รีวิวบาหลีอันนี้นี้จะเป็นรีวิวสุดท้ายของการจบทริปอินโดนีเซีย 10 วันเนาะ หลังผ่านอะไรมามากมายตั้งแต่ ยอร์กยาการ์ตา บุโรพุทโธ ปรัมบานัน มาถึงภูเขาไฟโบรโม คาวาอีเจียน แล้วสุดท้ายปักหมุดที่บาหลีกว่า 5 วัน ทำไมต้องเยอะขนาดนี้ เห้ยแม่ง บาหลีมีอะไรน่าค้นหาเยอะมากๆ ขนาด 3 วันที่ได้เที่ยวแบบจริงจังนี่ยังไปไม่หมดเลยว่ะ (วันแรกเข้าตัวเมือง วันสุดท้ายเตรียมตัวกลับ แหมมมม เอาล่ะ ไปเที่ยวบาหลีกันดีกว่า แล้วมาดูกัน ว่ามันน่าค้นหายังไง!
มาดูภาพรวมทริปอินโดนีเซียกันก่อน!
ยอร์กยาการ์ตา-บุโรพุทโธ-โบรโม่-คาวาอีเจียน-บาหลี 10 วัน
ตามรอยบาหลี 5 วันไปด้วยกัน
ก่อนที่จะอ่านรีวิว คือนี่ก็มี Infographic มาให้ดูคร่าวๆ จะได้รู้ว่าในแต่ละวันเราไปส่วนไหนของเกาะบ้าง เพราะเอาจริงคือเกาะบาหลีแม่งไม่ใช่เล็กนะเว้ย
ถ้าเทียบเกาะบาหลีกับเกาะภูเก็ต คือบาหลีใหญ่กว่าสิบเท่า! อันนี้ไม่ได้ล้อเล่น
แต่ขอบอกก่อนว่าตัวผมเองไม่ใช่สายวัดสายบุญเท่าไหร่ เลยลองอ่านตามรีวิวบาหลีเมืองนอกที่เค้าไปกัน ก็เลยเลือกวัดไม่กี่ที่ที่อยากไป ยังไงก็ลองอ่านกันดูได้เล้ย ถ้าชอบที่ไหนก็ค่อยตาม หรือสลับปรับเปลี่ยนแล้วแต่ชอบเนอะ
ลองคลิกที่รูปแล้วเซฟแบบรูปใหญ่เก็บไปดูได้พร้อมกับตารางเวลาเที่ยวด้านบน นี่ช่วยสุดอะไรสุดแล้วนะแก จะได้ไม่ต้องหาไรเยอะแยะให้เหนื่อย นี่จัดให้
วันแรกที่บาหลี ข้ามจากเกาะชวา PANTIP
จากที่รู้เนาะ ว่าตอนแรกก่อนจะมาบาหลี ผมได้ไปเที่ยวโบรโม่ คาวาอีเจียนที่อยู่เกาะชวามาก่อน ซึ่งใครมาโบรโม่ขอบอกเลยว่า ข้ามมาเที่ยวบาหลีต่อเถอะ นี่ขอร้องเลย แล้วจะรู้ว่าบาหลีแม่งโคตรมีสเหน่ห์และอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้ง ก็ว่าอยู่..มันเป็นสถานที่เที่ยวที่คนทั่วโลกที่ครั้งนึงในชีวิตคือต้องมา
เอาล่ะ สำหรับการข้ามจากเกาะชวาที่ท่าเรือ Ketapang มาเกาะบาหลีที่ท่าเรือ Gilimanuk ราคาแค่ 5,000 รูเปีย (14 บาท) แค่นั้นเอง สำหรับระยะเวลาในการนั่งเฟอร์รี่มาก็แค่ 45 นาที ก็ถึงที่ฝั่งบาหลีแล้ว
ที่นี้เว้ย จากที่อ่านรีวิวส่วนมากคือเค้าก็จะมีรถเหมาส่วนตัวมารับงี้ แต่ผมแม่งไม่มีตังค์แล้วง่ะ ก็เลยต้องดิ้นหาทางเข้าเมืองเอง เวลาออกมาจากท่าเรือแล้ว จงผ่าฝูงชนคนอินโดที่ถลาโถลมเข้ามาถามว่า “เข้าเมืองไปเดนปาซาร์มั้ยๆ” ให้ได้ด่านแรกก่อน
