สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) สวนสัตว์ประจำชาติของสิงคโปร์ที่เพิ่งจะฉลองความเก๋าครบรอบ 50 ปี ไปกันหมาดๆ ส่วนตัวก๊อตว่าการมาเที่ยวต่างประเทศแล้วได้มาลองเข้าสวนสัตว์ของเค้าดูบ้าง ก็เปิดประสบการณ์เที่ยวไปได้อีกแบบนะ ยิ่งใครมาเที่ยวแบบครอบครัว หรือบ้านไหนพาน้องๆ หนูๆ มาด้วย ลองมาเที่ยวดู รับรองว่าได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการผจญภัยในป่าร่วมกับเหล่าสัตว์กว่า 4,200 ตัว ที่อาศัยอยู่ในป่าฝนเขตร้อนอันเขียวชอุ่ม ซึ่งความพิเศษของสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) เลย คือภายในเค้าจะจำลองพื้นที่ให้มันใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่อาศัยจริงๆ ของสัตว์แต่ละประเภท ท่ามกลางพื้นที่กว้างขวางที่เราจะได้เห็นน้องสิงสาราสัตว์ต่างๆ เดินทอดน่องและอาศัยอยู่เสมือนว่าพวกเค้าอยู่ในป่ากันจริงๆ เลย แถมที่นี่ยังมีสัตว์หายากอยู่อีกเพียบ ดังนั้นใครที่ชื่นชอบสัตว์เป็นทุนเดิม ก๊อตบอกได้เลยว่ามาที่นี่แล้วคุ้มค่าแน่นอน
- รีวิวเต็ม สิงคโปร์ 28 ที่เที่ยว จัดเต็ม
- รีวิวเต็ม Universal Studios Singapore (USS) ละเอียด รู้เรื่องมากที่สุด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในสิงคโปร์ (Singapore)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
รู้จักกับ Mandai Wildlife Reserve กันก่อน
ก่อนที่เราจะไปเที่ยวสวนสัตว์ มาทำความรู้จักกับ Mandai Wildlife Reserve กันก่อนสักแมท ซึ่งที่นี่เค้าเป็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ โดยภายในแบ่งออกเป็น 5 ส่วน คือ สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo), สวนสัตว์ริเวอร์วันเดอร์ส (River Wonders) (เดิมชื่อ River Safari), สิงคโปร์ไนท์ ซาฟารี (Singapore Night Safari), สวนนกเบิร์ดพาราไดซ์ (Bird Paradise) (เดิมชื่อ Jurong Bird Park) และ Rainforest Wild Park ที่เค้าเตรียมเปิดตัวกันในปีหน้า 2024 ดังนั้นแต่ละส่วนของเค้าจะอยู่ติดๆ กันในพื้นที่เดียวของ Mandai Wildlife Reserve ทำให้เราสามารถแพลนมาเที่ยวสิงคโปร์แบบวันเดย์ทริปเพื่อเที่ยวดูสัตว์ต่างๆ ได้นั่นเอง
ซึ่งรีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปดูสัตว์กันแบบจัดเต็มภายใน สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) บอกเลยว่ารีวิวนี้มีไปกินข้าวกับน้องสัตว์แบบใกล้ๆ ด้วยนะ เลื่อนอ่านรีวิวเต็มด้านล่างเร้ววว
วิธีเดินทางมาที่ Mandai Wildlife Reserve เพื่อมาเที่ยวในสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo)
1. รถไฟใต้ดิน (MRT) ต่อด้วยรถบัส (⭐️⭐️ แนะนำ) : การเดินทางด้วย MRT แล้วนั่งรถบัสต่อนั้นเป็นวิธีที่ก๊อตแนะนำในการมาเที่ยวที่ Mandai Wildlife Reserve ที่สุดแล้ว โดยเค้าจะมี MRT อยู่สองสายที่คนเค้านิยมใช้เพื่อเดินทางมาที่นี่กัน
- สาย North South Line มาลงที่สถานีคาติบ Khatib MRT Station (NS14) จากนั้นให้เดินมาขึ้นรถบัส Mandai Khatib Shuttle เค้าจะพาเรามาส่งยังที่หมาย โดยค่าตั๋วสำหรับเที่ยวเดียวเริ่มต้น 1 SGD (~25 บาท) ซึ่งรถบัสจะมาทุกๆ 10 นาที
- สาย Thomson-East Coast MRT line (TEL) นั่งมาลงที่สถานีสปริงลีฟ Springleaf MRT Station (TE4) จากนั้นให้ขึ้นมาต่อรถบัสสาย 138
- ซื้อบัตรเติมเงิน NETS FlashPay Card สำหรับเดินทางในสิงคโปร์: สำหรับคนที่ไม่อยากยุ่งยากต่อแถวซื้อตั๋วแต่ละรอบ แนะนำให้ใช้บัตรเติมเงิน สะดวกกว่ามาก ตัวบัตรจะคล้ายๆ บัตรแรบบิทขึ้น BTS บ้านเรา [ดูราคาและซื้อผ่าน Klook]
