โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ตัดภาพความปุ๊กปิ๊กน่ารักของเหล่าเจ้าหญิงจากดิสนีย์คลาสสิกทิ้งไปก่อนได้เลย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นธีมที่โตมากขึ้น เหมาะกับเหล่าวัยใสที่ชื่นชอบเครื่องเล่นแนวแอดเวนเจอร์ตื่นเต้นเร้าใจจนทุกคนต้องกรี๊ดกันคอแทบแตก และที่พิเศษสุดๆ เลย คือโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้นเป็นสวนสนุกธีมน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของโลก นั่นหมายความว่า ต่อให้เราจะบินไปไกลถึงอเมริกา หรือไปทัวร์ดิสนีย์ที่ไหนบนโลกนี้ก็จะไม่ได้สัมผัสกับรรยากาศของสวนสนุกดิสนีย์ธีมน้ำได้อย่างแน่นอน คือแกรต้องจิ้มมาที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เอาล่ะ จะสนุกและเรียกเสียงกรี๊ดจากก๊อตได้มากแค่ไหน ลองเลื่อนอ่านรีวิวเต็มได้เล้ยย
- รีวิวเต็ม โตเกียว (Tokyo) 28 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneyland แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneysea แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Harry Potter – Warner Bros. Studio Tour Tokyo แบบละเอียด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโตเกียว (Tokyo)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
สารบัญรีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
เนื่องจากรีวิว โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หน้านี้คือละเอียดยิบมาก ก๊อตเลยแบ่งซอยย่อยออกเป็นหัวข้อเพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านง่ายขึ้น ใครอยากอ่านอันไหน สามารถจิมด้านล่างได้เลยนะครับ จะได้ไม่ต้องลากเมาส์ให้เมื่อยตุ้มเสียเวลา 😆
- รู้จักโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
- เลือกไปไหนดีระหว่าง โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)?
- ซื้อบัตรโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ที่ไหนดี?
- เที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) พักที่ไหนดี?
- ทริคและการวางแผนเที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- เครื่องเล่นห้ามพลาดของโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
- โซน American Waterfront
- โซน Mysterious Island
- โซน Arabian Coast
- โซน Lost River Delta
- โซน Ariel’s Playground
- โซน Toy Story Mania!
- โซน Port Discovery
- พาเหรด Let’s Celebrate with Colors
- โชว์ Believe! Sea of Dreams
- สรุปการมาเที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
รู้จักโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
ต้องบอกกันก่อนว่า โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น เพิ่งจะเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2544 โดยเป็นสวนสนุกแห่งที่ 2 ที่เปิดอยู่ในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต หลังจากโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เปิดให้บริการมา 18 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 โดยที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น มาในธีมการสำรวจทะเลที่มีแห่งเดียวในโลก ซึ่งภายในปาร์คเค้าจะมีทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า สวนสนุกดิสนีย์ทั้งสองปาร์คทั้งแลนด์ (Land) และซี (Sea) นั้น Walt Disney ไม่ได้เป็นเจ้าของและไม่ได้เป็นคนบริหาร แต่เป็นของกลุ่มทุนญี่ปุ่นอย่างบริษัท ‘The Oriental Land’ ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาและเป็นเจ้าของรวมถึงได้สิทธิ์ในการบริหารสวนสนุกและโรงแรมแบรนด์ดิสนีย์ทั้งหมดเลย นั่นเลยทำให้ดิสนีย์รีสอร์ตที่นี่คือปาร์คแห่งเดียวในโลกที่ดิสนีย์ไม่ได้เป็นเจ้าของนะเออ
ซึ่งกว่าจะมาเป็นโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ให้เราได้มาเล่นกันนั้น แรกเริ่มเดิมทีทางบริษัทวอลต์ดิสนีย์ (Walt Disney Company) ได้วางแผนที่จะสร้างสวนสนุกธีมน้ำแห่งใหม่ในลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เนื่องจากเกิดปัญหาแนวคิดนี้จึงได้ถูกส่งต่อมายัง ‘The Oriental Land’ และได้มีการตัดสินใจสร้าง โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ขึ้นมา ซึ่งมีคอนเซ็ปต์เน้นไปที่เครื่องเล่นที่เหมาะกับผู้ใหญ่ มีความแอดเวนเจอร์ผาดโผนและตื่นเต้นมากกว่าฝั่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ทว่าก็ยังคงมีเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กๆ อยู่ร่วมด้วย
ภายใน โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) แบ่งออกเป็น 7 โซน คือ คือ Mediterranean Harbor, American Waterfront, Port Discovery, Lost River Delta, Arabian Coast, Mermaid Lagoon และ Mysterious Island ซึ่งเค้าจะเปรียบแต่ละโซนเป็นเหมือนท่าเรือ โดยสร้างและอิงมาจากภาพยนตร์ดิสนีย์ทั้งหมด ซึ่งท่าเรือทั้ง 6 แห่งแรกนั้นจะอยู่รายล้อมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางปาร์ค ซึ่งจะมีเครื่องเล่นประจำของแต่ละท่าเรือแบ่งกันออกไป และหากใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดคำถามว่า แล้วท่าเรือสุดท้ายหละ ทำไมก๊อตไม่พูดถึง คำตอบคือ ท่าเรือที่ 7 ก็คือทะเลสาบที่มีภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Mount Prometheus) ตั้งอยู่ใจกลางปาร์ค นั่นเอง ซึ่งที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เค้าจะไม่มีปราสาทเหมือนฝั่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นา แต่เค้าใช้เกาะลึกลับและภูเขาไฟลูกโตนี้มาเป็นสัญลักษณ์แทนเหล่าปราสาทนั่นเอง เอาล่ะข้อมูลแน่นแล้ว ตามก๊อตไปเที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ด้วยกันเร้วว
เลือกไปไหนดีระหว่าง โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)?
สำหรับใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วยังลังเลว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ระหว่าง โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ก๊อตมีรายละเอียดของทั้งสองสถานที่มาให้อ่านเพื่อเป็นการตัดสินใจตามด้านล่างนี้เลย
โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea): เป็นสวนสนุกที่เค้าเปิดแยกออกมาจากดิสนีย์แลนด์ โดยเค้าตั้งใจสร้างให้มันมีความแตกต่างกัน และมีความแปลกใหม่ออกไปภายใต้ธีมการสำรวจทางทะเล ซึ่งความพิเศษของฝั่งนี้จะมีแค่ที่โตเกียวที่เดียวในโลก โดยเครื่องเล่นใน โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) จะออกไปทางแนวแอดเวนเจอร์ที่อิงจากภาพยนตร์ของดิสนีย์ที่มีเครื่องเล่นมันส์ๆ และหวาดเสียวเยอะกว่า โดยเค้าจำลองปาร์คเป็นท่าเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเค้าแยกออกเป็น 6 โซน และมีเครื่องเกี่ยวกับน้ำเยอะอยู่ แถมฝั่งนี้เองไม่มีปราสาทดิสนีย์ด้วยนะเออ แต่เค้าจะมีภูเขาไฟใหญ่ยักษ์มาตั้งเด่นสง่ากลางปาร์คแทน นอกจากนี้เค้ายังมีมาสคอตประจำสวนสนุกอย่าง ‘Stella Lou’ กระต่ายน้อยสีม่วงอ่อนที่ดังม๊ากในญี่ปุ่น โดยน้องเป็นเพื่อนของดัฟฟี่ ตุ๊กตาหมีที่มินนี่เมาส์เย็บให้กับมิกกี้เมาส์อีกด้วย
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland): ถือว่าเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา ที่คล้ายกันกับ Magic Kingdom Park ที่รัฐฟลอริดา และ Disneyland Park ในแคลิฟอร์เนีย ใครที่อยากไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฟีลปราสาทคลาสสิคที่อิงกับคาแรคเตอร์ของเหล่าเจ้าหญิงและเหล่ามิกกี้เมาส์ ให้เราเลือกฝั่ง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ได้เลย และด้วยความที่ฝั่งดิสนีย์แลนด์นั้นอิงตัวละครคลาสสิก เครื่องเล่นที่นี่เลยออกแนวเด็กน้อยเยอะกว่า แต่ใช่ว่าเครื่องเล่นหวาดเสียวหรือมันส์ๆจะไม่มี คือมีเด้อ แต่ว่าจะมีไม่มากเท่าฝั่งโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั่นเอง ใครที่อยากอ่านรีวิวเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ สามารถอ่านเต็มๆ ได้อีกรีวิวนึงเลยน้า
⚡️ สรุป โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)?
