราจะได้ดื่มด่ำไปกับโลกของออโต้บ็อตส์ (Autobots) และศัตรูตัวฉกาจอย่างดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ผ่านโซนสุดล้ำสมัยที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับพื้นที่ของสวนสนุกได้อย่างสมจริง ผ่านเรื่องราวสุดไซไฟในเมือง Metrobase ของเหล่าออโต้บ็อตส์ (Autobots) ที่พวกเค้าได้มาปักหลักตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในปักกิ่ง โดย Transformers Metrobase ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ที่คอยต่อกรกับเหล่าวายร้ายอย่างพวก ดีเซปติคอนส์ (Decepticons) และรักษาความสงบให้เกิดขึ้นภายในดินแดนแห่งนี้นั่นเอง
สำหรับเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ Decepticoaster รถไฟเหาะความเร็วสูงที่มีธีมเกี่ยวกับดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ซึ่งจะจำลองการไล่ล่าที่เข้มข้นและตื่นเต้นในโลกของ Transformers ส่วนอีกเครื่องเล่นที่พลาดไม่ได้คือ Transformers: Battle for the AllSpark เครื่องเล่นจำลองการเคลื่อนไหว 3 มิติ ที่เราจะได้นั่งยานหลุดเข้าไปในสมรภูมิรบอันดุเดือดของออโต้บ็อตส์ (Autobots) และศัตรูตัวฉกาจอย่างดีเซปติคอนส์ (Decepticons) และนอกจากเครื่องเล่นเหล่านี้แล้ว ภายในโซนยังมีการพบปะกับตัวละครจาก Transformers แบบตัวจริงเสียงจริง ที่เค้าจะออกมาทักทายแฟนๆ พร้อมทั้งให้มาเซลฟี่เคียงข้างอีกด้วย ถือเป็นโซนที่สายมันส์ สายบู๊ หรือแฟนๆ ของ บัมเบิลบี (Bumblebee) ออพติมัส ไพรม์ (Optimus Prime) และจอมวายร้ายอย่างเมกะทรอน (Megatron ) ห้ามพลาด
Decepticoaster
ใครที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจขั้นสุด แบบทะลุปรอท หรือเป็นสายรถไฟเหาะหวาดเสียวอยู่แล้ว ก๊อตแนะนำให้มาลองเล่น Decepticoaster รถไฟเหาะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ตัวร้ายจากจักรวาล Transformers ผ่านธีมการเล่นที่ถูกออกแบบจำลองการไล่ล่าระหว่างออโต้บ็อตส์ (Autobots) และดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ที่เข้มข้นและดุเดือดโคตรๆ กันได้เลย
หมดอายุ: 11-11-2024
หมดอายุ: 11-11-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สำหรับการเล่น Decepticoaster ก่อนอื่นเลยเราจะต้องฝากข้าวของทั้งหมดที่แบกมากันก่อน เพราะรถไฟเหาะเค้าเลื่องลือในเรื่องของการเหาะเหินตีลังกาแบบที่ว่าไปแต่ตัวกับเสื้อผ้าที่ใส่อยู่น่าจะเซฟสุดๆ แล้ว จากนั้นเราจะได้เข้าไปด้านในจุดสตาร์ตซึ่งจะเป็นพื้นที่จำลองสำนักงานใหญ่ของดีเซปติคอนส์ (Decepticons) ภายในเป็นทางเดินอันมืดมิดทว่ามีเส้นแสงที่ชวนให้นึกถึงความล้ำสมัยอยู่ด้วย จากนั้นเราจะได้เข้าไปนั่งในรถไฟเหาะ ก่อนที่อึดใจเดียวจะถูกปล่อยตัวด้วยความเร็วไปบนราง แล้วพุ่งทะยานออกสู่พื้นที่กลางแจ้งด้านนอก อันนี้บอกเลยว่าจังหวะปล่อยตัวแทบไม่มีโอกาสได้หายใจ เพราะพอรถไฟถูกปล่อยออกจากรางปุ๊บ เค้าพุ่งปรี๊ดด้วยความเร็วแบบไม่มีผ่อน ความสนุกสุดมันส์อยู่ตรงที่รถไฟเหาะมันวิ่งไปบนรางที่มีทั้งความคดเคี้ยว ตีลังกากลับหัว พร้อมทั้งทิ้งดิ่งจากความสูงกว่า 55 เมตร ด้วยความเร็วที่คนข้างล่างมองตามแทบไม่ทัน
แต่ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเล่นกันไม่นาน เราก็กลับเข้าสู่ฐานทัพกันแล้ว ส่วนตัวก๊อตเป็นสายเครื่องเล่นหวาดเสียวอยู่แล้ว เราเลยผ่านมาได้ฉลุย แต่ก็มีกรี๊ดกันคอแทบแตก คือถ้าให้จัดอันดับเครื่องเล่นหวาดเสียวในยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) รถไฟเหาะ Decepticoaster เอามงเต็งหนึ่งไปได้เลย ซึ่งใครที่กลัวความสูงหรือไม่ใช่สายรถไฟเหาะหวาดเสียวๆ เครื่องเล่นนี้อาจจะไม่เหมาะ เพราะน้องที่ไปกับก๊อตเค้าไม่กล้าเล่นเลย คือยืนมองจากข้างล่างก็ชวนเวียนหัวแล้ว แต่ถ้าใครแบบเอาวะ สักครั้งหนึ่งในชีวิตมาแล้วก็อยากจะเก็บให้ครบ นี่แนะนำว่าให้เล่นไปเลย เราจะได้มีเรื่องไปโม้ให้คนที่บ้านฟังได้ว่า เราพิชิตรถไฟเหาะ Decepticoaster มาแล้วนะ
