นิเน็นซากะ (Ninenzaka) และ ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ใครมาเที่ยวเกียวโตแล้วอยากใส่ชุดกิโมโน หรือชุดยูกาตะสวยๆ เท่ๆ แล้วอยากได้ฟีลความเป็นญี่ปุ่นจ๋า เสมือนเราได้ย้อนยุคไปในอดีตล่ะก็ ก๊อตขออนุญาตผายมือมาทาง นิเน็นซากะ (Ninenzaka) และ ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ถนนสายโบร่ำโบราณที่เราจะได้เดินไปบนเส้นทางไม่กี่ร้อยเมตร ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าจากบ้านเรือนสมัยเก่าที่คงสภาพเอาไว้อย่างงดงามให้ได้ชื่นชมกันแบบใกล้ชิด แถมที่นี่เค้ายังมีจุดถ่ายรูปบนทางเดินท่ามกลางวิวบ้านเรือนและเจดีย์สวยๆ ที่เหมือนเป็นแลนด์มาร์คของถนนที่ในแต่ละวันนั้นมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันแบบมหาศาล เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินห้ามพลาดประจำเมืองเกียวโต (Kyoto) เลยแหละ
รู้จักกับ นิเน็นซากะ (Ninenzaka) + ซันเน็นซากะ (Sannenzaka)
นิเน็นซากะ (Ninenzaka) และ ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) เป็นถนนที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ระหว่างวัดคิโยะมิซุ เดะระ (Kiyomizu Dera Temple) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ‘วัดน้ำใส’ กับวัดโคะไดจิ (Kodaiji Temple) โดยถนนทั้งสองสายนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 400 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หากเราได้มาเดินเที่ยวแล้วเราจะได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ท่ามกลางตรอกซอกซอยและบ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
สำหรับชื่อของ นิเน็นซากะ (Ninenzaka) มีเรื่องเล่าว่า มาจากความเชื่อที่คนญี่ปุ่นเค้าบอกต่อๆ กันมาว่า หากใครที่มาสะดุดล้มที่ นิเน็นซากะ (Ninenzaka) คนๆ นั้นจะตายลงในเวลา 2 ปี แต่ที่จริงแล้วผู้คนกลับเล่าว่า แท้จริงแล้วคนในสมัยก่อนอยากจะเตือนให้เดินกันอย่างระมัดระวังนั่นเอง โดยเค้าจะเป็นทางเดินขึ้นเนินไปสู่ถนน ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ซึ่งชื่อของถนนเส้นนี้มาจากเรื่องราวในอดีตของเนเนะ (Nene) ภรรยาของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ขุนนางในสมัย ค.ศ. 1537 – 1598 ซึ่งเนเนะได้เดินขึ้นไปยังเนินเขาแห่งนี้เพื่อไปยังวัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) ด้วยความหวังจะไปขอลูกจากสิ่งศักดิ์ที่นั่น ซึ่งคำว่า San ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการให้กำเนิด คนเค้าเลยเชื่อว่ามันถูกตั้งให้ล้อกับเหตุการณ์ของเนเนะเกี่ยวกับการขอลูกนั่นเอง
สำหรับถนน นิเน็นซากะ (Ninenzaka) และ ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) มีลักษณะเป็นทางเดินที่ปูด้วยหิน โดยว่ากันว่าทางเดินทั้งสองนั้นเก่าแก่พอๆ กับเมืองเกียวโตเลยนะ แบบที่ว่าอยู่คู่เมืองมาอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันนี้ทางการเค้ายังคงบูรณะและปรับปรุงพื้นที่อยู่เสมอ ทำให้เรายังได้สัมผัสกับบ้านเรือนของญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ (Edo) ไล่เรียงมาจนถึงยุคไทโช (Taisho) ในสภาพที่สมบูรณ์แบบและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนได้ไม่ยากเลย
