พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) ใครที่คิดว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะน่าเบื่อและไม่น่าไปเที่ยว ก๊อตอยากให้อ่านรีวิวนี้และตัดสินใจกันใหม่ เพราะพิพิธภัณฑ์ที่นี่มีความเก๋ด้วยผลงานที่เหมือนพาเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสู่เมืองโอซาก้าในยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น (ประมาณ 400 กว่าปีที่แล้ว) ที่ก๊อตอยากชวนให้ทุกคนได้มาตามรอยกัน ทั้งผลงานจัดแสดงที่เค้าจำลองเมืองมาตั้งเอาไว้ให้เราได้เดินชมกันแบบหนำใจให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคนั้นจริงๆ อีกทั้งยังมีโมเดลจำลองวิถีชีวิตของคนโอซาก้าที่ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของเมืองตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย เรียกได้ว่าเค้าเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ใครอินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือชื่นชอบเมืองโอซาก้าแล้วอยากเที่ยวแบบเข้าถึงแก่นสารเมืองเค้าจริงๆ ควรค่าแก่การมาเที่ยวที่สุด
รู้จักพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living)
พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) ตั้งอยู่ภายในอาคารศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยเทศบาลโอซาก้า (Housing Information Center) บนชั้น 8-10 ของเมืองโอซาก้า (Osaka) โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเรื่องราวของการอยู่อาศัยและการเติบโตของเมืองโอซาก้าผ่านการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโอซาก้าตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1830) จนถึงยุคก่อนและหลังสงคราม (ค.ศ. 1940) ซึ่งเค้าต้องการกระตุ้นให้ผู้คนที่มาเที่ยวชมภายในพิพิธภัณฑ์นั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการพัฒนาเมืองผ่านการจัดแสดงต่างๆ ทั้ง โมเดลวิถีชีวิตของผู้คนในเมือง การจำลองบ้านเรือนขนาดเท่าของจริง รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ตกแต่งที่คนในสมัยนั้นเค้าใช้งานกันจริงๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันช่วยทำให้คนมาเที่ยวนั้นได้รู้สึกใกล้ชิดไปกับห้วงเวลาแห่งอดีตของเมืองโอซาก้ามากขึ้นนั่นเอง
วิธีการเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living)
รถไฟใต้ดิน: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟใต้ดิน โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้กับ พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) มากที่สุดคือ สถานีเท็นจินบาชิซุจิ โรคุโจเมะ (Tenjimbashisuji 6-chome Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro):
- สถานีเท็นจินบาชิซุจิ โรคุโจเมะ (Tenjimbashisuji 6-chome Station): ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line, Sakaisuji Line หรือสาย Hankyu Line มาลงที่สถานีเท็นจินบาชิซุจิ โรคุโจเมะ (Tenjimbashisuji 6-chome Station) แล้วใช้ทางออก 3 แล้วมองหาบันไดเลื่อนเชื่อมเข้าอาคาร Housing Information Center เพื่อไปยังพิพิธภัณฑ์ได้เลยโดยไม่ต้องเดินออกจากสถานี
> ซื้อพาสบัตรรถไฟใต้ดินแบบเดินทางไม่จำกัด (Osaka Metro Pass) 1 วัน หรือ 2 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
ราคาบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living)
สำหรับการจะเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) เราจะต้องซื้อตั๋วเข้ามานา โดยรายละเอียดราคาบัตรค่าเข้าก๊อตได้รวมเอามาให้ตามนี้เลย
บัตรขึ้นชมพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) :
- นักเรียนและนักศึกษา : ราคา 300 เยน (~75 บาท)
- ผู้ใหญ่ : ราคา 600 เยน (~150 บาท) สำหรับเข้าชมนิทรรศการทั่วไป / ราคา 800 เยน สำหรับนิทรรศการถาวร + นิทรรศการพิเศษ
⚡️ส่วนใครที่มีพาส Osaka Amazing Pass สามารถใช้เข้า พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) ได้ฟรี
บัตรท่องเที่ยว Osaka Amazing Pass ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี?
สำหรับใครที่มาเที่ยวโอซาก้า (Osaka) แล้วอยากปักไปเที่ยวแลนด์มาร์คชื่อดังหลายๆ ที่ โดยที่เราไม่ต้องกังวัลเรื่องค่าใช้จ่ายจะบานปลายล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ Osaka Amazing Pass เอาไว้ใช้เลย เพราะบัตรพาสนี้สามารถใช้เข้าแลนด์มาร์คทั่วโอซาก้าได้มากกว่า 40 แห่ง รวมถึงยังเอาไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) และรถเมล์ในโอซาก้าได้อย่างไม่จำกัดตามจำนวนวันที่ซื้ออีกด้วย ดังนั้น Osaka Amazing Pass จึงเหมาะกับคนที่ไม่เคยมาเที่ยวโอซาก้ามาก่อน และต้องการมาเก็บแลนด์มาร์คดังๆ ของเมืองให้ครบมากที่สุด ใครที่จะมาเที่ยวโอซาก้าแบบจริงจังควรซื้อ!
