เกาะนามิ (Nami Island) ใครที่เป็นแฟนหนังเกาหลีเรื่อง ‘Winter Sonata’ (เพลงรักในสายลมหนาว) จะต้องเคยเห็นฉากของ เกาะนามิ (Nami Island) เกาะรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวอยู่ในซีรีย์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่ซีรีย์เค้าฉายไปนั้น เกาะนามิ (Nami Island) กลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดป๊อบทั้งคนเกาหลี รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต่างแห่กันมาตามรอยความโรแมนติก มายืนถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ และถ่ายรูปคู่กับหุ่นรูปปั้นนางเอกกับพระเอกของซีรีย์ ซึ่งก๊อตเองมาเที่ยวเกาหลีทั้งที จะไม่มาสัมผัสกับของจริงก็เหมือนมาไม่ถึงเกาหลีแล้วป่ะ 55555
เที่ยวเกาหลีรอบนี้ ก๊อตเลยจะพาทุกคนนั่งเรือข้ามไปเที่ยวกันที่ เกาะนามิ (Nami Island) แบบ One Day Trip จากโซล ที่มีเวลาแค่ 1 วันก็สามารถเที่ยวได้แบบทั่วทั้งเกาะ โดยที่นี่เค้าเป็นเกาะตั้งอยู่กลางแม่น้ำฮัน อยู่ในเมืองชุนชอน (Chuncheon) จังหวัดคังวอน (คังวอนโด, Gangwon-do) ห่างจากกรุงโซล (Seoul) ประมาณ 63 กิโลเมตรเท่านั้น โดยการเดินทางคือเราจะต้องนั่งเรือข้ามมาเน้อ ซึ่งใครจะมาตามรอยเที่ยวนั้น ก๊อตบอกได้เลยว่า เกาะนามิ (Nami Island) สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเลย ใครที่มาเที่ยวบ่อยๆ ก็จะได้สัมผัสกับความงามที่ต่างกันออกไปทั้ง 4 ฤดู โดยช่วงเดือนที่ก๊อตแนะนำเลย คือเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ที่เป็นช่วงใบไม้ร่วง ก๊อตเลิฟช่วงนี้มาก เพราะต้นไม้ทั่วทั้งเกาะจะเปลี่ยนสี มู้ดมันเลยจะมันโรแมนติกสุดๆ ไปเล้ยย
มาทำความรู้จักกับ เกาะนามิ (Nami Island) กันก่อนน
ชื่อของเกาะนามิ (Nami Island) นั้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามาจากชื่อของนายพลนามิ ซึ่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 28 ปี หลังจากถูกกล่าวหาว่าขายชาติในรัชสมัยของกษัตริย์เซโจกษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์โชซอนของเกาหลี ก่อนจะถูกประหารชีวิต ซึ่งหลังจากที่นายพลนามิเสียชีวิตไปแล้วนั้น ได้มีการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อหาขายชาติอีกครั้ง จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเท็จ ซึ่งตัวนายพลนามิไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ในช่วงเวลานั้นทางการเค้าเลยมีการคืนยศถาบรรดาศักดิ์ให้กับนายพลนามิ อีกทั้งยังได้สร้างสุสานไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงนายพลนามิบนเกาะแห่งนี้ด้วย
สำหรับเกาะนามิ (Nami Island) นั้น ถือเป็นหนึ่งสถานที่เที่ยวสุดป๊อบที่คนเกาและนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเยอะมากกก เราจะได้สัมผัสไปกับธรรมชาติ เหล่าต้นไม้ และป่าสนที่มีอยู่เต็มพื้นที่ของเกาะไปหมด เป็นมู้ดที่โรแมนติกมาก แถมยังได้เพลินไปกับเหล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยบนเกาะที่แอบวิ่งผ่านมาทักทายเราอยู่เป็นระยะๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากๆ อีกทั้งบรรยากาศก็ดี เที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย โดยในเดือนธันวาคมปี 2010 UNICEF ประกาศให้เกาะนามิ (Nami Island) เป็นสวนสาธารณะที่เป็นมิตรกับเด็ก ซึ่งทั้งโลกนั้นมีเพียง 14 สวนสาธารณะเท่านั้นน้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พิเศษมากๆ ในเกาหลีเลยแหละ
โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเค้านิยมมาที่นี่ คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะต้นไม้บนเกาะจะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะตามต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนใบเป็นสีเหลืองสดสวยงามมาก นึกภาพว่าเราเดินท่ามกลางอุโมงค์ใบไม้สีเหลืองๆ มู้ดมันดีย์ไม่ไหว ซึ่งความพิเศษของเกาะนามิ (Nami Island) อีกอย่างเลยคือ ไม่ว่าเราจะมาเที่ยวในฤดูกาลไหน บรรยากาศของที่นี่ก็ยังสวยหมดทุกซีซั่น ยิ่งถ้าใครมาตามเก็บในหลายๆ ฤดูกาลนะ ทุกคนจะได้เห็นมู้ดของ เกาะนามิ (Nami Island) ที่แปลกตาแตกต่างกันออกไป บอกเลยว่าสวยไม่ซ้ำกันเลยเชียวล่ะ
ยังไม่หมดเท่านั้น เกาะนามิ (Nami Island) ยังเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานเทศกาลนานาชาติในหลายๆ งาน ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลหนังสือนานาชาติ, YoPeFe การแสดงเต้นรำ รวมถึงมีกิจกรรมเกี่ยวกับบทเพลงของเด็กวัยรุ่นต่างชาติ ที่เค้าจะให้ทุกคนมาร้องเพลง เต้นรำ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันไป เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมนานาชาติอีกกแห่งในเกาหลีเลย
นอกจากนี้บริเวณบนเกาะนามิ (Nami Island) ยังมีสวนสนุก สวนน้ำ ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม และยังมีลานกิจกรรมที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดงทุกๆ สัปดาห์อีกด้วย ใครที่อยากจะมาพักค้างคืนบนเกาะก็สามารถจองโรงแรมเข้ามาได้เน้อ แต่ถ้าใครมาเที่ยว One Day Trip แบบก๊อต และอยากเที่ยวให้ทั่วทั้งเกาะนามิ (Nami Island) ก๊อตแนะนำให้เช่าจักรยานปั่นเล่นนะ หรือถ้าขี้เกียจอยากออมแรง เค้าก็มีรถไฟชมวิวที่จะวิ่งทั่วเกาะ พาเราไปดูวิวกันแบบชิลๆ นั่งสวยๆ รับลม เหมาะกับการเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์มากก
การเดินทางมาเกาะนามิ (Nami Island) ด้วยตัวเอง
ก๊อตเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะมาเที่ยวเกาะนามิ (Nami Island) จากโซลกันเนอะ โดยวิธีการเดินทางนั้นต้องมีการต่อรถกันนิดหน่อย โดยวิธีที่ง่ายสุดและสะดวกที่สุดเลยก็คือการนั่งรถไฟ และต่อรถไปยังเท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะนามินั่นเอง ส่วนใครที่ไม่สะดวกเดินทางหลายต่อแบบแบบนี้ เราจะซื้อทัวร์ก็สะดวกไปอีกแบบ เพราะเค้าจะพาเรานั่งรถบัสตรงไปยังเกาะนามิได้เล้ย เลือกแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนได้เลยครับโผมม
วิธีการเดินทางจากโซล (Seoul) ไปเกาะนามิ (Nami Island)
1. เดินทางจากโซล (Seoul) ไปยัง ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) ด้วยรถไฟ ITX
สำหรับการเดินทางมาเกาะนามิ จากโซลนั้น วิธีง่ายๆ เลยคือนั่งรถไฟ ITX ซึ่งเป็นรถไฟระหว่างเมือง โดยเราต้องนั่ง ITX ไปที่สถานีคาพยอง (Gapyeong) ก่อน ซึ่งในโซลเค้าจะมีสถานีรถไฟ ITX อยู่ 2 สถานีให้เลือกขึ้นคือ สถานีชองรยังนี (Cheongnyangni) เหมาะสำหรับคนที่อยู่ย่านเมียงดง และทงแดมุน และสถานียงซาน (Yongsan) เหมาะสำหรับคนที่อยู่โซล และย่านฮงแด
อัตราค่าโดยสาร
สถานี | ค่าโดยสาร | ระเวลาในการนั่ง |
จากสถานีชองรยังนี (Cheongnyangni) – สถานีคาพยอง (Gapyeong) | 5,700 วอน (~155 บาท) | 40 นาที |
จากสถานีสถานียงซาน (Yongsan) – สถานีคาพยอง (Gapyeong) | 6,900 วอน (~185 บาท) | 1 ชั่วโมง |
2. สถานีคาพยอง (Gapyeong) > ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf)
