Universal Studios Japan หรือ USJ หนึ่งในสวนสนุกสุดป๊อบที่ติดท็อปอันดับต้นๆ ของโลกที่ผู้คนแห่แหนมาเที่ยวเล่นสวนสนุกต่อปีเยอะมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2022 เลยทีเดียว โดย USJ ที่เมืองโอซาก้านี้ เค้าเป็นสวนสนุกของค่ายยูนิเวอร์แซล สตูดิโอแห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกอเมริกา และเป็นแห่งแรกในเอเชีย โดยความพิเศษของ USJ ที่ญี่ปุ่นนั้นก็ไม่เหมือนประเทศไหนในโลกแน่นอน ด้วยความที่เค้าเอาการ์ตูน มังงะ และเกมของญี่ปุ่นทั้ง มาริโอ (Mario), โปเกม่อน (Pokemon) หรือแม้แต่อีเวนท์พิเศษต่างๆ เช่น วันพีช (One Piece) เอามามิกซ์ผสมผสานกับความออริจินอลของหนังและการ์ตูนดังจากค่ายยูนิเวอร์แซล ออกมาเป็นเครื่องเล่นโซนต่างๆ ภายในสวนสนุก ซึ่งไม่มีสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (Universal Studios) ที่ไหนในโลกนี้ทำได้อีกแล้ว นอกจากที่ญี่ปุ่นเค้า
แน่นอนว่าจั่วหัวมาเว่อร์ขนาดนี้ รอบนี้ก๊อตเลยจะพาทุกคนมาเที่ยวที่ Universal Studios Japan กันในรอบหลายปี ถือเป็นการมาอัปเดตเครื่องเล่นล่าสุด ซึ่งความดีงามของกลับมาเที่ยวของก๊อตรอบนี้ คือก๊อตได้มาในช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่เค้ามีงาน The Halloween Horror Nights ที่ทั้งสวนสนุกเค้าจะมีซอมบี้ และเหล่าสารพัดผีออกมาวิ่งเต้นกันไปมา และยังเครื่องเล่นธีมฮาโลวีนที่ในหนึ่งปีจะมีแค่ 2 เดือน ในช่วงเดือนกันยายน ถึงต้นเดือน พฤศจิกายนเท่านั้น ความพิเศษของงานนี้คือ ใครที่ซื้อบัตรมาเที่ยวสวนสนุก USJ ช่วงงานฮาโลวีนนั้น เราไม่ต้องซื้อบัตรแยกใดๆ แค่มีบัตรเข้าสวนสนุกใบเดียวก็ได้ไปกรี๊ดกร๊าดกับเหล่าผีมากมายกันจนขนหัวลุก 55555
บอกเลยว่ารีวิวนี้จัดเต็มและละเอียดยิบที่ทุกคนสามารถตามรอยได้แน่นอน เพราะก๊อตเก็บเครื่องเล่นไฮไลท์มาเกือบทั้งหมด อีกทั้งก๊อตยังใช้ Universal Express Pass 7 ที่ทำให้ก๊อตเก็บเล่นทุกอย่างได้ภายในวันเดียว เพื่อที่จะมาทำรีวิวนี้ให้ทุกคนได้อ่าน ว่าแล้วก็ไปตามเที่ยวกันได้เล้ย
- รีวิวเต็ม โอซาก้า (Osaka) 5 วัน 25 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Universal Studios Japan (USJ) ละเอียด รู้เรื่องมากที่สุด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโอซาก้า (Osaka)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
สารบัญรีวิว Universal Studios Japan (USJ)
เนื่องจากรีวิว Universal Studios Japan (USJ) หน้านี้คือละเอียดยิบมาก ก๊อตเลยแบ่งซอยย่อยออกเป็นหัวข้อเพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านง่ายขึ้น ใครอยากอ่านอันไหน สามารถจิมด้านล่างได้เลยนะครับ จะได้ไม่ต้องลากเมาส์ให้เมื่อยตุ้มเสียเวลา 😆
- รู้จัก Universal Studios Japan (USJ)
- เตรียมตัวก่อนไปเที่ยว Universal Studios Japan (USJ)
- ซื้อบัตรสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) ที่ไหนดี และเค้ามีแบบไหนบ้าง?
- ประเภทบัตรสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ)
- บัตร Express Pass 4 และ Express Pass 7
- ซื้อบัตร Express Pass 4 และ Express Pass 7 ที่ไหนดี?
- ทริคและการวางแผนเที่ยว Universal Studios Japan (USJ) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- วิธีการเดินทางมา Universal Studios Japan (USJ)
- เครื่องเล่นห้ามพลาดของ Universal Studios Japan (USJ)
- โซน Super Nintendo World
- โซน Jurassic Park
- โซนนิวยอร์ก (New York)
- โซน Minion Park
- โซน The Wizarding World of Harry Potter™
- โซน Hollywood
- โซน Amity Village
- เทศกาลประจำปีกับ Halloween Horror Nights
รู้จัก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ)
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) หรือ USJ ถือเป็นสวนสนุกค่าย Universal Studios แห่งแรกในเอเชีย ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 และปัจจุบัน Universal Studios Japan (USJ) เป็นสวนสนุกที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ 12.35 ล้านคน ในปี 2022 เฉือนชนะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) อยู่นิดหน่อย
ไฮไลท์ห้ามพลาดของ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) ที่ต้องมาเล่นที่นี่ที่เดียวเท่านั้น คือโซนเครื่องเล่นใหม่อย่าง “Super Nintendo World” แห่งแรกของโลกที่เค้าเพิ่งเปิดไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเราจะได้หลุดเข้าไปในโลกของ Super Mario และเหล่าผองเพื่อนของเค้า ที่ก๊อตบอกเลยว่าโซนนี้ฮอตปรอทแตกม๊ากก นอกจากนี้ภายในสวนสนุกเค้าก็ยังมีโซนอื่นๆ ที่มาในธีมของภาพยนตร์จากยูนิเวอร์แซลให้ได้มาเล่นกันอีกเพียบ ทั้ง Minions, Harry Potter และ Jurassic Park แต่ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าที่นี่ดูเป็นสวนสนุกที่เหมาะกับผู้ใหญ่จังเลย ถ้าพาเด็กๆ มาจะคุ้มไหม ก๊อตบอกก่อนเลยว่าเค้ามีโซนสำหรับน้องๆ หนูๆ อยู่ด้วย อย่างโซน “Wonderland” ที่ภายในนั้นก็จะแบ่งเป็นโซนย่อยๆ ออกไปอีก อาทิ โซน Snoopy, Hello Kitty และ Sesame Street ที่เด็กๆ นั้นสามารถมาเลือกเล่นได้ตามชอบเล้ย เรียกได้ว่า Universal Studios Japan (USJ) เป็นอีกหนึ่งสวนสนุกที่ครบรสและควรค่าแก่การมาเที่ยวสักครั้งในชีวิตเลยล่ะ
เตรียมตัวก่อนไปเที่ยวยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ)
หลายคนอาจจะเอ๊ะ! กับหัวข้อนี้ว่ากับแค่การไปเที่ยว ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) มันจำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมใจเล่นใหญ่อะไรเบอร์นั้นเลยหรือ? ซึ่งก๊อตบอกเลยว่าจริง และต้องเตรียมเยอะมากโดยเฉพาะคนที่อยากเก็บให้คุ้มค่าบัตร!! เพราะการจะไปเที่ยวที่ Universal Studios Japan (USJ) ให้มันเกิดผลประโยชน์สูงสุด ได้ตามเก็บเครื่องเล่นที่อยากเล่นให้ได้มากที่สุดนั้น เราต้องวางแผนกันก่อน เพราะด้านในเค้ามีเครื่องเล่นมากมายให้เราได้เล่นเยอะมาก แถมแต่ละเครื่องเล่นก็คิวยาวเหยียดเป็นชั่วโมงอีก
นอกจากนี้ ล่าสุดเค้ายังมีโซน “Super Nintendo World” แห่งแรกของโลกที่จำกัดจำนวนคนเข้าไปภายในโซนด้วย บอกเลยว่าหลายคนอาจจะงงและปวดหัวว่ามันจะต้องเข้ายังไงทั้งเข้าฟรีและแบบเสียเงินเพิ่ม ซึ่ง USJ เองก็มีบัตรหลากหลายแบบจนหลายคนอาจจะงง ตั้งแต่บัตรเข้าสวนสนุก รวมถึงบัตรเบ่ง Express Pass ต่างๆ เยอะแยะตาแป๊ะไก่ไปอีก ซึ่งราคารวมค่าเข้าสวนสนุกที่นี่ รวมๆ แล้วแล้วก็หลายพันบาทจนถึงเกือบหมื่น ดังนั้น เสียตังค์เยอะขนาดนี้ทั้งที ก๊อตเลยอยากแนะนำให้เราวางแผนกันหน่อย เราจะได้เข้าไปเก็บเครื่องเล่นตัวไฮไลท์ได้แบบคุ้มๆ ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตจะบอกหมดเลยว่า Universal Studios Japan (USJ) เป็นยังไงบ้าง มาเตรียมอ่านกันได้เล้ย ก๊อตจะพาทุกคนไปไล่ทีละเสต็ปเลย ตั้งแต่การซื้อบัตรเข้าสวนสนุก บัตรเบ่ง Express Pass และทริคการเข้าไปเล่นเครื่องเล่นแบบจัดเต็ม ว่าแล้วเลื่อนอ่านต่อโลด!
ซื้อบัตรสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) ที่ไหนดี และเค้ามีแบบไหนบ้าง?
