HashCornerHashCorner
  • Home
  • Travel
    • Thailand
    • Asia
      • China
      • Hong Kong
      • Indonesia
      • Japan
      • Laos
      • Macao
      • Myanmar
      • Singapore
      • South Korea
      • Taiwan
      • Vietnam
    • Europe
      • France
      • Switzerland
      • United Kingdom
    • Oceania
      • Australia
      • New Zealand
    • USA
    • Hotels
  • Lifestyle
    • Lifestyle
    • Recommended
    • Shopping Guide
    • Shop
  • About / Collaboration
  • ไทย
HashCornerHashCorner
  • Home
  • Travel
    • Thailand
    • Asia
      • China
      • Hong Kong
      • Indonesia
      • Japan
      • Laos
      • Macao
      • Myanmar
      • Singapore
      • South Korea
      • Taiwan
      • Vietnam
    • Europe
      • France
      • Switzerland
      • United Kingdom
    • Oceania
      • Australia
      • New Zealand
    • USA
    • Hotels
  • Lifestyle
    • Lifestyle
    • Recommended
    • Shopping Guide
    • Shop
  • About / Collaboration
  • ไทย
0
29K
0
Home Travel Japan Nagano รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
  • Japan
  • Nagano

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

  • 02/07/2025
  • No comments
  • 4 minute read
Total
0
Shares
0
0
0

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

คามิโคจิ (Kamikochi) ใครที่หลงรักภูเขาสวยๆ ฟีลเทือกเขาแอลป์ในยุโรป แต่ใจก็ยังอยากเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ล่ะก็ ก๊อตอยากให้ทุกคนปักหมุดมาที่ คามิโคจิ (Kamikochi) ได้เลย เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเจแปนนีสแอลป์ ที่ให้ไวบ์ไม่ต่างจากเราไปเที่ยวที่สวิส ด้วยบรรยากาศของเมืองเล็กๆ ในหุบเขาท่ามกลางผืนป่าและแม่น้ำ ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ที่ตั้งลดหลั่นกันออกไปนั่นเอง

คามิโคจิ (Kamikochi) เลยขึ้นแท่นเป็นจุดหมายสุดป๊อปของคนรักธรรมชาติไปโดยปริยาย แต่ก่อนจะแพลนตามรอย ก๊อตต้องบอกก่อนว่า คามิโคจิ (Kamikochi) ไม่ได้เปิดให้เราเข้ามาเที่ยวตลอดทั้งปีนะ เพราะเค้าเปิดเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางพฤศจิกายนเท่านั้น ดังนั้น ใครอยากตามรอยมาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมเช็คช่วงเวลา วางแพลนมาให้ดีเด้อ ว่าแล้วก็ตามก๊อตไปเที่ยวด้วยกันเร้วว

Go to top

รู้จักคามิโคจิ (Kamikochi)

คามิโคจิ (Kamikochi) พื้นที่ราบสูงในหุบเขาแม่น้ำอาซูสะ (Azusa River) ทางตอนเหนือของเมืองนากาโน่ (Nagano) มีแนวที่ราบสูงทอดยาวกว่า 15 กิโลเมตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุ ซังกากุ (Chubu Sangaku National Park) ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) ไม่ว่าจะเป็นภูเขานิชิ-โฮทากะดาเกะ (Nishi-Hotakadake), ภูเขาโอคุ-โฮทากะดาเกะ (Oku-Hotakadake) และภูเขามาเอะ-โฮทากะดาเกะ (Mae-Hotakadake) ซึ่งมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,909, 3,090 และ 3,190 เมตร ตามลำดับ ทำให้พื้นที่ของ คามิโคจิ (Kamikochi) นั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเทือกเขาสูงที่สวยสับที่สุดในเมืองนากาโน่เลยก็ว่าได้ และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คามิโคจิ (Kamikochi) กลายเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนญี่ปุ่น รวมไปถึงคนไทยบ้านเราด้วย เนื่องจากทิวทัศน์ของหุบเขานั้นสวยงาม ด้วยภาพของแม่น้ำใสกิ๊งที่ไหลผ่านหุบเขาท่ามกลางผืนป่า และถูกโอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาสุดอลังการ กลายเป็นภาพสุดไวรัลในโซเชียลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมหาศาลให้แห่มาตามรอยกันไม่ขาดสาย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

สำหรับที่มาที่ไปของ คามิโคจิ (Kamikochi) ก๊อตต้องขอเล่าย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 มีข้อมูลระบุเอาไว้ในงานเขียนของ วอลเตอร์ เวสตัน (Walter Weston) มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้เป็นเจ้าของบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่ คามิโคจิ (Kamikochi) และการปีนเขาเพื่อสันทนาการในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) คนแรก โดยเวสตันได้เขียนบันทึกความงามอันเลอค่าของธรรมชาติคามิโคจิในงานเขียนอย่างละเอียด ก่อนจะถูกตีพิมพ์เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ผู้คนได้รู้จักคามิโคจิในวงกว้าง จนที่นี่ค่อยๆ ได้รับการพัฒนาและกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในที่สุด โดยในปี ค.ศ. 1906 เวสตันยังเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้งองค์กรปีนเขาในญี่ปุ่นอย่าง Japanese Alpine Club (JAC) และกลายเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์คนแรกขององค์กรอีกด้วย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

สิ่งที่ต้องรู้เพื่อแพลนเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi)

สำหรับใครที่แพลนมาเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ ที่ คามิโคจิ (Kamikochi) นั้น ก๊อตแนะนำให้วางแพลนเที่ยวมาให้ดีหน่อยนา เพราะในแต่ละปี ที่นี่เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้โดยมีบริการนักท่องเที่ยวทั้งรถบัสรับ-ส่ง และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวช่วงเดียว ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ไปจนถึง 15 พฤศจิกายน ของทุกปี (แต่อาจจะลองเช็คดูวันที่แน่นอนอีกที เพราะแต่ละปีอาจมีการเปลี่ยนแปลง) เนื่องจากช่วงเวลาที่เหลือนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว การเดินทางเข้ามาจะลำบากและค่อนข้างอันตราย จึงไม่มีรถบัสรับส่งเข้ามาในพื้นที่ เพราะปกติแล้วการเดินทางเข้ามายัง คามิโคจิ (Kamikochi) นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถบัสเข้ามาภายในเท่านั้น ทางอุทยานไม่อนุญาตให้ขับรถยนต์เข้ามากันเองเพื่อเป็นกานอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าเอาไว้

ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะเข้าไปยังด้านใน คามิโคจิ (Kamikochi) ไม่ได้นะ แต่ว่าเราต้องเดินเท้าเข้าไปเอง และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน เราต้องลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการติดต่อหากเกิดเหตุสุดวิสัยอีกด้วย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

อย่างไรก็ตาม หากใครมาเที่ยวที่ คามิโคจิ (Kamikochi) แล้วอยากเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ โดยเน้นเดินสำรวจธรรมชาติแบบฉ่ำปอดสำราญใจ ก๊อตแนะนำให้จองโรงแรมเพื่อมานอนใน คามิโคจิ (Kamikochi) อย่างน้อยหนึ่งคืน เพราะเราจะได้มีเวลาเหลือๆ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ให่้รู้ไว้ว่าภายใน คามิโคจิ (Kamikochi) มีโรงแรมให้เลือกพักน้อย ดังนั้นใครอยากจะมาค้างสักคืนควรจองโรงแรมมาล่วงหน้าหลายเดือน เพราะโรงแรมเต็มไวสุดๆ อย่าหาทำว่าจะมาหาที่พักเองเอาหน้างานเพราะเต็มหมดชัวร์แน่นอน ยกเว้นแต่เราจะมากางเต็นท์นอนในลานของอุทยานนะเออ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

วิธีการเดินทางมาที่คามิโคจิ (Kamikochi)

  • รถบัส 🚌: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่ คามิโคจิ (Kamikochi) คือการรถบัส เนื่องจากที่นี่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามา ยกเว้นรถบัสที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้ามารับ-ส่งนักท่องเที่ยวเท่านั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่านั่นเอง ไม่ว่าเราจะมาจากเมืองไหน สามารถดูเส้นทางรถบัสจากด้านล่างได้เลย
    • จากโอซาก้า (Osaka) และ โตเกียว (Tokyo): ให้ขึ้นรถบัสด่วนพิเศษ สายซาวายากะชินชู (Sawayaka Shinshu Express Bus) ที่วิ่งตรงจาก Osaka-umeda (Hankyu 3 Bangai) ในโอซาก้า ที่จะวิ่งผ่านสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Terminal) ที่โตเกียว มาลงที่สถานีรถบัสคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal)
      • ตั๋วซื้อออนไลน์ รถด่วนโตเกียว > คามิโคจิ จาก Klook
    • จากมัตสึโมโต้ (Matsumoto): จากสถานี JR Matsumoto Station ให้นั่งรถไฟสายคามิโคจิ หรือสาย Matsumoto Dentetsu ที่ออกจากชานชาลาหมายเลข 7 นั่งมาลงสุดสายที่สถานีชินชิมะชิมะ (Shin-Shimashima Station) จากนั้นต่อรถบัสเข้าไปยัง คามิโคจิ (Kamikochi) ได้เลย
    • จากนากาโน่ (Nagano): ให้ขึ้นรถบัส เซะเซะระกิ (Seseragi Bus) นั่งมาลงที่ คามิโคจิ (Kamikochi) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง
    • จากทาคายาม่า (Takayama): สำหรับคนที่เริ่มต้นเดินทางจากฝั่งคันไซ ให้นั่งรถบัสโนฮิบัส (Nouhibus) จากทาคายาม่า (Takayama) นั่งมาลงที่ฮิรายุออนเซ็น หลังจากนั้นให้ต่อรถบัสไปที่คามิโคจิได้เลย
  • เช่ารถขับ 🚙: ใครที่เน้นสะดวก ไม่อยากเสียเวลาไปรอขึ้นรถบัสตามจุดต่างๆ การเช่ารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แนะนำ ซึ่งเราสามารถเช่ารถจากเมืองไหน ในญี่ปุ่นก็ได้ เค้าจะเอารถมาส่งเรา และสามารถขับเที่ยวได้ตามใจชอบได้เลย แต่ต้องบอกก่อนว่าเราไม่สามารถขับรถส่วนตัวเข้าไปถึงด้านใน คามิโคจิ (Kamikochi) ได้ โดยเราจะต้องนำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถด้านนอก แล้วต่อรถบัสเข้าไปเท่านั้น

เช่ารถขับเที่ยวที่ญี่ปุ่น

ใครที่อยากขับรถเที่ยวในญี่ปุ่น ก๊อตบอกเลยว่าทั้งโคตรสนุก สะดวกสบาย อยากไปไหนก็ได้ไป ยิ่งถ้าใครที่มาเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือมาเที่ยวกับครอบครัว การเช่ารถขับกันเองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุด ซึ่งก๊อตบอกเลยว่าการเช่ารถที่ญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ยุ่งยากเลย แค่เราต้องมีใบขับขี่สากลแบบหนึ่งปีที่ทำมาจากประเทศไทย พาสปอร์ต และบัตรเครดิต เพียงแค่นี้ เราก็สามารถเช่ารถได้เล้ย 

สำหรับการจองเช่ารถนั้น เราสามารถจองผ่านเว็บไซต์ของบริษัทเช่ารถได้โดยตรง เช่น Nippon Rentacar, Toyota, Nissan, Avis และ Orix และก็ยังมีหลายเว็บไซต์ที่เป็นเอเจนซี่ท่องเที่ยว (OTA) หลายเจ้าที่ให้บริการจองรถที่เราสามารถเปรียบเทียบราคาจากบริษัทเช่ารถได้หลากหลายเจ้าอีกด้วย ซึ่งการจองผ่าน OTA บางเจ้าก็มีข้อดีที่มี Customer Service ภาษาไทย ที่เราสามารถติดต่อได้นั่นเอง ใครสะดวกแบบไหนก็ลองดูเว็บแต่ละเว็บได้เล้ย

🚙✨ ดูและจองรถเช่า [ผ่าน Klook] / [ผ่าน Trip.com]

Go to top

เที่ยวที่ คามิโคจิ (Kamikochi) พักที่ไหนดี?