เมื่อออกมาจากรถไฟ ITX ที่สถานีคาพยอง (Gapyeong) แล้ว มันจะยังไม่ถึงเกาะนามิ โดยเราจะต้องต่อรถไปที่ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) ซึ่งเป็นจุดขึ้นเรือข้ามฟากไปที่เกาะนามิกันก่อน สำหรับการเดินทางไปที่ท่าเรือนั้น ก๊อตมีตัวเลือกมาให้เลือกเดินทางกัน 2 วิธี ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลย ใครสะดวกแบบไหนก็จิ้มที่ใช่ได้เลย
- รถเมล์ – เราสามารถเดินออกมาจากสถานีมาที่ป้ายรถเมล์ เพื่อรอขึ้นรถเมล์ได้เลย โดยรถเมล์ที่จะไปท่าเรือนั้นจะเป็นรถเมล์แบบทัวร์ชมเมือง (Gapyeong City Tour Bus) ซึ่งจะพาเราไปส่งลงบริเวณท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) สำหรับค่าโดยสารอยู่ที่ราคา 8,000 วอน (~215 บาท)
- แท็กซี่ – ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว และสะดวกสบายขึ้นมาหน่อย ให้เลือกขึ้นแท็กซี่ได้เลย โดยจะมีแท็กซี่มาจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ข้างถนนตรงสถานีคาพยอง (Gapyeong) เสร็จสรรพ ในส่วนของราคานั้นก๊อตไม่ชัวร์ว่าเท่าไหร่ แต่จากที่ไปหาข้อมูลมาให้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 วอน (~110-135 บาท)
3. ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) > เกาะนามิ (Nami Island)
เมื่อเรามาถึงยังท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) แล้ว ถึงเวลาที่เราได้ข้ามไปยังเกาะนามิแล้ว! ตรงนี้เราจะมีสองตัวเลือกนั่นคือ การนั่งเรือเฟอร์รี่ และสายแอดเวนเจอร์ Skyline Zip-wire ที่ให้เรานั่งสลิงโหนข้ามเกาะไป ซึ่งทั้งสองวิธีนั้น ราคาข้ามเกาะจะรวมบัตรค่าเข้าเกาะนามิเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ แต่ละคนสะดวกเดินทางกันแบบไหน อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเล้ย 55555
> นั่งเรือเฟอร์รี่ – นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเลือกนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะนามิกัน โดยเราสามารถนั่งเรือข้ามฟากได้ที่ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) โดยราคาเค้าจะมาเป็นแพ็คเรือข้ามเกาะแบบไป-กลับ รวมกับตั๋วค่าเข้าเกาะนามิ เรียบร้อยแล้ว โดยราคาจะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้เลย
อายุ | บัตรเข้าเกาะนามิ (Nami Island) + ตั๋วเรือเฟอร์รี่ไป-กลับ |
ผู้ใหญ่ (18-69 ปี) | 16,000 won (~430 บาท) |
ผู้สูงอายุ (70 ปีขึ้นไป) | 13,000 won (~350 บาท) |
วัยรุ่น (13-17 ปี) | 13,000 won (~350 บาท) |
เด็ก (3-12 ปี) | 10,000 won (~270 บาท) |
เด็ก (อายุต่ำกว่า 3 ปี) | ฟรี |
บอกก่อนว่าแต่ละวันนั้น มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกาะนามิเยอะมากนะ หากใครขี้เกียจต่อแถวซื้อบัตรเข้าเกาะนามิ รวมถึงตั๋วเรือข้ามเกาะ เราสามารถซื้อล่วงหน้าจาก Klook แล้วเดินตัวปลิวโดยการแสกน QR Code ได้ที่เกททางเข้าได้เล้ย [คลิกซื้อผ่าน Klook]
> ขึ้น Skyline Zip-wire – สำหรับสายแอดเวนเจอร์หน่อยๆ สามารถเลือกข้างเกาะด้วยสลิงได้ด้วย โดยเราสามารถขึ้น Skyline Zip-wire ได้ที่ท่าเรือคาพยอง (Gapyeong Wharf) (ที่เดียวกับที่ขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะนามิ) โดยเค้ามีข้อจำกัดว่าคนขึ้นต้องมีความสูงระหว่าง 140-200 ซม. และน้ำหนักอยู่ระหว่าง 35-120 กิโลกรัมเท่านั้น สำหรับค่านั่งสลิง Skyline Zip-wire นั้น จะอยู่ที่ 49,900 won (ราวๆ ~1,350 บาท)
