นางาซากิ (Nagasaki) เมืองประวัติศาสตร์สำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกวางระเบิดปรมาณูที่ทำให้คนเสียชีวิตนับแสนกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แกรเอ้ย การเที่ยวที่นางาซากินั้นมันจะมีความโศกเศร้าปนคละเคล้ากับเมืองที่สวยงาม เป็นที่ๆเราจะได้รำลึกถึงเหตุการณ์การสูญเสียครั้งสำคัญยิ่งของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว เอาล่ะ การเที่ยว นางาซากิ ครั้งนี้ ผมจะเที่ยวแบบวันเดียว ไปเช้า-เย็นกลับ จากฟุกุโอกะ ซึ่งเราจะไปที่ไหนกันบ้าง ตามมากันเลย
แพลนเที่ยวเกาะคิวชู ตอนเหนือ
สำหรับทริปเที่ยวเกาะคิวชูครั้งนี้ ก๊อตเที่ยวทั้งหมด 8 วัน โดยมีเมืองและสถานที่หลักๆ เลยคือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) นางาซากิ (Nagasaki) ยุฟุอิน (Yufuin) คุมาโมะโตะ (Kumamoto) และยังมีอีกสองเมืองย่อยๆ ที่อยู่ในจังหวัดคุมะโมะโตะที่ก๊อตจะทำรีวิวแยกเลยคือ ทาคาจิโฮะ (Takachiho) และ ภูเขาอะโสะ (Mount Aso) ที่ก๊อตเที่ยวเต็มๆ แบบวันละที่เลย ซึ่งดีมากกกก 😚
วันที่ | เมืองที่นอน | แพลนเที่ยวคิวชูเหนือ |
1 | ฟุกุโอกะ | ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อ่านรีวิวเต็ม |
2 | ฟุกุโอกะ | ดาไซฟุ (Dazaifu) + ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อ่านรีวิวเต็ม |
3 | ฟุกุโอกะ | นางาซากิ (Nagasaki) อ่านรีวิวเต็ม – สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) |
4 | ฟุกุโอกะ | ยูฟุอิน (Yufuin) อ่านรีวิวเต็ม |
5 | คุมาโมโตะ | คุมาโมโตะ (Kumamoto) อ่านรีวิวเต็ม |
6 | คุมาโมโตะ | ทาคาชิโฮ (Takachiho) อ่านรีวิวเต็ม |
7 | ฟุกุโอกะ | ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) อ่านรีวิวเต็ม |
8 | – | บินกลับไทย อ่านรีวิวเต็ม |
รวมรีวิวเที่ยวคิวชูทุกตอนจาก Hashcorner
1. รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) + ดาไซฟุ (Dazaifu)
2. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
3. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
4. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
5. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
6. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
เที่ยวนางาซากิ (Nagasaki) ต้องซื้อพาสรถไฟ JR มั้ย ?
