ย่านชินเซไก (Shinseikai) หนึ่งในย่านดังของโอซาก้า (Osaka) ที่ใครชอบกลิ่นอายความคลาสสิกผสมผสานไปกับความทันสมัยของเมืองต้องมาเดิน ภาพย่านที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ไปจนถึงร้านขายของที่ระลึกตั้งเรียงรายอยู่สองข้าง โดดเด่นด้วยป้ายร้านที่ประดับประดาไฟนีออนหลากสีกันแบบจัดเต็ม พร้อมสู้กันสุดฤทธิ์ด้วยมาสคอตประจำร้านที่ติดตั้งกันตั้งแต่บนพื้นไล่ไปถึงด้านบนของอาคารเสมือนคอยกวักมือเรียกให้ลูกค้าได้แวะเวียนเข้ามา ทั้งหมดนี้หาได้ใน ย่านชินเซไก (Shinseikai) เค้าเลยแหละ ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปสัมผัสย่านที่เค้าว่ากันว่าคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในโอซาก้าไปด้วยกัน นอกจากนี้ก๊อตยังมีพาไปดูวิวสกายไลน์เมืองบน หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) กันแบบพาโนราม่าสุดๆ ใครที่อยากมาเดินชิลๆ กิน ช้อป เที่ยว รวมไปถึงได้มาชมวิวมุมสูงด้วยแล้ว ต้องอ่านรีวิวนี้ให้จบนาา
- รีวิวเต็ม โอซาก้า (Osaka) 5 วัน 25 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Universal Studios Japan (USJ) ละเอียด รู้เรื่องมากที่สุด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโอซาก้า (Osaka)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
รู้จักกับย่านชินเซไก (Shinseikai)
ย่านชินเซไก (Shinseikai) ย่านที่เปรียบเสมือนเป็นโลกแสงสียุคใหม่ในยุคเก่าของโอซาก้าเมื่อ 100 ปีที่แล้วที่ยังคึกคักมาจนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องจากย่านนี้เค้าเคยเป็นที่ตั้งของสวนสนุกลูน่าปาร์ค (Luna Park) ชื่อดังจากอเมริกามาก่อนและแม้ว่าเครื่องเล่นต่างๆ จะถูกแทนที่ด้วยบ้านเรือน และร้านค้ามากมาย แต่หนึ่งในสัญลักษณ์ของสวนสนุกที่ยังคงเหลืออยู่ให้เป็นความทรงจำ นั่นก็คือ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หอคอยที่เค้าสร้างเลียนแบบหอไอเฟลของฝรั่งเศสที่ทุกวันนี้กลายเป็นจุดชมวิวสุดคลาสสิกที่ตั้งเด่นอยู่ใจกลางของย่านนี้ไปแล้ว โดยรีวิวนี้ก๊อตมีพาทุกคนขึ้นไปส่องวิวบนหอคอยกันด้วยนา
สำหรับ ย่านชินเซไก (Shinseikai) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรียกได้ว่าเป็นย่านที่เจริญรุ่งเรือง และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงร้านอาหารที่โด่งดังในเรื่องของทอดที่ดึงดูดผู้คนให้ลิ้มรสกันไม่ขาดสาย และแม้ว่าปัจจุบันนี้ผู้คนจะไม่ได้มาเที่ยวย่านนี้กันพรึ่บพรั่บเหมือนในอดีต แต่ย่านชินเซไก (Shinseikai) ก็ยังคงมีร้านอาหารและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมเปิดขายอยู่เสมอ ยิ่งใครที่มาเที่ยวย่านนี้ในช่วงเวลากลางคืนนะ ทั้งย่านจะเต็มไปด้วยแสงสีมากมายจากป้ายตามหน้าร้านที่เค้าเปิดสู้กันสุดเหวี่ยงม๊าก
ที่เที่ยวย่านชินเซไก (Shinseikai)
วิธีการเดินทางมาที่ย่านชินเซไก (Shinseikai)
รถไฟ : วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยมีตัวเลือกให้เราขึ้นทั้งรถไฟ JR และ รถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) รวมถึงรถไฟนันไก โดยสถานีรถไฟที่ใกล้กับ ย่านชินเซไก (Shinseikai) นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสถานีตามนี้
- โดยรถไฟ JR (Japan Railways):
- สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) : ให้ขึ้นรถไฟสายซาไกสุจิ (Sakaisuji Line) มาลงที่สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 3 นาที
- โดยรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro):
- สถานีโดะบุตสึเอง-มะเอะ (Dobutsuen Mae Station) : ให้ขึ้นรถไฟสายมิโดสุจิ (Midosuji Line) มาลงสถานีโดะบุตสึเอง-มะเอะ (Dobutsuen Mae Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
- โดยรถไฟนันไก (Nankai Main Line):
- สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) : ให้ขึ้นรถไฟสายหลักนันไค (Nankai Main Line) มาลงที่สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร
> ซื้อพาสบัตรรถไฟใต้ดินแบบเดินทางไม่จำกัด (Osaka Metro Pass) 1 วัน หรือ 2 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
บัตรท่องเที่ยว Osaka Amazing Pass ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี?