ก๊อตต้องบอกก่อนว่าที่พักใน คามิโคจิ (Kamikochi) นั้นมีตัวเลือกไม่เยอะและมีน้อย จะมีโรงแรมทำเลดีๆ อยู่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น และแน่นอนว่าราคาต่อคืนก็แรงระดับหมื่นอัพแทบทั้งหมด ดังนั้น ก๊อตแนะนำว่าให้รีบจองที่พักล่วงหน้านานๆ อย่างก๊อตเองยังจองล่วงหน้ามาก่อนถึง 4 เดือนเลย ส่วนใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้ง ที่นี่เค้าก็มีลานกางเต็นท์ให้เรากางนอนได้ด้วยเช่นกันนะ อาจจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกที

โซนสะพานกัปปะ (Kappa Bridge)

สำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบาย ใกล้จุดท่องเที่ยวหลัก และเดินไปไหนมาไหนง่าย ก๊อตแนะนำให้มาพักแถวๆ สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) เพราะบริเวณนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว ทั้งใกล้สถานีรถบัส ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว สถานีตำรวจ ศูนย์รักษาพยาบาล และร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำตั้งอยู่ด้วย นอกจากนี้ ตรงนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถปักหมุดเริ่มต้นเข้าไปสำรวจพื้นที่ธรรมชาติใน คามิโคจิ (Kamikochi) ได้ง่ายมากที่สุดนั่นเอง ใครที่ชอบความสะดวกในการเดินทาง สามารถพักแถวนี้ได้เลย

  • ที่พักและโรงแรมแนะนำ: Gosenjaku Hotel Kamikochi / Hotel Shirakaba-So / The Parklodge Kamikochi

โซน Yamanokami (Mountain God)

สำหรับคนที่จองโรงแรมแถวๆ สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) ไม่ทันนั้น อีกโซนที่ก๊อตแนะนำเลย คือ บริเวณ Yamanokami (Mountain God) ซึ่งเราสามารถเดินเท้าจากโรงแรมย่านนี้เพื่อไปเที่ยวยังจุดอื่นๆ ได้เลย ใครที่อยากพักค้างคืนที่ คามิโคจิ (Kamikochi) แล้วจองที่พักอื่นๆ ไม่ทันสามารถพักแถวนี้ได้เลย

  • ที่พักและโรงแรมแนะนำ: Kamikochi Onsen Hotel / Lemeiesta Hotel
Go to top

มาเที่ยว คามิโคจิ (Kamikochi) ช่วงไหนดี?

ต้องบอกก่อนว่าบรรยากาศของ คามิโคจิ (Kamikochi) ในแต่ละช่วงเวลานั้นให้บรรยากาศของธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาล ทั้งใบไม้เขียวฉ่ำ หรือใบไม้เปลี่ยนสีพีคๆ ก่อนที่หลุดร่วงโรยก่อนเข้าฤดูหนาว ใครอยากไปช่วงไหนให้จิ้มเลือกได้เลย ส่วนช่วงเวลาที่ก๊อตไปในรีวิวนี้คือวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคเหลือง-ส้มสวยที่สุดเลยล่ะ ใครชอบแบบนี้ก็อาจจะมาช่วงราวๆ นี้ได้ แต่อย่าเกินสิ้นเดือนตุลาคมนะ เพราะช่วงพฤศจิกายน ใบไม้เริ่มร่วงเหลือแต่กิ่งไม้หมดแล้ว

  • เดือนเมษายน-เดือนกันยายน ⭐️: ช่วงใบไม้สีเขียวขจี ฟีลสดใส
  • เดือนตุลาคม ⭐️⭐️: ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะพีคสุดช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
  • เดือนพฤศจิกายน: เป็นช่วงสุดท้ายของการเปิดคามิโคจิ (Kamokochi) ที่ใบไม้เริ่มร่วงโรย วีคแรกของเดือนยังพอได้ แต่ถ้าวีคที่สองนั้น ใบไม้แทบจะไม่มีแล้ว และอาจจะมีหิมะตกด้วย ใครอยากได้ฟีลหิมะก็มาช่วงก่อนเค้าปิดได้เลย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

แพลนเที่ยวใน คามิโคจิ (Kamikochi)

วันรูทเดินเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi)
1– สะพานกัปปะ (Kappa Bridge)
– เดินเทรล: สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) > บึงเมียวจิน (Myojin Pond)
– บึงเมียวจิน (Myojin Pond)
– ร้านคะมอนจิโกะยะ (Kamonjigoya)
– สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge)
– สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) > สะพานกัปปะ (Kappa Bridge)
2– เดินเทรล: Kamikochi Onsen Hotel > บึงทะชิโระ (Tashiro Pond)
– บึงทาชิโระ (Tashiro Pond)
– บึงไทโช (Taisho Pond)
– Kamikochi Restaurant ที่ Kamikochi Bus Terminal
ที่พัก– Kamikochi Onsen Hotel
จอง + เปรียบเทียบราคา Agoda / Expedia / Trip / Klook
Go to top

วันที่ 1: สะพานกัปปะ (Kappa Bridge)

หากถามก๊อตว่าจุดไหนใน คามิโคจิ (Kamikochi) ที่มีนักท่องเที่ยวมากระจุกตัวกันเยอะมากที่สุด นี่ยกให้ สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) เค้าเลย ด้วยความที่เป็นสะพานแขวนสวยๆ ที่พาดข้ามแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ที่ถือแม่น้ำสายสำคัญของคามิโคจิที่ไหลคดเคี้ยวไปตามแนวของหุบเขา เมื่อเราขึ้นไปยืนบนสะพานจะสามารถมองออกไปเห็นวิวเหล่าเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) ได้แบบพาโนรามาสุดอลังการราวกับภาพวาด จนนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตลอดเวลาที่ก๊อตเดินอยู่บนสะพานนั้น แทบทุกมุมสะพานต่างอัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด เพราะวิวรอบตัวก๊อตตอนนี้คือสวยจึ้งและตรึงให้เราต้องยืนดื่มด่ำด้วยตาเนื้อแบบนานสองนาน นอกจากนี้ ทไม่ไกลจากที่ตั้งของสะพานยังมีสถานีรถบัส โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกอยู่อีกด้วย ทั้งหมดนี้เลยทำให้ที่นี่เป็นจุดที่คนพลุกพล่านนั่นเอง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงรีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงรีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