หลังจากออกมาจากท่าเรือแล้ว ให้เดินออกมาทางขวาแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสถานีขนส่ง (ที่แม่งดูร้างๆน่ากลัวอ่ะ)
จากนั้นให้ขึ้นรถบัสไปเดนปาร์ซาร์ คือมันจะมีคนมาเรียกเองแหละ ตามสไตล์นักท่องเที่ยวที่โดนคนท้องถิ่นแม่งรุมอ่ะ คือตอนนั้นก็จนปัญญา คือแม่งเอ้ย .. ขึ้นก็ได้วะ (ตอนนั้นมึนงงมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลยจ่ะ เอาชีวิตตัวเองเข้าเมืองให้รอดก่อน)
หลังจากผ่านมา 4 ชั่วโมงในรถบัส โอ้ยยยย .. นานมาก นั่งหลังขดหลังแข็ง สุดท้ายก็มาถึงซักที เดนปาซาร์ หลังจากลงรถบัสมาคืออะไรรู้ป่ะ ทุกคนรุมกูอีกตามเคย ทีนี้ตัวผมพักอยู่แถวเลเจี้ยน (Legian) หาดคูตา (Kuta) มันไกลจากจุดรถบัสจอดไกลไปอีกประมาณ 20 นาที สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก ก็ขึ้นแท็กซี่นั่นแหละ โอย ตายตอนจบว่ะ
บาหลีมี UBER เรียกจากแอพที่ใช้ในไทยได้เลย ถูกกว่าแท็กซี่ประมาณเกือบครึ่ง หรือถ้าขึ้นแท็กซี่ทั่วไป ให้ลองอิงราคาจาก UBER อย่าให้แท็กซี่ท้องถื่นมาหลอกฟันเรา
หลังจากนั้นวันแรกก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก คือหมดแรงจะตายจากคาวาอีเจียน ขอเดินเล่นนิดหน่อยแถวคูตาแค่นั่นเลย นอนตายที่ห้องเก็บแรงดีกว่า
วันที่ 2 เริ่มเที่ยวบาหลีจริงจัง เช่ามอไซค์เที่ยวเองสิ ง่ายออก
และแล้วก็ได้เที่ยวบาหลีแบบจริงจังซักที การเดินทางทั้งหมดของการเที่ยวบาหลีนับต่อจากนี้ไปคือ .. การเช่ามอไซค์แว๊นเองอีกแล้ว เช่าทุกทริปเลย ก็มันสะดวกนี่หน่า สำหรับค่าเช่ามอไซค์คือจำไม่ได้ง่ะ แต่มันโคตรถูกเมื่อเทียบกับการนั่งแท็กซี่หรือเหมารถอย่างแน่นอน
การเช่ามอไซค์ในบาหลี ต้องใช้ใบขับขี่ไทยเป็นหลักฐานในการเช่า (ใบขับขี่รถยนต์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ใบขับขี่รถจักรยานยนต์)
เริ่มต้นสำรวจเครื่องบินที่ถูกทิ้ง
หลังจากเช่ามอไซค์เรียบร้อย นี่ขอขับมุ่งหน้าไปทางใต้ของเกาะโดยไปที่เครื่องบินร้าง (GPS: -8.831897, 115.187527) ที่แรก คือปกติในการอ่านรีวิวเที่ยว ชอบของเมืองนอกด้วยไง แล้วคือคนต่างชาติเค้าชอบไปสำรวจอะไรน่าตื่นเต้นแบบนี้ ก็เลยอยากลองตามรอยแบบนั้นดู แล้วพอนี่ขับไปถึง เห้ยแม่งมีจริงๆด้วยว่ะ เลยลองเดินเข้าไปด้อมๆดูพร้อมถ่ายรูปเครื่องบินไปนิดๆ สุดท้ายมีคนตะโกนมาเลยว่า ห้ามเข้า แล้วไล่ให้เราไปดูเครื่องบินจากข้างบนแทน เศร้าเลย
