อาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น” หนึ่งในป่าที่มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีผู้คนมาฆ่าตัวตายกันต่อปีเป็นจำนวนมาก จนท้ายที่สุดคนเค้าเลยขนามขนานว่าผืนป่าแห่งนี้เป็นป่าฆ่าตัวตายนั่นเอง เอ้า อ่านกันมาแล้วเผื่อใครกลัว ก๊อตจะบอกว่ารีวิวนี้ทุกคนไม่ต้องกลัวไปนา เพราะก๊อตไม่ได้พาเดินเข้าไปสำรวจภายในป่ากันแต่อย่างใด อาจมีบ้างที่เดินเฉียดๆ อยู่ใกล้ๆ เพราะสถานที่ที่เราตั้งใจไปนั้นเค้าอยู่ภายในป่าแห่งนี้ นั่นคือ ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) และ ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) ซึ่งก๊อตจะพาทุกคนไปเดินส่องบรรยากาศภายในถ้ำกัน พร้อมสำรวจให้ทุกคนได้หายสงสัยว่าถ้ำนั้นมันเป็นน้ำแข็งและลมได้อย่างไรกัน เราไปดูกันเลย
รู้จักอาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น
อาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในชื่อของ “ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น” ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาไฟฟูจิ มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ว่าเป็นบ้านของ ‘Yūrei’ ผีแห่งความตายในตำนานญี่ปุ่น โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เป็นต้นมา ป่าแห่งนี้ก็เริ่มมีผู้คนมาฆ่าตัวตายมากขึ้น จนได้ชื่อทางภาษาอังกฤษว่าเป็นป่าฆ่าตัวตาย (Suicide Forest) แม้ว่าวันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาถึงปัจจุบัน ป่าอาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ยังคงถูกใช้เป็นสถานที่ที่คนมาฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลก ทำให้เวลาเราเดินเข้ามาบริเวณป่าจะเห็นว่ามีป้ายย้ำเตือนให้ผู้คนระลึกถึงครอบครัวให้มาก รวมถึงยังมีข้อมูลติดต่อสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายติดเอาไว้เป็นระยะอีกด้วย
วิธีการเดินทางมาที่อาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น
รถเมล์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถเมล์ โดยป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้กับอาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น นั้นมีหลายป้าย หากแต่ใครที่ตั้งใจมาเที่ยว ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) และ ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) แบบก๊อตนั้น ต้องบอกก่อนว่าถ้ำทั้งสองที่เค้าตั้งอยู่ห่างกัน ดังนั้นป้ายรถเมล์ที่เราจะมาลงนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปเที่ยวที่ถ้ำไหนก่อน โดยก๊อตได้รวมเอาข้อมูลมาให้ตามนี้เลย ซึ่งทุกคนสามารถเลือกลงในป้ายรถเมล์ตามแพลนเที่ยวของแต่ละคนได้เลยนา
- โดยรถเมล์:
- ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave): ป้าย Hyoketsu (Ice Cave) ให้ขึ้นรถเมล์จากสถานี Kawaguchiko Bus Center สายสีเขียว หรือสายสีฟ้านั่งมาลงที่ป้ายจอดรถเมล์ Narusawa Hyoketsu จากนั้นเดินต่ออีก 6 นาที
- ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave): ป้าย Hyoketsu (Ice Cave) ให้ขึ้นรถเมล์จากสถานี Kawaguchiko Bus Center สายสีเขียว หรือสายสีฟ้านั่งมาลงที่ป้ายจอดรถเมล์ Fugaku Fuketsu จากนั้นเดินต่ออีก 3 นาที
แนะนำพาสที่ใช้เดินทาง และเข้าสถานที่เที่ยวในทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ได้
