เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) อีกหนึ่งเกาะที่ทุกคนพลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวบาหลี รอบนี้ก๊อตจะพาทุกคนข้ามไปเที่ยวบน เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะบาหลี ที่ภายในเกาะเต็มไปด้วยที่เที่ยว ชายหาดและโขดหิน รวมถึงธรรมชาติที่โคตรสวยไม่แพ้เกาะใหญ่อย่างบาหลี ด้วยทะเลสวยๆ ทำให้ที่นี่เปรียบเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของคนรักกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการมาดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น การมาล่องเรือ เล่นเซิร์ฟบอร์ด รวมถึงลงเล่นน้ำตามชายหาดแหละ
และที่โด่งดังมากของเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ในโลกโซเชียล ก็คือมุมถ่ายรูปดังๆ หลายจุดในอินสตาแกรม ไม่ว่าจะเป็นบ้านต้นไม้ ที่มีฉากหลังเป็นน้ำทะเลสีสวย และภูเขาหินมากมาย หรือจะมาถ่ายรูปกับหน้าผาทีเร็กซ์ ที่หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) หรือมาเล่นน้ำท่ามกลางกลางเกลียวคลื่นบนชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) หนึ่งในชายหาดสุดป๊อบของเกาะ
แน่นอนว่าทริปนี้ก๊อตข้ามมาเที่ยวกันบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) กันถึง 2 วัน 1 คืน โดยจะพาทุกคนไปตามเก็บแลนด์มาร์คดังกันทั่วทั้งเกาะ รับรองว่าแต่ละสถานที่นั้น ถ่ายรูปสวย วิวดี มาตามรอยแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอน จะเป็นยังไงตามก๊อตไปดูรีวิวเต็มกันโลดด
เที่ยวเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) กี่วันดี?
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวที่ เกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) เราจะต้องแพลนเที่ยวให้ดีเลย โดยเฉพาะคนที่ต้องการไปเที่ยวข้ามเกาะแบบไปเช้า-เย็นกลับจากบาหลี ก๊อตบอกก่อนเลยว่าการไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริป เราอาจจะตามเก็บที่เที่ยวไฮไลท์หลักของที่นี่ไม่ครบ เนื่องจากที่เกาะนี้เองมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่มาก อีกทั้งที่เที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ห่างกันค่อนข้างมากถึงขั้นขับรถใช้เวลาเป็นเกือบชั่วโมงเลยทีเดียวเชียว แถมแต่ละที่เที่ยวยังสมบุกสมบันที่เราต้องใช้เวลาเดินลงไปตามหน้าผาเพื่อลงไปถึงชายหาดนานพอสมควร เพราะฉะนั้นใครจะมาเที่ยวที่นี่ ก๊อตแนะนำให้มาค้างคืนที่นี่สัก 2 วัน 1 คืน จะดีที่สุด เพราะเราจะได้เที่ยวตามแลนด์มาร์ค และสถานที่ต่างๆ ภายในเกาะได้อย่างครบถ้วน แบบมาครั้งเดียว เที่ยวให้จบครบไปเลยงี้ไง๊ ยังไงสามารถดูแพลนเที่ยวของก๊อตจากด้านล่างนี้ได้เลย ส่วนใครเวลาจำกัดและยังอยากมาเที่ยวแบบวันเดียว อาจจะลองเลือกที่เที่ยวเฉพาะที่ตัวเองอยากไป แล้วส่งให้คนขับรถดูก่อนว่าได้มั้ย ทันเวลาหรือเปล่า อันนี้อาจจะลองถามจากคนขับรถได้เลย
แพลนเที่ยวในเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) 2 วัน 1 คืน
สำหรับแพลนเที่ยวในเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ของก๊อตนั้น เราจะมาเที่ยวกันแบบ 2 วัน 1 คืน ให้มีเวลาหายใจและสโลวไลฟ์ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงยังได้มาเที่ยวตามเก็บเหล่าแลนด์มาร์คต่างๆ บนเกาะกันแบบครบถ้วน ซึ่งการมาเที่ยวแบบค้างคืนบนเกาะ 2 วัน 1 คืน ก๊อตแนะนำให้เที่ยวเก็บทีละฝั่งของเกาะ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาก่อน
ถ้าให้แนะนำแบบฟันธงไปเลยล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราแพลนเที่ยวโดยเริ่มวันแรกโดยการไปเก็บที่เที่ยวฝั่งขวาที่อยู่ไกลที่สุดของเกาะ จากนั้นให้เราไล่เก็บมาเรื่อยๆ มาทางซ้ายจนครบจบวันที่ 2 พร้อมลงเรือข้ามฟาก (ที่ท่าเรือฝั่งซ้ายของเกาที่เรานั่งมาตอนแรก) เพื่อกลับไปยังเกาะบาหลีนั่นเอง จากแพลนนี้ที่ก๊อตเที่ยวมาเองแล้ว บอกเลยว่าเวิร์คและสามารถตามรอยโดยการก็อบแพลนเที่ยวนี้ให้คนขับได้เลยแหละ 555555
อันนี้เป็นเพียงเเพลนเที่ยวเฉพาะ เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) เท่านั้น แต่ก๊อตยังมีแพลนเที่ยวบาหลีบนเกาะใหญ่ฉบับเต็ม ที่เราไปมากันทั้งโซนบาหลีกลาง,บาหลีเหนือ, บาหลีตะวันตก และบาหลีตอนใต้ ซึ่งก๊อตทำเป็นรีวิวแยกไว้ให้เรียบร้อย ใครอยากตามรอยเที่ยวบาหลีแบบคอมพลีท สามารถอ่านต่อได้เลย
อ่านรีวิวเที่ยวบาหลีฉบับเต็ม คลิก
วิธีเดินทางข้ามเกาะไปเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida)
ท่าเรือซานูร์ (Sanur) <> เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida)