สำหรับการขึ้นนั่งสลิง Skyline Zip-wire จะแอดเวนเจอร์และตื่นเต้นแล้ว ระหว่างทางที่เราข้ามไปยังเกาะนามิ เรายังได้สามารถดูวิวมุมสูงของเกาะแบบเต็มตาได้อีกด้วย แต่ที่ควรรู้เลยก็คือ การโหนสลิงจะมีแค่ขาไปเท่านั้น ขากลับเรายังต้องนั่งเรือออกมาเนอะ
สำหรับคนที่ต้องการนั่ง Skyline Zip-wire สามารถจองผ่านออนไลน์ล่วงหน้าได้เลย จะได้ไม่ต้องยืนรอคิวให้เมื่อยขา [คลิกซื้อผ่าน Klook]
เที่ยวเกาะนามิกับทัวร์
สำหรับคนที่ขี้เกียจเดินทางไปเกาะนามิ (Nami Island) ด้วยตัวเอง และไม่ได้อยากเก็บเฉพาะแค่เกาะนามิ ที่เกาหลีเค้ามีทัวร์หลากหลายโปรแกรมให้เราเลือกไปเที่ยวด้วยนะเออ โดยเค้าจะแพ็ครวมเกาะนามิกับที่เที่ยวใกล้เคียงอย่างเช่น หมู่บ้านฝรั่งเศส (Petite France), หมู่บ้านอิตาลี (Italian Village), สวน Garden of Morning Calm และสวนอัลปาก้าเวิลด์ (Alpaca World) อีกด้วย ถือเป็นทัวร์ที่เดินทางสะดวกสบาย เก็บที่เที่ยวหลายที่ภายในวันเดียว แต่ก็แลกมาด้วยเวลาเที่ยวในแต่ละสถานที่ที่อาจจะน้อยนิดฟีลฉิ่งฉับซักหน่อย ใครที่อยากไปทัวร์ก็ลองดูได้เลย
> ดูลิส์ทัวร์ไปเกาะนามิทั้งหมด [คลิก]
วิธีเดินทางเที่ยวในตัวเกาะนามิ
เกาะนามิ (Nami Island) เค้ามีพื้นที่กว้างกว่า 460,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กว้างมากๆ อีกทั้งภายในเกาะของเค้ายังมีจุดท่องเที่ยวที่หลากหลาย สำหรับใครที่ขี้เกียจเดิน เค้าก็มีออฟชั่นการเดินทางภายในเกาะมาให้เราได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการเช่าจักรยานปั่น หรือเช่าเป็นจักรยานไฟฟ้า ไปจนถึงการนั่งสวยๆ ชมวิวบนรถไฟ โดยก๊อตได้รวมเอาข้อมูลการเดินทางภายในเกาะมาให้เลือกกันตามชอบ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกที่ถูกใจได้เลย
1. Bike Center
เค้าจะให้บริการเช่าจักรยานรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าจักรยานปกติทั่วไปที่ใช้แรงคนปั่น โดยเค้ามีให้เลือกทั้งแบบเบาะเดี่ยวและแบบเบาะคู่ อีกทั้งยังมี Sky-bike จักรยานลอยฟ้า รวมถึงจักรยานไฟฟ้า ให้เราได้เลือกอีกด้วย ซึ่งราคาและรายละเอียดในการเช่าตามข้อมูลด้านล่างนี้เลย
- จักรยานทั่วไป
- จักรยานสำหรับ 1 คน
30 นาที ราคาเช่าอยู่ที่ 5,000 วอน (~135 บาท)
1 ชั่วโมง ราคาเช่าอยู่ที่ 8,000 วอน (~215 บาท) - จักรยานสำหรับ 2 คน
30 นาที ราคาเช่าอยู่ที่ 10,000 วอน (~270 บาท)
1 ชั่วโมง ราคาเช่าอยู่ที่ 16,000 วอน (~430 บาท)
- Sky-bike จักรยานลอยฟ้า
ต่อมาจะเป็น Sky-bike จักรยานลอยฟ้าที่เราจะได้ขึ้นไปอยู่บนจักรยานที่เค้าจะพาเราเคลื่อนตัวไปบนรางมุมสูง เหมาะกับคนขี้เกียจปั่น เน้นนั่งชมวิว ค่าขึ้นสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 3,000 วอน (~80 บาท) และเด็กอยู่ที่ 2,000 วอน (~55 บาท)
- จักรยานไฟฟ้า
สุดท้ายคือ จักรยานไฟฟ้า อันนี้เหมาะกับคนไม่อยากเสียเหงื่อ และไม่ชอบความสูง ฮ่าๆ โดยมีค่าเช่าอยู่ที่ 12,000 วอน (~320 บาท) สำหรับ 30 นาที
2. นั่งรถไฟ UNICEF
ใครที่อยากนั่งสวยๆ ไม่ต้องใช้อะไร สามารถนั่งรถไฟเป็นรอบๆ ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งความพิเศษของรถไฟที่เค้าใช้กันในเกาะนามินั้น คือเค้าเป็นรถไฟเพื่อการกุศลของ UNICEF เลย ก๊อตแนะนำว่าใครจะเลือกขึ้นรถไฟ อยากให้ขาเดินเข้าไปด้านในของเกาะนามิ ให้เราลองเดินดูก่อนเพื่อที่เราจะได้เดินแวะตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย ส่วนตอนขากลับมา เมื่อเราเหนื่อยๆ แล้วค่อยนั่งรถไฟออกมาก็ได้ เพราะด้วยความที่รถไฟมีจุดขึ้นแค่ 2 สถานี เราไม่สามารถลงเที่ยว หรือแวะถ่ายรูปตามจุดแลนด์มาร์คต่างๆ ได้ ซึ่งค่าขึ้นรถไฟจะอยู่ที่เที่ยวละ 3,000 วอน (~80 บาท) ต่อคน