- Mt. Fuji Pass พาสเที่ยวทะเลสาบทั้ง 5 (รวมทะเลสาบคาวากุจิโกะ) รอบภูเขาไฟฟูจิที่ครบเครื่องมากที่สุด โดยมีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1, 2 และ 3 วัน ราคาเริ่มต้น 5,500 เยน (~1,400 บาท) [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- ขึ้นรถบัสและรถไฟของบริษัท Fujikyu ได้ทั้งหมดทุกสายแบบไม่จำกัด (ครอบคลุมรถไฟจากสถานี สถานีโอสิกิ (Ōtsuki Station) > สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station))
- ขึ้นฟรี เข้าฟรี: ล่องเรือท่องเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะ ‘Appare’ / กระเช้า Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway / ล่องเรือห่าน (Swan Lake) ที่ทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanakako) / ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) และ ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) / สวนสนุก Grinpa
- เล่นเครื่องเล่นฟรี 1 อย่างที่สวนสนุก FujiQ Highland
เริ่มเที่ยวภายในอาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ป่าฆ่าตัวตายแห่งญี่ปุ่น กันเล้ยย
ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave)
ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) ถ้ำแรกที่ก๊อตเลือกเดินมากัน ซึ่งเค้าว่ากันว่าภายในถ้ำยังมีน้ำแข็งซ่อนอยู่ด้วย จากแว๊บแรกที่เห็นตรงทางเข้ากับแบ็คดรอปที่วาดน้ำแข็งเป็นแท่งๆ เต็มไปหมด เห็นรูปแบบนี้นี่ก็คาดหวังแล้วนะ ว่าจะเจอกับน้ำแข็งแบบในภาพแน่ๆ ว่าแล้ว เราก็ซื้อตั๋วเข้าถ้ำน้ำแข็งแล้วไปลุยกันเลย
สำหรับทางเดินเข้าไปในถ้ำนั้น เราจะเดินผ่านป่าอยู่แปปนึง และเดินลงบันไดไปด้านใน ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) ที่เส้นทางคดเคี้ยวเข้าไปตามช่องทางของถ้ำ ซึ่งบางจุดจะต้องลัดเลาะและก้มตัวจนเกือบคลานกันซักหน่อย แต่มันก็ยังอยู่ในจุดชิลๆ ที่รับไหว ไม่ได้ลำบากมากอะไรขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ก๊อตไม่ค่อยแนะนำให้คนแก่ คนท้อง หรือคนที่ก้มเดินลำบากเข้ามาเที่ยวนะ เพราะอาจจะเดินเหินลำบากหน่อย ด้วยความที่มันมีจุดที่เราต้องลอดถ้ำด้วยแหละ
ระยะทางเดินในถ้ำจะมีความยาวประมาณ 156 เมตร พอเดินลึกเข้ามาด้านใน เราจะเริ่มสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิข้างในก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ตามผนังและจุดต่างๆ ของถ้ำเริ่มมองเห็นว่ามีน้ำแข็งเกาะอยู่ โดยจุดที่เย็นที่สุดอยู่ที่ 3 องศาเลย ซึ่ง ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) เกิดจากการปะทุของภูเขานากาโอะในปี ค.ศ. 864 โดยลาวาที่ไหลออกมานั้น ได้ไหลลงตามพื้นดินจนเกิดเป็นช่องและกลายเป็นถ้ำแห่งนี้ โดยที่นี่เป็นหนึ่งในสามถ้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เชิงเขาทางฝั่งเหนือของภูเขาไฟฟูจิ อีกสองถ้ำคือ ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) และ ถ้ำทะเลสาบค้างคาว (Lake Saiko Bat Cave) ซึ่งทั้งสามแห่งถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1929 นอกจากนี้ในช่วงสมัยเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1868) ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) ยังถูกใช้สำหรับเป็นตู้เย็นธรรมชาติ ว่ากันว่ามีการเอาอาหารลงมาแช่เย็นไว้ที่ด้านล่างของถ้ำ และยังได้มีการตัดเอาน้ำแข็งภายในถ้ำส่งไปยังโชกุน และผู้ติดตามเพื่อใช้งานอีกด้วย