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) นั้น มีเพียงตัวเลือกเดียว คือ การนั่งเรือเฟอรี่ข้ามเกาะมาจากท่าเรือซานูร์ (Sanur) ตรงชายหาดซานูร์ (Sanur) โดยเราสามารถซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ หรือเอาสะดวกก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าจากเว็บ Klook ได้เช่นกัน ซึ่ง Klook เองเค้ามีผู้ให้บริการเรือข้ามฟากหลายเจ้าให้เราเลือก รวมถึงมีขายเป็นแพ็คพร้อมรถเช่าและคนขับรถพร้อม ซึ่งก๊อตเองได้เลือกจองตั๋วเป็นแบบแพ็คเกจเรือข้ามฟาก พร้อมคนขับรถพาเราเที่ยวบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) มา ซึ่งนี่ตอบเลยว่าโคตรดี! ซึ่งข้อดีของการจองออนไลน์มาก่อนแบบก๊อต คือ เราไม่ต้องมาวิ่งกระเตงมาจองอะไรที่ท่าเรือก่อน รวมถึงมาวิ่งหาคนขับรถพาเที่ยวบนเกาะอีก เมื่อคิดดูแล้วบอกเลยว่ายุ่งยากมากเลยแกรเอ้ย
> จองตั๋วเรือข้ามไปมาระหว่าง บาหลี-เกาะนูซา เปอนีดา [ผ่าน Klook]
แต่ถ้าใครไม่ได้จองล่วงหน้ามา สามารถมาเดินเลือกซื้อที่ท่าเรือได้เลย โดยรอบๆ จะมีเรือเฟอร์รี่หลายเจ้าคอยให้บริการและเรียกลูกค้าให้มาซื้อตั๋ว ฟีลเหมือนบขส. บ้านเราที่จะมีพนักงานมายืนคอยโบกมือเรียกให้เราไปซื้อตั๋ว จะบอกว่าที่นี่บรรยากาศเดียวกันเป๊ะ ใครไม่ได้จองตั๋วออนไลน์มา สามารถมาเดินเลือกซื้อตั๋วกับเจ้าที่ถูกใจบริเวณท่าเรือได้เช่นกัน โดยเวลาเรือข้ามฟากจากเกาะบาหลีไปยังเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) นั้นจะมีตั้งแต่เช้าจรดเย็น ยังไงลองเลือกเดินดูได้เลย
ที่พักแนะนำใกล้กับท่าเรือซานูร์ (Sanur)
Sri Phala Resort & Villa
ไม่ว่าจะมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือมาแบบหลายวัน ช่วงเวลานั่งเรือข้ามเกาะที่ก๊อตแนะนำคือให้เลือกเที่ยวขาออกที่เช้าที่สุด และนั่งเรือขากลับรอบเย็นสุดของวันกลับ เพื่อที่เราจะได้มีเวลาเที่ยวกันแบบเต็มวัน โดยการนั่งเรือข้ามฟากจากชายหาดซานูร์ (Sanur) ไปที่เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ก๊อตอยากให้ทุกคนเผื่อเวลามาถึงที่เรือก่อนเวลาเรือออกซักหน่อย ซึ่งใครที่มารอขึ้นเรือรอบเช้าแบบก๊อต อยากให้หาที่พักใกล้ท่าเรือก่อนวันเดินทางจะดีมาก เพราะมันช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางมาท่าเรือได้เยอะเลย
คืนก่อนที่ก๊อตจะนั่งเรือข้ามไปยังเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ก๊อตเลือกมานอนที่โรงแรม Sri Phala Resort & Villa ก่อน โดยโลเคชั่นเค้าตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือชายหาดซานูร์ (Sanur) ในระยะเดินได้แบบชิลๆ โรงแรมคือดี ราคาไม่แพง แถมนอนสบาย และที่เริ่ดสุดคือ เราสามารถตื่นเช้าแล้วเดินมาขึ้นเรือได้เลย โดยคืนก่อนหน้าที่เราจะขึ้นเรือ เราสามารถบอกรีเซฟชั่นโรงแรมว่าเราจะมีขึ้นเรือตอนเช้า ให้เค้าเตรียมอาหารเช้าแบบกล่องให้เราได้ด้วย ถือเป็นโรงแรมที่ดีมากกก! ใครจะจองตาม จองได้ที่นี่โลด
เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำและบอกทุกคนไว้ก่อนสำหรับการขึ้นเรือข้ามฟากก็คือ เราควรใส่ ‘กางเกงขาสั้น’ และ ‘รองเท้าแตะ’ มาขึ้นเรือนะเอ้อ เพราะท่าเรือเค้ามันไม่ได้เป็นท่าเรือจริงจังที่มีสะพานเทียบท่าเรือยื่นออกไปในทะเล แต่เรือเค้าจะจอดริมชายหาด ที่เราต้องเดินเท้าลุยลงน้ำทะเลเพื่อขึ้นเรือเอง บอกเลยว่าใครที่ใส่ขายาวมา ได้เปียกก่อนขึ้นเรือแน่นอน อ้อ! ส่วนใครที่ห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทางเหมือนก๊อตตอนแรกล่ะก็ เราไม่ต้องแบกขึ้นเรือเองนะเออ เพราะเค้าจะมีพนักงานบนเรือมาคอยช่วยยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นเรือให้ ถือว่าโอเค๊
การเดินทางภายในเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida)
บนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ไม่มีรถสาธารณะให้เราได้ใช้บริการ รวมถึงไม่ได้มีรถยนต์ให้เช่าขับเองนะเออ นี่บอกก่อนว่าถนนบนเกาะเค้าจะค่อนข้างแคบ บาหลีว่าขับยากแล้ว เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) เส้นทางคือโหดกว่าบาหลีไปอี๊ก ด้วยความที่ถนนเค้าส่วนใหญ่เป็นเส้นทางขับขึ้นเขา-ลงเขา โดยในบางจุดนั้นชันและแคบมากก ดังนั้น การเดินทางภายในเกาะเลยจะทำได้อยู่ 2 วิธีตามด้านล่างนี้เลย
- เช่ามอเตอร์ไซค์ขับ – ตัวเลือกนี้ ฝรั่งเค้าหาทำกันเยอะมาก ซึ่งถ้าใครโปรเรื่องขับมอไซค์ ก๊อตแนะนำเลยสำหรับคนที่ขับมอเตอร์ไซค์เก่งๆ เพราะเส้นทางบนเกาะแคบมากก ซึ่งบางจุดสามารถขับได้แค่ทีละคันเท่านั้น อีกทั้งถนนเค้ายังไม่ค่อยดี มีความขรุขระและหลุมบ่อ แถมมีแต่ทางชันขึ้นเขาลงเขาตลอด เรียกว่าโหดกว่าถนนหนทางในบาหลีอีก สำหรับใครที่ขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็ง ก๊อตคิดว่าวิธีนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่ง
- เช่ารถ พร้อมคนขับแบบส่วนตัว – เป็นอีกวิธีที่ก๊อตแนะนำให้เลือกใช้ เพราะได้ทั้งความนั่งสบาย มีคนขับรถให้ แถมยังได้ความปลอดภัยมากกว่าการเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเองอีก ซึ่งการหารถเช่าพร้อมคนขับนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถจองได้จาก Klook เลย โดยข้อดีของการเช่ารถพร้อมคนขับมาล่วงหน้าแบบก๊อตคือลงจากเรือมาปุ๊บ เราจะเจอคนขับมายืนชูป้ายชื่อเราอยู่ท่าเรือ เมื่อเจอกันแล้วเค้าก็จะพาเราไปที่รถแล้วพาขับออกไปเที่ยวเลยทันที คือสะดวกมากก!