ใครที่ไม่เคยเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาก่อนและอยากสัมผัสความเป็นออริจินอลของดิสนีย์แลนด์ หรือใครที่มากันเป็นครอบครัว และมีเจ้าตัวน้อยมาด้วยล่ะก็ ก๊อตแนะนำว่าให้เลือกเข้าฝั่ง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เพราะมีปราสาทเจ้าหญิงที่ถือเป็นไอคอนของดิสนีย์แลนด์ และเราจะยังได้เจอเหล่าบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์อีกด้วย แต่ให้รู้ว่าเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เครื่องเล่นเด็ก และเครื่องเล่นที่เน้นแสงสีเสียงและเอฟเฟ็คมากกว่าความหวาดเสียวนะเออ
แต่สำหรับใครที่ชอบการผจญภัย ฟีลพาเด็กโตมาด้วย ก๊อตแนะนำว่าให้ลองไปเล่นที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เพราะเครื่องเล่นจะออกแนวตื่นเต้นและระทึกเอาเรื่องมากกว่า ปราสาทดิสนีย์ไม่มีแต่แทนที่ด้วยภูเขาไฟลูกโต ฮ่าๆ ใครที่เคยเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาหลายที่แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ดูได้เลย
ซื้อบัตรโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ที่ไหนดี?
- ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday (⭐️แนะนำ): วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี คือการซื้อบัตรผ่าน Klook หรือ KKdays นั่นเอง โดยเว็บ OTAs เองจะเปิดขายบัตรล่วงหน้าแค่ 2 เดือนเท่ากันกับเว็บโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โดยทั้งสองเว็บเค้ามีภาษาไทยและตั๋วที่ออกเค้าออกให้จะเป็น QR Code ที่เราสามารถไปสแกนที่หน้าประตูแล้วเข้าสวนสนุกได้เลย สะดวกเว่อร์
🎫 เช็คราคาและซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
หมดอายุ: 10-10-2024
ส่วนลด 1,000 บาท
หมดอายุ: 12-10-2024
เที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) พักที่ไหนดี?
สำหรับคนที่จริงจังในการมาเที่ยว โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) แล้วอยากให้ครบเครื่องมากที่สุดนั้น ยังไงก็ต้องพักโรงแรมและรีสอร์ตใน โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disner Resort) เค้าแล้วแหละ โดยด้านในนั้นมันมีโรงแรมมากมายให้ได้เลือกหลายระดับและราคาโดยตกแต่งไปตามธีมต่างๆ ของดิสนีย์เอง แถมบางอันยังมาพร้อมแพ็กเกจพิเศษที่เราจะได้สิทธิเข้าดูในส่วนต่างๆ ที่คนพักข้างนอกไม่สามารถเข้ามาดูได้ ซึ่งใครที่ชอบความเป็นดิสนีย์ควรค่าแก่การเข้าพักอย่างมาก
สำหรับข้อดีของการเข้าพักใน โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disner Resort) นั้น หากเราซื้อบัตรเข้าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ไม่ทัน หรือตั๋วหน้าเว็บไซต์หมดแล้ว หากเราเป็นแขกของดิสนีย์รีสอร์ต ยังไงเราก็ได้รับสิทธิพิเศษในการการันตีได้เข้าไปในสวนสนุกแน่นอนแม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันพีคที่คนมาเที่ยวเยอะมากที่สุด หรือแม้บัตรเค้าจะขายหมดแล้วก็ตาม โดยเราสามารถซื้อบัตรสวนสนุกได้ที่รีสอร์ตที่เราพักได้เลย นอกจากนี้ทางรีสอร์ตเองยังมีรถ Free Shuttle Bus สำหรับรับ-ส่ง ที่สวนสนุกอีกด้วย และที่เริ่ดคือเราสามารถเข้าปาร์คได้ก่อนคนทั่วไป 15 นาทีเลยทีเดียว ถือดีมากสำหรับคนที่อยากเก็บเครื่องเล่นให้หมด คือรีบเข้าก่อน-เล่นก่อนนั่นเอง ทั้งหมดนี้ว่าสะดวกสบายและดีมากเลยแหละ
โรงแรมธีมดิสนีส์ใน Tokyo Disney Resort
- Tokyo DisneySea Hotel MiraCosta [⭐️ แนะนำ] ราคาเริ่มต้น ¥59,500 (~15,000 บาท) เป็นโรงแรมที่แพงที่สุด ดีที่สุด และตั้งอยู่ใน Tokyo DisneySea เลย เรียกได้ว่านอนกันในปาร์คของจริงเลยทีเดียว จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook
- Tokyo Disneyland Hotel [⭐️ แนะนำ] ราคาเริ่มต้น ¥49,500 (~12,500 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ติดกับ Tokyo Disneyland Park มีห้องธีม Beauty and the Beast, Alice in Wonderland และ Cinderella จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
- Disney Ambassador Hotel ราคาเริ่มต้น ¥39,000 (~9,800 บาท) ต่อคืน โรงแรมดิสนีย์สไตล์อเมริกันแบบ Art Deco ไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับปาร์คทั้ง Disneyland และ DisneySea แต่สามารถนั่งรถ Shuttle Bus ได้ฟรี จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
- Tokyo Disney Resort Toy Story Hotel ราคาเริ่มต้น ¥35,000 (~8,700 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมธีม Toy Story โดยห้องพักทุกห้องนั้นได้แรงบันดาลใจมากจากห้องนอนของ Andy ในอนิเมชั่นเลย จองผ่าน Expedia
- Tokyo Disney Celebration Hotel ราคาเริ่มต้น ¥19,500 (~4,900 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่ถูกที่สุดในตระกูลดิสนีย์ และยังตั้งอยู่ไกลจากปาร์คประมาณ 20 นาที โดยเราสามารถนั่งรถบัสฟรีของดิสนีย์ได้ ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
โรงแรมอื่นๆ แบบทางการของ Tokyo Disneyland
สำหรับคนที่อยากหาโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนสนุกที่เรายังเดินทางสะดวกด้วยรถโมโนเรลของดิสนีย์เอง แต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินเบอร์ในราคาดิสนีย์ เรายังมี 5 ตัวเลือกโรงแรมแนะนำตามนี้ ที่เค้ายังเป็น ‘โรงแรมแบบทางการของ Tokyo Disneyland’ ที่เราจะยังได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่างเสมือนพักในโรงแรมดิสนีย์ เช่น การการันตีตั๋วเข้าสวนสนุก แต่จะยกเว้นสิทธิบางอย่างเช่น การเข้าปาร์คก่อน 15 นาที
- Hilton Tokyo Bay (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 6,500 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Hotel Okura Tokyo Bay (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 4,800 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Sheraton Grande Tokyo Bay Hotel (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 6,800 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Marriott Bonvoy / Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Grand Nikko Tokyo Bay Maihama (8.9/10) ราคาเริ่มต้น 4,600 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Tokyo Bay Maihama Hotel (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 4,900 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Tokyo Bay Maihama Hotel First Resort (8.1/10) ราคาเริ่มต้น 3,300 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook
ทริคและการวางแผนเที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าจากออนไลน์ ตามที่ก๊อตบอกไปข้างบน เพราะถ้าใครเลือกมาซื้อหน้างานนั้น มีความเสี่ยงที่จะไม่มีบัตรมาก หรือถ้ามีบัตร เราก็ต้องต่อคิวซื้อนานมากเช่นกัน
- ใครจะมาเที่ยวที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ให้มาวันธรรมดา อย่าได้มาวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดเลย เพราะขนาดก๊อตไปวันธรรมดาคนยังเยอะมากกก
- สำหรับใครที่อยากอยู่เที่ยวแบบเต็มวัน เพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยนั้น แนะนำให้นอนในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort) เพราะจะช่วยประหยัดเวลาในการเข้ามายังปาร์คต่างๆ ได้เยอะเลย หรือถ้าเล่นแล้วเหนื่อยก็สามารถเดินกลับไปพักก่อน แล้วค่อยออกมาใหม่ตอนไหนก็ได้ ตอนดึกๆ อยากออกมาดูเค้าจุดพลุค่อยเดินออกมาก็ยังได้ พออยู่ดึกก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางกลับ เพราะสามารถเดินกลับไปที่ที่พักหรือนั่ง Shuttle Bus ได้สบาย
- อย่าลืมโหลดแอป Tokyo Disney Resort App เพราะแอปเดียวช่วยชีวิตเราตอนที่อยู่สวนสนุกได้เยอะมาก
- สามารถดูเเผนที่สวนสนุกทั้งหมดได้ผ่านเเอป โดยในแอปมันจะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของสวนสนุก รวมถึงเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นใช้เวลาต่อแถวเข้าเล่นกี่นาที
- ใช้ดูแผนที่เครื่องเล่น และโซนต่างๆ ในสวนสนุกได้รวมถึงรู้ว่าเครื่องเล่นไหนปิดบ้าง
- ใช้ดูว่าเวลาโชว์พาเหรด หรือพลุว่าเค้าแสดงกี่โมง
- ใช้ในการซื้อบัตรเบ่ง ‘Disney Premier Access’ ในแอป ซึ่งบัตรเบ่งมันใช้เล่นไม่ได้ทุกเครื่อง มีเฉพาะเครื่องเล่นฮิต แนะนำให้ซื้อเลยหากเครื่องเล่นที่เราอยากเล่นคิวเยอะ เพราะเค้าขายจำนวนจำกัด ไม่ได้ขายแบบอัลลิมิต
- ให้มาถึงสวนสนุกในเวลาเช้าที่สุดเท่าที่จะมาได้ ยิ่งใครมาตั้งแต่ก่อนสวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก เพราะเครื่องเล่นฮิตคนจะยังต่อแถวไม่เยอะ และแน่นอนว่าเราจะมีเวลามากพอในการรอเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้นเยอะม๊าก
- ใครที่เตรียมตัวมาเล่น Soaring: Fantastic Flight, Toy Story Mania ก๊อตแนะนำว่ามาถึงสวนสนุกแล้วให้พุ่งตัวไปเล่นอันนี้ก่อนเลยตั้งแต่สวนสนุกเปิด เพราะเค้าเป็นสองเครื่องเล่นฮิตที่คนต่อแถวเล่นเยอะมากที่สุดในปาร์คแล้ว แน่นอนว่าใช้เวลาต่อคิวนานสุดๆ ล่าสุดที่ก๊อตไปนั้นต่อไปกว่า 100-140 นาทีเลย ซึ่งถ้าเล่นเครื่องเล่นนี้เสร็จแล้ว ก๊อตแนะนำว่าให้เช็คในแอปว่าเครื่องเล่นไหนคนต่อคิวน้อย แล้วให้เลือกพุ่งไปเล่นอันนั้นต่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องเล่นเก็บแต่ละโซนเรียงกันไป
- ใครมาแล้วอยากซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ถังป๊อบคอร์น จาน ชามต่างๆ ให้รีบซื้อเลย เพราะของพวกนี้เค้าจะผลิตขายออกมาตามเทศกาล หมดแล้วหมดเลย
- ทุกอย่างในโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) สามารถใช้บัตรเครดิต หรือ Travel Card รูดได้หมด
เครื่องเล่นห้ามพลาดของโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดในโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น จริงๆ อันนี้มันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนแหละ แต่ถ้าให้ก๊อตเลือกมาล่ะก็ ก๊อตจะขอแยกออกเป็น 2 แบบตามที่ก๊อตชอบแล้วกัน โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ที่เริ่ดมากนั้นจะมีดาว 3 ดวง ต่อท้ายชื่อไว้ด้วย หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มเล่นเครื่องไหน อย่างไร ลองเลือกดูๆ ตามสายตัวเองได้เล้ย
เหตุผลที่ห้ามพลาด | เครื่องเล่นห้ามพลาดในโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | – Journey to the Center of the Earth ⭐️⭐️⭐️ (มีที่นี่ที่เดียวในโลก) – Indiana Jones® Adventure: Temple of the Crystal Skull ⭐️⭐️⭐️ |
เครื่องเล่นตื่นตาตื่นใจ เน้นประสบการณ์ | – 20,000 Leagues Under the Sea ⭐️⭐️⭐️ (มีที่นี่ที่เดียวในโลก) – Sindbad’s Storybook Voyage ⭐️ – Soaring: Fantastic Flight ⭐️⭐️ |
⚡️ บอกก่อนว่ารีวิวนี้ เราจะไล่เขียนเป็นโซนๆ ไปนะ แต่ในชีวิตจริงตอนที่เราอยู่ในสวนสนุกนั้น ไม่จำเป็นต้องไล่เก็บแต่ละโซนขนาดนั้น อันไหนที่เป็นเครื่องเล่นฮิตและเป็นเครื่องเล่นที่เราอยากเล่น หากเห็นเวลาต่อคิวในแอปดิสนีย์มันลงต่ำมาก นี่แนะนำให้ไปรีบต่อเครื่องเล่นนั้นไปเลย ทั้งนี้ ในการรีวิวเครื่องเล่นแต่ละอันของก๊อต นี่จะปูเนื้อเรื่องไว้ให้ เพราะถ้าเรารู้เนื้อเรื่องหรือซีรีส์ที่เค้าดัดแปลงมาทำเครื่องเล่นแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเราจะเล่นได้สนุกขึ้นเยอะมาก!
มาเริ่มเที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) กั้นน
โซน American Waterfront
มาเริ่มกันที่โซน โซน American Waterfront ที่เค้าจำลองเป็นท่าเรือที่อยู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ภายในโซนนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ธีม ได้แก่ ส่วน “Old Cape Cod” ที่ให้มู้ดเหมือนเราได้มาเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับกลุ่มชาวประมงใน Cape Cod ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวอิงแลนด์ (New England) และอีกส่วนคือ “New York Harbor” ที่ให้ฟีลเหมือนยกเอานิวยอร์ก ซิตี้ มหานครแห่งแฟชั่นและความบันเทิงที่ชวนให้คนที่เข้ามาสัมผัสไปถึงบรรยากาศสไตล์คนเมืองชิคๆ ที่ดูคึกคักมีชีวิตชีวา
ภายในโซน American Waterfront เราก็จะได้เห็นพวกรถไฟ รถราง และตึกอาคารที่ส่วนตัวมองว่ามันมีกลิ่นอายของนิวยอร์กที่ผสมผสานไปกับซานฟรานซิสโกและชิคาโก้เข้าไว้ด้วยกันเลย มีไวบ์และฟีลเหมือนเราเดินอยู่ที่อเมริกา นอกจากนี้ตรงแถวๆ ท่าเรือเค้ายังมีไวบ์ความเป็นท่าเรือพร้อมกับเรือใหญ่ยักษ์อย่าง SS Columbia ที่หน้าตาคล้ายเรือไททานิกอีกด้วย ใครที่จะมาเล่นเครื่องเล่นในโซนนี้ให้รีบพุ่งตัวมาที่ตึกทรงแปลกๆ กับ Tower of Terro ถือเป็นไฮไลท์เครื่องเล่นหลักของโซนนี้ได้เล้ย
Tower of Terror
