ในที่สุดวันที่ตั้งตารอคอยก็มาถึง คือการเที่ยว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) เอาจริงๆ จากใจ ภูเขาไฟอะโสะคือเหตุผลในการมาเที่ยวคุมาโมโตะเลยแหละ ก่อนมาก็ใจตุ้มต่อมมากว่าจะได้มาเที่ยวหรือเปล่า เพราะช่วงไม่กี่ปีมานี้ จังหวัดคุมาโมโตะ เกิดภัยธรรมชาติอันหนักหน่วงมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์เมื่อเดือนเมษายนตอนปี 2016 ทำให้ทั้งเมืองพังไปเยอะ ถนนและรางรถไฟปิดซ่อมระนาวจนเราไม่สามารถนั่งรถไฟไปยังเมืองอะโสะ (Aso) ได้อีก เพราะเค้ากำลังปิดซ่อมอยู่จนถึงตอนนี้ รวมถึงกระเช้าที่เราสามารถนั่งเพื่อขึ้นไปดูปากปล่องภูเขาไฟอะโสะก็ปิด เพราะพังและเฝ้าระวังภัยจากการที่ภูเขาไฟอะโสะดันมาประทุ ควันพุ่งสูงเกือบ 10 กิโลเมตรเข้าอีกตอนเดือนตุลาคม ปี 2016 เอ้อออออ จะได้เที่ยวมั้ยก๊อน แต่สุดท้ายก็ได้เที่ยวนาจาา
บอกก่อนว่ารีวิวนี้ เขียนจากวันที่ก๊อตไปเที่ยวคือ 20 กุมภาพันธ์ 2018 จากตอนแรกที่คิดว่าจะไม่ได้เที่ยวแล้ว เหมือนอะไรเป็นใจให้ได้เที่ยว คือ มีประกาศลดระดับการเฝ้าระวังปลอดภัยเหลือระดับที่เราสามารถเข้าไปได้ แต่ห้ามเข้าไปในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร จากปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้ยังเที่ยวได้บ้าง ส่วนกระเช้ายังปิดอยู่ แต่เราสามารถขับรถขึ้นไปดูได้ แต่วันที่ผมไปเที่ยวคือไปดูปากปล่องภูเขาไฟไม่ได้ เพราะมันปิดนั่นเอง ฮือ 😭
⚡️ อัพเดทการเที่ยว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) ปี 2022-2023 สามารถเที่ยวได้ปกติแล้ว แถมยังมีรถไฟท่องเที่ยว ASO BOY! ที่เราสามารถใช้ JR Kyushu Pass นั่งไปได้ด้วย อะ เริ่ดๆ อย่างไรก็ตาม รีวิวหน้านี้เป็นการขับรถไปเที่ยวนะ ฟีลโร้ดทริปจอยๆ สนุกมากเหมือนกันเด้อ
แพลนเที่ยวเกาะคิวชู ตอนเหนือ
สำหรับทริปเที่ยวเกาะคิวชูครั้งนี้ ก๊อตเที่ยวทั้งหมด 8 วัน โดยมีเมืองและสถานที่หลักๆ เลยคือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) นางาซากิ (Nagasaki) ยุฟุอิน (Yufuin) คุมาโมะโตะ (Kumamoto) และยังมีอีกสองเมืองย่อยๆ ที่อยู่ในจังหวัดคุมะโมะโตะที่ก๊อตจะทำรีวิวแยกเลยคือ ทาคาจิโฮะ (Takachiho) และ ภูเขาอะโสะ (Mount Aso) ที่ก๊อตเที่ยวเต็มๆ แบบวันละที่เลย ซึ่งดีมากกกก 😚
วันที่ | เมืองที่นอน | แพลนเที่ยวคิวชูเหนือ |
1 | ฟุกุโอกะ | ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อ่านรีวิวเต็ม |
2 | ฟุกุโอกะ | ดาไซฟุ (Dazaifu) (ครึ่งเช้า) + ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อ่านรีวิวเต็ม |
