รีวิว ลี่เจียง (Lijiang) เที่ยวจีน ต้องเที่ยวให้สุด!

ลี่เจียง (Lijiang) นี่ถือเป็นเมืองเริ่มต้นของทริป ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Lijiang – Shangri La – Meili Snow Mountain) ทริปนี้เลยเด้อ หลายคนอาจจะงงว่าทำไมมาโผล่เมืองลี่เจียงเลย คุณหมิง (Kunming) กับต้าหลี่ (Dali) หายไปไหน คือเวลาเที่ยวของทริปนี้ค่อนข้างจำกัดเว่อร์ แถมส่วนตัว นี่คิดว่าคุณหมิงยังไม่ค่อยมีอะไรมากเท่ากับลี่เจียงและแชงกรีล่า นี่เลยตัดสินใจลัดข้ามขั้นตอนบินจากคุณหมิงมาโผล่นี่เลยจ้าา 5555555

ถามว่าลี่เจียงดีมั้ย? ตอบเลยว่าดีมาก และยิ่งมารวมกับ แชงกรีล่า (Shangri-la) มันทำให้เราหลงรักการมาเที่ยวจีนมากสุดๆ ธรรมชาติสวย สถานที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และภาพจำของทริปนี้ยังคงไม่ลืมจนถึงตอนนี้ เอ้ออ เกริ่นมาแบบเว่อร์ๆมั้ยล่ะ เอาเป็นว่า .. มาลองอ่านกันดูว่ามันจะดีมั้ย จากนั้นตัดสินใจเอาเลยว่าจะไปหรือไม่ไป ฮี่ฮี่ เริ่ม!

ทริปยูนนาน ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ภูเขาหิมะเหม่ยลี่

สำหรับทริปจีน ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Lijiang – Shangri La – Meili Snow Mountain) ทริปนี้ ก๊อตใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน โดยบินจากกรุงเทพไปคุณหมิง แล้วต่อเครื่องไปลี่เจียง เพื่อไปเที่ยวต่อที่นั้นเลย เวลามันมีจำกัดม๊ากก เสียดายที่ยังไม่ได้เก็บเมืองคุณหมิงและต้าลี่ก่อน ฮือ .. เอาเป็นว่าทริปนี้ เราจะแบ่งรีวิวออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกัน เรียงตามนี้เลยเด้อ

1. รีวิว ลี่เจียง (Lijiang)
2. รีวิว แชงกรีล่า (Shangri-La)
3. รีวิว ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountain) กำลังเขียน

และนี่ขอแถมทริปจีนอีกทริปล่าสุดที่ได้ไปมาก่อนหน้าทริปยูนนาน (Yunnan) นี้ ทริปมณฑลเหอหนาน (Henan) คือ เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคฟง (Zhengzhou – Louyang – Yuntaishan – Kaifeng) ซึ่งเป็นทริปแรกที่ได้ประเดิมจีนเลย หากใครสนใจ หรือกำลังวางแพลนทริปในมณฑลเหอหนานอยู่ มาตามอ่านได้เล้ย

4. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou) กำลังเขียน
5. รีวิว ลั่วหยาง (Louyang) กำลังเขียน
6. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) กำลังเขียน
7. รีวิว ไคฟง (Kaifeng) กำลังเขียน

การจองโรงแรม / ที่พักในจีน

เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินรวมถึงโรงแรมในประเทศจีน ส่วนตัวนี่จะใช้เว็บ Trip.com ในการจองเกือบซะส่วนใหญ่ เพราะ Trip.com มันเป็น Online Travel Agency (OTA) ของจีนไง ทีนี้คือราคาตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม จะมีราคาโปรที่ถูกกว่า OTA เจ้าอื่น รวมถึงตัวเลือกโรงแรมนั้นมีให้เลือกเยอะโครตๆ มากกว่าเว็บ Agoda, Booking และ Expedia มาก ยังไงต้องลองเทียบราคากันดูวันอันไหนถูกกว่ากันเนอะ // ตอนจองโรงแรม นี่เทียบหลายเว็บมาก

