ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) ใครที่มาเที่ยวโอตารุ (Otaru) แล้วอยากมาช้อปสารพัดข้าวของที่มีมาให้เลือกกันแบบตาแตกทั้ง ของกินทั้งคาวหวาน ของใช้ ไปจนถึงของฝากสุดครีเอท หนึ่งในสถานที่ที่ก๊อตแนะนำเลยก็คือ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) เพราะที่นี่เป็นเหมือนแหล่งช้อปปิ้งประจำโอตารุ (Otaru) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าอยู่มากมาย ขายกันสารพัดสิ่งแบบเดินเลือกชมจนตาลาย อย่างที่ต้องมาลองเลยก็คือ เลอทาโอะ (LeTAO) แบรนด์ชีสเค้กชื่อดังที่มีขายอยู่ในไทยแต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเค้ามีต้นตำรับมาจากโอตารุ (Otaru) นอกจากนี้ยังมีของขึ้นชื่ออย่างพวกเครื่องแก้วที่เลื่องลือกันว่าสวยงามไม่แพ้ใครขายอยู่อีกด้วย มากไปกว่านั้นเวลาเมืองเค้ามีเทศกาลสำคัญๆ ที่นี่ก็มักถูกใช้เป็นสถานที่หลักในการจัดงานอีกด้วย คือถ้าเราต้องยกมงกิน เที่ยว ช้อป จบปิ๊งในที่เดียวให้กับสถานที่เที่ยวสักแห่ง ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) สามารถมารับมงนี้ได้เลย
รู้จักกับ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street)
ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) เป็นถนนช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ (Otaru) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) โดยถนนสายนี้ได้รับการก่อตั้งขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งในช่วงเวลานั้น โอตารุ (Otaru) ยังคงเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นศูนย์กลางทางการค้าในฮอกไกโด (Hokkaido) ถนนช้อปปิ้งสายนี้จึงถูกพัฒนาขึ้นมาโดยทำหน้าที่เป็นตลาดสุดคึกคักที่ผู้คนเค้ามาจับจ่ายซื้อของกันนั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันนี้ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) ได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางในการช้อปปิ้งของเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนโอตารุ (Otaru) ไปแล้ว โดยบนถนนช้อปปิ้งนั้นมีร้านค้ามากมายที่ขายกันตั้งแต่งานฝีมือของคนท้องถิ่น ของที่ระลึก เครื่องแก้ว ขนม คาเฟ่ ซึ่งตั้งเรียงรายทอดยาวเข้าไปตามสองเส้นทางของถนน นอกจากนี้ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) ยังถูกใช้เป็นสถานที่ในการจัดเทศกาลตามฤดูกาลอีกด้วยนะ อย่างเทศกาล Otaru Snow Light Path ในช่วงฤดูหนาว นอกจากเค้าจะประดับประดาโคมไฟหลายพันดวงไปตามคลองโอตารุ (Otaru Canal) แล้ว บริเวณถนนช้อปปิ้งยังมีโคมไฟประดับอยู่ด้วย เรียกได้ว่าที่นี่เค้าเป็นมากกว่าถนนช้อปปิ้งเลยก็ว่าได้ ใครที่อยากมาเดินกิน เที่ยว ช้อป แบบครบจบในที่เดียว หากมาเที่ยวโอตารุ (Otaru) อย่าลืมแวะเวียนมาที่นี่ด้วยนา บอกเลยว่าของกิน ของใช้ ของฝากละลานตามาก
วิธีการเดินทางมาที่ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street)
รถเมล์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) มากที่สุดคือ สถานีโอตารุ (Otaru Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟ JR:
