โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025

โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025

ใครแพลนมาเที่ยวปารีส (Paris) เพื่อมาดูความเว่อร์วังของหอไอเฟลและความยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศส แต่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าพักในย่านไหนดี ที่นอกจากจะตอบโจทย์เงินในกระเป๋าและงบเที่ยวของเราแล้ว ยังต้องปลอดภัยเดินทางง่าย และไม่ไกลจากที่เที่ยวมากนัก รีวิวที่พักปารีสหน้านี้มีคำตอบที่ยกออกมาจากเตามาเสิร์ฟให้แบบร้อนๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งก๊อตได้คัดเอา 5 ย่าน ในปารีสมาให้ได้เลือกเข้าพักกัน ซึ่งแต่ละย่านนั้น จะมีความพิเศษ กิ๊บเก๋ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าไวบ์ของย่านไหนตอบโจทย์ทุกคนได้มากที่สุด เอาเป็นว่าลองจิ้มเลือกจากข้อมูลด้านล่างได้เลยนา 

ปารีส (Paris) เป็นอีกเมืองท็อปลิสในยุโรปของใครหลายๆ คนเลย โดยเฉพาะแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง หอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่ก๊อตเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยและเห็นหน้าตาของเค้าผ่านทางภาพหรือฉากในหนังมานักต่อนัก โดยปารีสนั้นเค้าเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ – กลางของประเทศ นอกจากจะมีไอคอนิกอย่างหอไอเฟลแล้ว ที่นี่ยังเลื่องลือเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบออริจิ รวมถึงยังมีพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ที่จัดแสดงผลงานนับพันชิ้น, ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ประตูชัยปารีส’ ได้ชื่อว่าเป็นประตูชัยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ยังมี พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) อยู่อีกด้วย ก๊อตบอกเลยว่าปารีสนี่โครตดีจนต้องขอยกให้เป็นเมืองแรกๆ ที่ใครอยากมาเที่ยวในยุโรปควรค่าแก่การมาเที่ยวมากๆ เลยล่ะ

Go to top

แนะนำย่านที่พักและโรงแรมในปารีส (Paris)

คนที่กำลังหาที่พักในปารีส (Paris) ก๊อตจะแนะนำให้พักใน ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais), ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés), ย่านละติน (Latin Quarter), ย่านช็องเซลีเซ่ (Champs-Élysées/8th Arrondissement) และย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) เนื่องจากทั้ง 5 ย่านนี้ มีขนส่งสาธารณะอยู่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น รถไฟใต้ดิน (Paris Metro) รถประจำทาง ไปจนถึงรถราง ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งเมือง นั่นทำให้เราสามารถเดินทางเที่ยวไปใน 5 ย่านนี้ได้อย่างสะดวกสบาย 

โดยแต่ละย่านเค้าก็จะมีไวบ์ที่ต่างกันออกไป อย่างย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) เค้าขึ้นชื่อว่าเป็น “Soho” แห่งปารีส เพราะขึ้นชื่อในเรื่องของห้องแสดงผลงานศิลปะและร้านขายของจากดีไซน์เนอร์อยู่มากมาย, ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) อันนี้ฟีลย่านสุดเก๋าซึ่งเป็นที่ตั้งของสารพัดร้านกาแฟและร้านไวน์เก่าแก่, ย่านละติน (Latin Quarter) ย่านศูนย์กลางของเหล่านักเรียน นักศึกษา อีกทั้งยังเคยเป็นย่านที่ใช้ภาษาละตินพูดคุยกันส่วนใหญ่อีกด้วย, ย่านช็องเซลีเซ่ (Champs-Élysées/8th Arrondissement) อันนี้จะมีกลิ่นอายความคึกคักขึ้นมาหน่อยเพราะเต็มไปด้วยโรงละคร ร้านกาแฟ และร้านค้าลักชูอยู่เพียบ สุดท้ายกับย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) ย่านที่เห็นหอไอเฟลได้แบบอลังเว่อร์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะเลือกเข้าพักตามสะดวกและตอบโจทย์กับตัวเองได้เลย โดยก๊อตได้บอกรายละเอียดรวมถึงข้อมูลของแต่ละย่านไปจนถึงที่เที่ยวในย่านนั้นๆ มัดรวมมาให้แล้วตามด้านล่างนี้  

โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025

Go to top

1. ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) สำหรับสายลักชู บรรยากาศผู้ดี๊ผู้ดี

ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) ตั้งอยู่ในเขตที่ 3 และ 4 ของปารีส ถือย่านที่เรียกได้ว่าเป็นดงผู้ดีในปารีสเลยก็ว่าได้ ใครอยากพักท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกรายล้อมไปด้วยอาคาร และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายของความทันสมัย แนะนำให้จิ้มมาพักย่านนี้ได้เลย โดยคำว่า ‘Le Marais’ นั่นหมายถึง ‘บึง’ ซึ่งในอดีตพื้นที่ของย่านนี้เป็นที่ลุ่มน้ำ ก่อนจะมีการพัฒนาพื้นที่จนกลายมาเป็นเขตชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 17 จนถึงตอนนี้ และยังเป็นย่านที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นย่านชาวยิว และยังเป็นศูนย์กลางของชุมชน LGBTQ+ ของปารีสอีกด้วย โดยย่านแห่งนี้มีคฤหาสน์เก่าแก่อยู่หลายแห่ง อย่างเช่น Hôtel de Sully และ Hôtel de Soubise คฤหาสน์ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิกและบาโรก นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวน่าไปๆ อยู่อีกเพียบทั้ง อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว (Shoah Memorial), จัตุรัสปลาซ เดส์ โวชส์ (Place des Vosges) และถนนโรซิเยส์ (Rue des Rosiers) รวมถึงยังมีอีกหลายมิวเซี่ยมให้เราเที่ยวชมทั้ง พิพิธภัณฑ์การ์นาวาเลต์ (Musée Carnavalet), พิพิธภัณฑ์ปิกาสโซ (Musée National Picasso) และ ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌ ปงปีดู (Centre Pompidou) อยู่ด้วย ซึ่งทุกวันนี้ ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) เค้ายังอนุรักษ์สถานที่เที่ยว สถาปัตยกรรม ไปจนถึงพวกคฤหาสน์เหล่านี้เอาไว้เป็นอย่างดี ดังนั้น ใครที่มาพักย่านนี้รับรองว่าจะได้เต็มอิ่มไปกับความเมืองเก่าแบบหนำใจมาก

สำหรับการเดินทางภายใน ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) นั้นสะดวกมาก เพราะมีรถไฟใต้ดินครอบคลุมอยู่หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสาย 1, สาย 8 และสาย 11 โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่สำคัญของย่านได้แก่ St. Paul’s Underground Station, Hôtel de Ville Station และ Bastille Station โดยทุกคนสามารถเดินทางไปรอบๆ ย่านด้วยรถไฟใต้ดินได้เลย

แนะนำที่พักและโรงแรม ย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais)

