ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) สวนสนุกดิสนีย์รีสอร์ทแห่งที่ 5 ของโลก และแห่งที่ 2 ของเอเชีย ฮอตฮิตถึงขั้นถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฮ่องกง ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือโซนเปิดใหม่อย่าง World of Frozen แห่งแรกของโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันดีกรีรางวัลออสการ์สาขา Best Animation เรื่อง ‘โฟรเซ่น’ (Frozen) อีกด้วย
ยังไม่หมดเท่านั้น ความพิเศษของของ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) คือ Castle of Magical Dreams ปราสาทหลังใหญ่สุดอลังที่ได้รับการดีไซน์และสร้างขึ้นมาจากเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 13 เรื่องกันเลยทีเดียว ซึ่งรีวิวนี้ ก๊อตจะพาทุกคนโลดแล่นไปในโลกแห่งจินตนาการ ท่ามกลางตัวละครจากดิสนีย์ พร้อมเล่นเครื่องเล่นแบบจัดหนักจัดเต็มใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ทั้งหมด 8 โซน บอกเลยว่างานนี้ใครที่เป็นสาวกดิสนีย์อยู่เป็นทุนเดิมไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง
สารบัญรีวิวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
เนื่องจากรีวิว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) หน้านี้คือละเอียดยิบมาก ก๊อตเลยแบ่งซอยย่อยออกเป็นหัวข้อเพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านง่ายขึ้น ใครอยากอ่านอันไหน สามารถจิมด้านล่างได้เลยนะครับ
- รู้จักกับ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
- ซื้อบัตรฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่ไหนดี?
- เที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) พักที่ไหนดี?
- ทริคและการวางแผนเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- เครื่องเล่นห้ามพลาดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
- โซน World of Frozen
- โซน Main Street U.S.A.
- โซน Fantasyland
- โซน Adventureland
- โซน Tomorrowland
- โซน Grizzly Gulch
- โซน Mystic Point
- โซน Toy Story Land
- ขบวนพาเหรด Mickey & Friends Street Celebration
- โชว์พลุ “Momentous” มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี
- นอนโรงแรมในดิสนีย์แลนด์ที่ Disney Explorer Lodge
- สรุปการมาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
รู้จักกับ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) คือ สวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเพนนีส์เบย์ (Penny’s Bay) เกาะลันเตา (Lantau Island) ในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต โดยที่นี่ถือเป็นดิสนีย์รีสอร์ทแห่งที่ 5 ของโลก ที่ทางสวนสนุกต้องการนำเสนอประสบการณ์เกี่ยวกับดิสนีย์ที่เต็มไปด้วยความโดดเด่นทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยสีสัน ความมีชีวิตชีวาให้กับทุกคนที่ได้มาเยือน
โดย ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เปิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี ค.ศ. 2005 โดยมีเจ้าของในนามบริษัทร่วมทุน Hongkong International Theme Parks Limited ระหว่าง รัฐบาลฮ่องกง และบริษัท The Walt Disney โดยปัจจุบัน สวนสนุกแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยในแต่ละปีมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวสวนสนุกนับล้านๆ คน การันตีได้จากรายงานสถิติประจำปีของคณะกรรมการการท่องเที่ยวฮ่องกง ที่บอกว่า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในห้าสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฮ่องกง และยังทำเงินให้มากมายมหาศาลกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฮ่องกงอีกด้วย
สำหรับการออกแบบของ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ทางดิสนีย์ได้พยายามออกแบบให้มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมจีน ผ่านการวางโครงสร้างต่างๆ ตามหลักของฮวงจุ้ย โดยภายในสวนสนุกถูกแบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ World of Frozen, Main Street U.S.A., Fantasyland, Adventureland, Tomorrowland, Grizzly Gulch, Mystic Point และ Toy Story Land ซึ่งในแต่ละโซนนั้น เต็มไปด้วยเครื่องเล่นตามธีม ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าลิขสิทธิ์ พร้อมบูธขายเครื่องดื่มให้เราได้เล่น กิน ช้อปกันแบบหนำใจ ส่วนคนที่อยากมาตื่นตาตื่นใจไปกับพลุสวยๆ ท่ามกลางปราสาทสุดพิเศษที่ออกแบบมาจากเจ้าหญิงทั้ง 13 องค์ รวมถึงมีขบวนพาเหรดสุดน่ารักของเหล่ามิกกี้เมาส์และผองเพื่อน ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เค้ามีจัดแสดงให้ได้ดูกันแบบจุใจทุกวันเลย เอาเป็นว่าใครที่เป็นสาวกของเหล่าคาแรกเตอร์ต่างๆ จากจักรวาลของดิสนีย์ ก๊อตบอกเลยว่า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เป็นอีกหนึ่งสวนสนุกที่ต้องมาตามเก็บเข้าลิสต์ให้ได้
ซื้อบัตรฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่ไหนดี?
- ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday (⭐️แนะนำ): วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี คือการซื้อบัตรผ่าน Klook หรือ KKdays นั่นเอง โดยเว็บ OTAs เค้าจะเปิดขายบัตรล่วงหน้าราวๆ 2 เดือน เมื่อเราซื้อตั๋วมาแล้วจะได้รับเป็น QR Code ที่เราสามารถไปสแกนที่หน้าประตูแล้วเข้าสวนสนุกได้เลยโดยที่เราไม่ต้องปริ้นท์ตั๋วใดๆ บอกเลยว่านี่เป็นอีกช่องทางที่ก๊อตคิดว่าสะดวกมากที่สุดในการมาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) แล้ว
🎫 เช็คราคาและซื้อบัตรฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook]
โปรโมชั่น/ส่วนลดบัตรฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
เที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) พักที่ไหนดี?
สำหรับคนที่จริงจังในการมาเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) แล้วอยากอยู่เที่ยวสวนสนุกให้ครบเครื่อง ดื่มด่ำกับบรรยากาศของดิสนีย์มากที่สุดนั้น ยังไงก๊อตก็แนะนำให้ทุกคนได้เข้าพักโรงแรมและรีสอร์ทใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่มีโรงแรมให้ได้เลือกหลายระดับและราคาโดยตกแต่งไปตามธีมต่างๆ ของดิสนีย์เอง บางโรงแรมมาพร้อมแพ็กเกจพิเศษที่เราจะได้สิทธิเข้าดูในส่วนต่างๆ ภายในสวนสนุก รวมถึงรถรับส่งจากปาร์คไปยังโรงแรมสำหรับแขกของโรงแรมโดยเฉพาะ บอกเลยว่าใครที่ชอบความเป็นดิสนีย์ควรค่าแก่การเข้าพักอย่างมาก
Hong Kong Disneyland Resort
- Hong Kong Disneyland Hotel [⭐️แนะนำ]ราคาเริ่มต้น HK$ 1,855 (~8,750 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมหรูหราริมชายฝั่งทะเลแนวย้อนยุคที่ดีและแพงที่สุด จองผ่าน Booking / จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook
- Disney Explorers Lodge
ราคาเริ่มต้น HK$ 1,540 (~7,260 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมใหม่ล่าสุดในเครือดิสนีย์ ที่มาในธีมนักสำรวจของมิกกี้ และมินนี่เมาส์ จองผ่าน Booking / จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook - Disney’s Hollywood Hotel
ราคาเริ่มต้น HK$ 1,330 (~6,270 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่มาในธีมของซูปเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวล จองผ่าน Booking / จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook
ข้อดีของการเข้าพักใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
- มี Shuttle Bus คอยรับส่งระหว่างโรงแรมทั้ง 3 แห่งของ Hong Kong Resort โดยเราสามารถนั่งไปชมบรรยากาศ หรือทำกิจกรรมสนุกๆ ทั้งงานฝีมืออย่างประดิษฐ์สิ่งของจากดิสนีย์ที่ไม่ซ้ำกัน เล่นเกมบอล กิจกรรมริมสระว่ายน้ำได้ทุกโรงแรม และแน่นอนว่าเราสามารถนั่งรถบัสไปยังดิสนีย์แลนด์ได้ฟรีอีกด้วย
- มีคูปองส่วนลด 10 เหรียญ เอาไว้ใช้สำหรับซื้อของในสโตร์ด้านล่างของโรงแรม สามารถใช้ได้เลยไม่มีขั้นต่ำ
- ได้พบปะกับตัวละครจากดิสนีย์แบบไม่ซ้ำหน้า
- หากเข้าพักที่ Hong Kong Disneyland Hotel ในห้องชั้นบนสุด จะได้รับการดูแลดุจราชวงศ์ มาพร้อมน้ำและเครื่องดื่มฟรี อีกทั้งยังมีมิกกี้ และมินนี่ เมาส์มาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนด้วย