เครื่องเล่นแรกและเป็นเครื่องเล่นที่แนะนำให้ไปเล่นมากที่สุดโซน American Waterfront คือ Tower of Terror เครื่องเล่นแบบดรอปทาวเวอร์ที่เค้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากซีรีส์เรื่อง The Twilight Zone ของร็อด เซอร์ลิง (Rod Serling’s) กับเรื่องราวลึกลับเกิดขึ้นที่โรงแรมฮอลลีวูดทาวเวอร์ (Hollywood Tower Hotel) ในฮอลลีวูด (Hollywood) รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยดิสนีย์เค้าก็หยิบยกเอาเรื่องราวจากซีรีส์มาสร้างเป็นเครื่องเล่นในชื่อ “Twilight Zone Tower of Terror” ที่ Walt Disney World ในฟลอริด้า แต่โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น จะตัดเป็นชื่อสั้นๆ ว่าว่า “Tower of Terror” เนื่องจากเรื่องลิขสิทธิ์และคนญี่ปุ่นเองก็ไม่คุ้นกับชื่อนี้เท่าไหร่ และด้วยความที่ชื่อเครื่องเล่นไม่เหมือนกันแบบนี้ เค้าการันตีเลยว่าธีมของเครื่องเล่นนั้นไม่เหมือนกับที่อเมริกา โดยที่นี่จะเป็นเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นภายในโรงแรมไฮท์ทาวเวอร์ (Hightower Hotel) ซึ่งก็คือตึกที่เรากำลังจะเดินเข้าไปเล่นนั่นเองจ๊า
แรกเริ่มก็เดินต่อแถวเข้ามาด้านในโรงแรมเพื่อรอไปขึ้นเครื่องเล่นที่อยู่ด้านใน ความตื่นตาตื่นใจระหว่างต่อแถวรอคิวที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายเลย เราจะได้สัมผัสบรรยากาศภายในโรงแรมที่เค้ามีกลิ่นอายของความเป็นศิลปะแบบโกธิคผสมผสานเข้ากับความเป็นอเมริกัน และยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19-20 ที่ตกแต่งเอาไว้ให้ได้ส่องและสำรวจกัน ซึ่งระหว่างทางที่แถวของเรามันค่อยๆ ขยับเดินหน้าอยู่นั้น ก็จะเริ่มเห็นเรื่องราวชวนสยองถึงที่มาที่ไปของ Tower of Terror ที่เริ่มต้นจากนายแฮริสัน ไฮท์ทาวเวอร์ (Harrison Hightower) เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ที่ชื่นชอบการออกสำรวจโลก และสะสมวัตถุโบราณ หรือของแปลกต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก โดยเค้าได้ไปที่ชนเผ่าแห่งหนึ่ง และได้ขโมยเอารูปปั้นเทพเจ้าประจำชนเผ่าที่ชื่อ ‘ชิริกิ อุทุนดู (Shiriki Utundu)’ กลับมา แม้ว่าในตอนนั้นผู้นำชนเผ่าและชาวบ้านจะขู่เข็ญแฮริสันแทบตายว่าจะสาปส่งแกร! หากแกขโมยรูปปั้นมาจริงๆ แต่แฮริสันก็ด้อนแคร์เวอร์ พี่แกก็เอารูปปั้นเทพเจ้ากลับมาตั้งไว้ที่โรงแรมไฮท์ทาวเวอร์ (Hightower Hotel) จนได้
โดยในวันส่งท้ายปี ค.ศ.1899 โรงแรมได้จัดงานแถลงข่าวใหญ่โตเรื่องการเดินทางไปแอฟริกา ซึ่งแน่นอนว่าอีตาแฮริสันก็คุยจ้อโม้ไม่หยุดเรื่องวิธีที่ตัวเองได้รูปปั้นเทพเจ้าของชนเผ่านั้นมา แถมยังยืนกรานหนักแน่นว่ามันไม่ได้ถูกสาป และพี่แกยังไปยืนสูบซิก้าพ่นควันเสียฟุ้ง ไม่พอยังทำท่าทางเย้ยหยันรูปปั้นเข้าให้อีกแมช ซึ่งพอจะเที่ยงคืน แฮริสันก็จะขึ้นลิฟต์ไปยังเพนต์เฮาส์ของโรงแรมที่อยู่ด้านบนสุด ซึ่งจังหวะที่ลิฟต์กำลังพาแกขึ้นไปยังด้านบนนั้น จู่ๆ พลังของรูปปั้นก็พุ่งเข้าใส่ จนทำให้ลิฟต์ตัวนั้นดิ่งลงสู่พื้นชั้นล็อบบี้ด้านล่าง ซึ่งเราสามารถสังเกตลิฟท์ตัวนี้ได้ตอนเราเดินเข้ามาในตึกชั้นหนึ่งได้เลย และเมื่อเจ้าหน้าที่เค้ามางัดลิฟต์ออกได้ก็พบแค่เพียงรูปปั้นเท่านั้น โดยที่ไม่มีใครพบกับแฮริสันอีกเล้ย ทำให้เป็นเรื่องชวนสยองของโรงแรมไฮท์ทาวเวอร์ (Hightower Hotel) จนในที่สุดโรงแรมแห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไป
ถึงทีไปสัมผัสบรรยากาศชวนหลอนกับเครื่องเล่น Tower of Terror กันแล้ว ตัวเครื่องเล่นจะให้เราเข้าไปนั่งอยู่บนเครื่องเล่นในลิฟต์ตัวใหญ่ๆ ที่เกิดเหตุการณ์กับตาลุงแฮริสัน จากนั้นลิฟต์ก็จะพาเราพุ่งทะยานขึ้นไปด้านบนของโรงแรม โดยจะเปิดประตูลิฟต์ให้เห็นกันทุกชั้นที่ขึ้นมา ซึ่งก็จะมีสิ่งของที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในโรงแรมหรูๆ แต่ตอนนี้กลับเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ตอกย้ำความเป็นโรงแรมร้างกันทุกชั้นที่ประตูเปิดกันเลยทีเดียว และเมื่อลิฟต์พาเรามาสู่ชั้นบนสุดที่เป็นเพนต์เฮาส์ของนายแฮริสัน ลิฟต์ที่เราอยู่กันนั้นก็เริ่มสั่นไหว แล้วเปิดประตูออกไปให้เห็นความรูปปั้นของเทพเจ้าที่เหมือนจะมายืนสาปส่งคนในลิฟต์ ชั่วครู่ลิฟต์ก็ตกฮวบดิ่งลงมาด้านล่างด้วยความเร็ว อันนี้ได้เวลากรี๊ดแล้ว เพราะความรู้สึกตอนนั้นคือมวนท้องมวนไส้เหมือนตัวเองตกจากที่สูงจริงๆ ยิ่งจังหวะตัวลอยขึ้นมาจากเบาะที่นั่งนะ แกรเอ้ยยย คนข้างๆ กรี๊ดนำไปนู่นน ฮ่าๆ
จากที่เคยเล่นเครื่องเล่นอันนี้ในดิสนีย์มาหลายประเทศ ของญี่ปุ่นคือพาเราดร็อปตกลงมาจนถึงด้านล่างสุดก็ตัดจบเลยแบบงงๆ แบบห๊ะ .. จบแล้วหรออออ ฟีลแบบยังไม่ซึบซาบกับความสนุกให้ชุ่มชื่นหัวใจเลยค่าาา แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นนี่พาขึ้นพาลงหลายรอบมาก แต่ที่นี่มันขึ้นพรืดลงพรวดแล้วจบเลยจริงๆ 555555
โซน Mysterious Island
Mysterious Island เสมือนเป็นโซนที่เราจะได้หลุดเข้ามาสู่หุบเขาที่โอบแอ่งน้ำขนาดใหญ่เอาไว้ โดยโซนนี้เค้าสร้างอิงมาจากเกาะที่อยู่ในเรื่อง The Mysterious Island นวนิยายของฌูล แวร์น (Jules Verne) ซึ่งเป็นเกาะที่ซ่อนตัวของกัปตันนีโม่ (Captain Nemo) นอกจากนี้เกาะแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ “เกาะวัลคาเนีย” (Vulcania Island) ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง 20,000 Leagues Under the Sea อีกด้วยนะ ฟีลความอลังของฉากและพร็อพในโซนนี้ถือว่าสร้างมาได้แบบเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ทั้งเรือดำน้ำเอย เวิ้งทางเดินเป็นเกลียวๆ กลางน้ำเอย คืออลังการสุด โดยไฮไลท์เครื่องเล่นภายในโซนนี้ที่ต้องเล่นเลยคือ Journey to the Center of the Earth และ 20,000 Leagues Under the Sea สองเครื่องเล่นที่จะพาเราเข้าไปค้นพบฐานทัพของกัปตันนีโม่ และล้วงความลับของเค้าผ่านประสบการณ์การผจญภัยไปในโลกของท้องทะเล
20,000 Leagues Under the Sea
หนึ่งในเครื่องเล่นโซนนี้ที่ก๊อตว้าวซ่ากับเทคนิคเอฟเฟ็คใต้น้ำเลยก็คือ เครื่องเล่น 20,000 Leagues Under the Sea เครื่องเล่นฟีลเรือดำน้ำที่อิงจากนวนิยายของฌูล แวร์น (Jules Verne) เรื่อง Twenty Thousand Leagues Under the Sea ในชื่อเดียวกัน โดยเครื่องเล่นนี้เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่เค้าพัฒนาต่อมาจากเครื่องเล่น 20,000 Leagues แบบดั้งเดิมที่มีให้เล่นกันที่ Magic Kingdom Park ที่ฟลอริดา อเมริกา โดย 20,000 Leagues Under the Sea ที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น เค้าจะเป็นเครื่องเล่นเรือดำน้ำเสมือนเรานั่งอยู่กับกัปตันนีโม่ที่จะพาเราไปสำรวจโลกใต้ท้องทะเล ก่อนที่จะถูกคราเคน (Kraken) สัตว์ยักษ์ในตำนานที่หน้าตาเหมือนปลาหมึกยักษ์เข้าโจมตีจนเรือดำน้ำและไปโผล่อยู่ในอีกโลกที่กัปตันเค้าไม่รู้จักนั่นเอง
