วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ภาพลักษณ์และหน้าตาของวัดนั้นช่างสวนทางกับความเก่าแก่ม๊ากก แรกเริ่มเดิมทีที่ก๊อตมาเที่ยวโอซาก้านั้น ต้องบอกก่อนว่าในแพลนเที่ยวของก๊อตตอนแรกนั้นไม่มี วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) อยู่เลย แต่ด้วยความเดินผ่านระหว่างที่กำลังจะเดินไปย่านชินเซไก (Shinsekai) ได้มาจ๊ะเอ๋ วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) ที่คนกำลังเดินเข้าออกกันเยอะมาก จนก๊อตเองเกิดความสงสัยและคิดว่าต้องเดินเข้ามาส่องกันหน่อย ซึ่งก๊อตอเมซิ่งกับวัดเค้ากันตั้งแต่ประตูทางเข้าสีดำที่ดูทันสมัยแตกต่างจากประตูทางเข้าวัดอื่นๆ ไหนจะมีรูปปั้นยักษ์สองตนขนาดใหญ่ที่อยู่บนนั้นอีกคือสะดุดตามากเว่อร์ และแน่นอนว่าพอก้าวเท้าเข้ามาภายในวัดแล้วคนแตกแตนมาก จนก๊อตต้องยกกล้องถ่ายรูปมาฝากทุกคน และเก็บข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังจนเกิดเป็นที่มาของรีวิวเที่ยว วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) รีวิวเต็มนี้เอง
รู้จัก วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple)
วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นโดยโฮเน็น (Honen) ผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนานิกายโจโด ในปี ค.ศ. 1185 โดยแรกเริ่มนั้นโฮเน็นได้สร้างกระท่อมหลังเล็กๆ ขึ้นบนพื้นที่ของวัดในปัจจุบันเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการฝึกนิสโซกัน (Nissokan) หรือการฝึกสมาธิ ว่ากันว่าในช่วงเวลาที่ฝึกนั้นต้องนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกในตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้พื้นที่ของ วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) เป็นจุดที่ดูวิวพระอาทิตย์ตกสวยมาก ถึงขนาดที่ว่าจักรพรรดิชิรากาวะ (Shirakawa) จักรพรรดิญี่ปุ่นพระองค์ที่ 77 ก็ยังเคยมาฝึกนิสโซกันที่วัดแห่งนี้ด้วย
แต่ถึงอย่างไรกลับไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าตัวอาคารของวัดนั้นถูกสร้างขึ้นมาในปีใด โดยมีเพียงเรื่องเล่าในประวัติของวัดระบุเอาไว้ว่า พื้นที่วัดและเหล่าอาคารต่างๆ นั้น โคไดอิน (เนเนะ) ภรรยาของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้บริจาคที่ดินและสร้างอาคารให้กับทางวัด เพื่อให้ วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) กลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองนั่นเอง โดย วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) โดดเด่นด้วยประตูทางเข้าที่ไม่เหมือนวัดอื่นๆ ด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย ด้านบนของประตูทางเข้ามีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์คองโกริคิชิ (Kongōrikishi) ตัวใหญ่กำยำราวกับยักษ์ 2 รูปตั้งสง่าอยู่ ซึ่งเป็นจุดที่เรียกนักท่องเที่ยวได้มากเลยล่ะ รวมถึงตัวก๊อตเองที่เดินเข้าไปเพราะรูปปั้นเค้าเลย
อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูปกระดูก หรือ โอโคสุ บุทสุ (Okotsu Butsu) พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากเถ้ากระดูกคนตายจากโกศที่อยู่ภายในวัด ซึ่งมีข้อมูลระบุไว้ว่า การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้มีจุดเริ่มต้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงที่ วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) ไม่เหลือพื้นที่สำหรับเก็บโกศใส่เถ้ากระดูก เหล่านักบวชเลยนำเอาเถ้ากระดูกมาผสมเข้ากับเรซิ่น บ้างก็ว่าดินเหนียวแล้วปั้นขึ้นมาจนกลายเป็นพระพุทธรูป คนจึงเรียกกันว่า “พระพุทธรูปกระดูก” นั่นเอง โดยทุกๆ 10 ปี วัดจะมีการปั้นพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้นมา และในแต่ละครั้งนั้นใช้เถ้ากระดูกคนตายกว่า 150,000 คนเลย ดังนั้น พระพุทธรูปกระดูกที่อยู่ภายใน วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนเค้านิยมมาดูและสักการบูชา เป็นเสมือนพระพุทธรูปที่หล่อหลอมไปด้วยบรรพบุรุษของชาวโอซาก้าเอาไว้นั่นเอง
วิธีการเดินทางมาที่วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple)
รถไฟ: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยมีตัวเลือกให้เราขึ้นทั้งรถไฟ JR และ รถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) โดยสถานีรถไฟที่ใกล้กับ วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสถานีตามนี้
