วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่คนไทยเราคุ้นหูกันในชื่อ ‘วัดเงิน’ หนึ่งในวัดสำคัญของเกียวโต (Kyoto) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ที่ใครมาเที่ยวเมืองนี้แล้วไม่มาวัดเงินล่ะก็ นี่บอกเลยว่ามันเหมือนเราไม่ถึงเกียวโตเด้อ โดยวัดนี้บรรยากาศเค้าจะฟีลเรียบง่าย มีศาลาเงินที่ทำจากไม้หลังเล็กๆ ดูมินิมอลตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่สวนสไตล์ญี่ปุ่น และสวนทรายลวดลายสวยงามที่ก๊อตบอกเลยว่า หาดูจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่นา ซึ่งใครที่ไปเที่ยววัดทอง หรือ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) มาแล้ว ก๊อตอยากให้มาตามเก็บที่นี่เข้ากรุไปด้วย เพราะทั้งสองวัดนั้นต่างก็มีความสำคัญในด้านของประวัติศาสตร์ไม่แพ้กันเลย เอ้า ไปอ่านรีวิวเต็มดูก่อนตัดสินใจได้ แต่รับประกันเลยว่าอ่านจบแล้วทุกคนต้องจด วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) เข้าแพลนเที่ยวเกียวโตอย่างแน่นอน
รู้จักกับ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่เรียกกันว่า ‘วัดเงิน’ มีอีกชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดฮิกาชิยามะ จิโชจิ (Higashiyama Jisho-ji Temple) เป็นวัดสาขาของโชโกกุจิ ( Shokoku-ji) ของสำนักรินไซ (Rinzai Zen) หนึ่งในสามสำนักของศาสนาพุทธนิกายเซนของญี่ปุ่น เช่นเดียวกับ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือ ‘วัดทอง’ นั่นเอง โดย วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) นั้น ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 อีกด้วย
สำหรับ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1460 เพื่อเป็นบ้านพักบนเขาโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) โชกุนคนที่ 8 ของรัฐบาลโชกุนมุโรมาจิ (Muromachi Shogunate) โดยมีเรื่องเล่าต่อกันมาของคนญี่ปุ่นว่า ในช่วงที่เกิดสงครามโอนิน (ค.ศ. 1467 – 1477) แม้ว่าบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ แต่ภายใต้การปกครองของอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) เขากลับเลือกที่จะนอนพักอยู่ในศาลาเงินท่ามกลางสวนเขียวๆ แทน แต่ในภายหลังที่เขาได้เสียชีวิตลง พื้นที่แห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นวัดของนิกายรินไซ (Rinzai Zen) โดยใช้ชื่อว่า วัดฮิกาชิยามะ จิโชจิ (Higashiyama Jisho-ji Temple) และได้เป็นสถานที่สำคัญของเมืองที่มีผู้คนนิยมมาทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าเกียวโตมีวัดทองที่สำคัญมากๆ แล้ว วัดเงินก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยเชียว
วิธีการเดินทางมาที่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
รถเมล์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถเมล์ โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้กับ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) มากที่สุดคือ ป้าย Ginkakuji-michi ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถเมล์ :
- วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) : ให้ขึ้นรถเมล์สาย 5, 17 หรือ 100 จาก สถานีเกียวโต (Kyoto Station) นั่งมาลงที่ป้าย Ginkakuji-michi แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
เริ่มเที่ยว วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
สำหรับการมาเที่ยว วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) ของก๊อตนั้น ต้องบอกก่อนว่าเราเริ่มเดินเท้ากันมาตั้งแต่อีกวัดนึงที่ไปก่อนหน้ามา ซึ่งวัดนั้นตั้งอยู่ห่างจากวัดเงินประมาณ 2.4 กิโลเมตร โดยเราเดินมาตามเส้นทางแสวงบุญ ‘Philosophers’ ซึ่งมันจะเป็นทางเดินทอดยาวเลียบคลองและตัดผ่านบ้านเรือนของผู้คน รวมถึงอาคารเก่าแก่ในระแวกนี้ ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยต้นดอกซากุระให้ไวบ์ชิลๆ สบายตา ทำให้เวลาเดินนั้นไม่รู้สึกเมื่อยเพราะมัวไปเพลิดเพลินกับธรรมชาติตามสองข้างทางหมดแล้ว โดยเราใช้เวลาเดินกันราวๆ 30 นาที ก็มาถึงที่หมายจ๊า