สำหรับแพลนเที่ยวที่เราต้องการไปนั้น เราสามารถระบุที่เที่ยวตอนจองได้เลย ว่าอยากไปที่ไหนบ้าง ซึ่งอีกข้อดีที่ก๊อตเจอตอนไปเที่ยวจริงเลยก็คือ คนขับเค้าจะช่วยดูแพลนเที่ยวให้ด้วย เช่น ช่วยโยกเวลาที่ไม่ชนกับทัวร์ลง หรืออาจจะเปลี่ยนไปช่วงเวลาที่สวยที่สุดงี้ ซึ่งคนขับเค้าจะแนะนำและคอยปรับเปลี่ยนแพลนเพื่อให้เราได้เที่ยวสนุกที่สุดและยังไปตามเก็บได้ครบทุกสถานที่ที่เราต้องการนั่นเอง แต่สิ่งที่ควรรู้เลยก็คือ การจองรถเช่าพร้อมคนขับนั้น จะมีข้อจำกัดคือเรื่องเวลา ที่เค้าสามารถขับรถพาเที่ยวเที่ยวได้ 10 ชั่วโมง/วันเท่านั้น ถ้าเวลาเกินกว่านี้ เราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมตามเวลาที่ล่วงเลยไปเนอะ
สำหรับการจองรถเช่าพร้อมคนขับนั้น จะไม่รวมกับที่พักค้างคืนบนเกาะ ดังนั้น เราสามารถจองโรงแรมแยกจากพวก Agoda หรือ Booking.com แล้วบอกกับคนขับรถได้เลย พอเที่ยวครบเค้าก็จะพาขับรถมาส่งที่โรงแรม และวันต่อไปก็ให้คนขับคนมารับที่โรงแรมโลด คือง่ายมากกกกก
DAY : 1
หาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach)
หลังจากที่ก๊อตข้ามมายังเกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) และกระโดดขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว คนขับรถของเราก็พามาเริ่มต้นทริปด้วยการเที่ยวที่แรกที่ หาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) หนึ่งในชายหาดสุดป๊อบมากที่สุดบนเกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามราวกับสวรรค์บนดิน ด้วยบรรยากาศชายหาดสวยๆ พร้อมกับพระเอกอย่างโขดหินขนาดใหญ่คล้ายเพชรเม็ดโตที่ตั้งสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้า พร้อมกับหาดทรายสีขาวเนียนละเอียด ซึ่งมุมถ่ายรูปฮิตปังๆ ที่โคตรสวยของเหล่า Instagrammer ก็คือวิวจากมุมสูงจากบันไดทางเดินที่มุ่งลงไปยังหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ที่เราสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ทางเข้าหาดนี่แหละ คือโคตรสวยยย บอกเลยว่าเฟิร์สอิมแพรสชั่นแรกของเกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) สำหรับก๊อตนั้น ประทับใจสุดด
เอ้อ ด้วยความที่ หาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) เค้ามีลักษณะเป็นชายหาดที่อยู่ด้านล่างที่รายล้อมไปด้วยผาหินสูง ใครจะมาตามรอยเที่ยวที่นี่ เราจะมีตัวเลือกในการเที่ยว 2 วิธี คือแบบแรกที่ลงแรงปีนเขาลงไปยังชายหาดที่วิวเค้าว้าวซ่าสุด กับแบบที่สองสำหรับสายคอนเทนต์ที่เอารูปพอหอมปากหอมคอ ใครถนัดแบบไหนก็ อ่ะ มาลองดู้ว!
เริ่มจากตัวเลือกที่ 1 คือ การเดินลงไปที่บริเวณชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ด้านล่าง ใครที่อยากลงทะเล สัมผัสทรายนุ่มๆ พร้อมกับน้ำทะเลสีฟ้าและเกลียวคลื่นแบบอลังการ ก๊อตแนะนำให้เลือกตัวเลือกนี้เล้ย แต่นี่บอกก่อนว่าวิธีนี้จะต้องเสียเหงื่อกันเยอะหน่อย เพราะเส้นทางลงสู่ชายหาดคือโหดเอาเรื่องอยู่เว้ยแกร เนื่องจากเราจะต้องเดินไปตามแนวบันไดที่โคตรชันและคดเคี้ยวไปตามผาหินทอดลงสู่บริเวณชายหาด โดยความตื่นเต้นอยู่ที่ช่วงท้าย ที่ราวจับก็ไม่มี แถมบางช่วงยังต้องจับเชือกแล้วค่อยๆ ไต่ลงไปตามโขดหินแทนการเดินบันไดด้วย ถ้าใครคิดว่าแค่นี้สบายเหมือนปลอกกล้วย อยากได้รูปสวยๆ หรืออยากไปนั่งชิลอยู่บนชายหาด ก๊อตแนะนำให้เดินลงโลด คือโคตรดีย์!
โดยก๊อตเองก็ไม่พลาดที่จะปีนลงไปยังหาดเค้าแหละ พอเรามาถึงแล้วได้เห็นวิวและบรรยากาศด้านล่าง บอกเลยว่าคุ้มค่าเหนื่อย จากวิวมุมสูงจากด้านบนที่เรามองลงมา พอได้มาสัมผัสของจริงใกล้ๆ ด้านล่าง คือมันโคตรสวย สวยแบบอลังการ ชายหาดสีขาวๆ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าโคตรใส ที่คลื่นโคตรแรงแบบเกรี้ยวกราดกระทบชายฝั่งคลอเคลียไปกับเสียงลมที่กระทบผิว คือมู้ดดีและสวยแบบทัชใจสุดๆ ที่ก๊อตสังเกตเลยคือคนส่วนใหญ่ที่ปีนลงมาก็คือเหล่าฝรั่งที่พร้อมใจกันถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งลงทะเลไปซัดกับคลื่นกันแบบแบบคึกคักสุด คือมันดีมากจริงๆ ก๊อตเองก็ไม่พลาดที่จะวิ่งลงไปให้คลื่นทะเลซัดบ้าง ซัดมาทีคือเซแบบตัวปลิว เอ้ออ เล่นอยู่พักคือหมดแรง แต่เอาดีๆ มันสนุกอยู่เหมือนกันนะเว้ย 55555
ตัวเลือกที่ 2 สำหรับสายถ่ายรูปเอาคอนเท้นต์ ไม่เน้นเดินลงไปให้เมื่อยตุ้ม ก๊อตแนะนำให้เราเดินลงบันไดไปช่วงแรกพอ ตรงนี้มันจะมีมุมบันไดทางเดินที่เป็น Instagrammable ที่ใครมาเที่ยวที่นี่จะต้องถ่ายรูปกับภาพมุมสูงที่มีฉากหลังเป็นชายหาด และเห็นตัวโขดหินลักษณะคล้ายเพชรชัดแจ๋ว แต่ทว่า การจะถ่ายมุมนี้ต้องรีบถ่ายแล้วรีบไปต่อหรือเดินกลับขึ้นมานะเออ เพราะบันไดทางเดินลงไปของเค้าค่อนข้างแคบ แถมยังเป็นทางเดินที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เค้าใช้เดินขึ้น-ลงจากหาดด้านล่างด้วยเน้อ ดังนั้น ใครได้รูปตรงนี้แล้วพอใจแล้ว ก็มาถ่ายแค่นี้ตรงนี้ได้ครับโผมม
