ฮิโรชิม่า (Hiroshima) ถือเป็นอีกเมืองที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์โลกโดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะฮิโรชิม่าเป็น 1 ใน 2 เมืองญี่ปุ่นที่ถูกปล่อยระเบิดปรมาณูใส่โดยอเมริกาช่วงนั้น นั่นทำให้ทั้งเมืองฮิโรชิม่าพังราบเป็นหน้ากอง คนตายนับแสนจากแสนยานุภาพของระเบิดนิวเคลียร์นี่แหละ คือมันโหดร้ายมากเลยนะ คนที่ดำเนินชีวิตปกติอยู่ในเมือง อยู่ดีๆก็ตายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้คนทั่วโลกลุกฮือต่อต้านสงครามและเรียกร้องสันติภาพให้กับโลกของเรา โดยเมืองฮิโรชิม่านี้เองก็ถือเป็นเมืองสันติภาพโลกไปเรียบร้อยแล้วจากการสร้างอนุสรณ์รวมถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้คนญี่ปุ่นเองรวมถึงผู้มาเยือนได้ตระหนักถึงสันติภาพบนโลกเรานั่นเอง
การเที่ยว ฮิโรชิม่า (Hiroshima) ทั้งหมดของก๊อตจะแบ่งออกเป็นสองวันแหละ และแยกรีวิวกัน เพราะมันเยอะโคตร โดยวันแรกจะไปเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) เพื่อไปปักแลนด์มาร์คเสาโอโทริอิชื่อดังก่อน จากนั้นอีกวัน เราจะเที่ยวตัวเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 มาเต็มมาก และสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดของตัวเมืองฮิโรชิม่านั้นเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 เด้อ ดังนั้น เตรียมตัวหน่วงได้ เพราะการเที่ยวแบบนี้มันจะปนเศร้าหน่อย 55555
ดังนั้น ใครที่ชอบและอยากเรียนรู้ประวัติเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะระเบิดปรมาณู สามารถเที่ยวได้แค่ 2 ที่ในญี่ปุ่น นั่นคือเมืองนางาซากิ (Nagasaki) และเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) เท่านั้นนาจา
พาสรถไฟที่ใช้เที่ยวเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) ได้
มีพาสรถไฟหลายตัวมากที่สามารถใช้นั่งรถไฟมาเที่ยวฮิโรชิม่า รวมถึงใช้เรือเฟอร์รี่ของ JR เพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิม่าได้นะ หลายคนอาจจะงวยงงว่าใช้อันไหน อันนี้ก็ต้องดูแพลนเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละคนแล้วว่าไปไหนบ้าง ดังนั้น ก๊อตเลยลิสพาสรถไฟต่างๆมาให้ว่าพาสไหนเหมาะหรือเข้าพอดีกับแพลนตัวเอง อาจจะลองดูว่าเราลงสนามบินไหนเป็นต้นทางก่อนก็ได้ แล้วส่องดูแพลนต่างๆ ของตัวเองว่าจะไปเมืองไหนบ้าง เมื่อเรามั่นใจแล้วก็ซื้อพาสรถไฟเพื่อความประหยัดและสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟได้เลย! สามารถเทียบราคาทั้ง Klook และ KKday ได้เลยนะ ราคาจะขึ้นลงตามเรทค่าเงินเยน <-> บาท นะครับโผมม
- 🎫 Kansai Hiroshima Area Pass : (ก๊อตใช้พาสนี้ในรีวิวนี้) เฉพาะสายรถไฟ JR ครอบคลุมการเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า และ ฮิโรชิม่า/ สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / นั่งเรือ JR Ferry ไปเกาะมิยาจิม่าได้ / มีแบบ 5 วัน ราคาราวๆ ~3,800 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Sanyo-San’in Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า ยามากุจิ และ ฟุกุโอกะ / สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / นั่งเรือ JR Ferry ไปเกาะมิยาจิม่าได้ / มีแบบ 7, 14, 21 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~5,150 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Hiroshima Yamaguchi Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง ฮิโรชิม่า ยามากุชจิ และ ฟุกุโอกะ / สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) ได้ / นั่งเรือ JR Ferry ไปเกาะมิยาจิม่าได้ / มีแบบ 5 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~3,360 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า ยามากุจิ ฟุกุโอกะ คุมาโมโต้ และนางาซากิ / สามารถนั่ง Sanyo-Kyushu Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ(ฟุกุโอกะ)-คุมาโมโต้ ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / นั่งเรือ JR Ferry ไปเกาะมิยาจิม่าได้ / มีแบบ 7 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~5,950 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Japan Rail Pass – All Area (JR Pass) : สามารถใช้ขึ้นรถไฟ JR ได้ทั่วประเทศ รวมถึงรถไฟหัวกระสุน Shinkansen เกือบทุกสาย ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีแบบ 7 วัน ราคาราวๆ ~7,540 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
แพลนเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า-โกเบ-ฮิเมจิ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า
แนะนำ พาสรถไฟ JR Kansai Hiroshima Area Pass
ญี่ปุ่นรอบนี้ เป็นการมาเที่ยวแถบคันไซ (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ซึ่งก๊อตเองได้มาเที่ยวกับแม่สองคนและตั้งใจมาเก็บคันไซฝั่งซ้ายยาวไปถึงภูมิภาคชูโกกุ โดยเฉพาะ ฮิโรชิม่า (Hiroshima) เพื่อไปเก็บแลนด์มาร์คเสาโทริอิขึ้นชื่อ จากนั้นก็กลับมาทางโอซาก้าเรื่อยๆ โดยผ่านทั้งโอคายาม่า (Okayama), ฮิเมจิ (Himeji) และ โกเบ (Kobe) นั่นเอง ซึ่งพาสที่เหมาะสุดกับแพลนนี้ของก๊อตนั้นคือ JR Kansai Hiroshima Area Pass แบบ 5 วัน ในราคา 13,700 เยนนี่แหละ คุ้มสุดแล้วเว้ย
จริงๆ พาสนี้มันไปที่อื่นได้อีกเยอะนะ เพราะมันครอบคลุมทั้งภูมิภาคคันไซ แต่อันนี้เป็นความตั้งใจของก๊อตเองที่จะเก็บฮิโรชิม่าด้วย เลยเลือกเที่ยวเก็บเมืองทางฝั่งนี้ที่บอกไปนั่นเอง โดยวิธีการซื้อก็เหมือนเดิมคือ ซื้อพาสเว็บ KLOOK และไปแลกเป็นพาสจริงที่สนามบินคันไซ จากนั้นก็ใช้ได้เลย โดยการไปทุกเมืองที่ก๊อตบอกไปนั้นใช้รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นทั้งทริป ดังนั้น คุ้มแน่นอน
วันที่ | ตัวอย่างการใช้พาส JR Kansai Hiroshima Area Pass |
1 | - เดินทางจากโอซาก้า > ฮิโรชิม่า - เที่ยวเกาะมิยาจิม่า (ฮิโรชิม่า) |
2 | - เที่ยวฮิโรชิม่า |
3 | - เดินทางจากฮิโรชิม่า > โอคายาม่า - เที่ยวโอคายาม่า |
4 | - เดินทางจากโอคายาม่า > ฮิเมจิ - เที่ยวฮิเมจิ (ฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ) - เดินทางจากฮิเมจิ > โกเบ |
5 | - เที่ยวโกเบ |
ราคาปกติหากไม่ใช้พาส: 25,290 เยน* (คิดโดยการใช้รถไฟชินคันเซ็นระหว่างเมืองทั้งหมด) ราคาพาส JR Kansai Hiroshima Area Pass: 13,700 เยน |
ซื้อพาส JR Kansai Hiroshima Area Pass จาก KLOOK ข้างล่างนี้เลย
ส่วนลด KLOOK ประจำเดือน คลิกที่นี่
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นโอซาก้า-โกเบ-ฮิเมจิ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า
1. โอซาก้า (Osaka)
2. โกเบ (Kobe)
3. ฮิเมจิ (Himeji)
4. โอคายาม่า (Okayama)
5. เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
6. ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
แพลนเที่ยวฮิโรชิม่า (Hiroshima)
สำหรับแพลนเที่ยว เมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) นั้น หลักๆของก๊อตจะมีเที่ยวในตัวเมืองหนึ่งวัน และมาเที่ยว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima) อีกหนึ่งวัน ก็ถือว่าเก็บไฮไลท์ของฮิโรชิม่าแล้วเนอะ ได้เรียนรู้ทั้งประวัติศาสตร์ของฮิโรชิม่าในช่วงสงครามโลก รวมถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์ ‘มิยาจิม่า’ ที่คนญี่ปุ่นนับถือ และมีแลนด์มาร์คชื่อดังอย่าง เสาประตูโอโทริอิ (O-Torii Gate) ที่หลายคนอยากมาดูของจริง
ส่วนตัวก๊อตคิดว่า ฮิโรชิม่า (Hiroshima) ถือเป็นอีกเมืองที่โคตรดีและกลมกล่อม ใครที่อินสงครามโลกคือต้องมาอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราไปเที่ยว เราจะได้รับรู้ถึงความโหดร้ายและความกดดันของช่วงนั้นได้อย่างเต็มแรงมาก รวมถึงเกาะมิยาจิม่า ที่เราจะเน้นสนุกสนาน ถ่ายรูปเยอะ เพราะเราจะได้เจอน้องกวาง ปีนเขาเล็กน้อย ได้แล้วถ่ายรูปรัวๆ กับแลนด์มาร์คชื่อดังของญี่ปุ่นนั่นเอง เอาล่ะ มาดูแพลนเที่ยวกัน!