- เฉพาะแขกของ Hong Kong Resort สามารถใช้ช่องทางพิเศษเพื่อเข้าไปในสวนสนุกได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิว
ทริคและการวางแผนเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ โดยเฉพาะใครที่มีแพลนมาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) อยู่แล้ว ก๊อตแนะนำให้จองล่วงหน้ามาเลย เราจะได้ไม่ต้องมาต่อคิวหน้าสวนสนุกซื้อบัตรให้เสียเวลา
- จากประสบการณ์ที่ก๊อตไปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) มาแล้ว 2 วัน ทั้งวันธรรมดาและวันเสาร์-อาทิตย์ นี่คิดว่าคนไม่ได้มหาศาลเหมือนที่ญี่ปุ่นขนาดนั้น เราสามารถมาเที่ยววันไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกเลย
- อย่าลืมโหลดแอป Hong Kong Disneyland App เพราะแอปเดียวช่วยชีวิตเราตอนที่อยู่สวนสนุกได้เยอะมาก
- สามารถดูเเผนที่สวนสนุกทั้งหมดได้ผ่านเเอป โดยในแอปมันจะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของสวนสนุก รวมถึงเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นใช้เวลาต่อแถวเข้าเล่นกี่นาที
- ใช้ดูแผนที่เครื่องเล่น และโซนต่างๆ ในสวนสนุกได้ รวมถึงรู้ว่าเครื่องเล่นไหนปิดบ้าง
- ใช้ดูว่าเวลาโชว์พาเหรด หรือพลุว่าเค้าแสดงกี่โมง
- ใช้ในการซื้อบัตร Disney Premier Access ในแอป ซึ่งบัตรมันสามารถนำไปใช้ลัดคิวเข้าเล่นเครื่องเล่นยอดนิยมได้ โดยมีตั้งแต่ 3 เครื่องเล่นขึ้นไป
- ให้มาถึงสวนสนุกในเวลาเช้าที่สุดเท่าที่จะมาได้ ยิ่งใครมาตั้งแต่สวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก เพราะเครื่องเล่นฮิตคนจะยังต่อแถวไม่เยอะ และแน่นอนว่าเราจะมีเวลามากพอในการรอเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้นเยอะม๊าก
- ใครที่เตรียมตัวมาเล่น 2 เครื่องเล่นในโซน World of Frozen ก๊อตแนะนำว่ามาถึงสวนสนุกแล้วให้พุ่งตัวไปเล่นอันนี้ก่อนเลยตั้งแต่สวนสนุกเปิด เพราะเค้าเป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดและฮิตมากที่สุดของฮ่องกงตอนนี้ ซึ่งใช้เวลาต่อแถวนานกว่าเครื่องเล่นอื่นราวๆ 30-60 นาที เลย
- ส่วนตัวก๊อตคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องซื้อ Disney Premier Access สำหรับการเข้าเล่นเครื่องเล่นที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เนื่องจากใช้เวลาต่อแถวไม่นานเหมือนที่ญี่ปุ่น
- ทุกอย่างในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) สามารถใช้บัตรเครดิต หรือ Travel Card รูดได้หมด
- สำหรับใครอยากประหยัดงบ ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เราสามารถนำอาหาร และขวดน้ำดื่มเข้ามาภายในได้นะ โดยอาหาร ก๊อตแนะนำว่าควรเป็นอาหารที่พกง่าย ไม่มีกลิ่น ส่วนเครื่องดื่มแนะนำให้พกเป็นขวดเข้ามา เพื่อที่เราจะสามารถนำไปเติมน้ำเปล่าภายในสวนสนุกได้นั่นเอง
- สำหรับอาหารด้านใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) บอกเลยว่าราคาค่าอาหารข้างในค่อนข้างโหดมาก แซนวิชเริ่มต้นราคา HK$ 140-165 (~660 – 780 บาท) ต่อชุดเลยทีเดียว ส่วนน้ำเปล่า ราคาเติ่มต้น HK$25 (~120 บาท) น้ำอัดลม เริ่มต้น HK$ 38 (~185 บาท) เลยล่ะ ดังนั้น การที่เราพกขวดน้ำเข้ามาเติมน้ำดื่มฟรีด้านใน เราจะประหยัดไปได้เยอะเลย
เครื่องเล่นห้ามพลาดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) นั้น จริงๆ อันนี้มันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนแหละ แต่ถ้าให้ก๊อตเลือกมาล่ะก็ ก๊อตจะขอแยกออกเป็น 3 แบบตามที่ก๊อตชอบแล้วกัน โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ที่เริ่ดมากนั้นจะมี 3 ต่อท้ายชื่อไว้ด้วย หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มเล่นเครื่องไหน อย่างไร ลองเลือกดูๆ ตามสายตัวเองได้เล้ย
เหตุผลที่ห้ามพลาด | เครื่องเล่นห้ามพลาดในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | |
เครื่องเล่นตื่นตาตื่นใจ เน้นประสบการณ์ |
⚡️ บอกก่อนว่ารีวิวนี้ เราจะไล่เขียนเป็นโซนๆ ไปนะ แต่ในชีวิตจริงตอนที่เราอยู่ในสวนสนุกนั้น ไม่จำเป็นต้องไล่เก็บแต่ละโซนขนาดนั้น อันไหนที่เป็นเครื่องเล่นฮิตและเป็นเครื่องเล่นที่เราอยากเล่น หากเห็นเวลาต่อคิวในแอปดิสนีย์มันลงต่ำมาก นี่แนะนำให้ไปรีบต่อเครื่องเล่นนั้นไปเลย
มาเริ่มเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) กั้นน
โซน World of Frozen
สำหรับโซนใหม่ล่าสุดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่ต้องมอบมงความสวยอลังที่ห้ามพลาด เป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากโซน World of Frozen แห่งแรกของโลก กับดินแดนของอาณาจักรเอเรนเดล (Arendelle) ที่สมจริงและยิ่งใหญ่อลังการที่ด้านในถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ Arendelle Village (ฝั่งเมือง) และ Arendelle Forest (ฝั่งป่า) ที่จำลองหมู่บ้าน น้ำพุแห่งมิตรภาพ หอนาฬิกา วังน้ำแข็งของเอลซ่า ปราสาทเอเรนเดลล์ ไปจนถึงเครื่องเล่นและโชว์จากเอลซ่าและอันนารวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งสองโซนนี้ถูกคั่นกลางเอาไว้ด้วย King Agnarr Bridge หรือ สะพานข้ามทะเลสาบเอเรนเดลล์ ใครที่อยากหลุดเข้าไปเป็นหนึ่งในชาวเมืองเอเรนเดลนั้น ก๊อตบอกเลยว่า World of Frozen สานฝันเราได้ดีเยี่ยมเลย
Frozen Ever After
Frozen Ever After คือหนึ่งในเครื่องเล่นของ World of Frozen ที่ทุกคนจะได้กระโดดลงเรือไม้ลำใหญ่ล่องเข้าไปยังปราสาทน้ำแข็งของเอลซ่า ท่ามกลางฉากของถ้ำ หมู่บ้าน และผืนป่าที่ทำออกมาได้สมจริงสุดๆ นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นๆ และบทเพลงสุดไพเราะจากภาพยนตร์เรื่อง Frozen ให้ได้ดื่มด่ำกันแบบหนำใจ โดยซีนไฮไลท์ที่ก๊อตประทับใจจนน้ำตาไหลและขนลุกมากเลยก็คือ ซีนเจ้าหญิงเอลซ่าที่กำลังยืนร้องเพลงร่ายมนต์อยู่ เรือไม้จะค่อยๆ ลอยลำเข้าไปตรงหน้าของเอลซ่า ท่ามกลางเสียงเพลง Let It Go ที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับจังหวะที่เรือได้ถอยหลังห่างออกจากเอลซ่าอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางแสง สี เสียง และถ้ำที่กลายเป็นสีฟ้าราวกับมีเวทมนตร์อยู่จริงๆ มันสวย มันจึ้งไปหมด ก๊อตชอบจนเล่นซ้ำสองรอบ ถือเป็นช่วงที่ชอบที่สุดในเครื่องเล่นนี้แล้ว มันเหมือนเราถูกสะกดด้วยเวทมนตร์จากเอลซ่าจริงๆ
Wandering Oaken’s Sliding Sleighs
Wandering Oaken’s Sliding Sleighs อีกหนึ่งเครื่องเล่นใน World of Frozen ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตัวละครที่ชื่อ โอเค่น (Oaken) ที่ได้ปรับเปลี่ยนภูเขาหลังบ้านท่ามกลางผืนป่าเอเรนเดลให้กลายมาเป็นลานรถไฟเหาะ จนกลายมาเป็น Wandering Oaken’s Sliding Sleighs ที่แม้ว่าจะเป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะเด็กน้อยที่ระดับความเสียวไม่ได้มีมากนัก แต่ก๊อตคิดว่าก็ถือเป็นอีกเครื่องเล่นที่ตื่นตาตื่นใจไปกับฉากต่างๆ ที่เราจะได้พบเจอด้านใน แต่น่าเสียดายไปนิดที่ระยะเวลาการเล่นรถไฟเหาะนี่สั้นเพียงนิดเดียวเท่านั้น ยังไม่รู้สึกจุใจเท่าไหร่เล้ย ฮ่าๆ แต่ยังไงนี่ก็แนะนำให้เล่นนะ เพราะเครื่องเล่นนี้มีอยู่แค่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เท่านั้น ใครที่มาครั้งแรก หากปาร์คเปิดแล้วให้พุ่งตัวมาเล่นก่อนได้เลย
Playhouse in the Woods
สำหรับ Playhouse in the Woods คือ โรงละครขนาดย่อมที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ Frozen ได้เข้ามาชมโชว์ของ เอลซ่า อันนา และโอลาฟอย่างใกล้ชิด ซึ่งความน่ารักของโชว์คือ เจ้าหญิงทั้งสองเค้าจะเดินลงมาอยู่ใจกลางโรงละครแล้วสวมบทบาทแสดงพร้อมร่ายมนต์ให้เราได้ดูกันแบบเอกซ์คลูซีฟ ท่ามกลางผืนป่าที่จัดเต็มไปด้วยฉาก เอฟเฟกต์ต่างๆที่อลังการไม่แพ้ใคร ยิ่งในตอนที่เอลซ่าร่ายมนต์นั้น เหล่าควัน ภาพประกอบ ไปจนถึงหิมะ ต่างโปรยปรายลงมาเสมือนจริงให้ได้ตื่นตาตื่นใจไปด้วย ก๊อตยกให้เป็นอีกโชว์ที่น่ารักหนุบหนับใจมาก ใครที่อยากชมโชว์นี้ จะต้องกดจองคิว Disney Standby Pass ผ่านแอพฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ก่อนนะ โดยบัตร 1 ใบ สามารถใช้ได้กับ 1 คนเท่านั้น ซึ่งตอนกดจองเค้าจะมีรอบเวลาให้เราเลือก ดังนั้น หากใครจองทัน ให้มารอเข้าชมในเวลาที่กำหนด หรือมารอก่อนเวลาได้เลย
โซน Main Street U.S.A.