ดูหน้าผาสูงที่หาดเมลาสติ (Melasti Beach)
อยู่ดูเครื่องบินได้แปปเดียวก็รีบขับมอไซต์ต่อเลย เพื่อมาดู ผาสูงอันยิ่งใหญ่ที่ หาดเมลาสติ (GPS:-8.848275, 115.159969) ระหว่างทางที่ขับไปมันก็คือขับลงหน้าผาสูงเพื่อไปเจอหาดเมลาสตินี่แหละ และเมื่อขับลงมาถึงหาดแล้วมองย้อนกลับใช่ป่ะ เห้ยแม่งเอ้ยยยย ความอลังการของผาที่เราขับมาเมื่อกี้คือยิ่งใหญ่และสวยงามมาก และเมื่อมองไปที่ทะเล ความคลื่นซัดของที่นี่คือรุนแรงมากจ้าา
อย่างที่บอก ใกล้ๆหน้าผามันมีหาดอยู่ชื่อหาดเมลาสติ (Melasti Beach) นี่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ว่ะ แต่มันคือหาดเล็กๆที่คนไม่ค่อยมา สามารถว่ายป๋อมแป๋มได้อยู่ หลังจากเสร็จตรงนี้ ก็ฮ็อปขึ้นมอไซค์ขับซิ่งเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป
หาดลับ นยาง-นยาง (Nyang-Nyang Beach)
นี่ค่อนข้างเชื่อว่า น้อยคนในไทยที่จะรู้จักหาดลับนยาง-นยางนี้ (GPS: -8.845446, 115.111044) ด้วยความที่อ่านบล็อกเมืองนอกมา เห้ยแม่งเจ๋งสึสรัสเซีย เพราะอะไรน่ะหรอ? มันคือหาดลับที่ต้องเดินลงเขาตามทางเดินที่เป็นป่าเกือบ 2 กิโลเมตรเว้ย และที่เจ๋งกว่านั้นคือ..
หาดลับนยาง-นยาง (Nyang-Nyang Beach) นี้มีซากเรืออัปปางถูกทอดทิ้งอยู่บนหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวจนมองไม่เห็น ด้วยความที่นี่ก็ไม่ค่อยมีคนมาอยู่แล้ว จากที่ผมไปมีแค่ไม่ถึง 10 คนทั้งหาด ทำให้ที่นี่ฟีลเหมือนเกาะร้างในหนังที่ยังไงยังงั้นเลย
ทะเลที่นี่เป็นยังไง ก็ใสน่าลงไปเล่น แต่นี่และเพื่อนไม่กล้าลงไปเล่น ด้วยความที่ฟีลลิ่งเหมือนกูอยู่เกาะร้าง เลยมีความกลัวไม่กล้าลง ได้แต่เอาขาไปจุ่มน้ำทะเลแปป นี่หากลงไปว่ายไกลๆ แล้วแม่งมีฉลามหรืออะไรน่ากลัวโผล่มา จะไปให้ใครช่วยละทีนี้ นึกแล้วขำ ฮ่าๆ
หาดปาดัง (Padang Beach) หาดที่เซิร์ฟมือโปรต้องมา
เค้าบอกว่า หาดปาดัง Padang Beach (GPS:-8.811940, 115.103766)
ที่นี่คือที่เล่นเซิร์ฟโต้คลื่นระดับมือแอดวานซ์เลยนะเว้ย ใครที่บิกินเนอร์หรือแบบไม่เคยแตะบอร์ดเซิร์ฟอย่างเราคงเล่นที่นี่ไม่ได้ว่ะ
แต่เล่นเซิร์ฟไม่ได้แล้วยังไงหรออออ? ยังมาที่นี่ได้หรือเปล่า? คำตอบคือได้สิ มันก็มีหาดเล็กๆน่ารักให้เล่น ซึ่งแม่ง คนเยอะโคตร โหยยยย .. หาดคนก็เยอะ ทะเลคนก็ตรึม ไม่ลงและ เดินไปทางขวามั่วๆดีกว่า (คือทางซ้ายมันเดินไม่ได้)