Transformers: Battle for the AllSpark
Transformers: Battle for the AllSpark เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเครื่องเล่นไฮไลท์ในโซน Transformers Metrobase เลยก็ว่าได้ โดยเค้าเป็นเครื่องเล่นแบบ 3 มิติ ที่เราจะได้สวมแว่นตา 3 มิติแล้วนั่งยานที่ชื่อ Autobot Evac ออกไปสัมผัสกับการต่อสู้อันดุเดือดระหว่าง ออโต้บ็อตส์ (Autobots) และดีเซปติคอนส์ (Decepticons) โดยมีภารกิจช่วยเหล่าผู้กล้าปกป้อง AllSpark วัตถุที่มีพลังในการสร้าง Transformers ตัวใหม่ ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของดีเซปติคอนส์ (Decepticons) จอมวายร้าย
การต่อสู้จะเริ่มต้นบริเวณใจกลางเมืองที่กำลังถูกล้อมโจมตี โดยมีเหล่า ออโต้บ็อตส์ (Autobots) ไม่ว่าจะเป็น บัมเบิลบี (Bumblebee) ออพติมัส ไพรม์ (Optimus Prime) รวมถึงตัวละครอื่นๆ มาร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้ โดยระหว่างนั้นเราจะได้รับหน้าที่นำ AllSpark ไปซ่อนไว้ยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งความสนุกมันเริ่มต้นที่เราจะต้องคอยบินโฉบไปมาเพื่อหลีกหนีไม่ให้พวกดีเซปติคอนส์ (Decepticons) จับตัวไว้ได้ ยิ่งจังหวะยานบินหลบสิ่งกีดขวาง ท่ามกลางฉาก 3 มิติความละเอียดสูงที่ฉายอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้า บอกเลยว่ามันส์โคตรๆ แต่ที่ก๊อตชอบเลยจะเป็นช่วงที่เราต้องบินไปพร้อมกับออพติมัส ไพรม์ (Optimus Prime) รวมไปถึงการบินหลบแรงระเบิดของสตาร์สครีม (Starscream) และหลีกหนีจากอาคารที่พังถล่มลงมาตรงหน้า แม่เอ้ย หวาดเสียวจนตัวเกร็งว่าจะทำภารกิจแห่งชาตินี้สำเร็จหรือเปล่า ด้วยความที่มันสมจริงมาก เราเลยมีอารมณ์ร่วมเสมือนอยู่ในสมรภูมิรบกับเขาไปด้วย ซึ่งท้ายที่สุด บัมเบิลบี (Bumblebee) สุดน่ารักก็มาพาเราเอาเจ้า AllSpark ไปเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัยจนได้ เป็นอันช่วยจักรวาล Transformers ได้สำเร็จลุล่วง ยกให้เป็นอีกเครื่องเล่นที่นั่งอยู่บนยานวิ่งไปตามรางเฉยๆ ก็จริง แต่มันสนุกสุดเหวี่ยงม๊ากก
โซน Minion Land
Minion Land โลกสุดมหัศจรรย์ของมินเนี่ยน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหล่าตัวการ์ตูนสีเหลืองจากอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Minions ที่เป็นตัวตั้งตัวตี ก่อนจะตามมาด้วยหนังมิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (Despicable Me) ที่ออกฉายกันอยู่หลายภาคและครองใจแฟนๆ กันมาแล้วทั่วโลก โดยโซนนี้เราจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนของผู้คนท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล ไปพร้อมๆ กับบ้านของกรู และเหล่าลูกเลี้ยงทั้ง 3 อย่าง มาร์โก, แอ็กเนส และ เอดิธ ท่ามกลางพร๊อพสีสันสดใสที่ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็ดูน่ารักปุ๊กปิ๊กไปเสียหมด บอกเลยว่าโซน Minion Land ที่ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) นั้นยิ่งใหญ่และอลังการงานสร้างมากที่สุดเลยล่ะ
บรรยากาศภายในโซน Minion Land เค้าได้จำลองชุมชนที่กรูและเหล่ามินเนี่ยนทั้งหลายอาศัยอยู่ โดยเซตบ้านเรือน ร้านค้า อาคารต่างๆ รวมไปถึงโรงงานผลิตมินเนี่ยนขึ้นมาท่ามกลางพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เหมือนเราเดินเล่นอยู่ในเมืองมินเนี่ยนจริงๆ ความน่ารักคือตามบ้านเรือนจะมีมินเนี่ยนคาแรกเตอร์ต่างๆ มายืนปุ๊กปิ๊กอยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน ไม่ก็เกาะอยู่ตามหลังคาหรือรั้วบ้านให้เราได้มาสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีมินเนี่ยนขนาดเท่าตัวจริงมายืนอยู่ตามจุดต่างๆ ของโซนให้ได้ถ่ายรูปกันแบบฉ่ำๆ