หากเราเที่ยวเกาะคิวชูหลายๆ เมือง ไม่ได้เฉพาะนางาซากิ (Nagasaki) แนะนำให้ซื้อพาสรถไฟของ JR เพื่อความประหยัด สะดวก และรวดเร็ว โดยพาสที่แนะนำ คือ JR Kyushu Rail Pass ซึ่งมันแตกแยกย่อยออกเป็น 3 พาส ได้แก่ All Kyushu Area Pass, Northern Kyushu Area Pass และ Southern Kyushu Area Pass ซึ่งอันนี้อยู่ที่เราแล้วว่าแพลนไปที่ไหนบ้างในเกาะคิวชูบ้าง
🚅✨ ถ้าอิงตามรีวิวอันนี้คือ ก๊อตจะเที่ยวแค่ส่วนเหนือของเกาะคิวชู ก็คือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) นางาซากิ (Nagasaki) ยุฟุอิน (Yufuin) คุมาโมะโตะ (Kumamoto) เพื่อความประหยัด สะดวก และเที่ยวง่าย ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ JR Pass คิวชูตอนเหนือ หรือ Northern Kyushu Area Pass ได้เลย ซึ่งพาสนี้เอาไว้ใช้กับรถไฟ JR ที่เราเดินทางระหว่างเมือง แต่ใช้ไม่ได้กับรถไฟใต้ดินฟุกุโอกะ หรือแทรมในเมืองต่างๆนะ
ถ้าอยากให้แนะนำแบบซื้อง่าย จ่ายง่าย ไปรับสะดวก ผมจะแนะนำให้ซื้อออนไลน์ที่เว็บ Klook ที่เค้าเป็นเว็บขายตั๋วท่องเที่ยวเกือบทุกอย่างบนโลกนี้ ฮ่าๆ ด้วยความที่ราคาถูกกว่าชาวบ้านชาวช่องแล้ว มันสะดวกเพราะเรากดซื้อและจ่ายเงินตัดบัตรเครดิตผ่านเว็บได้เลย ทีนี้ Klook เค้าจะส่ง Exchange Order หรือใบยืนยันการจองมาให้เราทางอีเมล จากนั้นเราสามารถปริ้นเอาใบนี้ไปยื่นบัตรจริงได้เลยที่ JR Ticket Office ซึ่งสาขาที่ผมไปแลกนั้นอยู่ในสถานีรถไฟ JR Hakata เลย
จากประสบการณ์ส่วนตัว จะบอกว่าการซื้อ JR Northern Kyushu Pass กับ Klook สะดวกมากกก โดยก๊อตซื้อก่อนวันไปญี่ปุ่นแค่ 2 วันเท่านั้น ซึ่งมันดีที่พาสนี้ เราไม่ต้องมารอใบ Exchang Order มาส่งให้ที่บ้านให้ยุ่งยาก แค่ปริ้นจากอีเมล แล้วไปแลกที่ญี่ปุ่นแค่นั้น จบเลยจริงๆ ถือว่าง่ายกว่าปกติมากเลย
ใครที่มีแพลนนอกเหนือจากรีวิวคิวชูตอนเหนืออันนี้ ใครจะไปคิวชูใต้อย่างเดียวก็ให้ซื้อ Southern Kyushu Area Pass หรือถ้าแพลนเรานั้นยิ่งใหญ่ถึงขั้น อยากไป-มาระหว่างคิวชูเหนือ และฝั่งฮิโรชิม่า (Hiroshima) รวมถึงฝั่งคันไซ (Kansai) อย่างโอซาก้า (Osaka) ด้วย ก็ให้เลือกซื้อ Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass แทนโลดเด้อ!
สรุปพาสที่ใช้มาเที่ยวนางาซากิ (Nagasaki) ได้
- 🎫 JR Kyushu Pass : แยกออกเป็น 3 พาส คือทั้งภูมิภาคคิวชู คิวชูเหนือ และคิวชูใต้
- JR Kyushu Pass (All Area) : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองต่างๆ ในคิวชูได้ทั้งหมด เช่น ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) นางาซากิ คุมาโมโตะ ยูฟุอิน เบบปุ มิยาซากิ และ คาโกชิม่า / สามารถนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ / มีแบบ 3, 5, 7 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~4,325 บาท [ซื้อผ่าน Klook][ซื้อผ่าน KKday]