3 | ฟุกุโอกะ | นางาซากิ (Nagasaki) อ่านรีวิวเต็ม |
4 | ฟุกุโอกะ | ยูฟุอิน (Yufuin) อ่านรีวิวเต็ม |
5 | คุมาโมโตะ | คุมาโมโตะ (Kumamoto) อ่านรีวิวเต็ม |
6 | คุมาโมโตะ | ทาคาชิโฮ (Takachiho) อ่านรีวิวเต็ม |
7 | ฟุกุโอกะ | ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) – มิลค์โรด (Milk Road) – จุดชมวิวไดคันโบะ (Daikanbo) – Imakin Shokudo (ร้านข้าวหน้าเนื้อ) – คุสะเซ็นริ (Kusasenri) |
8 | – | บินกลับไทย |
วิธีเที่ยวอะโสะ (Aso) และการเช่ารถขับเที่ยวเอง
ถ้าจะให้แนะนำวิธีที่ไปเที่ยวภูเขาไฟและตัวเมืองอะโสะได้สะดวกรวดเร็วที่สุด คงจะเป็นการเช่ารถขับจากเมืองคุมาโมโตะนี่แหละ ใครที่มีพาสรถไฟ JR Pass หรือ JR Kyushu Pass นี่แนะนำให้นั่งรถไฟมาที่เมืองคุมาโมโตะ แล้วมานอนที่คุมาโมโตะก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวอะโสะ (Aso) โดยการเช่ารถแบบหนึ่งวันแทน ส่วนใครที่แพลนไปเที่ยว อะโสะ-ทาคาชิโฮ (Aso-Takachiho) จะเช่ารถขับหลายวันแล้วขับต่อเนื่องไปกันเลยก็ได้ อันนี้แล้วแต่แพลนของแต่ละคนเลย ตัวก๊อตเองก็ไปเที่ยวทาคาชิโฮ (Takachiho) เหมือนกัน แต่เนื่องจากตอนนั้นก๊อตซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปแทน เพราะขี้เกียจขับรถ ก็เลยเช่ารถแค่นี้นั่นเอง 5555 😅 // ส่วนใครที่ไม่ได้ซื้อพาสรถไฟใดๆ จะเช่ารถขับมาจาก ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เลยก็ได้ ฟีลโรดทริปคิวชูจอยๆ ไปเลย แต่แน่นอนว่าขับรถเหนื่อยหน่อยนาจา
สำหรับการเช่ารถครั้งนี้คือได้จองไปก่อนล่วงหน้าจากเว็บ Tabirai ที่เหมือนเป็นเว็บเอเจนซี่เช่ารถของญี่ปุ่นที่คอยเปรียบราคาการเช่ารถให้จากทุกเจ้า ซึ่งราคาที่ได้ก็ค่อนข้างถูกใจพอสมควรอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นเช่ารถขนาด Honda Jazz แบบ 12 ชั่วโมง ได้มาในราคา 5,000 เยน (ประมาณ 1,500 บาท) รวมประกันภัยรถยนต์ CDW เรียบร้อย ถือว่าดีงามสุด 😆 / สำหรับคนที่จะเช่ารถขับในญี่ปุ่น เราต้องมีใบขับขี่สากลด้วยน้า
พาสรถไฟของคิวชู ที่นั่งมาคุมาโมโต้ (Kumamoto) และ อะโสะ (Aso) ได้
- 🎫 JR Kyushu Pass : แยกออกเป็น 3 พาส คือทั้งภูมิภาคคิวชู คิวชูเหนือ และคิวชูใต้
- JR Kyushu Pass (All Area) : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองต่างๆ ในคิวชูได้ทั้งหมด เช่น ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) นางาซากิ คุมาโมโตะ ยูฟุอิน เบบปุ มิยาซากิ และ คาโกชิม่า / สามารถนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ไปยูฟุอินได้ และจองที่นั่ง Reserved Seat ผ่านเว็บ JR Kyushu ได้ / มีแบบ 3, 5, 7 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~4,325 บาท [ซื้อผ่าน Klook][ซื้อผ่าน KKday]