สำหรับใครที่มาเที่ยวโอซาก้า (Osaka) แล้วอยากปักไปเที่ยวแลนด์มาร์คชื่อดังหลายๆ ที่ โดยที่เราไม่ต้องกังวัลเรื่องค่าใช้จ่ายจะบานปลายล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ Osaka Amazing Pass เอาไว้ใช้เลย เพราะบัตรพาสนี้สามารถใช้เข้าแลนด์มาร์คทั่วโอซาก้าได้มากกว่า 40 แห่ง รวมถึงยังเอาไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) และรถเมล์ในโอซาก้าได้อย่างไม่จำกัดตามจำนวนวันที่ซื้ออีกด้วย ดังนั้น Osaka Amazing Pass จึงเหมาะกับคนที่ไม่เคยมาเที่ยวโอซาก้ามาก่อน และต้องการมาเก็บแลนด์มาร์คดังๆ ของเมืองให้ครบมากที่สุด ใครที่จะมาเที่ยวโอซาก้าแบบจริงจังควรซื้อ!
⚡️ สำหรับแลนด์มาร์คหรือกิจกรรมดังๆ ที่ใช้แล้วคุ้มเมื่อมีพาสนี้คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle / ค่าเข้า 600 เยน หรือ 145 บาท), ล่องเรือชมอ่าวโอซาก้า (Cruise Ship Santa Maria Day Cruise / ค่าขึ้น 1,600 เยน หรือ 385 บาท) , LEGOLAND® Discovery Center Osaka (ค่าเข้า 2,800 เยน หรือ 670 บาท), จุดชมวิวบนตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building / 1,500 เยน หรือ 365 บาท), หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower / ค่าเข้า 900 เยน หรือ 220 บาท), ขึ้นชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel (ค่าขึ้น 1,000 เยน หรือ 250 บาท)
Osaka Amazing Pass มีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี
สำหรับราคาบัตร Osaka Amazing Pass นั้นจะมีด้วยกัน 2 แบบ และมีราคาต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เราเลือก โดยเค้ามีมาให้เลือกทั้งแบบ 1 และ 2 วัน ตามแต่เราสะดวก ซึ่งถ้าให้ก๊อตแนะนำคือ ให้ซื้อแบบ 2 วันไปเลย คือคุ้มมาก บัตร Osaka Amazing Pass แบบ 1 วัน : ราคา 2,800 เยน (~680 บาท) / แบบ 2 วัน : ราคา 3,600 เยน (~880 บาท)
สำหรับหลายคนที่อยากจะซื้อ Osaka Amazing Pass แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหนดี ก๊อตแนะนำให้เราซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี สามารถแลกเวาเชอร์จากมือถือเป็นบัตรจริงที่จุดแลกพาสได้เลย
เริ่มต้นเที่ยวย่านชินเซไก (Shinseikai) กันเล้ยย
สำหรับการมาเดินเที่ยวใน ย่านชินเซไก (Shinseikai) ก๊อตตั้งใจว่าเราจะอยู่กันตั้งแต่ฟ้าสว่างยันฟ้ามืดไปเลย เพราะนี่อยากเก็บบรรยากาศของย่านทั้งช่วงกลางวัน ไปจนถึงกลางคืนมาฝากทุกคน โดย ย่านชินเซไก (Shinseikai) เค้าจะเป็นเหมือนตรอกยาวให้เราเดินตรงเข้าไปโดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึก และของปุ๊กปิ๊กสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าๆ ที่ผสมโรงกับกลิ่นอายสุดคลาสสิกของย่านนี้ได้อย่างกลมกล่อม ซึ่งเอกลักษณ์ของย่านนี้ที่โด่งดังกันไปทั่วเมือง คือเหล่าป้ายไฟ และมาสคอตรูปต่างๆ รวมถึงของตกแต่งร้าน ที่เค้าประดับประดาเรียกแขกแข่งกันให้แซ่ด ซึ่งไวบ์ในตอนกลางวันเราอาจจะยังไม่หวือหวาอะไรมาก เน้นเดินเที่ยวชิลๆ