3. เดินด้วยตัวเอง
ใครที่อยากจะดื่มด่ำกับธรรมชาติของเกาะนามิ ก๊อตแนะนำว่าให้ลองเดินทั้งขาเข้าไป และขาออกมาเลย ข้อดีของการเดินคือเราจะได้ลัดเลาะ แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้ตามชอบเลย ซึ่งก๊อตก็เลือกวิธีนี้แหละ 5555
ที่เที่ยวในเกาะนามิ (Nami Island)
อย่างที่ก๊อตบอกไปตอนต้น ด้วยความที่เกาะนามิ (Nami Island) มีพื้นที่ภายในกว้างมาก และมีจุดให้เราเที่ยวเยอะ ตัวก๊อตเองไม่ได้เดินเที่ยวครบทุกจุดในแผนที่ แต่ก็เลือกไปตามเก็บเหล่าแลนด์มาร์คมาให้ได้เยอะที่สุด ซึ่งใครยังไม่ได้แพลนเดินเที่ยวภายในเกาะ สามารถยึดตามรีวิวก๊อตได้เลย คอนเฟิร์มว่าทุกจุดที่ไปมานั้น ถ่ายรูปสวยสับเลยเชียว
ข้อมูลแน่นแล้ว
ไปเที่ยวเกาะนามิ (Nami Island) กันเล้ยย
หลังจากนั่งเรือมาสักพัก ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะนามิ (Nami Island) ที่มีป้ายต้อนรับพร้อมด้วยธงนานาชาติหลากหลายประเทศพร้อมต้อนรับอยู่ ตั้งแต่ทางเข้าเกาะ เค้าจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Information Center) ใครที่มาเที่ยวแล้วยังไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยว่าเกี่ยวกับการเที่ยวในเกาะนามิ เราสามารถเดินเข้ามาถามเค้าได้เลย ตรงบูทเค้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ตลอดเวลาเลย
นอกจากนี้ บริเวณนี้เค้ายังมีมุมให้เราถ่ายรูปเล่นได้อีกเยอะเล้ย ทั้ง Installation Art รูปหนังสือขนาดใหญ่ และมีต้าวตุ๊กตาหิมะคู่ที่เปรียบเหมือนมาสคอตของเกาะนามิมาคอยต้อนรับกันอีกด้วย โดยเจ้าตุ๊กตาหิมะน่ารัก 2 ตัวนี้ น้องเป็นส่วนหนึ่งในฉากของหนังเรื่อง Winter Sonata ที่พระเอก-นางเอก เค้าปั้นร่วมกันนั่นเอง นอกจากนี้เค้ายังมีพร๊อพหลากหลายมุมให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันตั้งแต่ยังไม่เข้าไปด้านในของเกาะนามิ อย่างก๊อตเองก็ก็ไปยืนถ่ายกับตู้ไปรษณีย์สีแดง ที่เราสามารถซื้อโปสการ์ดแล้วส่งกลับให้ตัวเองที่ประเทศไทยได้ด้วยเน้อ มุ้งมิ้งกันตั้งแต่ทางเข้าเกาะเลย
ถนนอุโมงค์ต้นสน (Central Korean Pine Tree Lane) + สวนเมเปิ้ล (Baekpungmilwon Maple Garden)
เอาล่ะ ตามก๊อตเข้าไปเที่ยวข้างในเกาะนามิกัน อย่างที่บอกไปว่าก๊อตนั้นเดินเที่ยวในเกาะนิเอง ไม่ได้เช่าจักรยานหรือนั่งรถไฟเที่ยวแต่อย่างใด ฉะนั้นรูทเที่ยวของเราเลยจะออกไปทางตามใจฉัน ซอกแซกไปเรื่อยๆ 55555 ซึ่งพอเราเดินเข้ามาจากท่าเรือจะเจอเข้ากับถนนเส้นหลักของเกาะที่ทอดยาวเข้าไปข้างในเกาะจนสุดสายตา ซึ่งอย่างแรกเลยที่เราจะเจอก็คือ ถนนอุโมงค์ต้นสน (Central Korean Pine Tree Lane) สุดโรแมนติก หนึ่งในจุดป๊อบของเกาะนามิ ที่ใครต่อใครต่างมาถ่ายรูปกัน บรรยากาศตรงนี้จะเป็นต้นสนสูงปลูกกเรียงรายไปตามสองข้างทางของถนน โอบล้อมเส้นทางเดินเอาไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนก๊อตกำลังเดินเล่นอยู่ในอุโมงค์เลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
โดยช่วงที่ก๊อตไปนั้น ใบของต้นสนทั่วทั้งบริเวณเป็นสีเขียวขจีปกคลุมไปทั่วทั้งเส้นถนน มู้ดมันโรแมนติกและอบอุ่นสุดๆ ยิ่งจังหวะที่ก๊อตเดินเล่นถ่ายรูปอยู่ ก็จะมีใบของต้นสนปลิวหล่นลงมาตลอดสาย เป็นบรรยากาศที่ละมุนๆ แบบที่ไหนก็ทำไม่ได้ ต้องบอกว่าถนนอุโมงค์ต้นสนเค้าให้อารมณ์น่ารักกุ๊กกิ๊ก หลายคนมากับแฟนและเดินจูงมือกันเข้าไป โอ้โห โคตรโรแมนติกจริงๆ