โดยเครื่องเล่นสุดฮิตที่คนต่อแถวรอเล่นยาวเป็นขบวนของโซนนี้เลยก็คือ Despicable Me Minion Mayhem เครื่องเล่น 3 มิติที่จะพาเราเข้าไปในบ้านของกรูเพื่อเปลี่ยนให้ตัวเรากลายเป็นมินเนี่ยน หรือถ้าใครพาเด็กๆ มาด้วย เค้าก็มีสวนสนุกในร่มที่มีรถไฟเหาะแบบซอฟต์ๆ ให้ได้มานั่งชมวิว พร้อมทั้งซุ้มเล่นเกมมากมายให้ได้มาล่าของรางวัลจากมินเนี่ยนกันเพียบ ส่วนสายช้อปที่อยากหาพร๊อพติดไม้ติดมือ ที่โซนนี้ยังมีช้อปมินเนี่ยนขนาดใหญ่ ภายในอัดแน่นไปด้วยสินค้าของมินเนี่ยนอยู่แบบครบครัน ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไปจนถึงของใช้ ของตกแต่งบ้านกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกโซนที่สาวกมินเนี่ยนพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
Despicable Me Minion Mayhem
Despicable Me Minion Mayhem เครื่องเล่นที่ก๊อตเชียร์ให้มาตามเก็บเข้าเช็คลิสได้เลย โดยเค้าเป็นเครื่องเล่นที่อิงมาจาก Despicable Me ที่เราจะได้ขึ้นไปบนยานก่อนจะทะยานเข้าสู่จอภาพ 3D ในโลกของมินเนี่ยนแบบสมจริง โดยเราจะได้ร่วมผจญภัยไปกับกรู และเหล่าลูกเลี้ยงทั้ง 3 อย่าง มาร์โก, แอ็กเนส และ เอดิธ และมินเนี่ยนจอมซน ท่ามกลางภารกิจเปลี่ยนตัวเราให้กลายเป็นมินเนี่ยนนั่นเอง
การเล่น Despicable Me Minion Mayhem ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ก่อนอื่นเราจะต้องสวมแว่นตา 3 มิติ จากนั้นเราจะถูกพาเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ แล้วขึ้นไปนั่งบนยานเป็นกลุ่มๆ ก่อนที่หน้าจอขนาดมหึมาตรงหน้าจะปรากฏภาพ 3 มิติ ของกรูที่เข้ามาพาเราไปทัวร์บ้านของเขา และเข้าสู่ห้องทดลอง พร้อมทั้งเริ่มกระบวนการเปลี่ยนร่างของเราให้กลายเป็นมินเนี่ยนในทันที ซึ่งความวุ่นวายก็บังเกิดเมื่อลูกสาวแสนซนทั้ง 3 ของกรูโผล่เข้ามาพร้อมกับกล่องของขวัญที่ต้องการมอบให้พ่อ แต่ดันมาทำตกอยู่ในโรงงานที่รายล้อมไปด้วยเครื่องจักร ทีนี้ก็ต้องช่วยกันเซฟน้องกล่องไม่ให้โดนทำลายไปเสียก่อน ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะเราจะต้องเจอเข้ากับอุปสรรคมากมายจากเหล่าเครื่องจักรสารพัดตรงหน้า
ความสนุกของ Despicable Me Minion Mayhem คือยานมันลิ้งค์ไปกับตัวจอด้านหน้า เวลาถึงฉากที่ตกจากที่สูง หรือไหลไปบนสายพานตัวยานก็จะสั่นกระเด้งดึ๋งๆ ไปมา ซึ่งความตื่นเต้นมันอยู่ตรงนี้เลย ยิ่งเวลาฉากมันเปลี่ยนไปมาแบบพรึ่บพรั่บแล้วยานมันโคลงเคลงตามจังหวะภาพนะ เป็นอะไรที่สนุกมาก ซึ่งสุดท้ายเราก็ช่วยกล่องเอาไว้ได้ และเด็กๆ ก็ได้นำไปมอบให้กับกรูสำเร็จ สรุปแล้วก๊อตแนะนำและอยากให้มาลองเล่นกัน ยิ่งใครที่เคยดูหนังเค้าหรือเคยเล่นเกมมินเนี่ยนมาแล้วบ้าง บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
โซน Jurassic World Isla Nublar
ใครที่เป็นแฟนตัวยงของหนัง Jurassic Park มาถึง ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ต้องมาที่โซน Jurassic World Isla Nublar เพราะเราจะได้ออกเดินทางสู่การผจญภัยไปในโลกของเหล่าไดโนเสาร์อายุกว่า 65 ล้านปี ท่ามกลางผืนป่าเขตร้อนอันเขียวชอุ่มที่ชวนให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา ราวกับเราได้หลุดเข้าไปยังเกาะ Isla Nublar เกาะในหนังที่เป็นที่ตั้งของ Jurassic Park นั่นเอง โดยเครื่องเล่นส่วนใหญ่ในโซน Jurassic World Isla Nublar ล้วนแต่อิงมาจากหนังทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น Jurassic Flyers เครื่องเล่นที่จะพาเราเหินเวหาเหนือยอดไม้ของเกาะ Isla Nublar ไปพร้อมๆ กับการชมวิวทิวทัศน์ของโซน หรือจะเป็น Jurassic World Adventure เครื่องเล่นที่เราจะได้นั่งรถเข้าไปในเกาะ Isla Nublar ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับไดโนเสาร์ตัวบิ้กเบิ้มที่ก๊อตแอบบอกก่อนเลยว่า ไดโนเสาร์แต่ละตัวนั้นสมจริงยันผิวหนังกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ภายในโซนยังมีร้านอาหารที่แต่งตามธีมของ Jurassic Park ซึ่งเมนูที่ขายก็ได้แรงบันดาลใจจากไดโนเสาร์ รวมไปถึงยังมีร้านขายสินค้าหลักที่มีของให้เราช้อปตั้งแต่ของเล่น เสื้อผ้า และของสะสมที่มีธีมเกี่ยวกับไดโนเสาร์ทั้งสิ้น แฟนๆ ของ Jurassic Park สามารถแวะซื้อกลับบ้านได้เลย
Jurassic World Adventure
