วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) ใครที่เคยค้นหาข้อมูลที่เที่ยวในญี่ปุ่นแล้วเห็นภาพขององค์พระขนาดใหญ่ที่ตั้งสง่าอยู่กลางแจ้งโดยมีฉากหลังเป็นเนินเขาเขียวๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ แต่ยังไม่รู้ว่าองค์พระนี้ตั้งอยู่ที่ไหน ก๊อตจะบอกว่าองค์พระนี้คือ “พระใหญ่ไดบุตซึ” (Kamakura Daibutsu) พระพุทธรูปที่สูงถึง 13.35 เมตร ตั้งอยู่ที่ วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) วัดดังประจำเมืองคามาคุระ (Kamakura) ที่ใครมาเที่ยวเมืองนี้ต้องมาเยือน แน่นอนว่ารีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปไหว้พระ ขอพรเติมแต้มบุญกันที่ วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) นั่นเอง แอบเกริ่นก่อนว่าองค์พระใหญ่ของจริงที่จะพาไปดูนั้นอลังการมากก คือนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมาเที่ยวคามาคุระ หากไม่มาวัดนี้คนเค้าถึงบอกกันว่ามันเหมือนเรามาไม่ถึงเมืองคามาคุระจริงๆ
โดยรีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปสัการบูชาพระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) จากนั้นจะพาไปเดินหาขนมกินและเครื่องดื่มกันต่อที่ KANNON COFFEE kamakura คาเฟ่ดังที่เค้าเอาหน้าพระใหญ่ไดบุตซึมารังสรรค์เป็นเมนูขนมและคุ้กกี้จนคนแห่มาซื้อตามรอยกันเพียบ แน่นอนว่าก๊อตจะพลาดได้ไง เอาล่ะ พร้อมแล้วไปเที่ยววัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) กับก๊อตได้เลย
รู้จักวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple)
วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) วัดดังของเมืองที่ก๊อตบอกเลยว่าถ้าไม่ได้มานั้นมันเหมือนเรามาไม่ถึงเมืองคามาคุระ (Kamakura) จริงๆ เพราะที่นี่คือวัดพุทธอันโด่งดังและยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของ “พระใหญ่ไดบุตซึ” (Kamakura Daibutsu) พระพุทธรูปสูงถึง 13.35 เมตร และหนักมากถึง 121 ตัน ถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น เป็นรองเพียงแค่พระพุทธรูปในวัดโทไดจิ (Todaiji) เมืองนารา (Nara) โดยปัจจุบัน “พระใหญ่ไดบุตซึ” (Kamakura Daibutsu) ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติโดยรัฐบาลญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวและคนไทยเค้านิยมมาเที่ยวกันมหาศาลเลย
สำหรับองค์ “พระใหญ่แห่งคามาคุระ” หรือ “พระใหญ่ไดบุตซึ” (Kamakura Daibutsu) ที่เราเห็นกันอยู่นี้ มีประวัติเล่าไว้ว่า สร้างขึ้นจากเม็ดเงินที่เค้าระดมทุนจากผู้คน โดยในช่วงแรกได้สร้างองค์พระด้วยไม้เป็นวัสดุหลัก ก่อนที่จะถูกพายุทำลายในเวลาต่อมา จนกระทั่งปี ค.ศ.1252 ได้มีการสร้างองค์พระขึ้นมาใหม่ด้วยสำริดทั้งองค์ แล้วนำไปประดิษฐานเอาไว้ในห้องโถงขนาดใหญ่ แต่ก็เกิดพายุใหญ่เข้าซัดทำลายห้องโถงในช่วงปี ค.ศ.1369 ซึ่งขณะนั้นห้องโถงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จนในที่สุดปีค.ศ. 1495 ห้องโถงแห่งนี้ก็ได้ถูกพายุทำลายซ้ำอีกครั้งจนมันพังหายไปหมดไม่หลงเหลือห้องโถงที่ปกคลุมพระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) เอาไว้ รูปปั้นขององค์พระก็เลยถูกปล่อยให้อยู่กลางแจ้งนับตั้งแต่นั้นมา ก่อนจะถูกบูรณะปรับปรุงใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 หลังจากที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาเนิ่นนาน แต่ก็ยังไม่จบไม่สิ้นเมื่อญี่ปุ่นได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีกครั้งในปีค.ศ. 1923 ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) ไม่น้อย ซึ่งเค้าก็ได้ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านมาจนถึงปีค.ศ.1960 จึงได้มีการบูรณะปรับปรุงอีกครั้งเพื่อให้ฐานของ พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) แข็งแรงมากขึ้น จนกลายเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญที่อยู่คู่กับเมืองคามาคุระ (Kamakura) มาจนถึงทุกวันนี้