วันที่ | สถานที่ท่องเที่ยว |
1 | เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) / เกาะอิทสึคุชิมะ (Itsukushima) – ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) – วัดไดโชอิน (Daishoin Temple) – สวนโมมิจิดานิ (Momijidani Park) – ภูเขามิเซน (Mount Misen) – เซ็นโจคาคุ (Senjokaku) / เจดีย์ห้าชั้น (Five-storied Pagoda) – ดูพระอาทิตย์ตก ประตูโอโทริอิ (O-Torii Gate) |
2 | ตัวเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) – อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Atomic Bomb Dome) – สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) – พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) – ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) – สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) |
ส่วนลด OTA | ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda / ส่วนลด Booking / ส่วนลด Expedia |
แนะนำที่พักและโรงแรมในฮิโรชิม่า (Hiroshima)
คนที่กำลังหาที่พักใน ฮิโรชิม่า (Hiroshima) อยู่ล่ะก็ ก๊อตมีแนะนำย่านที่พักอยู่ย่านเดียว คือ ย่านสถานีรถไฟฮิโรชิม่า (Hiroshima Station) ที่ถือว่าเดินทางสะดวกที่สุดแล้ว โดยเฉพาะคนที่นั่งรถไฟมากันนั่นเอง ยังไงลองดูๆ โรงแรมที่ก๊อตแนะนำก็ได้ครับ อันนี้คัดมาให้แบบเริ่ดๆ แล้วว
ส่วนใครที่มีแพลนไป เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) ล่ะก็ เราสามารถนอนในตัวเมืองฮิโรชิม่าได้ แล้วไปเกาะมิยาจิมะ แบบวันเดย์ทริปได้เลย โดยเวลาเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ต่อหนึ่งขาเท่านั้นเอ๊ง แต่ถ้าใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปนอนฟีลญี่ปุ่นจ๋าๆ จะไปนอนเกาะมิยาจิม่าก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน — สำหรับหน้านี้ ก๊อตจะแนะนำเฉพาะที่ักในตัวเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) อย่างเดียวน้า
🏨 ดูที่พักแนะนำในฮิโรชิม่า จาก Agoda / Traveloka / Trip.com / Expedia / Booking.com
#1 ย่านสถานีรถไฟฮิโรชิม่า (Hiroshima Station)
สำหรับคนที่มาเที่ยวฮิโรชิม่าด้วยรถไฟ โดยเฉพาะรถไฟชินคันเซนนี่ ก๊อตแนะนำให้เราพักบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟฮิโรชิม่า (Hiroshima Station) โลด ถ้าใครที่เป็นคนขี้เกียจลากกระเป๋าเดินทาง เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมในย่านอื่นต่อ ก็พักตรงนี้นี่แหละเว้ย สะดวกและสบายสุดแล้วแกร๊ แถมตรงนี้ยังเป็นศูนย์รวมของระบบขนส่งสาธารณะในเมืองฮิโรชิม่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถแทรม หรือแม้แต่รถเมล์ท่องเที่ยว ซึ่งนี่บอกเลยว่าเดินทางเที่ยวภายในเมืองง่ายมากแน่นอน ส่วนเรื่องร้านอาหารนั้น แถวนี้ก็มีห้างที่มีร้านอาหารด้านในอยู่บ้าง รวมถึงสถานีรถไฟเองก็มีก็ร้านค้าและร้านอาหารให้เราเลือกกินอยู่เด้อ ไม่อดตายแน่นอน ฮ่า
ที่พักและโรงแรมแนะนำ
- โรงแรมตัวท็อป-ลักชู-บูทีค (4,000 ++ บาท/คืน): Sheraton Grand Hiroshima Hotel
- โรงแรมดี ราคาเอื้อมสบาย (2,500-4,000 บาท/คืน): Daiwa Roynet Hotel Hiroshima-ekimae (รีวิวเข้าพักจริง อยู่ท้ายรีวิวนี้)
- โรงแรมและโฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 2,500 บาท/คืน): Via Inn Hiroshima Shinkansenguchi / Hotel Granvia Hiroshima / Guesthouse Akicafe Inn
เดินทางท่องเที่ยวในตัวเมืองฮิโรชิม่า
ด้วย Loop bus Hiroshima Meipuru-pu
สำหรับการเดินทางทั้งหมดในตัวเมืองฮิโรชิม่าของก๊อตวันนี้ เราจะใช้รถเมล์ท่องเที่ยวที่ชื่อว่า ‘Loop bus Hiroshima Meipuru-pu’ นาจา โดยความสะดวกนั้น คือจอดเกือบทุกสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮิโรชิม่า ไม่ว่าจะเป็น สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) เอย ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) เอย หรือแม้แต่ สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) ในรีวิวนี้ และแน่นอนว่ารถบัสผ่านสถานีรถไฟฮิโรชิม่า (Hiroshima Station) ด้วย สะดวกที่สุดแล้วอันนี้