Jurassic World Adventure เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นในโซน Jurassic World Isla Nublar ที่ก๊อตแนะนำเลยว่าต้องเข้ามาเล่น โดยเค้าอิงมาจากหนัง Jurassic Park แบบที่ยกเอาฉากบนเกาะ Isla Nublar มาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำ แล้วให้เราเข้าไปสัมผัสกับเหตุการณ์หายนะที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกจากกรง ท่ามกลางความโกลาหลที่สุดแสนจะวุ่นวาย ซึ่งภารกิจของเราคือการเอาชีวิตรอดออกมาจากที่นี่ให้ได้
ธีมการเล่นของ Jurassic World Adventure คือเราจะได้ขึ้นไปบนรถสำรวจที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อนำทางไปยังรอบๆ เกาะ จากนั้นจะได้เดินทางเข้าสู่ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ก่อนที่ความมันส์จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีอินโดไมนัส เร็กซ์ (Indominus Rex) ไดโนเสาร์ตัวร้ายโผล่มาจ๊ะเอ๋กันแบบซึ่งๆ หน้า และเริ่มตามไล่ล่าพร้อมทั้งพยายามโจมตีรถของเรา จังหวะนั้นกรี๊ดกันลั่นเพราะนอกจากความหวาดเสียวที่ไดโนเสาร์เข้ามาใกล้แล้ว รถที่นั่งมายังพาเร่งสปีดหนีจนหัวสั่นหัวคลอนอีกด้วย ซึ่งพอพ้นแนวป่าก็จะไปเจอกับฉากต่างๆ ในหนัง Jurassic Park รวมถึงเหล่าไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ (Tyrannosaurus rex) ตัวละครเอกในเรื่อง หรือจะเป็นเวโลซีแรปเตอร์ (Velociraptors) หรือบลูที่สมจริงด้วยเทคนิค Animatronics ก่อนจะไปเจอกับจอภาพขนาดใหญ่ที่ฉายให้เห็นพระนางยืนอยู่ท่ามกลางดงไดโนเสาร์และซากอาคารพังๆ
โดยฉากของเครื่องเล่นก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนช่วงท้ายๆ เราก็มาอยู่ท่ามกลางศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะ ที่เต็มไปด้วยข้าวของที่พังเสียหายจากเงื้อมมือของไดโนเสาร์ตัวร้าย ซึ่งเค้าเซตขึ้นมาได้เหมือนมากจนทำให้ก๊อตรู้สึกราวกับว่าตัวเองอยู่บนเกาะจริงๆ จุดไคลแม็กซ์มันอยู่ตรงที่ไดโนเสาร์สองตัวต่อสู้กันอยู่ตรงหน้า จังหวะฟาดหาง กระโจนงับกันระทึกใจเรามาก ทั้งเสียง แสง สี คืออลังสุดๆ จนในที่สุดไดโนเสาร์ตัวร้ายก็พ่ายแพ้ไป ซึ่งตัวที่แพ้ก็ทิ้งร่างลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ตรงหน้าเราจนนี่ร้องเสียงหลง เพราะหัวของมันอยู่ห่างจากรถแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ทุกอย่างมันเหมือนจริงมาก จนทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาแบบไม่อยากกระพริบตากันเลยทีเดียว ยกให้เป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบไดโนเสาร์และยิ่งใครที่เป็นแฟนของหนัง Jurassic Park ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
Jurassic Flyers
Jurassic Flyers เป็นเครื่องเล่นลอยฟ้าที่ใครอยากบินว่อนชมวิวเหนือเกาะ Isla Nublar จากมุมสูงที่ไม่เหมือนใคร ต้องมาลองเล่นเจ้าตัวนี้เลย โดยเค้าเป็นเครื่องเล่นในธีมจำลองการบินของเทอโรซอร์ (Pterosaur) สัตว์เลื้อยคลานโบราณกลุ่มหนึ่งที่บินได้โดยใช้ปีกขนาดใหญ่ ที่จะมาพาเราบินโฉบเฉี่ยวไปมาด้วยความเร็วไม่มากนัก ท่ามกลางป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์ และเหล่ากรงไดโนเสาร์ที่สูงตระหง่าน พร้อมดื่มด่ำไปกับโลกของ Jurassic World ได้แบบเต็มสายตา
รูปแบบการเล่น Jurassic Flyers เราจะได้ขึ้นไปนั่งอยู่ในยานพาหนะลอยฟ้าที่แขวนอยู่บนรางด้านบน ซึ่งเค้าถูกออกแบบมาให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ จนก๊อตสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังบินอยู่จริงๆ และด้วยความเร็วปานกลางไม่ปรู๊ดปร๊าดมาก จังหวะที่เค้าบินออกไปด้านนอกของภูเขาเราเลยจะได้เห็นวิวของสวนสนุก และโซน Jurassic World Isla Nublar แบบพาโนราม่าเลยทีเดียว เป็นอีกเครื่องเล่นที่ก๊อตคิดว่าเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ยิ่งคนที่ไม่ชอบความหวาดเสียวขั้นสุด แต่อยากได้ฟีลเร้าใจหน่อยๆ มาลองบินไปกับเจ้า Jurassic Flyers ได้เลย มันเริ่ดมาก