บริเวณถนนนี้ไม่ได้มีแต่ต้นสนนะ เราสามารถเดินลัดเลาะออกไปด้านข้างฝั่งขวาของอุโมงค์ต้นสนได้เลย (ยึดฝั่งจากการหัวหน้าเข้าหาถนนเส้นหลัก) เค้าจะเป็นสวนเมเปิ้ล Baekpungmilwon Maple Garden ที่มีทั้งสนามหญ้าสีเขียวโล่งสบายตาให้ได้มาเดินเล่นเช่นกัน อีกทั้งยังมีป้าย Nami Island อันใหญ่ให้เราได้มาถ่ายรูปลงโซเชียลว่าเรามาถึงเกาะนามิแล้วจริงๆ นอกจากนี้ไม่ไกลกันมากจะเป็นทางเดินขึ้นเนินภูเขาที่เค้าเรียกว่า ‘Moon Hill’ ที่เราสามารถไปวิ่งเล่นอีกด้วย ก๊อตว่าโซนนี้เด็กๆ น่าจะต้องชอบ เพราะพวกเค้ามีพื้นที่วิ่งเล่นเยอะแยะเลย
ถนนต้นแปะก๊วย (Ginkgo Tree Lane)
เดินต่อเข้ามาจนถึงสี่แยกหลักของเกาะนามิ (Nami Island) จากจุดนี้ หากเราเดินหน้าต่อขึ้นไปทางตรงจะเจอเข้ากับ ถนนต้นแปะก๊วย (Ginkgo Tree Lane) อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นไม่แพ้อุโมงค์ต้นสนที่ก๊อตเพิ่งจะเดินผ่านเข้ามา บวกกับมู้ดความโรแมนติกของใบแปะก๊วยสีเขียวไปจนเหลือง ที่ปลูกเรียงรายอยู่สองข้างถนนเป็นภาพที่หนุบหนับหัวใจมาก
โดยช่วงที่ก๊อตไปนั้นเป็นช่วงช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ใบไม้ต่างๆ จะเป็นสีเขียวชะอุ่ม ซึ่งหากใครมาฤดูอื่นๆ นั้น ใบไม้เค้าก็จะมีสีที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม-พฤศจิกายน) ทั่วทั้งเกาะจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ส้ม ตามแต่ละสายพันธุ์ของต้นไม้ ช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม -มกราคม) จะเป็นช่วงใบไม้เค้าผลัดใบไปหมด แต่จะได้มู้ดต้นไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสุดแสนจะโรแมนติกแทน แต่ถ้าใครชอบความสดใสของดอกซากุระ ก๊อตแนะนำให้มาที่เกาะนามิในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) ซึ่งเป็นช่วงที่คาบเกี่ยวกับเทศกาลดอกซากุระบานของประเทศเกาหลี โดยเกาะนามินั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดดูดอกซากุระบานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย
ใครที่ถ่ายรูปเล่นเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินแวะไปฝั่งขวาของ ถนนต้นแปะก๊วย (Ginkgo Tree Lane) จะมีสวน Changpyeongwon Garden ที่เป็นสนามหญ้าสีเขียวสวยๆ มีต้นแปะก๊วยปลูกเป็นแนวอย่างเป็นระเบียบ เพิ่มความร่มรื่นไปอีกเท่าตัว เหมาะมานั่งดื่มด่ำกับธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจเพลินๆ ก่อนไปลุยเที่ยวต่อจริงๆ
อุโมงค์ต้นสน (Metasequoia Lane)
ก๊อตเดินตัดออกมาจากสวนมาต่อที่ อุโมงค์ต้นสน (Metasequoia Lane) ซึ่งจากสี่แยกหลักของเกาะ หากเราหันหน้าไปยังถนนต้นแปะก๊วย ให้เราเลี้ยวขวาแล้วเดินตามทางมายังอีกหนึ่งถนนอุโมงค์ชื่อดังได้เลย ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปสวยม๊ากกก อุโมงค์ต้นสนที่สูงชะลูดฟ้า ปลูกเรียงอยู่สองข้างทางเป็นอุโมงค์ยาวเข้าไปให้ได้มายืนถ่ายรูปเล่น ฟีลต้นสนโอบกอดเว่อร์ บรรยากาศดีไปหม๊ดด
หากเราเดินบนนถนน อุโมงค์ต้นสน (Metasequoia Lane) ไปจนสุดทางจะมีแม่น้ำที่เราสามารถเดินเลียบแล้วชมวิวได้แบบเพลินๆ ส่วนฝั่งซ้ายของอุโมงค์จะมี Installation รูปปั้น Mother-and-Child Statue รูปปั้นแม่ลูกขนาดใหญ่ที่อยู่อยู่ในท่าทางกำลังให้นมลูก โดยรูปปั้นนี้เค้าต้องการสื่อให้เห็นถึงความรักและความเอาใจใส่ที่แม่มีต่อลูกนั่นเอง
รูปปั้นพระเอก-นางเอกเพลงรักในสายลมหนาว (Winter Sonata Statue)
