ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) อีกหนึงเมืองน่ารักๆ ที่ก๊อตอยากแนะนำให้ทุกคนมาตามรอยเลย โดยที่นี่เค้าเป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 แถมได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งดอกกุหลาบ เพราะไม่ว่าเราจะไปยังมุมไหนของเมืองก็จะเห็นสวนดอกกุหลาบส่งกลิ่นหอมฟรุ้งไปทั่วกันเลยทีเดียว รีวิวนี้ก๊อตเลยจะพาทุกคนไปเที่ยว ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) ทั้งเดินส่องสถาปัตยกรรมสวยๆ ท่ามกลางทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) พร้อมทั้งไปชมวิวเมืองบนเนินเขาแบบพาโนราม่าที่บอกเลยว่าสวยจับใจเรามาก นอกจากนี้ก๊อตยังจะพาทุกคนไปทำกิจกรรมพร้อมเดินชมผักและผลไม้แบบอลังการที่ฟาร์ม Bächlihof, Jucker Farm อีกด้วย
เอาเป็นว่าใครที่ชอบเที่ยวเชิงธรรมชาติ และอยากมาดื่มด่ำกับบรรยากาศเงียบสงบ คุณมาถูกหน้าแล้ว เพราะก๊อตเชื่อว่า เมื่อทุกคนอ่านรีวิวเมือง ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) จบแล้ว จะต้องมีคนหลงรักและอยากมาตามรอยกันอย่างแน่นอน
รู้จักกับ ราพเพอร์สวิล (Rapperswil)
ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) หรือเรียกอีกชื่อว่า ราพเพอร์สวิล โจนา (Rapperswil-Jona) แห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เมืองแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 โดยสมเด็จพระจักรพรรดิรูด็อล์ฟที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Rudolf II) ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ ตัวเมืองถูกสร้างขึ้นรอบๆ ปราสาทราพเพอร์สวิล (Rapperswil Castle) ซึ่งในช่วงเวลานั้น ปราสาทหลังนี้เป็นป้อมปราการเชิงยุทธศาสตร์ที่สร้างขึ้นบนเนินเขา โดยสามารถมองเห็นทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ได้แบบรอบทิศทาง ส่งผลให้ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางในการป้องกันและการบริหารของเมือง และได้รับการอนุรักษ์ดูแลมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง
ซึ่งการมาเที่ยวที่เมือง ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) เราสามารถนั่งรถไฟจากซูริค (Zurich) มาเที่ยวแบบ One Day Trip ได้เลยนะ โดยที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น เมืองแห่งดอกกุหลาบ เพราะเค้ามีสวนกุหลาบสวยๆ อยู่เยอะมาก เรียกได้ว่าแทบทุกพื้นที่ที่เราย่างเท้าไปนั้นจะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบแบบนั้นเลย คือป๊อบขนาดที่ว่า ตราประจำเมืองยังมีดอกกุหลาบประทับอยู่อีกด้วย
ที่เที่ยวใน ราพเพอร์สวิล (Rapperswil)
เที่ยวให้คุ้มด้วย Swiss Travel Pass
ใครจะมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะมาเที่ยวเมืองไหน ก๊อตแนะนำว่าควรซื้อ Swiss Travel Pass มาไว้ด้วย เพราะพาสนี้เราสามารถเอามาใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้ทุกอย่างในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ และรถประจำทางต่างๆ โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และระยะทาง นอกจากนี้ Swiss Travel Pass ยังใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างพิพิธภัณฑ์ชื่อดังกว่า 500 แห่งในสวิสได้ฟรี อีกทั้งยังใช้เป็นส่วนลดในการขึ้นกระเช้า ขึ้นยอดเขาดังๆ ได้ด้วยนะ