โซน Water World
Water World เป็นอีกหนึ่งโซนใน ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ที่สายบู๊ทั้งหลายจะต้องชอบ เพราะเค้าเป็นโซนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แอคชันเรื่อง Waterworld ในปี ค.ศ. 1995 ซึ่งดำเนินเรื่องเกี่ยวกับหายนะของโลกที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ จนแทบไม่มีพื้นดินให้อยู่อาศัย ผู้คนส่วนใหญ่ตั้งรกรากกันบนน้ำ ซึ่งพอมันไม่มีพื้นดินและน้ำจืด ก็นำมาสู่การจี้ ปล้น เพื่อการอยู่รอดของคนแต่ละกลุ่ม อีกทั้งยังมีมนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถหายใจใต้น้ำได้อีกด้วย
บรรยากาศภายในโซนหากใครเคยดูหนังผ่านตามาบ้าง จะเห็นเลยได้เลย Water World เค้าถอดแบบออกมาได้เป๊ะมาก โลกทั้งใบที่เห็นเบื้องหน้าถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ โดยผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในชุมชนลอยน้ำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความทรหด มีโครงสร้างโลหะขึ้นสนิม คนอาศัยอยู่บนห้องที่ถูกสร้างยกสูงจากผิวน้ำ ด้านล่างเต็มไปด้วยเรือ และยานพาหนะทางน้ำ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในการดำรงชีพอยู่ ซึ่งทั้งหมดนั้นทำออกมาได้สมจริงมาก โดยโซนนี้เป็นที่ตั้งของ WaterWorld Stunt Show ซึ่งเป็นการแสดงสดที่เหล่าสตั้นทั้งหลายเค้าจะมาโชว์ฉากบู๊ๆ ให้ได้รับชมแบบระทึกเร้าใจ ซึ่งโชว์นี้ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำสวนสนุกของยูนิเวอร์แซลเลย
WaterWorld Stunt Show
หนึ่งในโชว์ที่ก๊อตอยากให้ทุกคนเข้ามาดูกันเลยคือ WaterWorld Stunt Show ใครที่คลั่งหนังบู๊แล้วอยากเห็นฉากแอคชันโคตรสมจริงใกล้ๆ แบบน้ำกระเด็นใส่ตัว ไฟลุกท่วมจนหน้าร้อน เครื่องบินตกลงใจกลางทะเล อันนี้คือทำถึงและเล่นใหญ่มาก โดย WaterWorld Stunt Show เป็นการแสดงสดที่อิงมาจากหนังเรื่อง Waterworld ในปี ค.ศ. 1995 ที่เค้าได้ปรับเอาเนื้อเรื่องมาผสมผสานเข้ากับการแสดงผาดโผน ท่ามกลางธีมที่ผู้คนในเมืองช่วยกันตามหา Dryland พื้นที่มั่นสุดท้ายในตำนานที่ว่ากันมีพื้นดินให้อยู่อาศัย แต่แล้วเมืองก็ถูกโจมตีด้วย Smokers และลูกน้องจอมวายร้าย ที่ต้องการมายึดเมืองแห่งนี้ ทีนี้เหล่าผู้กล้าที่นำทีมโดย Mariner และคนอื่นๆ ก็ได้ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องฐานที่มั่นของพวกเขา นำมาซึ่งฉากการสู้รบปรบมือกันแบบดุเดือด และอันตราย
แต่ต้องบอกก่อนว่า WaterWorld Stunt Show เค้าจะมีแสดงเป็นรอบๆ ต่อวันนะ ดังนั้นอย่าลืมเช็ครอบการแสดงให้ดี จะได้มาทันดูโชว์ของเค้า นอกจากนี้ที่นั่งชมจะถูกแบ่งออกเป็นสีๆ ตามความมันส์ที่ทุกคนอยากสัมผัส เพราะเค้าแสดงกันบนน้ำ แน่นอนว่าต้องมีน้ำกระเด็นมาถูกตัวคนดู โดยโซนสีเขียวจะเป็นที่นั่งที่อยู่หน้าสุด และเปียกมากที่สุด ต่อมาจะเป็นโซนสีน้ำเงิน ซึ่งจะเป็นที่นั่งช่วงกลางๆ มีน้ำกระเด็นมาโดนตัวบ้าง และสุดท้ายอย่างโซนสีส้ม อันนี้โซนปลอดภัยอยู่ไกล ไม่มีน้ำกระเด็นมาโดนตัว ซึ่งทุกคนสามารถเลือกนั่งตามชอบได้เลย
เมื่อถึงเวลาการแสดง เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนท่ามกลางบรรยากาศของเมืองลอยน้ำที่เหล่าอาคารและสิ่งปลูกสร้างขึ้นสนิมจนกลายเป็นโทนสีเดียวกัน แต่แล้วจู่ๆ เมืองก็ถูกโจมตีด้วยกลุ่มวายร้าย ทีนี้เหล่าคนในเมืองก้พากันสู้แบบยิบตา นาทีนั้นแหละที่สารพัดเอฟเฟกต์ ทั้งฉากไฟไหม้และระเบิดที่ฟูฟ่าสมจริง ไหนจะมีเครื่องบินเล็กบินมาตกลงที่เมือง รวมถึงศิลปะการต่อสู้จากผู้คนที่ถูกงัดออกมาใช้อย่างถึงพริกถึงขิง จนเรียกเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือจากคนดูดังสนั่น ซึ่งธีมเรื่องเค้าก็จะสู้กันจนตอนแรกฝ่ายผู้ร้ายชนะ แต่ในที่สุดก็มีพี่พระเอกขับเจ็ตสกีมากอบกู้เมืองและสู้กลับจนเอาชนะได้ในที่สุด บอกเลยว่าตอนที่นั่งดูลุ้นมาก เพราะทุกอย่างดูหวาดเสียวและระทึกสุดๆ คือเป็นโชว์ที่เราได้เห็นความเก่งการของสตั้นและความสมจริงที่ละสายตาจากโชว์ไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาที ยกให้เป็นโชว์ที่ก๊อตประทับใจมากที่สุดอย่างหนึ่งของสวนสนุกเลย