2. แท็กซี่ หรือ GRAB : เราสามารถเรียกแท็กซี่ได้จากทุกที่ในเมืองได้เลย ซึ่งการนั่งแท็กซี่มาที่ Mandai Wildlife Reserve ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจรในช่วงเวลานั้นๆ ราคาแท็กซี่พื้นฐานเริ่มต้น 4.05 SGD (~104 บาท) โดยเค้าคิดกิโลเมตรละ 0.70 SGD (~18 บาท) อีกทางนึงที่สะดวกเลยคือการเรียก GRAB ซึ่งเราสามารถใช้แอพ GRAB ตัวเดียวกันกับที่เราใช้ในประเทศไทยบ้านเราได้เลย ซึ่งอันนี้เราสามารถรู้ราคาได้ผ่านแอพและสามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้ด้วย
ค่าเข้าและการซื้อบัตรสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo)
สำหรับใครที่อยากจะไปตามรอยเที่ยวสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อบัตรเข้าที่ไหนดี จากประสบการณ์ส่วนตัวของก๊อตที่ไปมาที่สะดวกสุดเลยคือซื้อจาก Klook เพราะเค้าเป็น Official Partner กับทาง Mandai Wildlife Reserve แน่นอนว่าเราจะได้ดีลในราคาพิเศษ แถมยังมีโปรโมชั่นปังๆ ในแต่ละเดือนอีกด้วย ซึ่งการจองผ่าน Klook นั้นก็ง๊ายง่าย เราสามารถกดเข้าไปจองกิจกรรมทุกอย่างที่มีอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Mandai Wildlife Reserve ได้เลย ทั้งบัตรเข้าในแต่ละส่วนไปจนถึงซื้อแพ็คเกจทำกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ข้างใน แนะนำว่าให้จองผ่าน Klook ได้เลย
> ซื้อบัตรสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) [ดูราคาและซื้อผ่าน Klook] / [ดูราคาและซื้อผ่าน KKDay]
> แพ็กเกจรับประทานอาหารเช้าในป่าที่สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) [ซื้อบัตรผ่าน Klook] / [ดูราคาและซื้อผ่าน KKDay]
> เช็คส่วนลด Klook ประจำเดือน คลิก / เช็คส่วนลด KKday ประจำเดือน คลิก
เริ่มเที่ยวสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) กันเลย
สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) สวนสัตว์ที่เรียกได้ว่าเป็นสวนสัตว์ประจำชาติของสิงคโปร์ที่เค้าเพิ่งจะฉลองครบรอบ 50 ปีกันไปหมาดๆ โดยที่นี่เราจะได้เข้ามาผจญภัยในป่าไปกับสัตว์กว่า 4,200 ตัว ที่อาศัยอยู่ในป่าฝนเขตร้อนอันเขียวชอุ่ม บอกเลยว่าใครเป็นสายส่องสัตว์มาที่นี่จะได้ดูกันตั้งแต่สัตว์เล็กไปจนถึงสัตว์ใหญ่กันแบบจุใจเลย
สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) เปิดครั้งแรกในปีค.ศ.1973 โดยเค้ามีแนวคิดของสวนสัตว์แบบระบบเปิด ด้วยการจำลองที่อยู่อาศัยให้เหมือนสภาพแวดล้อมที่สัตว์เค้าอยู่กันจริงๆ ผ่านทั้ง 12 โซนที่อยู่ภายใน ท่ามกลางพื้นที่กว้างขวางให้สัตว์ได้อาศัยอยู่เสมือนพวกเค้าอยู่ในป่ากันจริงๆ
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ซึ่งแต่ละโซนนั้นมีสัตว์อยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโซน Australasia ที่เราได้เห็นจิงโจ้สีเทาและวอลลาบีจากออสเตรเลีย รวมถึงยังจิงโจ้จากปาปัวนิวกินีให้ได้มาดูกันด้วย หรือใครชอบสัตว์เลื้อยคลานให้มากันที่โซน RepTopia ที่เต็มไปด้วยสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานกว่า 60 สายพันธุ์ที่เน้นไปทางงูเสียมากกว่า แต่ถ้าใครอยากดูอุลังอุตังโดยเฉพาะ เค้ามีโซน Orangutan Island & Boardwalk โดยความพิเศษคือเค้าปล่อยให้ลิงอุรังอุตังอาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าที่เค้าจำลองขึ้นมาเป็นเกาะแยกให้ลิงเค้าอยู่กันเองเลย ซึ่งถือว่าเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของโลกที่ปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติแบบนี้