⚡️ความดีงามของ Swiss Travel Pass คือนอกจากเราจะใช้ขึ้นรถไฟทั่วไปได้แล้ว พาสยังรวมถึงรถไฟชมวิวพาโนราม่าฟรี ซึ่งรวมทั้งรถไฟ Glacier Express, Golden Pass, Bernina Express และ Gotthard Panorama Express นอกจากนี้ยังใช้ล่องเรือฟรีได้อีกเยอะมาก
สำหรับ Swiss Travel Pass ก๊อตแนะนำให้เราซื้อผ่านเอเจนซี่อย่าง Klook และ KKday ซึ่งในหน้าเว็บจะมีรายละเอียดของพาสอธิบายเอาไว้อย่างชัดเจน รวมถึงมีตัวเลือกพาสให้ซื้อหลากหลาย ทั้งแบบพาสแบบต่อเนื่อง 3, 4, 8 หรือ 15 วัน รวมถึงมีแบบ E-Ticket ด้วย นอกจากนี้ยังมี บัตร Swiss Half Fare Card และบัตร Swiss Transfer Ticket ขายครบอีก
> เช็คราคาและซื้อ Swiss Travel Pass [ผ่าน Klook] / [ผ่าน KKday]


ข้อมูลแน่นแล้ว ไปเริ่มเที่ยว ราพเพอร์สวิล (Rapperswil) กันเล้ยย
เมืองเก่าราพเพอร์สวิล (Rapperswil Old Town)
ที่เที่ยวแรกที่ก๊อตมาเลยก็คือ เมืองเก่าราพเพอร์สวิล (Rapperswil Old Town) โดยรูทการเดินเที่ยวใน เมืองเก่าราพเพอร์สวิล (Rapperswil Old Town) ของก๊อต เราจะเริ่มจากบริเวณเลียบทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจะเดินไปยังสวนดอกกุหลาบ และขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเนินเขา และเดินลงมาตามทาง ซึ่งใครที่อยากเดินชิลๆ ไม่เร่งรีบสามารถยึดรูทเดินเที่ยวตามก๊อตได้เลย สำหรับใครที่เดินลงมาจากรถไฟแล้ว ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เราสามารถเดินมายังจุดให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้่เจ้าหน้าที่คอยแนะนำเส้นทางเดิน รวมถึงมีแผนที่และข้อมูลสถานที่เที่ยวของเมืองให้ได้หยิบกันฟรีๆ ด้วยนะ
หลังจากเดินออกมาจากจุดให้บริการนักท่องเที่ยว ก๊อตก็เริ่มเดินเลียบไปตามทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบมาก โดยวิวจากฝั่งซ้ายจะเป็นภาพของทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่มีเรือหลากหลายขนาดจอดเรียงรายกันเป็นตับ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นอาคารเก่าแก่ของเมืองที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้ในสภาพที่สมบูรณ์แบบสุดๆ
จุดแรกที่ก๊อตชอบมากคือ บริเวณแนวต้นไม้ที่อยู่ข้างทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ทีเป็นทางเดินทอดยาวลึกเข้าไป ขนาบสองข้างทางด้วยต้นเมเปิ้ลที่ปลูกกันเป็นแนวตรง โดยมีทะเลสาบและท้องฟ้าเป็นฉากหลัง ยิ่งช่วงตอนที่ก๊อตมากำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง บอกเลยว่าสวยละมุนมากก
ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก๊อตก็เดินต่อไปที่ด้านในของเมืองเก่า โดยบรรยากาศตามสองข้างทางเงียบสงบมาก บ้านเรือน อาคารของเค้ามีต้นไม้และดอกไม้ปลูกประดับประดาเพิ่มสีสันและความสดชื่นสุดๆ ตามผนังของอาคารบางจุดมีภาพศิลปะที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของพื้นที่ให้เราได้ชื่มชมแบบใกล้ชิด ใครที่ชอบไวบ์เมืองเก่าและอาคารของยุโรปนี่ว่าถ่ายรูปเล่นใน เมืองเก่าราพเพอร์สวิล (Rapperswil Old Town) เพลินเลยล่ะ