⚡️ ก๊อตแนะนำให้เราซื้อพาสแบบ 1-Day ของ Loop bus Hiroshima Meipuru-pu ไปเลย ราคามันแค่ 400 เยน/คน เท่านั้น โดยเราสามารถซื้อได้ที่คนขับรถบัสได้เลย แต่ถ้าใครถือ JR Pass หรือ พาสภายใต้ของบริษัท JR-WEST ที่ใช้ในฮิโรชิม่าได้ สามารถกระโดดขึ้นและเบ่งพาสนี้ได้เลย ขึ้นฟรีจ้า! // ดังนั้น ใครที่ใช้พาส ‘JR Kansai Hiroshima Area Pass’ เหมือนก๊อตเป๊ะ สามารถใช้รถท่องเที่ยวนี้ได้ฟรี ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแต่อย่างใด
เรื่องการเดินทางและสายรถเมล์ของ Loop bus Hiroshima Meipuru-pu จะมีทั้งหมดอยู่ 4 สาย ก๊อตแนะนำให้เราดูเส้นทางรวมถึงตารางเวลาเดินรถทั้งหมดได้ที่เว็บทางการของเค้าเลย เพราะเค้าจะอัพเดทตลอดเวลาเนอะ > chugoku-jrbus.co.jp.e.aec.hp.transer.com/teikan/meipurupu/
วันที่ 2: ตัวเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima)
สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)
สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะพื้นที่ตรงนี้ถือเป็นจุดที่ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลกที่อเมริกาบอมบ์ญี่ปุ่นในช่วงสงคราม เหตุเพราะตรงนี้คือจุดศูนย์กลางของเมืองฮิโรชิม่า เรียกได้ว่าเป็นดาวน์ทาวน์ที่คนชุกชุมมากที่สุดในเมือง และจากปรมาณูในครั้งนั้น ทำให้เมืองเลียบหายเป็นหน้ากองเลยล่ะ จากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูครั้งนี้ ทำให้ญี่ปุ่นตัดสินใจเก็บพื้นตรงนี้เพื่อทำเป็นสวนอนุสรณ์สันติภาพ เพื่อเรียกร้องสันติภาพให้แก่โลก และบอกกล่าวถึงความรุนแรงและโหดร้ายของสงครามให้แก่คนรุ่นหลังรับรู้
โดยภายในส่วนอนุสรณ์เค้าจะมีแลนด์มาร์คหลายอย่างเลย โดยไฮไลท์จะมี โดมระเบิดปรมาณู (The Atomic Bomb Dome) และ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) ที่ก๊อตอยากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวชมกัน ซึ่งก๊อตอาจจะบอกไว้ก่อนว่า การเที่ยวที่นี่ ความรู้สึกเราจะหน่วงๆหน่อย เพราะสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากการได้เที่ยวที่นี่นั้น คือ เราจะไม่อยากให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อีก เพราะสงครามมันช่างโหดร้าย คนตายหลายแสนหรืออาจถึงหลักล้าน แถมมันยังไม่ได้สร้างผลดีใดๆแก่โลก จากสงครามที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งของสองฝ่ายบนโลกเราเนอะ
การเที่ยวแบบหน่วงๆ ในชีวิตที่ก๊อตเที่ยวแล้วรู้สึกหน่วงมากจากการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์โหดร้ายในประวัติศาสตร์ คือที่ พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งหนานจิง (The Memorial of the Nanjing Massacre) ที่นานกิง ประเทศจีน อันนั้นเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นด้วย สุดหน่วงของจริง ออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้วซึมๆไปชั่วขณะ แต่ที่ฮิโรชิม่าที่นี่ อาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่เราจะตระหนักรู้ในเรื่องของสันติภาพ ที่ไม่อยากให้เกิดสงครามบนโลกนี้อีก ซึ่งที่นี่ก็ถือเป็นอีกที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์สงครามโลกที่ค่อนข้างดีเลย ทำให้คนจากหลากหลายทั่วโลกมาเที่ยวที่นี่ ซึ่งก๊อตสังเกตได้เลยว่าฝรั่งมาเที่ยวฮิโรชิม่าเยอะมากๆ ถ้าใครไปลองสังเกตดูได้แหละ
โดมระเบิดปรมาณู (The Atomic Bomb Dome)
โดมระเบิดปรมาณู (The Atomic Bomb Dome) แทบจะเป็นสถานที่เดียวในทริปนี้ ที่เราจะได้เห็นซากตึกที่หลงเหลืออยู่จากการระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า โดยโดมนี้อยู่ห่างออกไปจากจุดศูนย์กลางแค่ 160 เมตรแค่นั้นเอง โดยชาวเมืองฮิโรชิม่าขอให้เก็บรักษาตึกนี้ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพลังการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์ที่รุนแรง และยังเป็นเครื่องเตือนใจในสิ่งที่คนฮิโรชิม่าต้องการมากที่สุดหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นคือเรื่องของสันติภาพ
เห็นแล้วมันน่าเศร้าจริงๆนะ จากตึกที่เค้าบอกว่าเป็นหนึ่งในตึกที่อลังการงานสร้างมากที่สุดในฮิโรชิม่า เพราะนี่ถือเป็นตึกแบบยุโรปที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวชาวเช็กโกสโลวาเกีย ก่อสร้างตึกด้วยอิฐเสริมด้วยเหล็ก โดยด้านบนของตึกออกแบบเป็นรูปโดมทองแดงเห็นเด่นแต่ไกล ด้านในอาคารถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้าต่างๆมากมาย