แต่ด้วยความที่ใช้พลังงานไปเยอะ บวกกับความหิว นี่เลยขอแวะร้านอาหาร Miyoneshi Fumiya ซึ่งเป็นร้านขายข้าวปั้นตั้งอยู่หน้า วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) เลย โดยร้านเค้าชูเมนูหลักเป็นสารพัดข้าวปั้นที่มีหน้าหลากหลาย ทั้ง ข้าวปั้นแซลม่อนย่าง ข้าวปั้นย่างเฉยๆ ข้าวปั่นซอสถั่วเหลือง ไปจนถึงข้าวปั้นเปล่าๆ ให้ได้เลือกกินกัน หรือถ้าใครอยากกินแบบจุใจ ที่นี่ก็มีเมนูทงคัตสึขายที่มีข้่าวปั้นประกอบอยู่ด้วย แน่นอนว่าก๊อตตั้งใจจะกินจริงจังเป็นมื้อกลางวัน เราเลยสั่งมาเป็นทงคัตสึไก่ ราคา 1,500 เยน (~365 บาท) และ ทงคัตสึปลา ราคา 1,300 เยน (~315 บาท) ซึ่งในแต่ละเซตเค้ารวมข้าวปั้นมาให้แล้วเรียบร้อย อาหารเสิร์ฟมาจานใหญ่ ส่วนรสชาตินั้นอร่อยดี ใครหิวๆ ก็แวะเข้ามาฝากท้องได้
กินเสร็จแล้วถึงเวลาพาทุกคนไปสำรวจบรรยากาศด้านในของ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) กันแล้ว โดยจุดแรกที่ก๊อตเดินเข้ามาเจอเลยคือ สวนทราย ที่โด่งดังม๊าก ด้วยลักษณะของลานทรายกว้างๆ ที่ได้รับการตกแต่งลวดลายให้ความรู้สึกเรียบง่าย ทว่าละเอียดอ่อนตามแบบฉบับของเซน ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ มุมหนึ่งของสวนจะมีภูเขาทรายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งว่ากันว่าเค้าทำเลียนแบบให้เป็นภูเขาไฟฟูจิ โดยสวนทรายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ชมคืนที่จันทร์เต็มดวงที่เวลาแสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบกับพื้นทรายด้านล่าง แสงและเงาต่างๆ หล่อรวมกันจนดูเหมือนทรายบนพื้นกำลังพริ้วไหวราวกับผืนน้ำนั่นเอง
จากนั้นเราก็เดินไปดูไฮไลท์ของ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) อย่าง อาคารหลักของวัดที่สร้างด้วยไม้ขนาดไม่ใหญ่มาก ดูเรียบง่ายตั้งอยู่ท่ามกลางสวนและบ่อน้ำ โดยอาคารหลักนี้ชื่อว่า ‘ศาลาคันนน’ หรือจะเรียกว่า ‘ศาลาเงิน’ ก็ได้ ซึ่งใครที่เห็นภาพแล้วเกิดข้อสงสัยว่าศาลาเงินทำไมไม่เห็นมีสีเงินเลยล่ะ นั่นมาจากในตอนสร้างที่ความตั้งใจเดิมคือจะใช้แผ่นเงินแท้ปิดรอบๆ ตัวอาคาร แต่มันเกิดสงครามโอนินขึ้นเสียก่อน การก่อสร้างเลยหยุดชะงักลง เลยไม่ได้มีการปิดแผ่นเงินอย่างที่ตั้งใจเอาไว้มาจนถึงปัจจุบันนี้
ถ่ายรูปกับศาลาเงินกันจนได้รูปเมมแทบจะเต็มแล้ว ก๊อตก็เดินไปตามทางเดินผ่านสวนญี่ปุ่นสวยๆ ของทางวัดต่อ นี่จะบอกว่าสวนคือยิ่งใหญ่อลังการมากกกก เป็นสวนสีเขียวๆ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ที่ขึ้นปกคลุมไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางบ่อน้ำ น้ำตก ก้อนหินที่ทุกอย่างถูกจัดวางได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ตามพื้นของสวนยังเขียวแบบขั้นสุดด้วยต้นมอสเล็กๆ ที่ขึ้นเรียงรายไปตามแนวดินและชั้นหินมันยิ่งทำให้บรรยากาศของสวนดูร่มรื่นแบบตะโกนม๊าก เวลาเดินผ่านจะได้ยินเสียงธรรมชาติรอบกายผ่อนคลายสุดๆ
ปิดท้ายกันด้วย จุดชมวิวด้านบนของ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) ใครอยากมาหามุมเงียบๆ ชมวิวศาลาเงินท่ามกลางสวนและบรรยากาศสบายๆ ห้อมล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของเมืองเกียวโต บนนี้คือใช่เลย วิวเริ่ดสุดๆ เป็นการชมวิวที่ปิดจบคอมพลีทการมาเที่ยวที่นี่ได้แบบสุขใจเว่อร์ จนก๊อตบอกกับตัวเองเลยว่าถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวเกียวโตอีก นี่ก็จะกลับมาเที่ยว วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) อีกครั้งอย่างแน่นอน ทุกคนมันดีมาก แนะนำเลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