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (10,000 ++ บาท/คืน):
    • Maison Proust, Hotel & Spa La Mer
      ถ้าจะมีโรงแรมไหนที่สามารถพาเราเข้าสู่โลกของศิลปะและวรรณกรรมไปพร้อมๆ กับความหรูหราได้ Maison Proust คือที่ที่ไม่ควรพลาด โรงแรมแห่งนี้ตั้งชื่อตาม Marcel Proust นักเขียนชื่อดังชาวฝรั่งเศส และตกแต่งในสไตล์ Belle Époque ที่หรูหราแต่ยังอบอุ่น มีความวินเทจแบบชิคๆ จุดเด่นที่สุดคือ Le Spa La Mer ที่เป็นการร่วมมือระหว่างแบรนด์สกินแคร์ระดับโลกอย่าง La Mer กับโรงแรมหรูแห่งนี้ มาพร้อมสระน้ำอุ่นแบบฮัมมัมและบริการทรีตเมนต์สุดพรีเมียม บอกเลยว่าถ้าอยากสัมผัสปารีสในแบบวรรณกรรมและความลักชูไปพร้อมกัน ที่นี่ตอบโจทย์สุดๆ
    • Le Pavillon de la Reine
      โรงแรมบูทีคสุดลับที่ซ่อนตัวอยู่ใน Place des Vosges หนึ่งในจัตุรัสที่สวยที่สุดในปารีส แค่ทางเข้าก็เหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ ด้วยตัวอาคารที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถาไอวี่ให้ฟีลยุโรปสุดๆ โรงแรมนี้เคยเป็นที่พักของสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งออสเตรีย และทุกวันนี้ยังคงความคลาสสิกแบบราชวงศ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ไฮไลท์คือ สปาหรูพร้อมฮัมมัมส่วนตัว และ ห้องพักที่ตกแต่งแบบฝรั่งเศสแท้ๆ ใครที่อยากได้ฟีลพักในคฤหาสน์แบบลับๆ ใจกลางปารีส ที่นี่คือที่ที่ต้องมา
    • Hôtel de JoBo
      บูทีคโฮเทลใน ย่าน Marais ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติกและความเฟมินีนสุดๆ เพราะได้แรงบันดาลใจจาก Joséphine Bonaparte ภรรยาของนโปเลียน ที่รักแฟชั่นและดอกกุหลาบแบบสุดใจ ดีไซน์ภายในมาในโทน สีแดง กำมะหยี่ และลวดลายกุหลาบ ให้ฟีลเหมือนพักในปราสาทเล็กๆ ที่อบอุ่นสุดๆ ไฮไลท์คือ บาร์ลับที่เสิร์ฟค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโจเซฟีน พร้อมมุม Afternoon Tea สไตล์จักรวรรดิฝรั่งเศส แถมยังมี Courtyard ให้ได้นั่งจิบกาแฟชิลๆ ถ้าอยากสัมผัสปารีสแบบสาวปารีเซียงที่มีสไตล์ มีเรื่องราว และพักในโรงแรมที่ทั้งเก๋และมีเสน่ห์ ที่นี่ตอบโจทย์สุด!
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (4,000-10,000 บาท/คืน):
    • Le Petit Beaumarchais Hotel & Spa
      ถ้าอยากได้โรงแรมที่ไม่จำเจกับการตกแต่งแบบฝรั่งเศสเดิมๆ Le Petit Beaumarchais คือคำตอบ โรงแรมนี้ใช้สีพาสเทลและงานศิลปะมาตกแต่ง ทำให้บรรยากาศดูสดใสและขี้เล่นนิดๆ จุดเด่นของที่นี่คือ Petit Spa by Kos สปาขนาดกะทัดรัดที่มีอ่างจากุชชี่ อบไอน้ำ และห้องซาวน่าให้ได้รีแล็กซ์หลังจากเดินเล่นทั้งวัน นอกจากนี้ยังมี ค็อกเทลบาร์ที่รวมเครื่องดื่มหายากจากทั่วโลก บอกเลยว่าใครเป็นสายบาร์และอยากพักผ่อนแบบเก๋ๆ ต้องลองที่นี่
    • Le Général Hotel
      ถ้าใครชอบโรงแรมสไตล์มินิมอลแบบเท่ๆ Le Général Hotel คือตัวเลือกที่ดีสุดๆ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในย่าน République และตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบแต่มีดีเทล ไฮไลท์คือ บาร์ลับในโรงแรม ที่มีบรรยากาศเหมือน underground club ของปารีส นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสและซาวน่าขนาดเล็กให้ใช้บริการ ใครที่เป็นสายฮิปๆ และชอบความคูลแบบเรียบง่าย โรงแรมนี้คือคำตอบ
    • Jules & Jim
      Jules & Jim เป็นบูทีคโฮเทลที่ออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์สุดๆ ตั้งอยู่ใน Le Marais ย่านที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม จุดเด่นของที่นี่คือ บาร์ลับที่มีค็อกเทลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ซึ่งมักจะเป็นที่แฮงค์เอาท์ของคนโลคอล รวมถึงห้องพักที่ตกแต่งในสไตล์มินิมอลแต่ยังมีฟีล warmth ของฝรั่งเศส ถ้าอยากพักที่ที่มีสไตล์และโลเคชั่นดีสุดๆ ต้องลองที่นี่
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน):
    • Hôtel De Neuve by HappyCulture
      โรงแรมไซซ์กะทัดรัดที่อยู่ใกล้กับ Place des Vosges และสามารถเดินไปมหาวิหาร Notre-Dame ได้ภายในไม่กี่นาที ห้องพักมีความเรียบง่ายแต่ดูมีดีไซน์ และที่สำคัญคือ โรงแรมนี้มีบริการ HappyCulture ที่ให้แขกสามารถใช้บริการโรงแรมอื่นๆ ในเครือได้ฟรี เช่น นั่งเล่นที่ล็อบบี้ หรือใช้บาร์ของโรงแรมในเครือแบบฟรีๆ ใครที่อยากพักในทำเลดีๆ แต่ไม่ต้องการความวุ่นวาย ที่นี่คือทางเลือกที่ดี
    • Hôtel Du Vieux Saule
      โรงแรมที่มีประวัติยาวนานและตั้งอยู่ในอาคารเก่าของศตวรรษที่ 16 แต่ข้างในรีโนเวทใหม่ให้ดูโมเดิร์นมากๆ จุดเด่นของที่นี่คือ ห้องพักที่ออกแบบให้ดูร่วมสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายปารีส และ ซาวน่าที่แขกสามารถใช้ได้ ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศของอาคารเก่าแต่ยังคงความสะดวกสบายของโรงแรมยุคใหม่ ที่นี่คือคำตอบ
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Maison Proust, Hotel & Spa La Mer
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Le Pavillon de la Reine
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel De Neuve by HappyCulture
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Jules & Jim
Go to top

2. ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) สำหรับสายประวัติศาสตร์ แลนด์มาร์คเยอะ

ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) ตั้งอยู่ในเขตที่ 6 ของปารีส ถือเป็นอีกหนึ่งย่านประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในปารีส ชื่อของย่านถูกตั้งตามชื่อโบสถ์ Saint-Germain-des-Prés หนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 6 (ค.ศ. 501-600) โดยความเจ๋งของย่านนี้คือมันเริ่มต้นขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของศิลปิน และนักเขียน รวมถึงนักปรัชญาอย่างที่เป็นตำนานเลยก็คือ ฌ็อง-ปอล ซาทร์ (Jean-Paul Sartre) นักเขียนนวนิยาย และซีมอน เดอ โบวัวร์ (Simone de Beauvoir) นักเขียนนวนิยายและนักปรัชญา ที่ทั้งคู่นั้นเคยอยู่ในย่านนี้และมักพบปะกันในคาเฟ่ชื่อดังในย่านนี้ อย่าง ‘ร้านคาเฟ่ เดอเฟลอร์ (Café de Flore)’ และ ‘ร้านเลเดอมาโก (Les Deux Magots)’ ที่ถือเป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในปารีส และเป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในฝรั่งเศสอีกด้วย มากไปกว่านั้นภายในย่านยังมีพิพิธภัณฑ์ชื่อดังของเมืองอย่าง Musée National Eugène Delacroix ที่อุทิศให้กับผลงานของจิตรกรแนวโรแมนติก อีกทั้งยังมีคาเฟ่ คลับ บาร์ และ สวนลักเซมเบิร์ก (Luxembourg Gardens) หนึ่งในสวนสาธารณะที่สวยที่สุดในปารีส เรียกได้ว่าเป็นย่านที่ครบเครื่องเหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเมืองเก่าและร่องรอยของศิลปะจริงๆ 