สุดท้ายตึกนี้ก็พังทลายไปด้วยระเบิดปรมาณูในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ในระยะห่างแค่ 160 เมตร เหลือแต่ซากตึก โดยไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะคนที่อยู่ภายในหรือรอบนอกอาคาร ทุกคนคือเสียชีวิตหมดจริงๆ ซึ่งเอาจริง บรรยากาศซากของโดมนี้คือคอนทราสกับบริเวณรอบๆมาก เพราะบรรยากาศโดยรอบคือโคตรดี ต้นไม้เยอะ สวนสวย ทำให้เราสามารถเดินชมโดมหรือบริเวณรอบๆได้อย่างชิลๆ รวมถึงเมืองใหม่ของฮิโรชิม่าตรงนี้คือโคตรดีจนทำให้การเที่ยวของเราผ่อนคลายมากขึ้นเยอะ นี่ก็ต้องชื่นชมญี่ปุ่นเค้าแหละว่า เค้ายึดเรื่องการ Move Forward ไปข้างหน้า แต่ก็ยังไม่ลืมเรื่องราวในอดีตที่เค้าตัดสินใจเก็บโดมนี้ไว้เพื่อเป็นสถานที่เตือนใจนั่นเอง
โอริซึรุทาวเวอร์ (Orizuru Tower)
โอริซึรุทาวเวอร์ (Orizuru Tower) เป็นตึกที่ตั้งอยู่ติดกับ โดมระเบิดปรมาณู (The Atomic Bomb Dome) ซึ่งด้านบนชั้น 12 เค้าจะเป็นจุดชม ‘Hiroshima Hills’ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองฮิโรชิม่าได้อย่างเต็มตาเลย ส่วนตัวตอนแรกว่าจะขึ้นไปแหละ แต่พอเห็นราคาแล้วรู้สึกว่าแพงไปหน่อยกับการดูวิวแค่ชั้น 12 ในราคา 1,700 เยน สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไม่ขึ้น และเอาเงินนั้นมากินอาหารที่คาเฟ่ ตรงชั้น 1 ของตึกแทน .. ก็มันหิวอ่ะ \😆/ 55555
ใครที่หิวแบบก๊อตพอดี จะมาลองกิน Akushu Cafe ชั้น 1 ในโอริซึรุทาวเวอร์ (Orizuru Tower) ก็ได้เหมือนกันนะ เค้าเป็นคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชั่นญี่ปุ่นกับอเมริกัน ฟีลแบบพวกแฮมเบอร์เกอร์ ฮอทด็อก หรือพวกโอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) ที่ไม่เหมือนใคร เพราะเค้ามาเป็นแท่งนะเออ นอกจากนี้เค้ายังมีเซ็ตอาหารกลางวันด้วย ทั้งหมดือดีย์ อร่อย แต่กินไม่ค่อยอิ่ม ต้องสั่งเพิ่ม 55555
อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument)
หากใครที่รู้จักเรื่องราวของ ซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) กับตำนานนกกระเรียน 1,000 ตัว อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument) ในสวนแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการที่คนญี่ปุ่นและแรงสนับสนุนจากนักเรียนมากกว่า 3,100 โรงเรียนทั่วประเทศ และอีก 9 ประเทศอื่นๆ ช่วยกันสร้างอนุสาวรีย์เพื่ออุทิศให้กับซาดาโกะโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใครไม่เคยรู้จัก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง เพื่อที่จะได้เที่ยวได้อินมากขึ้นไปอีก
ซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) เป็นผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหารย์จากระเบิดปรมาณูที่อเมริกาปล่อยลงที่เมืองฮิโรชิมา โดยตอนนั้นซาดาโกะอายุแค่ 2 ขวบเท่านั้น หลังจากรอดชีวิตมา เธอก็ใช้ชีวิตตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเหมือนเด็กทั่วไป จนกระทั่งเมื่อย่างเข้าอายุ 11 ขวบ เธอก็เกิดอาการป่วยขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั้งเข้ารักษาและเจอว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากการที่โดนสารกัมมันตรังสีจากระเบิดเมื่อตอนเด็ก
เพื่อนของซาดาโกะเองได้มาเยี่ยม และได้มาเล่าตำนานนกกระเรียนว่า หากเธอพับนกได้ถึง 1,000 ตัว สุขภาพของเธอจะดีขึ้น เนื่องจากคนญี่ปุ่นถือว่านกกระเรียนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ แต่แล้วก่อนที่เธอจะพับนกกระเรียนครบ ปาฏิหารย์ไม่เกิด ซาดาโกะได้เสียชีวิตลงก่อน (บางแหล่งข้อมูลก็บอกพับครบหนึ่งพันอ่ะ) ตอนอายุ 12 ปี 9 เดือน นี่เลยทำให้เรื่องราวของซาดาโกะดังมาก เพื่อนของซาดาโกะเองก็เสียใจ จึงเรียกร้องให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ และอีก 9 ประเทศอื่นๆ ร่วมมือกันให้สร้างอนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument) เพื่อไว้อาลัยแก่เด็กทุกคนที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู โดยได้มีสลักประโยคเรียกร้องสันติภาพที่ว่า ‘นี่คือคำขอร้องและคำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก’ หรือ ‘This is our cry. This is our prayer. Build peace in the world.’