โดยเราจะต้องขึ้นไปนั่งในเรือดำน้ำขนาดเล็ก ซึ่งจะมีหน้าต่างกระจกใส 3 มุมให้มองออกไปเห็นโลกใต้ท้องข้างนอก เมื่อเรือดำน้ำเริ่มแล่นออกไป แล้วมองออกไปเห็นโลกใต้น้ำที่มีทั้งสิ่งมีชีวิตต่างๆ นานา นี่กับสงสัยว่าเราดำน้ำกันจริงๆ ใช่มั้ย 555555555
ทั้งฟองอากาศปุดๆ ตรงกระจกเอย แสง สี เสียง และการสั่นไหวนั้นเหมือนเรานั่งเรือดำนำลงมาอยู่ใต้ทะเลจริงๆ เลยหละแกร ซึ่งทั้งหมดนี้คือเอฟเฟกต์ล้วนๆ พอมันไปรวมกับบรรยากาศของพวกปะการัง สิ่งมีชีวิต และซากของสิ่งต่างๆ ที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลด้านนอกในตอนที่เรือดำน้ำแล่นผ่านด้วยแล้ว มันโคตรจะสมจริงเลย ยิ่งจังหวะช่วงที่ปลาไหลไฟฟ้าว่ายน้ำผ่านมาพร้อมกับปล่อยกระแสไฟออกมาจากตัวคือว้าวมากก นอกจากนี้เราจะได้สัตว์ประหลาดใต้ท้องทะเลอีกเยอะแยะ ฟีลดำดิ่งอยู่ในก้นทะเลลึกพร้อมสำรวจโลกไปกับกัปตันนีโม่เลยแหละ
Journey to the Center of the Earth
มาต่อกันที่เครื่องเล่นข้างๆ อย่าง Journey to the Center of the Earth เครื่องเล่นสล็อตคาร์ที่สร้างอิงมาจากนวนิยาย ของฌูล แวร์น (Jules Verne) เรื่องเดียวกันกับเครื่องเล่นก่อนหน้านี้ โดยเครื่องเล่นนี้เค้าใช้ระบบรถสล็อตความเร็วสูงที่สร้างขึ้นสำหรับเครื่องเล่น Test Track ในวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ (Walt Disney World) เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหน้าตาของเครื่องเล่นก็จะดูเหมือนรถคันใหญ่ที่เอาไว้ใช้ขุดเจาะในเหมือง หรือคิดเหนือจินตนาการตามแบบฉบับก๊อตหน่อยก็เหมือนรถที่เอาไว้ใช้ขุดลึกลงไปใต้ดินอะไรทำนองนั้นเลย แต่การเล่นของเราอันนี้คือเราจะนั่งเข้าไปผจญภัยยังใจกลางแกนโลกในภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Mount Prometheus) ซึ่งเป็นฐานทัพของกัปตันนีโม่นั่นเอง
เริ่มต้นเลยเราจะได้เข้าไปที่ “Terravators” ลิฟต์ที่จะพาเราลงไปยังสถานีฐานของกัปตันนีโม่ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 1.6 กิโลเมตร ท่ามกลางเสียงแจ้งเตือนที่กำลังป่าวประกาศถึงการระเบิดของภูเขาไฟแห่งนี้ แต่ยิ่งลิฟต์พาเราลงมาด้านล่างมากเท่าไหร่ก็พบว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลฐานลับนี้อยู่นั้นต่างชิลเว่อร์ ภูเขาไฟจะระเบิดอยู่แล้ว พี่แกไม่ตื่นเต้นสักคน ซึ่งพอเราลงมาถึงด้านล่างแล้ว ก็จะได้ขึ้นไปยังรถพลังไอน้ำที่จะพาเราเดินทางออกไปยังใจกลางแกนโลก
โดยความระทึกและตื่นเต้นมันเริ่มจากตรงนี้เลย เพราะยิ่งรถพาเราดำดิ่งลงไปในสู่ใจกลางโลกมากเท่าไหร่ เราก็จะพบเจอกับอีกโลกที่อยู่ใต้ภูเขาไฟแห่งนี้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นถ้ำคริสตัลเรืองแสงระยิบระยับที่ส่องสว่างอยู่ใต้พื้นพิภพชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะพาเราเข้าไปผจญภัยในป่าเห็ดยักษ์ สถานที่อยู่อาศัยของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำหน้าตาแปลกๆ อยู่เต็มไปหม๊ดด จากนั้นรถก็เริ่มเพิ่มความเร็วมากจนตกใจอยู่หน่อย มีฟีลเหมือนนี่กำลังนั่งอยู่บนรถไฟเหาะโดยขับผ่านจุดแผ่นดินไหว ทั้งมีดินและหินถล่มลงไล่ตามหลังมา
โดยจุดหวาดเสียวที่สุดคือช่วงท้ายกับเหล่าลาวามากมายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายใต้ภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Mount Prometheus) โดยมีสัตว์ประหลาดตัวมหึมากำลังเปล่งเสียงคำรามราวกับแสดงความเป็นเจ้าของว่าพวกเรากำลังบุกรุกบ้านของมันอยู่ ไม่พอพี่เค้ายังไล่กรวดยานพาหนะของเราจนต้องเร่งเครื่องหนีตายกันจ้าละหวั่นซึ่งมีความเร็วจู๊ดจนเครื่องเล่นที่เรานั่งมีความกระโดดพอให้เสียวอยู่ ก่อนจะมาโผล่พ้นผิวน้ำด้านบนภูเขา บ่งบอกว่าพวกเราหนีรอดจากเจ้าสัตว์ตัวร้ายได้แล้ว 555555
Journey to the Center of the Earth จึงเป็นเหมือนเครื่องเล่นฟีลมาท่องโลกใต้ภูเขาไฟสัมผัสกับเหล่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ และธรณีวิทยาชวนขนลุก ที่ตลอดระยะเวลาที่เรานั่งอยู่บนเครื่องเล่นนั้นไม่อยากจะกะพริบตาเลย เพราะทั้งฉากเอย ความเร็วเอยถือว่าสนุกเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน!
โซนอาราเบียน (Arabian Coast)
โซนอาราเบียน (Arabian Coast) ใครที่เป็นแฟนๆ อะลาดินและเจ้าหญิงจัสมิน ให้พุ่งตัวมาโซนนี้ให้ไว เพราะ โซนอาราเบียน (Arabian Coast) เค้าได้จำลองท่าเรืออาหรับ ที่ผสมผสานเข้ากับภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่องอะลาดิน (Aladdin) เข้ากับโลกจากนวนิยาย 1001 Arabian Nights ทำให้บรรยากาศและเครื่องเล่นภายในโซนนี้นั้น ได้รับการตกแต่งและแรงบันดาลใจมาจากอิทธิพลของตะวันออกกลางและอินเดียทั้งสิ้น เราเลยจะได้เห็นเหล่าคาแรคเตอร์ที่สวมชุดสไตล์อาหรับมายืนร้องเล่นเต้นรำอยู่ตามท่าเรือกันเพลินตาสุดในโซนนี้เล้ยย
Sindbad’s Storybook Voyage
Sindbad’s Storybook Voyage คือเครื่องเล่นที่ก๊อตเลือกเล่นกันในโซนนี้ โดยเราจะได้ล่องเรือในร่มไปกับบรรยากาศของเสียงดนตรีที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากเรื่องราวในอนิเมชั่นเรื่อง Sindbad the Sailor โดยเดิมทีนั้น เวอร์ชั่นเก่าของเครื่องเล่นนี้ใช้ชื่อว่า “Sindbad’s Seven Voyages” แต่เนื่องจากโทนสีของเครื่องเล่นที่ดูเจ้มจ้นและมืดเกินไป ทำให้เครื่องเล่นนี้ไม่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นมากนัก ในปี ค.ศ. 2007 เค้าก็เลยปรับปรุงกันยกใหญ่ให้ดูสดใสและสว่างและเหมาะกับเด็กๆ มากขึ้น โดยใช้ชื่อใหม่ว่า Sindbad’s Storybook Voyage จนถึงตอนนี้เลย
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สำหรับเครื่องเล่น Sindbad’s Storybook Voyage นั้น จะเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็ก โดยมีฟีลคล้ายกับเครื่องเล่นคลาสสิกของฝั่งดิสนีย์แลนด์อย่าง ‘It’s a Small World’ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีเลยแหละ ซึ่งเครื่องเล่นของซินด์แบดเอง เราจะได้กระโดดขึ้นไปนั่งอยู่ในเรือลำโตคล้ายกัน และพาเราลอยลำผจญภัยเข้าไปในโลกของซินด์แบด พร้อมกับเสียงเพลง “Compass of Your Heart” ที่แต่งโดย Alan Menken คลอเคลียให้ได้ฟังกันตลอดเส้นทาง