สำหรับการเดินทางภายใน ย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) อันนี้บอกเลยว่าสะดวกมาก เพราะเราสามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน รถบัส รวมไปถึงเช่าจักรยานปั่นได้ด้วย สำหรับรถไฟใต้ดินนั้น สายที่ครอบคลุมทั่วทั้งย่านเค้าเลยก็คือสาย 4 และ 10 โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่สำคัญของย่านได้แก่ Saint-Germain-des-Prés Station ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่าน, Saint-Sulpice Station สถานีนี้จะอยู่ใกล้กับโบสถ์แซงต์ซูลปีส (Saint-Sulpice) เป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากโบสถ์ Notre Dame ในปารีส นอกจากนี้ยังมีรถบัสสาย 63, 70, 86, 87, 95 โดยสายเหล่านี้เค้าจะวิ่งผ่านไปรอบๆ ย่านเลย เรียกได้ว่ามาพักย่านนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางแน่นอน 

👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️

ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านแซงต์ แชร์กแมง เด เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés)

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (10,000 ++ บาท/คืน):
    • Pavillon Faubourg Saint-Germain & Spa
      ที่พักสุดคลาสสิกใน ย่าน Saint-Germain-des-Prés ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของปารีสแบบดั้งเดิม Pavillon Faubourg Saint-Germain คือตัวเลือกที่พลาดไม่ได้ ที่นี่เป็นโรงแรมบูทีคสุดหรูที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านสุดคึกคักของ Left Bank แต่ยังคงความสงบและเป็นส่วนตัว ไฮไลท์คือ Les Parisiens ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ได้แรงบันดาลใจจากบิสโทรสุดเก๋ และ สปาสุดหรูในชื่อ Spa des Prés ที่มาพร้อมฮัมมัม ซาวน่า และห้องนวดที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ในโอเอซิสกลางเมือง นอกจากนี้ห้องพักยังมาในโทนสีอบอุ่น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และงานดีไซน์ร่วมสมัย แถมเดินไปโบสถ์ Saint-Germain-des-Prés หรือ Café de Flore ได้ในไม่กี่นาที ใครอยากสัมผัสปารีสในแบบที่ศิลปินและนักเขียนระดับโลกเคยหลงใหล โรงแรมนี้คือคำตอบ
    • Millesime Hôtel Paris
      โรงแรมที่ให้ฟีลเหมือนบ้านพักตากอากาศสุดอบอุ่น แต่ตั้งอยู่ใจกลางปารีส ย่าน Saint-Germain-des-Prés ทำเลคือดีมาก เดินไปแม่น้ำแซน แหล่งช้อปปิ้ง และคาเฟ่สุดไอคอนิกได้สบายๆ ตัวโรงแรมอยู่ในตึกยุคศตวรรษที่ 17 ที่ยังคงเสน่ห์แบบปารีเซียงไว้อย่างครบถ้วน ไฮไลท์คือ สวนลับด้านใน ที่เป็นมุมพักผ่อนสุดเงียบสงบท่ามกลางเมือง และอาหารเช้าที่เสิร์ฟในคอร์ทยาร์ดที่ให้ฟีลสุดโรแมนติก ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า เทา และขาว ดูคลีนและมีสไตล์ บวกกับบริการที่อบอุ่นและเป็นกันเอง นี่คือโรงแรมที่เหมาะกับคนที่อยากได้บรรยากาศของปารีสแบบเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
    • Hôtel Bel Ami
      อีกหนึ่งโรงแรมที่ตั้งอยู่ใน Saint-Germain-des-Prés แต่ต่างจากโรงแรมอื่นตรงที่ที่นี่มาพร้อมกับ ดีไซน์โมเดิร์นที่ผสมผสานความคลาสสิกของปารีสได้อย่างลงตัว ภายในตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล เบจ และไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสบายและอบอุ่น ไฮไลท์ของที่นี่คือ B.A Bar ที่เสิร์ฟค็อกเทลซิกเนเจอร์ และ สปาโดยแบรนด์ CODAGE Paris ที่ขึ้นชื่อเรื่องทรีตเมนต์แบบ Tailor-made ให้เข้ากับสภาพผิวแต่ละคน นอกจากนี้โรงแรมยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ใครที่อยากพาเพื่อนขนฟูมาเที่ยวปารีสแบบมีสไตล์ ที่นี่เปิดรับด้วยนะ
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (ต่ำกว่า 10,000 บาท/คืน):
    • Hôtel Saint-André des Arts
      บูทีคโฮเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 60s ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปิน นักเขียน และนักดนตรีทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาในปารีส ตัวโรงแรมตั้งอยู่ใกล้กับ Odéon และ Boulevard Saint-Germain เดินทางสะดวกมาก ไฮไลท์คือ การตกแต่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเรโทร ไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์ลายวินเทจ เฟอร์นิเจอร์ไม้ และโปสเตอร์ศิลปะ บวกกับคอร์ทยาร์ดเล็กๆ ที่เหมาะกับการจิบกาแฟและอ่านหนังสือ ใครที่อยากสัมผัสปารีสในมุมที่สร้างแรงบันดาลใจ ที่นี่ตอบโจทย์แบบสุดๆ
    • Hôtel Victoire & Germain
      โรงแรมที่อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ ที่ทำให้ที่นี่ดูพิเศษแบบไม่ต้องพยายามมาก โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในย่าน Saint-Germain-des-Prés เหมือนกับโรงแรมอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่แตกต่างคือ การออกแบบที่เน้นความอบอุ่นและเป็นกันเองแบบสุดๆ ตั้งแต่ลอบบี้ไปจนถึงห้องพัก ไฮไลท์คือ ห้องพักที่มีหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดาน รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบมินิมอลที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ที่นี่อาจจะไม่ได้มีสปาหรือบาร์หรูหรา แต่สิ่งที่มีคือความรู้สึกของ “ความเป็นปารีสที่แท้จริง” และการบริการที่อบอุ่นแบบโรงแรมบูทีค ใครที่อยากสัมผัสปารีสแบบโลคอลแต่ยังคงความเก๋ ต้องลองพักที่นี่สักคืน
    • Madison Hôtel
      หนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของย่าน Saint-Germain-des-Prés และยังคงเป็นที่นิยมของนักเดินทางที่อยากสัมผัสปารีสในแบบที่ศิลปิน นักเขียน และนักดนตรีเคยรู้สึก ไฮไลท์ของที่นี่คือ ห้องพักที่มาพร้อมระเบียงแบบฝรั่งเศสที่มองเห็นวิวของ Boulevard Saint-Germain และการตกแต่งที่เต็มไปด้วยโทนสีอุ่นๆ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่นี่เป็นโรงแรมที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากพักในทำเลที่เดินไปคาเฟ่สุดไอคอนิกอย่าง Les Deux Magots และ Café de Flore ได้แบบชิลๆ แถมยังมี เลานจ์สุดอบอุ่นที่เสิร์ฟกาแฟและขนมปารีเซียงตลอดวัน ใครที่อยากได้ที่พักบรรยากาศอบอุ่นแบบฝรั่งเศสแต่ยังมีความลักชูในตัวเอง ที่นี่คือคำตอบ
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Pavillon Faubourg Saint-Germain & Spa
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Bel Ami
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Saint-André des Arts
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Madison Hôtel
Go to top