เดินกันต่อแป๊บเดียวเราก็มาถึง Rosengarten Schlossberg Rapperswil ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนกุหลาบของเมือง โดยที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับไร่องุ่นที่อยู่เชิงเขา บรรยากาศภายในนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ที่เค้าปลูกรายล้อมพื้นที่เอาไว้ บริเวณตรงกลางสวนเป็นแปลงดอกกุหลาบมาพร้อมทางเดินที่เราสามารถเดินเข้าไปชมดอกกุหลาบได้แบบใกล้ชิดและฟรีอีกด้วยนั่นเอง ซึ่งกุหลาบที่ปลูกกันอยู่นั้นมีกว่า 75 สายพันธุ์เลยทีเดียว ดังนั้น นอกจากชมความงามของดอกกุหลาบแล้ว เรายังจะได้ดื่มด่ำกลิ่นหอมๆ ของดอกกุหลาบหลากสีสัน ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว นี่ว่าคนชอบกุหลาบมาแล้วไม่อยากออกจากสวนอย่างแน่นอน
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ






ส่องกุหลาบจนฉ่ำปอดแล้ว ก๊อตเดินขึ้นบันไดที่อยู่ข้างๆ สวนไปชมวิวต่อที่ Lindenhof Rapperwil ซึ่งจะเป็นลานกว้างที่มีมุมนั่งพักผ่อนอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบเอาไว้ด้วยแนวกำแพงเก่า บรรยากาศคือชิลมากกก ซึ่งวิวจากบนนี้เราสามารถมองเห็น ปราสาทราพเพอร์สวิล (Rapperswil Castle) ได้ชัดเจนและใกล้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ที่พาดผ่านพื้นที่เมืองได้แบบไกลสุดลูกหูลูกตา รวมถึงยังมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่อยู่ด้านล่างได้แบบพาโนราม่ากันเลยเชียว
มากไปกว่านั้น หากวันไหนเราแต้มบุญเหลือๆ ก็จะเจอน้องกวางมานอนเคี้ยวหญ้า บ้างก็เดินโชว์ตัวให้ได้เห็นอยู่แถวๆ เชิงเขาด้านล่างอีกฝั่ง (จากสวนดอกกุหลาบ) ซึ่งเป็นพื้นที่สนามหญ้าเขียวๆ อีกด้วยนะ เป็นการมาชมวิวที่ได้เห็นอะไรมากกว่าทิวทัศน์จริงๆ
นอกจากนี้พอเราลงมาจากจุดชมวิวเรายังสามารถเดินเล่นในเมืองเค้าได้ด้วยนะ บรรยากาศยังคงเงียบสงบเช่นเคย ส่วนสถาปัตยกรรมและอาคารต่างก็งดงาม เดินถ่ายรูปเพลินจนลืมเวลากันเลยล่ะ เป็นเมืองที่น่ารักหนุบหนับใจก๊อตมาก
Bächlihof, Jucker Farm
หลังจากที่ก๊อตไปเที่ยวเมืองเก่ามาแล้ว เราก็มาแวะเที่ยวกันต่อที่ฟาร์ม Bächlihof ซึ่งเป็นหนึ่งในสองฟาร์มหลักของ Jucker Farm โดยที่นี่เราจะได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตในฟาร์มสวิสแท้ๆ พร้อมกับได้เพลิดเพลินไปกับงานประจำฤดูกาล ผลิตผลสดๆ จากต้น ไปจนถึงกิจกรรมสันทนาการที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยกันเลยทีเดียว
สำหรับ Bächlihof, Jucker Farm นั้น ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1990 โดยครอบครัว Jucker ซึ่งเป็นครอบครัวเกษตรกรเล็กๆ ที่อยู่ในเมืองราพเพอร์สวิล โจนา (Rapperswil-Jona) ซึ่งในช่วงแรกของการทำฟาร์ม ที่นี่ได้เน้นการเกษตรแบบดั้งเดิมเป็นหลัก จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ Bächlihof, Jucker Farm ก็ได้ขยายขอบเขตของฟาร์มมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ภายในฟาร์มให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และมีกิจกรรมต่างๆ ให้คนที่มาเยือนได้ลงมือทำเพิ่มมากขึ้น