โซน Hollywood
โซน Hollywood อีกหนึ่งโซนยอดฮิตที่ภายในจำลองถนนหนทางอันพลุกพล่านของฮอลลีวู้ดในลอสแอนเจลิส พร้อมทั้งเซตสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงเหล่าร้านค้าในยุค 1930 มาตั้งเรียงรายให้เราได้ฟินไปกับไวบ์แสง สี เสียง โดยถนนสายหลักของโซนนี้เต็มไปด้วยต้นปาล์มที่ปลูกเรียงรายไปตามอาคารอันหรูหราที่แสดงให้เห็นถึงยุคทองของฮอลลีวู้ดอีกด้วย โดยในโซน Hollywood ยังมีโรงละคร สตูดิโอ และสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคให้เราได้เดินชมกันแบบเพลิดเพลินราวกับเราเป็นหนึ่งในดาราชื่อดังของยุคนั้นเลย ซึ่งในโซนนี้ ไฮไลท์ที่ที่ก๊อตอยากแนะนำว่าต้องมาเล่นเลยคือการดูโชว์ ไม่ว่าจะเป็น Lights Camera Action! ที่ถูกสร้างขึ้นร่วมกันระหว่างสวนสนุกและสตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับหนังฮอลลี้วู้ดที่ได้ฉายาว่าเป็นพ่อมดแห่งวงการ ซึ่งเราจะได้เข้าไปชมเบื้องหลังการสร้างเอฟเฟกต์สุดพิเศษในภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ของพวกเค้า ยังไม่หมดเท่านั้นที่นี่ยังมีโชว์สุดน่ารักอย่าง Untrainable ที่ใครชอบเจ้าเขี้ยวกุดจากหนังแอนิเมชันชื่อดัง อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ไม่ควรพลาด เพราะเราจะได้เห็นเขี้ยวกุดออกมาบินว่อนอยู่เหนือฮอลล์ให้ได้ชมแบบใกล้ๆ ส่วนใครที่อยากช้อปสินค้าในโซนนี้ก็มีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกอยู่เพียบเลย
Lights Camera Action!
มีใครเคยสงสัยบ้างไหมว่าการถ่ายทำหนังสักเรื่องเค้าใช้เทคนิคพิเศษ หรือมีงบประมาณในการสร้างสูงแค่ไหน หากใครเคยมีข้อสงสัยล่ะก็ มาค้นหาคำตอบได้ที่ Lights Camera Action! โชว์ที่เราจะได้สัมผัสกับเบื้องหลังของฉากอันมหัศจรรย์และเอฟเเฟกต์พิเศษจากหนังฟอร์มยักษ์ ภายใต้การบอกเล่าและให้ความรู้จากสองผู้กำกับมือทองในตำนานอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับชาวอเมริกัน และ จาง อี้โหมว ผู้กำกับชาวจีน ได้เลย
แรกเริ่มเราจะได้เข้าไปในห้องที่มีจอฉายภาพของ สตีเวน สปีลเบิร์ก และ จาง อี้โหมว โดยทั้งคู่จะมายืนทักทายและบอกเล่าถึงการสร้างหนัง รวมไปถึงเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่คนในวงการเขาใช้กัน ใช้เวลาไม่นานเราจะถูกต้อนให้เดินเข้าไปยังอีกหนึ่งห้องที่ฉากจะเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย เหมือนตอนนี้เรากำลังยืนอยู่บนอาคารสูง ทว่ามีน้ำอยู่บนพื้น และมีเรือเล็กๆ อยู่มุมด้านข้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะตื่นเต้นเร้าใจขึ้นเมื่อเอฟเฟกต์ต่างๆ เริ่มทำงาน เรือลำเล็กๆ ลอยล่องออกมาเบื้องหน้า แต่แล้วฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ ตกกระหน่ำลงมาจนดูกลายเป็นพายุพัดเอาหน้าต่างของอาคารหลุดออกมา และที่เรียกเสียงฮือฮาจากคนดูได้เยอะมาก เห็นจะเป็นตอนที่มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ตรงหน้า ที่ไอ้เราก็ดันไปยืนอยู่หน้าสุด ถึงขั้นถอยหลังหลบเปลวเพลิงแทบไม่ทัน แต่ไฟมันโหมไหม้อยู่ไม่นาน ฝนก็เทซ่าลงมาอย่างกับฟ้ารั่วอีกครั้ง
บอกเลยว่านี่เป็นไฮไลท์ของโชว์ที่ก๊อตยกมงความปังให้เลย คือจังหวะในตอนท้ายที่เรือลำมหึมา ซึ่งสูงจนเกือบติดเพดานลอยออกมาจากมุมขวาของห้อง ตอนนั้นทั้งอึ้ง ทั้งตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าจะมีเรือโผล่มาแบบนี้ โดยเค้าลอยลำอออกมาอยู่ใกล้ๆ เราเพียงไม่กี่เมตร ท่ามกลางเสียง และแสงต่างๆ มันเลยทำให้ก๊อตยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของหนังจริงๆ เหมือนยืนอยู่ท่ามกลางพายุจริงๆ แบบนั้นเลย คือใครที่เรียนเกี่ยวกับภาพยนต์ หรือชอบงานสายนี้ นี่ว่าเข้ามาดูแล้วถูกใจแน่นอน มันแบบเว่อร์วังทุกวินาทีจริงๆ
Untrainable