สำหรับ Main Street U.S.A. เค้าคือถนนทอดยาวที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก เมืองอนาไฮม์ (Anaheim) ในแคลิฟอร์เนีย โดย Main Street U.S.A. ทำหน้าที่เป็นถนนสายหลักเข้าสู่สวนสนุก ตามสองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคาร ช็อปขายสินค้าลิขสิทธิ์ ร้านจิวเวอร์รี่ และร้านอาหาร ซึ่งภายนอกมีการตกแต่งให้ฟีลความเป็นอเมริกันในศตวรรษที่ 20 ซึ่งความพิเศษของถนนสายนี้ คือแทนที่เค้าจะใช้หินเป็นวัสดุในการก่อสร้างหลักเหมือนกับ Main Street U.S.A. ในดิสนีย์แลนด์แห่งอื่นๆ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) กลับเลือกใช้ไม้เป็นหลัก นั่นเลยทำให้กลิ่นอายของถนนสายนี้นั้นไม่เหมือนดิสนีย์แลนด์ที่ไหนนั่นเอง สำหรับใครที่อยากช้อปพวกเครื่องหัว หรือพร๊อพเอาไว้ใส่ในสวนสนุก สามารถแวะที่โซนนี้ก่อนได้เลย
Animation Academy Drawing
อีกหนึ่งกิจกรรมสุดน่ารักที่เราจะได้มีโอกาสทำให้ตัวละครจากดิสนีย์มีชีวิตขึ้นมา นั่นคือ Animation Academy Drawing หรือกิจกรรมที่เราจะได้รับบทเป็นนักเรียนใหม่เข้าไปในอคาเดมี่ซึ่งเป็นสตูดิโอแอนิเมชันแบบเก่า เพื่อเรียนวาดรูปตัวละครจากดิสนีย์ ซึ่งใครที่คิดว่าตัวเองไม่มีพื้นฐานการวาดมาก่อนแล้วกลัวว่าจะทำไม่ได้ บอกเลยว่า ก๊อตทำได้ทุกคนก็ทำได้ คือมันไม่ได้ยากเลย เพราะเค้าจะมีครูมาคอยสอนกันตั้งแต่ร่างภาพ ก่อนจะพาวาดไปทีละขั้นตอน จนได้ออกมาเป็นตัวละครของดิสนีย์ที่สมบูรณ์แบบ ความน่ารักของกิจกรรมนี้คือเราสามารถหยิบภาพที่เราวาดเสร็จกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้ด้วยนา
Duffy and Friends
ในช่วงที่ก๊อตมาเที่ยวนั้น เป็นช่วงสปริงที่ทาง ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เค้าได้เนรมิตบรรยากาศรอบๆ ของสวนสนุกให้ตลบอบอวลไปด้วยเหล่า Duffy and Friends โดยในช่วงเวลานั้นเราจะได้พบเจอกับความน่ารักของ ดัฟฟี่ (Duffy), เชลลี่ เมย์ (Shelliemay), เจลาโตนี่ (Gelatoni), สเตล่า ลู (Stella Lou), คุกกี้แอนน์ (CookieAnn), ลีน่าเบล (LinaBell) และโอลู (Olu Mel) ที่เป็นดั่งตัวละครหลักของสวนสนุกที่จะมาเรียกรอยยิ้มจากทุกคนนั่นเอง โดยก๊อตขอเล่าให้ฟังก่อนว่าดัฟฟี่นั้น เค้าเป็นตุ๊กตาหมีที่มินนี่ เม้าส์เย็บให้กับมิกกี้ เมาส์ เพื่อให้มาอยู่เป็นเพื่อนในการเดินทางท่องโลก จนทำให้ทั้งสองได้กลายมาเป็นเพื่อนรักของกันและกัน ซึ่งเหล่า Duffy and Friends Play Days ความพิเศษคือเค้ามีเฉพาะใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เท่านั้น ใครที่มาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ช่วงสปริง ก็อาจจะเจอการตกแต่งที่เน้นน้องๆ Duffy and Friends คล้ายก๊อตแบบนี้เลย
สำหรับบรรยากาศภายในสวนสนุกเราจะได้ถ่ายรูปสุดปุ๊กปิ๊กกับสวนสวยๆ ที่มีหน้าของเจ้าดัฟฟี่อยู่บนบริเวณรางรถไฟ รวมถึงได้ยลโฉมประติมากรรมผองเพื่อนของดัฟฟี่สมจริงใจกลางลานในถนน Main Street พร้อมทั้งได้เข้าไปพบปะกับดัฟฟี่และเพื่อนๆ ในโรงละครสุดน่ารัก ที่ก๊อตเชื่อว่าสามารถตกเราได้ไม่ยาก ใครที่ก่อนมาอาจจะยังไม่คุ้นหูกับแก๊งนี้ แต่ก๊อตการันตีได้เลยว่า มาถึงที่นี่แล้วจะต้องขอร่วมจอยเป็นสาวกของดัฟฟี่และเพื่อนๆ อย่างแน่นอน
Meet Duffy and Friends Play House
ใครที่อยากเข้าไปจับมือทักทายพร้อมกับถ่ายภาพคู่กับดัฟฟี่และผองเพื่อนแบบใกล้ชิด ท่ามกลางโลกของการ์ตูนที่จำลองออกมาได้เสมือนจริง ราวกับเราได้เข้าไปเป็นสมาชิกคนหนึ่งด้วยนั้น กิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยก็คือ การเข้าไป Meet Duffy and Friends Play House บน Plaza Grounds ที่เราจะได้เข้ามาเยือน ‘โรงละครของดัฟฟี่และผองเพื่อน’ ที่สมจริงผ่านห้องโถงมากมาย ทั้ง Morning Glory ห้องนั่งเล่นของดัฟฟี่และเพื่อนๆ ที่บรรยากาศนั้นตลบอบอวลไปด้วยความสดใสและน่ารัก ยกขบวนกันมาทั้งเหล่าเฟอร์นิเจอร์และของประดับสุดปุ๊กปิ๊ก แถมเรายังสามารถเข้าไปนั่งเล่นอยู่บนเก้าอี้ราวกับว่าหลุดเข้ามาอยู่ในห้องรับแขกของพวกเค้าจริงๆ ถือเป็นห้องที่ชวนให้ใจฟูกันตั้งแต่เริ่มต้นเลย นอกจากห้องนั่งเล่นแล้ว เค้ายังมีห้องครัวของ คุกกี้แอนน์ (CookieAnn) ที่ตกแต่งเสมือนเป็นห้องครัวจริงๆ รวมถึงยังมีสตูดิโอศิลปะของเจลาโตนี่ (Gelatoni) ที่มาพร้อมภาพงานศิลปะและเทคโนโลยีสุดเจ๋งให้เราได้ลองมาเป็นศิลปินอีกด้วย
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยคือ เขาวงกตของ ลีน่าเบล (LinaBell) ที่เราจะได้เดินลัดเลาะเข้าไปในเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยผีเสื้อมากมายเพื่อเจอกับคาแรกเตอร์ต่างๆ ในชุดมาสคอตที่รอพบปะกับเราหลังม่านเขาวงกต โดยเค้าจะมี 3 ตัวละครมาให้เราเลือก ไม่ว่าจะเป็น ลีน่าเบล (LinaBell), คุกกี้แอนน์ (CookieAnn) และ สเตล่า ลู (Stella Lou) ซึ่งเป็นตัวละครที่ก๊อตเลือกเข้าไปเจอ โดยสเตล่า ลู ตอนเราไปเจอน้องน่ารักและมีเอเนอร์จี้เยอะม๊าก มีความดุ๊กดิ๊กสุดๆ ซึ่งเราจะมีเวลาอยู่ในห้องนั้น 1 นาที จะเต้น เล่น ร้อง หรือถ่ายรูปก็ทำได้ตามสบาย ซึ่งก๊อตเองประทับใจแบบยิ้มไม่หุบ บอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบดัฟฟี่และผองเพื่อนอยู่แล้ว ห้ามพลาดกิจกรรมนี้โดยเด็ดขาด ยิ่งใครที่ตั้งใจมาเจอพวกเค้าด้วยแล้ว แนะนำให้วิ่งตรงมายัง Duffy and Friends Play House เลยตั้งแต่ปาร์คเปิด เพราะที่นี่ถือเป็นกิจกรรมฮิตที่เราต้องต่อคิวยาวมากที่สุดของปาร์คแล้ว ซึ่งช่วงพีคๆ นั้นเราต้องรอมากถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
โซน Fantasyland
สำหรับใครที่พาเจ้าตัวน้อยมาเที่ยวสวนสนุก แล้วอยากเล่นเครื่องเล่นที่ไม่ผาดโผนและหวาดเสียวมากนัก ก๊อตแนะนำมาที่ Fantasyland ด้านหลังของปราสาทได้เลย โดยโซนนี้เค้าจะเป็นเหมือนดินแดนแฟนตาซีที่น้องๆ หนูๆ จะได้มาพบปะกับบ้านของเหล่าตัวละครสุดโปรด ท่ามกลางโลกแห่งเทพนิยายและเครื่องเล่นสำหรับเด็กไม่ว่าจะเป็น “It’s a Small World” หนึ่งในเครื่องเล่นที่เราจะได้ล่องเรือเข้าไปในโลกใบเล็กที่ภายในเต็มไปด้วยตัวละครสุดจิ๋ว หรือจะเป็น “Mad Hatter Tea Cups” ที่เราจะได้เข้าไปสู่ฉากปาร์ตี้น้ำชาของแมดแฮทเทอร์ ผ่านถ้วยชายักษ์ขนาด 4 ที่นั่ง ที่หมุนวนเวียนอยู่บนจานรองขนาดใหญ่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Alice in Wonderland
นอกจากนี้ยังมี “Cinderella Carousel” ม้าหมุนซินเดอเรลล่าที่ผู้ปกครองสามารถจูงมือเด็กๆ มาขึ้นนั่งได้ แต่ถ้าให้ก๊อตแนะนำเลยอีกเครื่องเล่นห้ามพลาด คือ “Winnie the Pooh” เครื่องเล่นที่อิงมาจากการ์ตูนเรื่อง Winnie The Pooh ที่เราจะได้เข้าไปผจญภัยไปในโลกของหมีพูห์และผองเพื่อน ยังไม่หมดเท่านั้น ใครที่อยากพบปะกับตัวละครแบบกระแทกไหล่ให้ไปที่ “Fantasy Gardens” ปิดท้ายได้นะ ตรงนี้เค้าจะเป็นสวนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Fantasia ในช่วงปี ค.ศ. 1940 โดยจะมีคาแรกเตอร์ต่างๆ มายืนรอให้เราได้พูดคุยและถ่ายรูปคู่อีกด้วย เรียกได้ว่าโซน Fantasyland เป็นอีกหนึ่งโซนในสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นเหมาะกับเด็กๆ อยู่เยอะมาก ใครมาเที่ยวกันแบบครอบครัวแล้วพาเด็กๆ มาเที่ยวครั้งแรกก๊อตอยากให้เข้ามาโซนนี้ก่อนใครเพื่อนได้เลย