หออนุสรณ์สันติภาพแห่งชาติประจำเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima National Peace Memorial Hall)
หออนุสรณ์สันติภาพแห่งชาติประจำเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima National Peace Memorial Hall) เป็นอีกสถานที่ก๊อตค่อนข้างชอบมาก และอยากให้เราเข้ามาดู เพราะนี่รู้สึกว่าคนไม่ค่อยเข้ามาเท่าไหร่ เพราะตัวหอเค้าหลบอยู่ด้านข้าง ซึ่งไม่ใช้เส้นทางที่คนเดินผ่านนั่นเอง
อาคารหออนุสรณ์สันติภาพ แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตทุกคนจากเหตุระเบิดปรมาณู โดยด้านในเราจะได้เดินวนลงไปยังหออนุสรณ์ใต้ดินขนาดใหญ่ โดยกำแพงรอบหอนั้นถูกปิดด้วยกระเบื้องจำนวน 140,000 แผ่น ทำเป็นรูปความเสียหาย ณ จุดศูนย์ระเบิด โดยจำนวนกระเบื้องนั้นมาจากจำนวนของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ เมื่อเราเดินเข้าไป นี่แนะนำให้เรานั่งพักตรงนี้ซักครู่ เอาดีๆ ตอนนั้นที่ได้นั่งเงียบๆท่ามกลางหออนุสรณ์คือหน่วงเล็กน้อยเหมือนกัน
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
หลังจากเดินวนออกมาจากหอ ก่อนออกเค้าจะมีโซนนึงที่เปิดวิดีโอเสียงที่เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไอ้เราก็นั่งดูอยู่ซักพัก และได้รับรู้ว่า ตอนนั้นโคตรโหดร้ายเลยล่ะ คือสงสารผู้คนที่ตายไม่รู้ตัว กับคนที่ทรมาณจากการโดนสารกัมมันตรังสีมากเลย ฮือ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum)
สถานที่สุดท้ายที่เราจะไป และเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นคือ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสันติภาพทั้งในประเทศญี่ปุ่นเองหรือแม้แต่ทั่วโลกเลย ที่นี่ถูกจัดแสดงเป็นนิทรรศการถาวรที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์อันโหดร้ายของระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่านี่แหละ ใครที่มาเที่ยวโดยที่เราไม่รู้พื้นหลังเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่น มาที่นี่ เราจะได้เรียนรู้เกือบทั้งหมดตั้งแต่ตอนอเมริกาเลือกเมืองเป้าหมายในการทิ้งระเบิด จนถึงปัจจุบันของญี่ปุ่นที่ฟื้นคืนชีพจากสงครามนี่เอง ถือว่าดีมากก
ด้านในเราจะได้เห็นสิ่งของหลายอย่างมากที่หลงเหลือในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ขาดหลุดรุ่ย ซากของสิ่งของที่หลงเหลือในวันเหตุการณ์นั้นๆ เช่น ซากจักรยานของเด็กน้อย 4 ขวบที่ขี่เล่นระหว่างตอนที่โดนระเบิด และเสียชีวิตโดยทันที อีกทั้งยังมีเรื่องราวอีกเยอะมากจากผู้รอดชีวิต รวมถึงเรื่องของซาดาโกะด้วย คอนเทนต์ทั้งหมดมีทั้งแบบสิ่งของจริง รูปภาพ วิดีโอ และสื่อมัลติมีเดียเยอะมาก ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นดี คือทำดีมาก และควรมาอย่างยิ่งเมื่อมาเที่ยวฮิโรชิม่าเล้ย
ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)
หลายคนที่มาเที่ยวตัวเมืองฮิโรชิม่า อาจจะมาเที่ยวแค่สวนสันติภาพแค่นั้น แต่นี่อยากบอกว่าในตัวเมืองเค้าก็มีที่เที่ยวอื่นอีกที่หลายคนลืมนึกถึงนั่นคือ ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) และ สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) ที่อยู่ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่เนอะ
