ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) โอซาก้า ถ้าให้ก๊อตพูดถึงแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ของเมืองโอซาก้า (Osaka) นอกจากสารพัดตลาด ของกิน และย่านช้อปปิ้งดังๆ แล้ว ป้ายไฟขนาดใหญ่ของพ่อหนุ่มนักวิ่งชุดขาวที่อยู่ในท่วงท่าวิ่งพร้อมชูมือทั้งสองข้างขึ้นบนอากาศ หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีกับ ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่ต้องมาเยือน และเซลฟี่รูปคู่ให้ได้ เพราะที่นี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเรามาถึงโอซาก้าแล้วจริงๆ ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) กันแบบชิคๆ อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปคู่กับป้ายแบบใหม่แบบสับมาฝากไว้ช่วงท้ายรีวิวด้วยเด้ออ
- รีวิวเต็ม โอซาก้า (Osaka) 5 วัน 25 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Universal Studios Japan (USJ) ละเอียด รู้เรื่องมากที่สุด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโอซาก้า (Osaka)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
รู้จักกับป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign)
ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) หนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างก็ต้องมาที่นี่เพื่อมาถ่ายรูปคู่กันถ้วนหน้า โดย ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) นั้น ตั้งอยู่บริเวณริมคลองโดทงบุริ (Dotonbori Canal) ตรงสะพานเอบิสึบาชิ (Ebisubashi Bridge) ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิ (Shinsaibashi Shopping Street) กับย่านโดทงโบริ (Dotonbori) เข้าไว้ด้วยกัน
โดยป้ายโฆษณากูลิโกะที่เราเห็นกันนี้ เป็นป้ายที่แทนสัญลักษณ์ของขนมกูลิโกะ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ขนมกูลิโกะนั้น เค้าเป็นบริษัทขนมชื่อดังอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น อย่างขนมป๊อกกี้อันโด่งดังทั้งในญี่ปุ่นหรือในประเทศไทยเองนั้น ล้วนเป็นของกูลิโกะทั้งสิ้นเลย โดย ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ตรงนี้ถูกติดตั้งครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 ก่อนจะมีการเปลี่ยนป้ายในหลายเวอร์ชั่นมาเรื่อยๆ โดยป้ายล่าสุดที่เราเห็นกันนี้เป็นป้ายไฟ LED เวอร์ชั่นที่ 6 ที่เพิ่งเปลี่ยนเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งการเปลี่ยนป้ายครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการทรานฟอร์มป้ายกูลิโกะกันยกใหญ่ เพราะป้ายทั้ง 5 เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ล้วนแต่ใช้ไฟนีออนเท่านั้น ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าป้ายโฆษณากูลิโกะเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์และเป็นของสำคัญที่อยู่คู่เมืองโอซาก้ามายาวนานเกือบร้อยปีเลย แถมป้ายนี้เองยังกลายเป็นป้ายที่หลายคนรักและชอบมากที่สุดในโอซาก้าไปแล้วด้วย ซึ่งในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬา อย่างช่วงฟุตบอลโลก หรือการแข่งขันรถแข่ง พื้นที่ตรงสะพานที่คนเค้ามาดูป้ายกูลิโกะนั้นจะถูกใช้เป็นพื้นที่เฉลิมฉลองในตอนที่นักกีฬาเค้าแข่งชนะกันอีกด้วยนะ
วิธีการเดินทางมาที่ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign)
รถไฟ: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้กับ ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) มากที่สุดคือ สถานีนัมบะ (Namba Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro):
- สถานีนัมบะ (Namba Station): ให้ขึ้นรถไฟสายมิโดสุจิ (Midosuji Line) มาลงที่สถานีนัมบะ (Namba Station) จากนั้นเดินต่อไปอีก 2 นาที
> ซื้อพาสบัตรรถไฟใต้ดินแบบเดินทางไม่จำกัด (Osaka Metro Pass) 1 วัน หรือ 2 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
ไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) กันเล้ยย
สำหรับมุมถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ให้ทุกคนเดินมาที่สะพานเอบิสึบาชิ (Ebisubashi Bridge) โดยเค้าจะเป็นสะพานที่พาดผ่านคลอง ซึ่งจะเป็นจุดที่คนเค้ามาถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะกันนั่นเอง บรรยากาศตรงนี้คือครึกครื้นสุด ทั้งคนญี่ปุ่นเอย นักท่องเที่ยวเอย เค้าก็จะมายืนโบกไม้โบกมือเก๊กท่าเลียนแบบพ่อหนุ่มกูลิโกะชุดขาวที่กำลังอยู่ในท่าวิ่งกันแทบทุกราย
จุดถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะร้าน NaNo Hana
สำหรับคนที่อยากถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะแบบใหม่แบบสับ ตอนนี้เค้ามุมลับที่ตอนนี้น่าจะไม่ลับแล้ว เพราะฮิตเกินเบอร์มาก ฮ่า ก๊อตแนะนำให้เดินลงสะพานเอบิสึบาชิ (Ebisubashi Bridge) มาที่ร้าน NaNo Hana ซึ่งร้านเค้าจะตั้งอยู่เลียบคลองฝั่งตรงข้ามกับ ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) เดินเข้ามาภายในร้านแล้วให้เลี้ยวขวาเลยนา จะเห็นคนยืนต่อแถวยาวๆ รอถ่ายอยู่ ซึ่งมุมลับที่ว่าจะเป็นเซตฉากเหมือนลู่วิ่งบนป้ายกูลิโกะให้เราได้มาโพสต์ท่าถ่ายรูป ซึ่งหากเราไปยืนและจัดองศาของมุมดีๆ แล้วกดแช๊ะภาพ เราจะได้มุมที่มีเส้นลู่วิ่งจากป้ายของกูลิโกะต่อเข้ากับฉากที่ยืนอยู่เป๊ะๆ เสมือนเราได้วิ่งอยู่ในลู่วิ่งเดียวกับพ่อหนุ่มนักวิ่งเค้าเลยแหละ ใครอยากได้รูปกิ๊บเก๋ห้ามพลาดเลย มุมนี้เข้ามาถ่ายได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายซักเยน แต่อาจจะต้องรอคิวกันหน่อยเด้อ เพราะค่อนข้างป๊อบเอาเรื่อง
ใครที่มาโอซาก้า (Osaka) ไม่มาถ่ายรูปคู่กับ ป้ายกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ก๊อตบอกเลยว่าเหมือนเรามาไม่ถึงเมืองเค้าเลยนา เป็นอีกหนึ่งแลนด์มารืคของเมืองที่พลาดไม่ได้เลย
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