วิธีการเดินทางมาที่วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple)
รถไฟ: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) มากที่สุดคือ สถานีฮาเสะ (Hase Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟ JR (Japan Railways) > รถไฟเอโนะเด็น (Enoden):
- สถานีฮาเสะ (Hase Station): ให้ขึ้นรถไฟ JR Yokosuka Line มาลงที่สถานีคามาคุระ (Kamakura Station) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟเอโนชิมะ (Enoshima Electric Railway) มาลงที่สถานีฮาเสะ (Hase Station) แล้วเดินต่ออีก 10-15 นาที
พาสรถไฟสำหรับการเดินทางเที่ยวในคามาคุระ (Kamakura)
วิธีการเดินทางเที่ยวด้วยรถสาธารณะในเมืองคามาคุระ (Kamakura) นั้น วิธีที่สะดวกที่สุดคือการนั่งรถไฟ โดยในเมืองเค้าจะมีรถไฟ สายเอโนะเด็น (Enoden Line) รถไฟสีเขียวๆ อันโด่งดังที่วิ่งเชื่อมกับ สถานีคามาคุระ (Kamakura Station) ไปตามแนวชายฝั่งทะเลไปยังเอโนชิมะ (Enoshima) จนสุดปลายเชื่อมที่สถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa) ที่เชื่อมกับรถไฟ JR โดยรถไฟสายเอโนเด็นวิ่งผ่านเกือบทุกเที่ยวทั้งหมดในเมืองคามาคุระ (Kamakura) เลยล่ะ
- Noriorikun (Enoden 1 Day Pass) (⭐️⭐️ แนะนำ): ตั๋วที่จะทำให้เราสามารถขึ้นรถไฟสายเอโนะเด็นได้แบบไม่จำกัดเที่ยวในระยะเวลา 1 วันนับจากออกบัตร โดยราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 650 เยน (~155 บาท) และเด็ก 330 เยน (~80 บาท) สามารถหาซื้อพาสได้ทุกสถานีรถไฟของสายเอโนะเด็น (Enoden Line) ได้เลย
- Hakone Kamakura Pass: สำหรับคนที่มีแพลนเที่ยวทั้งคามาคุระ (Kamakura) และฮาโกเน่ (Hakone) สามารถซื้อพาสนี้เพื่อใช้ขึ้นรถไฟเที่ยวทั้งสองแห่งได้เลย / พาสจะครอบคลุมทั้งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) สำหรับใช้เดินทางไปฮาโกเน่ (แต่ถ้าต้องการขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Romancecar จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม) + สายสายเอโนะเด็น (Enoden Line) สำหรับเที่ยวในคามาคุระ (Kamakura) + รถโดยสาร 8 ประเภทในฮาโกเน่ รวมถึงเรือและเคเบิลคาร์ด้วย / พาสจะเป็นแบบ 3 วัน ราคาสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 7,520 เยน (~1,835 บาท) และเด็ก 1,480 เยน (~360 บาท) [ซื้อพาสผ่าน Klook] [ซื้อพาสผ่าน KKday]
เริ่มเที่ยววัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) กันเล้ยย
วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) ก่อนที่ก๊อตจะเดินไปถึงตัววัดนั้น เราจะต้องเดินผ่านถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ทั้งที่ขายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกอยู่จนสุดทางของถนนกันก่อน ดังนั้นใครที่อยากแวะหาเครื่องดื่ม หรือของกินรองท้องกันก่อนเข้าไปยังวัดก็สามารถเลือกร้านที่ชอบแล้วแวะกินกันก่อนได้ ซึ่งก๊อตก็มีแวะหากาแฟดื่มสักแก้ว ก่อนจะออกเดินไปยัง วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) ต่อนี่แหละ