ด้านขวาของ อุโมงค์ต้นสน (Metasequoia Lane) ถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของเกาะนามิ ใครที่มาเที่ยวเกาะนามิ หรือเป็นแฟนซีรีย์เพลงรักในสายลมหนาว (Winter Sonata) ไม่มาถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นพระเอก-นางเอก ถือว่ามาไม่ถึงเกาะนามินะเอ้อ โดยรูปปั้นโลหะที่เราเห็นนั้นเป็นไซซ์ขนาดเท่าตัวจริง ของ Kang Joon-sang และ Jeong Yoo-jin พระเอก-นางเอกในเรื่องที่ตั้งอยู่ท่ามกลางวิวของต้นสนด้านหลัง เป็นจุดแลนด์มาร์คของเกาะที่นักท่องเที่ยวเค้ามาต่อคิวรอถ่ายกันเยอะมาก บางคนก็มากันเป็นคู่รัก แล้วมายืนโพสต์ท่าทางเหมือนหุ่นเป๊ะ ดูแล้วน่ารักมุ้งมิ้งเลยเชียวล่ะ
สวนโทดัมซัมบง (Dodamsambong Garden)
ติดกันกับ รูปปั้นพระเอก-นางเอกเพลงรักในสายลมหนาว (Winter Sonata Statue) ก๊อตแนะนำให้เรามาเดินที่ สวนโทดัมซัมบง (Dodamsambong Garden) กันต่อได้เลย บรรยากาศเค้าร่มรื่น รายล้อมไปด้วยสระน้ำ และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกกันอยู่ทั่วทั้งบริเวณสวน โดยเค้าทำสะพานไม้ทอดยาวไปตามตัวสระให้เราได้เดินชมธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งสวนที่น่ารัก เดินเล่นได้ชิลๆ ใครเดินมาถึงสวนโซนนี้อย่าลืมส่องดูในสระกันด้วย เพราะมีน้องปลาคราฟตัวใหญ่มากมายว่ายวนเวียนไปมาอยู่ในสระให้ได้ยลโฉมด้วย
ใกล้ๆ กันกับ สวนโทดัมซัมบง (Dodamsambong Garden) เค้าจะมีลานกว้างหลากหลายโซนที่คนเกาเค้าจะชอบมาตั้งแคมป์ กางทาร์ป นั่งกินลมชมวิวในสวนกันเยอะมาก แน่นอนว่าด้วยบรรยากาศและธรรมชาติของเกาะนามิที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เกาะนามิเองเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่คนเกาเค้านิยมชมชอบมาตั้งแคมป์ นั่งปิกนิกกันเยอะมาก ละเค้าไม่ได้มาเล่นๆ ด้วยนะ แต่ขนอุปกรณ์ตั้งแคมป์มาตั้งกันแบบจัดเต็มเลย ใครอยากมาลองตั้งแคมป์ดู จะขนอุปกรณ์มาจากบ้านเอง ก็ไม่ว่ากัน
สะพานแห่งจูบแรก (First Kiss Glass Sequoia Bridge)
เดินชิลจนเริ่มเปื่อย ถึงเวลาเดินกลับไปยังท่าเรือแล้ว โดยก๊อตเดินกลับไปสู่ถนนอุโมงค์ต้นสน (Central Kkorean Pine Tree Lane) เส้นเดิมที่เดินมาตอนแรก โดยระหว่างทางก็มีเดินเข้าไปแวะเวียนตามจุดต่างๆ อีกฝั่งที่ตอนแรกเราไม่ได้เดินเข้าไปทั้ง สะพานแห่งจูบแรก (First Kiss Glass Sequoia Bridge) สะพานไม้ขนาดย่อมๆ ที่สองฝั่งประดับประดาไปด้วยกระจกใส และขวดแก้วสีเขียวติดไว้ โดยสะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในฉากสุดโรแมนติกในหนัง Winter Sonata Statue ที่พระเอก-นางเอก เข้ามาจูบแรกกันที่นี่
โดยบรรยากาศก็จะมีคู่รักคนเกา และนักท่องเที่ยวต่างชาติ มายืนสวีทถ่ายรูปหวานหยดย้อยกันอยู่ ซึ่งหากเรามาเที่ยวที่นี่ช่วงหน้าหนาว สะพานแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวไปทั่วบริเวณ โรแมนติกเหมือนหลุดเข้าไปในซีรีย์เพลงรักในสายลมหนาว (Winter Sonata) จริงๆ เลย ใครที่มาตามรอยซีรีย์เรื่องนี้ อย่าลืมมาตามเก็บมุมนี้ไปด้วยนะ
หากเราเดินลึกเข้าไปจากตัวสะพานแห่งจูบแรก (First Kiss Glass Sequoia Bridge) มากนัก ตรงนั้นจะเป็น Winter Sonata Garden โดยเค้าที่นั่งปิกนิกพร้อมกับมาสคอตตุ๊กตาหิมะ 2 ตัวตั้งอยู่บนเก้าอี้ด้วยนะ ตัวก๊อตเองไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยเพราะตอนนั้นมีครอบครัวชาวเกาเค้านั่งปิกนิกกันอยู่ ก๊อตเลยเลือกถ่ายกับตุ๊กตาหิมะตัวใหญ่ด้านข้างแทน ซึ่งน้องก็ตัวบิ๊กเบิ้มน่ารักเป็นที่สุด มาถึงเกาะนามิเค้าทั้งที ก็อย่าลืมมาถ่ายรูปกับน้องมาสคอตเค้าด้วยนะ จริงๆ เค้ามีตั้งอยู่ทั่วบริเวณของเกาะนามิเล้ย