สำหรับใครที่มีแพลนมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) และกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อบัตรเข้าสวนสนุกผ่านทางไหนดี ก่อนอื่นที่ทุกคนต้องรู้ก่อนเลยก็คือ บัตรเข้าสวนสนุก USJ นั้น เค้าเรียกกันว่า “Studio Pass” ซึ่งจะมีขายกันอยู่หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นบัตร Studio Pass แบบ 1 วัน, 1.5 วัน และ 2 วัน ซึ่งจำนวนวันเหล่านี้คือระยะเวลาที่เราสามารถใช้บัตรเข้าไปเล่นภายในสวนสนุกได้นั่นเอง
นอกจากนี้ เค้ายังมีบัตร Studio Pass แบบแพ็กเกจเสริมที่พ่วงมากับที่พัก ตั๋วรถไฟ หรือการเข้าสวนสนุกล่วงหน้าที่เราสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ แต่ราคาของบัตรแบบแพ็กเกจเหล่านี้ก็จะพุ่งกว่าบัตร Studio Pass แบบรายวันปกติ ดังนั้น ใครจะเลือกซื้อบัตรเข้าสวนสนุก USJ แบบไหน ก็ให้เลือกซื้อที่เข้ากับแพลนเที่ยวของแต่ละคนได้เลย
สำหรับช่องทางการซื้อบัตรสวนสนุก USJ เราสามารถซื้อได้หลายทาง แต่ที่ก๊อตแนะนำเลยคือให้ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday ซึ่งเป็นวิธีการที่ก๊อตเลือกใช้แทบทุกครั้งที่ไปเที่ยวสวนสนุกมาแล้วจากทั่วโลก เพราะสะดวกสบาย จองได้เลยผ่านเว็บหรือแอพ โดยมีหน้าเว็บภาษาไทยที่ใช้งานง่าย นอกจากนี้ตั๋วที่ซื้อผ่าน Klook และ KKday เค้ายังออกเป็น e-Ticket ที่มีคิวอาร์โค้ดที่เมื่อราไปถึงหน้าสวนสนุก ก็แค่ยื่นคิวอาร์โค้ดสแกนที่หน้าประตูก็พุ่งตัวเข้าไปภายในได้แล้ว
มากไปกว่านั้นการซื้อบัตรผ่านเว็บ OTAs เรายังได้บัตรมาในราคาที่ดีงาม ไม่ต้องไปเสี่ยงบัตรเต็ม บัตรแพง หรือแม้แต่ความวุ่นวายในการไปต่อคิวซื้อบัตรหน้างานอีกด้วย บอกเลยว่าการซื้อแบบนี้คือสะดวกที่สุดแล้ว แต่ทั้งนี้ที่ทุกคนต้องรู้ไว้ว่า เค้าจะเปิดขายบัตรล่วงหน้าแค่ 2 เดือน ดังนั้นใครจะมาเที่ยวก็ควรรีบจองกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหลายครั้งในช่วงพีคที่เป็นไฮซีซั่นนั้นบัตรจะเต็มเร็วมาก และสวนสนุกเค้าไม่ได้เปิดให้คนซื้อบัตรแบบอันลิมิต บัตรเต็มแล้วคือเต็มเลย ไปอ้อนวอนขอซื้อบัตรหน้าสวนสนุกเค้าไม่ได้นะแกร
ประเภทบัตรสวนสนุก USJ มีให้เลือกกันเยอะมาก 🎫
บัตรเข้าสวนสนุก USJ Studio Pass ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1, 1.5 และ 2 วัน [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- Studio Pass ก็คือบัตรเข้าสวนสนุกที่เราสามารถเล่นได้ทุกเครื่องเล่นเอาไว้แล้ว โดยเค้าจะจำนวนวันให้เราเลือกเลยตั้งแต่ 1-2 วัน โดยบัตรเข้าสวนสนุกนั้นจะไม่ได้รวมสิทธิ์ในการเข้าโซน “Super Nintendo World” โดยเราจะต้องกดบัตรเข้าฟรี ผ่านแอพ USJ เพิ่มเอาเอง (มีจำนวนจำกัด) หรือจะซื้อเพิ่มเติมเอาก็ได้
บัตรเข้าสวนสนุก USJ 1-Day Studio Pass + เข้าสวนสนุกล่วงหน้า 15 นาที [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- จะเป็นการซื้อบัตรเข้าสวนสนุก พร้อมสิทธิพิเศษที่เราสามารถเข้าไปในสวนสนุกได้ก่อนชาวบ้านเขาถึง 15 นาที โดยเราจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 1,000 บาท ซึ่งก๊อตบอกเลยว่า 15 นาทีนั้นมีค่ามาก เหมาะกับคนที่ตั้งใจมาเก็บเครื่องเล่นให้หมด ซึ่งช่วง 15 นาทีที่เราได้เข้ามาก่อนคนอื่น เราสามารถวิ่งไปเล่นเครื่องเล่นฮิตที่เราต้องการ ที่ปกติต้องใช้เวลาต่อคิวไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง แล้วเข้าเล่นได้เลย แถมเล่นเสร็จแล้วยังพอมีเวลาเหลือให้ไปตามเก็บเครื่องเล่นอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวก๊อตนั้น ไม่ค่อยไม่แนะนำเท่าไหร่ สู้เก็บเอาเงินพันนึงนี้ ไปเพิ่มเงินแล้วซื้อบัตร Express Pass เพื่อลัดคิวเครื่องเล่นเลยจะดีกว่าแหละ
บัตรเข้าสวนสนุก USJ 1-Day Studio Pass + Super Nintendo World [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- ต้องบอกก่อนว่าโซน “Super Nintendo World” เป็นโซนเปิดใหม่ แถมยังฮิตติดลมบนคนต้องการที่จะเข้าไปยังโซนนี้กันแบบล้นหลาม โดยการจะเข้าโซนนี้ เราจะต้องจองคิวแบบสุ่มผ่านแอปพลิเคชันของเค้าก่อน ซึ่งเค้าไม่มีการันตีด้วยว่าการจองคิวผ่านแอพนั้นจะได้เข้าแน่นอน ดังนั้น USJ เค้าเลยออกบัตรเสริม Super Nintendo World เอามาขายเพิ่มในการรับประกันว่าเราจะได้เข้าโซนนี้ชัวร์แน่นอน ซึ่งการซื้อบัตรแบบนี้จะพิเศษตรงที่เราสามารถเลือกเวลาเข้าโซนได้ แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวก๊อตนั้น ก็ยังแนะนำให้เอาเงินไปซื้อ Express Pass จะดีที่สุด เพราะบัตรเบ่ง Express Pass นั้นจะรวมสิทธิ์การเข้าโซน Super Nintendo World เข้าไว้แล้วด้วยเช่นกัน แต่ก๊อตบอกไว้ก่อนว่า Express Pass ที่ซื้อจาก Klook นั้น ระบบจะสุ่มเวลาเข้าโซนมาริโอ้มาให้ ซึ่งเราไม่สามารถเลือกเวลาเข้าที่แน่นอนได้นั่นเอง
[COMBO] บัตรเข้าสวนสนุก USJ 1-Day Studio Pass + บัตรลัดคิว บัตรเบ่ง Express Pass [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- อันนี้เป็นการขายคอมโบของ KKday ที่รวมเอาบัตรเข้าสวนสนุก กับบัตรเบ่ง Express Pass ให้เป็นแพ็คแล้วซื้อทีเดียวไปเลยจบๆ ถ้าถามว่าซื้อแยกหรือซื้อรวบไปเลยอันไหนถูกกว่ากัน อาจจะต้องต้องเทียบราคากันเอาเอง เพราะในแต่ละวันราคานั้นไม่เท่ากันเนื่องจากราคาเหวี่ยงไปตามซีซั่นมาก ยังไงก๊อตแนะนำให้จิ้มลองเช็คดูกันน้า
บัตร Express Pass 4 และ Express Pass 7
สำหรับใครที่เงินเหลือ ไม่อยากไปต่อคิวรอเล่นเครื่องเล่น การใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการซื้อบัตร Express Pass เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ก๊อตแนะนำมาก ซึ่งบัตร Express Pass หรือที่เราเข้าใจกันดีว่าเป็นบัตรเบ่งสำหรับลัดคิวเครื่องเล่นนั่นแหละ
🥹 ทั้งนี้ ก๊อตต้องย้ำให้ทุกคนรู้ว่า Express Pass คือบัตรเสริมที่เราซื้อแยกมาจากบัตรเข้าสวนสนุก ดังนั้น บัตร Express Pass ไม่ใช่บัตรเข้าสวนสนุกนะเว้ย เพราะโดยเบสิคแล้ว การที่เราจะเข้าสวนสนุกนั้นเราต้องซื้อบัตร Studio Pass เป็นอันดับแรกก่อน
บอกเลยว่าบัตรนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บเครื่องเล่นแบบเก็บครบจบปิ๊ง ซึ่งเค้าจะแยกประเภทออกเป็น Express Pass 4 และ Express Pass 7 ซึ่งแต่ละอันก็จะแยกประเภทยิบย่อยของเครื่องเล่นออกไปอีกเยอะมากแล้วแต่ว่าเราอยากเล่นเครื่องเล่นไหนมากที่สุดซึ่ง Express Pass ก็จะมีลิสเครื่องเล่นแตกต่างกัน โดยเราจะต้องเอาไปใช้ลัดคิวเล่นในเครื่องเล่นที่เค้ากำหนดมาในพาสที่เราซื้อมาเท่านั้นนะ ซึ่งตอนจองพาสเค้าจะมีให้เลือกเลยว่าเราต้องการแบบไหน แล้วแต่ละแบบสามารถเอาไปเล่นเครื่องเล่นไหนได้บ้าง ซึ่งเราก็เลือกซื้อในแบบที่ตัวเองอยากเล่นได้เลย เมื่อเราซื้อ Express Pass มาเรียบร้อยแล้ว เราจะได้คิวอาร์โค้ดเพื่อใช้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ด้านหน้าเครื่องเล่นสแกนลัดคิว แค่นี้ก็สามารถเข้าเล่นเครื่องเล่นได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวจ๊า
⚡️ อีกเรื่องที่ต้องรู้คือ บัตร Express Pass ทุกประเภท เค้ารวมสิทธิ์การเข้าไปในโซน Super Nintendo World มาให้เราแล้วเรียบร้อย ดังนั้น เราไม่ต้องกลัวว่าจะชวด เพราะเรามีสิทธิ์เข้าเล่นในโซนนี้แน่นอน 100% โดยเค้าจะสุ่มเวลาเข้ามาให้ ซึ่งเราต้องเข้าตามเวลานั้นตามที่ระบบเค้าสุ่มมา และเราไม่สามารถเลือกได้
ทำความเข้าใจ Express Pass 4 และ Express Pass 7 เพิ่มเติม
Express Pass 4 และ Express Pass 7 เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ที่เห็นเลข 4 และ เลข 7 นั้น เค้าไม่ได้หมายถึงว่าเราซื้อแล้วจะเอาไปเล่นเครื่องเล่นไหนภายในสวนสนุก USJ ก็ได้ จำนวน 4 หรือ 7 เครื่อง แต่ใน Express Pass 4 และ Express Pass 7 เค้าจะมีให้เราเลือกซื้อหลายแบบ โดยแต่ละแบบจะถูกแบ่งยิบย่อยเครื่องเล่นที่เราสามารถใช้บัตรไปลัดคิวเข้าเล่นได้ ซึ่งแต่ละบัตรจะถูกกำหนดมาให้เลยว่าเรามีเครื่องเล่นไหนบ้าง โดยชื่อแต่ละ Express จะมีชื่อหัวเครื่องเล่น หรือแยกเป็นเครื่องเล่นประเภทต่างๆ ซึ่งถ้าเราอยากเล่นเครื่องเล่นไหน ให้เราเลือกจากหัวได้เลย จากนั้นค่อยมาดูเครื่องเล่นที่เหลือว่าเค้ารวมอะไรมาให้บ้าง
สำหรับใครที่เงินเหลือ และอยากใช้เงินแก้ปัญหา ฟีลมาเที่ยวแล้วทั้งที เอาเงินฟาดไปเลยแบบจอยๆ ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าคิว ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ Express Pass 7 ไปเลย เพราะจากรีวิวนี้นั้น ก๊อตใช้ Express Pass 7 + Express Pass 4 เวอร์ชั่น Halloween Nights บอกเลยว่าเดินสวยๆ เข้าเครื่องเล่นได้หมด แบบไม่ต้องเมื่อยขา คือเริ่ดที่สุดแล้วววว
⚡️ ถ้าเราไม่มี Express Pass เครื่องเล่นไฮไลท์ตัวเจ๋งๆ ต้องใช้เวลายืนต่อเข้าคิวเล่นขั้นต่ำ 60 นาที หรือช่วงพีคจะยาวไปถึง 120 นาทีเลย (เห็นมาแล้ว) และนี่บอกเลยว่า บัตร Express Pass 4 และ Express Pass 7 นั้น เค้ามีการขายแบบจำนวนจำกัดในแต่ละวัน เพื่อความเซฟและกันพลาด แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าประมาณ 15 วันก่อนวันเข้าเล่น Universal Studios Japan : USJ และก๊อตขอจบสรุปแบบไม่โลกสวย บอกเลยว่าถ้าเราไม่มี Express Pass ไม่มีทางเล่นเครื่องเล่นครบแน่นอน
ซื้อบัตร Express Pass 4 และ Express Pass 7 ที่ไหนดี?
