ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) สำหรับใครกำลังจะมาเที่ยวโตเกียว (Tokyo) แล้วอยากหาจุดชมวิวสกายไลน์เมืองโตเกียวสวยๆ ล่ะก็ หนึ่งในจุดชมวิวที่ก๊อตอยากลากแขนจูงมือทุกคนมาเลย คือ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) ที่ถือเป็นจุดชมวิวใหม่ของโตเกียว อีกทั้งยังโคตรฮิตระดับที่ว่าถ้าไม่จองตั๋วมาล่วงหน้านี่มีเปอร์เซ็นต์จะไม่ได้ขึ้นสูงม๊ากก เพราะตั๋วเค้าเต็มเร็วสุดๆ ด้วยความที่เค้าตั้งอยู่บนยอดตึก Shibuya Scramble หนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในชิบูย่า โดยมีทั้งจุดชมวิวทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์บนดาดฟ้า แถมไม่ได้มีดีแค่ให้ขึ้นมาดูวิวสวยๆ เท่านั้น แต่เค้ายังมาพร้อมนิทรรศการหมุนเวียนที่จัดสลับสับเปลี่ยนกันเรื่อยๆ แถมยังมีรูฟท็อปที่จะมี DJ มาบรรเลงเพลงให้เราได้โยกย้ายกันไม่ซ้ำในแต่ละวัน รวมถึงยังมีมุมฉายหนังกลางดาดฟ้า และมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ทั้งหมดนี้หาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว หากไม่ใช่ที่ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) และก็เป็นเหตุผลว่าทำไมก๊อตถึงอยากชวนทุกคนมาเที่ยวที่นี่กันนั่นเอง
- รีวิวเต็ม โตเกียว (Tokyo) 28 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneyland แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneysea แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Harry Potter – Warner Bros. Studio Tour Tokyo แบบละเอียด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโตเกียว (Tokyo)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
รู้จักกับ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky)
ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวสุดฮิตใจกลางชิบูย่า (Shibuya) ของโตเกียว (Tokyo) ที่ทุกคนได้แตะขอบฟ้าไปด้วยกัน ท่ามกลางทิวทัศน์แบบพาโนราม่า 360 องศา ของโตเกียวที่เราสามารถมองออกไปตึกรามบ้านช่องแบบไกลสุดสายตา และนอกจาก ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) จะเป็นจุดชมวิวเมืองแล้ว ด้านบนนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้เราได้มาทำ ทั้งนั่งชิล ชมผลงานนิทรรศการ ฟังเพลงผ่อนคลายบนรูฟท็อป รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย จนทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวโตเกียวที่ต้องมากันเลยทีเดียว
สำหรับ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) ตั้งอยู่บนอาคาร Shibuya Scramble หนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในย่านชิบูย่าในระดับความสูง 47 ชั้น โดยสูงจากระดับพื้นดิน 230 เมตร โดยจุดชมวิวนั้นเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา โดยจุดชมวิวถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Sky Gallery (ชั้น 45 จุดชมวิวอินดอร์) และ Sky Stage (ชั้น 46 จุดชมวิวบนดาดฟ้า) โดยวิวจากด้านบนของ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) หากเรามาในวันฟ้าเปิดจะได้เห็นเมืองโตเกียวและแลนด์มาร์คสำคัญกันแบบพรึ่บพรั่บ ไม่ว่าจะเป็น โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) และ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) รวมถึงยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ได้อีกด้วย
ซื้อบัตรเข้า ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky)
สำหรับการซื้อตั๋วขึ้นจุดชมวิว ชิบูย่า สกาย (Shibuya Sky) ก๊อตแนะนำให้เราซื้อตั๋วมาล่วงหน้าจาก Klook หรือ KKday มาก่อนหนึ่งเดือนเลย โดยเค้าจะขายเป็นสล็อตเวลาให้เราเลือกเข้าชม ซึ่งเราต้องเข้าตามช่วงเวลาที่เราซื้อ แต่ไม่จำกัดเวลาด้านใน โดยเราจะออกจากจุดชมวิวกี่โมงก็ได้ ซึ่งก๊อตเองไม่แนะนำอย่างยิ่งในการมาซื้อตั๋วเข้าหน้างาน เพราะที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของโตเกียว และบัตรถูกขายหมดแบบรวดเร็วมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาพีคๆ อย่างช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน คือเต็มล่วงหน้าหนึ่งเดือนเลยทีเดียว