ท่ามกลางบรรยากาศสองฝั่งของแม่น้ำที่เราล่องไปนั้นจะเต็มไปด้วยตัวละครในโลกของซินด์แบดอยู่มากมาย เรียงรายไปตามฉากและสตอรี่ของซินด์แบดตั้งแต่ต้นจนจบโดยใช้เวลากว่า 11 นาทีกว่าๆ เล้ย โดยแต่ละฉากนั้นก็จัดเต็ม มีหุ่นตัวละครเคลื่อนไหวเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีฉากที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร บ้านเรือนของผู้คน ไปจนถึงทัชมาฮาลที่จำลองออกมาจากภาพยนตร์ได้สมจริงมาก โดยตัวการ์ตูนที่เราเห็นกำลังโยกตัวไปมา หรือทำกิจกรรมต่างๆ อยู่นั้น เค้าจะเป็นหุ่นยนต์ขนาดตัวไม่ใหญ่มากๆ แต่กลับเคลื่อนไหวพริ้วไปมาได้เป็นธรรมชาติสุดๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราล่องเรือกันอยู่นั้น นี่นั่งมองหุ่นยนต์เหล่านี้พร้อมกับฟังเพลงคือเพลินตาสุดของจริง
ถ้าใครที่อยากนั่งเอื่อยๆ ชิลๆ พักขาพักใจ ก๊อตแนะนำให้เรามานั่งเรือแล้วเข้าไปอยู่ในโลกของซินด์แบดได้เลย คิวเข้าเล่นคือสั้นจุ๊ดจู๋ อย่างก๊อตเองใช้เวลาต่อคิวแค่ 10 นาที แล้วพอได้เข้าไปนั่งเรือนั้นมันเหมือนก๊อตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโลกของซินด์แบดจริงๆ คือเพลงก็เพราะ หุ่นก็เคลื่อนไหวได้สมจริงและเพลินม๊ากก บอกเลยว่าเด็กต้องชอบ และผู้ใหญ่อย่างเราก็ต้องเพลินแน่นอน คิดดูละกัน นี่เคยเข้าไปนั่งหลับตอนเล่น ‘It’s a Small World’ แต่ตัว Sindbad’s Storybook Voyage นี่ไม่หลับและไม่น่าเบื่อด้วยนะเอ้อออ
โซน Lost River Delta
ถัดมาอีกหนึ่งโซนกับ Lost River Delta ที่มาในธีมของโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในป่าฝนเขตร้อนของอเมริกากลางในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1930 ภายในโดดเด่นด้วยพีระมิดแอซเท็ก (Aztec Pyramid) ขนาดใหญ่ที่พังทลายลง รายล้อมไปด้วยแม่น้ำลอสต์ริเวอร์ (Lost River) โดยบรรยากาศนั้นเหมือนก๊อตหลุดเข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าดงดิบกันเลยทีเดียว ซึ่งภายในโซน Lost River Delta นั้น ยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่มีกลิ่นอายมาจากภาพยนตร์เรื่องอินเดียน่า โจนส์ (Indiana Jones) ของ Lucasfilm ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่ในหนังก็จะดำเนินเรื่องกันอยู่ในพีระมิดนั่นเอง
Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull
Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull ถือเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นไฮไลท์ที่ก๊อตอยากให้ทุกคนได้มาเล่นมากที่สุดในโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เลย โดยอันนี้เป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่เหมือนกับที่อเมริกาเป๊ะ โดยเราจะต้องเดินทางไปกับ อินเดียนา โจนส์ (Indiana Jones) ในภารกิจอันปั่นป่วนบนรถขนส่งทหาร ที่ต้องวิ่งผ่านวิหารแห่ง Crystal Skull ที่อยู่ใต้ดิน โดยมีวิญญาณผู้พิทักษ์แห่งวิหารคอยตามรังควานเราตลอดเส้นทาง บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะทั้งฉาก พร็อพ และเอฟเฟ็คต่างๆ ในเครื่องเล่นนี้คืออลังการงานสร้าง และโคตรสนุก ซึ่งก๊อตให้คะแนนเลยแบบ 10/10
⚡️ ด้วยความที่เครื่องเล่นนี้ฮิตมากแบบมากที่สุด ทำให้เครื่องเล่นนี้คิวเข้าเล่นคือนานม๊าก แต่ก๊อตอยากจะบอกว่ามันมีทางลัดคิวโดยการเข้าแบบ Single Ride สำหรับคนที่มาเล่นคนเดียว หรือคนที่มากันเป็นกลุ่มแต่ไม่ได้ติดอะไรถ้าหากเราต้องแยกกับเพื่อนเพื่อขึ้นเครื่องเล่นคนเดียว แยกๆ กันไป ซึ่งก๊อตบอกเลยว่าการเข้า Single Ride นั้น ลัดคิวปรื้ดแบบประหยัดเวลาต่อคิวได้เป็นชั่วโมงเลย ซึ่งก๊อตเข้าแบบ Single Ride ไปแล้ว คือไม่มีคนในคิวนี้เลย เข้าปุ๊ป ได้เล่นปั๊ป คือดีเวอร์
สำหรับการเล่นเครื่องเล่นคือจะต้องไปนั่งบนรถจี๊บฟีลทหารแล้วเริ่มต้นผจญภัยไปในวิหารแห่ง Crystal Skull กับ อินเดียนา โจนส์ (Indiana Jones) เพื่อค้นหา Crystal Sull โดยต้องผ่านด่านต่างๆ รวมถึงเผชิญหน้ากับพลังงานลึกลับในวิหารนี้ โดยฉากและเอ็ฟเฟ็คต่างๆ นั้นคือสุดจริง ทั้งการยิงลมใส่เราเสมือนเราจะโดนยิง ฟ้าผ่า ฟ้าแล่บเอย ความหินยักษ์กลิ้งลงมาจะมาทับตัวเรา หรือแม้แต่มัมมี่ แมลง งู และตัวหุ่นของอินเดียนา โจนส์ (Indiana Jones) เองที่ขยับไปมาแบบเหมือนคนจริงมากกก คือแบบ โคตรดีย์!
ส่วนตัวก๊อตแล้ว Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นแนะนำว่าห้ามพลาดจริงๆ ในโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เพราะเราจะได้เปิดประสบการณ์มันส์ๆ ท่ามกลางแสง สี เสียงแบบจัดเต็มสมจริงจนไม่รู้จะอธิบายหรือเขียนออกมายังไงเลย อยากให้มาสัมผัสของจริงด้วยตัวเองกันแหละ
Raging Spirits
มาถึงช่วงเวลาที่ก๊อตชอบมากที่สุดเวลามาเที่ยวสวนสนุก นั่นก็คือการได้เล่นรถไฟเหาะนั่นเอง อีกหนึ่งรถไฟเหาะที่ก๊อตได้มาเล่นคือคือ Raging Spirits รถไฟเหาะที่จะพาเราไปสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจไปกับการเดินทางด้วยความเร็วสูงผ่านซากปรักหักพังของสถานที่ประกอบพิธีกรรมโบราณในพื้นที่ภูเขาของเปรู
โดยเครื่องเล่นนี้ถอดแบบมาจาก “Indiana Jones et le Temple du Péril” ที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส (Disneyland Paris) โดยเราจะได้ขึ้นไปนั่งบนรถไฟเหาะ Raging Spirits พาเราขับเคลื่อนไปยังแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีลึกลับ โดยสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยเศษซากของพีระมิด ภูเขา แท่นบูชาและสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งไฟ โดยตามตำนานเล่าว่าหากใครที่พยายามทำลายหรือขัดขวางการบูชาเทพเจ้าไฟนี้ จะถูกสาปด้วยไฟขนาดนั้นเล้ย
ส่วนตัวก๊อตเองที่เป็นคนเล่นรถไฟเหาะมาเยอะ บอกก่อนว่าอย่าคาดหวังว่ามันจะหวาดเสียวจนอ้วกแทบพุ่ง เพราะด้วยความเร็วของรถไฟที่นั่งๆ อยู่เดี๋ยวพุ่งปรู๊ดไปแบบเร้วเร็ว สักพักหยุดกึกแบบกะทันหันจนหัวแทบทิ่ม สักพักก็วิ่งไปเอื่อยๆ ไม่เร็วมาก มันเลยมีความช๊อตฟีลคนเล่นแบบงงๆ มันแบบจะแรง จะเบา คือไปไม่สุดสักทาง แต่อย่างน้อยรถไฟเหาะอันนี้ก็มีการพุ่งหมุนเป็นวงกลมตั้งฉากแบบ 360 องศา ซึ่งถือว่าเริ่ดอยู่ 55555
ด้วยความที่มีการช็อตฟีลอยู่บ้าน นี่เลยรู้สึกขัดใจหน่อยๆ อย่างไรก็ตาม ก๊อตก็ยังแนะนำให้มาลองเล่นดูเพราะเราอาจจะชื่นชอบและความต้านทานความเสียวไม่เหมือนกันก็ได้ ฮ่าๆ ถ้าใครจะมาเล่นเจ้า Raging Spirits ถ้าไม่ติดเรื่องต้องนั่งแยกกันกับคนที่มาด้วย ก๊อตแนะนำให้ต่อแถว Single Ride ได้เลย เพราะอย่างที่บอกไปว่าคนญี่ปุ่นไม่นิยมต่อแถวนี้ ตอนที่ก๊อตไปคือไม่มีคนต่อคิว Single Ride เลยล่ะ คือเดินเข้าแล้วได้เล่นเลย ประหยัดเวลาไปชั่วโมงนึงในการต่อคิวคือเริ่ด
โซน Ariel’s Playground