สำหรับโครงสร้างของ สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) นั้น เค้ามีลักษณะเป็นสะพานไม้ ด้วยความที่เสมือนเป็นจุดป็อปมากที่สุดของที่นี่ สะพานนี้เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของคามิโคจิไปแบบไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ตัวสะพานยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายเรื่อง “Kappa” ในปี ค.ศ. 1927 ของ Ryunosuke Akutagawa ซึ่งเนื้อหาในนิยายนั้นได้บรรยายถึงตัวเอกที่ออกเดินทางไปยังคามิโคจิ และได้เข้าไปยังดินแดนลึกลับแห่งกัปปะ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์วิญญาณแห่งสายน้ำอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้ผู้คนรู้จักคามิโคจิมากยิ่งขึ้นไปอีก

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) จึงเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสุดฮิตของที่นี่ที่ถ่ายรูปสวยมาก ด้วยทิวทัศน์ของต้นน้ำที่เราสามารถมองออกไปเห็นยอดเขาโฮทากะ (Hotaka Mountain) และภูเขาเมียวจินดาเกะ (Mt. Myojindake) ห้อมล้อมผืนป่าเอาไว้ และหากเรามองไปตามแม่น้ำที่ไหลวนลงไปเรื่อยๆ ก็ยังเห็นวิวของยอดเขายาเกะดาเกะ (Mt. Yakedake) อีกด้วย โดยรอบๆ ตัวสะพานนั้น นอกจากจะมีร้านรวงให้มาซื้อของกันแล้ว เค้ายังมีมุมกินข้าวที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งแต่ละจุดนั้นจะมีเหล่าคนญี่ปุ่นห่อเบนโตะมานั่งปิกนิกกินกันแบบชิลๆ บริเวณนี้เลยเป็นเหมือนจุดสตาร์ทก่อนออกเที่ยวใน คามิโคจิ (Kamikochi) นั่นเอง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

เดินเทรล: สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) > บึงเมียวจิน (Myojin Pond)

หลังจากเราเดินออกจากสะพานกัปปะ (Kappa Bridge) เพื่อมุ่งหน้าไปยังบึงเมียวจิน (Myojin Pond) เส้นทางช่วงแรกจะพาเราเดินเลียบไปตามแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ที่สามารถมองออกไปเห็นวิวของเทือกเขาในมุมที่ต่างออกไปจากตอนยืนดูอยู่บนสะพาน ภาพยอดเขามากมายที่เริ่มมีธารน้ำแข็งเกาะตัวอยู่ด้านบน ตัดกับสีสันอันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสีและสายน้ำอันใสแจ๋ว เป็นบรรยากาศที่ปลุกความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจนรู้สึกว่าให้เดินแบบนี้อีกเป็นกิโลๆ ใจเราก็ยังไหว

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

พอเดินต่อมาเรื่อยๆ เส้นทางเริ่มพาเราเข้าสู่ผืนป่าด้านใน โดยทางเดินจะเปลี่ยนเป็นสะพานไม้ไม่ใหญ่มากที่ทอดยาวลึกลัดเลาะเข้าไปตามแนวป่าที่บรรยากาศเริ่มสงบมากยิ่งขึ้น และระหว่างทางเดินนี่เอง หากใครได้ยินเสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊งขึ้นมาก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะนั่นคือเสียงของ ‘กระดิ่งไล่หมี’ ซึ่งก่อนเราเข้ามา เจ้าหน้าที่เค้าก็แนะนำให้ซื้อกระดิ่งติดตัวไว้ เพราะในป่านี้มีน้องหมีดำอาศัยอยู่ ซึ่งเสียงกระดิ่งจะทำให้น้องหมีรู้ว่ามีคนอยู่และไม่เข้ามาใกล้เรานั่นเอง แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อกระดิ่งมาแบบก๊อตก็ไม่ต้องกังวล เพราะตามจุดต่างๆ เค้าจะมีกระดิ่งเล็กๆ แขวนให้เราได้สั่นส่งเสียงกันเป็นระยะๆ ดังนั้น ตลอดทางเดินนอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้ว เลยได้ฟังเสียงกรุ๊งกริ๊งประกอบเป็นซาวด์แทร็กตลอดทางเลยแหละ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

พอเราเริ่มเดินเข้าป่ามาเรื่อยๆ สองข้างทางก็ปรากฏภาพของลำธารและแอ่งน้ำอยู่รายรอบ แกร น้ำที่เราเห็นกันนี้ของจริงใสมาก ใสจนเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ข้างๆ ฝูงปลาแบบชัดเป๊ะ ยิ่งเดินถึงจุดที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมพื้นที่ด้วยแล้ว เราจะเห็นเงาของต้นไม้สะท้อนลงสู่ผิวน้ำ เกิดเป็นภาพวิวอีกแบบที่สวยลืมไม่แพ้บริเวณก่อนหน้าที่เดินกันมาเลย และพอก๊อตเดินพ้นออกมาจากแนวป่าก็จะเริ่มกลับเข้าสู่เส้นทางเดินเลียบแม่น้ำอาซุสะเช่นเคย ซึ่งวิวก็จะเป็นภาพของต้นไม้เขียวๆ ที่บางต้นก็เปลี่ยนไปเป็นสีส้ม ซึ่งนี่ว่าก็เพลินตาไปอีกแบบ ส่วนตัวก๊อตคิดว่าวิวระหว่างเส้นทางไปยังบึงเมียวจิน (Myojin Pond) เราได้เห็นความหลากหลายของธรรมชาติเยอะมาก ใครชอบชมนกชมไม้นี่น่าจะชอบ ส่วนคนที่พาเด็กหรือผู้สูงอายุมาด้วย คือเดินเข้ามาได้เลย ทางเดินเข้าทำดีแล้เดินสบายมาก