เรื่องหนึ่งที่ต้องระวังสำหรับใครที่จองโรงแรมราคาถูกมากๆ โรงแรมพวกนี้บางเจ้าเค้าไม่มีใบรับอนุญาตการให้เข้าพักของคนต่างชาติด้วยนะ ถามว่าเราจะเช็คได้มั้ยว่าต่างชาติ สามารถเข้าพักได้หรือเปล่า จริงๆมันเช็คเองไม่ได้ แนะนำให้ดูรีวิวของโรงแรมในเว็บ OTA ว่ามีชาวต่างชาติรีวิวมั้ย ถ้ามี .. แสดงว่า คนต่างชาติน่าจะพักได้เกือบ 100%

ก๊อตขอยกเคสตัวเองเลยแล้วกัน คือ เคยจองที่พักในเมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) กับเว็บ Trip.com วันถัดมา มีโทรศัพท์จากโรงแรมที่จีนโทรมาถามเลยว่า ‘ยูเป็นคนชาติอะไร?’ ซึ่งเค้ารับคนบางประเทศเข้าพักด้วย ซึ่งตอนนั้นบอกไป ‘ไทยแลนด์’ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร และมีอีกครั้งที่จองอีกโรงแรม มีคนจาก Trip.com โทรมาเลยว่า โรงแรมนี้ไม่รับต่างชาติ ให้เราหาโรงแรมอื่น ซึ่งทีมซัพพอร์ต Trip.com ก็ค่อนข้างดีพอสมควร (ที่นี่ Support พูดภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ที่พักในลี่เจียง (Lijiang)
Lijiang Hemuju Inn

ใครที่มาเที่ยวลี่เจียง นี่อยากแนะนำโรงแรมนี้มาก ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อได้ไปพักแล้วได้เจอลูกเจ้าของโรงแรมที่ชื่อ ‘ลินดา (Linda)’ ที่เค้าคอยพยายามและช่วยเหลือเรา ในเรื่องของการจัดการแท็กซี่มารับเราที่สนามบิน การหาทัวร์ไปเที่ยว ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ด้วย และนางเป็นคนเดียวในโรงแรมที่พูดภาษาอังกฤษได้ บอกเลยว่าโคตรดีย์ และเราประทับใจมาก // เอาจริง คือหาคนพูดภาษาอังกฤษด้วยยากมาก แต่นางทำให้ทริปในลี่เจียงง่ายขึ้นเยอะ 555555555

โลเคชั่นของ Lijiang Hemuju Inn นั้น มันจะซ่อนหลืบอยู่ใน ย่านเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town) หน่อยๆ ทำเลถือว่าใช้ได้ อาจจะทุลักทุเลตอนวันมาเช็คอินกับวันเช็คเอาท์หน่อยๆ ถ้าเราลากกระเป๋าใบใหญ่มา เพราะพื้นในย่านเมืองเก่าคือมันเป็นหินแล้วมีความขรุขระ อาจจะต้องลากกันเหนื่อยหน่อย 55555

ส่วนเรื่องห้องพักนั้นโอเคตามมารตฐาน มาเป็นสไตล์จีนๆแบบยูนนาน มีอาหารเช้าสไตล์พี่จีนให้ อาจจะไม่ได้ฟู่ฟ่า แต่มันโอเคนะ 555 (คือมันก็โอเคตามราคาป่ะ) อีกเรื่องคือ ให้เราขึ้นไปดูวิวด้านบนของที่พัก หากฟ้าใสๆ ไม่มีเมฆ เราจะเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้ชัด คือสวยโคตร กรี๊ด

ทีนี้ ถ้าถามว่าแนะนำมั้ยกับโรงแรมนี้ .. เออ เราแนะนำ มันโอเค ส่วนเรื่องทัวร์เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)  เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากัน

การเข้า/ออกจากเมืองลี่เจียง

การมายังเมือง ลี่เจียง (Lijiang) นั้น หลักจะมีอยู่ 3 วิธี คือ รถบัส รถไฟ และเครื่องบิน ทีนี้ ถ้าเรานับเวลาโดยการมาจากเมืองคุณหมิงนั้น แต่ละแบบก็จะทำเวลาๆไม่ต่างกันมาก ประมาณ 7-10 ชั่วโมง ยกเว้นเครื่องบินที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้นเด้อ สำหรับใครที่ต้องการประหยัดที่นอนไปหนึ่งคืน สามารถมาโดยวิธีการนั่งรถบัส หรือรถไฟตอนกลางคืนได้ นอนยาวๆ แล้วพร้อมเที่ยวลี่เจียงในวันถัดไป

ส่วนตัวก๊อตนั่น นั่งเครื่องบินตรงมาจากคุณหมิงเลย เพราะต้องการทำเวลาแบบรวดเร็ว ขี้เกียจนอนในรถนานๆ ตอนนั้นได้ราคาประมาณ 1,456 บาท/คน จากสายการบิน China Eastern Airlines โดยการจองจาก Trip.com นี่แหละเด้อ ราคามันก็โอเคสำหรับเราอยู่นะ ไม่ได้แพงเว่อร์วังอะไรขนาดนั้น ส่วนการเดินทางจากสนามบินมายังโรงแรม แนะนำให้ลองติดต่อโรงแรมเราดูว่า เค้าสามารถหาคนมารับได้มั้ย ซึ่งที่พักก๊อตเอง Lijiang Hemuju Inn ได้หามาให้ในราคา 80 หยวน เทียบกับราคาที่รีเสิร์ชมาในเน็ต ราคานี้ถือว่ามาตรฐาน แถมได้รถแคมรี่แบบส่วนตัวอี๊กก ไม่ใช่แท็กซี่ธรรมดานะเออ ยังไงลองถามราคาอยู่ อย่าให้มันเกินนี้

ทัวร์เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

สำหรับเรื่องทัวร์เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกนั้น นี่ได้ถามไปยังที่พักก่อนไปถึงว่ายูมีทัวร์ให้นี่มั้ย? ซึ่งลินดา นางตอบว่ามีสิ๊ โดยเสนอมาในราคา 450 หยวน/คน และถ้าเราจะดูการแสดง Impressions Lijiang Show จะมาในราคา 580 หยวน/คน ซึ่งแพ็คเกจนี้ไม่ใช่ทัวร์ส่วนตัว มันจะมีคนร่วมทริปกับเราประมาณ 4-5 คนโดยนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งทัวร์ในที่นี้คือ เค้าจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการหาซื้อตั๋วให้เราหมด ไปรับ-มาส่งที่โรงแรม เตรียมเสื้อโค้ท + กระป๋องอ็อกซิเจนให้ และอาหารกลางวันง่ายๆ ตอนเดินเที่ยวสามารถแยกย้ายต่างคนต่างเดินได้ ซึ่งเค้าจะนัดจุดนัดพบกันอะไรประมาณนี้

จากราคาทัวร์ 580 หยวน ถ้าเราไปเองเต็มหนึ่งวัน แบบไม่ใช้ทัวร์ ราคาจะเท่าไหร่ ลองคิดดูตามนี้

1. ค่าเข้าเขตภูเขาหิมะมังกรหยก – 100 หยวน
2. ค่าดูโชว์ Impressions Lijiang Show – 280 หยวน
3. ค่ารถบัสตอนขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ – 20 หยวน
4. ค่าขึ้นกระเช้าใหญ่ Glacier Park – 120 หยวน