สำหรับบรรยากาศภายในวัดยังคงมีความขลังและกลิ่นอายความเก่าแก่ให้เราได้มาสัมผัส ภาพของ พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) ที่ตั้งสง่าอยู่ใจกลางวัดชวนให้ก๊อตรับรู้ได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และความขลังจริงๆ โดยบริเวณรอบๆ ฐานที่องค์พระประดิษฐานอยู่นั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และคนญี่ปุ่นที่กำลังไหว้และขอพรกันอยู่ ซึ่งใครที่อยากมาสักการบูชาเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตก๊อตแนะนำว่าให้มาช่วงเช้าๆ หน่อย ด้วยความที่วัดเค้าดังม๊ากก แบบเลื่องลือกันไปทั่วทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีทัวร์มาเที่ยวที่นี่ต่อวันกันเยอะเว่อร์ อย่างวันที่ก๊อตไปเราก็ไปเจอทัวร์นักท่องเที่ยวไทยลงเต็มวัดเลย คือได้ยินเสียงเค้าพูดภาษาไทยดังแซ่ซ้องนึกว่าอยู่เมืองไทยกันเลยทีเดียว 5555555
KANNON COFFEE kamakura
พอเดินเที่ยวไหว้พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) เสร็จแล้วก๊อตก็เดินตามหาคาเฟ่ดังของคามาคุระ (Kamakura) ที่ต้องมาเลยคือ KANNON COFFEE kamakura คาเฟ่ที่เค้าเอาหน้าพระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) มารังสรรค์เป็นเมนูขนมและคุ้กกี้จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของร้านและขายดิบขายดีจนนักท่องเที่ยวหลายคนต้องมาลิ้มลองกัน
KANNON COFFEE kamakura ที่เมืองคามาคุระ (Kamakura) นี้เค้าเปิดเมื่อปี ค.ศ. 2017 ที่ผ่านมา โดยเป็นคาเฟ่สาขาสองจากเมืองนากาโน่ (Nagano) ซึ่งบรรยากาศของคาเฟ่ที่นี่ตกแต่งในฟีลโฮมมี่อบอุ่นด้วยการรีโนเวทร้านชุดกิโมโนเก่า ให้ออกมาเป็นคาเฟ่โทนไม้ที่มีกระจกใสหน้าร้านทำให้เรามองเข้าไปเห็นภายในได้ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้าไป โดยคาเฟ่ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของกาแฟที่มีทั้งกาแฟดริป กาแฟเบลนด์ตามฤดูกาล ไปจนถึงกาแฟสูตรพิเศษ แต่สิ่งที่ฮิตติดลมบนและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาที่นี่ได้ตลอดเวลานั้น ต้องยกให้เจ้าบิสกิตพระใหญ่ไซซ์จิ๋วที่มีขายกันทั้งแบบแยกเดี่ยวๆ และถูกนำเอาไปใส่ในเมนูเครปและพาร์เฟ่ต์ของเค้าเลย คือใครมาที่นี่ก็ต้องมาสั่งกันทั้งนั้น
ซึ่งก๊อตเองก็ได้ลองสั่งทั้งบิสกิตพระใหญ่เปล่าๆ เครปที่ใส่บิสกิตพระใหญ่มาด้วย รวมถึงเมนูอื่นๆ มาด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าขนมเค้ารสชาติอร่อยและดีมากเลยแหละ แถมหน้าตายังน่ารักเหมาะกับการเอามาถ่ายรูปทำคอนเทนต์ด้วย ซึ่งนอกจากเมนูที่มีบิสกิตพระใหญ่แล้วที่ KANNON COFFEE kamakura ยังมีเมนูขนมและเครื่องดื่มอื่นๆ นอกจากกาแฟขายอยู่ด้วยนา ใครที่ไหว้พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) เสร็จแล้วลองเดินมาลิ้มรสกันได้ ถือเป็นอีกคาเฟ่ที่ก๊อตแนะนำว่าต้องมาเลยแหละ
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ส่วนตัวก๊อตแนะนำว่าหากใครมาเที่ยวที่เมืองคามาคุระอยากให้ทุกคนมาเที่ยวที่วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) เป็นที่แรกในตอนเช้าๆ เลย เพราะมาสายคือคนแตกแตนม๊าก 55555 และถ้าหากไหว้พระขอพรเติมแต้มบุญกันเสร็จแล้ว ก็สามารถเดินเล่นรอบๆ ซื้อของฝากของที่ระลึก หรือพวกเครื่องรางกลับบ้านได้ โดยด้านข้างพระพุทธรูปพระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu) จะมีร้านขายให้เราได้ซื้อหากันกลับบ้านด้วย ใครมาเที่ยวแล้วเป็นยังไงเอามาเล่าให้ก๊อตฟังได้นา
> อ่านรีวิวเต็ม คามาคุระ (Kamakura)
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