วิธีการเดินทางมาที่ นิเน็นซากะ (Ninenzaka) + ซันเน็นซากะ (Sannenzaka)
รถเมล์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถเมล์ โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้กับ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) มากที่สุดคือ ป้าย Kiyomizumichi ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถเมล์ :
- นิเน็นซากะ (Ninenzaka) + ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) : ให้ขึ้นรถเมล์สาย 206 จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) นั่งมาลงที่ป้าย Kiyomizumichi แล้วเดินต่ออีก 1 นาที
เริ่มเที่ยว นิเน็นซากะ (Ninenzaka) + ซันเน็นซากะ (Sannenzaka)
สำหรับรูทเดินเที่ยวของก๊อตนั้น เราเริ่มเดินจากบริเวณช่วงถนน นิเน็นซากะ (Ninenzaka) ซึ่งบรรยากาศนอกตามสองข้างทางมันเต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเก่าแก่ โดยบ้านบางหลังมีความเป็นไม้ๆ ดูแปลกตา เดินเข้ามาลึกเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนก๊อตได้เดินย้อนยุคกลับเข้ามาในอดีตเมื่อหลายร้อยปีของที่นี่เลยจริงๆ ซึ่งนี่ก็เดินกินลมชมวิว ดูบ้านเรือนไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีบ้านที่เค้าดัดแปลงมาเปิดเป็นคาเฟ่อยู่บ้างประปราย รวมถึงยังมีสตาร์บัคส์ที่อยู่ภายในบ้านญี่ปุ่นทั้งหลังเปิดอยู่ด้วย ใครที่คอแห้งอยากหาอะไรดื่มเย็นๆ สามารถแวะได้เลยจ๊า
หากใครที่เป็นแฟนจิบลิ ตรงถนน ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) เค้ามีร้าน Studio Ghibli Shop ที่ภายในร้านเต็มไปด้วยสารพัดของสะสมของจิบลิ ทั้ง เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา เครื่องครัว โมเดล ฟิกเกอร์ ตุ๊กตา และอื่นๆ อีกละลานตาไปหมด ซึ่งก๊อตว่าใครเป็นสาวกของจิบลิเค้าอยู่ล่ะก็ เดินเข้ามาในนี้กระเป๋าตังค์ได้ล้มละลายกลับออกไปแน่นอน
สำหรับไฮไลท์ของถนน นิเน็นซากะ (Ninenzaka) ที่คนเค้าชอบมาถ่ายรูปกันเลยคือบริเวณ ทางเดินบันไดที่เมื่อเราเดินขึ้นไปแล้วมองย้อนกลับมา จะได้ฟีลเหมือนเมืองญี่ปุ่นเก่าแก่กับถนนเส้นเล็กๆ รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนเก่าๆ ตั้งเรียงราย เหมือนได้ย้อนยุคจริงๆ แต่ก๊อตแนะนำเลยว่าใครจะมาถ่ายรูปตรงนี้ให้สวยปัง ควรมาตั้งแต่เช้าตรู่ไปเลย เพราะพอสายๆ มาคนแตกแตนมาก แทบจะขี่คอกันเพื่อถ่ายรูป ดังนั้นไม่มีทางที่เราจะได้รูปแบบคนน้อยๆ สวยๆ ได้เลย 5555
ไปต่อกันที่ถนน ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ถนนเส้นนี้คนเยอะโคตรๆ พอกัน แต่บรรยากาศสองข้างทางจะคึกคักกว่าด้วยความที่ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขายขนม ไปจนถึงเหล่าสารพัดของปุ๊กปิ๊กและของฝาก ที่ใครอยากหาอะไรกินติดไม้ติดมือแบบไม่จริงจังมาก ถนนเส้นนี้คือตอบโจทย์เลยแหละ แต่เรื่องคนคือต้องสู้หน่อยเด้อ เพราะมันเป็นถนนลาดเอียงที่ต่อไปยังวัดน้ำใสได้ มันเลยมีทั้งคนที่มาเดินถนน และคนที่ตั้งใจไปวัดเดินสวนกันให้ขวักแบบคูณสองเท่าจากถนนเส้นก่อนหน้าที่เราไปมา