3. ย่านละติน (Latin Quarter) สำหรับสายนักเรียนนักศึกษา เน้นสนุกคึกคัก

ย่านละติน (Latin Quarter) ตั้งอยู่ในเขตที่ 5 และบางส่วนของเขตที่ 6 ของปารีส ได้ชื่อว่าเป็นย่านประวัติศาสตร์และมีชีวิตชีวามากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส อีกทั้งยังเป็นหัวใจทางปัญญาของปารีสมาตั้งแต่ยุคกลาง โดยชื่อ ‘ละติน’ ถูกตั้งมาจากภาษาละติน เนื่องจากครั้งหนึ่งภายในย่านแห่งนี้ ผู้คนใช้ภาษาละตินเป็นภาษาหลักในการสื่อสารนั่นเอง ใครที่อยากดื่มด่ำกับความเก๋าแต่ไวบ์คึกคักๆ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมเว่อร์วัง มาพัก ย่านละติน (Latin Quarter) ได้เลย ภายในย่านเค้าเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น วิหารแพนธีอัน (Panthéon) ซึ่งเป็นสุสานสไตล์นีโอคลาสสิกที่เก็บศพของบุคคลสำคัญชาวฝรั่งเศส, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยุคกลาง (Musee de Cluny – Musee National du Moyen Age) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงคอลเล็กชันสิ่งประดิษฐ์และศิลปะยุคกลาง หรือจะเป็นหอสมุดใหญ่อย่าง Grande Bibliothèque ที่มีหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่มให้หนอนหนังสือได้มาอ่านกันด้วย 

สำหรับการเดินทางภายใน ย่านละติน (Latin Quarter) เราสามารถเดินทางไปเที่ยวรอบๆ ย่านได้ด้วยรถไฟใต้ดิน ผ่านสาย 4 และ 10 โดยมีสถานีหลักๆ ก็คือ Saint-Michel Station ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้ง่ายต่อการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของปารีสได้, Cluny–La Sorbonne Station สถานีนี้จะอยู่ใกล้กับ Sorbonne University และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยุคกลาง (Musee de Cluny – Musee National du Moyen Age) นอกจากนี้ยังมีรถบัสสาย 21, 27, 38, 47, 63, 85, 86, 87, 96 ให้บริการไปรอบๆ ย่านอีกด้วย ดังนั้น ไม่ต้องกลัวเรื่องการเดินทางลำบากเล้ยย

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านละติน (Latin Quarter)

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (10,000 ++ บาท/คืน):
    • Hôtel Monge
      โรงแรมบูทีคที่เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสปารีสในมุมที่ทั้งคลาสสิกและโรแมนติก ตั้งอยู่ใน ย่าน Latin Quarter ซึ่งเป็นย่านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เต็มไปด้วยร้านหนังสือ คาเฟ่เก่าแก่ และบรรยากาศแบบปารีสแท้ๆ ตัวโรงแรมอยู่ในอาคารสไตล์ Haussmannian ที่ตกแต่งใหม่ให้ดูอบอุ่นและหรูหราไปพร้อมกัน ไฮไลท์อยู่ที่ ห้องพักที่ใช้โทนสีอบอุ่น ผนังบุลายดอกไม้ และเฟอร์นิเจอร์สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ แถมยังมี สปาฮัมมัม ที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ในโอเอซิสส่วนตัวกลางปารีส นอกจากนี้อาหารเช้ายังเป็นแบบฝรั่งเศสแท้ๆ เสิร์ฟครัวซองต์อบใหม่และกาแฟหอมๆ ถ้าอยากพักในปารีสแบบมีเสน่ห์และยังได้ความหรูหรา Hôtel Monge คือคำตอบ
    • Hôtel Les Dames du Panthéon
      โรงแรมที่มีคอนเซ็ปต์ชัดมาก เพราะทุกดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก ผู้หญิงที่เป็นไอคอนของฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นโคโค่ ชาแนล หรือ เอดิต เปียฟ ห้องพักแต่ละห้องจะมีธีมการตกแต่งที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมคือมาในโทนสีที่ดูอบอุ่น มีเสน่ห์ และมีกลิ่นอายของศิลปะฝรั่งเศสแบบเข้มข้น ตั้งอยู่ตรงข้าม มหาวิหารแพนธีออน แบบเดินไปแค่ไม่กี่ก้าว ทำเลดีมากเพราะอยู่ใจกลาง Latin Quarter ใกล้กับสวนลุกซ็องบูร์กและมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ไฮไลท์ของที่นี่คือ ระเบียงห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวของแพนธีออนแบบเต็มๆ และบรรยากาศที่โรแมนติกแบบสุดๆ ใครที่อยากพักโรงแรมที่มีเรื่องราว มีสไตล์ และเป็นเอกลักษณ์สุดๆ ต้องมาลองที่นี่
    • Hôtel Dame des Arts
      โรงแรมที่ผสมความ โมเดิร์นและศิลปะแบบปารีส ได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ในย่าน Saint-Michel ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแกลเลอรี่ ร้านหนังสือ และคาเฟ่สุดชิค ตัวโรงแรมออกแบบโดย Raphael Navot ดีไซเนอร์ชื่อดังของฝรั่งเศส ไฮไลท์อยู่ที่ รูฟท็อปบาร์ที่สามารถมองเห็นวิวหอไอเฟลได้แบบพาโนราม่า และห้องพักที่ตกแต่งแบบมินิมอลแต่ยังคงกลิ่นอายปารีเซียงด้วยการใช้ไม้ ผ้ากำมะหยี่ และโคมไฟดีไซน์เก๋ๆ ที่นี่เป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสปารีสในแบบเท่ๆ มีสไตล์ และอยู่ใกล้แลนด์มาร์คสำคัญ
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (4,000-10,000 บาท/คืน):
    • Hôtel Europe Saint-Séverin
      โรงแรมที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากพักใน ใจกลางเมืองแบบสุดๆ เพราะอยู่แค่ไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟ Saint-Michel Notre-Dame และแม่น้ำแซน ตัวโรงแรมเป็นอาคารสไตล์ Haussmannian ที่ตกแต่งภายในให้ดูหรูหราแบบฝรั่งเศสแท้ๆ ไฮไลท์คือ ห้องพักที่มีระเบียงส่วนตัวให้สามารถนั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวถนนอิฐเก่าแก่ของปารีส และห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแท้ๆ อยู่ด้านล่างของโรงแรม นี่เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับคนที่อยากได้โลเคชั่นเทพแบบเดินไปไหนก็ง่าย และยังได้ฟีลปารีสแท้ๆ
    • Hôtel Belloy St Germain
      โรงแรมมาในสไตล์บูทีคที่ตกแต่งแบบฝรั่งเศสแท้ๆ ห้องพักใช้โทนสีฟ้าและแดงเบอร์กันดี ให้ความรู้สึกคลาสสิกแต่ยังดูสดใส ไฮไลท์คือ เตียงนุ่มแบบพรีเมียมที่ทุกคนรีวิวว่า “นอนสบายที่สุดในปารีส” และการบริการที่อบอุ่นแบบเป็นกันเอง นอกจากนี้โรงแรมยังมีบาร์ที่เสิร์ฟไวน์และแชมเปญให้ดื่มฟรีในช่วงเย็น ใครที่อยากสัมผัสความหรูหราแบบพอดีๆ และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของปารีส ต้องลองมาพักที่นี่
    • Hôtel du Collège de France
      โรงแรมที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ ที่พักสวย สะอาด ทำเลดี ในราคาสมเหตุสมผล ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ และเดินไปแม่น้ำแซนหรือมหาวิหารน็อทร์-ดามได้ง่ายๆ ที่นี่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูดี ไฮไลท์คือระเบียงห้องพักบางห้องที่สามารถมองเห็นวิวของย่านละตินควอเตอร์ ที่นี่อาจจะไม่ได้หรูหรา แต่เต็มไปด้วยความน่ารักและเสน่ห์แบบปารีสแท้ๆ
  • โรงแรม / โฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 4,000 บาท/คืน):
    • Young & Happy Latin Quarter by hiphophostels
      สำหรับสายแบ็คแพ็คที่อยากสัมผัสปารีสแบบลึกซึ้ง Young & Happy Latin Quarter คือที่พักที่ตอบโจทย์มาก ห้องพักเป็นแบบแชร์ มีทั้งห้องนอนรวมและห้องส่วนตัว ไฮไลท์คือ พื้นที่ส่วนกลางที่อบอุ่นและมักจะมีอีเวนต์ให้แขกที่พักได้มาพบปะพูดคุยกัน ใครที่เดินทางคนเดียวและอยากหาเพื่อนใหม่ หรือต้องการที่พักราคาดีในโลเคชั่นเทพแบบเดินไป Notre-Dame ได้ ที่นี่คือที่ที่ต้องลอง
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Dame des Arts
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel du Collège de France
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Young & Happy Latin Quarter by hiphophostels
Go to top