ถ้าใครชอบเสือ สิงห์ ม้าลาย ให้มาโซน Wild Africa เป็นอีกโซนที่ก๊อตว้าวมาก เพราะเค้าจำลองพื้นที่ให้กลายเป็นป่าฝนเขตร้อนไปจนถึงทะเลทรายอันโหดร้าย เป็นโซนที่มีสัตว์เฉพาะถิ่นอาศัยอยู่เยอะมาก ทั้งหมาป่าแอฟริกา (African Painted dog) สิงโตแอฟริกา (African Lion) เสือชีตาร์(Cheetah) ยีราฟ ม้าลาย แรด เป็นต้น
ที่ก๊อตว้าวเลยคือโซน Tortoise Shell-ter ที่เต็มไปด้วยเต่าสายพันธุ์ต่างๆ โดยนี่เป็นครั้งแรกที่ก๊อตได้มาเห็นเต่ายักษ์อัลดาบร้า (Aldabra giant tortoise) ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเค้าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เต่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักตัวที่ก๊อตเจอเค้าหนักกว่า 300 กิโลกรัม มีอายุยืนกว่า 150 ปี อาศัยอยู่ในแถบมาดากัสการ์ ซึ่งพอก๊อตไปลองถ่ายรูปกับพี่เต่าเค้าแล้ว ตัวเค้ากับตัวก๊อตคือจะเท่าๆ กันเลย เป็นเต่าที่ตัวยักษ์จริงๆ
นอกจากสัตว์ต่างๆ แล้ว ที่นี่เค้ายังมีโซนน้องช้างที่ถูกเลี้ยงแยกเอาไว้ต่างหากด้วยนะ โดยเค้าจะปล่อยให้น้องช้างออกมาเล่นน้ำโชว์นักท่องเที่ยวให้ได้ดูกันท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่ชอบใจกันใหญ่เวลาเห็นช้างเค้าพ่นน้ำออกจากงวง แถมถ้าใครอยากให้อาหารช้าง เราสามารถซื้อกิจกรรมให้อาหารเพิ่มเติมได้อีกด้วย
มากไปกกว่านั้น ที่ สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) เค้ายังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เรามาเล่นกันอีกด้วยนะ อย่างจุดที่อยู่ใกล้ๆ กับ โซน Orangutan Island & Boardwalk ของน้องลิงอุรังอุตัง จะมีร้านอาหารให้เรามาเปิดประสบการณ์ลิ้มรสอาหารนานาชาติ ในโปรแกรมที่เค้าเรียกว่า Breakfast in the Wild at Singapore Zoo ซึ่งเราจะได้มานั่งกินบุฟเฟ่ท่ามกลางป่าดิบชื้นของสวนสัตว์ หลังจากทานเสร็จเค้าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยแนะนำเรื่องเล่าของสวนสัตว์ให้เราฟังพร้อมทั้งยังพาน้องสัตว์ต่างๆ มาโชว์ตัวให้เห็นใกล้ๆ ทั้งนกแก้ว งู สุนัขจิ้งจอก และมีสัตว์อื่นๆ ที่โฉบไปมาอยู่รอบๆ ให้ได้ตื่นเต้นกันอีกด้วย โดยเค้าจะมีช่วงสุดท้ายท้ายสุด ที่เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปคู่กับน้องๆ ได้ด้วย น่ารักมากๆ
จบไปแล้วกับการมาเที่ยว สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) จากประสบการณ์ที่ไปมาเอาจริงใครชื่นชอบสัตว์มาแล้วคืออิ่มเอมใจมาก เพราะเราจะได้ดูสัตว์แทบจะทุกประเภทที่มีอยู่บนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และเหล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมถึงพวกสัตว์หายากก็มีให้ได้มาดูกันแบบใกล้ชิด มันเหมาะกับการมาเที่ยวกันแบบแฟมิลี่เดย์มาก ยิ่งบ้านไหนมีเด็กๆ มาด้วยก๊อตว่าน้องๆ คงจะเพลิดเพลินกันจนไม่อยากกลับเลยแหละ หากใครมาตามรอยก็ขอให้มีวันสวนสัตว์เดย์ที่สนุกๆ กันทุกคนเลยนะ
อ่านรีวิวสิงคโปร์อื่นๆ เพิ่มเติม
แน่นอนว่าสิงคโปร์นั้น ไม่ได้มีแค่ที่เที่ยวนี้ที่เดียว ใครที่กำลังแพลนเที่ยวสิงคโปร์แล้วอยากรู้ว่าที่สิงคโปร์มาที่เที่ยวอะไรบ้าง ก๊อตแนะนำให้อ่านต่อกับรีวิวเต็มสิงคโปร์ของก๊อตได้เลย รับรองว่าอ่านรีวิวเดียวแล้วจบ เพราะก๊อตรวบรวมมาแล้วกับที่เที่ยวทั้งหมด 30 กว่าที่เที่ยว และยังมีรีวิวที่เที่ยวแบบละเอียดในแต่ละสถานที่ด้วย ยังไงลองคลิกลิงค์ด้านต่อจากด้านล่างได้เล้ย