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Go to top

บึงเมียวจิน (Myojin Pond)

บึงเมียวจิน (Myojin Pond) ใช้เวลาเดินจากสะพานกัปปะราวๆ 1 ชั่วโมง ก๊อตก็มาถึง บึงเมียวจิน (Myojin Pond) ที่น้ำใสแจ๋วราวกับคริสตัล ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นอยู่รอบๆ โดย บึงเมียวจิน (Myojin Pond) ตั้งอยู่ในเขตของศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka-jinja Okunomiya) รวมถึงมีบ้านพัก ร้านค้า อยู่ในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ส่วนใหญ่คนคนที่เค้าตั้งใจเดินมาเที่ยวในบึงแห่งนี้ นอกจากจะมาดูทิวทัศน์ธรรมชาติสวยๆ แล้ว คนส่วนใหญ่ยังมาสักการะบูชา ศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka-jinja Okunomiya) ที่ตั้งอยู่ ณ บึงเมียวจินแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งใครจะเข้าไปในศาลเจ้าจะต้องเสียค่าเข้าเพิ่มเติมคนละ 300 เยน (~75 บาท) ซึ่งก๊อตแนะนำเลยว่าให้เข้ามา เพราะด้านในเราจะได้เดินชมวิวรอบๆ บึงในอีกมุมที่สวยไม่แพ้กัน ด้วยบรรยากาศของเห็นแอ่งน้ำที่ดูเงียบสงบ ตรงกลางมีสะพานไม้ทอดยาวออกไปถึงปลายทางที่เป็นจุดตั้งศาลเจ้าขนาดเล็กๆ ถือเป็นภาพที่สวยและสงบในคราเดียวกัน และหากใครมาในช่วงวันที่ 8 ตุลาคมของทุกๆ ปี ในบึงน้ำแห่งนี้เค้าจะทำพิธีกรรมแบบชินโต ที่เรียกกันว่า โอะฟุเนะมัตสึริ (Ofune Matsuri) หรือ “เทศกาลเรือ” พิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อนแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าและขออวยพรให้กับเหล่านักเดินทางใน คามิโคจิ (Kamikochi) ให้ปลอดภัยกันถ้วนหน้าอีกด้วย ถือเป็นอีกเทศกาลที่ใครมาช่วงเวลาดังกล่าวไม่ควรพลาดเลย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

โดยรวมของ บึงเมียวจิน (Myojin Pond) ก๊อตยกให้เป็นอกหนึ่งจุดที่สวยที่สุดของ คามิโคจิ (Kamikochi) เลยก็ว่าได้ บรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ เดินเล่นเพลินๆ จนรู้สึกใจฟูแบบไม่รู้ตัว เป็นอะไรที่ดีย์งามสุดๆ ส่วนใครที่ลังเลว่าจะจ่ายเงิน 300 เยนเพื่อเข้าไปยังศาลเจ้าหรือไม่นั้น แกรอย่าลังเลไป ให้จ่ายแล้วเดินเข้ามาได้เลย เพราะวิวที่ได้มันพิเศษและคุ้มค่าแก่ 300 เยนที่เราเสียไปแน่นอน

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

ร้านคะมอนจิโกะยะ (Kamonjigoya)

หากใครที่เดินเที่ยวและขอพรศาลเจ้าใน บึงเมียวจิน (Myojin Pond) กันเสร็จแล้ว ด้านหน้าเค้ามีร้านอาหารเก่าแก่ที่หลายคนย้ำหนักหนาว่าต้องมากินให้ได้กับ ร้านคะมอนจิโกะยะ (Kamonjigoya) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สามารถจับต้องได้ โดยร้านเค้าจะเป็นเพิงไม้เล็กๆ ให้เราเข้าไปนั่งห้อยขาชมวิวของบึงน้ำ พร้อมกับอาหารขึ้นชื่ออย่าง ปลาอิวานะย่างเกลือ (Iwana Fish) ที่เขาจับกันสดๆ จากบึงตรงหน้า แล้วนำมาเสียบไม้ย่างเตาถ่านร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ความดีงามของเมนูนี้คือเค้าเป็นปลาย่างที่เราสามารถกินได้ทั้งตัวโดยปลาเค้าย่างมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวเพลินทั้งตัวแบบไร้ก้าง ส่วนรสชาติก็คือปลาย่างที่กรอบอร่อย เหมาะมากสำหรับการเป็นอาหารกลางวันที่เราได้พักเหนื่อยจากการเดินเทรลมาแล้วครึ่งวันนั่นเอง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Go to top

สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge)

ใครที่เตรียมเบนโตะมาเอง ก๊อตแนะนำให้มาหาที่นั่งปิกนิกกันแถวๆ สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) วิวแม่น้ำตรงนี้จะกว้างและใสกิ๊งกว่าตรงสะพานกัปปะอีกนะ นั่งกินข้าวไปดูวิวไปคือฟินสุดๆ ใครที่กินอิ่มแล้วสามารถเดินย่อยออกกำลังเบาๆ ตามเส้นทางใต้สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) ได้ด้วย ตรงนี้ถือเป็นอีกจุดที่สวยเอาเรื่อง กินไปดูวิวไป บอกเลยว่าเจริญอาหารแน่นอน

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️

ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Go to top

เดินเทรล: สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) > สะพานกัปปะ (Kappa Bridge)