4. ย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs – Élysées) สำหรับสายช้อปปิ้ง

ย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs – Élysées) ตั้งอยู่ในเขตที่ 8 ของปารีส ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก ถือเป็นย่านการค้าที่ครบเครื่องไปด้วยโรงละคร ร้านกาแฟ และร้านค้าลักชูต่างๆ ความเริ่ดของเค้าที่ไม่มีใครเหมือน คือตามสองข้างทางของถนนจะมีต้นเกาลัดที่ได้รับการตกแต่งดูแลเป็นอย่างดี ปลูกเรียงรายเป็นแนวยาวราวกับอุโมงค์ต้นไม้ ย่านนี้เค้าเลยจะมีความโฮมมี่ๆ ชวนอบอุ่นกันตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาเลย โดยว่ากันว่าชื่อของ ‘ช็อง เซลีเซ่ (Champs-Élysées)’ มาจากเทพปกรณัมกรีกหมายถึงสวรรค์สำหรับวีรบุรุษในภาษาฝรั่งเศส แต่ความปังของย่านแห่งนี้ต้องยกให้กับเรื่องของทำเล เพราะพื้นที่ 1000 ตารางฟุต มีอัตราค่าเช่าสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 54,900,000 ล้านบาทต่อปีกันเลยทีเดียว คือปังขนาดที่ว่าทั้ง ย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs – Élysées) ถูกจัดให้เป็นย่านที่มีค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุดในยุโรป ทำให้ย่านนี้เป็นที่ตั้งของร้านค้าลักชูและแบรนด์ระดับโลกมากมาย รวมถึงเป็นที่ตั้งของประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของปารีสอีกด้วย และแน่นอนว่าโรงแรมย่านนี้ถือเป็นตัวท็อป-ลักชูขั้นสุดอีกย่านของปารีส ดังนั้นใครที่เป็นสายเปย์โรงแรม ชอบความสนุกครื้นเครง แต่ยังสะดวกสบาย ย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs – Élysées) เป็นอีกหนึ่งย่านที่ตอบโจทย์นั้นมาก

สำหรับการเดินทางภายใน ย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs – Élysées) เราสามารถเดินทางไปเที่ยวรอบๆ ย่านได้ด้วยรถไฟใต้ดิน ผ่านสาย 1, 2, 6, 9 และ 13 โดยมีสถานีหลักๆ ก็คือ Charles de Gaulle–Étoile Station ที่อยู่ใกล้กับประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe), George V Station อันนี้เหมาะกับสายช้อปเพราะเค้าอยู่ใกล้กับร้านค้าภายในย่าน และ Franklin D. Roosevelt Station สถานีนี้จะอยู่ใจกลางย่านท่ามกลางร้านลักชู ส่วนรถบัสจะมีสาย 22, 30, 31, 32, 52, 73, 92, 93 ให้บริการไปรอบๆ 

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านช็อง เซลีเซ่ (Champs-Élysées)

  • โรงแรมตัวท็อป-ตัวมัม-ลักชู ขั้นสุดของสายเปย์ (50,000 ++ บาท/คืน):
    • Four Seasons Hotel George V, Paris
      ถ้าจะพูดถึงโรงแรมที่เป็น ที่สุดของที่สุด ในปารีส Four Seasons Hotel George V คือตัวท็อปที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ตั้งอยู่บน Avenue George V ใจกลางย่าน Golden Triangle โรงแรมแห่งนี้คือความอลังการของ สถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดโค ผสมกับความคลาสสิกของฝรั่งเศสที่แท้จริง ทุกมุมของที่นี่คือความหรูหราแบบไร้ที่ติ ไฮไลท์ที่ทำให้ Four Seasons George V ไม่เหมือนใครคือการเป็น โรงแรมเดียวในยุโรปที่มีห้องอาหารมิชลิน 3 ดาวถึง 3 ร้าน ทั้ง ‘Le Cinq’, ‘Le George’ และ ‘L’Orangerie’ ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เข้าพักต้องลองให้ครบ ที่สำคัญห้องพักทุกห้องมี ระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวไอเฟลได้ คือหรูหราและโรแมนติกที่สุดในปารีส
    • Le Bristol Paris
      หนึ่งในโรงแรมที่เป็นตำนานของปารีสตั้งแต่ปี 1925 และยังเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เหล่าเซเลบและราชวงศ์นิยมเข้าพักมากที่สุด โรงแรมนี้ตั้งอยู่บน Rue du Faubourg Saint-Honoré ซึ่งเป็นถนนสายช้อปปิ้งของแบรนด์หรู ไฮไลท์ของที่นี่คือความสง่างามแบบฝรั่งเศสขนานแท้ ห้องพักทุกห้องเป็นสไตล์พระราชวัง มีผ้าม่านหรู เฟอร์นิเจอร์แอนทีค และพื้นไม้ปาเก้ นอกจากนี้ยังมี สวนกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่หายากมากในปารีส และ ‘Epicure’ ห้องอาหารที่ได้ มิชลิน 3 ดาว ถ้าอยากได้ความคลาสสิกแบบปารีสแท้ๆ ต้องที่นี่เท่านั้น
    • La Réserve
      โรงแรมที่รวมความ หรูหราและความเป็นส่วนตัวเข้าด้วยกันได้ดีที่สุด เพราะมีห้องพักเพียง 40 ห้อง และแต่ละห้องได้รับการตกแต่งแบบแมนชั่นหรูในสมัยศตวรรษที่ 19 แถมตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังเอลีเซ่ ทำให้ได้ฟีลเหมือนเป็นบ้านของชนชั้นสูงฝรั่งเศส ไฮไลท์คือ ระเบียงห้องพักบางห้องสามารถมองเห็นวิวหอไอเฟลและ Grand Palais ได้แบบพาโนราม่า ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องพูดเยอะเพราะที่นี่มี Le Gabriel ห้องอาหารมิชลิน 2 ดาว ที่เน้นอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยแบบหรูหรา ที่สำคัญคือบรรยากาศเงียบสงบมากเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวระดับสูง
    • The Peninsula Paris
      ถ้าอยากพักโรงแรมที่เห็นวิวหอไอเฟลแบบเต็มตา The Peninsula Paris คือคำตอบ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Arc de Triomphe และเป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีความโมเดิร์นที่สุดในปารีส ห้องพักทุกห้องมาพร้อม เทคโนโลยีสมาร์ท ที่ควบคุมไฟ ทีวี และม่านผ่านแท็บเล็ต ไฮไลท์อยู่ที่ L’Oiseau Blanc ร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนรูฟท็อปของโรงแรม ที่สามารถชมวิวหอไอเฟลได้แบบไม่มีอะไรมาบัง นอกจากนี้ยังมี ‘The Lobby’ ห้องอาหารที่เสิร์ฟ ‘Afternoon Tea’ สุดคลาสสิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในปารีส
  • โรงแรมตัวปัง-ลักชู-บูทีค ราคารองลงมา (10,000-50,000 บาท/คืน):
    • Hôtel Grand Powers
      โรงแรมที่ได้ฟีลบูทีคแต่ยังคงความหรูแบบ Old Money Hôtel Grand Powers คือตัวเลือกที่น่าสนใจ โรงแรมนี้ตั้งอยู่บน Avenue George V ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่ดีที่สุดของปารีส ตัวอาคารเป็น Haussmannian Building แบบดั้งเดิมที่ตกแต่งภายในใหม่ให้ดูอบอุ่นและร่วมสมัย จุดเด่นคือ ห้องพักบางห้องมีเตาผิงและระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวไอเฟลได้ แถมยังมีสปาและอ่างจากุซซี่ให้ใช้บริการ เป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่อยากได้บรรยากาศโรแมนติกแต่ยังมีความเป็นกันเอง
    • Hotel du Rond-Point des Champs-Elysees
      โรงแรมนี้ตั้งอยู่แค่ไม่กี่ก้าวจาก Champs-Élysées ทำให้สามารถเดินไปช้อปปิ้งร้านแบรนด์เนมต่างๆ ได้แบบสบายๆ ห้องพักที่นี่มาในโทนสีเข้มๆ สไตล์อาร์ตเดโค ให้ฟีลลิ่งแบบปารีเซียงสุดๆ ไฮไลท์คือ สระว่ายน้ำในร่มที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในโรงแรมบูทีคในปารีส นอกจากนี้ยังมีบาร์ที่เสิร์ฟค็อกเทลเก๋ๆ เหมาะกับการแวะมานั่งชิลก่อนออกไปสำรวจเมือง
    • Hôtel Le A
      โรงแรมเล็กๆ ที่มีเพียง 26 ห้องพัก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นส่วนตัว ตกแต่งในสไตล์มินิมอลโมเดิร์นแต่ยังคงความอบอุ่นด้วยพื้นไม้และไฟสีวอร์ม ไฮไลท์คือ Library Lounge ที่มีหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและแฟชั่นให้เลือกอ่าน และการบริการแบบอบอุ่นเหมือนมาพักบ้านเพื่อน
  • โรงแรมดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 10,000 บาท/คืน):
    • Hôtel Plaza Etoile
      โรงแรมที่ทำเลดีที่สุดสำหรับคนที่อยากอยู่ใกล้ Arc de Triomphe และ Champs-Élysées ห้องพักได้รับการตกแต่งใหม่ให้ดูโมเดิร์นขึ้น แต่ยังคงความคลาสสิกของปารีสเอาไว้ ไฮไลท์คือ ห้องพักบางห้องมีหน้าต่างที่เปิดออกไปเห็นวิว Arc de Triomphe ได้เต็มๆ ใครที่อยากได้โรงแรมโลเคชั่นดี ราคาดี และมีวิวแลนด์มาร์คของปารีสแบบเต็มตา ที่นี่คือคำตอบ
    • Tilsitt Etoile
      โรงแรมเล็กๆ ที่เดินไปถึง Arc de Triomphe ได้แค่ไม่กี่ก้าว แถมยังใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Ternes ที่สามารถเดินทางไปทั่วปารีสได้แบบง่ายๆ ห้องพักตกแต่งสไตล์บูทีคมินิมอล มีความอบอุ่นและเรียบง่าย ไฮไลท์ของที่นี่คือ อาหารเช้าที่เสิร์ฟขนมปังฝรั่งเศสและครัวซองต์อบใหม่ทุกเช้า เหมาะกับคนที่อยากได้โรงแรมในทำเลดี แต่ยังคงความเป็นกันเองและราคาไม่แรง
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ The Peninsula Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Le Bristol Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Grand Powers
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Plaza Etoile
Go to top