ภายในพื้นที่ของปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) ก่อนที่เราจะเข้าไปถึงตัวตึกของปราสาทนั้น รอบๆจะมีส่วนที่ค่อนข้างร่มรื่นเลยล่ะ แถมด้านในยังมี ศาลเจ้าฮิโรชิม่าโกโคคุ (Hiroshima Gokoku-jinja) ศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1868 เพื่ออุทิศให้กับเหล่าผู้เสียชีวิตตั้งแต่ ‘สงครามโบชิน (Boshin War)’ และต่อมาได้ดำรงและอุทิศต่อผู้เสียชีวิตในสงครามอื่นอีกอย่างเช่น ‘สงครามแปซิฟิก (Pacific War) หรือ สงครามมหาเอเชียบูรพา (Greater East Asia War)’ รวมถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าอีก ทั้งหมดที่กล่าวมาของสงครามทั้งสามครั้งนั้น รวมแล้วกว่า 92,700 คนเลย
ศาลที่เราเห็นปัจจุบันนี่ก็เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นะ เพราะอาคารเดิมนั้นถูกระเบิดพังยับไปเหมือนกัน เหลือแต่เสาโทริอิและโคมไฟหินด้านหน้าศาลเจ้าเท่านั้นที่ไม่ถูกทำลายจากระเบิด หลังจากนั้นไม่นาน คนฮิโรชิม่าก็ระดมเงินสร้างศาลเจ้านี้ขึ้นมาใหม่แทนอันเดิมอย่างที่เห็นนั่นเอง
ด้านหน้าอาคารหลักของศาลเจ้า เค้าจะมีรูปปั้นปลาคาร์ฟตั้งอยู่ด้วยนะ ซึ่งเค้าว่ากันว่าหากลูบตัวปลาคาร์ฟแล้วอธิษฐาน พรนั้นจะสมหวังด้วยนะเออ // และถ้าใครที่ไปศาลเจ้านี้ ลองสังเกตดูคือ คนญี่ปุ่นเค้าจะอุ้มเด็กแรกเกิดพากันมาขอพรที่ศาลเจ้านี้กันด้วย ซึ่งวันที่ก๊อตไปเที่ยวนั้น มีคนอุ้มน้องมาเข้าพิธีกันเยอะมากกก
เสร็จจากศาลเจ้า และเดินมานิดหน่อย เราจะเจอกับเจ้าของสถานที่นี้ นั่นคือ ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) ที่คนไม่ค่อยนิยมมากันเท่าไหร่ ฮ่าๆ โดยปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) นั้น ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1590 โดยโมริ เทรุโมโตะ (Mōri Terumoto) ไดเมียวผู้เรืองอำนาจในสมัยนั้น ก่อนที่จะพังยับเยินจากการถูกลูกระเบิดประมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
ดังนั้น อาคารปราสาทที่เราเห็นปัจุบันนี้ เป็นอาคารปราสาทหลังใหม่ที่เค้าสร้างขึ้นเลียนแบบอันเก่าทุกกระเบียดนิ้วเลยนะเออ เค้าเลยบอกว่า ปราสาทที่นี่ยังคงขลังและสวยตามแบบฉบับของญี่ปุ่นอยู่เหมือนเดิม
การเข้าชมปราสาทจะต้องเสียค่าบัตรประมาณ 360 เยน ด้านในจะมีแสดงเรื่องราวและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่างเช่น เช่น ดาบและชุดเกราะของ ‘โมริ เทรุโมโตะ’ ผู้สร้างปราสาทแห่งนี้ รวมถึงมีชุดซามูไรรวมถึงชุดกิโมโนให้เราแต่งตัวถ่ายรูปเล่นอีกด้วย นี่ก็เลยจัดให้แม่ก๊อตเค้าลองแต่งเล่นดู แม่สนุกและเริงร่าเลยทีเดียวแหละ 5555
ชั้นบนสุดของ ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) ก็จะเป็นชั้นที่เราสามารถมองวิวเมืองฮิโรชิม่าได้แบบรอบด้านเลย ถึงแม้ตัวปราสาทจะไม่ได้สูง แต่รอบๆปราสาทเค้ามีพื้นที่เยอะแยะให้เราทอดสายตามองออกไปได้อยู่ วิวคือดี มองเห็นเมืองได้เต็มตาเลย
ส่วนตัวก๊อตคิดว่า ถ้าใครไม่มีเวลา เราจะข้ามปราสาทนี่ไปก็ได้นะ (เริ่มเข้าใจว่าทำไมคนไม่ค่อยมาเที่ยวกัน) เพราะมันไม่ได้มีอะไรให้ดูเยอะมากเท่าไหร่ แนะนำให้ไป สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) เลย ซึ่งจะเป็นที่ๆเราจะไปอันต่อไป แต่ถ้าใครว่าง จะมาเดินเล่นพร้อมไหว้ศาลเจ้าและเข้าชมปราสาท มันก็เที่ยวได้เรื่อยๆเด้อ
สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden)
ที่เที่ยวสุดท้ายของฮิโรชิม่าที่ก๊อตไม่อยากให้พลาดเลยคือ สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) กับสวนญี่ปุ่นฝีมือคนที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1620 โดยครอบครัวอะสะโน (Asano) ที่ปกครองภูมิภาคนี้ในช่วงนั้นยาวนานกว่า 300 ปีเลยแหละ โดยการออกแบบสวนญี่ปุ่นแห่งนี้ จะเป็นสวนแบบอัดแน่นด้วยทิวทัศน์หลากหลายด้วยภูเขาและลำธาร คล้ายกับเมืองฮิโรชิม่านั่นเอง
สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) ถือว่าเป็นสวนญี่ปุ่นที่สวยสำหรับก๊อตเลยนะ ตามคอนเซ็ปเหมือนจะอัดแน่นในพื้นที่เล็กๆ แต่จริงๆ มันไม่ได้เล็กนะเออ เพราะสวนเค้าประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย อาคารต่างๆ รวมถึงสะพานกลางสระน้ำที่มีทั้งเป็ด เต่า ปลาคาร์ฟว่ายวนเวียนกันอยู่ คือบรรยากาศโคตรดี และการเดินเที่ยวชมด้านในสวนก็ไม่ชวนงง เพราะเค้าทำรูททางเดินโดยมีป้ายบอกตลอดทางไว้หมด คือดีย์
แน่นอนว่าตอนที่ระเบิดปรมาณูลงที่ฮิโรชิม่า สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) ก็ต้องโดนกับเค้าด้วย พังยับเหมือนกับที่อื่นๆ จะมีที่เหลืออยู่ก็แค่สะพานกลางสระและต้นไม้สามต้นเท่านั้นเอง และแน่นอน สวนที่เราเห็นอยู่ปัจจุบันคือสวนที่สร้างขึ้นใหม่อย่างสวยงาม และคนญี่ปุ่นเองก็ยกสวนนี้ให้เป็น 1 ใน 100 สวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วยล่ะ
เสร็จจากที่ สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) ก็ถึงเวลาเย็นมาก เดินทางกลับโรงแรมและหาอะไรกินให้อิ่มท้อง พร้อมกับวิวฮิโรชิม่าสวยๆที่มองออกจากหน้าต่างในห้องของก๊อตในโรงแรมที่พักนั่นเอง
ที่พักในฮิโรชิม่า (Hiroshima)
Daiwa Roynet Hotel Hiroshima-Ekimae
สำหรับย่านที่พักในฮิโรชิม่านั้น ก๊อตโคตรแนะนำให้เราพักตรงแถวๆด้านหน้าสถานีรถไฟฮิโรชิม่า (Hiroshima Station) เพราะว่าเมื่อเรานั่งรถไฟชินคันเซ็นมาที่ฮิโรชิม่า เราจะได้ไม่ต้องต่อรถและลากกระเป๋าเดินทางไปไหนไกลอีก อีกทั้งเมื่อเราไปเที่ยวเกาะมิยาจิม่า เราก็ไปขึ้นรถไฟได้สบาย หรือแม้แต่การเที่ยวในตัวเมืองฮิโรชิม่าเอง เราก็สามารถไปขึ้นรถเมล์ท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟได้สะดวกอีก ด้วยเหตุผลนี้ ก๊อตเลยหาโรงแรมรอบสถานีรถไฟนี่แหละ และมาได้ที่ Daiwa Roynet Hotel Hiroshima-Ekimae ที่ข้ามสะพานลอยเดินมานิดหน่อยแค่นั้นเอง
โดยรวมของตัวโรงแรม Daiwa Roynet Hotel Hiroshima-Ekimae นั้น เป็นโรงแรม 3.5 ดาว ที่ถือว่าดีเลยทีเดียว ตัวล็อบบี้จะต้องขึ้นลิฟท์มาชั้นบนเพื่อมาเช็คอิน ใต้ตึกมีมินิมาร์ท อันนี้ถือว่าสะดวกมาก ส่วนห้องพักก็เล็กตามมาตรฐานญี่ปุ่นเค้า ห้องสะอาด ห้องน้ำดี โดยรวมถือว่าโอเคเลยยย
ดูเรทและจองผ่าน Agoda ดูเรทและจองผ่าน Booking ดูเรทและจองผ่าน Expedia ดูเรทและจองผ่าน Trip ดูเรทและจองผ่าน Hotelsราคาห้องพักเริ่มต้น 3,0o0 บาท/คืน ดูเรทและจอง Daiwa Roynet Hotel Hiroshima-Ekimae สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