- JR Northern Kyushu Pass : (ก๊อตใช้พาสอันนนี้ในรีวิวนี้) เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองต่างๆ ในคิวชูเหนือ เช่น ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) นางาซากิ คุมาโมโตะ ยูฟุอิน เบบปุ และ โออิตะ / สามารถนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ไปยูฟุอินได้ และจองที่นั่ง Reserved Seat ผ่านเว็บ JR Kyushu ได้ / มีแบบ 3, 5 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~2,550 บาท [ซื้อผ่าน Klook][ซื้อผ่าน KKday]
- JR Southern Kyushu Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองต่างๆ ในคิวชูใต้ เช่น คุมาโมโตะ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า / *ใช้นั่ง Yufuin no Mori ไม่ได้ / มีแบบ 3 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~2,050 บาท [ซื้อผ่าน Klook][ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า ยามากุจิ ฟุกุโอกะ คุมาโมโต้ และนางาซากิ / สามารถนั่ง Sanyo-Kyushu Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ(ฟุกุโอกะ)-คุมาโมโต้ ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / ใช้นั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ด้วย (แต่จองที่นั่งออนไลน์ด้วยพาสนี้ไม่ได้ ต้องไปจองที่สถานี JR) / มีแบบ 7 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~5,950 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Japan Rail Pass – All Area (JR Pass) : สามารถใช้ขึ้นรถไฟ JR ได้ทั่วประเทศ รวมถึงรถไฟหัวกระสุน Shinkansen เกือบทุกสาย ทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ด้วย (แต่จองที่นั่งออนไลน์ด้วยพาสนี้ไม่ได้ ต้องไปจองที่สถานี JR) มีแบบ 7 วัน ราคาราวๆ ~7,540 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
เริ่มต้นเที่ยวอะโสะโลด
มิลค์โรด (Milk Road)
สำหรับการเดินทางมายังเมืองอะโสะ และภูเขาไฟอะโสะนั้น แนะนำให้เรามาตั้งต้นเส้นทางด้วยการปัก Google Map ไปที่ ถนนมิลค์โรด (Milk Road) เพื่อไปยัง ไดคันโบะ (Daikanbo) ก่อนเป็นอันดับแรก ถนนมิลค์โรด (Milk Road) เส้นนี้คือสวยมากกกกก
