กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) หากใครมาเที่ยวหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen Valley) แล้วอยากดื่มด่ำกับหมู่บ้านบนภูเขา ท่ามกลางวิวสุดอลังการของเทือกเขาแอลป์สวิส (Swiss Alps) อีกหนึ่งหมู่บ้านน่ารักๆ ที่ก๊อตอยากพามารู้จักเลยก็คือ กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) หมู่บ้านอันเก่าแก่ที่เลื่องลือในเรื่องของการทำเกษตรบนที่สูงที่ยังคงวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี ทั้งการใช้ชีวิต การเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงเป็นหมู่บ้านไร้รถยนต์ ที่หากใครได้มาเที่ยวแล้ว ก๊อตมั่นใจเลยว่าทุกคนจะต้องตกหลุมรักที่นี่ จนอยากกลับมาเยือนหมู่บ้านสุดอบอุ่นแห่งนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน
รู้จักกิมเมลวาลด์ (Gimmelwald)
กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) หมู่บ้านเก่าแก่บนภูเขาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ถูกบันทึกชื่อไว้ครั้งแรกในเอกสารของ Baron Peter zum Turme บุคคลสำคัญแห่งหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen Valley) โดยในปี ค.ศ. 1346 เขาได้ขายที่ดินและทรัพย์สินบางส่วนในหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนินให้กับ อารามอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken Monastery) ซึ่งการขายที่ดินครั้งนั้นเอง ทำให้ชื่อของ กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) และหมู่บ้านอื่นๆ ถูกบันทึกไว้ในเอกสารเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ชื่อของกิมเมลวาลด์เป็นที่รู้จักกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่กว่าจะมาเป็นหมู่บ้าน กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) สุดอบอุ่นอย่างที่เราเห็นนี้ ก๊อตขอเล่าย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 13-14 ซึ่งเป็นยุคที่ชาว Walser กลุ่มชาติพันธุ์ที่สืบเชื้อสายมาจากชาว Alemannic ที่มีรากเหง้ามาจากแถบเยอรมันตอนใต้ สวิตเซอร์แลนด์ตะวันออก และออสเตรีย ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำเกษตรบนพื้นที่สูง เดิมทีพวกเขาอาศัยอยู่ในหุบเขาวาเลส์ (Valais) ในแคว้นวาเลส์ (Valais) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) แต่เมื่อประชากรเพิ่มขึ้นจนทรัพยากรเริ่มไม่เพียงพอ พวกเค้าจึงออกเดินทางเพื่อหาที่ดินทำกินแห่งใหม่ และได้กระจายตัวกันไปตั้งหลักปักฐาน สร้างหมู่บ้านอยู่ในหลายพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen Valley) ซึ่งเป็นที่มาของการก่อตั้งหมู่บ้านเล็กๆ อย่างเมอร์เรน (Murren) และ กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) นั่นเอง
แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี แต่ กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) ยังคงรักษาเสน่ห์ของหมู่บ้านดั้งเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งสถาปัตยกรรมบ้านไม้แบบ Walser ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่าย รวมถึงยังเป็น หมู่บ้านไร้รถยนต์ (Car Free) ทำให้ที่นี่เงียบสงบ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยๆ รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาและทุ่งหญ้าเขียวขจี ส่งผลให้ กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย และมาสัมผัสกับความเรียบง่ายอันแสนอบอุ่นอยู่ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
การเดินทางขึ้นไปยัง กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald)
สำหรับการเดินทางขึ้นไปยัง กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) นั้น ถือเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมาก ด้วยความเริ่ดของระบบขนส่งของสวิส ทำให้เราสามารถขึ้นไปยัง กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) ได้ด้วยกระเช้าและรถไฟ โดยวิธีการเดินทางขึ้นไปนั้นจะมีเส้นทางหลักๆ เมืองอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผู้คนนิยมใช้กันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยรูทการเดินทางของก๊อตจะเริ่มจากที่นี่ แล้วไล่เรียงไปเรื่อยๆ จนถึง กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) นั่นเอง
