หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ใครมาเดินเที่ยวย่านชินเซไก (Shinseikai) แล้วไม่ขึ้นมาดูวิวสกายไลน์เมืองบนนี้ ก๊อตบอกเลยว่าเหมือนเรามาเที่ยวย่านนี้แบบไม่คอมพลีทนา เพราะที่นี่เป็นหอคอยสำคัญชองเมืองโอซาก้าที่เค้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสวนสนุกลูน่าปาร์ค (Luna Park) ที่เคยเปิดอยู่ในย่านนี้ก่อนจะปิดตัวลงไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ดังนั้น ใครที่อยากมาดูวิวท่ามกลางกลิ่นอายของอาคารที่ยังคงความคลาสสิกมาจนถึงปัจจุบันนี้ การได้ขึ้นมาดูวิวบน หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตอบโจทย์นั้นที่สุดแล้วว
- รีวิวเต็ม โอซาก้า (Osaka) 5 วัน 25 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Universal Studios Japan (USJ) ละเอียด รู้เรื่องมากที่สุด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโอซาก้า (Osaka)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
รู้จักหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หอคอยสำคัญของเมืองโอซาก้าที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติไปเป็นที่เรียบร้อย โดยหอคอยหลังแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกลูน่าปาร์คโอซาก้า (Luna Park Osaka) สวนสนุกคลาสสิกแบบตะวันตก ที่คนสร้างพยายามออกแบบหอคอยนี้ให้โดดเด่นสะดุดโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก หอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่ปารีส มีขนาดสูงที่ 75 เมตร ซึ่งชื่อของอาคารนั้นยังหมายถึง “อาคารสูงที่นำไปสู่สวรรค์” อีกด้วยนะ แต่แล้วในปี ค.ศ. 1943 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หอคอยหลังนี้ถูกไฟไหม้และได้รื้อถอนทิ้งไปก่อนจะสร้าง หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หลังปัจจุบันขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1956 ด้วยความสูงถึง 108 เมตร โดยผู้ออกแบบคือ Tachu Naito สถาปนิกผู้ออกแบบโตเกียวทาวเวอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น หอคอยหลังนี้ก็ได้รับการพัฒนาและดูแลรักษามาเป็นอย่างดีโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวสกายไลน์เมืองที่นักท่องเที่ยวเค้านิยมขึ้นมาเพื่อดูวิวเมืองโอซาก้า (Osaka) กันเยอะมากกก
นอกจากจะเป็นหอคอยที่คนเค้านิยมชมชอบในการมาดูวิวสกายไลน์เมืองโอซาก้าแล้ว บริเวณชั้น 5 ของหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ยังมีรูปปั้นบิลลิเคนซัง (Billiken) รูปปั้นตัวกลมๆ สีทองที่นั่งแป้นส่งยิ้มให้กับผู้คนที่มาเยือนหอคอยแห่งนี้จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำหอคอยไปแล้ว โดยคนญี่ปุ่นเค้ามีความเชื่อกันว่า