เราจะได้ขับรถไปยังถนนเส้นนึงที่พาดไปตามขอบแอ่งของภูเขาไฟอะโสะ รวมถึงมีวิวรอบข้างที่เป็นทุ่งหญ้ายาวสุดลูกหูลูกตา ในวันที่ผมขับรถไปนั้นคือช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งหญ้านี่มาเป็นสีเหลือทองเลยแหละ และตามข้างถนนยังมีหิมะอยู่บ้างประปราย แนะนำให้พกแจ็คเก็ตมาด้วย เพราะลมแรงและอากาศหนาวมากจริงๆ
ระหว่างบน ถนนมิลค์โรด (Milk Road) นั้น มันจะมีจุดชมวิวเล็กๆให้เราพักรถตามทางต่างๆด้วย ซึ่งวิวเมืองอะโสะ (Aso) ที่เรามองลงจากตรงนี้ก็สวยมากกกกก
จุดชมวิวไดคันโบะ (Daikanbo)
ขับบนถนนมิลค์โรด (Milk Road) มาเรื่อยๆ ให้เรามายัง จุดชมวิวไดคันโบะ (Daikanbo) เป็นจุดชมวิวขนาดใหญ่ที่เราสามารถดูวิวแอ่งภูเขาไฟจากทางด้านเหนือ ที่มีเมืองอะโสะตั้งอยู่ด้านล่าง และถ้าเรามองออกไปไกลๆ เรายังสามารถมองเห็นยอดเขาทั้ง 5 ของกลุ่มภูเขาไฟอะโสะได้อีก จุดชมวิวตรงนี้คนเยอะมว๊าก มีเป็นตึกที่มีร้านอาหาร ร้านขายของด้านในเลย ใครหิวก็กินตรงนี้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าทนได้ ทนหน่อย เดี๋ยวนี่พาไปกินข้าวหน้าเนื้อในตัวเมืองอะโสะ ที่บอกว่าซี๊ดมากก
สรุป โดยรวมของจุดชมวิวไดคันโบะ (Daikanbo) คือดีย์ เราสามารถมานั่งโง่ๆ ดูวิวอยู่ตรงนี้ไปแบบเรื่อยๆเลย สวยมากกกก แถมวิวข้างล่างที่เราจะเห็นคือเมืองอะโสะ (Aso) ที่อยู่ในแอ่งภูเขาไฟนี่หละ อลังการอยู่นะ
ข้าวหน้าเนื้อ Imakin Shokudo
เสร็จจากจุดชมวิวไดคันโบะ (Daikanbo) เราจะขับรถลงมาในแอ่งภูเขาไฟที่เป็นที่ราบกว้างและเป็นที่ตั้งของเมืองอะโสะ .. เราจะไปหาข้าวกลางวันกินกันกับร้านข้าวหน้าเนื้ออันดับหนึ่งของเมืองอะโสะ (อันดับ 1 ใน Tripadvisor ด้วย) ที่มีชื่อว่า Imakin Shokudo ซึ่งนี่ก็ไปที่ร้านแล้วกดบัตรคิวมา ซึ่งต้องรออยู่ประมาณชั่วโมงกว่าถึงจะได้กิน โอ้ยย แต่ก็ยอมไง เพราะทุกรีวิวของญี่ปุ่นบอกว่าคุ้มค่า
ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำระหว่างรอ ก็เลยไปเดินเล่นดูของนู่นนี่นั่นข้างร้านหน้าเนื้อ ก็เลยเจอร้านขนมหวาน และไอติมร้านนึง ที่ชื่อว่า Cafe & Zakka & Kagu ซึ่งพอเดินเข้าไป เออ แม่งคนเยอะ นั่งเกือบเต็มร้านว่ะ คุยไป คุยมา สรุปคือคนพวกนี้มานั่งกินของหวานรอคิวเพื่อเข้าไปกินข้าวหน้าเนื้อนั่นแหละ แถมร้านเค้ายังมีบริการที่คอยดูคิวแทนเราด้วย ถ้าคิวมาถึงเค้าจะประกาศเรียกเราในร้านของหวานเลย โอ้โหว .. ร้านเค้าฉลาดจังโว้ย
Cafe & Zakka & Kagu บังคับสั่ง 1 คน ต่อ 1 อย่าง ผมสั่งไอติมชุดโฮมเมดที่เป็นรสข้าว + งาดำ + เผือก พร้อมขนมปัง และสั่งสมู๊ทตี้อีกหนึ่งแก้ว .. ก็ต้องยอมรับว่า ไอติมเค้าอร่อยมากเหมือนกันนะ ฮ่าๆ