อย่างที่ก๊อตบอกไปว่าทั้ง Express Pass 4 และ Express Pass 7 นั้น การซื้อผ่านหน้าเว็บ OTAs อย่าง Klook และ KKday เป็นช่องทางที่ก๊อตว่าสะดวกที่สุดแล้ว นอกจากจะจิ้มซื้อล่วงหน้าได้แล้ว ยังมี Express Pass ให้เลือกซื้อกันเยอะม๊าก แถมเรายังมั่นใจได้เลยว่าซื้อมาแล้วจะได้เข้าเล่นเครื่องเล่นพีคๆ รวมถึงตามเก็บเครื่องเล่นได้ครบครัน และได้เข้าโซนใหม่อย่าง Super Nintendo World แน่นอน ซึ่งใครที่อยากจะจิ้มซื้อ Express Pass 4 และ Express Pass 7 ไว้เลย สามารถกดด้านล่างนี้ได้เล้ยย
ทริคและการวางแผนเที่ยวยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าจาก Klook หรือ KKday มาก่อนได้เลย เพราะถ้าใครเลือกมาซื้อหน้างานนั้น มีความเสี่ยงที่จะไม่มีบัตรมาก หรือถ้ามีบัตร เราก็ต้องต่อคิวซื้อนานมากเช่นกัน รวมถึงใครจะซื้อบัตร Express Pass ต่างๆ นั้น ก๊อตแนะนำว่าให้กดซื้อกันมาก่อนเลย
- ใครจะมาเที่ยวที่ Universal Studios Japan (USJ) ให้มาวันธรรมดา อย่าได้มาวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดเลย เพราะขนาดก๊อตไปวันธรรมดาคนยังเยอะมากกก
- ถ้าตั้งใจว่ามาแล้วอยากจะเล่นเครื่องเล่นให้ครบทุกเครื่องนั้น รวมถึงเงินเหลือๆ หน่อย ก๊อตแนะนำให้ซื้อบัตร Express Pass 7 ไปเลย บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก อย่างก๊อตไปช่วงเทศกาลฮาโลวีน นี่ซื้อ Express Pass 7 สำหรับงาน Halloween Horror Night – Complete Thrills & Variety มาเลยจ๊า ซึ่งเราจะได้เล่นเครื่องพิเศษในเทศกาลฮาโลวีนของเค้าด้วย แต่บอกเลยนะว่าขนาดนี้ซื้อแบบจัดเต็มแล้ว ยังเก็บเครื่องเล่นได้ไม่ครบเลย ดังนั้นใครที่ไม่ได้ซื้อมาเตรียมใจเลยว่าเล่นไม่ครบแน่นอน
- อย่าลืมโหลดแอป Universal Studios Japan เพราะแอปเดียวช่วยชีวิตเราตอนที่อยู่สวนสนุกได้เยอะมาก
- สามารถดูเเผนที่สวนสนุกทั้งหมดได้ผ่านเเอป โดยในแอปมันจะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของสวนสนุก รวมถึงเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นใช้เวลาต่อแถวเข้าเล่นกี่นาที
- ใช้ดูแผนที่เครื่องเล่น และโซนต่างๆ ในสวนสนุกได้ รวมถึงรู้ว่าเครื่องเล่นไหนปิดบ้าง
- ใช้ดูว่าเวลาโชว์พาเหรดว่าเค้าแสดงกี่โมง
- ใช้สำหรับเล่นเกมพิเศษในโซน Super Nintendo World หากเราซื้อสายริชแบนด์ของเหล่ามาริโอ้ สามารถเล่นเกมเก็บแต้มคะแนนในเเอปที่มีหน้าเฉพาะสำหรับมาริโอ้มาให้เลย
- ให้มาถึงสวนสนุกในเวลาเช้าที่สุดเท่าที่จะมาได้ ยิ่งใครมาตั้งแต่สวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก เพราะเครื่องเล่นฮิตคนจะยังต่อแถวไม่เยอะ และแน่นอนว่าเราจะมีเวลามากพอในการรอเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้นเยอะม๊าก แต่ถ้าใครสายเปย์จะซื้อบัตรเข้าสวนสนุกล่วงหน้าก็จะเริ่ดมากขึ้นไปอีก
- เข้ามาภายในสวนสนุกแล้ว แนะนำว่าให้รีบพุ่งตัวไปเล่นเครื่องเล่นฮิตได้เลย เพราะไม่เช่นนั้นเราจะรอคิวนานมาก
- ของทุกอย่างที่ซื้อใน USJ สามารถทำ Tax Refund ได้ ภายใต้เงื่อนไขบิลนั้นต้องเกิน 5,500 เยน และต้องเป็นของที่เราซื้อในวันนั้นๆ โดยเราสามารถซื้อสินค้าในสวนสนุกแล้วเอามาใส่เล่นได้ทั้งวัน ตอนขากลับออกมาค่อยเอาบิลมาขอแท็กรีฟันคืนได้ ซึ่งที่ขอคืนนั้นขาเราจะเดินออกสวนสนุก เค้าจะอยู่ฝั่งซ้ายมือตรงทางออกนะ โดยเราจะได้คืนเงินคืน 7.8% จาก 10% ที่เค้าหักไป
วิธีการมา Universal Studios Japan (USJ)
วิธีเดินทางมาเที่ยวที่ Universal Studios Japan (USJ) ด้วยความที่เค้าตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า (Osaka) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลักที่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่บินมาเที่ยวภูมิภาคคันไซ (Kansai) มักจะเลือกบินมาลงที่เมืองนี้อยู่แล้ว ก๊อตจึงจะมาแนะนำวิธีการเดินทางภายในเมืองโอซาก้า (Osaka) มายังสวนสนุก USJ แทน ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกมากๆ เพราะเค้ามีขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม โดยก๊อตได้รวมเอาวิธีการเดินทางทั้งหมดมาไว้ให้ตามด้านล่างนี้ ใครชอบแบบไหน ถนัดทางใด จิ้มตามนี้ได้เล้ยย
วิธีการเดินทางมา ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ)
1. รถไฟ (⭐️⭐️แนะนำ): การเดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีที่ก๊อตแนะนำมากที่สุดสำหรับไปเที่ยว Universal Studios Japan (USJ) แล้ว โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับสวนสนุก USJ มากที่สุดคือสถานียูนิเวอร์แซล ซิตตี้ (Universal City Station) โดยเราสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีใกล้ที่พักของทุกคนในโอซาก้า (Osaka) ได้เลย สำหรับสายรถไฟนั้นจะมีตามนี้เลย
- โดยรถไฟ JR:
- สถานียูนิเวอร์แซล ซิตตี้ (Universal City Station) : ให้ขึ้นรถไฟสาย Osaka Loop Line มาลงที่สถานี Nishikujo Station จากนั้นให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Yumesaki Line มาลงที่สถานียูนิเวอร์แซล ซิตตี้ (Universal City Station) แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
2. รถบัส (⭐️แนะนำ): สำหรับคนที่อยู่แถวๆ นัมบะ (Namba) ตรงโดทงโบริ (Dotonbori) เค้ามีรถบัสไป Universal Studios Japan (USJ) ตั้งแต่เช้า ไปถึงที่สวนสนุกช่วงที่เค้าเปิดพอดีด้วย โดยรถบัสจะมี 2 ช่วง ขาไปตอนเช้าคือ 7.00 น. และ 8.30 น. และยังมีขากลับตอนเย็นด้วย ใครที่อยากนั่งรถต่อเดียวปรื้ดถึงเลยคือแนะนำเลยแหละ ราคาอยู่ที่ราวๆ เที่ยวละ ~285 บาท (แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนตอนนั้น)
เครื่องเล่นห้ามพลาดของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ)
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดใน Universal Studios Japan (USJ) นั้น จริงๆ อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย แต่ถ้าให้ก๊อตเลือกเครื่องเล่นที่ก๊อตชอบมาล่ะก็ ก๊อตจะขอแยกออกเป็น 3 แบบ โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ที่เริ่ดมากนั้นจะมี 3 ดาวต่อท้ายชื่อไว้ด้วย หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มเล่นเครื่องไหน อย่างไร ลองเลือกดูๆ ตามสายตัวเองได้เล้ย
เหตุผลที่ห้ามพลาด | เครื่องเล่นห้ามพลาดใน Universal Studios Japan (USJ) |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | – Hollywood Dream: The Ride ⭐️⭐️⭐️ – The Flying Dinosaur ⭐️⭐️⭐️ |
เครื่องเล่นตื่นตาตื่นใจ เน้นประสบการณ์ | – Harry Potter and the Forbidden Journey™ ⭐️⭐️⭐️ – The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D ⭐️ – Despicable Me Minion Mayhem ⭐️ |
มีที่เดียวในโลก เฉพาะที่ Universal Studios Japan (USJ) | – Jaws |
เริ่มลุยยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน / Universal Studios Japan (USJ) กันดีกว่า!
โซน Super Nintendo World
โซนแรกที่ก๊อตพุ่งตัวตรงมาก่อนเลยก็คือโซน Super Nintendo World โซนใหม่ล่าสุดของ USJ ที่เค้าเพิ่งจะเปิดให้ทุกคนได้เข้ากันเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2021 ซึ่งตรงกับวันเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ Universal Studios Japan (USJ) แบบพอดิบพอดี โดย Super Nintendo World เค้าได้จำลองโลกของมาริโอ้มาไว้ในสวนสนุก และนับว่าเป็นที่แรกของโลกเลย
Super Nintendo World นั้นถูกออกแบบจำลองให้เป็นเหมือนในเกมมาริโอ้เปี๊ยบ ซึ่งคนออกแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “ชิเกรุ มิยาโมโตะ (Shigeru Miyamoto)” นักออกแบบเกมชาวญี่ปุ่น ผู้บริหารของนินเทนโด และเป็นผู้คิดค้นเกม มาริโอ ดองกีคอง มาร่วมออกแบบโซนนี้ด้วย มันเลยการันตีได้เลยว่าภายในโซน Super Nintendo World จะมีบรรยากาศที่สมจริง เสมือนกับว่าเกมมาริโอ้ที่เราเคยเล่นกันนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ เลยเชียว ดังนั้นใครที่เป็นสาวกมาริโอ้ บอกเลยว่าพลาดโซนนี้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
วิธีการเข้าโซน Super Nintendo World
- สำหรับคนที่ซื้อบัตรเข้าสวนสนุก (Studio Pass) แบบปกติจะ 1 วัน 1.5 วัน หรือแม้แต่ 2 วัน หากเราไม่ได้ซื้อบัตรเสริมที่ใช้เข้า Super Nintendo World หรือซื้อบัตรเบ่ง Express Pass แยกมาด้วย สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือให้เราโหลดแอปของ Universal Studios Japan มา จากนั้นให้กดจองเวลาเข้าไปในโซน Super Nintendo World ซึ่งอันนี้ก๊อตแนะนำว่าให้กดจองตั้งแต่สวนสนุกเปิดเลย เพราะคนเข้าเล่นเยอะม๊ากกก
- ถ้าใครไม่อยากลุ้น และกลัวว่าเราจะไม่ได้เข้าโซนนินเทนโด เราสามารถซื้อบัตรเข้าสวนสนุก (Studio Pass) + บัตรเข้าโซน Super Nintendo World แบบระบุเวลาได้เลย โดยบัตรแบบนี้มีขายทั้ง Klook และ KKday
- สำหรับคนที่ซื้อบัตร Express Pass 4 หรือ 7 ส่วนใหญ่เค้า บัตรเบ่งนี้จะรวมสิทธิ์การเข้าโซน Super Nintendo World มาให้แล้ว โดยระบบจะสุ่มเวลาการเข้าโซนนินเทนโทมาให้เรา เมื่อพอเราได้บัตรเบ่ง Express Pass มาแล้ว บนบัตรจะมีระบุเวลามาด้วยว่าเราต้องเข้าไปในโซน Super Nintendo World เวลาไหน ซึ่งเราจะต้องเข้าตามเวลาที่เค้าระบุมาเท่านั้น แต่จะไม่ได้จำกัดเวลาออก สามารถอยู่ด้านในได้ยาวๆ เลย แต่ถ้าเราออกเดินออกมาจากโซนเค้าแล้ว จะไม่สามารถเข้าไปได้อีกนะ