รูปปั้นบิลลิเคนซัง เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้าที่หากได้มาลูบตรงฝ่าเท้าแล้วจะช่วยเสริมสิริมงคล และให้โชคลาภ ค้าขายเจริญรุ่งเรือง ซึ่งรูปปั้นบิลลิเคนซัง (Billiken) นั้น เดิมทีเค้าไม่ใช้เทพเจ้าของญี่ปุ่นเด้อ แต่ต้องย้อนกลับไปในช่วงปีต้นศตวรรษที่ 20 นักวาดภาพประกอบชื่อดัง ฟลอเรนซ์ เพรทซ์ (Florence Pretz) ได้สร้างรูปปั้นบิลลิเคนซัง (Billiken) ขึ้นมาจากเทพเจ้าที่เค้าเห็นในความฝันเมื่อปี ค.ศ. 1908 ในอเมริกา ต่อมาก็ได้มีการเอารูปปั้นบิลลิเคนซัง (Billiken) มาตั้งประดับเอาไว้ในช่วงที่สร้างหอคอยหลังแรกขึ้นมา ก่อนที่รูปปั้นจะหายไปในช่วงที่บูรณะหอคอย แต่ก็ได้นำตัวใหม่มาตั้งเอาไว้ โดยรูปปั้นล่าสุดที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้เค้าเป็นรุ่นที่ 3 แล้วนา ยังไงใครมาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมมาลองลูบเท้าเค้าเพื่อเสริมแต้มบุญกันเด้อ
ราคาบัตรเข้าชมหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
สำหรับการจะเข้ามาภายในหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เพื่อขึ้นไปดูวิวด้านบนนั้น เราจะต้องซื้อตั๋วเข้ามานา โดยรายละเอียดราคาบัตรค่าเข้าก๊อตได้รวมเอามาให้ตามนี้เลย นอกจากนี้หากใครที่อยากมาเล่นยัง Tsutenkaku TOWER SLIDER สไลเดอร์ยักษ์เพิ่มเติม เราจะต้องซื้อตั๋วแยกจากตั๋วค่าเข้าหอคอยต่างหากด้วยนะ
- บัตรขึ้นชมวิวบนหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) [ซื้อผ่าน Klook]
- เด็กอายุตั้งแต่ 5 ขวบจนถึงระดับไฮสคูล : ราคา 400 เยน (~100 บาท)
- ผู้ใหญ่ : ราคา 900 เยน (~230 บาท)
- บัตรเล่น Tsutenkaku TOWER SLIDER : ราคา 1,000 เยน (~240 บาท)
⚡️ส่วนใครที่มีพาส Osaka Amazing Pass สามารถใช้เข้า หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ได้ฟรี แต่สำหรับ Tsutenkaku TOWER SLIDER นั้น ใช้เล่นฟรีได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เท่านั้นเด้อ
บัตรท่องเที่ยว Osaka Amazing Pass ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี?
สำหรับใครที่มาเที่ยวโอซาก้า (Osaka) แล้วอยากปักไปเที่ยวแลนด์มาร์คชื่อดังหลายๆ ที่ โดยที่เราไม่ต้องกังวัลเรื่องค่าใช้จ่ายจะบานปลายล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ Osaka Amazing Pass เอาไว้ใช้เลย เพราะบัตรพาสนี้สามารถใช้เข้าแลนด์มาร์คทั่วโอซาก้าได้มากกว่า 40 แห่ง รวมถึงยังเอาไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) และรถเมล์ในโอซาก้าได้อย่างไม่จำกัดตามจำนวนวันที่ซื้ออีกด้วย ดังนั้น Osaka Amazing Pass จึงเหมาะกับคนที่ไม่เคยมาเที่ยวโอซาก้ามาก่อน และต้องการมาเก็บแลนด์มาร์คดังๆ ของเมืองให้ครบมากที่สุด ใครที่จะมาเที่ยวโอซาก้าแบบจริงจังควรซื้อ!
