จิ่วเฟิ่น (Jiufen) เมืองดังยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด เพราะนอกจากเสน่ห์ที่มีความรู้สึกคล้ายเหมือนมาเที่ยวญี่ปุ่น ที่นี่ยังถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงตามทาง ถือเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนเมืองไหนในไต้หวัน แถมที่นี่ยังถูกกล่าวขานว่า จิ่วเฟิ่น เป็นสถานที่แรงบันดาลใจของภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังอย่าง Spirited Away อีกด้วยแหละ หลังจากนั้นมาจิ่วเฟิ่นเลยบูมมาก มาไทเปแล้วต้องมาจิ่วเฟิ่นยังไงยังงั้น เอาล่ะ สำหรับใครที่พร้อมจะไปเที่ยว Jiufen + Jinguashi (จิ่วเฟิ่น + จินกัวสือ) แล้วล่ะก็ ตามกันมาได้เลย นี่พร้อมจะพาไปเที่ยวแล้วเด้อ ฮี่ฮี่
วิธีเดินทางจากไทเป (Taipei) มายังจิ่วเฟิ่น (Jiufen)
การเดินทางมายัง จิ่วเฟิ่น (Jiufen) นั้นไม่ค่อยยากเท่าไหร่ เราจะมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริปก็ได้ หรือจะค้างคืนก็ดี โดยรีวิวจิ่วเฟิ่นรอบนี้ ก๊อตมาเที่ยวแบบนอนค้างคืนนะ ซึ่งการเดินทางมาจิ่วเฟิ้นนั้น มันจะมีเส้นทางหลักๆอยู่ 2 ทาง คือรถเมล์ และรถไฟ
- 🚌 วิธีที่ 1 นั่งรถเมล์ สาย 965 ⭐️: สามารถมาขึ้นรถเมล์สาย 965 ได้ที่สถานี MRT Ximen Station หรือ MRT Beimen Station แล้วมาลงป้าย Jiufen Old Street ป้ายที่คนลงเยอะสุด / * รถเมล์ 965 สามารถนั่งยาวไปยังจินกัวสือ (Jinguashi) ตรง Gold Museum ได้ด้วย / วิธีนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง++ แล้วแต่สภาพจราจร ราคารถเมล์ประมาณ $90 สามารถใช้บัตร EasyCard จ่ายค่ารถเมล์ได้ [แผนที่รถเมล์ 965 คลิก]
- 🚌 วิธีที่ 2 นั่งรถเมล์ สาย 1062: ให้เรานั่งรถไฟใต้ดินมายังสถานี MRT Zhongxiao Fuxing Station แล้วต่อรถเมล์สาย 1062 แล้วลงป้าย Jiufen Old Street ป้ายที่คนลงเยอะสุด วิธีนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง++ แล้วแต่สภาพจราจร ราคารถเมล์ประมาณ $113 สามารถใช้บัตร EasyCard จ่ายค่ารถเมล์ได้
- 🚞 วิธีที่ 3 นั่งรถไฟ > รถเมล์: ให้เรานั่งรถไฟ TRA จากที่ไหนก็ได้ แล้วแต่ว่าเราอยู่ที่ไหน อย่างก๊อตขึ้นจาก Taipei Main Station มายัง Ruifang Station ประมาณ 40 นาที เมื่อถึงแล้ว หันหน้าออกจากสถานีแล้วเดินไปทางซ้ายประมาณ 200 เมตร ให้สังเกตว่าเราเดินผ่านสถานีตำรวจมา จากนั้นต่อรถเมล์สาย 856, 788, 1062 แล้วลงป้าย Jiufen Old Street ป้ายที่คนลงเยอะสุด / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคารวมรถไฟ + รถเมล์ คือ $76 + $15 = $91
- 🚙 วิธีที่ 4 เหมารถแบบส่วนตัว ⭐️: สำหรับคนขี้เกียจวุ่นวาย หรือใครที่มากันเป็นกลุ่ม 4-5 คน การเหมารถก็คุ้มและสะดวสบาย สามารถจองรถผ่าน Klook ได้เลย คลิก