บวกกันไป บวกกันมา เอ้ออ ทัวร์แม่งถูกกว่าจริง นี่ยังไม่รวมค่ารถนู่นนี่นั่นด้วยนะ ดังนั้น .. ไปทัวร์เถอะแกร๊ ชีวิตมันจะง่ายขึ้นเยอะโว้ย ยกเว้นอย่างเดียวการสื่อสาร ซึ่งคนที่พาเราไปนั้น พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ต้องแอดคุยกันผ่าน WeChat ซึ่งแอพมันแปลภาษาให้อัตโนมัติ เตรียมโหลดแอพ WeChat ไว้ได้เลยจ้า มันมีไว้ใช้กันตายในเรื่องการสื่อสารได้จริงๆเว้ย

ข้อมูลแน่นแล้ว มาเที่ยวกันเถอะ!
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

หลังจากคนในโรงแรมพาเรามาเจอกับไกด์ที่จะพาเราไปเที่ยววันนี้ อย่างที่บอกคือ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ใช้การสื่อสารผ่านแอพ WeChat จากนั้นนางก็เริ่มขับรถไป ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ระหว่างทาง เค้าก็จะรับเสื้อโค้ท กระป๋องอ็อกซิเจน และคนที่จะไปทริปนี้กับเราด้วย นับรวมนี่ด้วยทั้งหมดประมาณ 7 คน ทั้งหมดคือวัยรุ่นจีนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เช่นกัน ส่วนรถยนต์ SUV ที่ใช้มารับนั้น คือแน่นไปเลย 5555

ที่แรกที่เราจะเที่ยวกันเป็นที่แรกคือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่นั้นคือแม่น้ำที่ไหลลงมาจาก ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) กับน้ำสีเทอร์ควอยซ์ใสปิ้ง กับแบล็คกราวด์ด้านหลังที่เป็นภูเขาหิมะสวยๆ โชคร้ายไปหน่อย วันที่ได้ไปเที่ยวนั้น ท้องฟ้าไม่ค่อยเปิดเท่าไหร่ เมฆนี่บังภูเขาไปหมดเลยจ้าาาา

ทีนี้การจะเข้าไปยังจุดแม่น้ำตรงนั้น เค้าจะมีรถไฟฟ้าให้เรานั่งไปด้านใน โดยที่เราไม่ต้องเดิน แต่ Hop on and off ตามแต่ละจุด แน่นอนว่าเสียตัง แต่เราไม่รู้ว่ามันเท่าไหร่ เพราะไกด์เค้าเอาตั๋วมาให้เลย เพราะราคามันรวมอยู่ในทัวร์แล้ว

คนที่นี่เค้าเรียกแม่น้ำตรงนี้ว่าเป็น แม่น้ำแห่งความรัก ด้วยนะ คือ ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อน คือแม่น้ำมันเป็นหิมะที่ไหลมาจากภูเขาหิมะไง ทีนี้มันก็ยังเย็นเฉียบอยู่จนคนเราๆนั้น ไม่สามารถทนความเย็นนั้นได้ ทีนี้เนี่ย เค้าบอกว่า ถ้าหนุ่ม-สาว ที่ได้ตกหลุมรักกัน ผู้ชายเค้าจะมายืนเท้าเปล่าในแม่น้ำที่นี่ เพื่อแสดงความรักแก่ผู้หญิง เนี่ยแหละ เค้าเชื่อกันว่า การทดสอบความรักต่อหน้าภูเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ จะทำให้ความของสองคนยืนยงยาวนาน .. ซึ่งถ้าใครอยากลองทำเพื่อโชว์ความรัก เรียนเชิญเด้อ 5555555555

ที่นี่เค้าเป็นสถานที่ฮิตในการถ่ายพรีเวดดิ้งของคนจีนเลยนะ วันที่ได้ไปเที่ยววันนั้น คือมีคู่รักมาถ่ายที่นี่เยอะมากกก เยอะแบบหลายคู่เลยแกร๊

