คลองโอตารุ (Otaru Canal) หากถามก๊อตว่าที่ไหนคือแลนด์มาร์คประจำเมืองโอตารุ (Otaru) คำตอบแรกที่ผุดเข้ามาในหัวเลยก็คือ คลองโอตารุ (Otaru Canal) เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์หลักๆ ของโอตารุ (Otaru) ที่ดึงดูดผู้คนให้มาเยือนอยู่แทบตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นสถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ด้วยบรรยากาศสโลว์ไลฟ์สุดชิลของคลองที่ไหลโค้งไปตามเมือง รายล้อมไปด้วยบ้านเรือน อาคาร ร้านค้า ท่ามกลางวิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนใจ ยิ่งในยามกลางคืนที่เค้านำเอาโคมไฟมาประดับไปตามส่วนต่างๆ ของคลองด้วยแล้วนะ บรรยากาศนี่โรแมนติกมาก ซึ่งทั้งหมดนี้มันเลยทำให้ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ป๊อบขึ้นมาแบบที่ว่าคนมาเที่ยวหลักล้านต่อปีกันเลย คือถ้าเรามาเที่ยวเมืองโอตารุ (Otaru) แล้วไม่ได้มาเห็น คลองโอตารุ (Otaru Canal) บอกเลยว่าเหมือนเรามาไม่ถึงเมืองเค้าจริงๆ เด้อ
รู้จักกับ คลองโอตารุ (Otaru Canal)
คลองโอตารุ (Otaru Canal) ถือเป็นคลองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโอตารุ (Otaru) ของฮอกไกโด (Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น โดยคลองสายนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เริ่มก่อสร้างกันในปี ค.ศ. 1914 และแล้วเสร็จในช่วงปี ค.ศ. 1923 โดยมีความยาวของคลองอยู่ที่ 1.1 กิโลเมตร ซึ่งในขณะนั้นเมืองโอตารุ (Otaru) นี้เป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าทางเรือเข้าสู่เกาะฮอกไกโด คลองสายนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นคลองที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโอตารุ (Otaru) ในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างมาก
จนกระทั่งในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อความก้าวหน้าและเทคโนโลยีเข้ามาถึงมากขึ้น จากเดิมที่คนเค้าส่งของผ่านทางเรือ ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นขนส่งผ่านรถบรรทุกและรถไฟ ทำให้ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ซบเซาลงจนคลองเริ่มมีการทรุดโทรมจนถึงขั้นที่ทางการจะเข้ามาถมคลอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะกระแสของคนท้องถิ่นที่ช่วยกันต่อต้านเอาไว้ จนในที่สุด ปี ค.ศ. 1986 ได้มีการบูรณะและปรับปรุงคลอง และได้ยกเลิกเป็นท่าขนส่งสินค้า โดยได้เนรมิตพื้นที่รอบๆ ให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหาร ที่ล้วนแต่ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์
ปัจจุบันนี้ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ได้กลายมาเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมประจำเมืองโอตารุ (Otaru) ที่ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวหลายล้านคน ยิ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษเพราะเค้ามีการจัดเทศกาล Otaru Snow Light Path ซึ่งตามคลองได้มีการจุดเทียนและโคมไฟหลายพันดวงส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งคลองให้ฟีลเหมือนเรามาเที่ยวในเมืองแห่งเทพนิยายเลย ใครชอบฟีลเที่ยวพักผ่อนจริงๆ ไม่เน้นหวือหวาจี๊ดจ๊าดมาก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติก หากมาเที่ยว ฮอกไกโด (Hokkaido) ก๊อตแนะนำอย่างยิ่งเลยว่าต้องมาคลองโอตารุ (Otaru Canal) ด้วยนา
วิธีการเดินทางมาที่ คลองโอตารุ (Otaru Canal)