สำหรับขากลับนั้น เราจะไม่เดินย้อนทางเดิมนะ แต่เราจะข้ามสะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) แล้วเดินย้อนเลียบแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) อีกฝั่งเพื่อย้อนกลับแทน ซึ่งเส้นทางฝั่งนี้จะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและมองเห็นวิวภูเขาได้ไกลสุดสายตามากกว่า บรรยากาศก็สบายๆ เดินรับลมชิลๆ ตลอดเส้นทางมีแนวต้นสนสูงเรียงราย ซึ่งแต่ละต้นสูงชะลูดสุดๆ โดยช่วงที่ก๊อตไป ใบสนพากันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า เราเลยไม่พลาดลั่นชัตเตอร์กันรัวๆ ซึ่งรูปที่ได้นั้นคือสวยไม่ไหว แม้ว่าในอีกไม่ช้าใบสนสวยๆ เหล่านี้เค้าจะผลิโรยร่วงหล่นลงมา แต่บรรยากาศที่ก๊อตกำลังได้สัมผัสและเห็นอยู่ในขณะนั้น มันสวยงามและประทับใจมากจริงๆ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

และด้วยความที่มันใกล้มืดด้วย เราเลยรีบเดินกลับลงมาจนถึงสะพานกัปปะอีกรอบ ซึ่งช่วงเย็นๆ คนเริ่มน้อยลง ก๊อตเลยหยุดถ่ายรูปกับสะพานกันอีกสักรอบหน่อย เนื่องจากคนน้อยลงเยอะจากช่วงเช้าที่ทัวร์ลง โดยก๊อตแนะนำให้ทุกคนลองมาเดินริมแม่น้ำด้านล่างช่วงเย็น แสงสุดท้ายของวันที่สาดส่องกระทบแนวเขาจนกลายเป็นสีส้ม ตัดกับสีเขียวของต้นไม้และสีฟ้าของแม่น้ำ มันคือวิวปิดวันแรกในคามิโคจิ (Kamikochi) ที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ซึ่งหลังจากได้รูปหนำใจแล้วเราก็ตบเท้าเดินกลับที่พัก เป็นอันจบวันแรกอย่างสมบูรณ์

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Go to top

Kamikochi Onsen Hotel

สำหรับที่พักใน คามิโคจิ (Kamikochi) ที่เรามานอนกันในครั้งนี้คือ Kamikochi Onsen Hotel โดยก๊อตเลือกพักแบบเรียวกังญี่ปุ่นแท้ๆ ปูฟูกนอนบนเสื่อทาทามิ แต่ถ้าใครไม่อินกับสไตล์นี้ เค้าก็มีห้องแบบเตียงบ้านเราให้เลือกด้วยนะ โดยราคาค่าที่พักที่ก๊อตได้มาอยู่ที่ 11,000 บาท / คืน ซึ่งเป็นโรงแรมที่ถูกที่สุดเท่าที่ก๊อตหาได้ในตอนนั้นแล้ว

ใครที่พักที่นี่เหมือนก๊อต การเดินทางมายังโรงแรมคือเราต้องลงที่ป้ายรถเมล์ “Teikoku Hotel” ตรง Kamikochi Imperial Hotel จากนั้นเดินเท้ามาเรื่อยๆ ตามทางเดินข้างๆ โรงแรมประมาณ 800 เมตรก็ถึงแล้ว สำหรับใครที่ลากกระเป๋าใบใหญ่มาก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางเดินมายังโรงแรมเป็นทางเลียบที่ค่อนข้างดี สามารถลากกระเป๋าได้สบายๆ เลย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

สำหรับห้องพักที่ก๊อตนอนนั้น ถือว่ามีสเปซกว้างกำลังดี ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังสามารถเปิดหน้าต่างออกไปดูวิวของแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ที่ผ่านอยู่ด้านหน้าของโรงแรมได้ด้วย และที่ก๊อตชอบมากคือ Wi-Fi ที่นี่คือแรงจัดๆ ใครมีงานติดตัวมาด้วยไม่ต้องห่วง เล่นเน็ต ตอบเมล ทำคอนเทนต์ได้ลื่นหัวแตก ส่วนห้องน้ำในห้องพักจะเป็นแค่ห้องส้วมเท่านั้น เราต้องไปอาบน้ำกันที่ออนเซ็นรวมของโรงแรม ซึ่งเป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากคามิโคจิ ซึ่งก๊อตบอกเลยว่าหลังจากที่เราเที่ยวมาทั้งวันแล้วได้แช่ออนเซนนี่มันช่างดีต่อใจเหลือเกิน

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ส่วนเรื่องอาหารนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแพ็คเกจส่วนมากมาเป็นแบบ Half-board ที่รวมอาหารเย็นแบบฟูลคอร์ส และอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ถ้าใครที่ยังไม่ได้ลิ้มลองปลาอิวานะล่ะก็ เราสามารถมาลองกินที่นี่ได้ในไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้าได้เลย แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่อร่อยเท่าร้านที่เราไปมานะ

โดยรวมแล้วก๊อตค่อนข้างประทับใจ Kamikochi Onsen Hotel แม้จะเป็นโรงแรมเก่าที่ไม่ได้โมเดิร์นเก๋ไก๋เหมือนโรงแรมอื่น แต่เรื่องการบริการนั้นบอกเลยว่าประทับใจ ใครที่กำลังหาที่พักและเล็งๆ โรงแรมนี้อยู่ ก๊อตว่าโอเคเลยล่ะ

จอง + เปรียบเทียบราคา Kamikochi Onsen Hotel ผ่าน Agoda / Expedia / Trip / Klook

Go to top

วันที่ 2: เดินเทรล: Kamikochi Onsen Hotel > บึงทะชิโระ (Tashiro Pond)

เช้าวันที่สองใน คามิโคจิ (Kamikochi) อากาศยังเย็นสบาย หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก๊อตก็ออกจากโรงแรมเพื่อเดินไปยัง บึงทะชิโระ (Tashiro Pond) ระหว่างทางเราจะข้ามสะพานโอทากะ (Hotaka Bridge) และสะพานโฮชิโระ (Hoshiro Bridge) ที่อยู่ติดกัน ซึ่งวิวบอกสะพานนั้นก็สวยเอาเรื่องกับสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ อยู่ด้านล่างโดยมียอดเขาตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง อีกทั้งตรงจุดนี้เรายังเห็นโรงแรมที่เราพักตั้งลิบลับท่ามกลางหุบเขาอยู่ด้วย มันสวยจริงๆ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