การเข้าไปในโซน Super Nintendo World เราจะต้องเดินเข้าท่อวาร์ปสีเขียวขนาดใหญ่คล้ายๆ ในเกมที่จะพาให้เราโผล่ไปสู่อาณาจักรของนินเทนโดอย่าง Super Mario ทั้งปราสาทของเจ้าหญิงพีชและเมืองมาริโอ้สีสันสดใสที่เต็มไปด้วยเหล่าตัวการ์ตูนและสิ่งมีชีวิตมากมาย ทั้งมาริโอ้ (Mario), ลุยจิ (Luigi)), โทด (Toad), เจ้าหญิงพีช (Princess Peach) และเจ้าต้นปิรันย่า (Piranha Plants) ที่ขยับไปมาเหมือนมีชีวิตจริงม๊าก โดยเค้าจะเซตเอาหลายๆ ฉากในเกมของมาริโอ้ขึ้นมารวมกันเอาไว้ อย่างปราสาทของจอมวายร้าย “บาวเซอร์ (Bowser)” หรือจะเป็น “Koopa Troopas” เต่าสีเหลืองกระดองสีเขียวที่เป็นศัตรูตัวฉกาจกับมาริโอ้ก็เดินไปมาดุ๊กดิ๊กๆ ทั้งหมดของตัวละคร พร็อพ และฉากบอกเลยว่าอลังการและโคตรน่ารักเลยยยย



ในเกมเราก็จะเห็นว่ามาริโอ้เค้าจะไปกระโดดดึ๋งๆ เอาหัวโหม่งเหรียญ โหม่งบล็อกเพื่อเก็บแต้มทำคะแนนใช่ป่ะ! ในโซน Super Nintendo World เค้าก็มีบล็อกแบบในเกมมาตั้งให้เรากระโดดต่อยบล็อกต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่วโซนเลย ใครที่ฝันอยากกระโดดต่อยบล็อกเก็บแต้มนี้ ฝันเราจะกลายเป็นจริงแล้วแกร๊
Power-Up Band Key Challenges
อย่างที่ก๊อตบอกไปว่าภายในโซน Super Nintendo World เค้ามีบล็อกสี่เหลี่ยมๆ ให้คนได้ต่อยจริง โหม่งจริงเหมือนในเกม Super Mario แบบนั้นเลย คือเดินไปเดินมาแล้วเกิดหมั่นเขี้ยวอยากจะเอาหัวโหม่งหรือกระโดดใส่สักแมท เราก็ทำได้เลย แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าเราไม่ได้ซื้อ Power-Up Band เสียงเวลาที่เราต่อยบล็อก มันจะเป็นเสียงเฟลๆ เหมือนไม่มีเหรียญให้เก็บคล้ายๆในเกมเลยล่ะ บอกเลยว่านี่คือกับดักของ USJ ที่ต้องการให้คนซื้อ “Power-Up Band” เพิ่มเติม โดยราคาก็แรงเอาเรื่อง อยู่ที่อันละ 4,200 เยน (~1,020 บาท) เมื่อเราได้ใส่เจ้า Power-Up Band ที่ข้อมือแล้วล่ะก็ เวลาเราเอามือไปต่อยบล็อกมันจะเป็นเสียง “ปิ๊งๆ” เก็บเหรียญหรือเห็ดเหมือนในเกมเปี๊ยบบบบบ




ซึ่งความสนุกของเค้าไม่ได้มีแค่ให้เราไปโหม่งหัวใส่บล็อกปิ๊งๆ อย่างเดียวนา แต่เราจะได้เข้าร่วมภารกิจชิงเห็ดทองคำจากเจ้าศัตรูตัวร้ายบาวเซอร์ ที่เค้าได้ขโมยเห็ดทองคำไปจากเมือง และทางเดียวที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จ คือเราต้องไล่เก็บกุญแจที่ซ่อนอยู่ตามบล็อกในมุมต่างๆ รวมถึงต้องทำชาเลนจ์ที่เค้าจะมีมินิเกมหลากหลายจุดด้านใน เมื่อเราเก็บครบ 3 ดอก ตามภารกิจที่อยู่แอปแล้ว เราสามารถใช้กุญแจนั้นเอาไปเป็นตั๋วเข้าปราสาทบาวเซอร์ เพื่อไปจัดการเจ้าวายร้ายและตามล่าเห็ดทองต่อไปได้เลย ใครที่อยากรู้ว่าด้านในมีอะไรต่อ ให้ทำชาเลนจ์นี้โลด ส่วนก๊อตนั้นไม่ได้ทำ เพราะเอาเวลาไปเล่นเครื่องอื่นๆ ต่อแทน 555555



Mario Kart: Koopa’s Challenge™
สำหรับเครื่องเล่นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดในโซน Super Nintendo World ต้องยกให้ Mario Kart: Koopa’s Challenge™ เครื่องเล่นขับรถล้ำๆ ที่จำลองเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในเกม Mario Kart 8 สุดฮิต ที่เราจะได้ตื่นเต้นกันตั้งแต่ประตูทางเข้าด้วยใบหน้าสุดเจ้าเล่ห์ของบาวเซอร์ตัวใหญ่ที่กำลังอ้าปากกว้างเป็นประตูคอยต้อนรับผู้คน อารมณ์ประมาณว่า “แกรเข้ามาสิ เข้ามาเล้ย”
โดยภารกิจที่ผู้เล่นแบบเราได้รับคือการขึ้นไปนั่งบนรถแข่งมาริโอ้คาร์ทพร้อมสวมหมวกมาริโอ้เอาไว้บนหัว ซึ่งหมวกนี้จะมีหน้าจอใสๆ อยู่ในระดับสายตาของเราพอดี ซึ่งเจ้าหน้าจอใสนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนโปรเจกเตอร์ส่วนตัวที่เราสามารถมองเห็นภาพของคู่แข่งและเป้าต่างๆ ในสนามแข่งรถที่เราต้องขับไปนั่นเอง โดยเรานั้นต้องบังคับรถรวมถึงใช้ปืนยิงเป้าคู่แข่งรวมถึงเก็บแต้มคะแนนด้วย
สำหรับการเล่น Mario Kart: Koopa’s Challenge™ ตอนแรกที่เข้าใจคือนึกว่าเหมือนเกมแข่งรถแบบจริงจัง แต่สรุปแล้วคือเหมือนระบบเซ็ตมาให้หมดแล้วตามแทร็ค ถึงแม้เราจะไม่จับพวงมาลัยหรือเลี้ยวตามทางมัน แต่รถคาร์ทเรานั้นก็จะเลี้ยวไปตามเส้นทางเครื่องเล่นอยู่ดี แต่ที่วัดกันจริงๆ น่าจะเป็นเก็บแต้ม เก็บไอเท็ม รวมถึงการยิงเป้าคู่แข่งในสนามมากกว่า ตัวก๊อตเองนั้นผิดหวังนิดหน่อย เพราะนึกว่าจะแข่งขับรถกันจริงจัง มีการบังคับพวงมาลัยสมจริงมากกว่านี้ แต่นี่มั่นใจว่าถ้าน้องๆ เด็กๆ ได้มาเล่นน่าจะสนุกและว้าวแน่นอน ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องที่ต้องมาเล่นให้ได้รู้แหละ 555555
Yoshi’s Adventure
Yoshi’s Adventure อีกหนึ่งเครื่องเล่นในโซน Super Nintendo World ที่เหมาะกับเบบี๋และเด็กน้อยม๊ากก ใครที่อยากพาลูกๆ มานั่งเครื่องเล่นฟีลรถไฟรางเลื่อนช้าๆ ดื่มด่ำไปกับโลกของโลกมาริโอ้และผองเพื่อนให้ฉ่ำใจ แนะนำพุ่งตัวมาเล่นเครื่องเล่นนี้ได้เลย โดย Yoshi’s Adventure เป็นเครื่องเล่นรถไฟคาแรกเตอร์โยชิ มังกรสีเขียวในเกมมาริโอ้ หนึ่งในพันธมิตรของมาริโอ้ที่ร่วมกันจัดการศัตรูมาด้วยกันอย่างยาวนาน โดยเค้าจะให้เราขึ้นไปนั่งอยู่บนรถไฟ จากนั้นก็ออกเดินทางไปกับโยชิเพื่อตามหาแผนที่ของกัปตันโท้ด (Captain Toad) เพื่อที่จะได้ใช้แผนที่นั้นนำทางเราไปตามล่าขุมสมบัติกันอีกที
ส่วนตัวก๊อตคิดว่า Yoshi’s Adventure ไม่มีอะไรมากเราก็แค่ขึ้นมานั่งบนรถไฟแล้วทำตัวชิลๆ ชมวิวของอาณาจักรเห็ด (Mushroom Kingdom) บนภูเขาบีนโพล (Mount Beanpole) แต่ความกิ๊บเก๋ของเครื่องเล่นนี้คือ ในบางช่วงที่เรานั่งผ่านกันนั้น สองข้างทางเค้าจะเป็นวิวที่คนด้านนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นได้ คือใครอยากเห็นของตกแต่งปุ๊กปิ๊ก มีคาแรกเตอร์ตัวละครต่างๆ พร้อมเหล่าพร๊อพกันแบบโคตรใกล้ ทั้งเหรียญสีทองที่มองใกล้ๆ แล้วดีเทลเป๊ะสุด ต้นปิรันย่าที่อ้าปากพะงาบๆ เตรียมจะงับหัวเราทุกครั้งที่เคลื่อนตัวผ่าน ชั้นของภูเขาบีนโพลที่มองไกลๆ เข้ามาว่าสวยแล้ว พอเห็นของจริงใกล้ๆ นี่โคตรจะน่ารักและสมจริง หรือพวกสวนภายในและหมู่มวลดอกไม้ต่างๆ ที่มองไปมุมไหนก็สวยคิวท์ไปหมด ถือเป็นวิวที่ให้ความรู้สึกสเปเชี่ยลมากเพราะเราจะต้องนั่งเจ้ารถไฟโยชินี้เท่านั้นถึงจะได้เห็นนา
โซน Jurassic Park
สาวกหนัง Jurassic Park ทั้งหลายมาเที่ยว Universal Studios Japan (USJ) จะพลาดโซน Jurassic Park ไม่ได้ เพราะโซนนี้เค้าได้จำลองเอาฉากและไดโนเสาร์จากภาพยนตร์ Jurassic Park มาตั้งเอาไว้ให้เราได้สัมผัสบรรยากาศของโลกดึกดำบรรพ์ท่ามกลางผืนป่าและเหล่าไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ที่จะเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดกันตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา เสมือนว่าเราได้หลุดเข้าไปยังเกาะ Isla Nublar เกาะในหนังที่เป็นที่ตั้งของ Jurassic Park กันจริงๆ โดยเครื่องเล่นส่วนใหญ่ในโซน Jurassic Park เค้าอิงมาจากหนังทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นไฮไลท์อันโด่งดังอย่าง “The Flying Dinosaur” รถไฟเหาะไดโนเสาร์ที่จับเราหน้าคว่ำไปบนอากาศด้วยความเร็วสูงปรี๊ด ที่ก๊อตบอกเลยว่าอันนี้ของจริงหวาดเสียวม๊ากกก และใครมาเที่ยวที่ USJ ต้องมาเล่นให้ได้ เพราะถือเป็นรถไฟเหาะอันดับหนึ่งของที่นี่เลยล่ะ
The Flying Dinosaur
The Flying Dinosaur รถไฟเหาะสุดพีคที่ก๊อตยกให้เป็นรถไฟเหาะที่หวาดเสียวและสนุกมากที่สุดของ USJ เลย โดยใครที่เพิ่งมาเล่นเครื่องเล่นนี้ครั้งแรกอาจจะมองผิวเผินว่าน้องเค้าคงไม่ได้เร็วจนน่ากลัว ด้วยภาพของหัวขบวนที่มีไดโนเสาร์ประดับเอาไว้ ฟีลเหมือนเราได้ขึ้นขี่หลังไดโนเสาร์แล้วท่องไปในโลกของ Jurassic Park จังหวะแรกที่ขึ้นมานั่งยังไม่เท่าไหร่ หากแต่แป๊บเดียวเท่านั้น เครื่องเล่นที่เคยได้นั่งตัวตรงเค้าก็พลิกตัวเรานอนคว่ำแบบตัวลอยแล้วลากขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ 46 เมตรจากพื้น ก่อนจะปล่อยเราบินไปยังโลกกว้าง ซึ่งนี่บอกเลยว่าโคตรเสียวว 555
The Flying Dinosaur นั้นถูกลากพุ่งด้วยความเร็วสูงกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงกันเลยทีเดียว วินาทีนั้นนี่ทำไรไม่ได้เลย นอกจากแหกปากกรี๊ดกระจายความหวาดเสียว ยิ่งจังหวะไต่ขึ้นไปสูงๆ แล้วทิ้งดิ่งลงสู่พสุธา พร้อมๆ กับหมุนตีลังกาแบบ 360 องศา นาทีนั้นใครที่ใจสู้ก็อย่าลืมมองดูวิวเพลินๆ รอบทิศทางได้เลย เพราะด้านบอกเราสามารถมองเห็นสวนสนุก USJ ได้แบบเต็มตา บอกเลยว่า The Flying Dinosaur คือโคตรสนุกและหวาดเสียวที่สุดแล้ว ใครที่เป็นสายรถไฟเหาะคือห้ามพลาดเด็ดขาดเด้อ
โซนนิวยอร์ก (New York)
โซนนิวยอร์ก (New York) ใครที่อยากมาดื่มด่ำไปกับไวบ์ของนิวยอร์ก มหานครแห่งแฟชั่นและความบันเทิง ให้พุ่งตรงมาโซนนี้ได้เลย ภายในเค้าจำลองเอาบรรยากาศของถนนในนิวยอร์กช่วงทศวรรษ 1930 อย่างฟิฟท์ อเวนิว (5th Avenue) ถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของโลก และ ถนนดีแลนซีย์ (Delancey Street) หนึ่งในเส้นทางสัญจรหลักของย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ (Lower East Side) มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เกิดเป็นไวบ์ที่เหมือนเราได้หลุดเข้าไปเดินอยู่เล่นอยู่ที่นิวยอร์กกันจริงๆ ทั้งตัวอาคารที่ถอดแบบมาจากนิวยอร์กในยุคนั้นเป๊ะ ตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความบันเทิงและความคลาสซี่อยู่เต็มไปหมด โดยโซนนี้เค้ามีเครื่องเล่นไฮไลท์ที่ต้องมาเล่นเลยคือ The Amazing Adventures of Spider-Man เครื่องเล่นที่เราจะได้ท่องโลกของสไปร์เดอร์แมนในรูปแบบคมชัดระดับ 4K ใครที่เป็นแฟนๆ ของปีเตอร์ แกรต้องมาตามเก็บนา