⚡️ สำหรับแลนด์มาร์คหรือกิจกรรมดังๆ ที่ใช้แล้วคุ้มเมื่อมีพาสนี้คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle / ค่าเข้า 600 เยน หรือ 145 บาท), ล่องเรือชมอ่าวโอซาก้า (Cruise Ship Santa Maria Day Cruise / ค่าขึ้น 1,600 เยน หรือ 385 บาท) , LEGOLAND® Discovery Center Osaka (ค่าเข้า 2,800 เยน หรือ 670 บาท), จุดชมวิวบนตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building / 1,500 เยน หรือ 365 บาท), หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower / ค่าเข้า 900 เยน หรือ 220 บาท), ขึ้นชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel (ค่าขึ้น 1,000 เยน หรือ 250 บาท)
Osaka Amazing Pass มีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ และซื้อที่ไหนดี
สำหรับราคาบัตร Osaka Amazing Pass นั้นจะมีด้วยกัน 2 แบบ และมีราคาต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เราเลือก โดยเค้ามีมาให้เลือกทั้งแบบ 1 และ 2 วัน ตามแต่เราสะดวก ซึ่งถ้าให้ก๊อตแนะนำคือ ให้ซื้อแบบ 2 วันไปเลย คือคุ้มมาก บัตร Osaka Amazing Pass แบบ 1 วัน : ราคา 2,800 เยน (~680 บาท) / แบบ 2 วัน : ราคา 3,600 เยน (~880 บาท)
สำหรับหลายคนที่อยากจะซื้อ Osaka Amazing Pass แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหนดี ก๊อตแนะนำให้เราซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี สามารถแลกเวาเชอร์จากมือถือเป็นบัตรจริงที่จุดแลกพาสได้เลย
วิธีการเดินทางมาที่หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
รถไฟ : วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยมีตัวเลือกให้เราขึ้นทั้งรถไฟ JR และ รถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) รวมถึงรถไฟนันไก โดยสถานีรถไฟที่ใกล้กับ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสถานีตามนี้
- โดยรถไฟ JR (Japan Railways):
- สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) : ให้ขึ้นรถไฟสาย JR Yumesaki Line มาลงที่สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร
- โดยรถไฟใต้ดิน (Osaka Metro):
- สถานีโดะบุตสึเอง-มะเอะ (Dobutsuen Mae Station) : ให้ขึ้นรถไฟสายมิโดสุจิ (Midosuji Line) มาลงสถานีโดะบุตสึเอง-มะเอะ (Dobutsuen Mae Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร
- โดยรถไฟนันไก (Nankai Main Line):
- สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) : ให้ขึ้นรถไฟสายหลักนันไค (Nankai Main Line) มาลงที่สถานีเอบิสุโชะ (Ebisucho Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร
> ซื้อพาสบัตรรถไฟใต้ดินแบบเดินทางไม่จำกัด (Osaka Metro Pass) 1 วัน หรือ 2 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
ไปเที่ยวหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ด้วยกันเล้ยย
สำหรับการเที่ยวชมภายใน หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) นั้น ใครที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass สามารถโชว์พาสเราเพื่อรับบัตรเข้าฟรีได้เลย ส่วนใครที่ไม่มีพาสนั้นก็ซื้อบัตรขึ้นหอคอยได้ตรงเคาท์เตอร์ขายตั๋วเช่นกัน พอเราได้บัตรเข้ามาแล้ว ให้เราต่อแถวไปขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นนึงก่อน โดยชั้นนี้จะเป็นชันที่เราจะได้เจอกับเหล่าตัวการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นตั้งเรียงรายอยู่เยอะม๊าก ทั้ง โดราเอม่อน วันพีช หรือจะเป็นอันปังแมนสุดน่ารักมาคอยต้อนรับอยู่ จากนั้นเราต้องขึ้นลิฟต์ต่อมายังจุดชมวิวด้านบนหอคอยที่เมื่อประตูลิฟท์เปิดนั้น เราสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศสุดคลาสสิกกันตั้งแต่ประตูลิฟต์เปิดเลยทีเดียว