5. ย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) สำหรับสายไอคอนิก มาถ่ายรูปกับหอไอเฟล

ย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) สำหรับคนที่อยากพักในย่านที่อยู่ท่ามกลางสวนช็องเดอมาร์ส (Champs de Mars) และวิวของหอไอเฟล (Eiffel Tower) ไม่มีย่านไหนที่ตอบโจทย์นี้ได้เท่ากับ ย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) อีกแล้ว เพราะย่านนี้เรียกได้ว่าเป็นย่านอันโด่งดังของปารีสเลยก็ว่าได้ โดยสถาปัตยกรรมภายในย่านนี้เค้าเป็นแบบ Haussmann Architecture ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอยู่ตรงฟาซาดหิน (หรือปูน) ที่ดูแข็งแกร่งทรงพลัง ซึ่งอาคารหลายแห่งในย่านแห่งนี้มีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 18 และ 19 กันเลยทีเดียว ส่วนที่เที่ยวนอกจากหอไอเฟลแล้ว ในย่านเค้ายังมีสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมอยู่เยอะม๊ากทั้ง พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d’Orsay) ที่เก็บสะสมและจัดแสดงคอลเลกชันศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, พิพิธภัณฑ์รอแด็ง (Musée Rodin) ที่มีสวนประติมากรรมอันยิ่งใหญ่และผลงานของ Auguste Rodin และพิพิธภัณฑ์คลังแสงเลแซ็งวาลีด (Les Invalides) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานนโปเลียนอยู่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านค้า คาเฟ่แบบฟีลดีตั้งเรียงรายให้ได้เข้ากันจนทรัพย์จางบอกเลย

สำหรับการเดินทางภายใน ย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement) เราสามารถเดินทางไปเที่ยวรอบๆ ย่านได้ด้วยรถไฟใต้ดิน ผ่านสาย 8 และ 10 โดยมีสถานีหลักๆ ก็คือ École Militaire Station ที่อยู่ใกล้กับสวนช็องเดอมาร์ส (Champs de Mars) ง่ายต่อการเดินไปยังหอไอเฟล, Ségur Station อันนี้จะอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ UNESCO ส่วนรถบัสจะมีสาย 28, 42, 63, 69, 80, 82, 87, 92 ให้บริการไปรอบๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเดินทางยุ่งยากเลย บอกเลยว่าชิล

แนะนำที่พักและโรงแรมย่านเขตที่ 7 (7th Arrondissement)

  • โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (10,000 ++ บาท/คืน):
    • Le Narcisse Blanc Hôtel & Spa
      โรงแรมที่ทั้งโรแมนติก คลาสสิก และให้ฟีลแบบปารีเซียงสุดๆ Le Narcisse Blanc Hôtel & Spa คือคำตอบ ตั้งอยู่ใจกลาง เขต 7 ของปารีส ใกล้กับ Pont Alexandre III และหอไอเฟล ที่นี่เป็นโรงแรมบูทีคระดับ 5 ดาวที่มีกลิ่นอายของยุค Belle Époque แบบเต็มๆ ห้องพักทุกห้องตกแต่งแบบเรียบหรูแต่ยังคงความอบอุ่น ไฮไลท์ของที่นี่คือ สปาสุดหรูที่มีทั้งสระว่ายน้ำ อ่างจากุซซี่ ห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่า ที่ช่วยให้เราผ่อนคลายหลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวัน ใครที่อยากได้ความโรแมนติก ฟีลเหมือนอยู่ในหนังฝรั่งเศส ที่นี่ตอบโจทย์สุดๆ
    • J.K. Place Paris
      โรงแรมที่หรูแต่ไม่เว่อร์ ดูแพงแต่ไม่เยอะ และมีความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ โรงแรมนี้เป็นสาขาแรกของ J.K. Place ที่อยู่นอกอิตาลี ซึ่งก็ยังคงความคลาสสิกแบบยุโรปได้ดีมาก ตั้งอยู่ในย่าน Saint-Germain-des-Prés ที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศสุดคลาสสิกของปารีส ไฮไลท์ของที่นี่คือ ห้องพักที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แอนทีค ผสมผสานกับงานศิลปะโมเดิร์น และ มี J.K. Café ห้องอาหารอิตาเลียนที่เสิร์ฟวัตถุดิบสดใหม่จากอิตาลี ที่สำคัญคือสปาของที่นี่เป็นของ Sisley แบรนด์สกินแคร์ระดับไฮเอนด์ ใครที่อยากได้โรงแรมที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนบ้านแต่ยังคงความลักชู ที่นี่คือคำตอบ
    • Hôtel de Londres Eiffel
      โรงแรมเล็กๆ ที่มีแค่ 30 ห้อง แต่ทุกห้องอบอุ่นและตกแต่งแบบปารีเซียงแท้ๆ จุดเด่นของที่นี่คือ การบริการที่เป็นกันเองมากๆ เจ้าของโรงแรมใส่ใจแขกทุกคนเหมือนเป็นเพื่อน แถมยังแนะนำที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป ให้เราได้แบบอินไซด์สุดๆ ใครที่อยากได้ฟีลพักโรงแรมเล็กๆ แต่โลเคชั่นปัง และได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเพื่อน ที่นี่คือคำตอบ
  • โรงแรมดี ราคาเอื้อมถึงได้ (ต่ำกว่า 10,000 บาท/คืน):
    • Hotel Muguet
      โรงแรมที่อยู่ระหว่าง หอไอเฟล และ Les Invalides คือเดินไปไหนก็ง่ายสุดๆ ห้องพักมาในสไตล์มินิมอล เรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน และที่สำคัญคือ มีบางห้องที่สามารถมองเห็นหอไอเฟลจากหน้าต่างได้ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สุดปังของที่นี่ อีกจุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือ เตียงที่นุ่มแบบสุดๆ นอนสบายมาก ใครที่มาเที่ยวปารีสแล้วอยากได้ที่พักที่ทำเลดี สงบ แต่ยังเดินทางง่าย ที่นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
    • Le Parisis Hôtel
      โรงแรมที่เหมาะกับสายถ่ายรูป เพราะ ห้องพักบางห้องสามารถมองเห็นวิวหอไอเฟลได้จากเตียง ไม่ต้องออกไปไหนก็ได้ฟีลโรแมนติกสุดๆ นอกจากเรื่องวิวแล้ว ที่นี่ก็อยู่ในทำเลที่สะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้ สถานีรถไฟใต้ดิน La Motte-Picquet – Grenelle ซึ่งเดินทางไปไหนก็ง่ายมาก ตัวโรงแรมตกแต่งแบบโมเดิร์น มินิมอล แต่ยังคงความหรูหรา ใครที่อยากได้โรงแรมวิวดี ทำเลดี แต่ราคาไม่แรงเกินไป Le Parisis Hôtel คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก
    • Hôtel 31 – Paris Tour Eiffel
      ถ้าอยากได้โรงแรมที่เดินไปหอไอเฟลได้ใน 10 นาที แต่ราคายังน่ารักอยู่ Hôtel 31 – Paris Tour Eiffel คือทางเลือกที่น่าสนใจ โรงแรมนี้เพิ่งรีโนเวทใหม่ ทำให้ทุกอย่างดูสดใหม่และมินิมอลมากๆ ห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่มีทุกอย่างที่จำเป็น เตียงนุ่มมาก ห้องน้ำสะอาด แถมยังมีหน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มๆ ที่สำคัญคือเดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Cambronne ได้ใน 5 นาที เดินทางสะดวกสุดๆ สำหรับใครที่มาเที่ยวปารีสแล้วอยากได้ที่พักราคาดี ทำเลดี แต่ไม่ต้องการความเว่อร์วัง ที่นี่คืออีกตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ J.K. Place Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hotel Muguet
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel 31 – Paris Tour Eiffel
Go to top

แนะนำโรงแรมลักชูตัวท็อปในปารีส (Paris)

  1. Hôtel Ritz Paris
    ถ้าจะพูดถึงโรงแรมที่หรูที่สุดในปารีส ไม่มีที่ไหนโค่น Ritz Paris ได้ โรงแรมระดับไอคอนิกที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1898 และเป็นที่พักของเหล่าราชวงศ์ เซเลป และบุคคลสำคัญจากทั่วโลก เจ้าหญิงไดอาน่าเคยเข้าพักที่นี่ก่อนเกิดเหตุการณ์ในปี 1997 ส่วน Coco Chanel ก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานกว่า 30 ปี ความเริ่ดของที่นี่คือห้องพักแค่ 71 ห้อง ซึ่งหมายความว่าความเป็นส่วนตัวสูงมาก ทุกห้องตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิกแบบ Versailles Vibe แถมห้องสวีทบางห้องยังได้รับแรงบันดาลใจจาก Coco Chanel อีกด้วย ที่นี่มี Ritz Club & Spa ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีร้านอาหาร 2 ดาวมิชลินให้มาฝากท้อง และแน่นอนว่า Bar Hemingway บาร์ระดับตำนานที่ Ernest Hemingway เคยดื่มประจำก็ตั้งอยู่ที่นี่
    • จอง + เปรียบเทียบราคา Expedia / Trip / Klook
  2. Four Seasons Hotel George V, Paris
    โรงแรมนี้คือความคลาสสิกของปารีสที่อยู่คู่เมืองมาตั้งแต่ปี 1928 ตั้งอยู่บน Avenue George V หนึ่งในถนนที่แพงที่สุดของปารีส ไฮไลท์ของที่นี่คือ ล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้จาก Jeff Leatham ศิลปินออกแบบดอกไม้ชื่อดังระดับโลก ทุกจุดของโรงแรมจะมีการจัดดอกไม้แบบอลังการให้แขกได้ชม ที่นี่มีห้องพักที่หรูแบบเว่อร์ๆ และเพนท์เฮาส์ที่เห็นวิว หอไอเฟล ได้เต็มๆ แบบไม่มีอะไรมากั้น แต่ความสุดของที่นี่อยู่ที่ ร้านอาหารมิชลินสตาร์ 3 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Le Cinq (3 ดาว), Le George (1 ดาว) และ L’Orangerie (1 ดาว) บอกเลยว่าถ้าอยากสัมผัสลักชูแบบเต็มรูปแบบในปารีส ต้องที่นี่เท่านั้น
  3. Le Meurice
    โรงแรมที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1835 และเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าศิลปินระดับตำนาน หนึ่งในนั้นคือ ซัลวาดอร์ ดาลี ที่มาพักอยู่ที่นี่ทุกปีเป็นเวลานานกว่า 30 ปี! ดังนั้น ดีไซน์ของที่นี่จึงได้แรงบันดาลใจจากศิลปะและแฟชั่น แถมยังตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Jardin des Tuileries ทำให้สามารถเดินไป Louvre ได้แบบชิลๆ จุดเด่นของที่นี่คือ ห้องอาหารมิชลิน 2 ดาวที่ดูแลโดยเชฟ Alain Ducasse และบาร์ 228 ที่เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ของคนดัง ใครอยากได้ความหรูแบบศิลปิน พร้อมวิวสวนสวยๆ ของปารีส Le Meurice คือคำตอบ
  4. Shangri-La Hotel Paris
    โรงแรมนี้ไม่ใช่แค่โรงแรมหรูธรรมดา แต่เป็น คฤหาสน์เดิมของเจ้าชายโรลันด์ โบนาปาร์ต หลานชายของนโปเลียน โบนาปาร์ต ที่ถูกรีโนเวทใหม่เป็นโรงแรมในปี 2010 และกลายเป็น โรงแรมที่มีวิวหอไอเฟลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ห้องพักบางห้องมาพร้อมระเบียงส่วนตัว ที่สามารถมองเห็นหอไอเฟลแบบเต็มตาได้เลย ไม่ต้องออกไปไหนก็ได้รูปสุดปัง ไฮไลท์อีกอย่างคือ ห้องอาหาร L’Abeille ที่ได้มิชลิน 2 ดาว และ Shang Palace ห้องอาหารจีนแห่งเดียวในฝรั่งเศสที่ได้มิชลิน 1 ดาว บอกเลยว่าถ้าอยากนอนชมวิวหอไอเฟลแบบส่วนตัว ที่นี่คือที่สุด
  5. Hotel Crillon, A Rosewood Hotel
    โรงแรมนี้ไม่ใช่แค่โรงแรมธรรมดา แต่มันคือ อดีตพระราชวังที่สร้างขึ้นเพื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ตั้งแต่ปี 1758! ตัวโรงแรมได้รับการรีโนเวทใหม่แต่ยังคงความหรูหราของศตวรรษที่ 18 เอาไว้ จุดเด่นคือ Louis XV Suite, Marie-Antoinette Suite และ Bernstein Suite ที่ถือเป็นห้องพักสุดหรูที่คนดังและราชวงศ์เลือกมาพักเมื่อมาเยือนปารีส นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหาร L’Ecrin ที่ได้ มิชลิน 1 ดาว และบาร์สุดหรู Les Ambassadeurs ที่มีลิสต์ค็อกเทลหรูๆ ให้เลือกแบบจุใจ
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hôtel Ritz Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Le Meurice
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hotel Crillon, A Rosewood Hotel
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Shangri-La Hotel Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Four Seasons Hotel George V, Paris
Go to top

