อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เมืองท่องเที่ยวโคตรฮิตอีกเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันฮิต เพราะมันสวยม๊ากและต้องมาเว้ย โดยเมืองเค้าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งที่เราสามารถนั่งเรือครูซล่องเพื่อดูวิวสวิสแบบสวยๆ เก๋ๆ ได้ นอกจากนี้ ใครที่อยากไปเที่ยวยอดเขายุงเฟราชื่อดัง ก็สามารถไปได้จากเมืองนี้เช่นกัน โอ้ยย บอกว่าดีย์และห้ามพลาด ไปเที่ยวกันเล้ย
แพลนทริปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้ใหญ่ ถือเป็นประเทศเล็กๆที่สามารถเที่ยวได้ง่าย ซึ่งซีรีย์ของการเที่ยวสวิสครั้งนี้ ถือเป็นทริปยุโรปครั้งแรกในชีวิตของตัวก๊อตเองเลย (กรี๊ดดด) ซึ่งตัวก๊อตเองต้องขอบคุณโอกาสนี้ที่ได้ร่วมงานกับสายการบิน SWISS และทำให้ก๊อตได้สำรวจสวิตเซอร์แลนด์ได้เต็มอิ่ม 4 วัน กับ 4 เมือง นั่นก็คือ อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) มองเทรอซ์ (Montruex) เวอแว (Vevey) และโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งรีวิวก็จะมีทั้งหมด 4 เมืองที่บอกนี่แหละ และแน่นอนตามแบบฉบับ Hashcorner อ่านจบสามารถตามรอยได้เลยเด้อ ฮี่ฮี่
รีวิว อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)
รีวิว มองเทรอซ์ (Montruex)
รีวิว เวอแว (Vevey)
รีวิว โลซานน์ (Lausanne)
เที่ยวให้คุ้มด้วย Swiss Travel Pass
ใครจะมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ นี่บอกไว้เลยว่าควรซื้อ Swiss Travel Pass ไว้ด้วย ถ้าใครไปญี่ปุ่น อารมณ์มันจะคล้ายๆ กับ JR PASS แต่ของ Swiss Travel Pass จะแอดวานซ์กว่ามาก เพราะพาสนี้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้ทุกอย่างในสวิตเซอร์แลนด์เลย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ และรถประจำทางต่างๆ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และระยะทาง นอกจากนี้ Swiss Travel Pass ยังใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างพิพิธภัณฑ์ชื่อดังกว่า 500 แห่งในสวิสได้ฟรีอีก เอาเป็นว่า ทั้งหมดนี้มันรวมอยู่ในพาสหมดแล้วจ้า
⚡️สรุปความดีของ Swiss Travel Pass : ขึ้นรถไฟทั่วไป รวมถึงรถไฟชมวิวพาโนราม่าฟรี ซึ่งรวมทั้งรถไฟ Glacier Express, Golden Pass, Bernina Express และ Gotthard Panorama Express / ล่องเรือฟรีเยอะมาก นี่ล่องมาแล้วทั้งในอินเทอลาเคิน (Interlaken) และ มองเทรอซ์ (Montruex) นอกจากนี้ยังใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ได้เยอะมาก เช่น ปราสาทชิลยอง (Chillon Castle)
ถ้าถามว่าซื้อที่ไหน เจ้าประจำที่ก๊อตซื้อตั๋วทุกอย่างคือ KLOOK นั่นเอง ซึ่งในเว็บ KLOOK ก็อธิบายละเอียดมาก รวมถึงมีตัวเลือกพาสให้ซื้อหลากหลาย ทั้งแบบพาสแบบต่อเนื่อง 3, 4, 8 หรือ 15 วัน รวมถึงมีแบบ E-Ticket ด้วย นอกจากนี้ยังมี บัตร Swiss Half Fare Card และบัตร Swiss Transfer Ticket ขายครบอีก ยังไงลองเข้าไปดูที่ KLOOK ได้เลย
> เช็คราคาและซื้อ SWISS TRAVEL PASS จาก KLOOK
⚡️จากราคาด้านบน นี่อยากบอกว่า KLOOK เค้ามีส่วนลดประจำเดือนอีกนะเออ พาสราคาของเค้าว่าถูกแล้ว แต่มันจะถูกลงไปอีก ก๊อตแนะนำให้เรา เช็คส่วนลดประจำเดือนของ KLOOK ที่นี่ได้เลย คลิก