หากใครคิดว่าวิวด้านบนนี้น่าจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ของจริงเมื่อเราได้มายืนด้านบนหอคอย บอกเลยว่าวิวเมืองจากหอคอยนั้นสูงละลิ่วเลยนา ด้วยความที่ตึกรอบๆ ในเมืองของโอซาก้านั้นไม่ได้สร้างสูงมากนัก ทีนี้พอเราขึ้นมาดูวิวบนนี้มันเลยกวาดสายตามองวิวเมืองโอซาก้าได้แบบสะใจโคตรๆ ซึ่งวิวที่เห็นวิวได้ชัดเลยคือ วิวของตึกอาเบะโนะ ฮารุกัส (Abeno Harukas) ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง อีกทั้งยังมองเห็นวิวเมืองที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำได้แบบดีต่อใจสุดๆ
⚡️ ใครที่สายมู นี่ขอแอบบอกเคล็ดความปัง ถ้าใครเห็นรูปปั้นน้องตัวกลมๆ สีทองๆ เหมือนในรูปภาพด้านล่าง เค้าคือรูปปั้น “บิลลิเกน (Billiken)” ที่ก๊อตได้เล่าไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคนญี่ปุ่นเค้าเชื่อกันว่าถ้าเราเข้าไปลูบเท้าของเค้าแล้ว เราจะได้โชค ได้ลาภตามมาด้วยนะ ถ้าใครเห็นแล้วอาจจะลองไปลูบๆ ดูก็ไม่เสียหายนะเอ้อ 55555
นอกจากจุดชมวิวในหอคอยแล้ว หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเรายังสามารถเดินขึ้นไปได้อีกหนึ่งชั้นที่เป็นชั้นลอยด้านบนที่ถือเป็นชั้นที่สูงที่สุดของหอคอยได้อี๊ก ซึ่งชั้นนี้ก๊อตไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลย เพราะเค้ามีมุมถ่ายรูปกับวิวเมืองโอซาก้าที่เริ่ดเกินเบอร์มาก โดยเค้าจะมีพื้นกระจกที่ยื่นตัวออกจากหอคอยหันหน้าออกสู่เมือง ใครที่อยากได้ภาพคูลๆ แนะนำให้ตากล้องขึ้นไปชั้นบนอีกชั้นแล้วสาดมุมกล้องลงมานะ เราจะได้ภาพวิวเมืองมุมกว้างที่เท่ล้นเป็นที่สู้ดด
เอาล่ะ ใครที่ส่องวิวจนหนำใจแล้ว ขาเดินกลับลงมาจาก หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตรงบริเวณชั้น 3 ที่เป็นทางผ่านก่อนที่เราจะลงมายังชั้นล่างสุดนั้น ตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ของที่นี่ เพราะเค้าทำจะเป็นเสหมือนเป็นมิวเซียมที่จัดแสดงภาพถ่ายต่างๆ ของย่านชินเซไก (Shinseikai) เอาไว้ให้เราได้มาดูเพื่อเห็นถึงความเป็นมาของย่านนี้
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
นอกจากนี้เค้ายังมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนมกูลิโกะที่คนไทยรู้จักกันดีอย่างขนมป็อกกี้นั่นเอง ซึ่งกูลิโกะเองถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าโดยเฉพาะป้ายหนุ่มกูลิโกะ (Glico Running Man Sign) ใจกลางย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ที่มีอายุเกือบๆ 100 ปีแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ ที่นี่เค้ายังมีร้านขายขนมกูลิโกะ รวมถึงสินค้า และของที่ระลึกจากกูลิโกะขายอยู่เยอะม๊ากก ซึ่งความพิเศษคือมันมีขนมอยู่หลายตัวของกูลิโกะที่เราหาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ ต้องมาซื้อที่ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เท่านั้น
ยังไม่หมดเท่านั้น สำหรับใครที่อยากลองกิจกรรมสุดตื่นเต้นที่หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เค้ายังมี Tsutenkaku TOWER SLIDER สไลเดอร์ยักษ์ที่พาดคดเคี้ยวจากชั้น 3 ของหอคอยไล่วนลงมาตามด้านข้างของอาคารสู่ชั้นใต้ดินด้านล่างด้วยระยะเวลา 10 วินาที โดยสไลเดอร์มีความยาวถึง 60 เมตร ถ้าใครที่อยากไถลตัวลงจากหอคอยแบบใหม่แบบสับนี่อยากให้ลองมาก
โดยรวมแล้ว หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เป็นหอชมวิวที่ราคาไม่ได้เเพงมาก วิวบนนี้คือคุ้มค่าเว่อร์ ได้สัมผัสความญี่ปุ่นผ่านดีไซน์ของหอคอยและกลิ่นอายความเก่าแก่ที่หลงเหลืออยู่ คือมันดีงามมาก บรรยากาศเค้ามีความคลาสสิกสุดๆ เป็นเหมือนไอคอนิกของเมืองโอซาก้าที่ต้องมาถ่ายรูปกันให้ได้เลยเชียว
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