It’s a Small World
หนึ่งในเครื่องเล่นในโซน แฟนตาซีแลนด์ (Fantasyland) ที่ก๊อตแนะนำเลยก็คือ It’s a Small World เครื่องเล่นคลาสสิกที่ก๊อตตามเก็บมาจากดิสนีย์แลนด์แทบจะทุกที่บนโลกใบนี้ โดยเค้าจะเป็นเครื่องเล่นที่เราจะได้ขึ้นไปนั่งบนเรือลำเล็ก ก่อนจะค่อยๆ ลอยลำเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยาย ที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยบรรดาตัวการ์ตูน Audio – Animatronics มากกว่า 300 ตัว ซึ่งมาในชุดเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมจากวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งแต่ละตัวจะมาร้องเล่น เต้นระบำในเพลงประจำสถานที่เหล่านั้นให้เราได้ชมกันตลอดระยะเวลาที่ล่องเรือเข้าไปกว่า 10 นาที ความน่ารักของเครื่องเล่นนี้ คือ การได้เข้าไปนั่งดูตัวการ์ตูนที่พร๊อพแน่นสุดๆ ท่ามกลางฉากเมืองที่เค้ายกมาจากประเทศต่างๆ ได้อย่างสมจริง ซึ่งทุกอย่างมันมาในเวอร์ชันจิ๋วๆ ยิ่งทำให้ไวบ์รอบตัวดูน่ารักขึ้นไปเป็นกอง ส่วนตัวก๊อตบอกเลยว่า It’s a Small World เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่เหมาะกับน้องๆ หนูๆ ที่สุด แบบที่ว่าเข้ามาแล้วจะต้องว้าวอย่างแน่นอน
โซน Adventureland
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปสู่ผืนป่าดิบชื้น Adventureland ถือเป็นโซนที่ตอบโจทย์นี้มาก เพราะเราจะได้เข้าไปผจญภัยภายในป่าที่มีบ้านของทาร์ซานอยู่ โดยเค้ามาพร้อมเครื่องเล่นสุดมันส์อย่าง “Tarzan’s Treehouse” บ้านต้นไม้ของทาร์ซานที่ได้รับการออกแบบมาจากภาพยตร์เรื่องทาร์ซานในปี ค.ศ. 1999 ซึ่งถอดแบบบ้านออกมาได้โคตรสมจริง หรือจะเป็นกิจกรรมสนุกๆ อย่าง “Jungle River Cruise” ที่พาเราล่องเรือไปตามแม่น้ำหลายสายสำคัญจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมต่างๆ แบบละลานตาไปตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นที่ล้วนแล้วแต่มาในธีมแอดเวนเจอร์ รวมถึงโชว์การแสดงจากการ์ตูนเรื่องโมอาน่าให้ได้เลือกเล่นและรับชมกันอย่างจุใจ ใครชื่นชอบความระทึกเร้าใจ มันไม่มีโซนไหนใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่เหมาะได้เท่ากับ Adventureland อีกแล้ว
Jungle River Cruise
หากใครอยากเล่นเครื่องเล่นที่ไม่ต้องใช้พละกำลังเยอะ แต่ได้ความลุ้นระทึกไม่แพ้กัน ก๊อตแนะนำให้เราไปล่องเรือ Jungle River Cruise หนึ่งในเครื่องเล่นของโซน Adventureland ได้เลย โดยเค้าจะเป็นการล่องเรือเข้าไปยังแม่น้ำสายสำคัญหลายสายของเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ ที่มาพร้อมกับความตื่นเต้นลุ้นระทึกจากสิงสาราสัตว์และเอฟเฟกต์ต่างๆ กันจนตัวเกร็ง ใครที่ชอบการนั่งเรือชมวิว แต่อยากได้ฟีลกรี๊ดกร๊าดไปด้วย Jungle River Cruise นี่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยเชียว
สำหรับการล่องเรือนั้น เราจะได้ขึ้นไปยังเรือกลไฟจำลองที่นำเที่ยวโดยคนขับเรือที่ตีบทแตกทุกช๊อตตั้งแต่ท่าขับเรือไปจนถึงเสียงพูดที่บิ้วอารมณ์คนดูให้คล้อยตามไปตลอดเส้นทาง โดยเรือมันจะล่องผ่านไปบนแม่น้ำที่สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่ามากมายโผล่มาทักทายให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนพี่คนขับเรือยังคงเอเนอจี้ล้นไม่มีอ่อมเพราะไม่ว่าเรือมันจะล่องผ่านเปลวเพลิง โขลงช้าง หรือแม้ฮิปโปโปเตมัสตัวใหญ้เบิ้ม พี่แกก็จะคอยชวนมองตรงนั้น ก่อนจะพาหันไปกรี๊ดกับตรงนี้อยู่ร่ำไป บอกเลยว่าระยะเวลาร่วม 10 นาทีที่เราล่องเรืออยู่บนแม่น้ำนั้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเพลินสุดๆ เอาจริงแค่มาดูคนขับเรือเล่นบทหวีดๆ นี่ก็ขำจนปอดโยกแล้ว 5555555
โซน Tomorrowland
Tomorrowland โซนอาณาจักรไซไฟและอวกาศ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ Stark Industries ที่ใครชื่นชอบเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากจักรวาลมาร์เวลนั้นต้องมา โดยโซนนี้เค้ามาในธีมของโลกแห่งอนาคตที่เราจะได้โลดแล่นไปในจินตนาการและการผจญภัยท่ามกลางโลกยุคอวกาศสุดมันส์ ซึ่งโซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Jules Verne นักเขียนชาวฝรั่งเศส ผู้ที่บุกเบิกการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์และไซไฟสมัยแรกๆ โดยเครื่องเล่นห้ามพลาดภายในโซนนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีรถไฟเหาะสุดคลาสสิกอย่าง “Hyperspace Mountain” รถไฟเหาะในธีมอวกาศที่เราจะได้ผาดโผนไปบนรางท่ามกลางกาแล็กซี่อันยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังมี “Take Flight with Iron Man Above Hong Kong” เครื่องเล่นธีมมาร์เวลที่เราจะได้ขึ้นยานบินไปกับไอรอนแมนเหนือเกาะฮ่องกงแบบคมชัดที่หาไม่ได้จากดิสนีย์ที่ไหนบนโลกใบนี้ และ “Ant-Man and The Wasp: Nano Battle” เครื่องเล่นที่เราจะได้ย่อส่วน แล้วออกไปสู้รบกับ Ant-Man และ The Wasp เพื่อปกป้องข้อมูลของหน่วย S.H.I.E.L.D. ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มวายร้ายอย่างพวกไฮดรา
Hyperspace Mountain
สำหรับเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่ห้ามพลาดเลยของโซนนี้คือ Hyperspace Mountain ที่ถือเป็นรถไฟเหาะแบบ Dark Ride อยู่ในโดมสถานีอวกาศขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกปล่อยตัวเข้าไปสู่โลกแห่งอวกาศซึ่งเป็นสนามสู้รบของเหล่าสตาร์วอร์ส
ความสนุกและตื่นเต้นมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อจู่ๆ เราก็ได้รับภารกิจให้ไปตามหายานสตาร์เดสทรอยเยอร์ ซึ่งเป็นยานของฝ่ายจักรวรรดิ แต่ภารกิจมันไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อการออกเดินทางจะต้องคอยหลบหลีกวิถีกระสุนจากศัตรูแบบจ้าละหวั่นท่ามกลางความมืดมิด ก่อนที่รถไฟเหาะที่เรานั่งมาด้วยความเร็วปกติในตอนแรกจะค่อยๆ เริ่มเร่งสปีดความเร็วเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นจนหลังแทบไม่ติดเบาะ ยิ่งจังหวะกระสุนบลาสเตอร์ซึ่งเป็นลำแสงสีแดงและเขียวเฉียดฉิวไปตามเนื้อตัวด้วยนะ โอ้ยมันตื่นเต้นและมันส์มาก โดยรถไฟเหาะเค้าก็จะวิ่งวนไปบนรางจนในที่สุดเราก็สามารถค้นหายานสตาร์เดสทรอยเยอร์ได้สำเร็จและเป็นอันจบภารกิจในครั้งนี้ ส่วนตัวก๊อตชอบเครื่องเล่นนี้มาก ถือเป็นรถไฟเหาะที่หวาดเสียวและเร็วที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้แล้ว ใครที่ชอบเล่นเครื่องเล่นผาดโผน ก็คือห้ามพลาด Hyperspace Mountain แล้วแหละ มันดีย์ม๊ากก
Take Flight with Iron Man Above Hong Kong