อีกจุดที่ถ่ายรูปสวย และเป็นจุดถ่ายรูปฮิตใน Instagram ก็คือตามทางรถไฟที่วิ่งแล่นอยู่ในเกาะนามิ ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีโครงไม้และดอกไม้น่ารักๆ แต่แม้ตามทางรถไฟกับบรรยากาศต้นไม้ร่มรื่น บอกเลยว่ามู้ดรูปมันดี ใครชอบตรงไหนสามารถแวะถ่ายรูปเล่นได้เลย แต่ก่อนจะถ่าย ก๊อตอยากให้ทุกคนดูทางและจังหวะของรถไฟให้ดีก่อน โดยให้เราถ่ายเฉพาะตอนที่รถไฟยังไม่มาเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนน้า
สุสานนายพลนามิ (Tomb of General Nami)
ถ่ายรูปจนเมมกล้องร้องขอชีวิตแล้ว นี่ก็เดินเลียบมาตามทางรถไฟเรื่อยๆ จนถึง สุสานนายพลนามิ (Tomb of General Nami) สถานที่สุดท้ายก่อนอำลาจากเกาะนามิไป โดยก่อนหน้านี้ก๊อตได้บอกไปแล้วว่าชื่อของเกาะนามิ (Nami Island) นั้นมาจากชื่อของนายพลนามิ ซึ่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 28 ปี หลังจากถูกกล่าวหาว่าขายชาติ และทรยศในรัชสมัยของกษัตริย์เซโจกษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์โชซอนของเกาหลี ก่อนจะถูกประหารชีวิตพร้อมกับแม่และข้ารับใช้ 25 คน จนต่อมาได้มีการสืบสวนสอบสวนคดีของนายพลนามิใหม่อีกครั้ง ทำให้รู้กันว่านายพลนามิเป็นผู้บริสุทธิ์ และข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลปลอมนั้นเอง ทางการในสมัยนั้นเค้าเลยคืนยศถาบรรดาศักดิ์ให้กับนายพลนามิ และได้มีการสร้างอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงนายพลนามิบนเกาะแห่งนี้ด้วย โดยเค้าเชื่อกันว่าศพของนายพลนามิ ถูกฝังไว้บนเกาะแต่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าจริงๆ แล้วฝังอยู่ตรงไหน
ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีคนเกาเค้าเดินมาทำความเคารพที่ด้านหน้าของหลุมศพบ้างเป็นประปราย โดยตัวหลุมศพก็จะเป็นฐานปูนทรงกลม และมีเนินดินทับอยู่ด้านบน บริเวณรอบๆ จะเป็นลานหญ้าโล่งๆ รอบด้วยกำแพงอีกรอบ ท่ามกลางต้นไม้นานาชนิด ที่เดินมาถึงแล้วรู้สึกถึงพื้นที่ที่เป็นความสงบอย่างแท้จริงเลย ซึ่งพอก๊อตเดินดูจนพอใจแล้ว ก็เป็นอันว่าจบทริปเที่ยวบนเกาะนามิในครั้งนี้ ถึงเวลาเดินกลับออกมาที่ทางออก เพื่อมารอขึ้นเรือเพื่อกลับเข้าฝั่ง
ทั้งหมดนี้ก็คือทริปเที่ยวเกาะนามิ (Nami Island) ของก๊อตที่ไปมาแบบ One Day Trip ส่วนตัวก๊อตแล้ว เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะที่เราสามารถมาเที่ยวได้ทุกซีซั่นเลย จะมาช่วงไหน ฤดูอะไรก็คือสวยสับไปหมด แถมบรรยากาศของเค้าก็ยังโรแมนติกสุดๆ เหมาะชวนคุณแฟนมาเดินทอดน่องเติมความหวานมาก อีกทั้งธรรมชาติของที่นี่ก็งดงามและมีความอุดมสมบูรณ์ที่ถูกดูแลรักษามาเป็นอย่างดี ทำให้ไม่ว่าก๊อตจะเดินไปเที่ยวในจุดไหนๆ ก็ประทับใจ และรู้สึกเพลินมาก นอกจากนี้บนเกาะเค้ายังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่เยอะม๊ากกก คือมีให้เลือกกินแบบละลานตา เอาเป็นว่าใครมาเที่ยวเกาหลี ก๊อตอยากให้ลองมากันดูนะ แนะนำว่าให้ขึ้นเรือมาตั้งแต่รอบเช้าๆ แล้วกลับรอบสุดท้ายของวันเลยก็ได้ เราจะได้เที่ยวภายในเกาะนามิ (Nami Island) ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งที่เที่ยวในรอบนี้เป็นแค่บางส่วนหลักๆ จากทั้งหมดเท่านั้น ภายในเกาะเค้ายังมีอีกหลายโซนที่เราไม่ได้เดินไปสำรวจกัน ไว้รอบหน้ากกลับมาใหม่จะมาตามเก็บเพิ่ม เอาเป็นว่าใครชอบที่เที่ยวแนวธรรมชาติๆ แต่ยังคงบรรยากาศหวานๆ โรแมนติก เกาะนามิ (Nami Island) นี่ตอบโจทย์มาก
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