The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D (❌ เครื่องเล่นปิดถาวรแล้ว)
สำหรับ The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D นั้น หากใครที่เคยไปเที่ยว Universal Studios Singapore (USS) ที่สิงคโปร์แล้วนั้น นี่จะบอกว่าเครื่องเล่นสไปเดอร์แมนนี้คือเหมือนกับทรานฟอเมอร์เปี๊ยบ โดยเปลี่ยนตัวสตอรี่และตัวหนังเป็น Spider-Man แทน ถ้าถามถึงเรื่องความสนุกและความมันส์ว่าอยู่ในเลเวลไหน หากคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนทั้ง Spider-Man และ Transformers บอกเลยว่าสนุกและน่าตื่นเต้นมาก แต่ถ้าคนที่เคยเล่น Transformers ที่สิงคโปร์มาแล้ว ความตื่นเต้นอาจจะน้อยลงเพราะแพทเทิร์นเครื่องคือเดาได้เลย 55555
สำหรับเครื่องเล่น The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D นี้อิงมาจากสไปเดอร์แมนของมาร์เวลคอมิกส์ โดยเค้าจะให้เราขึ้นไปนั่งอยู่บนยานที่เรียกว่า “สกู๊ป” แล้วให้รับบทเป็นผู้สื่อข่าวท่านหนึ่งจากหนังสือพิมพ์ Daily Bugle สำนักข่าวที่ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ทำงานอยู่ โดยวันดีคืนดีก็มีแหล่งข่าวส่งข้อมูลมาให้ว่าเหล่าตัวร้ายอย่างกลุ่ม Sinister Syndicate ที่ประกอบไปด้วย Doctor Octopus, Scream, Electro, Hydro-Man และ Hobgoblin ได้ทำการยึดเทพีเสรีภาพไปแล้วด้วยปืนต่อต้านแรงโน้มถ่วง ทีนี้เราก็ต้องออกเดินทางไปบนยานร่วมกับสไปร์เดอร์แมนเพื่อปราบวายร้ายกลุ่มนี้ และทวงคืนเทพีเสรีภาพกลับคืนมา
โดยความระทึกขวัญมันอยู่ที่เครื่องเล่นที่เรานั่งอยู่นี้มันหลอกตาเราด้วยเอฟเฟ็คจอโปรเจคเตอร์ 4K3D ที่พอเจอฉากโดนจู่โจม ยานที่ก๊อตนั่งอยู่เค้าจะสั่นไปมาจนเหมือนเรากำลังจะตกจากยานจริงๆ ยิ่งจังหวะที่ยานตกลงจากบนตึกด้วยนะ อันนี้หวาดเสียวและสมจริงมาก แม้ว่าก๊อตพอรู้ว่าเครื่องเล่นเค้าไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนมาก แต่ด้วยภาพและฉากที่สมจริงรายล้อมตัว มันเลยให้ความรู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา จนนี่ยกให้ The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D เป็นอีกเครื่องเล่นหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลย
ทิ้งท้ายสักนิดใครที่แพลนมาเล่นเครื่องเล่น The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D ต้องรีบมาแล้วนา เพราะเครื่องเล่นนี้เค้าจะปิดตัววันที่ 22 มกราคม 2024 ซึ่งวันที่ 23 มกราคม วันถัดไปนั้น จะเป็นวันครบรอบ 20 ปีของเครื่องเล่นนี้พอดี ดังนั้นรีบมาเล่นก่อนที่เค้าจะปิดกันเน้อ
ทั้งนี้ ทาง Universal Studios Japan (USJ) ยังไม่มีประกาศทางการใดๆ ออกมากว่าจะมีเครื่องเล่นคาแร็คเตอร์ไหนมาแทนที่ The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D แต่เค้ามีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่าอาจจะเป็นโซนโปเกมอน เนื่องจาก USJ พึ่งทำพาร์ทเนอร์ชิพกันกับ The Pokémon Company เมื่อปีปลายปี 2021 ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่าช่วงหลังมานี้ USJ เค้าเอาโปเกมอนมาเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักของสวนสนุกเลย ซึ่งข่าวจะเป็นจริงมั้ยนั้น ต้องติดตามกันต่อไปนาจา
พาเหรด NO LIMIT! Parade
สำหรับใครที่อยากมาชมตัวละครจากยูนิเวอร์แซลกันแบบครบทีม รวมถึงเหล่าโปเกมอนและมาริโอ ที่สวนสนุก USJ เค้ามี พาเหรด NO LIMIT! Parade ที่รวมเหล่าตัวละครของยูนิเวอร์แซลทั้งหมดออกมาเดินร้องเล่นเต้นรำกันอยู่ในขบวนพาเหรดที่จะเคลื่อนตัวไปรอบๆ โซนนิวยอร์ก (New York) เป็นระยะเวลาประมาณ 50 นาที/วัน ซึ่งใครที่ชอบดูโชว์พาเหรดก๊อตไม่อยากให้พลาด เพราะเราจะได้เห็นเหล่าตัวการ์ตูน และคาแรกเตอร์ต่างๆ มากมาย ตบเท้าเรียงรายออกมาโชว์สเต็ปให้ได้ดูกันอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล่า Pokemon ที่ยกทัพกันมาทั้ง ปิกาจูและคู่หูอย่างซาโตชิ หรือจะเป็นโปเกม่อนเปลวเพลิงอย่าง ลิซาร์ดอนตัวใหญ่ที่กลางปีกแห่งเพลิงเตรียมพร้อมจะพ่นไฟ รวมถึงยังมีโปเกม่อนตัวอื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งพาเหรดที่มีโปเกมอนนั้น มีแค่ที่ Universal Studios Japan (USJ) ที่เดียวในโลกเท่านั่นนะเอ้ออ
นอกจากนี้ยังมีขบวนของ Super Mario ที่ยกกันมาทั้งรถโกคาร์ต และผองเพื่อน รวมไปถึงเหล่าแก๊งมินเนี่ยนจอมซนสีเหลืองปุ๊กปิ๊กมาเต้นดุ๊กดิ๊กเรียกรอยยิ้มคนดู ยังไม่หมดเท่านั้น พาเหรด NO LIMIT! Parade ยังมีขบวนของเหล่าตัวละครในอนิเมชั่นเรื่อง SING พร้อมด้วย Elmo จาก Sesame Street, Snoopy, Hello Kitty และตัวละครอื่นๆ ที่ปรากฏตัวท่ามกลางขบวนแห่หลากสีสันที่มองไปทางไหนก็สุดแสนจะคัลเลอร์ฟูล และตื่นตาตื่นใจไปหมดเลย



แต่ที่ก๊อตชอบสุดและเป็นความรู้ใหม่ คือขบวนพาเหรดของ Hello Kitty เว้ยแกร คนอื่นอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่นี่เพิ่งรู้ว่าเค้ามีน้องคิตตี้ผู้ชายด้วย คือน่ารักเว่ออออร์ ซึ่งทุกตัวที่ออกมานั้นเค้าก็จะเต้นสะบัด โบกมือให้คนดูกันทุกทิศทาง แถมยังร้องเพลงประสานเสียงว่า “NO LIMIT! Parade” ดังลั่นไปทั่วบริเวณที่ขบวนพาเหรดเคลื่อนที่ผ่านอีกด้วย ซึ่งมันดูเป็นเอเนอร์จี้ที่ชวนให้เราที่ยืนรอดูอยู่ริมทางรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก เป็นอีกช่วงเวลาที่เหมือนเราได้มาปลดปล่อยและเฮฮาปาจิงโก๊ะเต้นไปพร้อมกับตัวการ์ตูนที่นี่ว่าก็แฮปปี้เอาเรื่องเลย ใครที่อยากมายืนรอดูพาเหรดนั้น เค้าแสดงทุกวันเวลา 14:00 น. เป็นต้นไป ตรงโซนนิวยอร์กนะ
โซน Minion Park
Minion Park ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโซนที่คนรักมินเนี่ยนต้องมา เพราะพื้นที่นี้คือโลกของเหล่ามินเนี่ยน ตัวการ์ตูนสีเหลืองจากอนิเมชั่นชื่อดัง Minions ที่เป็นตัวตั้งตัวตีก่อนจะตามมาด้วยหนังมิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (Despicable Me) ที่ออกฉายกันอยู่หลายภาคและครองใจแฟนๆ กันมาแล้วทั่วโลก โดยความพิเศษของโซนนี้คือเค้าเป็นหนึ่งในดินแดนมินเนี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใครที่จำภาพของชุมชนย่านชานเมืองแสนสงบสุข ที่รายล้อมด้วยบ้านเรือนของผู้คนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ และคิดถึงบ้านของกรู พร้อมเหล่าลูกเลี้ยงทั้ง 3 อย่าง มาร์โก, แอ็กเนส และ เอดิธนั้น โซน Minion Park จะพาเรามาเยือนไวบ์บรรยากาศเหล่านี้เอง
บรรยากาศภายในโซน Minion Park เค้าได้จำลองชุมชนที่กรูและเหล่ามินเนี่ยนอาศัยอยู่ พร้อมทั้งเซตบ้านทั้งหลังมาตั้งเอาไว้ ท่ามกลางบ้านเรือนของเพื่อนบ้านที่ตั้งเรียงรายขนาบข้างซ้ายและขวา โดยความน่ารักของโซนนี้คือ บ้านเรือน และอาคารแต่ละหลังที่เราเดินผ่านเข้ามานั้น บริเวณตามจุดต่างๆ ทั้งหลังคา ระเบียง หน้าต่าง ไปจนถึงประตู ล้วนแต่มีเจ้ามินเนี่ยนคาแรกเตอร์ต่างๆ มาแอบเกาะอาศัยหลบมุมอยู่ ทีนี้เวลาเดินเข้ามาภายในโซนนี้ เค้าเลยให้ฟีลเหมือนเราได้เล่นซ่อนแอบและตามหามินเนี่ยนตัวป่วนไปพร้อมๆ กันเลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ




นอกจากนี้ภายในโซนเค้ามีเครื่องเล่นฮิตอย่าง Despicable Me Minion Mayhem เครื่องเล่นที่จะพาเราเข้าไปในบ้านของกรูเพื่อเปลี่ยนให้ตัวเรากลายเป็นมินเนี่ยนอยู่ด้วยนา หรือถ้าใครที่อยากเล่นกิจกรรมน่ารักๆ เค้าก็มีซุ้มเกมเล็กๆ อย่าง Banana Cabana ที่จะให้เรามาโยนกล้วยเข้าถังของมินเนี่ยนเพื่อชิงรางวัลอีกเพียบ แต่ที่ก๊อตอยากแนะนำให้เราลองเดินเข้าไปสำรวจเลยก็คือ ธนาคารปีศาจ (Bank of Evil) ที่มาเป็นตู้ ATM ที่เราสามารถกดได้จริงๆ ซึ่งเจ้าธนาคารนี้เค้ามาในคอนเซ็ปต์ที่ว่านี้ เราสามารถกดถอนเงินจากบัญชีของคนอื่นได้นั่นเอง ส่วนจะกดยังไงนั้น ก๊อตอยากให้มาลองเล่นด้วยตัวเอง ไม่อยากจะสปอยมาก ฮ่าา
สุดท้ายนี้ สาวกมินเนี่ยนที่อยากซื้อคอลเลกชันต่างๆ ของมินเนี่ยนติดไม้ติดมือกลับบ้าน ภายในโซนเค้ายังมีร้านรวงที่ขายของมินเนี่ยนให้ได้มาละลายทรัพย์กันอีกด้วย นอกจากนี้เค้ายังมีขนมหน้าตาน่ารักหลายอันให้เราได้ถ่ายรูปคิวท์ๆ อีกด้วย นี่ถือเป็นอีกโซนที่น่ารักฟรุ้งฟริ้งที่เด็กๆ และสาวๆ หลายคนน่าจะชอบเลยแหละ 555


Freeze Ray Sliders
มาอุ่นเครื่องกันก่อนกับเครื่องเล่นแรกอย่าง Freeze Ray Sliders ในโซน Minion Park ที่ใครพาเด็กๆ มาเที่ยวด้วยไม่ควรพลาด โดย Freeze Ray Sliders เค้าเป็นเครื่องเล่นฟีลรถบั้มบ้านเราที่เหมาะกับน้องๆ หนูๆ ด้วยรูปแบบการเล่นที่แสนง่าย เพียงแค่กระโดดขึ้นไปนั่งบนเครื่องเล่นที่จะพาเราเคลื่อนตัวไปบนลานน้ำพุใจกลางสวนเขียวๆ แต่เพียงพริบตาเดียวความโกลาหลก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำพุที่เคยไหลอย่างปกติสุขเกิดทะลักเอ่อล้นออกมาสู่พื้นด้านล่าง แถมยังเป็นน้ำร้อนเดือดปุดๆ อีกด้วย