ใครที่กลัวว่าการมาเที่ยวที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) จะไม่มีโซนสำหรับน้องๆ หนูๆ แล้วล่ะก็ ขึ้นชื่อว่าดิสนีย์แล้วบอกเลยว่ามีเยอะมาก อย่างฝั่งซีเอง ลองตามก๊อตมาสำรวจที่ โซน Ariel’s Playground เป็นตัวอย่างกันก่อน กับสนามเด็กเล่นของแอเรียลที่ตั้งอยู่ด้านใน Mermaid Lagoon ปราสาทขนาดใหญ่ที่ภายในคับคั่งไปด้วยโลกแห่งเมืองบาดาล โดยเค้าตั้งชื่อโซนตามชื่อของภาพยนตร์ดิสนีย์คลาสสิกเรื่อง The Little Mermaid “เงือกน้อยผจญภัย” ในปี ค.ศ. 1989
โดยโซน Ariel’s Playground เต็มไปด้วยเครื่องเล่นเบาๆ เหมาสำหรับเด็กๆ ที่อิงมาจากเรื่องราวของเจ้าหญิงแอเรียล ไม่ว่าจะเป็น “Ariel’s Grotto” ถ้ำลับซึ่งมีสิ่งของมากมายที่ Ariel รวบรวมไว้ ทั้งรูปปั้นของเจ้าชายเอริค และวัตถุต่างๆ ที่เธอเก็บมาไว้ในถ้ำ หรือจะเป็นถ้ำ “Cave of Shadows” พื้นที่ถ้ำที่เข้าถึงได้โดยเราต้องเดินตามเส้นทางของแมงกะพรุนเพื่อเข้าไปภายใน นอกเหนือจากนี้ยังมี “Kelp Forest” ป่าสาหร่ายทะเลที่ประดับประดาไปด้วยฝูงปลามากมาย รวมไปถึง “Galleon Graveyard” พื้นที่ธีมเรือจมลงสู่ก้นทะเล ซึ่งเราจะเข้าไปสำรวจเสมือนกับว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
บอกเลยว่าการได้เข้าไปในโซน Ariel’s Playground เหมือเราได้เข้าไปในโลกใต้ท้องทะเลจริงแกร๊ ความอยู่ในอินดอร์ที่เปิดไฟสลัวๆ มีเครื่องเล่นรูปทรงสัตว์ทะเลต่างๆ ทั้งแมงกะพรุน ปลากปั๊กเป้างี้ ถือว่าทำได้ดีมาก แถมช่วงที่ก๊อตมาเที่ยวนั้นเป็นหน้าร้อน การเข้ามาเดินเล่นในนี้คือฟินเพราะแอร์ฉ่ำเว่อร์ 55555555 บ้านไหนพาเจ้าตัวน้อยมาด้วย แล้วยิ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่นชอบเจ้าหญิงแอเรียลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้องพาเค้ามาเล่นโซนนี้ เด็กๆ ไม่อยากออกไปไหนกันเลยเชียว
พาเหรด Let’s Celebrate with Colors
มาเที่ยวดิสนีย์แล้วจะพลาดขบวนพาเหรดได้ไงก่อน ที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เองเค้าก็มีแต่เป็นพาเหรดที่แปลกหูแปลกตาจากดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกอยู่หน่อย เพราะด้วยความที่ปาร์คนี้เค้าเป็นธีมทะเล ก็มากันเลยจ่ะกับพาเหรดบนเรือ Let’s Celebrate with Colors ขบวนพาเหรดของมิกกี้เมาส์และผองเพื่อนดิสนีย์ของเขาในชุดสีสันสดใสที่ปรากฏตัวอยู่บนเรือลำใหญ่ ล่องอยู่ในทะเลสาบใจกลางปาร์ค ท่ามกลางเสียงเพลงธีมครบรอบ 40 ปี ของโตเกียว ดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort) โดยขบวนพาเหรดเค้าจะวนออกมา 2 รอบ คือช่วงเวลา 11.30 น. และอีกรอบคือ 16.15 น. โดยใช้เวลาล่องวนอยู่บนทะเลสาบประมาณ 20 นาที
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พาเหรดออกมานั้น มิกกี้เมาส์และผองเพื่อนเค้าก็จะเต้นยุกยิก โบกมือให้แขกที่มาเที่ยวอยู่ใน โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) โดยมีเสียงของเด็กๆ ร้องเรียกและคอยโบกมือตอบกลับ อารมณ์เหมือนขบวนพาเหรดฝั่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) แต่ต่างกันที่อันนี้มาเป็นเรือลำใหญ่ที่ล่องลอยอยู่บนทะเลสาบนั่นเอง
โซน Toy Story Mania!
โซน Toy Story Mania! อีกหนึ่งโซนที่สาวกทอย สตอรี่ (Toy Story) ห้ามพลาดเลย กับสวนสนุกอินเทอร์แอคทีฟ 4 มิติ ที่ตอนนี้เค้ามีอยู่ในสวนสนุกดิสนีย์ 3 แห่ง ได้แก่ Disney’s Hollywood Studios ที่ฟลอริดา, Disney California Adventure ที่แคลิฟอร์เนีย และ Tokyo DisneySea ที่นี่นั่นเอง
โซน Toy Story Mania! ที่ญี่ปุ่นนั้น จะเป็นโซนไม่ใหญ่มากด้านหน้าจะมีคุณลุง “วู้ดดี้” ผู้มาพร้อมประโยคเด็ดว่า “มีงูอยู่ในท้องรองเท้าบู๊ตฉัน” อ้าปากกว้างเป็นประตูพาเราเข้าไปสู่ด้านใน โดยมุมนี้ถือเป็นอีกมุมป๊อบที่คนเค้านิยมมาถ่ายรูปกันด้วยความที่หน้าวู้ดดี้นั้นใหญ่ม๊ากเล้ย
Toy Story Mania!
เครื่องเล่นฮิตของโซน Toy Story Mania! ที่ห้ามพลาดเลย ก็คือ Toy Story Mania! ที่ชื่อเค้าเหมือนกับชื่อโซนนั่นเอง โดยเครื่องเล่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นสุดฮิตที่ใครจะมาเล่นนั้น ก๊อตแนะนำว่าให้มากันแต่เช้าเพราะคิวรอเข้าเล่นนั่นยาวเว่อร์ สำหรับ Toy Story Mania! เค้าเป็นเครื่องเล่นที่เราจะต้องสวมแว่นตา 3 มิติ แล้วขึ้นไปนั่งบนยานก่อนจะพาเคลื่อนตัวท่องเข้าไปตะลุยเล่นเกมเสมือนจริงในจักรวาลของทอย สตอรี่ พร้อมกับอาวุธคู่ใจอย่างปืนยิงเป้าที่มาพร้อมภารกิจให้เรายิงเป้าต่างๆ เพื่อเก็บสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุด ซึ่งฉากที่โผล่มาใหเ้รายิงนั้น ก็จะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนมาเป็นด่านๆ ซึ่งอันนี้มันส์มาก คือเหล่าเป้ารูปแบบต่างๆ รวมไปถึงตัวร้ายมันก็จะโผล่มาแบบทุกสารทิศรอบยานที่เรานั่งกันอยู่ แบบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเล็งให้ดี แล้วยิงกระหน่ำเข้าใส่ไม่ยั้ง
ก๊อตบอกเลยว่า Toy Story Mania! เป็นอีกเครื่องเล่นสนุกดี แม้ว่ายานที่นั่งมาจะไม่ได้เคลื่อนที่เร็วปรู๊ดปร๊าดชวนหวาดเสียวแบบรถไฟเหาะ แต่จังหวะที่เราต้องทำคะแนนให้ได้เยอะๆ ตอนนั้นก๊อตแบบในหัวไม่คิดไรแล้วจ๊า แค่ต้องยิงให้ได้เยอะที่สุดเท่านั้นอย่างเดียวเลย ทีนี้อะไรโผล่มาก็กดยิงเป้ากันจนมือหงิก 55555 ใครที่ชอบเครื่องเล่นแนวยิงเป้าอะไรแบบนี้ Toy Story Mania! ตอบโจทย์มากจ๊า
โซน Port Discovery
โซน Port Discovery เป็นอีกหนึ่งโซนล้ำๆ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ท่าจอดเรือแห่งอนาคต” โดยในบางครั้งโซนนี้ยังถูกเรียกว่า “Tomorrowland” ของโตเกียวดิสนีย์ซีอีกด้วย ภายในเซตมาเป็นธีมของสถานีวิจัยแนวย้อนยุค และยังเป็นที่ตั้งของ 2 สถานที่สมมติอย่าง ศูนย์ควบคุมสภาพอากาศและสถาบันวิจัยชีวิตทางทะเล ที่เค้าสร้างขึ้นมาจากธีมของหนัง Finding Dory ภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ จากค่าย Pixar แนวผจญภัยของเจ้าปลาดอรี่ที่มีความทรงจำขาดๆ หายๆ ที่ออกว่ายน้ำไปตามหาพ่อและแม่ ซึ่งหนังเรื่องนี้ยังเป็นภาคต่อจากเรื่อง Finding Nemo หรือ น้องๆ หนูๆ อาจจะรู้จักในชื่อ ‘นีโม…ปลาเล็ก หัวใจโต๊…โต’ อีกด้วยนา โดยเครื่องเล่นที่พลาดไม่ได้ในโซน Port Discovery คือ “Nemo & Friends SeaRider” ที่จะพาเราไปผจญภัยอยู่ใต้น้ำไปกับเหล่าปลานีโม่สุดคิ้วท์ และอีกเครื่องเล่นคือ Aquatopia เครื่องเล่นฟีลรถบั้มที่เหมาะกับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่อย่างเราที่ต้องการอยากลองนั่งเครื่องเล่นชิลๆ ดูบ้าง 555
Aquatopia