โดยกิจกรรมที่ขึ้นชื่อของฟาร์มเค้าเลยจะเป็นกิจกรรมตามฤดูกาล อย่างการจัดงานเทศกาลฟักทองในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเค้าจะเนรมิตพื้นที่ภายในฟาร์มให้เต็มไปด้วยรูปปั้นฟักทองขนาดยักษ์ มาพร้อมกับการเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกฟักทอง ไปจนถึงเมนูจากฟักทองแบบหลากหลายมาก ซึ่งกิจกรรมนี้ดึงดูดผู้คนให้มาเยือนฟาร์มต่อปีแบบแตกแตนกันเลยล่ะ นอกจากเทศกาลฟักทองแล้ว ที่นี่ยังมีการเก็บสตรอว์เบอร์รี่ในฤดูร้อน และตลาดคริสต์มาสในฤดูหนาวอีกด้วย ดังนั้น Bächlihof, Jucker Farm จึงเป็นฟาร์มที่เราสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีนั่นเอง







หากใครที่อยากมาฝากท้องกับที่ Bächlihof, Jucker Farm ที่นี่เค้ามีอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ให้บริการอยู่ด้วยนะ โดยราคาอาหารจะอยู่ที่คนละ 49 CHF (~1,900) บาท ซึ่งจะเป็นอาหารสวิสแท้ๆ ที่ปรุงจากวัตถุดิบภายในฟาร์ม โดยเมนูนั้นมีหลากหลาย ทั้งพาสต้า สลัด ไปจนถึงของกินเล่น ขนมหวาน และเครื่องดื่มจากแอปเปิ้ลที่ปลูกกันอยู่ในสวน โดยทั้งหมดจะอยู่ภายในโกดังไม้ขนาดใหญ่ และจัดวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งเราสามารถตักอาหารได้ตามชอบเลย และนอกจากโซนนี้จะเป็นมุมบุฟเฟ่ต์แล้ว เค้ายังเป็นร้านขายของฝากและของที่ระลึกของฟาร์มอีกด้วย




กินข้าวกันอิ่มแล้ว ด้วยความที่ก๊อตไปช่วงเทศกาลฟักทองของเค้าพอดี นี่เลยมีโอกาสได้ไปลองกิจกรรมแกะฟักทอง ซึ่งทางฟาร์มเค้าจะมีฟักทองสีส้มๆ หลากหลายขนาดมาให้เราเลือก จากนั้นจะเอาอุปกรณ์ในการแกะมาให้ได้ลองทำ ซึ่งเราสามารถแกะเป็นรูปต่างๆ ตามต้องการได้เลยนะ ซึ่งวิธีการแกะให้สวยนั้น เราจะต้องตัดตรงก้าน หรือส่วนหัวฟักทองให้เป็นรูกว้างๆ หน่อย แล้วเอาช้อนคว้านไส้ในออกให้หมด เวลาเราแกะผิวด้านนอก มันจะได้ไม่เละเทะนั่นเอง อันนี้แอบบอกว่าเป็นกิจกรรมที่้สนุกมาก จะวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ก็ทำได้หมดเลย ฟีลกิจกรรมกระชับมิตรสุดๆ


โดยรวมแล้ว Bächlihof, Jucker Farm มีอะไรให้ก๊อตทำเพียบเลย จะกิน เที่ยว หรือทำกิจกรรมน่ารักๆ ที่นี่เค้าก็มีหมด แถมยังเป็นฟาร์มที่เราเดินถ่ายรูปได้แทบทุกมุม ยิ่งจุดที่เค้าเอาฟักทองมาทำเป็นหุ่นปั้นขนาดยักษ์ แต่ละตัวเล่นใหญ่ถึงใจเรามาก ใครที่อยากมาทำอะไรสนุกๆ ฟีลได้ใช้เวลาร่วมกัน แนะนำให้แวะมาที่ Bächlihof, Jucker Farm ได้เลย
และนี่ก็คือการมาเที่ยวแบบ Day Trip ในเมือง ราพเพอร์สวิล โจนา (Rapperswil-Jona) ที่เราสามารถเดินทางมาเที่ยวจากซูริค (Zurich) ได้แบบเช้าเย็นกลับเลย ถือเป็นอีกเมืองเล็กๆ ที่ตลบอบอวลไปด้วยความเงียบสงบและความน่ารักละมุน ใครที่ชื่นชอบไวบ์เมืองเก่าท่ามกลางดอกกุหลาบหลากสีสัน แถมยังได้มาชมวิวทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) แบบพาโนราม่า อีกทั้งยังมีฟาร์มน่ารักๆ ให้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ปักหมุดมาเที่ยว ราพเพอร์สวิล โจนา (Rapperswil-Jona) ได้เลย ยกให้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ครบเครื่องและกลมกล่อมที่สุด จนก็อตอยากชวนนั่งรถไฟมาเที่ยวที่นี่มาก นี่ว่าสายธรรมชาติมาแล้วตกหลุมรักเมืองเค้าอย่างแน่นอน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡




