นั่งรถไฟ ซูริค (Zurich) -> อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)
อย่างที่บอกทริปสวิตเซอร์แลนด์รอบนี้มาแบบกระทัดรัดเว่อร์ เพราะเรามีเวลาแค่ 4 วันเท่านั้นเอง ลงจากเครื่องปุ๊ป นอนที่ ซูริค (Zurich) คืนนึงเพื่อพักเหนื่อย จากนั้นก็รีบตื่นเช้าเพื่อนั่งรถไฟมาเที่ยว อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เลย และการนั่งรถไฟจากซูริค (Zurich) -> อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) มานี่ ก็ถือเป็นอิมเพลสชั่นแรกของสวิสก๊อตเลยก็ว่าได้เหอะ แค่วิวระหว่างทางก็โคตรสวยนอนตายตาหลับ ถือเป็นภาพแรกสวิตเซอร์แลนด์ที่ดีมากจริงๆ งือ
เวลาเกือบสองชั่วโมงคือเต็มอิ่มมาก หิมะปุยหนาดูเหมือนแมชเมลโล่ขั้นสุด ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟ Interlaken Ost จากนั้นก็ลากกระเป๋าเพื่อฝากกระเป๋าเข้าโรงแรมก่อน โดยโรงแรมที่ก๊อตพักรอบนี้ ต้องกราบสายการบิน SWISS สำหรับสปอนเซอร์ครั้งนี้ที่เค้าให้ที่พักที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของเมืองอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เลยคือ The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa นั่นเอง กรี๊ดดด เอาเป็นว่าฝากกระเป๋าแล้วเที่ยวก่อนเด้อ (ดูรีวิวโรงแรมท้ายรีวิวนาจา 555555)
อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)
อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เป็นเมืองท่องเที่ยวและยังเป็นเมืองรีสอร์ทที่ดังม๊ากของสวิตเซอร์แลนด์เลย แถมชื่อเค้าก็ตั้งตรงตัวตามความหมายเลยว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทะเลสาบ โดยสองทะเลสบาบนั้นก็คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ที่ตั้งอยู่ขนาบข้างนั่นเอง
เริ่มแรกเราก็เดินเล่นในเมืองก่อนเลย โดยที่แรกที่ไปก็คือ สวนเฮอเฮ่อมัท (Hohematte) ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรม The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa นี่แหละ ตรงที่เราสามารถมองเห็นยอดเขาสามพี่น้องแห่งได้ทั้งยอดเขาไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Mönch) และยอดเขายุงเฟราย็อค (Jungfraujoch) ซ่งยอดเขาอันหลังนี่ เราสามารถนั่งรถไฟเพื่อไปยังยอดเขาได้ด้วย ซึ่งห้ามพลาดมาก แต่ก๊อตพลาดนะจ๊ะ เพราะทริปนี้มาแบบเร่งด่วน เลยไม่มีเวลาขึ้นนั่นเอง โอ้ย 555555555
เดินเล่นเอื่อยๆ เปื่อยๆ สุด ผ่านร้านรวงของที่ระลึก รวมถึงร้านนาฬิกาสวิสเยอะม๊าก เอ้อ มันก็เป็นเมืองที่เดินชิลมากเหมือนกันนะ เมืองไม่ใหญ่ เดินสบาย ใครอยากมาซื้อนาฬิกาก็จัดเลย เพราะร้านโคตรเยอะ ฮ่า
ล่องเรือทะเลสาบทูน (Lake Thun)
นี่เดินมาจนสุดปลายตรงท่าเรือ Interlaken West ใครที่ถือ Swiss Travel Pass อยู่ล่ะก็ แนะนำให้เรากระโดดขึ้นเรือได้เลย เพราะมันรวมอยู่ใน Swiss Travel Pass แล้วจ๊า แล้วเดี๋ยวเราจะไปล่องเรือทะเลสาบทูน (Lake Thun) กัน เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่ง Things To Do ที่ต้องทำเมื่อเรามาเที่ยว อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เล้ย