หนึ่งในเครื่องเล่นที่เราต้องมาเล่นในโซน Tomorrowland เลยก็คือ เครื่องเล่น Take Flight with Iron Man Above Hong Kong เครื่องเล่นธีมมาร์เวลที่เราจะได้ขึ้นยานบินไปกับไอรอนแมนเหนือเกาะฮ่องกงแบบคมชัดสมจริงสุดๆ โดยเครื่องเล่นนี้เค้ามาในรูปแบบสามมิติที่เราต้องใช้เจ้าแว่นตา StarkVision เข้าไปนั่งอยู่บนยานจำลอง Iron Wing Mark VIII รุ่น Expo Edition ที่จะพาเราเหาะเหินขึ้นไปบนอากาศเพื่อชมทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกง บินว่อนผ่านเกาะเกาลูน แหล่งการค้าสุดคึกคัก อ่าววิคตอเรียอันยิ่งใหญ่ และแนวตึกสูงต่างๆ ไปจนถึงตึก Hong Kong Stark Tower ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะได้บินเคียงคู่ไปกับไอรอนแมนอีกด้วย
ภารกิจลุ้นระทึกมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไอรอนแมนได้รับรายงานว่าในเมืองมีเหล่าไฮดร้ากำลังก่อการร้ายอยู่ ทีนี้ละความวายป่วงได้เริ่มต้นขึ้นทันที ยานที่นั่งชมวิวมาดีๆ ได้เหาะเหินไปบนอากาศกันอย่างรวดเร็ว โดยมีภารกิจที่จะต้องไปช่วยไอรอนแมนกำจัดเหล่าวายร้ายที่เล่นฟาดสารพัดข้าวของเข้าใส่ จู่โจมไอรอนแมนและยานที่เรานั่งมาจนกระจกหน้าแตกกันเลยทีเดียว ซึ่งตอนสู้กันเนี่ย สนุกม๊าก เพราะเบาะที่เรานั่งเค้าจะโยกไปมาแบบตึกตักๆ ก้นแทบไม่แตะเบาะกันเลยทีเดียว โดยตลอดระยะเวลาที่เล่นอยู่กว่า 4 นาที ถือเป็นเครื่องเล่นระทึกหัวใจเว่อร์เป็นการนั่งเครื่องเล่นที่ดูเหมือนไม่หวาดเสียงแต่ชวนอ้วกและมึนหัวได้เช่นกัน คิคิ
โดยรวมตลอดการเล่น Take Flight with Iron Man Above Hong Kong ในระยะเวลาประมาณ 4 นาที ก๊อตบอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจทุกวินาที เป็นเครื่องเล่นที่ดึงเอเนอร์จี้และความตื่นเต้นของเราออกมาได้พอสมควร ยกให้เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่พลาดไม่ได้ของ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เพราะเจ้าเครื่องเล่นนี้มีเฉพาะแค่ที่ฮ่องกงเท่านั้น
Astro Orbiter
อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ตั้งเด่นเตะตามาแต่ไกลเลยก็คือ Astro Orbiter เครื่องเล่นจรวดหมุนที่จะพาเราเดินทางผ่านโลกอวกาศไปด้วยกัน โดยเครื่องเล่นนี้เปิดให้บริการในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2005 ที่แม้ว่าเครื่องเล่นนี้จะมีอยู่แล้วในดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก แต่ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เค้ามาในเวอร์ชันของตัวเองที่ชื่อว่า ออร์บิทรอน (Orbitron) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ดัดแปลงมาจาก ดิสนีย์แลนด์ปารีส (Disneyland Paris) โดยที่นั่งจะมีลักษณะต่างออกไปคือ ทำเป็นรูปทรงจานบิน ไม่ใช่รูปทรงจรวดอย่างเคย ซึ่งมันสามารถนั่งได้ถึง 4 คนกันเลยทีเดียว ส่วนรูปแบบการเล่นนั้นยังคงเหมือนเดิม คือจานบินจะค่อยๆ พาเราล่องลอยขึ้นลงไปบนอากาศเสมือนอยู่ท่ามกลางโลกแห่งอวกาศ ส่วนตัวก๊อตคิดว่าเค้าเป็นเครื่องเล่นเหมาะกับเด็กๆ ไม่ได้หวาดเสียวมากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่เด็กๆ มาต่อคิวเล่นได้สบายๆ
Ant-Man and The Wasp: Nano Battle
Ant-Man and The Wasp: Nano Battle อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ต้องจดลงลิสต์ห้ามพลาดในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เพราะเค้าคือ เครื่องเล่นที่เราจะได้ย่อส่วนลงไปเหลือตัวเท่ามดแล้วออกไปสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Ant-Man และ The Wasp เพื่อปกป้องข้อมูลของหน่วย S.H.I.E.L.D. ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มวายร้ายอย่างไฮดรา โดยเครื่องเล่นจะเป็นเหมือนการพาเราเข้าไปสู่ Stark Industries บริษัทของโทนี่ สตาร์กที่กำลังพัฒนาข้อมูลเพื่อรักษาโลกให้ปลอดภัย โดยโทนี่ได้เป็นพันธมิตรกับหน่วย S.H.I.E.L.D. วันดีคืนดีตึกที่ปลอดภัยกลับถูกพวกไฮดร้าโจมตีเค้าเลยเรียกให้ Ant-Man และ The Wasp มาช่วยจัดการฝูงบอทนับพันให้สิ้นซาก
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ซึ่งรูปแบบของเครื่องเล่นคือเราจะได้ขึ้นไปบนยานที่เรียกว่า Dagger และใช้ EMP Blaster หรือปืนยิงเลเซอร์สุดล้ำในการจัดการกับฝูงบอทเพื่อหยุดการโจมตีของกลุ่มไฮดร้า โดยระหว่างที่ยิงก็จะมีคะแนนสะสมโชว์อยู่บนหน้าจอของใครของมันอีกด้วย และเมื่อเราจัดการกับฝูงบอทจนสิ้นซากก็เป็นอันจบภารกิจย่อส่วนช่วย Ant-Man และ The Wasp แล้วจ๊า ใครชอบเครื่องเล่นฟีลยิงกำจัดศัตรูน่าจะชอบกัน
Starliner Diner
หากใครเล่นสารพัดเครื่องเล่นจนเหนื่อยแล้วอยากเติมพลังด้วยอาหารอร่อยๆ ภายในโซน Tomorrowland ยังมีห้องอาหารที่ชื่อ ‘Starliner Diner’ ที่ตกแต่งมาในธีมมาร์เวล เน้นขายเมนูอาหารซูเปอร์พาวเวอร์ ที่มีให้เราเลือกกินถึง 4 เซต โดยจะเป็นเมนูเบอร์เกอร์ที่โชวืความเป็นมาร์เวลด้วยขนมปังรูปซูเปอร์ฮีโร่สุดเท่ ซึ่งราคาอาหารเริ่มต้นที่ HK$140 (~660 บาท) – HK$165 (~780 บาท) นอกจากนี้ยังมีพวกของสะสมตามแต่ละฤดูกาลวางขายอีกด้วย บอกเลยว่าใครที่เป็นแฟนๆ มาร์เวลจะต้องเลิฟอย่างแน่นอน
โซน Grizzly Gulch
Grizzly Gulch อีกหนึ่งโซนเล็กๆ ที่จำลองบรรยากาศเมืองในยุคขุดเหมืองของอเมริกาขึ้นมา โดยมีสตอรี่ว่า เมืองแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 8 เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1888 โดยคนเค้าเชื่อกันว่าวันนี้ถือเป็นวันที่โชคดีที่สุด แต่แล้วจู่ๆ กลุ่มของผู้ก่อตั้งเมืองนี้กลับป่วยขึ้นมากระทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวเมืองต่างก็พากันหาเหตุผลที่ทำให้พวกผู้นำป่วย จนกระทั่งพวกเขาได้ค้นพบว่าที่ตั้งของเมืองนี้อยู่บนยอดของน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ และอาจเป็นสาเหตุให้ผู้นำของเมืองนี้ป่วย และในที่สุดหมู่บ้านนี้ก็ร้างไร้ผู้คนเรื่อยมา จนกระทั่ง กัปตันฟีเนียส คอสโกรฟ (Phineas Cosgrove) ที่กำลังสำรวจไหล่เขาซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ตั้งของหมู่บ้าน เขาได้พบเข้ากับหมี 3 แม่ลูก ได้แก่ Rocky, Mother Lode และ Nugget และได้ค้นพบร่องรอยของทองคำ พร้อมกับเริ่มก่อตั้งบริษัท Big Grizzly Mountain Mining และทำธุรกิจเหมืองขุดทองจนธุรกิจใหญ่โตโอหังมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง
แน่นอนว่าโซนนี้มาในธีมเหมืองขุดทองขนาดนี้ เครื่องเล่นที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars รถไฟเหาะที่เราจะได้โลดแล่นไปยังโลกเหมืองใต้ดินและพบกับเจ้าหมีทั้งสามตัว ใครที่อยากเล่นรถไฟเหาะไม่หวาดเสียวมาก เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี แนะนำมาโซนนี้เลยจ๊า
Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars
สำหรับ Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars เค้าคือเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะที่ถูกออกแบบมาให้สามารถเข้าเล่นได้ทุกเพศทุกวัย มาในธีมการเข้าไปสำรวจภายใต้อาคารของบริษัท Big Grizzly Mountain Mining ที่ก่อตั้งขึ้นมาในยุคเริ่มต้นขุดเหมืองทองในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเราจะได้นั่งไปบนรถไฟเหาะก่อนจะทะยานไปตามราง พร้อมกับลัดเลาะไปยังห้องต่างๆ ภายในบริษัท ทั้งโรงเลื่อยที่เต็มไปด้วยฝุ่นมากมาย หรือจะเป็นห้องทำงานของนักธรณีวิทยา ไปจนถึงเหมืองลึกลับที่มีหมี 3 ตัวตั้งอยู่ ซึ่งกัปตันฟีเนียส คอสโกรฟ (Phineas Cosgrove) เค้าเชื่อว่าหมีเหล่านี้เป็นหมีนำโชค เพราะพวกมันทำให้เขาพบทองนั่นเอง
ที่ก๊อตชอบคืออีกจังหวะหนึ่งที่เหมือนรถไฟเหาะมันพาเราวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว ก่อนจะหยุดและถอยหลังย้อนกลับด้วยความเร็วแบบผมปลิวว่อน โดยรวมบอกเลยว่าสนุกโคตรๆ ยกให้เป็นอีกเครื่องเล่นที่อยากต่อแถวเล่นซ้ำเลยทีเดียว
โซน Mystic Point
ใครหลงใหลในเรื่องราวลึกลับชวนหลอน บนโลกแห่งเวทมนตร์ให้พุ่งตัวมาที่โซน Mystic Point กันได้เลย โดยโซนนี้เค้าตั้งอยู่ท่ามกลางป่าฝนอันหนาแน่นในปาปัวนิวกินี รายล้อมไปด้วยพลังงานลึกลับเหนือธรรมชาติ ของท่านลอร์ด เฮนรี่ มิสติก หนึ่งในตัวละครของดิสนีย์ ที่มีคาแรกเตอร์เป็น นักผจญภัย และนักสำรวจ โดยมีเพื่อนร่วมเดินทางอย่าง อัลเบิร์ต ลิงสุดกวนนิสัยจอมซนที่ถูกตั้งชื่อตามลุงสุดที่รักของเขา ซึ่งท่านลอร์ดนั้นหลงใหลในการสะสมสิ่งประดิษฐ์จากทั่วโลก แล้วนำมาเก็บเอาไว้ในปราสาท ‘Mystic Manor’ ของตัวเอง วันดีคืนดีของสะสมก็พาเจ้าของตัวจริงติดตามมาด้วย เกิดเป็นเรื่องชวนหลอนจนปราสาทหลังงามได้ชื่อว่าเป็นคฤหาสน์ผีสิงกันเลยทีเดียว โดยเครื่องเล่นห้ามพลาดในโซน Mystic Point คือ Mystic Manor ที่เราจะได้นั่งรถม้าเข้าไปชมคอลเลกชันของสะสมอันน่าหลงใหลของท่านลอร์ด ที่ก๊อตเชื่อว่าใครชอบเรื่องราวของเวทมนตร์มาเล่นแล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน
Mystic Manor
Mystic Manor เป็นเครื่องเล่นที่ก๊อตเชียร์ให้ทุกคนมาเล่นมากที่สุดอีกอันในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เพราะเค้าคือ ทัวร์นั่งรถม้าชมภายในคฤหาสน์ที่คนทั่วไปเลื่องลือกันว่าเป็นคฤหาสน์ผีสิงสุดหลอน แต่แท้ที่จริงแล้ว ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากภายในนั้นเต็มไปด้วยคอลเลกชันของสะสมจากทั่วทุกมุมโลกของท่านลอร์ด เฮนรี่ มิสติก
โดยรูปแบบของเครื่องเล่นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เราแค่กระโจนขึ้นไปนั่งบนรถม้าที่จะพาเคลื่อนตัวเข้าไปภายในคฤหาสน์แล้วลัดเลาะเข้าไปยังห้องต่างๆ ที่ถูกแบ่งออกเป็น 8 ห้อง ที่มีทั้งการแสดงดนตรีจากเหล่าสัตว์แปลกตา ภาพจิตรกรรมฝาผนังของภูเขาไฟและหญิงสาวสวยที่สามารถแปลงร่างเป็นเมดูซ่าได้ นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าฤดูหนาวของชาวสลาฟ ห้องแห่งลาวาที่ไหลปะทุออกมาจากปากปล่องของเทวรูป Tiki ขนาดมหึมา และสุดท้ายกับ The Chinese Salon ที่เราจะได้เผชิญหน้ากับราชาวานรจากจีน
ความตื่นตาตื่นใจของ Mystic Manor สำหรับก๊อตคือ สารพัดพร๊อพและฉากที่เค้าประดับตกแต่งอยู่ภายใน ซึ่งพอเรานั่งเข้ามาถึงมันจะมีพวกเอฟเฟกต์ แสง สี เสียง ที่ชวนให้รู้สึกราวกับว่าก๊อตหลุดเข้ามาอยู่ในโลกที่รายล้อมไปด้วยเวทมนตร์จริงๆ โดยตลอดระยะเวลาที่นั่งสำรวจอยู่ภายในนั้น มันไม่มีจังหวะไหนที่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด เพราะทุกห้องล้วนแต่ทำถึงเล่นใหญ่ จนนี่ไม่อยากกระพริบตาพลาดสักวินาทีเดียว
Explorer’s Club Restaurant
หากใครอยากกินอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ในสวนสนุกเค้าก็มีอีกโซนที่ก๊อตแนะนำเลยคือ Explorer’s Club Restaurant กับ Explorer’s Semi-Buffet บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ที่จ่ายราคาเดียวแล้วจะกินเท่าไหร่ก็ได้แบบจุใจ โดยความพิเศษของบุฟเฟ่ต์คือเค้านำเอาวัตถุดิบจาก 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน อินเดีย รัสเซีย โมร็อกโก และอียิปต์ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประเทศที่ ท่านลอร์ด เฮนรี่ มิสติก หนึ่งในตัวละครของดิสนีย์หลงใหลมากที่สุดมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูต่างๆ ออกมา โดยเชฟเค้าได้นำเอาวัตถุดิบจากแต่ละประเทศมาผสมผสานและปรุงออกมาเป็นอาหารหลากหลายเชื้อชาติ เช่น เนื้อแกะสไตล์โมร็อกโก, ไก่เนยสไตล์อินเดีย, ไก่ไหหลำสไตล์จีน ที่เราจะได้นั่งกินอาหารเหล่านี้ท่ามกลางบรรยากาศสโมสรของท่านลอร์ดที่ภายในถูกแบ่งและตกแต่งออกเป็น 5 ห้อง ตามแต่ละประเทศอีกด้วย ความเริ่ดของเค้าก็คือ รสชาติอาหารแต่ละเมนูนั้น หากเราได้ลิ้มลองแล้ว มันเหมือนกับว่าตัวเราได้หลุดเข้าไปยังประเทศนั้นจริงๆ ไม่ต่างจากท่านลอร์ด เฮนรี่ มิสติกเลยเชียว เรียกได้ว่าเป็นรายการบุฟเฟ่ต์ที่คุ้มสุดๆ มาในราคาสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ HK$298 (~1,400 บาท) และเด็ก HK$198 (~930 บาท) โดยเค้าจะมีรอบให้เราเข้าไปกิน 2 ช่วงเวลาคือ มื้อเที่ยง 12:00 น. – 17:45 น. และมื้อเย็น เวลา 18:15 น. ใครที่อยากกินอาหารท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ได้ลิ้มรสเมนูจากหลากหลายประเทศ นี่แนะนำบุฟเฟ่ต์ที่นี่เลยจ๊า อาหารละลานตามากบอกเลย
โซน Toy Story Land
ปิดท้ายกับโซนน Toy Story Land ดินแดนทอยสตอรี่ (Toy Story) แห่งที่สองในสวนสนุกของดิสนีย์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก Toy Story Playland ใน Walt Disney Studios Park ที่ปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งอาคารต่างๆ ของ Toy Story Land ใน ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) นี้เรียกว่าถอดแบบกันมาจากที่นู่นเลยก็ว่าได้ ภายในใช้ต้นไผ่มาทำหน้าที่เป็นกำแพงยักษ์ล้อมรอบ ท่ามกลางพร๊อพของตัวละครและของจากภาพยนตร์ Toy Story มากมาย เช่น วู้ดดี้ยักษ์ เร็กซ์ยักษ์ เครื่องบินกระดาษขนาดใหญ่ และยังมีลูกบอลขนาดใหญ่จากพิกซาร์ ในภาคแรกอีกด้วย
ส่วนเครื่องเล่นในโซน Toy Story Land ที่ต้องเล่นเลยก็คือ Toy Soldier Parachute Drop ที่เราจะได้กระโดดร่มลงมาจากท้องฟ้าพร้อมๆ กับเหล่าทหารตัวเขียวจากในเรื่อง แต่ถ้าใครชอบความท้าทายและเสียวไส้ แนะนำให้ไปเล่น RC Racer รถไฟเหาะตีลังกาเหล็กสุดหวาดเสียว หรือใครที่ชอบเครื่องเล่นเบาๆ เน้นชิลๆ จะไปเล่น Slinky Dog Zigzag Spin เครื่องเล่นสไตล์หนอนผีเสื้อสุดน่ารักที่เหมาะกับน้องๆ หนูทุกวัย นอกจากนี้ภายในโซนยังมีมุมให้เราได้เซลฟี่ถ่ายรูปคู่กับตัวละครแบบใกล้ชิดอีกด้วย เรียกได้ใครที่เป็นสาวกของภาพยนตร์ Toy Story ห้ามพลาดโซนนี้เลย
Toy Soldier Parachute Drop