โดยไฮไลท์ของถนน ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ตรงปลายถนนจะเป็นมุมฮิตที่คนเค้าตั้งใจมาถ่ายรูปกับบรรยากาศของถนนที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนสมัยก่อน แต่ที่พิเศษเพิ่มเข้ามาคือมีฉากหลังเป็นเจดีย์จากวัดยาสากะ โคชินโดะ (Yasaka Kōshin-dō Temple) ซึ่งใครอยากถ่ายรูปมุมนี้แบบไม่มีคน คำแนะนำเดิมจากก๊อตเลยคือ มาแต่เช้าเด้อ 55555 แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน ฟีลแบบ ‘นี่แหละ! บรรยากาศบ้านเมืองของเกียวโตในสมัยก่อน’
Here Cafe
สำหรับคนที่เดินจนเมื่อยน่อง ต้องการเครื่องดื่มเย็นๆ เข้าสู่ร่างกาย ก๊อตอยากชวนมาลองสั่งเครื่องดื่มจากคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า ‘here’ ตรงถนน ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ที่ก๊อตเองได้มาเจอโดยบังเอิญ ซึ่งร้านเค้าจะมีเคาท์เตอร์บาร์ทำกาแฟและขนมเล็กๆ ตั้งอยู่ภายในร้านที่ขายสินค้าอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นร้านเค้ายังมีมุมเก้าอี้ให้ได้นั่งหลบและพักเมื่อยอยู่ด้านในด้วยนะ
โดยก๊อตลองสั่งกาแฟมาเป็น Affogato Latte ที่เสิร์ฟเป็นไอติมเจลาโต้รสหวานละมุนในกาแฟรสเจ้มจ้น ตัดกันได้อย่างลงตัวและนัวมาก ส่วนอีกเมนูคือ Frozen Soy Milk ไอติมกึ่งโยเกิร์ชทำจากถั่วเหลืองมาในมัทฉะเข้มๆ ที่คนชอบมัทฉะต้องเลิฟ ซึ่งเราสั่งมากินกับ Gluter Free Omelette ขนมหน้าตาเหมือนทาโก้ ด้านในมีไส้มัทฉะและถั่วแดงที่พอกินรวมกันแล้ว หวาน หอม มัน ครบรสกำลังดีเลย ถือว่าความบังเอิญของเราที่มาเจอคาเฟ่นี้ไม่สูญเปล่า เพราะทุกเมนูเค้าครีเอทและทำออกมาได้ดีงามมาก เป็นอีกคาเฟ่ที่ก๊อตให้สามผ่านเลย
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สำหรับคนที่เดินเล่น ถนนนิเน็นซากะ (Ninenzaka) และ ถนนซานเน็นซากะ (Sannenzaka) เสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปต่อกันที่วัด วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) กันด้วยล่ะ เพราะวัดนี้ถือเป็นวัดที่โด่งดังมากที่สุดของเกียวโต ซึ่งเราสามารถเข้าไปขอพรเจ้าแม่กวนอิม รวมถึงได้ชมอาคารไม้หลักขนาดใหญ่ที่เราสามารถมองเห็นวิวเกียวโตได้เกือบทั้งเมืองอีกด้วย
สรุปโดยรวมถนน นิเน็นซากะ (Ninenzaka) + ซานเน็นซากะ (Sannenzaka) ทั้งสองเส้นนี้ถือว่าเป็นถนนที่แทบจะสวยที่สุดในเกียวโตจากที่ก๊อตไปเที่ยวถนนเส้นอื่นๆ มาเลย คือที่นี่กินขาด ด้วยบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นที่เค้าสงวนรักษาไว้อย่างดิบดี ทำให้แต่ละจุดของเส้นถนนนั้นมีเสน่ห์โคตร ยิ่งใครที่แต่งชุดยูกาตะมา หรือกิโมโนมาเดินถ่ายรูปนะ วันนั้นจะต้องเป็นวันที่เรารู้สึกว่า เช่าชุดมาได้คุ้มมาก เพราะสามารถถ่ายรูปได้รัวๆ แทบทุกจุดที่เดินผ่านอะ เริ่ดสุดดด
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