สำหรับราคาบัตร ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) จะอยู่ที่ประมาณ 2,200 เยน (~540 บาท) โดยเราสามารถจองผ่าน Klook หรือ KKday และเลือกสล็อตเวลาที่เราต้องการได้เลย ถือว่าสะดวกสบายที่สุดแล้ว > ซื้อบัตร ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
วิธีการเดินทางมาที่ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky)
รถไฟ: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟ โดยสถานีรถไฟที่ใกล้กับ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) มากที่สุดคือ สถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาตามนี้ได้เลย
- โดยรถไฟ JR :
- สถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station) : ให้ขึ้นรถไฟ JR สายยามาโนเตะ (Yamanote Line), สายไซเคียว (Saikyo Line) หรือสายโชนันชินจูกุ (Shonan-Shinjuku Line) นั่งมาลงที่สถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station) ได้เลย
- โดยรถไฟใต้ดิน (Tokyo Metro):
- สถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station): ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line), สายฮันโซมง Hanzomon Line นั่งมาลงที่ สถานีรถไฟชิบูย่า (Shibuya Station) ได้เลย
บัตรเดินทางต่างๆ ในโตเกียว
- 🎫 บัตรโดยสารรถไฟใต้ดินโตเกียวแบบไม่จำกัด (1, 2 หรือ 3 วัน) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 บัตร Welcome Suica และบัตรโดยสารรถไฟ JR สำหรับ 1 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 JR Tokyo Wide Pass : ใช้ขึ้นสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองยอดนิยมต่างๆ รอบโตเกียว โดยมีเมืองฮิตอย่าง คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ที่มีภูเขาไฟฟูจิ, นิกโก้ (Nikko), โยโกฮาม่า (Yokohama), คาบสมุทรอิสุ (Izu Peninsula) / มีแบบ 3 วัน ราคาเริ่มต้นราวๆ ~3,600 บาท [ซื้อผ่าน Klook]
เริ่มเที่ยว ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) ได้เล้ยย
สำหรับการมาเที่ยว ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) ตรงหน้าตึก Shibuya Scramble จะมีทางขึ้นไปยังชั้น 14 ที่เป็นทางเข้าจุดชมวิวโดยเฉพาะเลย โดยเมื่อถึงสล็อตเวลาที่เราจองมาล่วงหน้าแล้ว เราโชว์ตั๋วให้พนักงานดูได้เลย เค้าจะพาเราเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน ซึ่งใช้เวลาขึ้นลิฟต์ไม่นานก็มาถึงชั้น 45 แล้ว เมื่อเดินออกจากลิฟต์มันจะต้องเดินผ่านอุโมงค์เหมือนเป็นประตูพาเราไปสู่จุดชมวิวกันก่อน จากนั้นใครที่พกของติดตัวมาด้วย พนักงานจะแนะนำให้เรานำข้าวของฝากไว้ในล็อกเกอร์ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลุยโลดด
โดยจุดชมวิวแรกของเราจะอยู่ที่บริเวณชั้น 45 ซึ่งเป็นโซน Sky Gallery ลักษณะเป็นจุดชมวิวแบบอินดอร์ ซึ่งจะเป็นชั้นสี่เหลี่ยมกว้างๆ รายล้อมไปด้วยผนังกระจกใส ภายในเป็นทางเดินวนรอบๆ ตัวอาคารให้เราสามารถมองวิวเมืองโตเกียว (Tokyo) ได้รอบทิศทาง ซึ่งวิวบนนี้เค้าสวยม๊ากก อย่างภาพบรรยากาศมุมสูงของ 5 แยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ที่ห้อมล้อมไปด้วยตึกและอาคารมากมายในช่วงมืดไปแล้วนั้น ตามตรอกซอกซอยของเค้ามันเปล่งประกายระยิบระยับจากแสงไฟหลากสีสัน ยิ่งในบริเวณทางข้ามม้าลายที่เป็นแลนด์มาร์คนะ จัดว่าเป็นมุมที่แสงสีพร่างพราวสุดๆ และด้วยความที่เราอยู่ชมวิวอยู่บนชั้นที่สูงมากๆ มันเลยทำให้มองเห็นผู้คนที่เดินกันให้ขวักอยู่ข้างล่างไม่ต่างอะไรกับมดตัวจิ๋วๆ ที่กำลังเดินสวนกันไปมาเลย เป็นวิวที่มองแล้วมีแต่คำว่าสวยแบบตะโกนเว่อร์
นอกจากนี้ยังมองเห็นสถานที่เที่ยวฮิต และแลนด์มาร์คอื่นๆ อีกด้วยนา ไม่ว่าจะเป็น มิยาชิตะ ปาร์ค (Miyashita Park) แหล่งคอมมูนิตี้ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร และสวนสาธารณะบนดานฟ้าอยู่ร่วมกัน ซึ่งจากบนนี้เราสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดของเค้าที่เปิดไฟส่องสว่างไปทั่วทั้งตึกได้ด้วย เป็นวิวในอีกมุมมองหนึ่งที่สวยเอาเรื่อง และยังไม่หมดเท่านั้นนะ เพราะจากบนชั้น 45 นี้ ยังมองออกไปไกลจนเห็นถึง โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ซึ่งตั้งสง่าท่ามกลางเมืองโตเกียว (Tokyo) ล้อมรอบไปด้วยดงตึก และถนนที่มีรถราวิ่งสวนกันไปมา เป็นอีกมุมที่สวยจับจิตจับใจจนอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาแช๊ะภาพเอาไว้เป็นความทรงจำ