- JR Northern Kyushu Pass : (ก๊อตใช้พาสอันนนี้ในรีวิวนี้) เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองต่างๆ ในคิวชูเหนือ เช่น ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) นางาซากิ คุมาโมโตะ ยูฟุอิน เบบปุ และ โออิตะ / สามารถนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ / มีแบบ 3, 5 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~2,550 บาท [ซื้อผ่าน Klook][ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า ยามากุจิ ฟุกุโอกะ คุมาโมโต้ และนางาซากิ / สามารถนั่ง Sanyo-Kyushu Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ(ฟุกุโอกะ)-คุมาโมโต้ ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / ใช้นั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ด้วย (แต่จองที่นั่งออนไลน์ด้วยพาสนี้ไม่ได้ ต้องไปจองที่สถานี JR) / มีแบบ 7 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~5,950 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Japan Rail Pass – All Area (JR Pass) : สามารถใช้ขึ้นรถไฟ JR ได้ทั่วประเทศ รวมถึงรถไฟหัวกระสุน Shinkansen เกือบทุกสาย ทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนั่งรถไฟท่องเที่ยว Yufuin no Mori ได้ด้วย (แต่จองที่นั่งออนไลน์ด้วยพาสนี้ไม่ได้ ต้องไปจองที่สถานี JR) มีแบบ 7 วัน ราคาราวๆ ~7,540 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
เดินทางในนางาซากิ ด้วย 1-Day Tram Pass
การเดินทางในตัวเมืองนางาซากินั้นมีอยู่ 2 อย่างคือ รถเมล์ และ รถแทรม ซึ่งในรีวิวนี้เราจะเดินทางด้วยรถแทรมทั้งหมดแหละ ทีนี้เวลาเราขึ้นรถแทรม เค้าจะคิดเราแบบเหมาเที่ยวละ 120 เยน ตลอดสาย
ถ้าเราคิดว่าเราจะได้ขึ้นรถแทรมมากกว่า 4 เที่ยว แนะนำให้ซื้อ 1-Day Tram Pass ราคา 500 เยน เพื่อความประหยัดได้เลยที่ Tourist Information Center ตรงสถานีรถไฟนางาซากิ // ซื้อๆไปเถอะ 555555 ตอนเราขึ้นรถแทรม แค่โชว์พาสตอนเราจะลงง่ายๆ ไม่มีอะไรให้ยุ่งยาก
ทีนี้ สายรถแทรมในเมืองนางาซากิ มันจะมีอยู่ประมาณ 5 สาย จะขึ้นรถแทรมสายไหน ให้ดูว่าที่ที่เราจะไปนั้นสายไหนผ่าน จากนั้นให้เราสังเกตสีป้ายและตัวเลขหน้ารถแทรมเอา เมื่อเราอยู่บนรถแทรม ให้เราดูแผนที่รถแทรมลิงค์ด้านล่าง ว่าตัวเลขสถานีที่เราจะลงคือเลขอะไร จากนั้นก็ดูตัวเลขบนจอภาพในรถได้ ว่ารถไปถึงสถานีที่เท่าไหร่แล้ว เมื่อใกล้ถึงสถานีที่เราจะลง ให้เรากดปุ่มออดเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เอาเป็นว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน ⎡ดูแผนที่รถแทรมเมืองนางาซากิ⎦
สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park)
ที่แรกที่เราจะเที่ยว เราจะมาที่ สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) ก่อนเลย ให้เรานั่งรถแทรมสาย 1 (สีน้ำเงิน) หรือ สาย 3 (สีแดง) มาลงที่สถานี Matsuyamamachi จากนั้นเราจะเห็นเป็นทางขึ้นที่ดอกไม้ตกแต่งสวยงาม ตรงนั้นแหละคือที่ที่เราจะไป ข้ามถนนโลด