- โดยรถไฟ JR (Japan Railways):
- สถานีเทนโนจิ (Tennoji Station): ให้ขึ้นรถไฟ JR Loop Line มาลงที่สถานีเทนโนจิ (Tennoji Station) จากนั้นเดินต่อไป 10 นาที
- โดยรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro):
- สถานีเอบิสึโจ (Ebisucho Station): ให้ขึ้นรถไฟสายมิโดสุจิ (Midosuji Line) หรือสายทานิมาชิ (Tanimachi Line) มาลงที่สถานีเอบิสึโจ (Ebisucho Station) จากนั้นเดินต่อไป 7 นาที
> ซื้อพาสบัตรรถไฟใต้ดินแบบเดินทางไม่จำกัด (Osaka Metro Pass) 1 วัน หรือ 2 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
เที่ยว วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) กันเล้ยย
วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) อย่างที่ก๊อตบอกไปตอนต้นว่าเราเจอโดยบังเอิญระหว่างจะเดินไปเที่ยวในย่านชินเซไก (Shinsekai) ภาพของรูปปั้นยักษ์หน้าดุตัวใหญ่สองตนที่ไปยืนอยู่บนประตูเหล็กสีดำหน้าตาอาร์ตๆ ราวกับงานศิลปะจัดวางชิ้นหนึ่งดึงดูดสายตาจนมารู้ตัวอีกที ก๊อตกับเพื่อนก็เดินเข้ามาอยู่ภายใน แล้วก็ “เอ้า นี่วัดหรอ” แบบนี้เลย 555555
บรรยากาศภายในวัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) อย่างแรกเลยคือคนเยอะม๊ากก บริเวณประตูทางเข้าด้านนอกที่ดูไม่เหมือนวัดเลย หากแต่พอก้าวเท้าผ่านซุ้มประตูเข้ามาแล้ว ภาพของอาคารหลัก รูปปั้นต่างๆ รวมไปถึงจุดบูชากราบไหว้นั้น ยังคงเต็มไปเปี่ยมด้วยกลิ่นอายของขลังและความเก่าแก่ที่บ่งบอกว่า วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) นี้ เค้าคืออีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของเมืองโอซาก้าเลยนา
ใครที่อยากมาดูรูปปั้นของพระพุทธรูปกระดูกทั้งหมดนั้น ทางวัดเก็บรักษาเอาไว้ที่อาคารสองหลัง คือ อาคารโนคตสึโดะ (Nokotsudo) และอาคารโอคตสึบุตสึโดะ (Okotsubutsudo) ซึ่งทั้งสองอาคารนั้นตั้งอยู่ติดกัน ดังนั้นเราสามารถค่อยๆ เดินไล่ดูไปทีละอาคารได้เลย ซึ่งขี้เถ้าคนตายที่เอามาปั้นเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในพระพุทธรูปนั้น ทางวัดเค้ารับขี้เถ้าของบุคลทุกคนโดยไม่เกี่ยงเรื่องความเชื่อทางศาสนาในชีวิตของบุคคลนั้น โดยทุกๆ 10 ปี ก็จะมีการปั้นพระพุทธรูปกระดูกขึ้นมา 1 องค์ โดยใช้เถ้ากระดูกคนตายในแต่ละครั้งมากกว่า 1 แสนคนกันเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนเค้ามีความเชื่อการใช้เถ้ากระดูกมาปั้นเป็นพระพุทธรูปนั้นถือเป็นเกียรติของคนตายที่ได้อยู่ใกล้กับพระพุทธเจ้าเลย
นอกจากมาเดินดูพระพุทธรูปกระดูกแล้ว บริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของหลุมศพของบุคคลที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นมากมาย โดยหลุมศพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเลยคือ หลุมศพของฮอนดะ ทาดาโตโมะ (Honda Tadatomo) ขุนนางซามูไรชาวญี่ปุ่น ผู้ดูแลตระกูลโทกูงาวะ ภายหลังสมัยอาซูจิ-โมโมยามะ (ศตวรรษที่ 16) ถึงสมัยเอโดะ (ศตวรรษที่ 17) ของญี่ปุ่น ทาดาโทโมะเป็นบุตรชายคนเล็กของฮอนดะ ทาดาคัตสึ (Honda Tadakatsu) หนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์แห่งโทกูงาวะ ที่ช่วยทำให้โทกูงาวะ อิเอยาซุ (Tokugawa Ieyasu) สามารถจัดตั้งรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะได้
ยังไม่หมดเท่านั้น วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) ยังมีอาคารซันเซ็นบุตสึโดะ (Sanzenbutsudo) อาคารคอนกรีตเรียบๆ ที่หลายคนเดินผ่านแล้วเกิดคำถามว่าเค้าคืออาคารอะไร มีไว้ทำไม คำตอบคือ ภายในอาคารนี้เค้าเป็นโรงละคร ลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยสีทอง มีเก้าอี้ตั้งเรียงรายเหมือนโรงหนังที่เปลี่ยนจากจอฉายหนังมาเป็นเวทีเพื่อทำการแสดง และนอกจากจะทำการแสดงแล้ว คนที่นี่ยังสามารถเช่าสถานที่เพื่อจัดงานอื่นๆ ได้อีกด้วย หรือใครจะมาเดินชมบรรยากาศ นั่งพักขาในมุมโต๊ะ-เก้าอี้ ที่นี่เค้าก็มีคอยให้บริการ ส่วนตัวก๊อตคิดว่า วัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) นั้นเป็นอีกหนึ่งวัดที่ดีที่น่าเข้ามาเยี่ยมชม สถาปัตยกรรมต่างๆ ของเค้าสวยงาม ซุ้มประตูทางเข้าคือสะดุดตาสุดๆ แถมสตอรี่เรื่องพระพุทธรูปกระดูกก็ขลังจนอยากชวนให้ทุกคนได้มาสัมผัสของจริงด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง ใครมาเที่ยวโอซาก้าลองปักหมุดแวะมาเที่ยวได้เลย
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