ปิดท้ายด้วยโชว์ Untrainable ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแอนิเมชันสุดน่ารักหนุบหนับใจอย่าง How to Train Your Dragon โดยการแสดงนี้เราจะได้ดื่มด่ำไปกับดินแดนแห่งเบิร์ค และเผชิญหน้ากับโลกอันแสนมหัศจรรย์ของมังกรและตัวละครจากในหนัง อีกทั้งยังได้ยลโฉมของฮิคคัพ และทูธเลส พร้อมทั้งเหล่ามังกรตัวอื่นๆ ในหมู่บ้านไวกิ้งอันแสนอบอุ่น
โดยการแสดงจะเปิดมาที่ฉากหลักซึ่งเป็นหมู่บ้านไวกิ้ง แห่งเบิร์ก สถานที่ที่เหล่าผู้ขี่มังกร และสหายมังกรของพวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เรื่องราวจะดำเนินไปให้เราได้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันดีงามของฮิคคัพ ตัวละครหลักของเรื่องที่เป็นฮีโร่ของชาวไวกิ้ง และทูธเลส หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ‘เขี้ยวกุด’ มังกรผู้ซื่อสัตย์ของเขา ซึ่งทั้งสองก็ยังคงใช้ชีวิตและผจญภัยไปในโลกกว้างใหญ่ใบนี้ ก่อนที่ความวุ่นวายสุดป่วนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เขี้ยวกุดพยายามฝึกฝนทักษะใหม่ๆ แต่ดันไม่รอดสักทาง เลยนำมาซึ่งฉากตลกๆ น่าเอ็นดูที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งฮอลล์ได้ไม่ยากเลย
นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นการสู้รบกันระหว่างชาวไวกิ้ง กับมังกรตัวร้าย ผ่านแสดงกายกรรมกลางอากาศ ไปจนถึงการแสดงผาดโผนเพื่อโต้ตอบกับมังกร ที่สมจริงแบบที่ว่า มังกรมายืนพ่นไฟให้ได้ชมแบบใกล้ชิด เป็นฉากที่ตื่นเต้นและชวนให้ลุ้นตามไปด้วย แต่ที่ก๊อตชอบเลยเห็นจะเป็นฉากในช่วงที่เขี้ยวกุดและฮิคคัพบินโฉบไปมาอยู่ด้านบน ซึ่งบรรยากาศในตอนนั้นมันเหมือนเขี้ยวกุดบินอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าจริงๆ อันนี้ประทับใจมาก ถือเป็นการโชว์ปิดท้ายของเราที่ก๊อตแนะนำเลยว่าให้เข้ามาดู ส่วนตัวแล้ว Untrainable ไม่ใช่แค่โชว์มังกรบินว่อนแล้วจบ แต่มันยังแสดงให้เราเห็นถึงความรักความห่วงใยระหว่างคนและมังกรที่ดูแล้วอบอุ่นและซาบซึ้งในหัวใจสุดๆ อีกด้วย
The Universal Studios Grand Hotel
สำหรับใครที่มาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) แล้วอยากเต็มอิ่มไปกับการใช้เวลาอยู่ในปาร์ค รวมถึงสัมผัสกับความฟู่ฟ่าของยุคทองฮอลลีวู้ดให้เต็มที่ การเข้าพักที่โรงแรม The Universal Studios Grand Hotel ก๊อตบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์และดีงามมาก โดยที่นี่ถือเป็นโรงแรมสุดลักชูที่ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้า ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) กันเลยทีเดียว ซึ่งเค้าได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากความสง่างามและคลาสสิกในยุคทองของฮอลลีวู้ดช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 โดยมีสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคและการตกแต่งภายในที่อิงไปตามหนังของยูนิเวอร์แซลนั่นเอง
บรรยากาศของ The Universal Studios Grand Hotel เริ่มจากบริเวณด้านหน้าของโรงแรมที่มีน้ำพุตั้งเด่นสง่ามาแต่ไกล ท่ามกลางพื้นที่รอบๆ ที่เป็นแปลงกุหลาบหลากสีสันชวนให้รู้สึกชุ่มฉ่ำกันตั้งแต่ก้าวเท้าลงมาจากรถ พอเดินเข้ามาด้านในจะเป็นโซนของล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ในดีไซน์และโทนสีสุภาพทว่าคลาสสิกสุดๆ ส่วนตามผนังของโรงแรมจะมีงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ โปสเตอร์ภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และองค์ประกอบของสตูดิโอภาพยนตร์ที่ประดับประดาเอาไว้ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ท่องไปยังโลกของภาพยนตร์ อย่างกับเดินอยู่ในยุคทองของฮอลลีวู้ดที่ดูฟู่ฟ่าไปหมด