ทีนี้เราเลยต้องพาตัวเองเข้าไปเป็นผู้ช่วยกอบกู้สถานการณ์ร่วมไปกับเหล่ามินเนี่ยนในการหยุดน้ำพุเดือดๆ นี้ ด้วยการใช้เครื่องยิงรังสีเยือกแข็งของกรูเข้ามาฉีดไปที่น้ำพุ จนทำให้สายน้ำกลายเป็นธารน้ำแข็ง แะเกิดเป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่รถของเรากำลังเคลื่อนที่ผ่านกันอยู่นั่นเอง ซึ่ง Freeze Ray Sliders เป็นเครื่องเล่นน่ารักๆ ที่เด็กๆ เค้าน่าจะชอบกัน การันตีได้จากเสียงเจื้อยแจ้วเอิ้กอ๊ากกันเต็มไปหมดเลย
Despicable Me Minion Mayhem
เล่นเครื่องเล่นเด็กเล็กกันไปแล้ว มาถึงคราวของเด็กโตหรือผู้ใหญ่แบบเรากับเครื่องเล่น Despicable Me Minion Mayhem ที่เค้าอิงมาจาก “Despicable Me (2010)” โดยเราจะได้ขึ้นไปบนยานพาหนะแล้วนั่งเข้าไปภายในโดมขนาดใหญ่ยักษ์ที่ทำหน้าที่เป็นจอภาพ 3D ให้เราได้เข้าไปในโลกของมินเนี่ยนแบบสมจริง ซึ่งการผจญภัยของการเล่นเครื่องเล่นนี้คือการที่เราอยู่บนยานเพื่อเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นมินเนี่ยนนั่นเอ๊งง
โดยเนื้อเรื่องนั้นเราจะได้นั่งย่านพุ่งทะยานโลดแล่นไปในห้องทดลองพร้อมกับฝูงมินเนี่ยนนับล้าน พร้อมยังมีลูกสาวตัวป่วนทั้ง 3 ของกรู ระหว่างทางก็มีอุปสรรคตุ้บตั๊บโฉบหน้าเรา หรือแม้แต่โยกเยกเด้งดึ๋งและไหลไปบนสายพานเครื่องจักรโดยมีพนักงานคือเหล่ามินเนี่ยนมาคอย QC กระบวนการเปลี่ยนร่างเพื่อให้ตัวเรากลายเป็นมินเนี่ยนที่สมบูรณ์แบบที่สุด ใครที่เคยเล่นเกม Minion Rush บนมือถือมา บอกเลยว่าฉากนั้นคือคล้ายกันเว่อร์ ฟีลเหมือนเราวิ่งอยู่ในเกมนั้นจริงๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งหมดเกิดจากภาพที่ฉายจากโดมยักษ์และการสั่นกระแด่วๆ ไปมาของเครื่องเล่นที่เรานั่งอยู่เท่านั้นเอ๊ง ถือว่าเริ่ดและน่าประทับใจอยู่แหละ
Despicable Me Minion Mayhem เลยเป็นอีกเครื่องเล่นแนว 3 มิติ ที่ก๊อตว่าภายในเค้าฉายภาพ คาแรกเตอร์ต่างๆ ในมินเนี่ยน รวมถึงเหล่าฉากได้สมจริงเอาเรื่องอยู่ มีฟีลคล้ายเครื่องเล่น The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D ที่เราเล่นกันไปก่อนหน้านี้ แต่ฉบับของมินเนี่ยนนั้นเป็นแบบฉบับอัพเกรดที่ภาพบนโดมยักษ์มันใหญ่เกินขอบตาเราจนเหมือนได้ไปอยู่ในโลกของมินเนี่ยนจริงๆ สรุปแล้วคือแนะนำและอยากให้มาลองเล่นกัน ยิ่งใครที่เคยดูหนังเค้าหรือเคยเล่นเกมมินเนี่ยนมาแล้วบ้าง บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
โซน The Wizarding World of Harry Potter™
และแล้วเราก็มาถึงกับโซนไฮไลท์อีกหนึ่งโซนอย่าง The Wizarding World of Harry Potter™ ที่ฮอตฮิตของคนที่มาเที่ยวสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) มาแทบทุกยุคทุกสมัย ใครที่อยากเข้ามาสัมผัสบรรยากาศแห่งความมหัศจรรย์ของโลกเวทมนตร์จากหนังดังอย่างแฮรี่ พอตเตอร์ ก๊อตบอกเลยว่าเข้ามาในโซน The Wizarding World of Harry Potter™ รับรองว่าไม่มีผิดหวังเพราะเราจะได้โลดแล่นไปกับโลกของแฮรี่ ทั้งหมู่บ้านฮอกส์มีด (Hogsmeade Village) รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ (The Hogwarts Express) และปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) ที่มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
เมื่อเราเดินเข้ามาในโซนแฮร์รี่ นี่บอกเลยว่าเหมือนเราหลุดเข้ามาในฮอกวอตส์จริงๆ ตั้งแต่ป่าสนตรงทางเข้าที่มีรถเหาะสีฟ้าสุดคลาสิก (Ford Anglia) ประจำตระกูลวีสลีย์ (Weasley) ที่ตกอยู่ในป่าต้องห้าม ที่เซตออกมาสมจริงสุดๆ แถมยังถ่ายรูปออกมาได้น่ารักเว่อร์ ก่อนที่เราจะผ่านประตูเข้ามาแล้วเจอกับรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ (The Hogwarts Express) ขนาดใหญ่ที่จอดอยู่สถานีรถไฟใจกลางหมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade Village) ใกล้ๆ กับปราสาทฮอกวอตส์ที่เราสามารถเดินไปได้ไม่ไกลนักนั่นเอ๊ง
สำหรับใครที่อยากเล่นอะไรสนุกๆ ก๊อตแนะนำให้เดินเข้าร้านค้าแล้วหาซื้อไม้กายสิทธิ์กันก่อนได้เลย เพราะไม้วิเศษนี้เราสามารถเอามาเล่นร่ายมนต์วาดคาถาไปบนอากาศในจุดต่างๆ ภายในโซนนี้ได้ด้วยนา อย่างมุมข้างๆ สถานีรถไฟเค้าจะมีกระเป๋าเดินทางวางเรียงรายอยู่ ทีนี้ใครที่มีไม้กายสิทธิ์ก็เอามาท่องคาถาแล้วชี้ไม้กายสิทธิ์เข้าใส่ กระเป๋าตรงนี้มันจะเปิดขึ้นมาเองราวกับเรามีเวทมนตร์จริงๆ เลย โดยไม้กายสิทธิ์นี้จะมีให้เราหาซื้อได้ทุกตัวละคร ซึ่งไม้ของทุกตัวละครก็จะมีแบ่งแยกย่อยออกไปอีก ทั้งอันที่มีลูกเล่นที่เราสามารถร่ายมนตร์กับเครื่องเล่นภายในโซนนี้ได้ กับไม้ธรรมดาที่ซื้อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกนั่นเอง



สำหรับคนที่อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องของแฮร์รี่ พอตเตอร์มากนัก อย่างหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่เราเดินกันอยู่ในโซนนี้ จริงๆ แล้วในเรื่องเค้าคือ “หมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade)” หมู่บ้านแห่งเดียวในอังกฤษที่มีพ่อมดแม่มดอาศัยอยู่และยังปราศจากมักเกิ้ล (หรือมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีสกิลเวทมนตร์) โดยบรรยากาศเค้าก็ทำออกมาได้โคตรดี เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในโลกที่เราเคยดูมาในหนังจริงๆ เลยแหละ ทั้งอาคารบ้านเรือนและร้านค้าที่บนหลังคามีหิมะปกคลุมที่ชวนให้รู้สึกหนาวสั่นทั้งปี บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาแล้วสวยและเริ่ดจริง ส่วนใครที่อยากกินบัตเตอร์เบียร์นั้นก็สามารถหาซื้อได้จากตรงนี้เลย แต่บอกก่อนว่าคิวต่อแถวซื้อคือยาวเกิ้นนน นี่สู้คิวไม่ไหวเลยขอผ่านแล้วกัน 555555




แน่นอนว่าจุดที่ห้ามพลาดของโซน The Wizarding World of Harry Potter™ จะเป็นมุมไหนไปไม่ได้เลยนอกจากปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) หลังโตแบบย่อส่วน ที่ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์มากที่สุด ไม่ว่าจะทั้งถ่ายรูปและยังมีเครื่องเล่นหลักอย่าง Harry Potter and the Forbidden Journey™ อยู่ด้านในที่มาพร้อมกับห้องทำงานของดับเบิลดอร์ รวมไปถึงห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด (Defense Against the Dark Arts) อีกด้วยนั่นเอง
โซน The Wizarding World of Harry Potter™ จึงเรียกได้ว่าเป็นโซนของเหล่าพ่อมดแม่มดที่ใครเลิฟหนังเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ต้องมาเยือน ถ่ายรูปกันสนุกจนลืมเวลาเลยทีเดียวว
Flight of the Hippogriff™
Flight of the Hippogriff™ ถือเป็นรถไฟเหาะแบบซอฟท์ๆ ที่เราจะได้โลดแล่นไปในอากาศกับฮิปโปกริฟฟ์ สัตว์พิเศษในหนังแฮรี่ พอตเตอร์ ที่มีหัวเป็นนกอินทรียักษ์และลำตัวเป็นม้า โฉบเฉี่ยวไปมาท่ามกลางป่าต้องห้าม และกระท่อมของแฮกริด โดย Flight of the Hippogriff™ ส่วนตัวก๊อตคิดว่าเค้าเป็นรถไฟเหาะที่เด็กน่าจะชื่นชอบแน่นอน แต่ผู้ใหญ่อย่างเราที่เลิฟความตื่นเต้นระทึกใจอาจจะยังเฉยๆ ก็ได้ เพราะจังหวะบินว่อนไปมาของเค้านั้นมันไม่ได้เร็วมาก เหมือนพาเรานั่งโต้ลมชมวิวโซน The Wizarding World of Harry Potter™ ที่อยู่รายล้อมมากกว่า
ส่วนตัวก๊อตคิดว่าด้วยความเร็วระดับนี้ เครื่องเล่น Flight of the Hippogriff™ จึงเหมาะสำหรับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ นี่ว่าเด็กๆ มาเล่นแล้วจะรู้สึกหวาดเสียวตื่นเต้น แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่คงฟีลนั่งชิลๆ โต้ลมวนไปวนมา คือมันสนุกแบบเพลินๆ ดีเลยแหละ แต่น่าเสียดายตรงที่รางรถไฟเหาะเค้ามันสั้นเกิ้น นี่ขึ้นไปยังไม่ทันไรแป๊บเดียวเล่นเสร็จได้ลงมาแล้ว ใครที่รีบๆ จะข้ามก็ได้ 55555
Harry Potter and the Forbidden Journey™
ถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทฮอกวอตส์ (Hogwarts Castle) จนเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินเข้าไปเล่นเครื่องเล่นไฮไลท์ที่สุดของโซนอย่าง Harry Potter and the Forbidden Journey™ ที่อยู่ภายในปราสาทกันด้วยนะ ซึ่งเครื่องเล่นนี้ถือว่าเป็นอีกเครื่องเล่นป็อปตัวท็อปของ USJ ที่ต่อแถวกันยาวมาก ด้วยคิวยาวเบอร์นี้ แต่ระหว่างทางรอไม่มีเบื่อเลย เพราะเราจะค่อยๆ ได้เดินผ่านโถงกลางของปราสาทเข้าไปเรื่อยๆ ซึ่งเราจะได้เจอกับพร๊อพมากมาย ทั้งกรอบรูปที่ตัวคนขยับได้ของเหล่าบุคคลสำคัญในฮอกวอตส์ที่ติดประดับประดาไปตามบันไดวน ฉากในหนังที่หยิบยกมาโชว์ผ่านจอให้ได้ตามทางเดิน หรือจะเป็นหมวกคัดสรรตัวจริงที่ขยับยุกยิกส่งเสียงทักทายไปอี้ก รวมไปถึงห้องทำงานขนาดใหญ่ของดับเบิลดอร์ที่เรายังได้ยืนส่องบรรยากาศภายในกันแบบแตกแตนมาก ทั้งหมดนี้คือมีให้ดูระหว่างทางเดินที่เราต้องรอคิวเข้าเล่นนา


สำหรับ Harry Potter and the Forbidden Journey™ เค้าคือเครื่องเล่นที่ให้เราขึ้นไปนั่งบนยาน จากนั้นก็พาเราท่องไปในโลกแห่งเวทมนตร์ของฮอกวอตส์ที่สมจริงสุดๆ ด้วยเอฟเฟกต์แบบอัปเกรดสุดล้ำที่เราไม่ต้องใส่แว่นตา 3 มิติเลย ซึ่งการผจญภัยของเรานั้นจะเริ่มต้นด้วยการติดตามเฮอร์ไมโอนีเข้าไปยังหอดูดาวภายในฮอกวอตส์ ซึ่งเครื่องเล่นเค้าก็โฉบไปมาราวกับว่าก๊อตกำลังอยู่นั่งอยู่บนไม้กวาดวิเศษจริงๆ เลย แม้ของจริงจะเป็นเหมือนยานที่นั่งปกติเลยก็เถอะนะ 5555