กินของหวานเสร็จก็แล้ว ดื่มน้ำซรู๊ดก็หมดแล้ว รอยาวไปจนชั่วโมงกว่าถึงจะโดนเรียกคิว จนได้กินข้าวหน้าเนื้อยอดฮิต ซึ่งเมนูภาษาอังกฤษก็ไม่มี ได้แต่โชว์รูปเอาจากมือถือว่าจะเอาจานนี้ๆ จนสุดท้ายได้กินสมใจ
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ข้าวหน้าเนื้ออร่อยมากกกก เนื้อโปะเต็มจานจนไม่เห็นข้าว และมันไม่ได้สุก 100% คือยังมีความดิบนิดๆที่มันนุ่มแล้วละลายในปาก ซี๊ดเลย แนะนำให้มาอย่างแรง ส่วนราคาชามนี้น่ะหรอ ตกชามละ 1,680 เยน หรือประมาณ 500 บาทนาจา ฮิฮิ 🙆🏻♂️
คุสะเซ็นริ (Kusasenri)
อิ่มท้องแล้วได้เวลาเที่ยวต่อ ทีนี้เราจะขับลงมาทางใต้อีกเพื่อขึ้นไปยัง คุสะเซ็นริ (Kusasenri) ที่เป็นสนามหญ้ากว้างๆ ที่มีวิวภูเขาที่สวยโคตรๆเป็นฉากหลัง ระหว่างทางที่ขึ้นไป วิวก็โคตรพีค คือฟีลลิ่งตอนนั้นเหมือนไม่ได้เที่ยวญี่ปุ่นเลยแกร๊ รู้สึกคลับคลาคล้ายเหมือนขับรถเที่ยวอยู่ยุโรปอะไรอย่างนั้น (ซึ่งตัวเองก็ไม่เคยไปยุโรปนะ 55555555) เอาเป็นว่า นี่ร้องอุทานตลอดเวลาว่า หูยยย โหววว เห้ยยย แม่มมม .. สวยสึส อะไรงี้ งื้ออ
ตรงลานกว้าง คุสะเซ็นริ (Kusasenri) คือ มีที่จอดรถ และเราสามารถลงไปเดินเล่นได้เลย ฤดูอื่นไม่รู้เป็นยังไง เคยเห็นรูปทุ่งหญ้าเป็นสีเขียว แต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผมมานี่คือสวยโคตร ทุกอย่างเป็นสีเหลืองทองอร่าม ตัดกับแบล็คกราวด์ภูเขาด้านหลังที่เป็นน้ำตาลเข้มที่แทรกไปด้วยหิมะตามซอกตามมุม คือมันดีย์ และเป็นที่ๆประทับใจสุดของทริปคุมาโมโตะเลย สมใจอยากกก
ถ้าเราเดินไปเรื่อยๆ มันจะมีเนินเขาเล็กๆ ที่เราสามารถปีนขึ้นไปดูวิวได้ด้วยเน้อ รวมถึงมีผืนน้ำไกลๆ ที่เดินไปได้เหมือนกัน คือที่ คุสะเซ็นริ (Kusasenri) เราสามารถเดินได้ฟรีสไตล์มาก จำได้ว่าอยู่ถ่ายรูปและเดินไปเดินมากันอยู่นาน เพราะมันสวยจริงๆ แถมหนาวด้วยนะเออ 55555
แอ่งน้ำที่บอก มีความเหมือนทะเลสาบหน่อยๆ คิดว่าหน้าหนาวมันต้องแข็งโป๊กเป็นน้ำแข็ง แต่ตอนนี้มันเริ่มละลายแล้ว ฮ่าๆ
หลังจากนั้น นี่ก็กลับมาที่รถกัน และลองขับรถวนไปดูตรงแถวๆสถานีกระเช้าที่มันขึ้นไปยังรอบๆปากปล่องภูเขาไฟงี้ เสี่ยงทายดูว่ามันทางมันจะเปิดให้เราขับรถขึ้นไปได้มั้ย สรุปก็ปิดนั่นแหละเออ เสียดายมาก .. สุดท้ายก็วนกลับลงมา แล้วได้เห็นภูเขาอีกลูกที่ชินตาจากรูปในอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ คือภูเขาที่มันบุ๋มๆตรงกลางนั้นเอง โอ้ยยยย น่ารัก ถือเป็นการจากลาจากอะโสะแล้วกลับเมืองคุมาโมโตะอย่างประทับใจจริงๆ ฮ่าๆ 🤗
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลกหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