หาดอาตูห์ (Atuh Beach)
เดินข้ามมาฝั่งตรงข้ามจากชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) มานิดเดียว เค้ายังมีอีกหาดหนึ่งที่ชื่อ หาดอาตูห์ (Atuh Beach) ที่เราต้องเดินลงไปที่บริเวณชายหาดตามบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณด้านล่าง ส่วนตัวก๊อตเองนั้นจะไม่ได้เดินลงไป ด้วยความที่รู้สึกว่าตัวเองเสียพลังงานไปกับการปีนลงไปชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ก่อนหน้านี้ไปเยอะแล้ว นี่เลยเลือกที่จะนั่งชิลๆ ชมวิวอยู่ด้านบนที่ร้านขายน้ำที่เป็นเหมือนกระท่อมเล็กๆ สั่งน้ำมะพร้าวมาดูดให้สดชื่น พร้อมกับนั่งดูวิวทะเลแบบเพลินๆ เลย บอกเลยว่าดีไม่แพ้กัน
ความต่างระหว่าง หาดอาตูห์ (Atuh Beach) กับหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) คือ หาดอาตูห์ (Atuh Beach) จะเรียงรายไปด้วยเก้าอี้ชายหาดและร้านรวงมากมายที่เปิดให้บริการที่เราสามารถไปนอนชิลๆ หาอะไรกินริมทะเลได้ นอกจากนี้เค้ายังมีมุมถ่ายรูปสุดป๊อบอย่าง มุมชิงช้าตรงชายหาด ที่พอน้ำขึ้นแล้วจะเหมือนมันตั้งอยู่กลางทะเลพร้อมกับวิวภูเขาด้านหลังที่สวยเอาเรื่องเลย ซึ่งคนเค้าก็นิยมมาถ่ายรูปเล่นกันเยอะมากเลยล่ะ
โดยรวมแล้ว หาดอาตูห์ (Atuh Beach) เหมาะกับการมาลงนอนเล่นกินลมที่ชายหาด ใครที่เหนื่อยหอบมาจากการปีนป่ายที่ไดมอนด์บีช (Diamond Beach) จะมานอนพักหาอะไรกินตรงนี้ก็ได้ ซึ่งบรรยากาศเค้าก็ชิลๆ สบายๆ เรื่อความสวยก็สู้กันได้สูสี หรือถ้าใครที่มาแล้วรู้สึกขี้เกียจจะต้องเดินลงไปด้านล่าง การมานั่งดูวิวจากมุมสูงจากร้านชายน้ำด้านบนแบบก๊อตก็ดีไม่ไหวเช่นกันเด้อ
บ้านต้นไม้ รูมะห์โปฮน (Rumah Pohon ‘Tree House’)
นั่งรถมายังไม่ถึง 5 นาที เราก็ถึงแล้วกับ บ้านต้นไม้ รูมะห์โปฮน (Rumah Pohon ‘Tree House’) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คชื่อดังของเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ที่ป๊อบเว่อร์วังในอินสตาแกรมสุดๆ ซึ่งก๊อตเชื่อว่าใครที่หารีวิวเที่ยวบาหลี หรือที่เที่ยวบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) จะต้องเจอกับภาพนั่งบนบันไดของบ้านต้นไม้ ที่มีวิวด้านหลังเป็นท้องทะเลสวยๆ กันอย่างแน่นอน ซึ่งปกรีวิวนี้ของก๊อตเองก็ใช้รูปจากตรงนี้แหละ 55555
ก๊อตขอเล่าก่อนว่า Rumah Pohon ‘Tree House’ จริงๆ แล้วแยกออกเป็นหลายส่วนเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาพักได้ จุดชมวิวและจุดถ่ายรูปต่างๆ ที่เราสามารถเดินเที่ยวได้ตามชอบ โดยจุดที่ก๊อตตั้งใจมาในวันนี้เลยคือตรง ‘บ้านต้นไม้’ ที่อยู่บริเวณริมหน้าผาตั้งหันหน้าออกสู่ทะเล ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดไฮไลท์หลักที่คนเค้าชอบมายืนถ่ายรูปกันตรงบันไดไม้แล้วมีฉากหลังเป็นวิวของน้ำทะเลและโขดหินสวยๆ ด้านหลังนั่นแหละ
สำหรับที่มาที่ไปความฮิตของบ้านต้นไม้ จากตอนแรกที่บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านพักปกตินี่แหละ แต่ด้วยใครก็ไม่รู้ที่เป็นคนริเริ่มมาถ่ายรูปตรงจุดนี้แล้วมันปังมาก จนตอนนี้ เจ้าของพื้นที่เค้าเลยเปลี่ยนบ้านนี้กลายมาเป็นจุดถ่ายรูปและทำเงินแทน ซึ่งนี่บอกเลยว่า ถ้าใครอยากจะมาถ่ายรูปมุมนี้ เราจะต้องเสียค่าเข้าไปถ่ายด้วย โดยราคาเค้าจะอยู่ที่ 75,000 รูปเปียห์ (หรือประมาณ ~180 บาท) กับเวลาถ่ายรูปคนละ 2 นาทีเท่านั้น ซึ่งแพงเกินไปมากกกกก! คือกะเอารวยจากตรงนี้เลยว่างั้น แล้วถามว่านี่ยอมเสียเงิยถ่ายมั้ย มาแล้วทั้งทีก็ถ่ายสิว๊ะ โว้ยยย
จากประสบการณ์ที่ก๊อตไปสัมผัสบรรยากาศจริงมาแล้ว นี่ขอบอกทริคเผื่อทุกคนที่จะไปตามรอยถ่ายรูปมุมนี้ ก่อนขึ้นไปก๊อตแนะนำให้ทุกคนเล็งจุดที่ตัวเองจะไปยืนและคิดท่าโพสต์ไว้ล่วงหน้าก่อนเลย พอขึ้นไปปุ๊บเค้าจะจับเวลาทันที ซึ่งพอครบ 2 นาทีเค้าจะเป่านกหวีดดังปรี๊ดดด พร้อมบอกให้ลงมาทันทีเลยแหละ โหดจริง
ส่วนตัวก๊อตคิดว่าค่าถ่ายรูปตรงนี้โคตรแพงกับเวลา 2 นาที ที่ให้แบบจำกัดจำเขี่ยเว่อร์เกินไปมาก มีทั้งคนนั่งคุมคอยจับเวลา บอกเลยว่าโคตรรู้สึกเกร็งและลนมากเลยแหละ ใครที่ไม่อินกับการถ่ายรูป หรือคิดว่ามันไม่คุ้มกับการต้องเสียเกือบ 200 บาทกับรูปหนึ่งมุม สามารถข้ามจุดนี้ไปได้เลย เพราะนอกจากราคาจะแรงและเวลาน้อยแล้ว คนยังต่อคิวรอขึ้นไปถ่ายเยอะมากอีกด้วยนะ แต่ถ้าใครอยากมาตามเก็บภาพฟีลแบบมาบาหลีทั้งทีก็ต้องได้รู้ ก๊อตแนะนำว่าให้มาแต่เช้าตรู่หน่อย เพราะก๊อตได้ยินเพื่อนคนไทยเล่าว่า มาแต่เช้าไม่มีการจำกัดเวลาเนื่องจากไม่มีคนแหละ ยังไงต้องลองดู!