หลังจากเดินมาทางขวา เราก็จะเริ่มเจอโขดหินสารพัดโขดที่ต้องปีนป่ายไปไง หรือจะเดินย่ำน้ำทะเลโดยมีโขดหินใต้น้ำก็ได้ไม่ว่ากัน เดินมาเรื่อยๆซักพักคนก็เริ่มน้อยและ ถ่ายรูปคูลๆสวยๆได้ล่ะทีนี้ .. ลองดูในรูปนะ ไกลลิบๆออกไปในทะเล เค้าเล่นเซิร์ฟกันตรงนั้นแหละ คลื่นแม่งแรงนะ แต่ในรูปมองไม่เห็นเล้ยยย
พระอาทิตย์ตกที่วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple)
หลังจากที่ได้เห็นหาดบาหลีแบบจริงๆจังๆที่ปาดัง เห้ย แกร เรามาเข้าวัดมั้งสิ ซึ่งเค้าบอกว่า ถ้าจะมาวัดอูลูวาตูให้มาตอนพระอาทิตย์จะตกดิน เพราะนอกจากจะดูความสวยงามของพระอาทิตย์จมลงบนมหาสมุทรอินเดีย ณ บาหลีแล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงรอบกองไฟของชนเผ่าดั้งเดิมบาหลีอีกด้วย ซึ่งก็ไม่ได้เข้าว่ะ แม่งแพง ตั้ง 500 กว่าบาท และนี่คิดว่าไม่อิน ขอดูพระอาทิตย์อย่างเดียวละกัน ฮ่าๆ
หลังพระอาทิตย์จมลงมหาสมุทรเรียบร้อย ก็แว๊นมอไซต์กลับโรงแรม เรียกได้ว่าวันที่ 2 ในบาหลีกับการเที่ยววันแรกแบบจริงจังนั้น ทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว เพราะเก็บบาหลีใต้เกือบหมดแล้ววว
เริ่มต้นวันที่ 3 วัดอูลันดารูบราตัน (Pura Ula Danu Bratan)
วันที่ 3 ในบาหลีคือ ก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะไปไปที่วัดอูลันดารูบราตันกันก่อนละกัน วัดนี้นั้นอยู่บนเนินเขาช่วงกลางค่อนไปทางเหนือของบาหลี อ้าวเห้ย.. แม่งไกลโครตร ขับมอไซค์ประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงว่ะ
วัดอูลันดารูบราตัน ถูกสร้างมาเพื่อถวายแก่พระเจ้าเทวีดานู เทพเจ้าแห่งสายน้ำ และคิดว่าหลายคนเลยคงจะคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะวัดนี้ชอบถูกเอาไปเป็นไอคอนิกบาหลีไง รวมถึงวัดนี้ยังไปปรากฎอยู่บนแบงค์ 50,000 รูเปียของอินโดนีเซียอีกด้วย! เอ้อออ คิดว่าดังมั้ยล่ะ
ส่วนตัวคิดว่าในรูปดูสวยกว่าแหะ เพราะเราอาจะไม่ใช่สายวัดสายบุญ แล้วคือขับมาไกลมาก มันเลยฟีลแบบไม่ค่อยคุ้มเวลาเท่าไหร่ แต่ถ้าใครสายบุญ ก็แนะนำว่ามาเถอะ เพราะมันก็แล้วแต่ความสนใจของแต่ละคนล่ะน่าาาา
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ลงมาอูบุด (Ubud) ข้าวขั้นบันได เทกาลาลัง (Tegalalang Rice Terrace)