เมื่อเราขึ้นมายังด้านบน เราจะเห็น น้ำพุสันติภาพ (Fountain of Peace) ที่ดูรูปร่างเหมือนเป็นปีกของนกพิราบที่สื่อถึงเรื่องสันติภาพ ซึ่งเค้าบอกว่าตอนที่นางาซากิโดนถล่มด้วยระเบิดปรมาณู นอกจากคนจะตายเพราะโดนระเบิดแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนตายเยอะ คือการขาดแคลนน้ำ ไม่มีน้ำให้กินเนี่ยแหละ
ที่ยิ่งใหญ่สุดของสวนนี้คือ รูปปั้นสันติภาพ ที่มีกล้ามบึกบึนแข็งแรงพร้อมที่จะปกป้องสันติภาพเอาไว้ มือนึงชี้ขึ้นฟ้าที่บ่งบอกถึงระเบิดปรมาณู มืออีกข้างชี้ยาวไปด้านข้างซึ่งสื่อถึงสันติภาพ พร้อมหลับตาอธิษฐานไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์แบบนี้อีก
สวนสันติภาพที่นี่ ค่อนข้างเรียบง่ายและสงบสุขนะแกร แต่เมื่อเรามาเที่ยวและยืน ณ จุดนั้น มันมีบรรยากาศความหดหู่ของเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองอยู่เยอะมาก ทุกคนที่มาต่างยืนมองรูปปั้นด้วยความสงบนิ่ง แล้วเดินจากไปที่อื่น .. เอาล่ะ เราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างดีกว่า หลังสวนสันติภาพหากเราเดินไปข้างหลังสวนอีกหน่อย มันจะมีจุดชมวิวที่เราสามารถเห็น โบสถ์อุระคามิ (Urakami Cathedral) ไกลๆ ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วยเช่นกัน
เดินลงมาจาก สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) เราจะต่อไปยัง พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) ซึ่งระหว่างทางเราจะเจอกับลานโล่งที่เป็นจุดศูนย์กลางระเบิดปรมาณู ซึ่งเค้าทำแท่นเป็นอนุสรณ์ไว้รำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนี้อีกด้วย
เวลา 11.02 ของวันที่ 9 สิงหาคม 2488 “ไอ้อ้วน” (Fatman) ชื่อเล่นของระเบิดปรมาณูเชื้อเพลิงพลูโตเนียม-239 ของกองทัพสหรัฐฯ ระเบิดตรงจุดนี้ที่ความสูง 500 เมตรจากระดับพื้นดิน .. 1/3 ของเมืองนางาซากิพังย่อยยับ 74,000 คนได้รับบาดเจ็บ และอีก 75,000 คนเสียชีวิต
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)
เดินมาอีกนิดจากจุดศูนย์กลางระเบิดปรมาณู เราจะไปพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) กันต่อ ซึ่งการเที่ยววันนี้คือเที่ยวแบบเชิงประวัติศาสตร์สงครามมาก ใครที่อินอะไรพวกนี้ บอกเลยว่าต้องมา! ค่าเข้าก็ถูกมาก ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ 200 เยน เท่านั้นเอง
ในพิพิธภัณฑ์เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระเบิดปรมาณูที่เกิดขึ้นที่นางาซากิทั้งหมด โดยเค้ามีห้องให้เดินไปเรื่อยๆตามเส้นทางอยู่ประมาณ 4 ห้อง ตั้งแต่รูปถ่ายและวิดีโอในวันที่เกิดปรมาณู ซากปรักหักพังต่างๆ ลำดับเหตุการณ์เกิดระเบิดปรมาณู ห้องฉายหนัง รวมถึงข้าวของที่หลงเหลือจากเหตุระเบิดนี้ ถือว่ามาพิพิธภัณฑ์นี้ได้ความรู้กลับไปแน่นอน และที่สำคัญ มีภาษาอังกฤษกำกับหมดเพราะฝรั่งมาเที่ยวเยอะ ทำให้เรายิ่งอินเข้าไปอีก
ภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri)
หลบบรรยากาศอันหดหู่แล้วมาเที่ยวอะไรอย่างอื่นที่ทำให้หายเครียดบ้าง ที่ต่อไปคือเราจะไปดูวิวเมืองนางาซากิ (Nagasaki) ที่จุดชมวิว Hidden Gem ที่หลายรีวิวไม่พาไป และหลายคนไม่รู้จัก นั่นคือจุดชมวิวที่ ภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri) ที่อยู่ใกล้ๆกับสวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden) ที่เที่ยวยอดฮิตที่เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าชาวตะวันตกในสมัยก่อน โดยเริ่มจากโทมัส เบลค โกลฟเวอร์ (Thomas Blake Glover) พ่อค้าชาวสก๊อตแลนด์ที่เดินทางมานางาซากิและลงหลักปักฐานที่นี่ โดยไฮไลท์คือ การชมสถาปัตยกรรมและสวนสไตล์ยุโรป ซึ่งนี่เดินผ่านไปเลยจ๊า รู้สึกไม่อิน 55555
วิธีไป จุดชมวิวตรงภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri) ให้ง่ายคือ ไปขึ้น Glover Skyroad (สถานี Ishibashi) ที่เราสามารถขึ้นลิฟท์ไปยังบนเขา แล้วเดินตามป้ายต่อไปยังจุดชมวิวได้ แต่ตอนแรกนี่ไม่รู้ไง เลยมาลงสถานี O-Uratenshudoshita แล้วเดินตาม Google Map เอา ฮ่าๆ
ถึงแม้จะมีป้าย แต่ทางเดินมันจะงงๆหน่อย เพราะมันเดินผ่านหมู่บ้านเชิงเขาที่ทางเดินแบบวกวนและซับซ้อนเว่อร์ แนะนำให้ปัก Mt Nabekanmuri ใน Google Map แล้วเดินตาม มันพอจะเป็นไกด์ไลน์ให้เราได้อยู่ จนกระทั่งเดินถึงสะพานใหญ่ๆตามรูปนี้ที่บอกว่าเรามาถูกทางแล้วจ้าาา 55555555 // ใครที่เดินตามทางใน Google Map อาจจะดูแล้วงงๆหน่อย นี่คิดว่ามันยังไม่เสร็จดี เลยไม่มีทางที่ชัดเจน
เมื่อเรามาถึงจุดท็อปสูงสุดด้านบน เราจะเห็นจุดชมวิวที่ใหญ่อลังการมาก แทบไม่น่าเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนไม่รู้ แต่คนญี่ปุ่นเค้ารู้กันเอง วิวตรงนี้คือสวยมาก เราสามารถมองวิวได้รอบ 360 องศา และถ้าใครสังเกตดีๆจะเห็นเห็นท่าต่อเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญของของแบรนด์มิตซูบิชิด้วย นอกจากนี้ เรายังมองเห็น สะพานแขวนเมงามิโอฮาชิ (Megamio Bridge) ที่มีความยาวอันดับ 7 ของโลก เชื่อมระหว่างนางาซากิฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้เข้าด้วยกัน
มองไปไกลๆออกไปทางอ่าวนางาซากิ ถ้าฟ้าเปิด เราจะเห็น เกาะร้างฮะจิมะ (Gunkanjima -Hashima-) ซึ่งเป็นเกาะที่เคยทำอุตสาหกรรมถ่านหินของมิตซูบิชิมาก่อน ปัจจุบัน เราสามารถไปเที่ยวเกาะร้างแห่งนี้ได้อีกด้วยนะ แต่ต้องจองทัวร์เอาอย่างเดียว ไม่สามารถไปเที่ยวเองได้จ้า
ดูวิวจนหนำใจก็พากันเดินลง เดินแบบงงๆ มั่วๆจนเดินไปเจอ Glover Skyroad ที่เป็นลิฟท์ลงเขาไปยังสถานี Ishibashi นั่นแหละจ๊า อย่างที่บอกว่าตอนแรกไม่รู้ จนตอนกลับถึงรู้ได้ว่างทางนี้น่าจะมาจุดชมวิวได้ง่ายที่สุดนั่นเอง 😌
ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa)
ลงมาจากภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri) แล้ว นี่จะพาไปดูวิวอีกเขาลูกหนึ่งที่คนเค้าฮิตไปกัน นั่นคือภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) เค้าบอกว่าที่นี่วิวกลางคืนสวยที่สุด ติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว // อีกสองที่คือที่ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) ที่เมืองฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด ซึ่งอันนี้เคยไปแล้วแต่เจอฝนตกฟ้าปิด อดเห็นวิวสวยๆเลย ฮือออ .. ส่วนอีกที่คือ ภูเขาร็อคโกะ (Mount Rokko) เมืองโกเบ อันนี้ยังไม่เคยไป
การขึ้น ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) เราจะนั่งกระเช้า (Ropeway) ขึ้นไปบนยอดจุดชมวิว โดยราคาไป-กลับ อยู่ที่ 1,230 เยน วิธีการมาที่สถานี Ropeway ให้เรานั่งรถเมล์มา ถ้ามาจากสถานีรถไฟนางาซากิให้นั่งสาย 3 หรือ 4 ถ้ามาจากแถว Glover Garden ให้นั่งสาย 4 แถวๆ นั้น แล้วมาลงป้ายหน้า Ropeway (ロープウェイ前) แนะนำให้ดู Google Map ไปด้วย ป้ายภาษาอังกฤษแม่งไม่มี
ซึ่งด้วยความที่ไม่ได้รีเสิร์จข้อมูลมาก่อน รู้แต่ว่ากูมีพาสรถแทรม งั้นเราจะนั่งรถแทรมเท่านั้น (ใต้ความงก) นี่เลยนั่งรถแทรมปลายสายหลังจากลงภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri) ที่สถานี Ishibashi มายังสถานี Takaramachi แล้วเดินต่อมากิโลกว่าๆ โอยย กว่าจะถึงจ้า 555555555 // แต่ระหว่างทางเราก็ได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองนางาซากินะ อิอิ
พอถึงสถานีปล่อยกระเช้า คือเริ่มเหนื่อย ดีที่คนไม่เยอะ ต่อคิวซื้อบัตรแปปเดียวได้ขึ้นกระเช้าแล้ว โดยเวลาที่เราอยู่ในกระเช้านั้นมีเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ถ้าใครโชคดีเหมือนผมคืออยู่คิวหน้าสุดตอนเดินเข้ากระเช้า แนะนำให้ยืนหลังสุดของตู้เพื่อที่เราจะได้ดูวิวเมืองนางาซากิให้คุ้มค่าตั๋วนั่นเองเด้ออ 5555555
ช่วงเวลาที่สวยที่สุดในการดูวิวเมืองนางาซากิบนภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) คือช่วงตะวันตกดินจนถึงตอนกลางคืนนะจ๊ะเพื่อนๆ
พอถึงยอดก็เดินต่อไปอีกหน่อย เราจะเจอกับตึกทรงกระบอกที่เป็นจุดชมวิวด้านบนตึก เราสามารถเดินเข้าไปได้เลยฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงิน ทางเดินในตึกมันจะวนเป็นวงกลมขึ้นไปเรื่อยจนถึงยอดตึกที่เป็นลานกว้างเปิดโล่ง สามารถดูวิวนางาซากิได้แบบ 360 องศา ซึ่งบอกเลยว่า สวยมากกกกกก กรี๊ด ❤
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ใครมากับแฟนนี่ถือว่าโรแมนติกนะ จับมือดูวิวสวยๆตอนกลางคืนท่ามกลางอากาศเย็นๆ เขิลตัวบิดเลยข่าาา
ไชน่าทาวน์ นางาซากิ (Nagasaki Shinchi Chinatown)