⚡️จริงๆ เราสามารถล่องเรือได้ทั้ง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) นาจา แต่ว่าหน้าหนาวเราจะไม่สามารถล่องทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) ได้ เพราะเค้าไม่เปิด (ไม่รู้เพราะเหตุผลใด อาจจะเกี่ยวกับเรื่องน้ำ) ส่วนทะเลสาบทูน (Lake Thun) สามารถล่องเรือได้ทั้งปีเล้ย
เนื่องจากหลายคนเค้าก็มาล่องเรือกินข้าวชมวิวชิลๆ กัน ด้วยความที่เราไม่ได้จะกินข้าว นี่ก็เลยขึ้นไปหลังเรือชั้นสองตรงที่เป็นห้องกระจกพาโนรามาที่เห็นวิวเต็มๆ ใครที่ไม่ได้ตั้งใจกินข้าวแบบนี่ก็มาห้องนี้ได้ คือโคตรดีย์ และวิวสวยมากกกกกกกกกกกก
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
นั่งเรืออยู่เป็นชั่วโมง จนถึงท่าเรือเมืองทูน (Thun) เมืองนี้ดูมีความเมืองมากกว่า อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) อีก แต่เนื่องจากนี่มีเวลาไม่มาก และมันเริ่มเย็นแล้ว ก๊อตก็เลยนั่งรถไฟกลับ อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เลย // ฮือ คือต้องบอกจริงๆว่า ทริปนี้ ก๊อตมาในนามสายการบิน SWISS เลยทำให้เวลาน้อยมาก เพราะจุดมุ่งหมายของทริปนี้ จริงๆ คือมาเที่ยวงานสกีเลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn Ski Race) ประจำปีนั่นเอง
แถม: ไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) – เลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn)
และนี่ขอเขียนแถมให้นอกเหนือจาก อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) นาจา คือทริปนี้จริงๆ คือเราจะไป งานแข่งสกีเลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn Ski Race) ประจำปี ซึ่นี่ถือเป็นงานแข่งสกีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเค้าจะจัดที่ภูเขาเลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn) ไม่ไกลจาก อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) นั่นเอง ทีนี้ตามแพลนก็คือ เราจะนั่งรถไฟไปยัง สถานีไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) ที่อยู่บนเทือกเขา เพื่อยังลานแข่งสกีต่อ ซึ่งถ้าใครที่จะไปเที่ยวยอดเขายุงเฟราย็อค (Jungfraujoch) เราก็ต้องมาที่สถานีไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) ก่อนเพื่อไปยังยอดเขาอีกต่อนั่นเอง ฮ่า
แต่เราน่ะไม่ไปรถไฟหรอก เพราะเราจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปยังสถานีไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) แทน บอกเลยว่ากรี๊ดมาก นี่คือการนั่งเฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกของก๊อตเลย วิวด้านบนคือสวย และมองเห็นวิวด้านล่างได้สุดยอดเว่อร์ // เอาจริง นี่ไม่รู้ราคา 555555555555
กรี๊ดมาก กรี๊ดมากจริงๆ เมื่อเรามาถึง ไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) แล้ว ก็เจอคนเยอะโคตร เพราะความที่มันเป็นงานสกีใหญ่ของยุโรป ทำให้ตอนนี้มีแต่ใส่รองเท้าสกี พร้อมไปเอ็นจอยกับงานแข่งเว่อร์ ถือเป็นภาพที่น่าสนุกจริง หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไปยังเลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn) ที่เป็นสนามแข่ง นั่นเอง