แม่น้ำมันแยกออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ แต่ละส่วนเราก็นั่งรถกอล์ฟไฟฟ้าได้เลย สบายโคตร ระหว่างทางเดินแต่ละส่วน เราก็สามารถเดินมาเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละจุดมันก็จะมีจุดพีคๆ สวยๆ ให้เราได้ชม บอกเลยว่าสวยมากกกกก และนี่ขอยกเป็นอีกไฮไลท์ที่ต้องมาจริงๆ

การแสดง Impressions Lijiang Show

เสร็จจากการเดินเล่นแม่น้ำใน หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) แล้ว ไกด์เค้าจะพาเรามารอดู โชว์การแสดง Impressions Lijiang Show ซึ่งนี่งงมากคือ ไม่มีคนจีนคนไหนที่มากับเราในทัวร์มาดูโชว์นี้เลย เออ .. งงป่ะล่ะ ไม่รู้เพราะว่ามันแพง หรือมันไม่ดี หรือยังไง ใจก็เริ่มหวั่นๆ เอาเป็นว่า .. เสียตังค์แล้วก็ต้องดูสิวะ แพงด้วย คิดเป็นเงินไทยนี่ พันกว่าบาทเลยนะคะ

การแสดง Impressions Lijiang Show นี่ถือเป็นโชว์แบบโอเพ่นแอร์ที่สเกลใหญ่ที่สุดในจีนเลยนะ บอกเลยว่ายิ่งใหญ่ กับฉากผาหินสีแดง มีแบล็คกราวด์ฉากเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก โดยการแสดงจะร้องเพลง เต้น และแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมตามคัมภีร์ตงปา (Dongba) ของชาวน่าซี (Naxi) คนพื้นเมืองลี่เจียงที่นี่ รวมถึงการแสดงเกี่ยวกับเส้นทางขนส่งใบชาโบราณ หรือ Ancient Tea Horse Road ที่เมืองลี่เจียงก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของเส้นทางนี้

เอ้อ อ่านพล็อตโชว์แล้วมันอาจจะดูน่าเบื่อป่ะ เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องผู้คนท้องถิ่น ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่นี่อยากจะบอกว่าแสดงนี้มันโคตรดีย์ และคุ้มค่า คุ้มราคากับที่จ่ายไปมาก นอกจากความอลังการของฉากแล้ว ชาวบ้านที่แสดง การร้องเพลง เต้นรำ คือแม่งพีคมากจริง มันยิ่งใหญ่ขนาดที่ว่านี่น้ำตาไหลคลอไปกับการแสดงอ่ะ คือมันไม่ได้ซึ้งน้ำตาไหล และมันเอิบอิ่มเพราะทุกอย่างมันเพอร์เฟ็คและลงตัวมากจริงๆ

ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ แล้วกำลังลังเลว่าจะดูการแสดงดีมั้ย เพราะค่าเข้าดูโชว์แม่งก็แพงอยู่ นี่จะบอกว่า .. เข้าไปดูเถอะ เสียตั๋วค่าเข้ามาในเขตภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) แล้ว มันน่าเสียดายถ้าเราจะไม่ได้ดูการแสดงของเค้าด้วย เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว เราอาจจะได้มาเที่ยวที่นี่แค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้นจริงๆ

ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

และจุดหมายปลายทางที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของวันนี้ก็มาถึงเด้อ นั่นคือการขึ้นไปยังเทือกเขา ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) นั่นเอง ซึ่งเทือกเขานี้ถือเป็นธารน้ำแข็งที่อยู่ใต้สุดของซีกโลกเหนือ มีความยาวกว่า 35 กิโลเมตร วางทอดตัวยาวท่ามกลางกลุ่มเมฆ จนคนจีนเค้าตั้งชื่อเรียกเป็นมังกรนั่นเอง อีกเรื่องหนึ่งคือ ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) นี่ถือเป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่คนที่นี่เค้าเคารพบูชามากโดยเฉพาะชาวน่าซี (Naxi) ที่เป็นคนพื้นเมืองลี่เจียง โดยเฉพาะเกี่ยวกับตำนานของภูเขาเทือกนี้ รวมถึงสมัยก่อน ยังเป็นสถานที่ในการสังเวยตัวเองเพื่อพิสูจน์แก่รักแท้ และเป็นที่หลบหนีของการถูกบังคับจับคู่แต่งงานของคนสมัยก่อนอีกด้วย