หลังจากนั้น ก๊อตเดินเลียบแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) สวนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาแบบวันเดย์ทริป ซึ่งส่วนใหญ่มักจะลงรถเมล์ตรงป้ายบึงไทโช (Taisho Pond) แล้วเดินย้อนขึ้นมา ระหว่างทางช่วงนี้ บอกเลยว่าดีและเดินชิลไปกับวิวสองฝั่งทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวสะพรั่ง เดินแล้วเหมือนโดนรีเฟรชหัวใจได้เป็นอย่างดีเลย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

บึงทาชิโระ (Tashiro Pond)

เดินกันมาสักพักก๊อตก็มาถึง บึงทาชิโระ (Tashiro Pond) อีกหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของ คามิโคจิ (Kamikochi) โดยเค้าจะเป็นสระน้ำขนาดเล็กล้อมรอบด้วยพื้นที่ลุ่ม ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังบึงไทโช (Taisho Pond) และที่ก๊อตบอกว่าเค้าเป็นจุดชมวิวที่สวยนั้นไม่เกินจริงเลย เพราะบรรยากาศของที่นี่คือภาพของผืนน้ำใสราวกับกระจกที่สะท้อนเงาท้องฟ้าและภูเขาสูงราวกับมีจิตรกรมากฝีมือมาละเลงสีสันลงไปบนผืนน้ำ รอบๆ ของบึงรายล้อมไปด้วยดอกไม้ที่ขึ้นตามฤดูกาลอย่าง ดอกอาซาเลียญี่ปุ่น (Rhododendron Japonicum) และดอกซากิสุเกะ (Eriophorum Gracile) ที่บานสะพรั่งแต่งแต้มสีสันให้กับ บึงทาชิโระ (Tashiro Pond) ออกมาเป็นไวบ์ที่อบอุ่นหนุบหนับใจมาก

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ความพิเศษของ บึงทาชิโระ (Tashiro Pond) คือ ต่อให้เข้าสู่ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บจนบึงอื่นๆ กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว แต่น้ำในบึงแห่งนี้กลับไม่เคยแข็งตัวเลย เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของ บึงทาชิโระ (Tashiro Pond) มีน้ำพุร้อนอยู่ด้านใต้ ดังนั้นเวลาฤดูร้อนมาถึงน้ำในบ่อก็จะเย็นสบาย แต่พอเข้าสู่ฤดูหนาวน้ำก็จะไม่เย็นมากจนเกินไปนั่นเอง เป็นความอะเมซิ่งที่เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติที่มหัศจรรย์มาก ใครมาเที่ยว คามิโคจิ (Kamikochi) คือต้องเดินมาที่นี่กันเด้อ ไม่อยากให้พลาดเลย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Go to top

บึงไทโช (Taisho Pond)

มาถึงบึงสุดท้ายของทริปนี้กับ บึงไทโช (Taisho Pond) บึงขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจาก บึงทะชิโระ (Tashiro Pond) มากนัก ที่นี่คือบึงตัวท็อปอันดับต้นๆ ของ คามิโคจิ (Kamikochi) ในเรื่องวิวที่สวยสับแบบวัวตายควายล้มของจริง ด้วยภาพของผืนน้ำใสขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ พร้อมมีเทือกเขาสูงเป็นฉากหลัง ในวันที่อากาศเป็นใจ ทุกอย่างจะสะท้อนเงาลงบนผิวน้ำนิ่งๆ เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยจับใจชนิดที่ว่ากล้องถ่ายทอดความงามได้ไม่เท่าตาเห็นจริงๆ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

โดย บึงไทโช (Taisho Pond) นั้น เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกดาเกะ (Mt. Yakedake) ในปี ค.ศ. 1915 จนทำให้เกิดเป็นแอ่งขนาดใหญ่ ก่อนจะกลายมาเป็นบึงน้ำแห่งนี้ ซึ่งว่ากันว่าในช่วงฤดูร้อน เราสามารถมาพายเรือเล่นใน บึงไทโช (Taisho Pond) ท่ามกลางวิวของธรรมชาติและภูเขาไฟยาเกดาเกะ (Mt. Yakedake) ได้อีกด้วย หรือถ้าใครเดินมาในช่วงเช้าๆ อาจจะได้เห็นภาพของหมอกขาวๆ ที่ลอยฟูฟ่องอยู่เหนือผิวน้ำด้วยนา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแบบที่ว่ามาถึง คามิโคจิ (Kamikochi) แล้วจะต้องเดินตรงปรี่มาชื่นชมความงามของธรรมชาติของที่นี่กันแทบทุกราย

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

Kamikochi Restaurant ที่ Kamikochi Bus Terminal

พอเดินสำรวจ บึงไทโช (Taisho Pond) จนเป็นที่พอใจแล้ว เราสามารถขึ้นรถเมล์ตรงป้าย บึงไทโช (Taisho Pond) เพื่อนั่งกลับไปยัง Kamikochi Bus Terminal ได้ และด้วยความที่เราใช้พลังเดินช่วงเช้าเยอะ เลยขอแวะเติมพลังกับการหาอะไรกินที่ Kamikochi Restaurant ร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้านขายของฝากใกล้กับทางขึ้นรถบัสกันก่อน

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

โดยอาหารที่ขายจะเป็นเมนูเซตที่มีให้เลือกกินกันหลากหลายเมนู ที่ก๊อตกินนั้นคือ เซตไก่ทอด ราคา 1,800 เยน (~440 บาท) ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในที่กัดเข้าไปแล้วชุ่มฉ่ำมาก และอีกเมนูคือ ข้าวหน้าแซลม่อนที่ราคาเท่ากันเลย โดยรวมทั้งสองเมนูที่ก๊อตเลือกนั้น รสชาติกลมกล่อม ถูกปากเลยแหละ เป็นอีกร้านที่เรากินกันได้แบบจุใจสบายกระเป๋ามาก ใครที่เดินเที่ยวมาเหนื่อยๆ ในครึ่งเช้า สามารถมาฝากท้องที่นี่ได้เด้อ

