รีวิว พีคแทรม (Peak Tram) x ฮ่องกง รถรางสู่ยอดเขาสูงที่สุดบนเกาะฮ่องกง

รถรางพีคแทรม (Peak Tram) อีกหนึ่งกิจกรรมที่ใครมาเที่ยวฮ่องกงแล้วไม่ได้มาลองขึ้นรถรางพีคแทรม บอกเลยว่าเหมือนเรามาไม่ถึงฮ่องกงของจริง เพราะนี่คือการมานั่งรถรางไฟฟ้าเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาวิกตอเรีย (Victoria Peak) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาสูงที่สุดในเกาะฮ่องกง ซึ่งเราจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของภูเขาเขียวๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ท่ามกลางวิวสกายไลน์เมืองฮ่องกงที่ห้อมล้อมไปด้วยอ่าววิกตอเรีย (Victoria Harbour) แบบเว่อร์วังที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นอกจากการได้มานั่ง รถรางพีคแทรม (Peak Tram) เท่านั้น 

รู้จักกับรถรางพีคแทรม (Peak Tram)

รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1885 บนยอดเขาวิกตอเรีย (Victoria Peak) ที่มีความสูงถึง 552 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จนได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะฮ่องกง สำหรับที่มาที่ไปของการสร้างรถรางขึ้นมานั้น ต้องเล่าย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ขณะนั้น ผู้คนที่เค้าอาศัยอยู่ในระแวกนี้พบว่าบนยอดเขามีอากาศที่เย็นสบายเหมาะสำหรับการขึ้นมาพักผ่อนเพื่อหลีกหนีจากช่วงฤดูร้อนของฮ่องกง โดยในปี ค.ศ. 1868  เซอร์ริชาร์ด แมกดอนเนลล์ (Sir Richard MacDonnell) ผู้ว่าการรัฐที่ 6 ของฮ่องกง ได้สร้างบ้านพักฤดูร้อนขึ้นมาบนวิกตอเรีย (Victoria Peak) หลังจากนั้นเหล่าคนรวยของฮ่องกงก็แห่มาสร้างบ้านพักตามกันเป็นพรวน แต่แม้ว่าจะมีบ้านพักและผู้คนเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้น แต่การเดินทางขึ้นลงในยอดเขานั้น ทุลักทุเลมาก เพราะเค้าต้องนั่งเหมือนเสลี่ยงในสมัยก่อนของบ้านเรา แล้วใช้คนหาบเดินขึ้นเขาลงเขาเป็นว่าเล่น 

จนกระทั่งอเล็กซานเดอร์ ฟินด์เลย์ สมิธ (Alexander Findlay Smith) ผู้ที่ทำงานให้กับการรถไฟไฮแลนด์ (Highland Railway) ของประเทศสกอตแลนด์ในช่วงเวลานั้น ได้มองเห็นว่าพื้นที่แห่งนี้สมควรก่อสร้างทางรถไฟขึ้นมา จึงได้ยื่นคำร้องต่อผู้ว่าการรัฐ เซอร์จอห์น โปป เฮนเนสซี (Sir John Pope-Hennessy) ในปี ค.ศ. 1881 เพื่อดำเนินการสร้างเส้นทางรถราง แต่กว่าจะได้รับอนุมัติและเริ่มสร้างกันจริงๆ ก็ปาเข้าไปปี ค.ศ. 1885 กันเลยทีเดียว รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้แรงงานในท้องถิ่นและความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจากยุโรปมาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน จนในที่สุดปี ค.ศ. 1888 ได้เปิดให้บริการ รถรางพีคแทรม (Peak Tram) เป็นครั้งแรก 

โดยรถรางคันแรกที่เค้าสร้างขึ้นมานั้น ขับเคลื่อนด้วยหม้อต้มไอน้ำที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งใช้งานกันมาอย่างต่อเนื่องจนในปี ค.ศ. 1926 รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ได้เปลี่ยนจากพลังงานไอน้ำมาเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อย้ำให้เห็นถึงความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่ก็เสื่อมโทรมลงไปมาก ผู้ดูแลเค้าจึงได้ปิดและปรับปรุงกันไปอยู่หลายปี จนในที่สุดได้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1946 และกลายเป็นส่วนสำคัญของเครือข่ายการขนส่งของฮ่องกงอีกครั้ง ถึงอย่างนั้น รถรางพีคแทรม (Peak Tram) เค้าก็ไม่หยุดพัฒนาและได้มีการอัปเกรดกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ การเพิ่มรถรางใหม่เข้ามา ไปจนถึงระบบรางที่ทันสมัย และตู้โดยสารภายในที่รองรับผู้คนได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้ปัจจุบันนี้ รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำแห่งหนึ่งของฮ่องกง ที่โดดเด่นด้วยวิวสกายไลน์เมืองและอ่าววิคตอเรียที่หาชมจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แบบที่ว่าใครมาเที่ยวฮ่องกงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 