หากใครจำฉากหนึ่งในเรื่อง Toy Story ที่ Green Army Men ได้กระโดดร่มผ่านราวบันไดเพื่อตรวจสอบของขวัญวันเกิดของแอนดี้ ก๊อตจะบอกว่าเค้าเป็นสตอรี่ที่มาของเครื่องเล่น Toy Soldier Parachute Drop ที่เราจะได้ร่วมเป็นหนึ่งในกองทหารตัวเขียวแล้วกระโดดร่มไปด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเครื่องเล่นนี้ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นที่มีคนต่อคิวรอเล่นมากที่สุดในโซน Toy Story Land กันเลย
สำหรับรูปแบบการเล่นก็ไม่ยากเลย เราแค่เดินขึ้นไปนั่งบนร่มชูชีพสีเขียวอันใหญ่ จากนั้นตัวร่มชูชีพก็จะถูกส่งขึ้นไปบนยอดของหอคอยที่ความสูง 24 เมตร ซึ่งความดีงามคือตอนที่มันขึ้นไปถึงจุดที่สูงที่สุด เราสามารถมองออกไปเห็นพื้นที่รอบๆ ของสวนสนุกได้แบบเต็มสายตา โดยเครื่องเล่นเค้าจะพาเราทิ้งตัวลงมาสู่ด้านล่าง แต่จะไม่ใช่แบบที่ว่าขึ้นไปจนสุดแล้วลงทิ้งดิ่งลงมาเลยนะ แต่จะเป็นการค่อยๆ ลดระดับลงมาให้ใจกระตุกวูบวาบนิดหน่อยในระดับความสูงต่างๆ จนในที่สุดก็ร่วงลงมาสู่พื้นด้านล่างนั่นเอง เป็นอีกเครื่องเล่นที่คนไม่กลัวความสูงเล่นได้สบายๆ แต่ถ้าใครกลัวความสูงอาจจะมีหวาดเสียวนิดนึง
RC Racer
มาเพิ่มอะดรีนาลีนให้มากขึ้นกับเครื่องเล่น RC Racer รถไฟเหาะสุดหวาดเสียวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไผ่ซึ่งจำลองบรรยากาศมาจากพุ่มไม้รกชันในจักรวาลของ Toy Story โดยเครื่องเล่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถของเล่น ‘Hot Wheels’ ของ Mattel ซึ่งในเรื่องเค้าจะเป็นรถที่มาพร้อมกับรางสีส้มสดใส ทางดิสนีย์เลยนำมาสร้างเป็นเครื่องเล่น RC Racer ขนาดใหญ่กับรางแข่งรถสีส้มสุดจี๊ดจ๊าดนี้นั่นเอง
ความเสียวของเจ้า RC Racer คือการที่มันถูกปล่อยออกไปบนรางด้วยความรวดเร็วและถอยหลังกลับไปมาคล้ายกับเครื่องเล่นไวกิ้ง ซึ่งจุดสูงสุดของรถไฟเหาะที่มันไปนั้นอยู่ที่ความสูง 24 เมตรจากพื้นเลยทีเดียว ด้วยความที่นี่เลิฟเครื่องเล่นหวาดเสียว เราเลยสบายๆ แต่จากความคิดเห็นของน้องที่ไปด้วยกัน ซึ่งเค้ากลัวความสูง นาทีนั้นหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเป็นที่เรียบร้อย เสียวไส้เสียวพุงจนหาเสียงแทบไม่เจอ เอาเป็นว่าใครรู้สึกต้องการสีสันในชีวิต แกรมาขึ้นเจ้านี่เลย ลงมาตาตื่นแน่นอน
Slinky Dog Zigzag Spin
Slinky Dog Zigzag Spin เครื่องเล่นสำหรับเด็กที่ใครชอบ Slinky Dog เจ้าหมาดัชชุนหน้าตาน่ารักทว่ามีลำตัวเป็นสปริงเด้งไปเด้งมา ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครของ Toy Story ต้องมาเล่น โดยเครื่องเล่นนี้เค้าจะเป็นเครื่องเล่นสไตล์หนอนผีเสื้อที่จะหมุนวนเป็นวงกลมขึ้นลงไปตามจังหวะของดนตรี ที่หากยืนมองจากด้านนอกจะดูเหมือนว่าหัวของเจ้า Slinky Dog กำลังไล่งับหางของตัวเองโดยไม่รู้จักจบจักสิ้น ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นน่ารักๆ เอาไว้หลอกล่อเด็กๆ ให้มาเล่นได้ไม่ยาก บ้านไหนพาน้องๆ หนูๆ มาด้วยก็อย่าลืมเดินมาที่เครื่องเล่นนี้ด้วยนา
ขบวนพาเหรด Mickey & Friends Street Celebration
มาถึงกิจกรรมที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่อยากจะสนุกไปกับตัวละครแบบใกล้ชิด ในทุกๆ วันที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เวลา 12:15 น. และ 17:30 น. บริเวณถนน Main Street เค้าจะมี ขบวนพาเหรด Mickey & Friends Street Celebration ของมิกกี้และผองเพื่อน รวมไปถึงวินนี่ เดอะ พูห์ ตบเท้าขึ้นมาบนขบวนรถไฟสุดน่ารักแล้วเคลื่อนตัวไปตามถนนท่ามกลางเสียงเพลง และเหล่าตัวละครที่พากันออกสเต็ปวาดลวดลายกันอย่างสุดมันส์ให้เราได้มายืนส่งเสียงเชียร์และร่วมเต้นไปด้วยกัน
ซึ่งก๊อตจะบอกว่าการมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์นั้น หากเราไม่ได้มาดูขบวนพาเหรดมันเหมือนเรามาไม่ถึงดิสนีย์ของจริง ดังนั้น นี่จึงไม่อยากให้พลาด ขบวนพาเหรด Mickey & Friends Street Celebration ซึ่งขบวนเค้าจะเคลื่อนตัวออกมาจากทางด้านข้างของปราสาทเพื่อเข้ามาตามถนน Main Street จังหวะนี้บ้านไหนที่พาเด็กๆ มาด้วย แล้วอยากให้น้องๆ เค้าได้เห็นเหล่าตัวละครกันแบบครนครันในครั้งเดียว ก๊อตแนะนำให้มาจับจองพื้นที่ว่างด้านข้างของถนนแล้วอยู่รอชมกันได้เลย รับรองว่าเราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สนุกๆ จากตัวละครแทบทุกตัวของดิสนีย์ในช่วงเวลานั้นนั่นเอง
โดยที่ก๊อตอยากให้ทุกคนได้เห็นเลยก็คือ มาสคอตของ มิกกี้ เม้าส์คลาสสิกเวอร์ชัน Steamboat Willie หรือมิกกี้ตัวขาวดำ ซึ่งปัจจุบันนี้เค้ากลายเป็นสมบัติธารณะ เพราะดิสนีย์ได้หมดลิขสิทธิ์ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยพี่มิกกี้เวอร์ชันนี้เค้าจะมีในมาสคอตตัวสีขาวดำ สวมกางเกงสีน้ำเงิน และมีหูที่ยาวกว่าปกติด้วยนา ซึ่งจากที่ก๊อตไปดิสนีย์แลนด์มาในหลายๆ ประเทศ ยังไม่เห็นมีขบวนพาเหรดไหนมีเจ้า Steamboat Willie อยู่เลย นอกจากที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) อะ คือรู้แบบนี้แล้วยิ่งต้องมารอดู ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดของที่นี่เค้าเลย
โชว์พลุ “Momentous” มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี
ปิดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุดกับสิ่งที่ห้ามพลาดมากที่สุดกับโชว์ปิดท้ายของการเที่ยวดิสนีย์แลนด์นั่นก็คือ การได้มาชมพลุ “Momentous” มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี อีกหนึ่งการโชว์ของดิสนีย์ที่ก๊อตเชื่อว่าหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอในช่วงสุดท้ายของวันก่อนกลับกันออกไป โดยโชว์พลุนั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลา 21:00 น. ของทุกวัน โดยมีทั้งการฉายภาพ 3 มิติ บอกเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่องต่างๆ ที่มีตัวละครมากกว่า 150 ตัว ท่ามกลางระบบแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ รวมถึงพลุสุดเว่อร์วังที่ทำออกมาได้สมจริง จนก๊อตมองแล้วยังอดไม่ได้ที่จะร้องว้าวออกมาซ้ำๆ
สำหรับก๊อตที่เคยได้ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาแล้วเกือบทั่วโลกนั้น ณ ตอนนี้ก๊อตขอยกโชว์พลุอันดับหนึ่งในดวงในให้กับที่ฮ่องกง ด้วยสารพัดเอฟเฟกต์ที่ยกขบวนกันมาแบบจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำพุที่ถูกออกแบบให้เต้นพริ้วไหวไปตามจังหวะของดนตรี การฉายภาพลงไปบนผืนน้ำด้านหน้าของปราสาท เลเซอร์ และระบบแสงที่ถูกยิงไปทั่วทุกทิศทาง ไปจนถึงสิ่งที่ทำให้ก๊อตน้ำตาซึมอย่างพลุ และดอกไม้ไฟจำนวนมหาศาลที่ถูกจุดแล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เปล่งแสงทอประกายไปทั่วผืนนภาและสะท้อนกลับลงมาสู่ปราสาทหลังโตให้ดูเลอค่ายิ่งขึ้นไปอีก บอกเลยว่าตลอดระยะเวลา 20 นาทีที่เค้าโชว์พลุกันอย่างยิ่งใหญ่อยู่นั้น ภาพของปราสาทที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของดิสนีย์ แสง สี เสียงต่างๆ มันผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันจนกลายเป็นโชว์ที่สมบูรณ์แบบและเฟอร์เฟกต์มากๆ มันคุ้มค่ากับการยืนดูจนจบโชว์จริงๆ