ถ้าใครมาเที่ยวนางาซากิช่วงตรุษจีน หรือช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม ที่ไชน่าทาวน์เมืองนางาซากิ (Nagasaki Shinchi Chinatown) จะเป็นสถานที่หลักในการจัดงานเทศกาล Nagasaki Lantern Festival ทุกปี เกือบทั้งเมืองของนางาซากิประดับประดาด้วยโคมแดงและแสงไฟประดับระยิบระยับราวๆ 18,000 ดวง บอกเลยว่าตกดึกเมื่อไหร่ ทุกคนจะแห่กันมาที่ไชน่าทาวน์เพื่อถ่ายรูปและดูไฟกันอย่างคึกคักเลย
ลานโล่งๆตรงหน้าไชน่าทาวน์จัดไฟเกี่ยวกับปีนักษัตย์ต่างๆแบบอลังการมากก
หันขวาไปเราจะเจอซอยที่มีโคมไฟประดับเต็มเอี๊ยดดด จริงๆซอยนี้เต็มไปด้วยร้านขายของกิน ขนม และของที่ระลึกนะ แต่ด้วยคนที่เยอะโคตรๆ ผมเลยเดินเข้าไปด้อมๆดูโคมไฟอย่างเดียว แปปๆแล้วเดินออกมา ซอยนี้คือโคมเยอะมาก และสวยมากกก หากใครมาช่วงตรุษจีนนี่อย่าพลาดเลย
การดูไฟตรุษจีนถือเป็นการปิดทริป นางาซากิ (Nagasaki) แบบวันเดย์ทริปอย่างสวยงามแหละ จริงๆที่นี่ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะเลยนะเว้ย แต่ด้วยความที่เวลาจำกัดและนี่จัดเที่ยวไปเช้า-เย็น ผมเลยเก็บได้แค่นี้แง่ะ ฮือ 😭
ที่พักแนะนำในนางาซากิ PANTIP
อย่างที่บอกไปว่าผมมาเที่ยวเมืองนางาซากิแบบมาเช้า-เย็นกลับจากฟุกุโอกะ ส่วนตัวก็เลยไม่ได้นอนที่เมืองนางาซากิเน้อ แต่ด้วยความที่ผมเขียนรีวิวและได้ไปเที่ยวที่เมืองนี้มาแล้ว บวกกับรีเสิร์ชหาข้อมูลที่พักและโรงแรมมาบ้าง เลยทำให้รู้ว่าควรพักย่านไหนดีที่เราจะเที่ยวสะดวก ซึ่งผมก็ขอแนะนำเป็น 3 โรงแรมตามด้านล่างที่ผมคิดว่าดีที่สุด และถ้ามีโอกาสได้ไปนอนที่นางาซากิ ก็คงเลือก 1 ใน 3 นี้แหละ อ่ะ ดูต่อเล้ย // อย่าลืมใช้ส่วนลดจาก Expedia ที่บอกด้านล่างล่ะ ลดไปเยอะมาก หรือจะ Agoda ก็ล่าย แล้วแต่เด้อ 5555
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลกหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)> ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)> ส่วนลด Klook (คลุก)> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)
JR Kyushu Hotel Nagasaki
คือไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับโรงแรมยี่ห้อ JR ที่ตั้งอยู่ทำเลโคตรดีที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ JR Nagasai ไม่ต้องลำบากลากกระเป๋าขึ้น-ลงรถแทรมให้เมื่อยตุ้ม ลงจากรถไฟแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปเช็คอินที่ชั้นสองได้เลย นอกจากโรงแรมจะติดกับสถานีรถไฟแล้ว ยังติดกับห้าง .. โว้ววว ได้กินเก่ง ช็อปเก่ง เดินห้างเก่งให้เท้าเมื่อยแน่นอน 555555555
ห้องของโรงแรมก็ดีตามราคา ยกเว้นแต่เรื่องอาหารเช้า ขอหักแต้มนิดหน่อยที่ไม่ใช่บุฟเฟต์ แต่จะเป็นอาหารเซ็ตมาให้เราเลือก โดยใช้ร้านอาหาร Royal Host ที่อยู่ด้านหน้าล็อบบี้ให้บริการอาหารเช้าแทนนะจ๊ะ
ดูเรทและจอง JR Kyushu Hotel Nagasaki สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
ราคา Double Room สำหรับ 2 คน ที่ผมเห็นจาก Expedia คือ 3,250 บาท / คืน