นอกจากบ้านต้นไม้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งจุดที่สวยมากคือที่ Thousand Islands Viewpoint จุดชมวิวมุมสูงที่เราสามารถมองเห็นท้องทะเลและเกาะน้อยใหญ่ที่รวมตัวกันเป็นกระจุกในบริเวณนี้ ซึ่งถ้าเราสังเกตวิวตรงนี้ดีๆ เราสามารถเห็นความสวยงามอีกมุมของชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) จากตรงนี้ได้อีกด้วย ถือเป็นอีกมุมที่สวยงาม ถ่ายรูปออกมาได้สวยไม่แพ้กันในราคาที่ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าหรือถ่ายรูปแต่อย่างใด อ่ะ เริ่ด!
หาดและป่าเทมเบลิง (Tembeling Beach and Forest)
ปิดท้ายทริปวันแรกของ เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) กันที่ หาดและป่าเทมเบลิง (Tembeling Beach and Forest) ที่ตั้งอยู่ไกลออกมาจากที่เที่ยวที่เราไปกันมาแล้วในวันนี้ซักหน่อย โดยใช้เวลาขับรถมาจากบ้านต้นไม้เกือบๆ ชั่วโมงนึงเลยทีเดียว ส่วนตัวแล้วก๊อตไม่ค่อยเห็นคนไทยมาเที่ยวและรีวิวที่นี่กันมากนัก ด้วยความที่เราไปจิ้มๆ หาในกูเกิ้ลแมพแล้วเจอรูปที่นี่แล้วสวยดี ก๊อตก็เลยจัดเข้าแพลนซะเล้ย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สำหรับ หาดและป่าเทมเบลิง (Tembeling Beach and Forest) เป็นหาดเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาบริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยไฮไลท์ด้านในก็คือบ่อน้ำที่เราสามารถแช่ตัวไปกับบรรยากาศธรรมชาติฟินๆ โดยการที่จะเข้าไปเที่ยวที่ หาดและป่าเทมเบลิง (Tembeling Beach and Forest) นั้นค่อนข้างโหดเอาเรื่องอยู่แหละแกร สำหรับคนที่เช่ารถแบบก๊อตนั้น เราไม่สามารถขับรถเข้าไปด้านในได้ แต่เค้าจะมีจุดจอดรถด้านหน้า แล้วให้เรานั่งรถมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้าน ให้เค้าขับเข้าไปส่งด้านในอีกต่อหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องเสียค่าบริการคนละประมาณ 80,000 รูเปียห์ (~190 บาท) โดยคนขับเค้าจะรอรับเรากลับมายังจุดจอดรถด้วย ซึ่งถนนหนทางที่เข้าไปข้างในคือโหดเอาเรื่อง เส้นถนนคือแคบม๊าก แถมตัวถนนเองยังไม่ดี มีความหลุมบ่อเยอะแยะเต็มไปหมด ถ้าใครที่ขับมอเตอร์ไซค์มาแล้วยังขับไม่แข็ง นี่โคตรไม่แนะนำเลยแหละ
เมื่อชาวบ้านเค้าขับมาส่งแล้ว เราจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกราวๆ 15 นาที ตามเส้นทางเดินที่ลัดเลาะไปตามภูเขา ซึ่งทางเดินเค้าก็ทำค่อนข้างดีมากเลยปหละ โดยก่อนเข้าไปถึงด้านใน จะเจอกับบ่อน้ำเล็กๆ และ Pura Taman Panca Gangga ศาลสไตล์บาหลีที่ชาวบ้านเค้าตั้งไว้เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีรูปทรงและสไตล์ของบาหลีตั้งอยู่ จากนั้น เดินอีกไม่ไกลเท่าไหร่ เราจะทะลุออกมาเจอกับหาดที่รายล้อมไปด้วยโขดหินมากมายเลย ฟีลลิ่งที่เหมือนหาดลับๆ ที่บรรยากาศเงียบสงบ และนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจุดท่องเที่ยวฮิตอื่นๆ บนเกาะ
และแน่นอนกับไฮไลท์ของที่นี่ คือ สระน้ำสีฟ้าขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ติดริมทะเล โดยสระน้ำที่นี่เป็นสระที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยใช้แหล่งน้ำจากธรรมชาติไหลผ่าน ทำให้น้ำในสระเค้าไม่ได้เค็มเหมือนน้ำทะเล ซึ่งเราสามารถเดินลงไปแช่ตัวได้อย่างสบายใจเฉิบแบบฟรีๆ ใครที่เดินเข้ามาเหนื่อยๆ แช่น้ำด้วยอุณหภูมิของน้ำเย็นๆ ที่เมื่อน้ำมากระทบผิวกาย มันทำให้รู้สึกเฟรชและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แถมยังช่วยลดอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวหลังจากที่ไปตะลอนเที่ยวมาทั้งวันได้เป็นอย่างดี
ยิ่งจังหวะที่เรานอนแช่น้ำนิ่งๆ ปล่อยใจไปกับธรรมชาติจริงๆ และผืนป่าที่โอบล้อมรอบตัวเราไป มันช่วยทำให้ความล้าทั้งกายและจิตใจดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ มันเหมือนร่างกายได้ชัตดาวน์และเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างแท้จริง ยิ่งตัวสระเค้าตั้งอยู่ใกล้กับทะเลแบบนี้ พอได้มีเสียงคลื่นลอยเข้ามาในโสตประสาท ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าร่างกายมันได้ผ่อนคลายมากๆ เลย
ก๊อตแช่น้ำเล่นอยู่ในสระพักใหญ่ๆ จนฟ้าเริ่มใกล้มืดก็เลยเดินกลับออกมาหาพี่คนขับเพื่อให้เค้าพาเรากลับออกไปส่งตรงจุดจอดรถ จากนั้นพี่คนขับรถส่วนตัวของเราพาขับไปส่งที่โรงแรม เป็นอันจบวันเที่ยววันแรกบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ที่เหนื่อยเอาเรื่องอยู่ แต่ก็สนุกและประทับใจเอาเรื่องเช่นกัน
บินตัง เปนิดา รีสอร์ต (Bintang Penida Resort)