ใครที่อยากสานฝันในวัยเด็ก ได้มายืนอยู่ท่ามกลางโลกแห่งความมหัศจรรย์ เพลิดเพลินไปกับบทเพลงสุดไพเราะจากดิสนีย์ การได้ดูพลุ “Momentous” มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี ถือเป็นโชว์ปิดท้ายที่จะทำให้การมาเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ของเรานั้นคอมพลีทและใจฟูเป็นที่สุด ยิ่งได้มายืนดูกับคนที่เรารัก จะเป็นคนในครอบครัว หรือแม้แต่แฟนและเพื่อน ก๊อตบอกเลยว่า ช่วงที่พลุเข้าขึ้นฟ้าแบบพรึ่บพรั่บมันเป็นมู้ดที่ดีงามต่อใจม๊ากก นี่ประทับใจพลุสุดๆ แบบอิ่มเอมในใจเว่อร์
นอนโรงแรมในดิสนีย์แลนด์
Disney Explorer Lodge
หากใครที่ตั้งใจมาเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) แบบฟูลฟีลเต็มอิ่มที่สวนสนุก การได้เข้าพักที่โรงแรมของดิสนีย์ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ก๊อตคิดว่าควรลองสักครั้ง ซึ่ง โรงแรมดิสนีย์ เอกพอร์เรอร์ ลอร์ด (Disney Explorer Lodge) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ก๊อตแนะนำเลย เพราะเค้าเป็นโรงแรมใหม่ล่าสุดของ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ที่มาในธีมของนักสำรวจจากสตอรี่เรื่องราวของมิกกี้ เม้าส์ (Mickey Mosue) และ มินนี่ เม้าส์ (Minnie Mouse) ที่ทั้งคู่ได้สร้างที่อยู่อาศัยของตัวเองขึ้นมา ซึ่งก็คือ โรงแรมดิสนีย์ เอกพอร์เรอร์ ลอร์ด (Disney Explorer Lodge) แห่งนี้เพื่อเป็นเหมือนฐานที่มั่นและเก็บของสะสมจากทั่วโลกเอาไว้
- Disney Explorers Lodge ราคาเริ่มต้น HK$ 1,540 (~7,260 บาท) ต่อคืน จองผ่าน Booking / จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook
บรรยากาศและการตกแต่งของ โรงแรมดิสนีย์ เอกพอร์เรอร์ ลอร์ด (Disney Explorer Lodge) นั้น มันเหมือนกับเราได้หลุดเข้ามาในโลกที่เต็มไปด้วยการสำรวจ ตั้งแต่บรรยากาศภายนอกของโรงแรมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่า และอีกด้านรายล้อมไปด้วยท้องทะเล ภายในโรงแรมโอ่อ่ากันตั้งแต่ล็อบบี้ขนาดใหญ่ที่ยกเพดานสูงปรี๊ด โดยจำลองบรรยากาศของใต้ท้องเรือ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของที่วางประดับตกแต่งเอาไว้นั้นล้วนเป็นโทนสีไม้และมีไม้จริงๆ รวมอยู่ด้วย ให้อารมณ์เหมือนเราเป็นกะลาสีอยู่ใต้ท้องเรือกันจริงๆ
สำหรับห้องพักของ โรงแรมดิสนีย์ เอกพอร์เรอร์ ลอร์ด (Disney Explorer Lodge) เค้าจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท คือห้องพักแบบ Standard Room, Deluxe Room, Premium Room และ Sea View Room ซึ่งก๊อตนอนเป็นห้องแบบ Standard Room ห้องพักขนาด 34 ตารางเมตร ภายในห้องมีเตียงคู่ขนาดใหญ่ 2 เตียง หัวเตียงตกแต่งด้วยมิกกี้ และมินนี่ โดยห้องน้ำถูกแยกโซนเปียกและแห้งรวมถึงมุมอ่างล้างหน้าเอาไว้เป็นสัดส่วน สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็ครบครัน ทั้งอุปกรณ์ในห้อง น้ำดื่ม ตู้เย็น มินิบาร์ ไปจนถึง wi-fi ฟรีที่ไม่ต้องเข้ารหัสให้วุ่นวายก็เชื่อมต่อและใช้งานได้ง่ายๆ
สำหรับอาหารเช้านั้นที่นี่จะมีเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้เราเข้ามากินในตอนเช้าด้วยนะ โดยเมนูอาหารเค้ามีเสิร์ฟตั้งแต่อาหารฮ่องกง อย่างพวกติ๋มซำ บะหมี่ฮ่องกง ไปจนถึงอาหารแบบอิตาเลี่ยนก็มีให้เลือกกินแบบละลานตาสุดๆ แต่ที่ก๊อตชอบเลยคือในบางเมนูเค้ามีเชฟมายืนทำอยู่ตรงนั้นให้ได้เห็นกันแบบใกล้ๆ ใครอยากสั่งอะไรก็แค่ไปบอกเค้าได้เลย อันนี้เริ่ดไม่ไหว นอกจากนี้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นต้นไป ที่ห้องอาหารยังมีตัวละครจากดิสนีย์มารอพบแขก อย่างวันที่ก๊อตเข้าพักนั้น มีต้าวกูฟฟี่ที่เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปคู่กับเค้าได้ด้วยนา แต่ถ้าใครไม่อยากกินอาหารเช้าไลน์บุฟเฟต์ในห้องอาหารของเค้า ด้านล่างของโรงแรมยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ที่ขายกันตั้งแต่ของคาวไปจนถึงของหวานอย่างเค้กน่ารักๆ อยู่ด้วย ซึ่งร้านอาหารตรงนี้นั้นเปิดขายตลอดทั้งวัน ดังนั้น ไม่ต้องกลัวอดอยากเลย
นอกจากบรรยากาศดีๆ ที่เราจะได้รับแล้ว หากเราเข้าพักที่ โรงแรมดิสนีย์ เอกพอร์เรอร์ ลอร์ด (Disney Explorer Lodge) เรายังได้สิทธิพิเศษเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการได้รับคูปองส่วนลดในการซื้อของดิสนีย์ที่สโตร์ด้านล่างของโรงแรมอีกด้วยนะ แถมยังมีรถรับส่งจากโรงแรมไปยังสวนสนุกตลอดทั้งวันหมดซึ่งสะดวกสบายสุดๆ
สรุปการมาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)
สรุปหลังจากได้ไปเที่ยวที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) มา 2 วันติด โดยรวมนั้นเป็นการมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่ประทับใจมาก เริ่มจากเหล่าชาวแก๊งใหม่ที่ก๊อตเพิ่งได้มาทำความรู้จักและตกหลุมรักไปเป็นที่เรียบร้อยอย่าง Duffy and Friends ที่ยกขบวนตัวละครมาแบบจัดเต็มถึง 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวนั้นเค้าน่ารักปุ๊กปิ๊กสุดๆ ส่วนในพาร์ทของเครื่องเล่น ที่เลิฟเลยคือ โซน World of Frozen ที่เหมือนก๊อตได้หลุดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชาวเมืองเอเรนเดลด้วยจริงๆ เครื่องเล่นเค้าก็ทำดี ได้เห็นเอลซ่าและอันนาแบบหนำใจสุดๆ
นอกจากนี้เครื่องเล่นในโซนอื่นๆ ก็สนุกตามมาตรฐานของดิสนีย์ แถมข้อดีคือ ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) รอคิวเครื่องเล่นแต่ละคิวไม่นานเลย ในแต่ละวันเราเลยสามารถไล่เก็บเครื่องเล่นได้เยอะเอาเรื่อง และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือโชว์พลุ Momentous ที่บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยมาก เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 20 นาที แสง สี เสียง รวมถึงพลุ เค้าจุดกันยิ่งใหญ่แบบไม่มีกั๊ก ท้ายที่สุดที่ช่วยเติมเต็มทริปเที่ยวในครั้งนี้ให้เพอร์เฟกที่สุดก็คือการได้เข้าพักในโรงแรมของดิสนีย์ ที่ไม่ว่าเราจะก้าวเท้าไปยังส่วนไหนของโรงแรมก็เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งเทพนิยายจริงๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่มีอะไรจะพูดได้นอกจาก ‘ประทับใจ’ และ ‘ชอบมาก’ เป็นการได้มาเก็บดิสนีย์เข้ากรุของตัวเองไปอีกหนึ่งที่ ซึ่งมาพร้อมกับประสบการณ์อันดีงามและคุ้มค่าสุดๆ ใครแพลนเที่ยวฮ่องกงอยู่ไม่อยากให้พลาดนา
> เช็คราคาและซื้อบัตรฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook]
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
สวนสนุกอื่นๆ
- Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
- Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
- Ocean Park / ฮ่องกง
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