หลังจากเราไปวัดกันมาแล้ว เราแว๊นลงมาจากเขาแล้วเข้าสู่พื้นที่อูบุดอันแสนเขียวขจีของบาหลีกันต่อ หากใครต้องการความเงียบสงบ หลบหลีกความวุ่นวายจากนักท่องเที่ยว หรือพวกปาร์ตี้กลางคืน แนะนำให้มาพักแถวอูบุดแทนหาดคูตา เพราะแถวอูบุดนี้จะเป็นแบบท้องนาอยู่กับธรรมชาติอะไรฟีลนั้น เราขอขับเลยขึ้นอูบุดอีกแปปนึง จะเจอกับนาข้าวขั้นบันไดยอดฮิตในย่านนี้ที่ชื่อว่า เทกาลาลัง (Tegalalang) นั่นเองงงง
นาข้าวขั้นบันไดที่นี่ต้องปีนป่ายขึ้นตามชั้นๆกันไปเอง ก็แล้วแต่ความชอบความอยากรู้อยากเห็นว่าจะเข้าไปลึกขนาดไหน ซึ่งขอบอกว่า มันค่อนข้างใหญ่นะเว้ย และระวังหาทางออกไม่เจอ ส่วนค่าเข้าก็แล้วแต่ศรัทธา แล้วที่ตลกคือ .. แม่งมีค่าออกด้วย หื้ม
เดินวนไปวนมาอยู่ในนั้น กว่าจะออกมา เห้ยแม่งจะหกโมงเย็นแล้ว คือจากใจเลยว่าวันนี้ทำเวลาไม่ดีอย่างแรง ด้วยสถานที่แต่ละอันอยู่ค่อนข้างไกล สรุปสุดท้ายของอูบุดที่นี่คือจบด้วยการเดินตลาดอูบุดชอปปิ้งแทน
ทิปการชอปปิ้งที่ตลาดอุบุดในบาหลี – ต่อราคาครึ่งนึงของราคาเต็ม ถ้าเค้าไม่ให้ราคานี้ ให้ทำเป็นไม่สนใจ กูจะไปแล้วงั้น แล้วเค้าจะขายเราเอง คือจะบอกว่านางตั้งราคาโก่งสุดอะไรสุด
เพราะจากประสบการณ์คืออะไรรู้ป่ะ .. คือตอนนั้นจะซื้อผ้าผืนนึง สมมุตจากราคาเต็ม 100 เราต่อได้ 70 เอ้ออ ภูมิใจได้ราคาถูก แล้วคือซื้อมาแล้วอยากได้อีก เลยลองไปอีกร้านนึง เห้ยแม่ง ให้ราคา 50 ว่ะ เห้ยยย แล้วก็ซื้อ .. พอเดินต่อไปอีก เลยแกล้งลองถามอีกร้านนึง แม่งให้ราคา 40 .. พ่องงงง มันเลยเป็นบทเรียนว่า ต่อไปซื้อของที่ระลึกอะไร ต่อแม่งให้ครึ่งนึงของราคาก่อน นี่คือทริคที่ใช้ได้ตอนไปตลาดอูบุด
เห้ย วันที่ 3 มันมีแค่นี้จริงๆว่ะ มันไม่เป็นตามคาด แต่ถ้าใครทำเวลาได้หรือมีเวลาเที่ยวแถวนี้ต่ออีกวัน แถวอูบุดมีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะเลย ขอแนะนำเลยไม่ว่าจะเป็น วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เตียร์ตาอัมปึล (Pura Tirta Empul) ป่าสวนลิง (Ubud Sacred Monkey Forest Sanctuary) หรือวัดทามันสรัสวดี (Saraswati Temple) นี่เสียใจไม่ได้ไป ฮือออ
วันที่ 4 วัดทานาล็อต (Tanah Lot) Pantip
ตื่นเช้ามาวันที่ 4 ในบาหลี คิดไว้แล้วว่าวันนี้จะไม่ค่อยไปไหนและ คือไปทานาล็อตแล้วไปเล่นทะเลบาหลีให้สมกับการมาที่นี่แบบจริงๆจังๆหน่อยดีกว่าเว้ย จากนั้นก็ออกจากโรงแรมแล้วแว๊นไปทานาล็อตเลย
วัดทานาล็อต (Tanah Lot) เค้าบอกว่า ไฮไลท์ของการมาเที่ยวบาหลีที่นี่คือการมาดูพระอาทิตย์ตกลงจมมหาสมุทรอินเดีย เพราะว่ามันสวยม๊ากเว้ย แต่นี่แบบ เห้ยแม่ง ไปตอนเช้าแล้วกัน เริ่มเหนื่อยแล้ว แล้วค่อยเอาแรงไปเล่นทะเล เล่นเซิร์ฟให้หมดแรงตายแถวหาดคูตาที่มันอยู่ใกล้โรงแรมดีกว่า จะได้กลับได้ง่ายๆ ฮ่าๆ สุดท้ายพอไปถึงทานาล็อตตอนสายเกือบเที่ยง มันก็ไม่แย่เลย สวยไม่แพ้กันด้วยความแรงคลื่นซัดเข้าเกาะขนาดเล็กที่มีวัดทานาล็อตตั้งอยู่ ซึ่งเราก็จะเข้าในส่วนตัววัดไม่ได้ ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาทานาล็อตคือพระอาทิตย์ตก หรือไม่ก็ช่วงที่น้ำลดต่ำลงไม่มีคลื่น ทำให้สามารถเดินเข้าไปในเกาะที่วัดตั้งอยู่ได้
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าช่วงไหนน้ำขึ้นสูง หรือน้ำลด เค้ามีเว็บพยากรณ์ไว้ด้วยแหละ ซึ่งเค้าเก็บสถิติไว้ตลอดทั้งปี ลองดูได้ที่นี่เลย http://goo.gl/OHF2LT
หาดฮิตบาหลี หาดคูตา (Kuta Beach) แหม มาทั้งทีลองเล่นเซิร์ฟสิ
ที่นี่เป็นจุดมุ่งหมายสุดท้ายจริงๆของการมาเที่ยวบาหลี เห้ย มาบาหลีก็ต้องทะเลสิวะ เอ้า เมืองไทยไม่มีทะเลหรือไง? มันก็คนละฟีลคนละแบบป่ะ จะให้เอาขามาจุ่มน้ำทะเล มาทำหอยอะไรบาหลี มาถึงที่นี่ทั้งทีเล่นเซิร์ฟแม่งเลยดีกว่า กว่าจะขับจากทานาล็อตมาถึง หาดคูตาก็เป็นชั่วโมงเหมือนกัน สรุปมาถึงนี่สามโมงกว่า เอาเลย!
อยากเล่นเซิร์ฟทำไงที่บาหลี? หูยยยย เค้ามีซุ้มตั้งกระดานโต้คลื่นเต็มไปหมด ด้อมๆเดินๆเข้าไป เดี๋ยวก็มีคนเดินเข้ามาถามเองว่า “เล่นเซิร์ฟมั้ยจ๊ะ” ที่นี้เนี่ย.. ไอ้ที่เรากับเพื่อนก็ไม่เคยมีประสบการณ์เล่นเซิร์ฟเลยในชีวิตนี้ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นสอนให้หนึ่งชั่วโมง จากนั้นเอาไปเล่นเองได้เลย โดยเค้าเสนอมาแค่ 900 บาทโดยเค้าจะอยู่กับเราแค่ชั่วโมงเดียว เออ ราคาน่าคบหาใช้ได้ เริ่มเลยสิ นางคนขายแบกกระดานมาวางที่หาดแล้วเริ่มสอนเลย!
คนสอนบอกโต้คลื่นแม่งไม่มีไรมากหรอก มันมีอยู่ไม่กี่สเต็ป ทำตามนะ // พูดพร้อมจับนี่ลงนอนบนเซิร์ฟคล้ายท่าวิดพื้น พร้อมจับปลายขาตั้งชิดขอบปลายกระดาน
~ ยูนอนท่านี้นะ ที่ท่าคล้ายวิดพื้นเนี่ยเตรียมตอนคลื่นจะถาโถมเข้า จากนั้นยูแพดเดิ้ลๆ ….