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

กินเสร็จก๊อตก็เดินกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วมาที่ Kamikochi Bus Terminal อีกครั้งเพื่อขึ้นรถบัสกลับโอซาก้า เป็นอันจบทริปคามิโคจิของจริง แต่ก่อนเราจะไปถึงโรงแรม นี่ดันไปปะหน้ากับเหล่าน้องลิงแก้มแดง ก้นแดงที่นั่งอ้วนตุ๊บตุ๊บอยู่ตามสองข้างทางเสียก่อน ซึ่งน้องลิงที่นี่น่ารักมาก เค้ามีความเป็นลิงขี้เกรงใจ เพราะนั่งนอบน้อมมองคนเดินผ่านไปมาตาแป๋วเชียว แถมยังยอมให้ถ่ายรูปแบบไม่โมโหเลยแหละ 555555

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Go to top

สรุปเที่ยว คามิโคจิ (Kamikochi)

สำหรับ คามิโคจิ (Kamikochi) ส่วนตัวก๊อตคิดว่าเค้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของญี่ปุ่นที่คนรักการสัมผัสธรรมชาติสวยๆ นั้นต้องมาเลย ยิ่งใครที่ชื่นชอบการเที่ยวภูเขาสวยๆ ยิ่งพลาดไม่ได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้เค้าเต็มไปด้วยภูเขาที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งการเที่ยวใน คามิโคจิ (Kamikochi) นั้นก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่มาพร้อมแม่น้ำ ลำธาร ต้นไม้ รวมไปถึงทิวทัศน์มากมายที่ทั้งหมดนี้มีให้เราได้มาสัมผัส หรือแม้แต่การกางเต็นท์นอน ที่นี่ก็มีพื้นที่พร้อมให้ทุกคนได้มาสัมผัสกัน
หากถามก๊อตว่าควรมาเที่ยวที่ คามิโคจิ (Kamikochi) ดีไหม? คำตอบมันชัดอยู่แล้วว่ามาเลย แม้เราจะขับรถเข้าไปถึงด้านในไม่ได้ แต่การเดินทางเข้ามาที่นี่ก็ค่อนข้างสะดวกสบาย แต่อาจจะต้องแลกกับเวลาในการเดินทางที่ยาวนานนิดนึง ใครที่กำลังแพลนจะมาเที่ยวแล้วพาคุณพ่อคุณแม่มาด้วย ก๊อตแนะนำให้พาท่านมาเดินชมความสวยงามของที่นี่ได้เช่นเดียว ทางเดินดีไม่มีปีนเขาใดๆ และสำหรับใครที่อยากมาเที่ยวแบบถูกเวลา ให้มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไปได้เลย

Go to top

อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗

ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย

ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)

1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)

9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)

18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)

32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)

38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)

39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

⸺⸺⸺⸺

ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)

44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)

46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)

⸺⸺⸺⸺

แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ

47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS

Go to top

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025

⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
>
  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)

รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
รีวิว คามิโคจิ (Kamikochi) x นากาโน่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Related Topics
  • ญี่ปุ่น
  • รีวิวต่างประเทศ
Related Stories
รีวิว อิบารากิ (Ibaraki) x ญี่ปุ่น ขับรถเที่ยวฮีลใจ
Read
  • Ibaraki
  • Japan

รีวิว อิบารากิ (Ibaraki) x ญี่ปุ่น ขับรถเที่ยวฮีลใจ

  • 23/06/2025
15 ที่พัก-เรียวกัง-โรงแรมวิวภูเขาไฟฟูจิ คาวากุจิโกะ สุดปังปี 2025
Read
  • Kawaguchiko
  • List

15 ที่พัก-เรียวกัง-โรงแรมวิวภูเขาไฟฟูจิ คาวากุจิโกะ สุดปังปี 2025

  • 14/05/2025
6 เครื่องเล่นห้ามพลาด Universal Studios Japan (ยูนิเวอร์แซล ญี่ปุ่น) ปี 2025
Read
  • Osaka

6 เครื่องเล่นห้ามพลาด Universal Studios Japan (ยูนิเวอร์แซล ญี่ปุ่น) ปี 2025

  • 12/03/2025
ที่พักฟุกุโอกะ (Fukuoka): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Fukuoka
  • List

ที่พักฟุกุโอกะ (Fukuoka): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 28/02/2025
ที่พักนิกโก้ (Nikko): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Japan
  • List

ที่พักนิกโก้ (Nikko): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 27/02/2025
ที่พักเกียวโต (Kyoto): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Kyoto
  • List

ที่พักเกียวโต (Kyoto): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 18/02/2025
ที่พักโอซาก้า (Osaka): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025
Read
  • Japan
  • List

ที่พักโอซาก้า (Osaka): พักย่านไหนดี? แนะนำโรงแรมปี 2025

  • 09/02/2025
รีวิว Universal Studios Japan (USJ) x โอซาก้า ญี่ปุ่น (อัปเดตปี 2025)
Read
  • Japan

รีวิว Universal Studios Japan (USJ) x โอซาก้า ญี่ปุ่น (อัปเดตปี 2025)

  • 06/02/2025

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Review Subscription

สมัครรับรีวิวใหม่ล่าสุดก่อนใคร ผ่านทางอีเมล์

บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์

Hashcorner (แฮชคอร์เนอร์) คือ บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว + ไลฟ์สไตล์ ที่เน้นการเที่ยวต่างประเทศและในประเทศด้วยตัวเอง โดยเรื่องเล่าของเขาเน้นการนำประสบการณ์การท่องเที่ยวมาเล่าในมุมมองที่สนุกสนานผ่านตัวหนังสือและรูปถ่ายที่คนอ่านสามารถตามรอยการท่องเที่ยวได้จริง

Contact / Collaboration

Email: phakhawat@hashcorner.com
Tel: +66 61 632 4446

สมัครงานกับ HASHCORNER

หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ ฝีมือดี มีใจรักการท่องเที่ยว และอยากลองจอยทีมและลุยไปด้วยกัน ลองสมัครเข้ามากันได้เลย!

Input your search keywords and press Enter.