สำหรับคนที่มาเที่ยวบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) แล้วกำลังมองหาที่พักว่าเราควรจะพักที่ไหนดีนั้น ก๊อตแนะนำว่าให้เลือกพักบริเวณใจกลางของเกาะ ให้อยู่ระหว่างแพลนเที่ยววันที่ 1-2 ของเรา เพื่อง่ายต่อการไปเที่ยวเที่ยวในวันถัดไป ซึ่งใครที่กังวลว่าจะเดินทางไปโรงแรมอย่างไรนั้นก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเราสามารถบอกคนขับรถของเราตั้งแต่ตอนจองเข้ามาได้เลยว่า เราพักอยู่ที่ไหน เค้าจะขับรถมารับ-ส่ง เราถึงที่เลย ซึ่งมันสะดวกมากๆ
โดยรอบนี้ก๊อตเลือกพักที่ บินตัง เปนิดา รีสอร์ต (Bintang Penida Resort) เนื่องจากก๊อตปตามส่องดูรีวิวในเว็บ OTA ต่างๆ มาแล้ว คะแนนรีวิวที่พักเค้าดีเยี่ยม แต่มาในราคาที่ถูกม๊ากก ซึ่งเหตุผลที่ก๊อตไม่ได้เลือกเข้าพักโรงแรมราคาแพง เนื่องจากตลอดทั้งวันเราแทบไม่ได้อยู่ที่พักเลย ตามแพลนของเราคือต้องออกไปเที่ยวข้างนอกตลอด ดังนั้น การเลือกโรงแรมในครั้งนี้เลยเน้นไปที่ทำเลสะดวก รีวิวที่พักดี และราคาย่อมเยาว์แทน
สำหรับ บินตัง เปนิดา รีสอร์ต (Bintang Penida Resort) จัดว่าเป็นรีสอร์ทที่ราคาเป็นมิตรกับก๊อตมาก ซึ่งก๊อตได้มาในคืนละ 723 บาทเอง โดยราคานี้ เราจะได้นอนในบ้านพักที่แยกเดี่ยวเป็นบังกะโล หลังใครหลังมันอย่างเป็นสัดส่วน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ภายในห้องพักกว้างขวางใช้ได้ มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เตียงกว้างนอนสบาย ห้องน้ำสะอาดสะอ้านและใหญ่ม๊ากกก แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีให้ใช้หมด ตู้เย็น ทีวี มีพร้อม เหมาะสำหรับใช้เป็นที่นอนสักคืนหากใครข้ามมาเที่ยวบนเกาะนี้
และนอกจากราคาดี ห้องพักโอเค นอนสบายแล้ว ที่นี่เค้ามีอาหารเช้าให้เราด้วยนะ โดยจะมาแบบเซ็ตที่เราสามารถเลือกอาหารมื้อเช้าได้ 1 จาน มาพร้อมกับผลไม้และกาแฟ ซึ่งโดยรวมคือคุ้มค่าคุ้มราคามากเลยแหละ ใครที่ข้ามมาเที่ยวเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) และกำลังมองหาที่พักดีๆ ก๊อตแนะนำที่ บินตัง เปนิดา รีสอร์ต (Bintang Penida Resort)
Day 2:
หน้าผาปาลวง (Paluang Cliff)
เริ่มต้นเที่ยวที่แรกในวันที่สองกับ หน้าผาปาลวง (Paluang Cliff) จุดชมวิวบนหน้าผาที่มีไฮไลท์สุดปังเป็นเรือขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปบนหน้าผาให้เราได้ไปนั่งถ่ายรูปท่ามกลางวิวของหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) หรือสันเขาต้าวทีเร็กซ์ ด้านหลังที่สวยอลังเอาเรื่อง ต้องบอกก่อนว่าแพลนเที่ยวที่ก๊อตจัดมา เราจะไปเริ่มเที่ยวที่หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) ก่อน แต่พี่คนขับเค้าช่วยดูตารางเที่ยวแล้วแนะนำว่าให้มาเที่ยวที่นี่ก่อน เพื่อที่เราจะได้เลี่ยงคนตรงจุดชมวิวนี้ ที่เมื่อตอนสายๆ คนจะเยอะมากนั่นเอง
สำหรับ หน้าผาปาลวง (Paluang Cliff) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของ เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ใกล้กับหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยจับจิตจับใจไม่แพ้จุดอื่นๆ โดยใครจะมาถ่ายรูปบนนี้เค้าจะมีค่าเข้าคนละ 30,000 รูปเปียห์ (70 บาท) ซึ่งจะครอบคลุมทุกจุดถ่ายรูปด้านบนนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นมุมฮิตอย่างเรือไม้ที่ยื่นหน้าออกสู่ทะเล ได้เห็นวิวของสันเขาต้าวทีเร็กซ์แบบเต็มตา ซึ่งบอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาแล้วสวยม๊ากก หรือจะเป็นมุมรูปปั้นมือยักษ์ขนาดใหญ่ที่เราสามารถขึ้นไปยืนบนอุ้งมือหินขนาดใหญ่แล้วถ่ายรูปกับวิวชายฝั่งของเกาะได้แบบกิ๊บเก๋สุดๆ
จากจุดชมวิวตรงนี้ หากคนไหนตาดีๆ เราสามารถมองเห็นปลากระเบนตัวเบอเร่อ ว่ายลอยตุ๊บป่องอยู่บนผิวน้ำ ใกล้ๆ กันกับหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) ที่มี่นักท่องเที่ยวเค้ากำลังล่องเรือ ดำน้ำกันอยู่ด้วย ขนาดก๊อตมองลงไปจากมุมสูงขนาดนี้ยังเห็นน้องกระเบนชัดมาก นี่แอบบอิจฉาคนที่เค้าดำน้ำอยู่ใกล้ๆ เลย จะต้องเห็นน้องกระเบนกันแบบใกล้ชิดแน่ๆ
หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach)
ดูวิวสันเขาตรงหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) ไกลๆ จากหน้าผาปาลวง (Paluang Cliff) มาแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะมาดูของจริงใกล้ๆ กันกับต้าวทีเร็กซ์ ที่เป็นชื่อเล่นของสันเขาชื่อดังบน หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) นี้นั่นเอง ซึ่งสันเขาและชายหาดนี้เปรียบเป็นไอคอนิกประจำของเกาะไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคนไทยเราจะคุ้นเคยกันดีในชื่อ ‘หน้าผาทีเร็กซ์’ ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหินยื่นออกไปในทะเล ที่มองผิวเผินจากวิวมุมสูงหน้าตาเหมือนเจ้าไดโนเสาร์ทีเร็กซ์เสียจริง
สำหรับการมาเที่ยวที่นี่นั้น สำหรับคนที่เน้นเอารูปตรงสันเขาทีเร็กซ์ เราจะไม่เดินลงไปด้านล่างที่หาดเกอลิงกิงก็ได้นะ เน้นมาถ่ายรูปวิวมุมสูงตรงทางเดินระหว่างทางลงไปยังชายหาด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่เป็น A-Must Photo ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปแหละ
เอาดีๆ ก๊อตประทับใจพี่คนขับรถของก๊อตมาก นี่เลยจะขออวยยศเค้าหน่อย พอมาถึงที่นี่ คนขับรถของก๊อตเค้าพาเดินมายังจุดถ่ายรูปบนสะพานทางลง แล้วชี้จุดที่เราจะได้ภาพสวยๆ แบบเห็นสันเขาทีเร็กซ์แบบปังๆ เลย ซึ่งคนขับรถก๊อตคือน่ารักม๊าก
สำหรับคนที่แข็งแกร่ง มาเที่ยวบาหลีแล้วทั้งที ก็ต้องไปเที่ยวให้ถึงจุดหมายปลายทาง ก๊อตแนะนำให้เดินลงไปตามทางเดินที่เค้าทำไว้จนถึงชายหาดเลย แต่บอกก่อนว่าระยะทางเดินลงไปค่อนข้างชันและไกลเอาเรื่อง ซึ่งก๊อตคิดว่าน่าจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับการเดินขึ้นและลงไปเลยแหละ ซึ่งจากที่ก๊อตยืนมองนั้นก็มีนักท่องเที่ยวเดินลงไปที่ตัวชายหาดกันเยอะมาก และจากที่มองลงไปด้วยสายตาก็คิดว่าวิวจากด้านล่างต้องโคตรสวย ชายหาดขาวขาวนวลๆ เอย น้ำทะเลก็สีฟ้าสวยเอย รับรองว่าคุ้มค่าเหนื่อยกับการเดินลงไปแน่นอน
โดยรวมแล้วสำหรับ หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) หรือ หน้าผาทีเร็กซ์ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ถือเป็นไฮไลท์ของเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) เลยล่ะนอกจากการมาถ่ายรูปสวยๆ ชมวิวสันเขาทีเร็กซ์แล้ว จริงๆ ที่นี่ยังเหมาะกับการมานั่งดูพระอาทิตย์ตกเช่นกัน เราจะได้เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีส้ม ค่อยๆ กลายเป็นสีแดง และมืดมิดหลังจากที่พระอาทิตย์ตกจมหายไปกับเส้นขอบของทะเลและท้องฟ้าตรงหน้า ลองคิดตามแล้วบรรยากาศมันคงโรแมนติกมากๆ ใครอยากดูพระอาทิตย์ตก อาจจะลองแพลนที่นี่ไว้ตอนเย็นของวันแรกก็ได้น้า
Angel Billabong
นั่งรถกันต่อราวครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงกับ Angel Billabong กับเวิ้งสระน้ำธรรมชาติที่ซ่อนตัวริมด้านในของริมชายฝั่งโดยมีช่องว่างที่สามารถเชื่อมต่อกับน้ำทะเลด้านนอกได้ คือถ้าเมื่อไหร่ที่คลื่นสงบและน้ำลง น้ำในสระจะใสกิ๊งเหมือนคริสตัลเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่น้ำขึ้นและลมแรงมีคลื่นซัด บอกเลยว่าตรงนี้คือน่ากลัวมาก เพราะคลื่นทั้งหมดจะถาโถมเข้ามาในสระและกวาดทุกอย่างพัดออกไปยังทะเลเลย ปกติที่นี่เค้าจะให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำได้เมื่อไม่มีคลื่น แต่ล่าสุดคือปิดแล้วเพราะเกิดอุบัติเหตุจากการที่คนลงไปว่ายน้ำด้านล่างแล้วเกิดคลื่นกระทันหันนี่แหละ
Angel Billabong มาจากตำนานที่ชาวบ้านเค้าเล่าต่อกันมาว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับอาบน้ำของนางฟ้านั่นแล โดยสระน้ำที่ถูกโขดหินโอบล้อมอยู่นี้เกิดจากการถูกกัดกร่อนของน้ำทะเลซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นแอ่งคล้ายกับสระว่ายน้ำอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้นั่นเอง
ตอนที่ก๊อตมานี่คือช่วงเที่ยงๆ พอดีเลยแหละ บอกเลยว่าโคตรร้อนแบบร้อนตกนรกม๊าก แต่ก็ต้องยอมแหละว่ามันสวยอยู่ โดยอันที่ก๊อตประทับใจจริงๆ ไม่ใช่ตัวสระน้ำ แต่ที่ก๊อตชอบจะเป็นแนวชายฝั่งทะเลที่ทอดยาวมาพร้อมกับน้ำทะเลที่คลื่นซัดเข้าฝั่ง คือมันสวยมากเว้ย ความรู้สึกตอนนั้นที่คิดถึงเลยก็คือ เหมือนอยู่ออสเตรเลียมากก ซึ่งเอาดีๆ นี่ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะออสเตรเลียเองก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบาหลีนี่ซักเท่าไหร่นัก 55555
โบรคเก้น บีช (Broken Beach)/b>
ติดกันกับ Angel Billabong มีอีกหนึ่งชายหาดที่หลบซ่อนตัวอยู่ในหลุมผา คือโบรคเก้น บีช (Broken Beach) หรืออีกชื่อที่คนอินโดเค้าเรียกกันว่า ‘Pasih Uug’ โดย โบรคเก้น บีช (Broken Beach) นั้นเป็นชายหาดที่เหมือนเป็นแอ่งขนาดใหญ่ลึกลงไปด้านล่างและโอบล้อมด้วยผาหินสูงที่เรายืนอยู่ ซึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทางธรณีวิทยาที่เราเห็นนี้ เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะเรื่อยๆ จนทะลุเข้ามาเป็นรูกว้างจนคล้ายเหมือนมีสะพานหินข้ามช่องน้ำ และน้ำทะเลเองได้เคลื่อนตัวและก่อนเกิดเป็นชายหาดบริเวณด้านใน งโดยช่วงเวลาที่สวยที่สุดนั้นจะเป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตก เพราะเราจะได้เห็นแสงของพระอาทิตย์ลอดผ่านช่องโหว่ตรงนี้ได้อีกด้วย คือมันน่าจะสวยมากแน่ๆ เลย