บินไปแป๊บนึงเราก็โผล่มาจ๊ะเอ๋กับแฮรี่และรอนที่นั่งอยู่บนไม้กวาดบินลอยนำทางเราเข้าไปสู่บรรยากาศการแข่งขันควิดดิช ก่อนที่ฉากรอบตัวจะเปลี่ยนมาเจอกับมังกรของแฮกริดที่บินพ่นไฟไล่ล่าเรากันสุดฤทธิ์ แล้วก็เปลี่ยนพรึ่บพรั่บไปเจอกับเหล่าผู้คุมวิญญาณ ที่นอกจากจะตัวใหญ่ไม่พอ ยังมาบินว่อนโฉบหัวเราไปแบบเฉียดฉิวโคตรสมจริงจนนี่ยังกลัว
ก๊อตบอกเลยว่า Harry Potter and the Forbidden Journey™ เป็นอีกเครื่องเล่นที่แนะนำว่าต้องมาเล่น มันเป็นเครื่องเล่นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ ใครอยากเข้าไปผจญภัยในโลกเวทย์มนต์ของแฮรี่และผองเพื่อน ที่ครบรสทั้งทั้งความตื่นเต้น ความระทึกและสนุก ให้พุ่งตัวมารอเล่นเครื่องเล่นนี้ได้เลย
โซน Hollywood
โซน Hollywood อีกหนึ่งโซนยอดฮิตของสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) ที่ภายในจำลองถนนหนทางอันพลุกพล่านของฮอลลีวู้ดในลอสแอนเจลิส ที่เซตสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงเหล่าร้านค้าในยุค 1930 มาตั้งเรียงรายให้เราได้ฟินไปกับไวบ์แสง สี เสียง ของฮอลลีวู้ด ซึ่งในโซน Hollywood เครื่องเล่นที่ก๊อตแนะนำว่าต้องมาเล่นเลยในโซนนี้คือ Hollywood Dream – The Ride รถไฟเหาะโลกสวยที่เป็นอย่างไรนั้นก๊อตจะพาไปรีวิวจัดเต็มกันในตอนเล่นอีกที ส่วนใครที่อยากช้อปสินค้ากลับบ้านเพิ่มสักนิดในโซนนี้ก็มีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกอยู่เพียบ เป็นอีกโซนที่ก๊อตว่าเข้ามาแล้วได้เสียเงินกันอย่างแน่นอน
Hollywood Dream The Ride
Hollywood Dream The Ride เป็นเครื่องเล่นตัวแรกที่ก๊อตวิ่งแจ้นเข้ามาเล่นในโซน Hollywood เลย โดยเค้าเป็นรถไฟเหาะโลกสวยไม่เกินจริง เพราะรถไฟเหาะนั้นถูกออกแบบโดย Bolliger & Mabillard ให้มีระบบเสียงและไฟในตัว ฟีลรถไฟเหาะไป ฟังเพลงไปกับแสงอันวิบวับ 5555555 ซึ่งพอเราขึ้นไปอยู่บนนั้นแล้วสามารถกดเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้ อันนี้บอกก่อนว่าเลือกกันตามที่ชอบเลยนะ เพราะเพลงเค้าจะดังกรอกหูสองข้างของเราไปจนเราเล่นจบเลยเด้อ
รูปแบบการเล่นรถไฟเหาะ Hollywood Dream The Ride ไม่ซับซ้อนอะไร โดยรถไฟเหาะจะพาเราเคลื่อนตัวออกจากรางไต่ทะยานขึ้นไปสู่ความสูง 44 เมตร และจังหวะที่รถไฟเตรียมทะยานดิ่งลงสู่รางด้านล่าง เพลงที่เราเลือกไว้ในตอนต้นก็จะดังประสานเสียงไปกับสายลมที่พัดตีเข้าหน้าจนวินาทีนั้นแยกเสียงลมกับเสียงเพลงไม่ออกกันเลยทีเดียว 55555 แต่ความดีงามคือ เราสามารถมองออกไปเห็นวิวของโซน Hollywood จากบนรางได้แบบเต็มสายตา และยิ่งใครที่ขึ้นมาเล่นบนนี้ช่วงพลบค่ำนะ ความน่ารักของ Hollywood Dream The Ride คือเค้าจะมีแสงไฟระยิบระยับออกมาจากตัวเครื่องเล่น ที่แพรวพราวเหมือนประกายของดาวหางจนก๊อตต้องขนานนามให้เค้าเป็นรถไฟเหาะโลกสวยนั่นเอง เพราะความหวาดเสียวถูกกลบด้วยความเพลินของการฟังเพลงนั่นเอง ถือว่าดีมากนะ นี่ชอบมาก 55555
ทั้งนี้ รถไฟเหาะ Hollywood Dream The Ride นั้นมันจะมีสองรูปแบบนะ คือนั่งหันหน้าปกติกับแบบนั่งหันหลังแล้วรถไฟมันก็วิ่งถอยหลังรีเวิร์สด้วย ทีนี้น่ะ ไอ้แบบถอยหลังคือมีอยู่คันเดียว ซึ่งการที่เราจะขึ้นรถไฟเหาะแบบไหนนั้น อยู่ที่ดวงจากการสุ่มเลย ตัวก๊อตเองนั้นนั่งแบบปกติแต่ใจนี่อยากนั่งแบบถอยหลังมาก แต่จะให้ต่อแถวสุ่มใหม่ก็ไม่ไหว เพราะคิวยาวเกิ๊น โอยย 555555
สรุปโดยรวมแล้ว มันคือรถไฟเหาะที่มีความเสียวในระดับ 7/10 เนื่องจากความหวาดเสียวจะมีมาเป็นระยะๆ แต่ความยาวของรางนั้นก็ยาวจนเราสัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นได้เยอะเอาเรื่อง โดยรวมคือชอบเลยแหละ เป็นรถไฟเหาะที่ดูน่ารักมุ้งมิ้งเหมาะกับเราจริงๆ อิอิ
โซน Amity Village
โซนสุดท้ายที่ก๊อตจะพาไปเล่นกันกับ Amity Village โซนที่เค้าจำลองหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ริมทะเล ที่ทำเป็นสถานที่เที่ยวให้เหล่านักสำรวจท้องทะเลได้เข้ามาล่องเรือชมวิวหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยผืนน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งบรรยากาศทั้งหมดนั้นอิงมาจากภาพยนตร์เรื่อง Jaws กับเรื่องราวของฉลามขาวตัวใหญ่ที่ชื่อเดียวกับหนัง ที่โผล่ขึ้นมากินคนแถวๆ หาดอมิตี้จนมีผู้เสียชีวิตอยู่เยอะมาก แต่บางคนในหมู่บ้านเค้าก็ยังไม่เชื่อกันว่าจะเป็นฝีมือของฉลาม ทีนี้ก็เกิดเป็นทัวร์ล่องเรือเล็กๆ ออกไปค้นหาความจริง เพราะคนยังเชื่อว่าพื้นเพของฉลามจะไม่มาอาละวาดในแถบนี้นั่นเอง โดยภายในโซน Amity Village เค้าได้จำลองบ้านเรือน ท่าเรือ และเศษซากต่างๆ ของเมืองที่เหมือนเราเข้าไปในหนังจริงๆ โดยเครื่องเล่นห้ามพลาดของโซนนี้เลยก็คือ JAWS ที่ปัจจุบันนี้ เครื่องเล่นนี้เหลืออยู่ที่สวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) ทีเดียวเท่านั้นนา
Jaws
Jaws เครื่องเล่นที่เปลี่ยนให้เราเป็นลูกทัวร์ที่กำลังจะล่องเรือออกไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ ของเกาะอมิตี้ (Amity Island) โดยระหว่างทางก็จะได้นั่งชิลๆ บนเรือที่ลอยลำไปบนผืนน้ำ ท่ามกลางวิวหมู่บ้านเล็กๆ อยู่เต็มสองข้างทาง พร้อมกับเสียงของไกด์ที่มาคอยบรรยายเล่าถึงประวัติพื้นที่ให้เราฟังกันแบบสบายๆ แต่นี่ไม่ต้องถามหาความหมายนา พี่ไกด์พ่นภาษาญี่ปุ่นสะบัด ฟังไม่ออกสักคำ 55555
จากนั้นเราก็ล่องเรือเข้ามาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงพีคเมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวใต้น้ำ แต่ไกด์ตะโกนร้องเรียกเท่าไหร่ก็เงียบกริบ จนเราต้องเอ๊ะว่ามันคือผีหรือเปล่า (เพราะฟังเดอะโกสมาเยอะ) แม้ว่าบรรยากาศจะชวนพิศวงขนาดไหน คุณพี่ไกด์เค้ายังทำงานได้ไม่มีบิดพลิ้ว พี่แกยังตั้งหน้าตั้งตาพูดไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเราก็เห็นตัวการอย่างเจ้าฉลาม Jaws ที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำใกล้ๆ เพื่อหวังโจมตีเรือของเรานั่นเอง คราวนี้ลูกเรือเอย ไกด์เอยเหมือนจะตื่นตัวขึ้นทันที เพราะต้องหลบหนีจาก Jaws ออกไปให้ได้ ซึ่งเรือก็ไม่ได้เร่งความเร็วหนีเท่านั้นนา แต่ยังโจมตีฉลามกลับด้วย
สำหรับฉากโจมตีกลับนี่ก๊อตชอบมาก เอฟเฟกต์ที่โคตรสมจริง อย่างฉากเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำบริเวณที่เจอฉลาม ก่อนจะโหมไหม้จนไอความร้อนกระทบผิว คือมันสมจริงเหมือนมีไฟไหมอยู่ตรงหน้าจริงๆ เลย ซึ่งในท้ายที่สุดเราก็สามารถจัดการเจ้า Jaws และเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย เอ้า ใครอยากสัมผัสบรรยากาศผจญภัยกับเจ้าฉลามร้ายลองมากระโดดลงเรือในเครื่องเล่น Jaws กันจ๊า
เทศกาลประจำปีกับ Halloween Horror Nights
ในทุกๆ ปีสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) ช่วงเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เค้าจะมีอีเวนท์พิเศษประจำปีที่ชื่อว่า Halloween Horror Nights ที่จะเป็นช่วงเวลาสยองขวัญสุดพิเศษเพราะเค้ายกเอาเครื่องเล่นในธีมฮาโลวีนมาให้ได้เล่น พร้อมทั้งพาเหรดของผีและซอมบี้ต่างๆ ที่จะออกมาเดินหลอนกันให้ทั่วปาร์ค และแม้ว่าชื่ออีเวนท์จะพ่วงคำว่าไนท์มาด้วย จนหลายคนอาจเข้าใจไปว่าต้องมาเล่นเฉพาะตอนกลางคืนเหมือนที่สิงคโปร์หรือเปล่า คำตอบคือไม่ต้องจ๊า เพราะพวกเครื่องเล่นธีมฮาโลวีนเค้าเปิดให้เราเล่นกันตั้งแต่ปาร์คเปิดไปจนถึงปาร์คปิดเลยนา ยกเว้นขบวนพาเหรดที่จะออกมาให้ได้ยลโฉมกันในช่วงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งเทศกาลนี้เราไม่ต้องซื้อบัตรแยกเหมือนที่สิงคโปร์ด้วย ซึ่งอันนี้คือโคตรดีและไวบ์ความหลอนและความสนุกคือเริ่ดสุดๆ ไปเลย


สำหรับเครื่องเล่นและกิจกรรมต่างๆ ในช่วง Halloween Horror Nights ของแต่ละปี เค้าก็จะมาในธีมที่ต่างกันออกไป แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปมาแล้วหลายปี เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะมาในธีมเดิมๆ รวมถึงขบวนพาเหรดโชว์ของเหล่าผี และซอมบี้ด้วย แต่ปีนี้ที่เพิ่งผ่านพ้นไปพิเศษขึ้นมาหน่อย เพราะเราจะได้เห็นกองทัพของเหล่าซอมบี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ Halloween Horror Nights เลยเชียวแหละ ซึ่งใครที่พลาดปีนี้ไม่ต้องเสียใจไป ปีหน้าเรามาแก้ตัวใหม่ได้ เพราะมันไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่เด้อ
Chucky’s Carnival of Chaos
เครื่องเล่นแรกใน Halloween Horror Nights ที่เราพุ่งตัวมาเล่นเลยคือ กับ Chucky’s Carnival of Chaos ใครที่เป็นแฟนๆ ตุ๊กตาผีสิงสุดโหดอย่าง “ชัคกี้” จากหนังสุดสยองขวัญเรื่อง แค้นฝังหุ่น (Child’s Play) ก๊อตบอกเลยว่าห้ามพลาดเครื่องเล่นนี้ เพราะ Chucky’s Carnival of Chaos นั้นคือเครื่องเล่นธีมบ้านผีสิง ที่ภายในนั้นมีงานคาร์นิวัลสุดบ้าคลั่งที่ชัคกี้เค้าจัดขึ้น
Chucky’s Carnival of Chaos เครื่องเล่นนี้เข้าเล่นได้เฉพาะคนอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้นนา เนื่องจากเค้าการันตีไว้เลยว่า ใครที่เข้ามาแล้วจะต้องกรีดร้องกันทุกย่างก้าว โดยรูปแบบการเล่นจะเหมือนกับเราได้เข้าไปในบ้านผีสิง ซึ่งก่อนเข้าไปนั้นเราจะต้องสวมแว่นตา 3 มิติกันก่อน พอใส่ปุ๊บภาพรอบตัวจะฟุ้งๆ เบลอๆ เหมือนอยู่ในโลกของความฝันเลย