เมื่อก๊อตได้เดินเข้ามาจนถึงข้างในสุดทางของถ้ำแล้ว ภาพในหัวที่คิดไว้ว่าเราจะได้นั้นจะต้องเป็นแท่งน้ำแข็งตั้งแฉกๆ เหมือนภาพที่เห็นตรงแบ็คดรอปก่อนเข้ามาแน่ๆ แต่ข้างในจริงๆ ที่ก๊อตเห็นชัดมากที่สุดคือเหลือแค่ก้อนน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ ซึ่งเค้ายังคงแข็งตัวไม่ละลายเลย ลักษณะดูเหมือนน้ำแข็งเคลือบชั้นหินเอาไว้อีกที นอกนั้นก็จะมีเป็นน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามผนังถ้ำให้ได้ดู ซึ่งมันไม่มีอะไรให้ดูมากกว่านี้แล้ว เพราะสุดจากตรงนี้เราก็ต้องเดินวนกลับออกไป ถ้าถามก๊อตว่าข้างในถ้ำดีไหม ก็ถือว่าโอเค๊ หลังจากก๊อตกลับมาแล้วมาหาข้อมูล คือจริงๆ เค้ามีน้ำแข็งแท่งๆ จริงๆ แหละ คือจะมีเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ฮื้อ
ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave)
จาก ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) จริงๆ เราสามารถเดินเท้ามาต่อที่ ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) ได้เลย ซึ่งเราจะต้องเดินเท้าเข้าไปผ่านทางป่าฆ่าตัวตายเสียอีดนิดก่อน ถึงจะเจอกับปากทางเข้าถ้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี โดย ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) มีความยาวประมาณ 201 เมตร มากกว่าที่แรกนิดหน่อย
ระหว่างทางที่ก๊อตเดินเข้าไปนั้น จะเห็นว่าตามผนังของถ้ำเค้าเป็นหินสีเทาๆ ค่อนไปทางดำมีลักษณะแปลกตาไปจาก ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) นี่เลยแวะถ่ายรูปเล่นกับหินสักแปป ซึ่งหินที่ทุกคนเห็นอยู่นี้ คือ ‘หินบะซอลต์’ หินที่มีเนื้อละเอียดที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก
เดินลึกเข้ามาด้านใน เราจะเริ่มสัมผัสได้ถึงไอความเย็นที่เพิ่มขึ้น และเริ่มมองเห็นน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามผนังถ้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยในสมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ (ประมาณปี ค.ศ. 1600-1900) ถ้ำแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่เก็บไข่ของหนอนไหม ซึ่งปัจจุบันนี้ข้างในก็ยังคงมีกล่องที่เค้าเอาไว้ใส่หนอนไหมตั้งโชว์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นอยู่ นอกจากเก็บหนอนไหมแล้ว เค้ายังเก็บพวกเมล็ดพืชเอาไว้อีกด้วย โดยรังไหม และเมล็ดพืชต่างๆ นั้นจะถูกเก็บไว้ในจุดที่เย็นอยู่ตลอดเพื่อให้คงคุณภาพและสามารถเอาไปปลูกต่อได้ ซึ่งพอได้มาเดินดูแบบนี้แล้วก็แอบคิดไปถึงอุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์อย่างอุโมงค์เมล็ดพันธุ์พืชแห่งสฟาลบาร์ (Svalbard Global Seed Vault) ที่นอร์เวย์ สถานที่เก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะนี่คิดว่าทั้งสองแห่งมีจุดประสงค์ที่เหมือนๆ กันเลย
หลังจากก๊อตเดินเล่น และถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว นี่ก็เดินกลับออกมาทางเดิม โดยรวมนี่คิดว่า ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) มันมีอะไรให้ได้ดูเยอะกว่า ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) นิดหน่อย เพราะนอกจากเส้นทางเดินจะไกลกว่าแล้ว ข้างในยังมีข้าวของต่างๆ ให้ได้เดินส่องดูด้วย ทำให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในยุคอดีตของเค้าอีกด้วย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ไหนๆ ใครที่เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของ อาโอกิงาฮาระ (Aokigahara) ป่าฆ่าตัวตายของญี่ปุ่นมาพอสมควร หากได้มาเที่ยวในคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) แล้วเวลาเหลือๆ หน่อย ก๊อตแนะนำให้มาเดินเที่ยวกันดูได้นา อย่างการมาเดินเที่ยวถ้ำมันก็โอเคอยู่เหมือนกันเด้อ
> อ่านรีวิวเต็ม คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