ระหว่างทางก็ได้ซึมซับบรรยากาศอันสวยงามของเทือกเขาสวิสแอลป์ (Swiss Alps) พร้อมกับบรรยากาศที่สนุกสนานของฝรั่งที่พร้อมจะไปเล่นและดูการแข่งสกีนั่นเอง
ใครที่อยากดู งานแข่งสกีเลาเบอร์ฮอร์น (Lauberhorn Ski Race) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยิ่งใหญ่ระดับโลกขนาดนี้ ก็ซื้อตั๋วเข้างานได้เด้อ เค้ามีทุกปีตอนเดือนมกราคมนี่แหละ มันดีมากกก มีการโชว์บินเครื่องบินด้วย เก๋ไก๋ หาดูได้ยาก เพราะมีครั้งเดียวในรอบปี้นาจา
// จบบบบ นี่คือของแถม แต่อยากเล่า เพราะถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี 5555555555
กิจกรรมยอดฮิตอื่นๆในอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)
ที่พักในอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)
The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa
สำหรับโรงแรมที่ก๊อตได้พักใน อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) ถือว่าพีคเอาเรื่อง เพราะก๊อตได้นอนในโรงแรมที่ดีที่สุดของอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) (นี่กล้าพูด เพราะเคลมโดยการท่องเที่ยวสวิส และสายการบิน SWISS เลยนะเว้ย) นั่นก็คือ The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa ที่เป็นโรงแรม 5 ดาว มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี ตั้งอยู่กลางเมืองด้านหน้าของ สวนเฮอเฮ่อมัท (Hohematte) เลยจ้าแม่ เว่อร์วังอลังการงานสร้างมาก นี่พูดจากใจเลย
ห้องพักที่ก๊อตได้นอนนั้นคือห้องแบบ Junior Suite Deluxe สำหรับสองคน (แต่นี่นอนคนเดียว) โดยตัวห้องนั้นโครตกว้าง แบ่งออกเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ ขนาดตัวห้องอยู่ที่ 40 ตร.ม. และวิวของห้องนั้นคืออยู่ด้านหน้าโรงแรมที่หันหน้าออกไปทางเทือกเขาสวิสแอลป์ (Swiss Alps) อีกด้วย ซึ่งเค้าจะมีระเบียงให้เราออกไปนั่งชิลได้ด้วย คือดีย์และฟินมาก
ภายในห้องต้องบอก เลิศเลอและเพอเฟ็ค สิ่งอำนวยความสะดวกครบมาก มีทั้งโต๊ะทำงาน โซฟาเบด มีเครื่องทำกาแฟที่เค้าจะเติมแคปซูลให้ฟรีตลอดเวลา เตียงนอนนอนสบาย และห้องน้ำที่ใหญ่อลังการ ส่วนเรื่องอาหารเช้านั้น ถือว่าดีและตัวเลือกเยอะมาก ห้องอาหารโคตรสวยและเลอค่า เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปห้องอาหารมาจ้า 555555
ถ้าใครที่สะดวกมาพักที่ The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa ก๊อตแนะนำจริงๆนะ ราคาอาจจะแรงหน่อย โดยราคาห้องต่ำสุดเริ่มต้นที่ 12,000 บาท/คืน ส่วนห้อง Junior Suite Deluxe ที่ก๊อตนอนนั้น จะเริ่มที่ 25,000 บาท/คืน เด้อ โลเคชั่นดี อาจจะไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟ แต่สามารถเดินได้สบาย เพราะอยู่กลางเมือง ไปไหนก็สะดวกอ่ะเออ
ราคาห้องพักเริ่มต้น 12,000 บาท/คืน ดูเรทและจอง The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
ดูเรทและจองผ่าน Agoda ดูเรทและจองผ่าน Booking ดูเรทและจองผ่าน Expedia ดูเรทและจองผ่าน Trip ดูเรทและจองผ่าน Hotels
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
2 comments
Swiss travel pass และ โรงแรม สามารถซื้อใน SWISS Stopover Program ได้ด้วยนะคะ https://stopover-switzerland.com/en/
โอ้ว ขอบคุณนะครับ 🙂