⚡️ สำหรับแลนด์มาร์คหรือกิจกรรมดังๆ ที่ใช้แล้วคุ้มเมื่อมีพาสนี้คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle / ค่าเข้า 600 เยน หรือ 145 บาท), ล่องเรือชมอ่าวโอซาก้า (Cruise Ship Santa Maria Day Cruise / ค่าขึ้น 1,600 เยน หรือ 385 บาท) , LEGOLAND® Discovery Center Osaka (ค่าเข้า 2,800 เยน หรือ 670 บาท), จุดชมวิวบนตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building / 1,500 เยน หรือ 365 บาท), หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower / ค่าเข้า 900 เยน หรือ 220 บาท), ขึ้นชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel (ค่าขึ้น 1,000 เยน หรือ 250 บาท)
Osaka Amazing Pass มีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี
สำหรับราคาบัตร Osaka Amazing Pass นั้นจะมีด้วยกัน 2 แบบ และมีราคาต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เราเลือก โดยเค้ามีมาให้เลือกทั้งแบบ 1 และ 2 วัน ตามแต่เราสะดวก ซึ่งถ้าให้ก๊อตแนะนำคือ ให้ซื้อแบบ 2 วันไปเลย คือคุ้มมาก บัตร Osaka Amazing Pass แบบ 1 วัน : ราคา 2,800 เยน (~680 บาท) / แบบ 2 วัน : ราคา 3,600 เยน (~880 บาท)
สำหรับหลายคนที่อยากจะซื้อ Osaka Amazing Pass แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหนดี ก๊อตแนะนำให้เราซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี สามารถแลกเวาเชอร์จากมือถือเป็นบัตรจริงที่จุดแลกพาสได้เลย
เริ่มเที่ยวพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) กัน
ใครที่มาถึงอาคาร Housing Information Center แล้ว ให้เรากดลิฟต์ขึ้นมายังพิพิธภัณฑ์ด้านบนได้เลย โดยชั้น 8 ที่ถือเป็นชั้นแรกของพิพิธภัณฑ์ นั้น เป็นโซน “New Osaka” – A Panoramic Excursion Through Modern Osaka ที่เค้าทำเป็นโมเดลจำลองบ้านเรือนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะที่ถูกจัดแสดงเอาไว้ให้เราได้มาเดินส่องและสำรวจผ่านกระจกใส นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ล้วนแต่เป็นของเก่าแก่จัดแสดงเอาไว้ให้ได้ดูกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย โดยส่วนตัวก๊อตคิดว่าชั้นนี้เค้าช่วยให้เราได้เห็นเรื่องราวความเป็นมาของโอซาก้าเลยว่า เค้าพัฒนามาในรูปแบบไหน รวมถึงการผ่านร้อนผ่านหนาวมายังไงบ้าง อันนี้ก๊อตแนะนำให้เราไปดูและเข้าชมกันได้เลย รับรองว่าต้องชอบแน่นอน
ขึ้นบันไดเลื่อนมาต่อกันที่ชั้น 9 อย่าง “Old Osaka” – Four Seasons with the Townspeople of Naniwa โซนไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ที่เค้าจำลองตรอกซอกซอยรายล้อมไปด้วยบ้านเรือน ร้านขายของ ห้องอาบน้ำสาธารณะ และอาคารต่างๆ เมื่อ 400 กว่าปีก่อนในยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น โดยความพีคคือทั้งหมดที่เราเห็นในชั้นนี้เค้าจำลองให้มีขนาดเท่ากับของจริงเลย เวลาเราเดินสำรวจเลยให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นคนญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ที่ได้ย้อนยุคกลับมายืนอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนในอดีตของเมืองโอซาก้าจริงๆ และที่ก๊อตชอบมากเลยก็คือลูกเล่นที่เค้าเปลี่ยนแสงสีของบรรยากาศโดยรอบให้เป็นทั้งตอนกลางวันและกลางคืนสลับไปมาได้ด้วย อันนี้คือเจ๋งจริงแกร๊ ซึ่งใครที่อินกับบรรยากาศมากๆ สามารถเช่าชุดยูกาตะมาถ่ายรูปสวยๆ ได้ด้วยนะ ราคาเค้าเบาๆ เพียงแค่ 200 เยน (~50 บาท) เท่านั้น
สำหรับชั้นชั้น 10 อย่าง Observatory บนนี้เค้าจะเป็นเหมือนชั้นลอยออกมาให้เราได้เห็นภาพมุมสูงของชั้น 9 ที่ปกคลุมไปด้วยหลังคาของบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายติดกันอยู่ตามซอกซอยต่างๆ รวมไปถึงยังเป็นจุดที่เราสามารถขึ้นมาดูพวกระบบส่องไฟของเค้าที่ก๊อตบอกว่ามันสามารถปรับเป็นช่วงกลางวันและกลางคืนได้
ใครที่อ่านมาจนจบแล้วอยากมาตามรอย ก๊อตแนะนำให้เผื่อเวลาอยู่ในนี้สักหน่อย ยิ่งสายคอนเทนต์ชอบถ่ายรูปนะ ตรงชั้น 9 เนี่ยเค้าจะดึงดูดเวลาจากเราไปได้เยอะมาก ยังไงลองแพลนและดูเวลามากันก่อนก็ได้นา แต่แนะนำเลยว่าต้องมา บรรยากาศข้างในเค้าสมจริงมาก ถึงแม้ว่า 400 ปีก่อนของจริงจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ที่เห็นจัดแสดงอยู่ก็ทำได้ดีและเหมือนเราได้ย้อนอดีตไปด้วยจริงๆ เลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