คนต่อแถวกันขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังด้านบนเทือกเขาเยอะม๊าก เพราะนี่คือจุดที่คนจีนเค้ามาเที่ยวกันตรงนี้นี่แหละ ขึ้นกระเช้ามาใช้เวลาซักพักก็มาถึงด้านบน ซึ่งคนก็เยอะมากเช่นกัน และที่เสียดายมากขึ้น ฟ้าเน่าสุด คือเมฆเยอะ ฟ้าไม่ใส ทำให้มองอะไรม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ แงงงงง

ทีนี้ เราสามารถเดินฟรีสไตล์ตามแนวทางเดินได้เลย ถ้าใครคิดว่ามันจะลำบากล่ะก็ จะบอกว่ามันไม่ลำบาก ทางเดินเค้าทำมาโคตรดี แข็งแรงบึกบึน เท้านี่แทบไม่ย่ำหิมะเลยจ้า ฮ่าๆ แต่ที่ห่วงที่สุดคือความหนาว ซึ่งนี่อยากบอกว่า ให้เตรียมตัวมาดี คือแม่งหนาวจริง แล้วถ้าเราเตรียมตัวเรื่องชุดแต่งกายมาไม่ดีพอ คือไม่ไหวแน่นอน อีกเรื่องคือ กระป๋องอ็อกซิเจน ที่อยากให้เตรียมมาด้วย เพราะด้านบนอากาศเบาบางมาก ตอนไหนที่เหนื่อย เอากระเป๋าอ็อกซิเจนมาสูด คือช่วยได้เยอะ ดังนั้น เตรียมตัวดีๆเด้อ

ด้วยความที่ฟ้าปิด และมองอะไรไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ เดินไปเรื่อยๆ วิวแทบจะมองไม่เห็น ซึ่งถ้าวันนั้นโชคดี ฟ้าเปิด คือมันต้องสวยโคตรแน่ๆ สุดท้าย ตัวเองเลยรู้สึกประทับที่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) มากกว่า เพราะถึงแม้ฟ้าจะปิด แต่คือเรายังมีแม่น้ำสวยๆให้ดู 5555555555

ใช้เวลาพักหนึ่ง ไกด์ก็ WeChat มาถามว่าอยู่ไหน ให้เราลงมาได้แล้ว เพราะคนจีนคนอื่นที่มาทัวร์ด้วยกันรออยู่ที่รถหมดแล้ว 555555555 จากนั้นนี่ก็เลยรีบหาทางลงและไปหาไกด์ที่รถเพื่อกลับมายั่งเมืองลี่เจียงนั่นเอง

ทั้งหมดตั้งแต่ต้นของรีวิวนี้ สามอย่างที่ได้ทำตั้งแต่การเที่ยว หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley), การแสดง Impressions Lijiang Show และ ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) นี่ใช้เวลาเกือบทั้งวันแล้ว ถ้าใครทำเวลาดี ที่นี่มันยังมีกระเช้าเล็กอีกสอง หรือสามแห่งให้เราได้เที่ยวอีก เสียดายมากที่เวลาไม่พอ ไม่งั้นจะเที่ยวให้ครบหมด 555555555

ย่านเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town)