- ถนนช้อปปิ้งถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) : ให้ขึ้นรถไฟ JR สาย JR Hakodate Main Line จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) นั่งมาลงที่ สถานีโอโตรุ (Otaru Station) จากนั้นสามารถเดินต่อมายังถนนช้อปปิ้งได้เลย
เริ่มเที่ยว ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) กันเล้ยย
สำหรับเมืองโอตารุ (Otaru) นั้น ด้วยความที่เค้าเลื่องลือในเรื่องของหวาน ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยร้านขายขนม และคาเฟ่อยู่เยอะมาก ซึ่งหลังจากที่ก๊อตเดินออกมาจากสถานีรถไฟแล้ว เราก็เดินตรงมายังถนนช้อปปิ้งเลย เค้าจะเป็นถนนยาวประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสองข้างทางเป็นอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงให้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ทอดยาวไปตามแนวถนนท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคักเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว
โดยบริเวณต้นถนนช้อปปิ้งหากใครที่เป็นคนชอบสะสมกล่องดนตรี ตรงนี้จะมี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum) ตั้งอยู่ด้วยนะ โดยอาคารเก่าแก่ 3 ชั้นที่เราเห็นนี้ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศตนให้กับงานศิลปะและประวัติศาสตร์ของกล่องดนตรี ได้ชื่อว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยด้วย โดยอาคารที่ตั้งพิพิธภัณฑ์นั้นสร้างกันมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในช่วงปี ค.ศ. 1983 และได้กลายเป็นที่เก็บคอลเลคชันกล่องดนตรีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีทั้งชิ้นงานโบราณและร่วมสมัยอยู่นับหมื่นๆ ชิ้น ใครที่อยากได้กล่องดนตรีน่ารักๆ ที่มีขายกันตั้งแต่ไซซ์มินิไปจนถึงไซซ์บิ๊กเบิ้ม พร้อมทั้งดูนิทรรศการเกี่ยวกับกล่องดนตรี สามารถเดินเข้าไปช้อปและส่องบรรยากาศด้านในได้เลย
เลอทาโอะ (LeTAO)
เมื่อเราข้ามถนนมาจาก พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum) ร้านขนมร้านแรกที่ต้องมาเลยก็คือ เลอทาโอะ (LeTAO) แบรนด์ชีสเค้กและเบเกอรี่ชื่อดังที่มีสาขาอยู่ในบ้านเราด้วยนะ ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าบ้านเกิดของเค้าอยู่ที่โอตารุ (Otaru) นี่เอง โดยตัวร้านเลอทาโอะ (LeTAO) ร้านแรกที่เราเข้ามาจะเป็นคาเฟ่ ตกแต่งเป็นตึกอิฐแดงสีเข้มๆ ตัดกับแผ่นไม้สูง 2 ชั้น มาพร้อมหน้าต่างกระจกใสรอบทิศทาง
ส่วนภายในจะเป็นโซนเคาท์เตอร์ให้เราสั่งขนมและไอศกรีม รวมถึงเบเกอรี่อยู่ด้วย ซึ่งเมนูที่ก๊อตสั่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก Dani เพราะตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าร้านมา ก๊อตก็เจอหน้าตาของขนมนี้แปะหราอยู่บนป้ายหน้าร้านแล้ว โดยความพิเศษของ Dani ชิ้นละ 378 เยน (~90 บาท) คือเค้าใช้วัตถุดิบหลักอย่าง ชีส นม แป้งเดนมาร์กทำจากข้าวสาลีจากฮอกไกโด 100% แถมยังใช้ยีสต์แบบโฮมเมดที่หมักในอุณหภูมิต่ำเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ผ่านขั้นตอนการทำจนได้ออกมาเป็นแป้งเดนมาร์กเนื้อกรุบกรอบเข้ากันกับชีสรสนุ่มละมุน และอีกเมนูที่ลองคือ Sausage Fromage Pie ราคา 690 เยน (~165 บาท) ตัวนี้เนื้อพายจะกรอบๆ เวลากัดจะแตกเป็นแผ่นๆ อยู่ในปาก ไส้ของแอปเปิ้ลด้านในไม่เปรี้ยวหรือหวานโดดจนเกินไป กินพร้อมแป้งแล้วอร่อย แถมยังให้มาชิ้นใหญ่จุกๆ ด้วย