เส้นทางที่นิยมใช้กันคือ Interlaken > Lauterbrunnen > Gimmelwald
- Berner Oberland Bahn: นั่งรถไฟสาย Berner Oberland Bahn จากสถานีอินเทอร์ลาเคิน โอสท์ (Interlaken Ost) > เลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ใช้เวลาประมาณ 22 นาที โดยระหว่างทางจะผ่านเทือกเขาแอลป์ ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวๆ โดยมีแม่น้ำลูซชีน (Lütschine) ไหลคดเคี้ยวพาดผ่านไปตามหุบเขา และเมื่อเราเข้าใกล้เลาเทอร์บรุนเนิน จะได้เห็นน้ำตกชเตาบ์บัค (Staubbach Falls) ที่สูงเกือบ 300 เมตร และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย
- รถเมล์ PostBus สาย 141: จากสถานีรถไฟ Lauterbrunnen ไปยังสถานีกระเช้า Stechelberg ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถขึ้นรถเมล์ PostBus สาย 141 ได้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 12-15 นาที
- กระเช้าลอยฟ้า: ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Schilthornbahn จากสถานี Stechelberg ไปยัง Gimmelwald ใช้เวลาประมาณ 5 นาที โดยระหว่างทางเราสามารถมองย้อนกลับลงไปเห็นหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน ได้แบบเต็มสายตา
เที่ยวให้คุ้มด้วย Swiss Travel Pass
ใครจะมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะมาเที่ยวเมืองไหน ก๊อตแนะนำว่าควรซื้อ Swiss Travel Pass มาไว้ด้วย เพราะพาสนี้เราสามารถเอามาใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้ทุกอย่างในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ และรถประจำทางต่างๆ โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และระยะทาง นอกจากนี้ Swiss Travel Pass ยังใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างพิพิธภัณฑ์ชื่อดังกว่า 500 แห่งในสวิสได้ฟรี อีกทั้งยังใช้เป็นส่วนลดในการขึ้นกระเช้า ขึ้นยอดเขาดังๆ ได้ด้วยนะ
⚡️ความดีงามของ Swiss Travel Pass คือนอกจากเราจะใช้ขึ้นรถไฟทั่วไปได้แล้ว พาสยังรวมถึงรถไฟชมวิวพาโนราม่าฟรี ซึ่งรวมทั้งรถไฟ Glacier Express, Golden Pass, Bernina Express และ Gotthard Panorama Express นอกจากนี้ยังใช้ล่องเรือฟรีได้อีกเยอะมาก
สำหรับ Swiss Travel Pass ก๊อตแนะนำให้เราซื้อผ่านเอเจนซี่อย่าง Klook และ KKday ซึ่งในหน้าเว็บจะมีรายละเอียดของพาสอธิบายเอาไว้อย่างชัดเจน รวมถึงมีตัวเลือกพาสให้ซื้อหลากหลาย ทั้งแบบพาสแบบต่อเนื่อง 3, 4, 8 หรือ 15 วัน รวมถึงมีแบบ E-Ticket ด้วย นอกจากนี้ยังมี บัตร Swiss Half Fare Card และบัตร Swiss Transfer Ticket ขายครบอีก
> เช็คราคาและซื้อ Swiss Travel Pass [ผ่าน Klook] / [ผ่าน KKday]
เริ่มเที่ยว กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) กันเล้ยย
ก่อนอื่นเลย ก๊อตต้องขอเท้าความกันก่อนว่า แพลนเที่ยวหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen Valley) ของก๊อตนั้น เราเริ่มต้นเที่ยวในหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ก่อน จากนั้นก็นั่งกระเช้าและต่อรถไฟไปยัง หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) และเดินเท้าลงมาตามเนินเขาเพื่อไปยัง กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) ดังนั้น ก๊อตจึงไม่ได้ขึ้นมาที่นี่ด้วยกระเช้าโดยตรง แต่หากใครไม่ได้อยากเก็บเมอร์เรน เราสามารถนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นมายัง กิมเมลวาลด์ เลยก็ได้เช่นกันตามวิธีการเดินในกรอบด้านบน
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
หลังจากที่ก๊อตเดินเท้าลงมาจากเมอร์เรน (Mürren) ประมาณ 1 ชั่วโมง (ระยะทาง 2.2 กม.) แบบชิลๆ วิวสองข้างทางที่เคยเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและต้นไม้ เริ่มเปลี่ยนเป็นภาพของหมู่บ้านไม้ชาเลต์หลังเล็กๆ ที่ปรากฏกายขึ้นท่ามกลางขุนเขามากมาย โดยก่อนเข้าสู่หมู่บ้านจะมี Honesty Shop ร้านค้าสุดน่ารักที่ไม่มีพนักงานคอยเฝ้า ข้างในมีสินค้าจากชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น แยมโฮมเมด ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมวัวสดๆ ซึ่งใครอยากได้อะไร สามารถหยิบแล้วใส่เงินลงกล่องได้เลย ข้างหน้าร้านจะมีป้ายชื่อหมู่บ้านแขวนไว้ เหมือนเป็นสัญญาณต้อนรับว่าเรามาถึงที่นี่แล้วจริงๆ