สำหรับร้านอาหารที่ขายอยู่ตามสองข้างทางนั้น มีให้เลือกซื้อกินเยอะเลย ทั้งขนม ของคาว หรือใครที่อยากช้อปของฝากเล็กๆ น้อยๆ เค้าก็มีร้านของฝากปุ๊กปิ๊กให้ได้ช้อป ซึ่งส่วนตัวก๊อตคิดว่า ย่านชินเซไก (Shinseikai) เป็นอีกหนึ่งย่านในโอซาก้าที่ราคาอาหารถูกมาก ฟีลท้องถิ่นแท้ๆ เว่อร์ แถมในบางช่วงยังมีกิจกรรมซุ้มเกมให้ได้มาเล่นย้อนรอยความหลังในวัยเด็กกันอีกด้วย
หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
แน่นอนว่า มาเที่ยวย่านชินเซไก (Shinseikai) แล้ว เราจะไม่มา หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) แลนด์มาร์คของย่านนี้ไม่ได้ โดย หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางย่านนี้ โดยเป็นหอคอยสำคัญของเมืองโอซาก้าที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติไปเป็นที่เรียบร้อย โดยหอคอยหลังแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกลูน่าปาร์คโอซาก้า (Luna Park Osaka) สวนสนุกคลาสสิกแบบตะวันตก ที่คนสร้างพยายามออกแบบหอคอยนี้ให้โดดเด่นสะดุดโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก หอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่ปารีส มีขนาดสูงที่ 75 เมตร ซึ่งชื่อของอาคารนั้นยังหมายถึง “อาคารสูงที่นำไปสู่สวรรค์” อีกด้วยนะ แต่แล้วในปี ค.ศ. 1943 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หอคอยหลังนี้ถูกไฟไหม้และได้รื้อถอนทิ้งไปก่อนจะสร้าง หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หลังปัจจุบันขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1956 ด้วยความสูงถึง 108 เมตร โดยผู้ออกแบบคือ Tachu Naito สถาปนิกผู้ออกแบบโตเกียวทาวเวอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น หอคอยหลังนี้ก็ได้รับการพัฒนาและดูแลรักษามาเป็นอย่างดีโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวสกายไลน์เมืองที่นักท่องเที่ยวเค้านิยมขึ้นมาเพื่อดูวิวเมืองโอซาก้า (Osaka) กันเยอะมากกก
ราคาบัตรเข้าชมหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
สำหรับการจะเข้ามาภายในหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เพื่อขึ้นไปดูวิวด้านบนนั้น เราจะต้องซื้อตั๋วเข้ามานา โดยรายละเอียดราคาบัตรค่าเข้าก๊อตได้รวมเอามาให้ตามนี้เลย นอกจากนี้หากใครที่อยากมาเล่นยัง Tsutenkaku TOWER SLIDER สไลเดอร์ยักษ์เพิ่มเติม เราจะต้องซื้อตั๋วแยกจากตั๋วค่าเข้าหอคอยต่างหากด้วยนะ
- บัตรขึ้นชมวิวบนหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) [ซื้อผ่าน Klook]
- เด็กอายุตั้งแต่ 5 ขวบจนถึงระดับไฮสคูล : ราคา 400 เยน (~100 บาท)
- ผู้ใหญ่ : ราคา 900 เยน (~230 บาท)
- บัตรเล่น Tsutenkaku TOWER SLIDER : ราคา 1,000 เยน (~240 บาท)
⚡️ส่วนใครที่มีพาส Osaka Amazing Pass สามารถใช้เข้า หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ได้ฟรี แต่สำหรับ Tsutenkaku TOWER SLIDER นั้น ใช้เล่นฟรีได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เท่านั้นเด้อ