ตื่นเช้ามากับวันใหม่ที่วันนี้เราจะเที่ยวแบบชิลๆในตัว ย่านเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town) ก่อนที่เราจะนั่งรถไปยัง แชงกรีล่า (Shangri-la) ในตอนบ่ายแก่ๆ ซึ่งถ้าให้พูดถึงที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองลี่เจียง นอกจากภูเขาหิมะมังกรหยกแล้ว ที่นี่นี่แหละเว้ยยย ‘เมืองเก่าลี่เจียง’ ของชนพื้นเมืองน่าซี (Naxi) ที่มีมาตั้งแต่ราชวงศ์ซ่ง และถูกรักษามาอย่างดิบดีจนถึงปัจจุบัน และได้ขึ้นทะเบียนกลายเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เป็นที่เรียบร้อย

เอาจริง นี่ก็รีวิวไม่ค่อยถูกว่าเหมือนกันว่าจะเดินอะไรยังไง เพราะมันกว้างโคตรๆ แล้วนี่ก็เดินมั่วมาก โอ้ย 5555555 // เอาเป็นว่า เริ่มแรก .. นี่เริ่มเดินจากแถว Bai Long Culture Square แล้วก็เดินมาทางซ้ายเข้าสู่ตรอกซอกซอยในย่านเมืองเก่า ซึ่งระหว่างทางก็ได้เจอทั้งวัด Baima Longtansi (นี่คือชื่อจาก Google Map ลองเซิร์จอิงจุดบนแผนที่ได้) แบบบังเอิญ

นี่ก็เดินเข้าไปแบบมั่วๆ แล้วคือได้เซอร์ไพรส์ของความเรียบสงบของตัววัดที่มีบ่อปลาขนาดใหญ่ ต้นไม้ร่มรื่น นอกจากนี้ หน้าวัดยังมีบ่อซักผ้าที่ชาวบ้านเค้าเอาเสื้อผ้ามาซัก ซึ่งฟีลนี้คือมันดีย์โคตรๆ เหมือนได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่นี่จริงๆ

นี่ใช้เวลาเดินเล่นในย่านเมืองเก่าค่อนข้างเยอะพอสมควร เดินไปเรื่อยๆตามตรอกซอกซอยผ่านภาพบรรยากาศของเมืองเก่าลี่เจียง โดยรวมคือ ไม่น่าเบื่อ และมีอะไรให้เราสังเกต ดู และเรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นี่ได้ตลอดเวลา โอ้ยยย ชอบมาก

หลังจากเดินย่านเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town) เสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับโรงแรมที่อยู่ในย่านนี้ด้วยเช่นกัน เดินออกมาอย่างทุลักทุเลจากย่านเมืองเก่าเช่นเคย เพราะพื้นทางเดินเป็นหิน ไม่ได้เรียบแปล้เหมือนถนนรถเดิน 5555555 สุดท้าย มาจนถึงด้านนอกนี่ก็เดินกันไปต่อกับ ท่ารถบัสลี่เจียง (Lijiang Passenger Transport Terminal / คลิกดูแผนที่ใน Google Map) เพื่อไปยังเมืองต่อไปนั่นคือ แชงกรีล่า (Shangri-la) นั่นเองเด้อ

รีวิวเที่ยวจีนยังไม่หมดเท่านี้ 🇨🇳❤️
เที่ยวจีนให้เยอะขึ้นอีกจากรีวิวจีนด้านล่างนี้ได้เลย

ปีนี้เป็นปีที่ได้มีโอกาสเที่ยวจีนเยอะมาก คือไปได้ประมาณ 3-4 รอบในหนึ่งปี และมีแพลนว่าจะได้ไปอีก นี่เลยเริ่มทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ตามรอยกันได้ง่ายขึ้นเนอะ ส่วนตัวบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจประเทศจีนมากพอควร ธรรมชาติเว่อร์วังอลังการ เมืองใหญ่ก็เจริญขั้นสุด การเที่ยวประเทศจีนทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา เอาเป็นว่า ก๊อตจะทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เนอะ

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025

⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)>  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)> ส่วนลด Klook (คลุก)> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)