ไปขึ้น รถรางพีคแทรม (Peak Tram) กันเล้ยย

สำหรับใครที่เดินทางมา รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนก๊อตนั้น เมื่อเราขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินแล้ว เราสามารถปักกูเกิลแมพว่า ‘The Peak Tram’ แล้วเดินต่อมาได้เลย โดยเทอมินัลทางขึ้นจะเป็นอาคารที่บริเวณด้านหน้าเค้าจะเป็นลานน้ำพุกว้างๆ ที่คราคร่ำไปด้วยคนฮ่องกง และนักท่องเที่ยวที่พากันมานั่งพักอยู่เต็มไปหมด โดยใครที่จองตั๋วผ่านทางออนไลน์มาล่วงหน้าแล้วอย่างก๊อตนั้น สามารถเปิด E-Ticket ของเราให้เจ้าหน้าที่ตรงทางเข้าดูก่อนได้เลย เมื่อเรียบร้อยแล้วเค้าจะปล่อยให้เราเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งจะเป็นเหมือนสถานีแรกที่เรียกว่า Garden Road Admiralty 

ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถรางนั้น นอกจากแอร์เย็นฉ่ำแล้ว ตามพื้นและผนังจรดเพดานของทางเดินจะมีภาพเกี่ยวกับ รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ให้เราได้เห็นถึงเรื่องราวความเป็นมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เดินต่อแถวเข้าไปยังด้านในสถานีเพื่อรอรถราง ซึ่งใช้เวลาไม่นาน รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ก็มาจอดเทียบสถานีให้เราได้ขึ้นกันแล้ว โดยแต่ละรอบนั้น รถรางสามารถจุคนได้ถึง 210 คนกันเลยนะ 

ความสนุกของการนั่ง รถรางพีคแทรม (Peak Tram) ส่วนตัวก๊อตชอบจังหวะที่รถรางเค้าค่อยๆ ขับเคลื่อนขึ้นไปตามรางช้าๆ แต่ก็จะมีบางช่วงที่เหมือนความเร็วมันเร่งสปีดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดหัวชนฝา เพราะเรายังสามารถดื่มด่ำไปกับวิวของต้นไม้เขียวขจีของภูเขาวิกตอเรีย (Victoria Peak) ที่ปกคลุมอยู่รอบๆ และเมื่อรถรางเค้าพาเราขึ้นมาสูงเรื่อยๆ วิวฝั่งขวามือจะเริ่มมองเห็นอ่าววิกตอเรีย (Victoria Harbour) ที่ไหลพาดผ่านห้อมล้อมตึกสูงของฮ่องกงได้แบบเต็มสายตา ตรงนี้ใครที่อยากได้วิวและภาพสวยๆ ก๊อตแนะนำว่าขาขึ้นมาให้เลือกที่นั่งติดกระจกฝั่งขวาเข้าไว้ เพราะเราจะได้ดูวิวแบบจึ้งโดยไม่ถ่ายติดชาวบ้านชาวช่องเขานั่นเอง ซึ่งช่วงที่เห็นวิวชัดๆ จะไม่ได้โผล่นานมากนะ ดังนั้นให้เตรียมกล้องและโทรศัพท์เอาไว้ให้ดี พอถึงจุดที่มันมองเห็นชัดๆ ให้รีบรัวชัตเตอร์ได้เลย ส่วนตัวก๊อตกดชัตเตอร์กันสะบัดมาก ถือเป็นช่วงเวลาที่เพลินและตื่นตาตื่นใจในเวลาเดียวกันสุดๆ 

โดยเราจะใช้เวลานั่งรถรางกันราวๆ 10-15 นาที รถรางพีคแทรม (Peak Tram) เค้าจะพาเราขึ้นมาจอดยังสถานีปลายทางอย่างวิกตอเรีย (Victoria Peak) ทีนี้ก็รอประตูเปิดแล้วเดินออกไปจากรถรางได้เลย ซึ่งพอออกจากสถานีแล้วใครจะไปเดินกิน เที่ยว ช้อป บนวิกตอเรีย (Victoria Peak) ที่นี่เค้าก็มีห้าง รวมไปถึงจุดชมวิวให้เราได้มาสัมผัสด้วย ใครสะดวกแบบไหนลองเลือกกันตามชอบได้เลย เป็นอันจบการมาขึ้นรถรางของก๊อตในครั้งนี้ บอกเลยว่าใครมาเที่ยวฮ่องกงแล้วไม่ได้มาขึ้น รถรางพีคแทรม (Peak Tram) มันเหมือนเรามาไม่ถึงฮ่องกงจริงๆ เด้อ

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025

⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
>  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)