หากใครคิดว่าวิวด้านบนนี้น่าจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ของจริงเมื่อเราได้มายืนด้านบนหอคอย บอกเลยว่าวิวเมืองจากหอคอยนั้นสูงละลิ่วเลยนา ด้วยความที่ตึกรอบๆ ในเมืองของโอซาก้านั้นไม่ได้สร้างสูงมากนัก ทีนี้พอเราขึ้นมาดูวิวบนนี้มันเลยกวาดสายตามองวิวเมืองโอซาก้าได้แบบสะใจโคตรๆ ซึ่งวิวที่เห็นวิวได้ชัดเลยคือ วิวของตึกอาเบะโนะ ฮารุกัส (Abeno Harukas) ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง อีกทั้งยังมองเห็นวิวเมืองที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำได้แบบดีต่อใจสุดๆ
⚡️ ใครที่สายมู นี่ขอแอบบอกเคล็ดความปัง ถ้าใครเห็นรูปปั้นน้องตัวกลมๆ สีทองๆ เหมือนในรูปภาพด้านล่าง เค้าคือรูปปั้น “บิลลิเกน (Billiken)” โดยคนญี่ปุ่นเค้าเชื่อกันว่าถ้าเราเข้าไปลูบเท้าของเค้าแล้ว เราจะได้โชค ได้ลาภตามมาด้วยนะ ถ้าใครเห็นแล้วอาจจะลองไปลูบๆ ดูก็ไม่เสียหายนะเอ้อ 55555
นอกจากจุดชมวิวในหอคอยแล้ว หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเรายังสามารถเดินขึ้นไปได้อีกหนึ่งชั้นที่เป็นชั้นลอยด้านบนที่ถือเป็นชั้นที่สูงที่สุดของหอคอยได้อี๊ก ซึ่งชั้นนี้ก๊อตไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลย เพราะเค้ามีมุมถ่ายรูปกับวิวเมืองโอซาก้าที่เริ่ดเกินเบอร์มาก โดยเค้าจะมีพื้นกระจกที่ยื่นตัวออกจากหอคอยหันหน้าออกสู่เมือง ใครที่อยากได้ภาพคูลๆ แนะนำให้ตากล้องขึ้นไปชั้นบนอีกชั้นแล้วสาดมุมกล้องลงมานะ เราจะได้ภาพวิวเมืองมุมกว้างที่เท่ล้นเป็นที่สู้ดด
เอาล่ะ ใครที่ส่องวิวจนหนำใจแล้ว ขาเดินกลับลงมาจาก หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตรงบริเวณชั้น 3 ที่เป็นทางผ่านก่อนที่เราจะลงมายังชั้นล่างสุดนั้น ตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ของที่นี่ เพราะเค้าทำจะเป็นเสหมือนเป็นมิวเซียมที่จัดแสดงภาพถ่ายต่างๆ ของย่านชินเซไก (Shinseikai) เอาไว้ให้เราได้มาดูเพื่อเห็นถึงความเป็นมาของย่านนี้
นอกจากนี้เค้ายังมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนมกูลิโกะที่คนไทยรู้จักกันดีอย่างขนมป็อกกี้นั่นเอง ซึ่งกูลิโกะเองถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าโดยเฉพาะป้ายหนุ่มกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ใจกลางย่านโดทงโบริ (Dotonbori) โดยที่นี่เค้ายังมีร้านขายขนมกูลิโกะ รวมถึงสินค้า และของที่ระลึกจากกูลิโกะขายอยู่เยอะมาก ซึ่งความพิเศษคือมันมีขนมอยู่หลายตัวของกูลิโกะที่เราหาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ ต้องมาซื้อที่ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เท่านั้นนา
ยังไม่หมดเท่านั้น สำหรับใครที่อยากลองกิจกรรมสุดตื่นเต้นที่ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เค้ายังมี Tsutenkaku TOWER SLIDER สไลเดอร์ยักษ์ที่พาดคดเคี้ยวจากชั้น 3 ของหอคอยไล่วนลงมาตามด้านข้างของอาคารสู่ชั้นใต้ดินด้านล่างด้วยระยะเวลา 10 วินาที โดยสไลเดอร์มีความยาวถึง 60 เมตร ถ้าใครที่อยากไถลตัวลงจากหอคอยแบบใหม่แบบสับ ก๊อตแนะนำว่าให้ลองเลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ย่านชินเซไก (Shinseikai) ตอนกลางคืน