“Aquatopia” เครื่องเล่นเบาๆ ที่เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี เพราะเค้าเป็นเหมือนรถบั๊มที่ไม่บั๊มซักกะติ๊ดดด โดยมันจะเป็นลานน้ำกว้างๆ คล้ายทะเลสาบที่มีความลึกเพียง 5 เซนติเมตร โดยจะมีเครื่องเล่นที่ดูเหมือนเรือโฮเวอร์คราฟต์ประมาณ 30 ลำ ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ซึ่งบอกเลยว่าเลยว่าถ้านี่ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนว่าน้ำมันตื้นนะ มาเห็นของจริงแล้วแอบคิดว่าน้ำในทะเลสาบมันดูเหมือนน้ำที่มีความลึกอยู่จริงๆ เลย อันนี้ทำดีย์เว่อร์
ซึ่งตอนแรกก่อนที่ก๊อตจะขึ้นไปเล่น นี่นึกว่าเราต้องบังคับทิศทางเรือด้วย แต่จริงๆ แล้ว เราก็แค่ขึ้นไปนั่งบนเรือแล้วนั่งเฉยๆ ได้เลย เพราะเรือเค้าจะขับเคลื่อนไปตามเส้นใต้ผิวน้ำ ซึ่งน่าจะสนุกและปลอดภัยสำหรับเด็กๆ เพราะเราไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ ทีนี้เรือมันก็จะพุ่งไปพุ่งมาจนบางจังหวะก็ฟีลเหมือนจะไปชนนู่นนี่นั่น ให้ได้ตื่นเต้นกันเล็กน้อย ซึ่งความตลกคือเหมือนจะพุ่งให้ชนแต่ก็ไม่ชนซักจุด โอ้ย 5555555 สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราที่อยากมานั่งชิลๆ ไม่ต้องหวือหวาอะไรมากมาย แนะนำมาลองนั่งเล่นให้ลมตีหน้าก็ได้ ก็สนุกอยู่นา
ดูโชว์ Believe! Sea of Dreams
สุดท้ายที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) คือ การมาดูโชว์ Believe! Sea of Dreams หากใครที่มีภาพจำสุดท้ายของการเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์คือการมารอดูพลุท่ามกลางปราสาทเจ้าหญิงในแต่ละแห่งนั้น ขอให้ลืมภาพนั้นไปได้เลย เพราะที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้นสุดแสนจะพิเศษกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา อารมณ์แบบพาเหรดบนถนนอะไรกันเล่า มันต้องโชว์พาเหรดบนทะเลสาบเท่านั้นจ๊ะ กับ Believe! Sea of Dreams ที่เหล่าตัวการ์ตูนจากดิสนีย์เค้าจะตบเท้านั่งมาบนเรือลำใหญ่ แล้วก็ลอยลำออกมาโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Mount Prometheus) ตั้งตระหง่านทดแทนปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์นั่นเอง โดยโชว์นี้จัดได้ว่าเป็นโชว์น้องใหม่ล่าสุดของดิสนีย์เค้าเลยแหละ
ถ้าให้พูดถึงเรื่องแสง สี เสียงของโชว์ Believe! Sea of Dreams บอกเลยว่าจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีสมจริงโดยเรือแต่ละลำที่ลอยออกมานั้นจะมีจอ LED ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเรือ ซึ่งจอนี้จะฉายวิดีโอ ฉายแสงไฟให้เข้ากับธีมของแต่ละเรื่อง ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็นเหล่าเจ้าหญิง และเจ้าชายของดิสนีย์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีนักเต้น และนักดนตรีมาวาดลวดลายออกสเต็ปแด๊นซ์อยู่บนเรือให้ได้ชมกันแบบ 360 องศาเลย และความตื่นเต้นมันอยู่ที่ระหว่างโชว์นั้นเราเห็นแสง สี เสียง ที่ว่าจัดเต็มกันแล้ว เค้ายังมีการฉายแสงไฟไปยังภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Mount Prometheus) ที่อยู่ด้านหลังอีกด้วย ซึ่งภูเขาไฟที่ควรจะมืดมิดในยามค่ำคืนเลยถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันของแสงไฟมากมาย ไม่พอแค่นั้น แสงไฟอันแพรวพราวก็สาดส่องไปตามอาคารที่อยู่รอบๆ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เพิ่มความระยิบระยับของแสงไฟจนสะท้อนแสงสว่างไปทั่วปาร์คราวกับยกดวงดาวบนฟากฟ้าลงมาไว้ที่นี่หมดแล้ว
✨ แสงไฟของโชว์ที่สอดส่องไปทั่วทั้งโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้น เค้าต้องการตอกย้ำให้คนที่กำลังยืนชมอยู่ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการมีความฝันและการเชื่อมั่นในตนเองอยู่เสมอ ความฝันมันก็เหมือนกับแสงของดวงดาวที่พร่างพราวส่องแสงอยู่บนฟากฟ้า หากเรายังคงเชื่อมั่นและไม่ยอมแพ้ แสงของดวงดาวเหล่านั้นก็ยังคงส่องสว่างอยู่เสมอ เปรียบได้กับ Believe! Sea of Dreams สถานที่ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างอันมากมาย ที่จะไม่มีวันยอมให้ทุกคนได้พ่ายแพ้และละทิ้งความฝันไปอย่างแน่นอน เป็นการมาดูโชว์ปิดท้ายวันที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ได้แบบฟูลฟีลและอบอุ่นในหัวใจที่สุด
สรุปการมาเที่ยวโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
สรุปความรู้สึกโดยรวมหลังจากได้ไปเที่ยวที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ส่วนตัวก๊อตประทับใจที่นี่เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ด้วยความที่ปาร์คนี้ไม่เหมือนกับที่ไหน ด้วยความที่เป็นธีมทะเลโดยเฉพาะ แถมยังมีเครื่องเล่นแนวแอดเวนเจอร์ค่อนข้างเยอะเอาเรื่อง โดยรวมมันเลยกลมกล่อมในความลุยนิดๆ ไม่ได้เจ้าหญิงจ๋าเหมือนฝั่งดิสนีย์แลนด์นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วจะมาเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์ด้วยล่ะก็ ก๊อตก็ยังแนะนำให้เก็บหมดทั้งสองปาร์ค เพราะมันไม่เหมือนกันเลย ฟีลลิ่งและความสนุกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น มาเที่ยวทั้งทีก็เก็บให้ครบๆ ไปเล้ย 55555
> อ่านรีวิวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
> ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
> ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
1. Universal Studios Japan (USJ) / โอซาก้า ญี่ปุ่น
2. Universal Studios Singapore (USS) / สิงคโปร์
3. Tokyo Disneyland / โตเกียว ญี่ปุ่น
4. Tokyo DisneySea / โตเกียว ญี่ปุ่น
5. Hong Kong Disneyland / ฮ่องกง
6. Shanghai Disneyland / เซี่ยงไฮ้ จีน
7. Disneyland Paris / ปารีส ฝรั่งเศส
8. Disneyland Park California / แคลิฟอร์เนีย อเมริกา
9. Disney California Adventure Park / แคลิฟอร์เนีย อเมริกา
10. Universal Studios Hollywood / ลอสแองเจลิส อเมริกา
11. Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
12. Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
4 comments
จัดทำได้ดีค่ะ ครอบครัวจะไปเดือนเมย24
ขอบคุณมากค่ะ
ยินดีค้าบ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน ช่วยให้เตรียมพร้อมก่อนไปเที่ยวได้เยอะเลยครับ
ชอบรีวิวมากค่ะ รู้เลยว่าตั้งใจเขียนมากๆ ข้อมูลรายละเอียดแน่นช่วยประกอบการตัดสินใจได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะจะคอยติดตาม:) และรูปถ่ายสวยมาก ขออนุญาตสอบถามว่าใช้กล้องอะไรเลนส์อะไรถ่ายในรีวิวtokyo disney seaอันนี้หรอคะ?