และพอเดินเข้ามาภายในเรื่อยๆ เส้นทางที่ดูราวกับเขาวงกตนั้น มีข้าวของเครื่องใช้มากมายวางเรียงรายอยู่ และยิ่งเราเดินเข้าไปข้างในลึกมากขึ้นก็จะเริ่มเห็นชัคกี้ออกมาจ๊ะเอ๋ให้ได้ตกใจ แถมในบางจังหวะก็โผล่กันมาทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นชัคกี้ ทิฟฟานี่ และเกล็น ซึ่งมันช่วยเพิ่มเลเวลความหลอนยิ่งขึ้นไปอีก ยังไม่หมดนะบางช่วงนี่โผล่มาเป็นคนในคอสตูมชัคกี้เต็มยศเลย แต่เค้ามาสุภาพนะไม่วิ่งไล่เด้อ
ถามว่า Chucky’s Carnival of Chaos น่ากลัวไหมส่วนตัวก๊อตก็ว่าน่ากลัว ยิ่งเราได้ใส่แว่นตาที่มันเบลอๆ เวลาเดินอยู่ข้างในนั้นมันเลยเหมือนเราล่องลอยอยู่ในความฝันที่มีชัคกี้มาไล่ฆ่ากันจริงๆ เลยล่ะ ใครมาสวนสนุก USJ ในช่วงเทศกาลฮาโลวีน อยากให้ลองมาเล่น Chucky’s Carnival of Chaos กันดู เปิดประสบการณ์หลอนไปอีกแบบ
Biohazard™ : The Extreme
ใครอยากลองไปอยู่ท่ามกลางเกมเอาชีวิตรอด เครื่องเล่น Biohazard™ : The Extreme ตอบโจทย์ความฝันนั้นเลย เพราะนี่คือ เครื่องเล่นที่เค้าพัฒนามาจากเกมยิงผีสุดโด่งดัง “Biohazard” หรือที่ฝั่งอเมริกาจะเรียกกันว่า “Resident Evil” ซึ่งต้นตำรับฉบับออริจิเค้ามาจากญี่ปุ่นนา โดยธีมเครื่องเล่นของเค้ามาจากเนื้อเรื่องในเกมเป๊ะ นั่นคือเราจะได้เข้าไปหลบภัยที่สถานีตำรวจแรคคูน ซิตี้ ท่ามกลางโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยเหล่าซอมบี้ที่กำลังบุกเข้ามายังสถานีตำรวจ โดยมีภารกิจให้เราปกป้องสถานีตำรวจแห่งนี้และเอาชีวิตรอดออกไปให้ได้
แรกเริ่มนั้นเค้าจะให้เรารวมกลุ่ม 8 คนแล้วเกาะกุมเดินเข้ามาภายในสถานีตำรวจแรคคูน ซิตี้ โดยเส้นทางเดินมีให้เลือก 2 เส้นทาง คือ เส้นทางของ “ลีออน” และเส้นทางของ “แคลร์” ซึ่งทั้งสองเส้นทางนี้จะมีการผจญภัย รวมถึงได้พบเจอกับเหล่าซอมบี้และสัตว์ประหลาดอื่นๆ ที่ต่างกันออกไป โดยทีมก๊อตเลือกเป็นเส้นทางของแคลร์ นักศึกษาวิทยาลัยที่มายังเมืองแห่งนี้เพื่อมาตามหาน้องชายของตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองกำลังตำรวจพิเศษของเมือง และเมื่อเธอมาพบกับหายนะวันสิ้นโลกมาเยือน แคลร์จึงตั้งเป้าที่จะเอาชีวิตรอดจากขุมนรกเดือดแห่งนี้ให้ได้
โดยในเส้นทางที่เราเลือกเดินเข้ามา ระหว่างทางเค้าจะมีปริศนามาให้ช่วยกันแก้ไขไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับเหล่าซอมบี้ที่โผล่ออกมาไล่งับเรา ความยากของเครื่องเล่นนี้ คือ “ปริศนา” เพราะเค้ามาเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลย ทางนี้ก็อ่านไม่ออกสักตัว ก็คือไม่เข้าใจอะไรเลย โชคยังดีได้คนในทีมชาวญี่ปุ่นช่วยกันไขปริศนาให้จึงผ่านแต่ละด่านมาได้ โดยสุดทางของเครื่องเล่นเราต้องไปไขรหัสส่งท้ายอีกรอบ หากรอดก็ชิลไป แต่ถ้าตุยก็ได้การ์ด You Are Dead มาการันตีให้ 55555
Universal Monsters: Legends of Fear
Universal Monsters: Legends of Fear อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมม๊ากที่ยูนิเวอร์แซล ออร์แลนโด รีสอร์ต ( Universal Orlando Resort) ในอเมริกา ซึ่งธีมเครื่องเล่นและของตกแต่งทั้งหมดที่สวนสนุก USJ นั้นเค้าก็อิงมาจากที่อเมริกาเกือบทั้งหมดเลย โดยภารกิจในการเล่น Universal Monsters: Legends of Fear เราจะต้องเดินเข้าไปในเขาวงกต โดยมีเหล่า Universal Monsters ตัวร้ายที่พร้อมเขมือบเรา ซึ่งหน้าที่ของผู้เล่นมีเพียงแค่เอาตัวรอดกลับออกมาให้ได้เท่านั้นเลย
เริ่มต้นเราจะต้องจับกลุ่มกัน 5-6 คน หลังจากนั้นก็ออกเดินเท้าผ่านเข้าไปในสุสานมืดๆ และเพียงอึดใจเดียวก็มีสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวและคอสตูมสารพัดผีโผล่มาหลอกเราแบบตุ้งแช่สุดๆ ซึ่งตอนเล่นก็ต้องทำใจแข็งสู้มาก แบบเพื่อนในทีมไม่วิ่ง ไอ้เราก็ไม่วิ่งด้วย แต่ท้ายที่สุดพอผีโผล่มาจ๊ะเอ๋กันเยอะเกิ๊น ทั้งทีมก็วิ่งกันตัวปลิวเลย 555555
พอรอดออกมาด้านนอกได้แล้ว บอกเลยว่า Universal Monsters: Legends of Fear เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่เล่นเสร็จแล้วหอบเอาเรื่อง เพราะอะไรนะหรอ? ตั้งแต่เข้ายันออกสับขาวิ่งนี่ไม่มีพักเลยนะ แต่ส่วนตัวก๊อตไม่ชอบเครื่องเล่นฟีลบ้านผีสิงมากนัก คือมู้ดมันจะไม่เหมือนชัคกี้ก่อนหน้านี้ อันนั้นเรารู้ตัวว่าจะเจอแต่ชัคกี้ แต่อันนี้มีผีเยอะเกิ๊นน แถมมันชวนอึดอัดมากกว่า เพราะไม่รู้เลยว่าผีจะโผล่มาตอนไหน แต่ถ้าใครชอบเครื่องเล่นแนวบ้านผีสิงก๊อตแนะนำเลย ข้างในพร๊อพน่ากลัวๆ เยอะม๊าก
Pokémon Jumpin’ Halloween Party
ใครที่เคยจอยคอนเสิร์ตที่จัดโดยคนแล้ว มาลองเปลี่ยนแนวจอยคอนเสิร์ต Pokémon Jumpin’ Halloween Party มหกรรมปาร์ตี้ฮาโลวีนสุดร้อนแรงที่สุดเท่าเคยมีมาในญี่ปุ่น ที่จัดโดยโปเกม่อนกันเร้วว ปาร์ตี้สุดพีคที่มีเหล่าโปเกม่อนและปิกาจูมาเปิดแผ่นมิกซ์เพลงสุดมันส์ ให้เราได้โยกย้ายส่ายสะโพกอยู่ด้านล่างเวที
ไฮไลท์ของ Pokémon Jumpin’ Halloween Party คือเหล่าฝูงโปเกม่อนผีมากมาย! ที่ออกมาวาดลวดลายบนเวทีแล้วกระโดดโลดเต้นไปมาเพื่อปลุกให้ผู้เต้นไปด้วยกัน ฟีลเหมือนเราอยู่ในมินิคอนเสิร์ตย่อมๆ เลย กิ๊บเก๋มาก โดยตัวโปเกม่อนที่ก๊อตชอบที่สุดคือปิกาจูผีสีครีมอ่อนๆ ที่หน้าตาน้อนจะชวนหลอนๆ แต่นี่กลับมองว่ามันน่ารักจังวุ้ย ยิ่งเวลาที่เค้าเต้นดุ๊กดิ๊กอยู่บนเวทีด้วยนา นี่หมั่นเขี้ยวจนอยากพาน้อนกลับบ้านด้วยเลย 55555
Street Zombies
สิ่งที่เป็นไฮไลท์สุดสำหรับก๊อตในช่วงอีเวนท์ฮาโลวีนคือเหล่าซอมบี้ที่วิ่งตะลุงตุ้งแช่อยู่ทั่วสวนสนุก โดยตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นไปจนถึงช่วงเวลาที่สวนสนุกปิด จะมีเหล่าซอมบี้ที่เรียกว่า Street Zombies ที่ทั่วทั้งปาร์คจะมีเหล่าซอมบี้และผีที่จัดเต็มทั้งคอสตูมและเมคอัพเดินออกมาตามถนนภายในปาร์คปะปนไปกับฝูงคน อย่างตอนนั้น ก๊อตเดินเล่นกันอยู่ในโซน Hollywood พอ 6 โมงเย็นปุ๊บ ก็จะมีซอมบี้หลากหลายตัวเดินขวักไขว่กันให้แซ่ด ทั้งถือเลื่อยมาแง้นๆ ใส่คนในปาร์ค ทั้งที่หน้าตาเหวอะหวะเดินเข้ามาเหมือนจะกัดกินเรา อีกทั้งยังมีสารพัดผีที่เดินคีฟลุคช้าๆ มาในธีมผีของตัวเองกันเพียบ



ซึ่งพอพ้นช่วงเวลา 6 โมงเย็นไปแล้ว เหล่าซอมบี้และฝูงผีทั้งหลาย เค้าก็จะสลายตัวเดินกลมกลืนไปกับผู้คนในปาร์ค แม้จะไม่เนียนเท่าไหร่เพราะคอสตูมแน่นเว่อร์ก็ตาม 55555 และความเท่อีกอย่างที่ใครอยู่รอดู Street Zombies ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วนั้น มันจะมีผีบางตัวที่มีไฟ และลูกเล่นอื่นๆ แปลกๆ ในคอสตูมของเค้าเพิ่มเข้ามาด้วย อันนี้เริ่ดมากอยากให้รอดูกัน
ทั้งหมดนี้ก็คือการมาเที่ยว Universal Studios Japan (USJ) หนึ่งวันเต็มๆ ของก๊อต เชื่อยังว่ารายละเอียดเยอะมาก ซึ่งการจะมาเที่ยวแต่ละทีคือต้องวางแผนสุดอะไรสุด ทั้งนี้ก๊อตขอสรุปความรู้สึกที่ได้มาเที่ยว USJ บอกเลยว่าที่นี่แตกต่างจากโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ม๊าก คือเค้าเป็นสวนสนุกที่ก๊อตคิดว่ามันเหมาะกับเด็กโตไปจนถึงผู้ใหญ่มากกว่า ด้วยพวกรถไฟเหาะหลายตัวคือหวาดเสียวและทำออกมาได้ดีสุด ไม่ว่าจะเป็น “The Flying Dinosaur” หรือจะเป็น “Hollywood Dream: The Ride” รถไฟเหาะโลกสวยที่ก๊อตชอบ
นอกจากนี้ ความโดดเด่นของ Universal Studios Japan (USJ) คือการที่มีโซนไฮไลท์เด็ดๆ ที่เป็นตัวชูโรงอย่าง Super Nintendo World ที่ทำโลกมาริโอออกมาได้โคตรน่ารักและเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเกมมาก รวมถึงโซน The Wizarding World of Harry Potter™ ที่ยกเอาปราสาทมาทั้งหลัง และยังคงเป็นโซนยอดฮิตที่ทุกคนตั้งใจอยากมานั่นเอง สุดท้าย ท้ายสุดที่ทำให้ USJ นั้นไม่เหมือนกับสวนสนุก Universal Studios ที่อื่นก็คือการเอาเหล่าการ์ตูน อนิเมะ และเกมญี่ปุ่นต่างๆ เข้ามาด้วย อย่างช่วงที่ก๊อตไปก็มี Pokemon ที่แท็คทีมกันมาครบ หรือมีเครื่องเล่นพิเศษอย่าง Jujutsu Kaisen หรือแม้แต่ Doraemon ก็มาอีกด้วย เอ้อ เนี่ยมันคือความเริ่ดที่มีเฉพาะที่ญี่ปุ่นนี่แหละ
สุดท้ายจริงๆ ใครที่มาช่วงที่เค้ามีเทศกาลฮาโลวีนพอดี คือยิ่งคุ้มค่าบัตรสุด เพราะทุกๆ เย็นในแต่ละโซนเค้าจะมีซอมบี้ออกมาเดินเป็นขบวน พร้อมทั้งเก๊กท่าแล้วเดินปะปนไปกับผู้คนให้ได้ตื่นเต้นกันอีกด้วย บอกเลยว่าใครที่มาเที่ยวโอซาก้า ต้องมาที่ Universal Studios Japan (USJ) คือเราจะหาสวนสนุกที่เป็นธีมมังงะ เอาการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาใส่ไม่ได้จากที่ไหนในโลกนี้อีกแล้วนอกจากที่นี่ และถ้าใครแพลนจะมาแค่ครั้งเดียวแล้วเก็บให้คุ้มอย่าลืมซื้อ Express Pass 7 ด้วยเด้อ รับรองว่าเล่นเครื่องเล่นกันแบบสะใจสุด อ่ะ ลิสลิงค์ซื้อบัตรต่างๆ มาให้อีกครั้ง แล้วจัดเต็มได้เลย
- บัตรเข้าสวนสนุก Studio Pass แบบ 1, 1.5 และ 2 วัน [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- บัตร Express Pass 4 [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- บัตร Express Pass 7 [คลิกซื้อผ่าน Klook] / [คลิกซื้อผ่าน KKday]
- [COMBO] ซื้อบัตรเข้าสวนสนุก USJ 1-Day Studio Pass + บัตรลัดคิว บัตรเบ่ง Express Pass [คลิกซื้อผ่าน KKday]
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
สวนสนุกอื่นๆ
- Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
- Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
- Ocean Park / ฮ่องกง
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