ด้วยความที่ก๊อตมาเดินเล่น ย่านชินเซไก (Shinseikai) กันตั้งแต่บ่ายคล้อย พอเราลงมาจากหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ไวบ์ด้านล่างของ ย่านชินเซไก (Shinseikai) จากที่ดูไม่หวือหวาอะไรมากในตอนกลางวัน แต่เวลานี้กลับถูกแต่งแต้มไปด้วย แสง สี เสียง จากเหล่าป้ายไฟนีออนมากมายที่ติดประดับประดาอยู่ตามหน้าร้านไปตลอดสองข้างทาง
บรรยากาศตอนกลางคืนของ ย่านชินเซไก (Shinseikai) ส่วนตัวก๊อตคิดว่าเค้าพีคสุดๆ แล้ว เพราะไม่ว่าเราจะก้าวเดินไปไกลแค่ไหน พวกป้ายไฟ ตู้ไฟ รวมถึงพร๊อพไฟต่างๆ ของร้านค้า และร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายไปจนสุดย่านนั้น ต่างก็สว่างจ้าไปด้วยแสงไฟนีออนสุดจี๊ดจ๊าด เดินแล้วเพลินตาสุดอย่างกับก๊อตกำลังเดินเล่นอยู่ในฉากของหนังไซไฟสักเรื่องเลย และที่สำคัญ ด้วยแสง สี ยามค่ำคืนที่ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายความเก่าแก่ของย่านนี้ เวลาเราหยุดถ่ายรูปนา แกร สวยสับ สวยจึ๊ง เต็มสิบให้ร้อยไปเลย
Kushikatsu Daruma Tsutenkaku
Kushikatsu Daruma Tsutenkaku หนึ่งในร้านอาหารสุดป๊อบของย่านชินเซไก (Shinseikai) ที่ก๊อตอยากให้ทุกคนได้มาลองกินเมนูท้องถิ่นชื่อดังของเมืองโอซาก้าอย่าง คุชิคัทสึ (Kushikatsu) หรือ ของทอดเสียบไม้ ซึ่งร้านนี้เค้าดังมากและต้องแวะมาลองเลย โดยเมนูนี้ เค้าจะเป็นพวกเนื้อสัตว์ หรือผักต่างๆ มาเสียบไม้และชุบแป้งทอด จากนั้นเอามาจิ้มกับน้ำจิ้มของ คุชิคัทสึ (Kushikatsu) โดยเฉพาะ ซึ่งใครที่ชอบกินของทอด หรือพวกเทมปุระเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ห้ามพลาดเมนูนี้เล้ยย
โดยร้าน Kushikatsu Daruma Tsutenkaku เค้าเลื่องลือและเป็นตำนานสุด อีกทั้งยังเปิดมากว่า 100 ปีแล้วนา ซึ่งร้านเค้านั้นจะตั้งอยู่ด้านหลังหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เด้อ โดยตัวก๊อตเองเลือกสั่งมาลองกินเยอะมาก ทั้งเนื้อทั้งผักเราจิ้มสั่งมาหมด โดยที่ร้านของเค้าจะมีเมนูเป็นเซตตั้งแต่ 1,000-2,000 เยน แรกๆ นี่กินก็โอเคทุกอย่าง กัดเข้าปากคำไหนก็กรอบอร่อยไปหมด แต่พอกินไปเยอะๆ ด้วยความมันเป็นของทอดล้วน คอเราก็เริ่มแห้งและร้อนเบาๆ ในลำคอ แต่โดยรวมก๊อตคิดว่าอร่อยดีเลยแหละ แต่ให้กินเยอะก็ไม่ไหว เพราะจะเจ็บคอเอาง่ายๆ ดังนั้นกินพอประมาณก็ได้นา 555555
นี่ก็คือการมาเที่ยว ย่านชินเซไก (Shinseikai) ของก๊อตในครั้งนี้ นี่ยกให้เค้าเป็นอีกหนึ่งย่านที่ครบรสมาก ทั้งกิน เที่ยว ช้อป ชมวิวสกายไลน์เมือง ทั้งหมดนี้หาได้ที่ ย่านชินเซไก (Shinseikai) เค้าเลย บรรยากาศโดยรวมจากที่ก๊อตเดินส่องกันมา นี่ว่าเค้าเป็นย่านเดียวในโอซาก้าที่ก๊อตคิดว่ามาแล้วมันฟีลได้ถึงความเก๋า ความบ้านๆ เมื่อสมัย 100 ปีก่อนที่ยังคงครุกรุ่นมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเลยเชียว ใครที่อยากมาสัมผัสเสน่ห์ของโอซาก้าในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ก๊อตแนะนำให้มาเดินเล่นในย่านนี้กันดู สามารถจดลิสต์ลงแพลนเที่ยวได้เลย รับรองว่ามาแล้วตื่นตาตื่นใจและต้องชอบกันแน่นอน
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