แนะนำโรงแรมวิวหอไอเฟล (Eiffel Tower)

  1. Pullman Paris Tour Eiffel
    โรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถมองเห็นวิวหอไอเฟลได้แบบใกล้ชิดสุดๆ เพราะตั้งอยู่แค่ถนนฝั่งตรงข้ามจากแลนด์มาร์กของเมือง ตัวโรงแรมถูกรีโนเวทใหม่ให้มีความโมเดิร์นโดย Christophe Pillet ดีไซเนอร์ในเครือของ Pullman ห้องพักมีให้เลือกถึง 465 ห้อง แต่ถ้าอยากได้วิวหอไอเฟลแบบปังๆ ต้องเลือกห้อง Deluxe Room, Superior Room หรือ Trocadéro Suite ซึ่งมาพร้อมระเบียงส่วนตัวให้ได้ออกไปชมวิวและถ่ายรูปแบบเต็มอารมณ์ นอกจากนี้ยังมี ห้องอาหาร Frame ที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย และ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ให้ใช้บริการ ราคาเริ่มต้นที่ 300-600 ยูโร/คืน (~11,600-23,300 บาท) ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มสุดถ้าอยากตื่นมาเจอหอไอเฟลแบบใกล้สุดๆ
  2. Shangri-La Hotel, Paris
    โรงแรมที่เคยเป็น บ้านพักเดิมของเจ้าชายโรลันด์ โบนาปาร์ต หลานชายนโปเลียน โบนาปาร์ต ตัวอาคารเป็นสไตล์ French Rococo สุดหรูที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1896 ก่อนจะถูกแปลงโฉมมาเป็นโรงแรมในปี 2010 โรงแรมมีห้องพักแค่ 100 ห้อง ที่ตกแต่งอย่างละเอียดอ่อนผสมผสานความเป็นฝรั่งเศสและเอเชียได้อย่างลงตัว ที่สำคัญที่นี่มี วิวหอไอเฟลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส โดยเฉพาะห้อง Eiffel View Room, Eiffel Duplex Terrace Suite และ La Suite Shangri-La ที่มาพร้อมระเบียงส่วนตัวให้ได้นั่งชมวิวแบบจุใจ ราคาเริ่มต้นที่ 1,200 – 2,500 ยูโร/คืน (~46,700-97,300 บาท) และยังมี L’Abeille ห้องอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลิน 2 ดาว และ Shang Palace ห้องอาหารจีนแห่งเดียวในฝรั่งเศสที่ได้มิชลิน 1 ดาว ให้มาลิ้มลองอีกด้วย
  3. Four Seasons Hotel George V Paris
    โรงแรมนี้คือลักชูแบบจัดเต็มด้วยการตกแต่ง สไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิก มีการจัดดอกไม้สุดอลังการโดย Jeff Leatham ศิลปินออกแบบดอกไม้ชื่อดังระดับโลก มาพร้อมคอลเลกชันศิลปะยุค 18 และ 19 ที่ถูกจัดวางทั่วทั้งโรงแรม จุดเด่นอยู่ที่ห้องพัก Premier Room with Eiffel Tower View และ Penthouse Suite ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองปารีสและหอไอเฟลได้แบบเต็มสายตา มี ระเบียงส่วนตัว ให้ออกไปจิบไวน์พร้อมชมวิวโรแมนติกแบบไม่มีอะไรมากั้น นอกจากนี้ยังเป็นโรงแรมที่มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เยอะที่สุดในปารีส ตั้งแต่ Le Cinq (3 ดาว), Le George (1 ดาว) และ L’Orangerie (1 ดาว) จัดว่าเป็นโรงแรมที่ลักชูทุกมุมแบบไร้ที่ติ ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 – 3,500 ยูโร/คืน (~58,300-136,200 บาท)
  4. Hotel La Comtesse
    ใครที่มองหาโรงแรมที่เห็นวิวหอไอเฟลแบบเต็มๆ ในราคาที่จับต้องได้ ต้องที่นี่เลย! เป็นโรงแรมบูติกที่ตั้งอยู่ในย่าน 7th arrondissement ใกล้สถานที่สำคัญมากมาย ดีไซน์ของที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ร้านวรรณกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18 ให้ฟีลคลาสสิกแต่ก็มีความอบอุ่นในตัวเอง ห้องพักมีแค่ 40 ห้อง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ จุดเด่นคืออาคารของโรงแรมเป็นแนวโค้ง ทำให้ไม่ว่าพักห้องไหนก็ได้วิวหอไอเฟลแน่นอน โดยเฉพาะห้อง Eiffel Tower View Room และ Eiffel Tower Suite ที่มาพร้อม ระเบียงส่วนตัว ให้ถ่ายรูปกันได้แบบจุกๆ ราคาเริ่มต้น 300 – 600 ยูโร/คืน (~11,600-23,300 บาท) ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมวิวหอไอเฟลที่คุ้มค่าที่สุด
  5. The Peninsula Paris
    โรงแรมสุดลักชูที่ตั้งอยู่ใน Golden Triangle หรือ “สามเหลี่ยมทองคำ” ของปารีสที่อยู่ใกล้ ย่านช้อปปิ้งแบรนด์หรู ใครที่อยากพักโรงแรมที่คนดังและนักกีฬาระดับโลกเลือกมาใช้บริการต้องมาที่นี่เลย ตัวโรงแรมตกแต่งด้วยโทนสี ครีมตัดเทา ให้ความหรูหราแบบร่วมสมัย ห้องที่สามารถมองเห็นวิวหอไอเฟลแบบพีคๆ ต้องยกให้ Rooftop Garden Suite และ The Peninsula Suite ซึ่งมี ระเบียงส่วนตัว ให้ได้นั่งชมวิวแบบเต็มตา ราคาเริ่มต้น 1,500 – 3,000 ยูโร/คืน (~58,300-116,776 บาท) แต่ไฮไลท์เด็ดคือ L’Oiseau Blanc ร้านอาหาร มิชลิน 2 ดาว ที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม ที่นี่ไม่ได้แค่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสสุดหรูเท่านั้น แต่ยังเป็น หนึ่งในร้านอาหารที่วิวดีที่สุดในปารีส เพราะสามารถมองเห็น ทั้งหอไอเฟลและประตูชัย (Arc de Triomphe) ได้แบบพาโนราม่า จัดว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับสายลักชูที่อยากได้วิวปารีสแบบเต็มตาที่สุด
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Shangri-La Hotel Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ The Peninsula Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Hotel La Comtesse
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Four Seasons Hotel George V, Paris
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
⎯ Pullman Paris Tour Eiffel

⚡️ สำหรับคนที่อยากอ่านรีวิวเที่ยวปารีส (Paris) แบบละเอียดยิบจุกๆ สามารถอ่านรีวิวเต็มของก๊อตได้เลย คลิกอ่านรีวิวลอนดอน (London) ที่นี่ 

Go to top

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025

⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
>  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)

โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
โรงแรมปารีส (Paris): พักย่านไหนดี? แนะนำที่พักปี 2025
Related Topics
Related Stories

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *