นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) ถ้าพูดถึงสถานที่เที่ยวเขียวๆ บรรยากาศสบายๆ ในบาหลี หลายคนต้องนึกถึงภาพของนาขั้นบันไดบนเนินเขาลูกโตที่ปลูกข้าวลดหลั่นเป็นชั้นไล่ลงมาตามเชิงเขา ท่ามกลางธรรมชาติสุดร่มรื่น ปกคลุมไปด้วยก้อนเฆมสีฟ้าขาวปุกปุยกันอย่างแน่นอน ซึ่งรีวิวเที่ยวบาหลีของก๊อตจะพลาดได้ยังไงก๊อนน โดยเฉพาะ นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) ที่จัดว่าใหญ่และสวยมากที่สุดในบาหลี ถึงขนาดที่ว่าเค้าได้รับการยอมรับจาก UNESCO ให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของโลกไปแล้วเรียบร้อย ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตไม่ได้พาไปแค่นาขั้นบันไดเด้อ แต่เรายังมีแวะไปนั่งชิลดื่มกาแฟรสเริ่ดกันที่ Batu Karu Kopi คาเฟ่สุดชิคที่อยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดอีกด้วย ใครที่อยากมาถ่ายรูปลงโซเชียลเก๋ๆ หรืออยากมาเดินสำรวจธรรมชาติแบบชิลๆ เลื่อนอ่านรีวิวได้เล้ยย
รู้จักนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces)
นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) นาขั้นบันไดที่จัดว่าใหญ่และสวยที่สุดในบาหลี ถึงขั้นได้รับการยอมรับจาก UNESCO ให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของโลก โดยเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในประเทศอินโดนีเซียที่สวยงามไปด้วยนาขั้นบันไดสีเขียวชอุ่มไล่ระดับเป็นชั้นๆ ไปตามไหล่เทือกเขา Batukaru ซึ่งนาขั้นบันไดที่เราเห็นนั้น ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลในหมู่บ้านจาตีลูวีห์ (Jatiluwih) และพื้นที่กว่า 70% เป็นทุ่งนาขั้นบันไดที่ปลูกข้าวพันธุ์ท้องถิ่นของบาหลี ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีลำต้นสวยสง่า ตั้งลำตรง รวงข้าวสวยนั่นเอง
สำหรับการเข้าชม นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) จะมีค่าเข้าอยู่ที่คนละ 40,000 รูเปียห์ (~97 บาท) และค่ารถต่อคันอยู่ที่ 5,000 รูเปียห์ (~11 บาท)โดยมีไฮไลท์คือ 5 เส้นทางสำหรับการเดินชมนาขั้นบันไดของเค้าที่เราสามารถเลือกเดินตามระยะทางใกล้-ไกล ได้เลยย โดยเค้าจะแบ่งออกเป็นสีต่างๆ เริ่มจากสีแดง (Short Track) เส้นทางสั้นๆ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที, สีม่วง (Medium Track) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง, สีเหลือง (Medium Track) ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง, สีฟ้า (Long Track) ระยะทาง 3.1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง แต่ถ้าใครเป็นสายลุย อยากกจะเดินเล่นกันยาวๆ ต้องสีขาวเลย (Extra Track) ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3.5-4 ชั่วโมง ใครจะเลือกอันไหน อันนี้แล้วแต่ความสะดวกและเวลาที่เรามีได้เลยเด้อ
การเดินทางเที่ยวบนเกาะบาหลี
ใครแพลนมาเที่ยวบาหลี ก๊อตต้องบอกก่อนเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวของเค้าแต่ละที่นั้น ส่วนใหญ่เค้าค่อนข้างอยู่ไกลกันม๊ากกแบบที่ว่าขับรถจากที่เที่ยวแรกไปยังที่เที่ยวสองใช้เวลาเดินทางกันเป็นชั่วโมงเลย อีกทั้งบนเกาะบาหลีเองนั้นแทบจะไม่มีรถสาธารณะมากนัก ซึ่งก๊อตว่า 2 ทางเลือกในการเดินทางหากใครมาเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในบาหลี ที่ก๊อตคัดมาให้แล้วว่าเหมาะสุดเลยคือ 2 แบบตามด้านล่างนี้
- เช่ารถพร้อมคนขับส่วนตัว: เป็นอีกวิธีที่ก๊อตแนะนำให้เลือกใช้ เพราะได้ทั้งความนั่งสบาย มีคนขับรถให้ แถมยังได้ความปลอดภัยมากกว่าการเช่ารถหรือมอเตอร์ไซค์ขับเองอีก
- เช่ารถหรือมอเตอร์ไซค์ขับเที่ยวเอง: ที่บาหลีเค้าจะมีให้เลือกเช่าทั้งรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราสามารถเลือกเช่าได้ตามความถนัดของตัวเองเลย หากใครจะเช่ารถยนตืขับนั้น เราสามารถใช้แค่ใบขับขี่ไทยที่มีภาษาอังกฤษโชว์ให้เค้าดูก็สามารถเช่ารถได้แล้ว สำหรับใครที่เป็นสายเน้นลุยๆ ไม่อยากเช่ารถยนต์ขับ การเช่ามอเตอร์ไซค์ก็เป็นอีกทางเลือกที่เดินทางได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนา เพราะถนนส่วนใหญ่ในบาหลีแคบมาก แถมบางจุดก็รถติดสุด แต่ถ้าใครไหว แบบถนัดขับมอเตอร์ไซค์ก็เช่าขับได้เล้ยย
เริ่มเที่ยวนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) กันเล้ยย
แรกเริ่มนั้นเราต้องเลือกเส้นทางเดินเที่ยวที่คิดว่าอยากจะไป และไหวแน่นอนกันก่อน โดยตัวก๊อตเลือกเดินเที่ยว นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) ในเส้นทางสีม่วง (Medium Track) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งทางเดินของสีม่วงก็จะเดินคู่ไปกับเส้นสีแดงและแยกซ้ายออกไปเพื่อวนไปอีกฝั่ง จากที่ก๊อตไปเดินมาขึ้น ถ้าให้แนะนำจริงๆ ล่ะก็ ถ้าใครมาแล้วไม่ได้มีเวลาล้นเหลือ ให้เราเลือกเดินสีแดงก็เพียงพอแล้วสำหรับไฮไลท์ที่นี่แหละ
บอกเลยว่าฝรั่งที่เค้ามาเที่ยวนาขั้นบันไดที่นี่ เค้าก็จะวู้วว้าวตื่นตาตื่นใจกันมาก แต่สำหรับคนไทยอย่างเราที่เห็นท้องนาบ่อยๆ ในเมืองไทย ก็ยังถือว่าที่นี่ค่อนข้างโอเคเลยนะ ด้วยนาขั้นบันไดของเขาเป็นทิวเขายาวสลับไปมา ทำให้แลนด์สเคปของนาเค้าค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรามากอยู่เหมือนกันเว้ย นอกจากนี้ ความสีเขียวของนาขั้นบันไดที่ได้เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายตาแล้ว เรายังจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นบาหลีแท้ๆ ที่เค้ายังคงทำนา เลี้ยงควาย มีกระท่อมเล็กๆ ไว้ใช้พักจากการทำงาน แถมใครกลัวมาเดินแล้วเมื่อย ตามทางในท้องนา เค้ายังมีร้านชำเล็กๆ ของชาวบ้านที่ขายพวกเครื่องดื่มอยู่ด้วยนะ ได้แวะพักดื่มน้ำปั่นเย็นๆ ท่ามกลางวิวสวยๆ ก็คือเต็มสิบไม่หักเลย
รวมๆ แล้ว ใครที่อยากมาดูวิวสวยๆ ของนาขั้นบันไดในบาหลีที่ยิ่งใหญ่กว่า นาขั้นบันไดเทกาลาลัง (Tegalalang Rice Terrace) ก๊อตแนะนำให้มา นาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) ที่นี่เลย ก๊อตยกให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในบาหลี ที่วิวสวยเหมือนภาพวาด ราวกับสิ่งที่ตาเห็นไม่ใช่ของจริง คือมันสวยเกินเรื่องไปมาก แถมเรายังได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ได้เห็นความเป็นอยู่ของเค้าที่แปลกตาออกไป ยิ่งเค้าทำเป็นเส้นทางเดินเที่ยวระยะต่างๆ ยิ่งเหมาะกับสายเดิน สายลุยมาก เอาเป็นว่าใครอยากมาดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายๆ มีความสโลว์ไลฟ์ และเป็นบาหลีจ๋าๆ ลองเลือกเดินเส้นทาง 5 กิโลเมตรไปเลย มาแล้วต้องไปให้สุดเด้อ
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
Batu Karu Kopi
เติมความเฟรชให้ร่างกายหลังจากเดินเหนื่อยๆ กันต่อที่ Batu Karu Kopi คาเฟ่สุดโด่งดังมากที่สุดในพื้นที่ของนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) โดยคาเฟ่เค้าตั้งอยู่บนกึ่งกลางของภูเขาบาตูการู (Batukaru) บนความสูง 2,700 เมตร มีไฮไลท์สุดปัง ทั้งทิวทัศน์รอบๆ ของคาเฟ่ ที่เราสามารถมองเห็นหุบเขาของนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) สุดเขียวขจีตั้งลดหลั่นกันไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งพื้นที่โดยรอบของคาเฟ่นั้น ยังเต็มไปด้วยผักและผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกเอาไว้กว่า 50 ชนิดให้ได้เก็บเกี่ยวกันตลอดทั้งปีอีกด้วย
สำหรับใครที่จะมาตามรอยที่ Batu Karu Kopi นั้น บอกก่อนว่าคาเฟ่ของเค้าตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) ซึ่งพื้นที่นาขั้นบันไดนั้นจะมีค่าเข้าสถานที่ หากเราไม่ได้จ่ายค่าเข้าจะไม่สามารถเข้ามาถึงตัวคาเฟ่ได้ ดังนั้นใครที่ตั้งใจมาเที่ยวนาขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) อยู่แล้ว ก๊อตแนะนำให้แวะมาที่คาเฟ่นี้ด้วยคือดีมากเลย
โดยบรรยากาศรอบๆ ของคาเฟ่ Batu Karu Kopi เป็นคาเฟ่แบบโอเพ่นแอร์ ตกแต่งภายสไตล์บาหลีด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ไปจนถึงเสาและหลังคา ที่ยกสูงทำให้ลมถ่ายเทเข้ามาได้ตลอดเวลา ถือเป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการมานั่งชิลๆ ดื่มด่ำไปกับวิวของนาขั้นบันไดตรงหน้าได้แบบพาโนราม่า ที่บอกเลยว่าเป็นวิวหลักล้านสวยสับสุดๆ ยกให้เป็นคาเฟ่ที่ตั้งกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวและงดงามจริงๆ
ความพิเศษของที่นี่คือเค้าจะมีเมนูเครื่องดื่ม Specialty Coffee ซึ่งมีความพิเศษกว่าคาเฟ่ทั่วไปในบาหลี ตรงที่เมนูกาแฟเค้าเป็นแบบพิเศษเฉพาะของทางร้านที่เค้าคัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีมารังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครออกมา โดยที่ Batu Karu Kopi มีการหยิบเอาขนมพื้นเมืองขึ้นชื่อของบาหลีมาครีเอทรวมลงไปกับเมนูกาแฟอีกด้วย ซึ่งนี่ก็สั่งมาดื่ม แต่ดันจำชื่อเมนูไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆ แต่เรื่องรสชาติจำได้ขึ้นใจ เค้าเป็นกาแฟรสเข้มท็อปมาด้วยขนมของอินโดด้านบน รสชาติกลมกล่อม อร่อยมาก นอกจากนี้ก๊อตยังได้ลองสั่งพิซซ่าฉบับท้องถิ่นของเค้ามากิน Sourdough Pancakes ราคา 50,000 รูเปียห์ (~115 บาท) ขนมปังซาวโดวจ์ชิ้นโตที่ถูกนำไปอบพร้อมกับเบอร์รี่ ผลไม้แช่อิ่ม และน้ำตาล รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี เสิร์ฟคู่กับซอสน้ำตาลโตนดรสหวานเข้มข้น ที่มาตัดกันได้อย่างลงตัวเลย
สำหรับก๊อตแล้ว Batu Karu Kopi เป็นคาเฟ่ฟีลโคซี่ๆ สุดเรียบง่าย บรรยากาศร้านดี มู้ดสวย อีกทั้งยังเป็นจุดที่เราสามารถมานั่งชมวิวนาขั้นบันไดได้แบบฉ่ำๆ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ในการมานั่งพักให้หายเหนื่อยหลังจากที่เราไปเดินชมธรรมชาติของนาขั้นบันไดจริงๆ
> อ่านรีวิวเต็มบาหลี คลิก
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