นอกจากการดูวิวเมืองโตเกียวสวยๆ แล้ว ชั้นนี้เค้ายังมีนิทรรศการหมุนเวียนจัดแสดงอยู่ด้วยนะ อย่างก๊อตมาเที่ยวที่นี่แล้ว 2 รอบ ก๊อตก็เจอนิทรรศการใหม่ทั้งสองรอบเลย ซึ่งงานแรกจะเป็นฟีลเหมือนพาเราหลุดเข้าไปสู่โลกของพฤกษศาสตร์ที่เค้ายกเอาความสดชื่นของต้นไม้ และดอกไม้นานาพันธุ์มาจัดแสดงเอาไว้ให้เราได้เดินชม ความดีงามมันอยู่ที่ตามแต่ละมุมตึก จะมีการจัดพร๊อพของต้นไม้นานาพันธ์และดอกไม้สวยๆ ให้ได้แวะถ่ายกันเป็นจุดๆ อีกด้วย ส่วนนิทรรศการอีกงานบรรยากาศแตกต่างกันลิบลับ งานนี้เค้าทำเป็นทางเดินให้เราเดินวนรอบชั้น ซึ่งตามมุมและพื้นรวมไปถึงตามเพดานจะมีลูกบอลสีเงินมากมายวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ฟีลเหมือนอวกาศหน่อยๆ ที่ถ่ายรูปออกมาสวยไม่แพ้กันเลย
สำหรับใครที่เดินวนดูจนครบทั้ง 4 มุมตึกแล้ว ชั้นนี้เองยังมีบาร์ขายเครื่องดื่มให้เราได้สั่งเครื่องดื่มมานั่งดื่มชิลๆ พร้อมกับชมวิวเมืองโตเกียวด้านล่างได้ด้วยนะ แต่ถ้าใครอยากดูวิวบนดาดฟ้าแบบเอาท์ดอร์ ให้เราเดินขึ้นไปต่อที่ชั้น 46 ซึ่งจะเป็นโซน Sky Stage พื้นที่กลางแจ้งบนดาดฟ้าที่เราสามารถมาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์เส้นขอบฟ้าของเมืองได้โดยไม่มีอะไรมากั้น
โดยชั้น 46 จะมีทั้งรูฟท็อปที่ในแต่ละวันจะมี DJ มาเปิดเพลงเล่นดนตรีให้ได้ฟังกันแบบสดๆ หรือจะเป็นมุม Rooftop Theatre ซึ่งจะมีการฉายหนังบนจอภาพขนาดใหญ่บนดาดฟ้าให้เราได้รับชมกันในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร และที่เป็นไฮไลท์เลยคือมุมถ่ายรูปสามเหลี่ยมมุมตึกที่ยื่นหน้าออกไปหาเมืองด้านล่าง ซึ่งเป็นจุดที่ให้ผู้คนนิยมมาโพสต์ภาพถ่ายรูปกับวิวสกายไลน์เมืองกันแตกแตนสุดๆ อีกมุมป๊อบที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเพราะคนเค้าชอบมาถ่ายวิดีโอลง IG Reels กันเยอะม๊าก คือ มุมบันไดเลื่อนจากดาดฟ้าลงไปยังชั้น 45 ซึ่งจะเป็นบันไดเลื่อนข้างตึกที่ขณะลงไปนั้น สามารถมองออกไปเห็นวิวเมืองด้านล่างที่เหมือนโอบล้อมรอบตัวเราไว้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองรอบที่ก๊อตมาเที่ยวที่ ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) นั้น อากาศไม่เป็นใจจากฝนที่ตกหนักทั้งสองรอบ ซึ่งเมื่อไหร่ที่สภาพอากาศไม่ดี ทั้งหมดของชั้น 46 เค้าก็จะปิดไม่ให้คนขึ้นไป และไม่มีการรีฟันด์ค่าเข้าด้วยนะเออ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้าเองก็ควบคุมไม่ได้นั่นเอง แง้
แต่ถึงเราจะแห้วขนาดนี้ ก๊อตยังคงแนะนำว่า การขึ้นมาดูวิวบน ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ก๊อตแนะนำมาก ด้วยความที่เค้าตั้งอยู่บนยอดตึกที่สูงที่สุดในย่านชิบูย่า นั่นหมายความว่าเราจะได้ส่องวิวสกายไลน์ของเมืองโตเกียวที่สูงกว่าใครเพื่อนในย่านนี้ อีกทั้งบนนี้ยังมองลงไปเห็นวิว 5 แยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ได้แบบเต็มสายตาเว่อร์ นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้มาทำกันเยอะมาก คือเราสามารถขึ้นมาอยู่บนนี้ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แล้วนั่งเล่นยาวๆ ไปจนถึงฟ้ามืดได้เลย แกรจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของชิบูย่าในไวบ์ที่อบอุ่นด้วยแสงแดดสุดท้ายของวัน ก่อนจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับแสงไฟระยิบระยับอย่างกับอยู่ท่ามกลางกาแล็กซี่ของโตเกียวในช่วงเวลากลางคืน เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายเก็บวิวเมืองแบบมุมสูง หากมาเที่ยวโตเกียวต้องจด ชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) เข้าไปในแพลนเที่ยวด้วย มันคุ้มค่ากับการขึ้นมามากเลยล่ะ!
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