เมื่อเดินผ่านร้านค้าเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน บรรยากาศแรกที่ก๊อตสัมผัสได้เลยก็คือ ความเงียบสงบที่แทบไม่มีใครเดินสวนเราหรือโผล่ออกมาให้เราเห็น ทำให้ก๊อตเดินสำรวจรอบๆ ได้อย่างสบายใจ โดยบ้านเรือนแทบทั้งหมดที่เราเดินผ่านมานั้นเป็นบ้านไม้แบบดั้งเดิม และตามบ้านที่มีพื้นที่ว่าง จะเห็นเค้าปลูกพืชผักสวนครัวเล็กๆ ไว้กินกันเองด้วย ส่วนบางหลังก็มีเล้าเป็ดส่งเสียงก๊าบๆ รวมถึงยังมีน้องไก่ออกมาเดินจับกลุ่มตามริมถนน แต่ที่เรียกความสนใจจากก๊อตไปได้มากเลย เห็นจะเป็นเสียงกระดิ่งจากเหล่าวัวหลากสีที่ยืนเล็มหญ้าตามเนินเขาแบบไม่สนใจใคร เป็นบรรยากาศที่เพลินตาเรามาก ซึ่งก๊อตได้เดินมาเรื่อยๆ เราเจอมุมไหนสวยๆ ก็แวะเก็บภาพกันมาตลอดทาง
ความพิเศษของกิมเมลวาลด์คือ ทุกจุดในหมู่บ้านสามารถมองออกไปเห็นวิวของ เทือกเขาแอลป์สวิส (Swiss Alps) ได้แบบพาโนราม่า ไม่ว่าก๊อตจะเดินไปตรงไหนก็เห็นภาพภูเขาสูงตระหง่านปกคลุมไปด้วยหิมะสวยอลังการ ท่ามกลางก้อนเมฆสีขาวปุกปุย และบางจุดยังมีม้านั่งวางไว้บนเนินเขา ให้เราได้นั่งพักและดื่มด่ำกับวิวสุดว้าวเหล่านี้อีกด้วย ตอนที่ได้นั่งพักชมวิวตรงนี้ ใจมันนิ่งมากแบบเงียบสงบจริงๆ เบื้องหน้าของเราเต็มไปด้วยบ้านไม้สีน้ำตาลน่ารักๆ ที่ตั้งกระจายตัวไปตามแนวเขา โดยมีฉากหลังเป็นแนวภูเขาและหน้าผาสูงตระหง่าน เป็นความสวยงามที่ทำให้เผลอคิดไปว่า ถ้าได้ตื่นมาเจอวิวแบบนี้ทุกเช้า ชีวิตคงจะมีความสุขไม่น้อย
ซึ่งความน่ารักของที่นี่อีกอย่างที่ก๊อตเจอ คือร้านขายของตามข้างทางนั้น ทั้งหมดไม่มีใครอยู่เฝ้าเลย ซึ่งชาวบ้านเค้าจะเอาของมาวางขาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานแฮนเมดและของกิน อย่างพวกจานกระเบื้องที่ถูกวาดลายต่างๆ ของกินเล่น ผักสด ไปจนถึงของฝากน่ารักๆ ซึ่งบางร้านก็วางขายกันตามหน้าบ้าน ส่วนบางร้านเปิดเป็นห้องเล็กๆ ให้เราแวะเข้าไปดูของได้แบบไม่ต้องเกร็ง แค่เราต้องมีความซื่อสัตย์ ซื้ออะไรก็จ่ายเงินเค้าให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
หนึ้งในไฮไลท์ไม่ควรพลาดของที่นี่เลยก็คือ Gimmelwald Viewpoint จุดชมวิวพาโนราม่าที่เราสามารถมองเห็นทั้งหมู่บ้านกิมเมลวาลด์และทิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะได้แบบตระการตาสุดๆ โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่อยู่บนเนินเขา มีที่นั่ง และป้ายบอกรายละเอียดภูเขาต่างๆ ว่าจากตรงนี้เราสามารถมองเห็นอะไรได้บ้าง ซึ่งภูเขาที่เห็นกันแบบชัดๆ นั้น ไล่เรียงยาวต่อกันเป็นสิบๆ ภูเขาเลย แต่ที่เด่นๆ คือ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau), เฟลเลินแบร์กฟลีลี (Fellenbergflieli), ยอดเขากรอสฮอร์น (Grosshorn) ซึ่งใครที่ซื้อขนมจากร้านขายของในหมู่บ้านติดไม้ติดมือมาด้วย ลองเอามานั่งกินชิลๆ ท่ามกลางวิวตรงนี้ แล้วทุกคนจะรู้ซึ้งถึงคำว่า วิวหลักล้านของจริง มันสวยจนกล้องที่ก๊อตยกขึ้นมาถ่ายรูปยังเก็บความสวยเหมือนตาเห็นไม่ได้เลย
หลังจากเก็บภาพวิวและดื่มด่ำกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว ก๊อตก็เดินไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยัง สถานีกระเช้า Stechelberg-Gimmelwald เพื่อเตรียมตัวกลับลงไปยังหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ซึ่งระหว่างเส้นทางก็ยังมีมุมสวยๆ ให้ได้แวะเก็บภาพกันอีกเพียบ โดยรวมแล้ว กิมเมลวาลด์ (Gimmelwald) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบและน่ารักสุดๆ การได้มาเดินเที่ยวที่นี่เหมือนพาเราหลุดเข้าไปในโลกที่เวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ เสน่ห์ของที่นี่ไม่ใช่แค่ทิวทัศน์อลังการ แต่เป็นบรรยากาศของความเรียบง่าย เงียบสงบ และอบอุ่นด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ครบถ้วน ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ก๊อตแนะนำเลยว่าต้องมาเยือนกิมเมลวาลด์สักครั้ง แล้วจะหลงรักเหมือนกันแน่นอน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