สำหรับห้องพักของ The Universal Studios Grand Hotel เค้ามีไทป์ห้องให้เลือกเยอะมาก อีกทั้งยังมีห้องที่แต่งตามธีมหนังของเค้า ไม่ว่าจะเป็นห้องธีมมินเนี่ยน หรือธีมกังฟูแพนด้าอยู่ด้วย แต่ที่ก๊อตนอนจะเป็นห้องแบบ ‘ดีลักซ์เตียงแฝด 2 เตียง มีหน้าต่าง’ ที่รวมอาหารเช้ามาเรียบร้อย ภายในห้องขนาด 30 ตารางเมตร มาพร้อมหน้าต่างที่มองออกไปเห็นวิวของปาร์คและเครื่องเล่นได้แบบกรุบกริบ มีเตียงนอนหนานุ่มไซซ์ใหญ่ 2 เตียง ที่ก๊อตพิสูจน์แล้วว่านอนหลับสบายมาก ส่วนตามมุมห้องตกแต่งด้วยโปสเตอร์หนังชื่อดังตามคอนเซ็ปต์ของโรงแรม และที่น่ารักเลยคือเค้ามีมาการองลายการ์ตูนน่ารักๆ และถ้วยใส่ผลไม้สดต้อนรับเราอีกด้วย ในส่วนของห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและแห้งออกจากกันชัดเจน โดยกั้นกลางเอาไว้ด้วยมุมล้างหน้าขนาดกำลังดี ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้งของใช้ในห้องน้ำ ตู้เย็นเล็ก เครื่องปรับอากาศ มินิบาร์ ไปจนถึง wi-fi ฟรีอีกด้วย
และที่ก๊อตชอบมากคืออาหารเช้าของเค้า เพราะที่ The Universal Studios Grand Hotel อาหารเช้าละลานตาเว่อร์ โดยห้องอาหารของที่นี่ชื่อว่า The Lotus Garden ภายในเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับบ้านที่มาพักกันเป็นครอบครัวมาก ซึ่งเมนูอาหารจะถูกตั้งรวมเอาไว้ตรงกลางของห้อง และที่ก๊อตบอกว่าอาหารเค้าละลานตา อันนี้ไม่เกินจริง เพราะมีครบทั้งอาหารจีน อาหารฝรั่ง ไปจนถึงบาร์เครื่องดื่ม และขนมที่ตอนก๊อตไปเป็นช่วงเทศกาลฮาโลวีน เค้าเลยมีเหล่าตัวละครจากเรื่องมินเนี่ยนที่แต่งชุดฮาโลวีนมามีทแอนด์กรี๊ดกับเราด้วยนั่นเอง น่ารักสุดๆ
ทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงคิดว่าโรงแรมเค้าเริ่ดมากแล้วใช่ไหม แต่ยังมีอีก เพราะใครที่เข้าพักใน The Universal Studios Grand Hotel จะได้รับสิทธิพิเศษเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการได้ถ่ายรูปกับตัวละครที่จะมารอเราในห้องอาหารตั้งแต่เช้าตรู่ สิทธิ์ในการซื้อสินค้าที่สโตร์ด้านล่างของโรงแรม รวมไปถึงยังได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าสวนสนุกก่อนเวลาถึง 1 ชั่วโมงผ่านทางทางเข้า Universal Studios Beijing VIP Experience อีกด้วย ก๊อตบอกเลยว่าการเข้าพักที่ The Universal Studios Grand Hotel เป็นอะไรที่สุขใจและสะดวกสบายสุดๆ แล้ว เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงประตูทางเข้าปาร์คเลย เริ่ดมาก
สรุปการมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort)
และนี่ก็คือภาพรวมทั้งหมดในการมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ของก๊อต และเป็นการมาเที่ยวครั้งแรกที่ก๊อตบอกเลยว่าประทับใจมาก อย่างแรกเลยคือพื้นที่ของปาร์คที่ยิ่งใหญ่เดินกันจนขาลากจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ปาร์คปิด แถมแต่ละโซนก็เล่นใหญ่จัดเต็มทั้งพวกฉาก พร๊อพ มุมถ่ายรูป ทุกอย่างล้วนถอดแบบมาจากหนังเรื่องดังของเค้าได้สมจริงจนเหมือนตัวก๊อตหลุดเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวละครด้วยเลย อย่างโซน Kung Fu Panda Land of Awesomeness ที่มีที่แรกและที่เดียวในโลก โซน Minion Land ที่เค้าเซตเมืองมาแบบยิ่งใหญ่เกรียงไกรสุดๆ โซน The Wizarding World of Harry Potter™ โลกแห่งเวทมนตที่ให้ฟีลเหมือนเราอยู่ในหนังแฮรี่ พอตเตอร์จริงๆ นอกจากนี้ยังมีโชว์ที่ก๊อตประทับใจมากทั้ง WaterWorld Stunt Show, Lights Camera Action! และ Untrainable ที่จัดเต็มทั้งผู้คน พร๊อพ และเอฟเฟ็คแบบตระการตาเลยทีเดียว
สุดท้ายที่ทำให้การมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ของก๊อตมันคอมพลีทขั้นสุดคือการเข้าพักโรงแรมของเค้า ที่มันสะดวกสบายสุดๆ เพราะตั้งตระหง่านอยู่บนประตูทางเข้าปาร์ค แถมภายในยังตกแต่งด้วยธีมจากหนังเรื่องต่างๆ มาพร้อมกับตัวละครที่จะมาทักทายในยามเช้าแบบใกล้ชิดอีกด้วย ทั้งหมดนี้มันเลยทำให้ ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) ครั้งแรกของก๊อตนั้นคอมพลีทสุดๆ เอาเป็นว่าใครมาเที่ยวปักกิ่งแล้ว อยากให้แวะเวียนมาตามรอยกัน บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสวนสนุกที่ครบเครื่องทั้งความน่ารัก ความตื่นเต้น และความหวาดเสียวเอาไว้ในที่เดียวเลยล่ะ