…… แพดเดิ้ลไรวะ .. อ๋อ อีห่า นึกศัพท์ไม่ออก .. แกว่งแขวนในน้ำอย่างรวดเร็วเมื่อคลื่นใกล้ตัว
จากนั้นยูลุกขึ้นทรงตัวตามสเต็ปนี้เลย แล้วแม่งก็โชว์ให้ดูแล้วให้ทำตามประมาณ 5 รอบ … เอ่ออออ …
จากนั้น … ลากกูลงทะเลเลยจ้าาาาาาาาาาา …
อู้หูววววว .. ลากเดินลงทะเล เริ่มลึก เริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นให้เรานอนบนกระดานแล้วหันหน้ากลับเข้าหาฝั่งตอนที่คลื่นมาลิบๆ จากนั้นให้เราทำเองตามที่เค้าสอนมา .. ทำหยั่งเงียะไปเรื่อยๆจนเราเริ่มบาลานซ์ เริ่มทรงตัวได้
เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกก แต่ก็สนุกมากกกกกกกกก
ผ่านไปชั่วโมง หน้าท้องนี่เบิร์นไขมันกระจายจนเกือบจะลีนเลยครับ แหม่ .. แล้วจนเราก็เล่นเองได้บ้างก็เล่นไป แต่เล่นไปแปปๆก็พอแล้ว กินพลังงานมาก คิดว่าอาหารที่กินมาทั้งหมดในทริปอินโดนี้ ถูกเบิร์นไปหมดเรียบร้อยแล้ว ขึ้นฝั่งนี่คือนอนตายบนเตียงผ้าใบไปเลย เห้ย เราว่ามันสนุกนะเว้ย แล้วถ้าใครมีความบาลานซ์ในตัวเองขั้นแอดวานซ์ นี่คิดว่าคงเล่นได้ทั้งวัน อยากแนะนำให้ลองจริงๆ สนุกลืมมม
ผมกับเพื่อนก็อยู่ที่หาดคูตาจนพระอาทิตย์เกือบตกดิน จากนั้นก็แว๊นซ์กลับโรงแรม ซึ่งฟีลหลังจากการเล่นเซิร์ฟมา คือเป็นกิจกรรมการปิดทริปบาหลีและอินโดนีเซียที่โคตรสุดยอด เหนื่อยแต่มีความสุขมาก คืนนั้นก็ไม่ได้ทำไรมาก นอนให้กับคืนสุดท้ายในอินโดนีเซีย และพร้อมกลับบ้านในวันถัดไป
ที่พักในบาหลี
สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะพักที่ไหน ส่วนไหนของบาหลีดี ผมแนะนำให้ลองอ่าน แนะนำที่พักบาหลีระดับ 5 ดาวยันระดับแบ็คแพคย่าน Kuta และ Ubud (คลิกอ่าน) ก่อนเนาะ จะได้รู้ว่าควรพักส่วนไหน หรือมีโรงแรมและรีสอร์ทอะไรน่าสนใจบ้าง
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลกหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)> ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)> ส่วนลด Klook (คลุก)> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)
ONE Legian Hotel
สำหรับที่พักในบาหลี 4 คืนครั้งนี้ทั้งหมด ที่ผมเลือกคือ ONE Legian Hotel นั้น ผมได้จองที่พักในบาหลีจากไทย นี่แหละครับ โรงแรมนี้ตั้งอยู่บนถนน Legian ไม่ไกลจากหาดคูตา (Kuta Beach) มาก ถนนเส้นนี้จะเป็น Shopping Street เกือบจะทั้งเส้นเลยไง คือมีร้านอาหาร และร้านเสื้อผ้าช็อปปิ้งพวกเซิร์ฟเยอะมากกกก ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว
สำหรับตัวโรงแรม ที่นี่ถือว่าค่อนข้างใหญ่เลย แถมมี Starbucks อยู่ในโรงแรมด้วย หากคิดว่าไม่รู้จะกินอะไร หรือใครติดกาแฟอย่างผม สตาร์บัคที่นี่ช่วยคุณได้นาจาาา ฮ่าๆ ส่วนห้องพักก็ใหญ่พอสมควร มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบตามที่ต้องการเลยยยย ถือว่าที่นี่เป็นที่ชาจพลังได้อย่างดีทีเดียว
The ONE Legian ช่วงราคาเริ่มต้น 1,000+ บาท