ดูผ่าน Expedia.co.th // ดูผ่าน Booking.com // ดูผ่าน Agoda.com
Hotel Forza Nagasaki
Hotel Forza Nagasaki เป็นอีกโรงแรมที่ติดท็อปลิสของเมืองนางาซากิ ด้วยความที่โรงแรมยังใหม่อยู่ ตัวห้องก็เลยกว้างกว่าโรงแรมญี่ปุ่นปกติทั่วไปนิดนึง แถมทุกห้องของที่นี่เป็นห้องแบบ Non-smoking 100% อีกด้วย นอกจากนี้ในห้องพักยังมี iPad ให้ห้องละตัวสำหรับเล่นเน็ตและดูข้อมูลโรงแรมไรงี้อีกด้วย
เรื่องโลเคชั่นนั้นสะดวก เพราะอยู่ติดกับแทรมสถานี Kankodori กลางเมืองดาวน์ทาวน์ สามารถเดินไปไชน่าทาวน์ได้สบายอีกต่างหาก ส่วนตัวล็อบบี้โรงแรมนั้นอยู่ชั้น 4 โดยชั้นล่างๆนั้นเป็น Shopping Arcade ที่มีร้านอาหารและร้านขายของรอบตัว สบายใจได้ .. ไม่อดตายแน่นอน 55555555
!! ต้องบอกก่อนนิดนึงว่า โรงแรมนั้นไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟ JR แต่มันอยู่ติดสถานีรถแทรม ถ้าเราลากกระเป๋าทางใบใหญ่มากมาด้วย ลำบากแน่นอนเด้อ แนะนำไปจอง JR Kyushu Hotel Nagasaki ดีกว่า .. แต่ถ้าใครชิลๆ แบกเป้มาเที่ยว ที่นี่ก็ถือเป็นตัวเลือกนึงที่ดีงามมากจริงๆแกร
ดูเรทและจอง Hotel Forza Nagasaki สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
ราคา Double Room สำหรับ 2 คน ที่ผมเห็นจาก Expedia คือ 2,500 บาท / คืน
ดูผ่าน Expedia.co.th // ดูผ่าน Booking.com // ดูผ่าน Agoda.com
First Cabin Nagasaki
หากใครมาเที่ยวที่นางาซากิคนเดียว นี่มีโฮสเทลระดับท็อปคลาสในราคาที่ไม่แพงมากเกินไปมานำเสนอ โรงแรมนั้นคือ First Cabin Nagasaki ที่มีคอนเซ็ปห้องพักโฮสเทลในรูปแบบ Cabin เสมือนในเครื่องบิน โดยแบ่งประเภทห้องแบบชั้นเฟิร์สคลาส และบิสซิเนส ที่ซอยเป็นห้องเล็กๆขนาดพอดีเตียงสำหรับหนึ่งคนที่ยังคงความเป็นส่วนตัวของแต่ละห้องอยู่ มีทีวีส่วนตัวในแต่ละห้องด้วย โอ้ย ส่วนตัวชอบโฮสเทลแบบนี้มากก
First Cabin Nagasaki โฮสเทลห้องส่วนตัวนี้ตั้งอยู่แถวดาวน์ทาวใกล้ๆ Chinatown ห่างจากสถานนีรถแทรม Kankodori แค่ 85 เมตร ใกล้มากกก .. ถ้าเราแค่แบกเป้มาเที่ยวตามสไตล์คนมาเที่ยวคนเดียว แนะนำให้มาพักเลย แต่ถ้าลากกระเป๋าเดินทางอันใหญ่มา ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะเราต้องแบกกระเป๋าขึ้น-ลงรถแทรม ซึ่งค่อนข้างลำบากพอสมควร
ดูเรทและจอง First Cabin Nagasaki สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
ราคาหนึ่งเตียงสำหรับ 1 คน ที่ผมเห็นจาก Expedia คือ 1,070 บาท / คืน
ดูผ่าน Expedia.co.th // ดูผ่าน Booking.com // ดูผ่าน Agoda.com
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
3 comments
นางาซากิ เมืองเล็ก สงบและแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ให้หลงรัก hashcorner รีวิวได้น่าประทับใจ ช่วงเทศกาลโคมไฟสวยมากจริงๆ ครับ
ขอบคุณมากเลยครับ ^^
ไปกลับจากฟุกุโอกะวันเดียวนี่คือต้องออกกี่โมง แล้วกลับรถไฟเที่ยวกี่โมงคะ