รถเมล์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับคลองโอตารุ (Otaru Canal) มากที่สุดคือ สถานีโอตารุ (Otaru Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟ JR:
- คลองโอตารุ (Otaru Canal) : ให้ขึ้นรถไฟ JR สาย JR Hakodate Main Line จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) นั่งมาลงที่ สถานีโอตารุ (Otaru Station) จากนั้นเดินต่อไปอีก 900 เมตร ประมาณ 15 นาที
เริ่มเที่ยว คลองโอตารุ (Otaru Canal) กันเล้ยย
ต้องบอกก่อนว่า ก๊อตเองเคยมาเที่ยว คลองโอตารุ (Otaru Canal) ทั้งหน้าร้อนและหน้าหนาวที่มีหิมะฟูฟ่องมาแล้ว โดยการเที่ยวของเรานั้น สามารถเดินเล่นเลียบไปตามแนวคลองที่เป็นทางเดินปูด้วยอิฐทอดยาวคดเคี้ยวไปตามแนวคลอง ท่ามกลางโกดังเก่าที่ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีกลิ่นอายของความเก่าแก่ของอาคารที่ผสมผสานเข้ากับการตกแต่งที่ทันสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
หากใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหนก่อนดี เราสามารถเดินจากบริเวณสะพานอาซาคุสะ (Asakusa Bridge) ไล่ยาวไปจนถึงสะพานจูโอ (Chuo Bridge) ได้เลย โดยก๊อตเริ่มจากแวะถ่ายรูปที่กลางสะพานอาซาคุสะ (Asakusa Bridge) ซึ่งตัวสะพานจะพาดผ่านเชื่อมสองฝั่งคลองเอาไว้ บริเวณนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่เราเห็นกันบ่อยๆ ผ่านหน้าโพสต์ หรือรีวิวบนโซเชียล โดยเราจะได้ภาพวิวของคลองที่ไหลทอดยาวออกไป ตามสองฝั่งรายล้อมไปด้วยทางเดิน และอาคารเก่าสีครีมสลับกับสีอิฐที่ในบางหลังนั้นมีไม้เลื้อยเขียวๆ ขึ้นคลุมเอาไว้ โดยมีฉากหลังของภาพเป็นทิวทัศน์ของภูเขาสวยๆ และท้องฟ้าสีสดใสที่ช่วยทำให้วิวมุมนี้มันสวยจับใจ แบบที่ว่ายืนถ่ายรูปท่าไหนก็ได้รูปออกมาสวยเป๊ะแน่นอน
ถ่ายรูปตรงหัวสะพานแล้ว อย่าลืมที่จะมาเดินเลียบมาตามแนวคลองด้านล่างเพื่อไปยังสะพานจูโอ (Chuo Bridge) โดยช่วงหน้าร้อนของที่นี่ ต้นไม้ตามสองข้างทางที่เราเดินผ่านเลยจะยังเขียวๆ แซมน้ำตาลให้ฟีลอบอุ่นเบาๆ ซึ่งจะต่างจากตอนช่วงหน้าหนาวแบบผิดหูผิดตาที่บริเวณเลียบคลองจะถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยหิมะขาวโพน ตามต้นไม้ อาคาร และทางเดินที่ทอดยาวไปตามแนวคลองกลายเป็นสีขาวเหมือนมีมาร์ชแมลโลว์ปกคลุมเอาไว้ ให้ความรู้สึกปุ๊กปิ๊กน่ารัก ถ่ายรูปออกมาสวยสับเช่นกัน ซึ่งจากที่ก๊อตไปมาแล้วทั้งสองฤดูนั้น ส่วนตัวก๊อตว่า คลองโอตารุ (Otaru Canal) ในหน้าร้อนหรือหน้าหนาวต่างก็สวยไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะชอบช่วงฤดูไหน
หากใครที่เดินเล่นจนหนำใจแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปล่องเรือบ้าง เราสามารถไปขึ้นเรือได้เลย เค้าใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที ราคา 1,500 เยน (~360 บาท) เท่านั้น แต่ส่วนตัวก๊อตไม่ได้ล่องเรือ เราเน้นเดินชมวิวโดยใช้เวลาเดินเล่นอยู่ใน คลองโอตารุ (Otaru Canal) อยู่ราวๆ 30 นาที เราก็เดินกลับออกมาด้านนอกกันแล้ว โดยรวมที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่สงบมาก มันเหมือนการมาเดินจอยๆ ปล่อยใจไปกับสายลม สายน้ำ ท่ามกลางอาคารโกดังเก่าแก่ที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมกับวิวที่สวยสับในทุกๆ จุดที่เราเดินผ่านกันเลย เอาเป็นว่าใครมาเที่ยวโอตารุ (Otaru) ต้องปักหมุดมาที่นี่ด้วยนา รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับบ้านแน่นอน
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