เช็คเรทและจองผ่าน Expedia // เช็คเรทและจองผ่าน Agoda.com // เช็คเรทและจองผ่าน Booking.com
โรงแรมอื่นๆที่แนะนำ
Sheraton Bali Kuta Resort
เชอราตัน บาหลี รีสอร์ท ที่นี่มีดีที่ติดหาดคูต้าแถมยังอยู่บนห้าง Beach Walk คือไม่มีอะไรดีเท่าที่นี่แล้วเอาจริง เพราะข้ามถนนไปก็เล่นเซิร์ฟเล่นทะเลได้ จะหิวก็มีห้างเดินเข้าไปหาอะไรกินได้เลย เป็นย่านที่คึกคัก ไม่เหงาโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวแน่นอน
Sheraton Bali Kuta Resort ช่วงราคาเริ่มต้น 5,500+ บาท
เช็คเรทและจองผ่าน Expedia // เช็คเรทและจองผ่าน Agoda.com // เช็คเรทและจองผ่าน Booking.com
สรุปบาหลี และทริปอินโดนีเซียทั้งหมด Pantip
คือจะบอกว่าหลังจากกลับมาจากทริปอินโดนีเซีย ความรู้สึกแรกเลยคืออยากกลับมาบาหลีอีก ขนาดนี่คิดว่าเผื่อเวลาให้บาหลีเยอะแล้ว แต่ก็ยังเก็บไม่หมดจริงๆ ด้วยความที่กิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยว ขนาดพื้นที่ของเกาะ และทุกสิ่งทุกอย่างคือเยอะมาก มากจนคิดว่า .. อยู่ทั้งเดือนคงจะเที่ยวทุกอย่างได้หมด ความบาหลีคือความมีเสหน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร สถาปัตยกรรมของที่นี่คือมันเป็นเอกลักษณ์อ่ะ มันคือความบาหลีอ่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน นอกจากจะบอกว่าต้องมาสัมผัสเองแล้วจะรู้
ความรู้สึกบางอย่างมันเล่าให้ใครฟังได้ไม่หมดนอกจากมารับรู้ฟีลลิ่งนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งมันฟีลแทนกันไม่ได้
ทริปอินโดนีเซียทริปคือทริปโคตรพีคที่สุดทริปหนึ่งที่อยากจะบอกว่า แกต้องมาซักครั้งในชีวิต ซึ่งคนไทยหลายคนอาจจะมองข้ามประเทศนี้ แต่เราอยากบอกจริงๆว่ามันน่าประทับใจ ครบทุกรสชาติที่ไปมา
ชมวัดอลังการงานสร้างที่บุโรพุทโธ .. ตัดมาที่ภูเขาไฟโบรโม่ ปีนภูเขาไฟคาวาอีเจียน สุดท้ายตัดภาพมาที่หาดลับ ค้นหาซากเรือ จบด้วยการเล่นเซิร์ฟโต้คลื่นที่แม่ง .. ทุกอย่างมันลงตัว หลากหลาย ประสบการณ์ถูกเติมเต็ม และอิ่มเอิบจากทริปนี้
ค่าใช้จ่ายทริปอินโดนีเซีย?
ปกติการเที่ยวของผมไม่ได้ต้องประหยัดแบบสุดโต่ง ขอให้กินอิ่ม นอนหลับ มีความสุข ไม่ต้องหรูหราแต่ก็ต้องไม่นอนลำบากย่ำแย่ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดทริปนี้คือตีกลมๆ 26,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องครับ ซึ่งผมคิดว่าไม่แพงและคุ้มกับสิ่งที่ได้รับ ขอบคุณตัวเองจริงๆที่ตัดสินใจมาเที่ยวอินโดนีเซีย และเราจะกลับมาอีกแน่นอน 😀
Hashcorner โซเชียลลล
สำหรับใครที่ชอบ Hashcorner และอยากติดตามข่าวหรืออะไรก็ตามแต่ ติดตามได้ช่องทางนี้เล้ยย
Facebook Page :https://www.facebook.com/hashcorner/
Instagram : https://www.instagram.com/kotzhul/
Twitter : https://www.twitter.com/kotzhul/
1 comment
ไปช่วงเดือนไหนมาหรอคะ