พอกินขนมจากฝั่งคาเฟ่เสร็จแล้ว ตรงข้ามยังมี เลอทาโอะ ( LeTAO) อีกร้านที่เป็นร้านขายขนม เค้กและโรลที่เราสามารถซื้อเป็นของฝากได้ โดยพวกขนมต่างๆ ของแบรนด์จะถูกแพ็คอยู่ในกล่องวางขายให้ได้ซื้อกลับบ้านได้อย่างสะดวกนั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่เค้ามีไอศกรีมซอฟต์เสริฟขายด้วยนะ โดยวัตถุดิบหลักของเค้าก็คือนมฮอกไกโดอันเลื่องชื่อ โดยเค้ามีให้เลือก 3 แบบคือ รสนมฮอกไกโด รสชีส และรสนมผสมชีส ซึ่งก๊อตเองได้ลองสั่งรสชีสมา เริ่มแรกกินก็อร่อยหน่อย แต่พอกินไปเรื่อยๆ เริ่มเลี่ยนชีส เพราะมันเป็นไอศกรีมชีสแบบชีสจริงจัง 55555 แต่ถ้าใครเป็นสาวกชีสอยู่แล้ว นี่ว่าต้องชอบไอศกรีมซอฟต์เสิรฟของที่นี่แน่นอน ส่วนใครที่ซื้อไอศกรีมสามารถถือมานั่งกินที่โต๊ะด้านข้างของร้านได้นะ อย่าไปยืนกินขวางทางในร้านล่ะ
เอาล่ะ เติมพลังกันเสร็จแล้ว ก๊อตก็เดินส่องบรรยากาศภายในถนนช้อปปิ้งกันต่อ ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายของที่ระลึกกันเยอะมาก อย่างขนมนี่มีให้เลือกกินหลากหลายแบรนด์เลยนะ และนอกจากนมกับชีสที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโดแล้ว เมล่อนที่นี่ยังรสชาติหวานเจี๊ยบอีกด้วย ใครเดินผ่านร้านขายเมล่อนอยากให้ลองซื้อมากินดู มันอร่อยฉ่ำสุดๆ ไปเลย
นอกจากนี้ยังมีร้านเครื่องแก้วที่ข้างในขายสารพัดของกุ๊กกิ๊กที่ทำจากแก้วอยู่เยอะมาก คือพูดถึงเรื่องเครื่องแก้วแล้วเราอาจจะนึกถึงพวกของใช้เป็นหลัก แต่ที่นี่เค้ามีพวกของตกแต่งอยู่เยอะมาก ทั้งตุ๊กตาแก้วไล่ฝน ของตกแต่งบ้านรูปทรงน่ารักๆ ที่ทำจากการเป่าแก้วให้ออกมาเป็นสัตว์ต่างๆ ซึ่งความครีเอทนี้ก๊อตให้คะแนนเต็มสิบเลย
ยังไม่หมดเท่านั้น สาวกของวินเทจที่อยากได้ไอเท็มเก๋ๆ กลับไปฝากคนที่บ้าน ตามถนนช้อปปิ้งเค้ามีร้านสินค้าวินเทจขายอยู่พรึ่บพรั่บเลยนะ ของแรร์ที่ว่าหายาก ไปตามเก็บมาแล้วหลายที่ยังไม่ได้ ลองมาเดินส่องที่นี่ดู ก๊อตว่าของเค้ามีให้ช้อปเยอะเลย จะพวกอาร์ตทอยรุ่นเก๋า ของแต่งบ้าน หรือของปุ๊กปิ๊กที่นี่ก็มีครบ ส่วนใครที่เป็นแฟนๆ ของมิฟฟี่ หรือสนูปปี้ ที่ ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) เค้าก็มีร้านของมิฟฟี่ที่เปิดขายทั้งเครื่องดื่มและขนม ไปจนถึงของฝากแทบจะทุกสิ่งที่อย่างให้ได้มากินและช้อปด้วยนา ใครที่เป็นแฟนๆ ของมิฟฟี่มาแล้วมีล้มละลายแน่นอน
หมดอายุ: 11-11-2024
หมดอายุ: 11-11-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สรุปเลย ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Street) แม้จะมีเส้นทางเพียง 1 กิโลเมตร แต่บรรยากาศภายในนั้นคึกคักมากกก ของที่ขายก็หลากหลาย จะเป็นของกินทั้งคาวและหวานก็ทำถึง จะเป็นของฝากที่ระลึกก็มีให้เลือกเยอะ หรือแม้แต่ของวินเทจหายากๆ ที่นี่ก็มีให้ครบจบในที่เดียว คือตลอดเส้นทางยาว 1 กิโลเมตรนั้น บอกเลยว่าช้อปปิ้งกันเพลินมาก ใครที่อยากหิ้วขนมหรือของฝากฟีลญี่ปุ่นจัดๆ กลับไทย สามารถมาเดินหาซื้อที่นี่ได้เลย รับรองว่าเดินเลือกกันจนขาลาก 555555
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