จะว่าไป ชายหาดโบรคเก้น บีช (Broken Beach) เองเค้าก็มีตำนานเล่าขานกันมาตั้งแต่สมัยก่อน มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชายหาดนี้ โดยมีงูตัวใหญ่เข้ามาในหมู่บ้านจนชาวบ้านเค้าหวาดกลัวกันยกใหญ่ ชาวบ้านเลยรวบรวมกำลังคนมาช่วยกันฆ่างู และแล่เนื้อไปแบ่งแจกจ่ายกันทั่วหมู่บ้าน ซึ่งในเวลาเดียวกันก็มีชายชราเดินเข้ามาในหมู่บ้านที่เข้ามาซักถามเกี่ยวกับการฆ่างูตัวนั้นซึ่งชายชราเองก็ขอร้องชาวบ้านว่าไม่ให้ฆ่า แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจใคร่ฟังและได้ลงมือฆ่างูตัวนั้นไป ซึ่งไม่กี่อึดใจต่อมา ชายชราที่เอ่ยขอชีวิตงูในตอนแรกก็หยิบก้านไม้ออกมา (บ้างก็ว่าเป็นก้านมะพร้าว) จากนั้นเอามาปักลงดิน และบอกให้ชาวบ้านในมาช่วยกันดึงไม้ออก แต่ไม่มีใครสามารถดึงออกได้เลย สุดท้ายชายชราก็เป็นคนมาดึงกิ่งไม้ที่ปักอยู่ดินออกมา เพียงพริบตาเดียว ทั่วทั้งหมู่บ้านก็ทรุดตัว น้ำไหลทะลักเข้ามาตามรอยดินที่เคยปักไม้เอาไว้ จนทำให้บ้านเรือนทุกหลัง และชาวบ้านทุกคนหายไปพร้อมๆ กับสายน้ำ โดยหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นชายชรา และชาวบ้านในหมู่บ้านนี้อีกเลย เหลือเพียงชายหาดอย่างเช่นในปัจจุบันนี้เท่านั้น
มาเที่ยวนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) ทั้งที เราก็ควรมาชมความสวยงามทางธรรมชาติของ โบรคเก้น บีช (Broken Beach) เค้าด้วย ถึงแม้เราจะปีนลงไปยังทะเลด้านล่างไม่ได้ แต่บอกเลยว่าการเดินวนรอบเวิ้งจากด้านบนแล้วมองลงไปยังน้ำทะเลด้านล่าง บอกเลยว่าธรรมชาติเค้าก็ยิ่งใหญ่และสวยเอาเรื่องอยู่นะ ถ้าใครที่กำลังจัดแพลนอยู่ อาจจะลองเอาที่นี่เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ หรือช่วงเย็นจนถึงพระอาทิตย์ก็ได้ เพราะมันน่าจะสวยกว่าตอนกลางวันที่ก๊อตมาก คือร้อนแสบผิวสุด บอกเลย 555555
หาดคริสตัลเบย์ (Crystal Bay)
ที่เที่ยวสุดท้ายบนเกาะก่อนที่เราจะขึ้นเรือเพื่อกลับไปยังเกาะบาหลี เรามากันที่ หาดคริสตัลเบย์ (Crystal Bay) ชายหาดที่ถือเป็นจุดดำน้ำลึก-น้ำตื้นที่เราสามารถเห็นโลกใต้ท้องทะเลได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งบน เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) นอกจากนี้ หากนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกได้สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่งด้วยนะ ด้วยความที่หาดนี้อยู่ใกล้กับท่าเรือไม่ไกลมาก ทำให้ หาดคริสตัลเบย์ (Crystal Bay) กลายเป็นหาดได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชอบมาเล่นน้ำทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างก๊อตที่มานั่งเปื่อยๆ ริมทะเล รอเวลานั่งเรือกลับฝั่งบาหลีอย่างก๊อตนี่แหละเออ
เอาจริง บรรยากาศชายหาดที่นี่มีฟีลคล้ายบางแสนบ้านเราเลย (แต่ก๊อตคิดว่าบางแสนสวยกว่านะ ฮ่าๆ) โดยชายหาดที่นี่จะเต็มไปด้วยเบาะนอนและร่มผ้าใบตั้งเรียงรายอยู่ริมหาดเต็มไปหมด ที่ก๊อตเห็นก็คือมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะฝั่งหลายคน เค้ามานั่งเล่น นอนอาบแดด และหาอะไรกินกันนี่แหละ ซึ่งร้านอาหารตรงนี้ก็ราคาไม่แรงมาก สามารถมานั่งชิลๆ หาอะไรกินก่อนกลับได้เล้ย
แต่ถ้าใครที่เห็นรูปแล้วรู้สึกเฉยๆ กับ หาดคริสตัลเบย์ (Crystal Bay) จะข้ามหาดนี้ไปเลยก็ได้นะเว้ย ก๊อตคิดว่าที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เราสามารถเอาเวลาที่เหลือตรงนี้ไปลงที่เที่ยวอื่นๆ บนเกาะ หรือไม่ก็ลงไปเดินลงดูชายหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) ด้านล่างน่าจะคุ้มกว่าแหละ 55555
ดังนั้น ใครกำลังแพลนเที่ยว เกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) อยู่แล้วลังเล สามารถตัดที่นี่ออกได้เลย เพราะส่วนตัวก๊อตชอบมู้ดทะเลฝั่งขวามากกว่า ทั้งชายฝั่ง ธรรมชาติ และน้ำทะเลคือสวยและน่าเล่นกว่ากันเยอะเลย ท้ายที่สุดแล้วทุกคนสะดวกแบบไหนก็เลือกตามที่ตัวเองชอบได้เลย
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเรือ เป็นอันจบการข้ามฝั่งมาเที่ยวบนเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) บาหลี ในแบบฉบับของก๊อตที่เราจัดเต็ม ไล่เก็บกับแทบจะทุกแลนด์มาร์คในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน แบบเต็มอิ่ม โดยรวมแล้วก๊อตชอบทะเลและชายหาดบนเกาะนี้ค่อนข้างมากเลยแหละ มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แค่เห็นในรูปก็รู้เลยว่าคือบาหลีแบบตะโกน แถมน้ำทะเลยังสีฟ้าสวยๆ ที่แตกต่างจากบ้านเราค่อนข้างมาก
ใครที่จะข้ามฝั่งมาเที่ยวเกาะที่นี่ ก๊อตแนะนำว่าเราควรใช้เวลาสัก 2 วันกำลังดี แล้วแบ่งโซนเที่ยวทีละฝั่งเอา เพื่อที่เราจะได้ตามเก็บที่เที่ยวได้แบบครบครัน และที่ก๊อตเชียร์เลย คืออยากให้เหมารถพร้อมคนขับรถส่วนตัวกัน เพราะถนนบนเกาะที่นี่มันโหดกว่าในบาหลี และโหดกว่าที่คิดมากมาก ใครที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ไม่แข็ง ก๊อตยังยืนยันคำเดินว่าไม่ควรขับเอง ส่วนการข้ามเรือมาก็อยากให้เลือกรอบเช้าที่สุด แล้วกลับรอบสุดท้ายของอีกวันไปเลย คอนเฟิร์มว่าเราได้เที่ยวครบ และเต็มอิ่มกับท้องทะเลบาหลีอย่างแน่นอน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
1 comment
สอบถามเรื่องรถที่ใช้เดินทางบนเกาะทั้ง 2 วัน ราคา ค่าใช้จ่ายคิดยังไงค่ะ ของบริษัทอะไร