สถานี Taipei Main Station คือสถานีรถไฟที่ใหญ่สุดในไต้หวัน มีทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง รวมกันหมดไว้อยู่ที่นี่ สามารถไปไหนก็ได้ทั่วประเทศไต้หวันเลย
เมื่อเรามาถึงป้าย Jiufen Old Street ตรงข้างๆแฟมิลี่มาร์ท จะมีจุดชมวิวอยู่ สวยโคตรๆ แนะนำให้เป็นสิ่งแรกที่ควรมาดู สร้างความประทับใจแรกจากจิ่วเฟิ่น ฮ่าๆ แต่เดี๋ยวเราค่อยมาดู บอกแบกกระเป๋ามาเยอะแยะ
ที่พักในจิ่วเฟิ่น (Jiufen)
หลายคนอาจจะมาจิ่วเฟิ่นแค่เช้า-เย็นกลับ ซึ่งนี่ก็เคยมาแล้วครั้งนึงเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้เราจะขอค้างคืนที่นี่ ถ้าใครที่มีเวลาพอ ก๊อตอยากแนะนำให้พักค้างคืนที่จิ่วเฟิ่นนะ เพราะบรรยากาศตอนกลางคืนของจิ่วเฟิ่นที่นี่ ดีย์งามที่สุดแล้ว ทั้งเมืองที่นี่จะเปิดไฟส่องไสวพร้อมห้อยโคมแดงกันตลอดแนวทางเดิน ใครมากับแฟนคือโรแมนติกมาก ดังนั้น พักซักคืนเถ้ออออ และที่ควรระลึกไว้ในหัวคือ ที่พักในจิ่วเฟิ่นเต็มเร็วมากนาจาา รีบจองเนิ่นๆล่ะ โดยเฉพาะถ้าเรานอนค้างในวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์น้า
ที่พักและโรงแรมแนะนำ
- โรงแรมตัวท็อปของจิ่วเฟิ่น (3,500 ++ บาท/คืน): Sunshine B&B / Two Easy Inn / OwlStay Jiufen Wander
- โรงแรมดี ราคาเอื้อมสบาย (2,000-3,500 บาท/คืน): Sunny Room / H& Jiufen The Ocean Theory BnB
- โรงแรมและโฮสเทลราคาถูก ดีและคุ้มค่า (ต่ำกว่า 2,000 บาท/คืน): M Bar House / Box Inn Jiufen (โรงแรมแคปซูล)
ข้อมูลเที่ยวจิ่วเฟิ่นคือแน่นแล้ว เราไปเที่ยวกัน
วันแรก: แวะไปจินกัวสือ (Jinguashi) กันก่อน > Gold Museum
หลังจากนั่งรถราจนมาถึงจิ่วเฟิ่น และไปเช็คอินที่พักเรียบร้อยแล้ว แพลนที่ผมวางไว้คือเราจะขอแวะไป เมืองจินกัวสือ (Jinguashi) เมืองเล็กๆที่อยู่ใกล้จิ่วเฟิ่นกันก่อนจากนั้นค่อยมาเที่ยวจิ่วเฟิ่นตอนเย็นๆจนถึงค่ำเพื่อดูบ้านเมืองเค้าเปิดไฟนั่นเอง สำหรับการไปจินกัวสือนั้นไม่ยากนะ ถ้ารักสบาย ขี้เกียจรอ สามารถโบกแท็กซี่ได้เลย ถ้าประหยัดหน่อยก็ขึ้นรถเมล์สาย 1062, 788, 825 ใช้เวลาแค่ 15 นาทีแค่นั้นเอง
สถานที่แรกที่เราจะแวะกันก่อนนั่นคือ Gold Museum ที่นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์เหมืองทอง ซึ่งที่เที่ยวในนี้ก็เยอะพอสมควร ใครที่ชอบเรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการขุดเหมือง น่าจะชอบที่นี่กันอย่างแน่นอน นอกจากทางเดินภายนอกที่สวยและร่มรื่น ให้เราได้เดินเพลินๆแล้ว ที่นี่เค้ายังมีห้องนิทรรศกาลเยอะแยะไปหมดอีกด้วย
น่าเสียดายคือนี่มีเวลาไม่เยอะ เราเลยจะพุ่งไปยังจุดไฮไลท์ของที่นี่อย่างเดียว นั่นคือ Benshan No.5 Tunnel เป็นเหมืองของจริงที่เคยทำการขุดเหมืองทองมาก่อน แต่ตอนนี้มาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมของจริง บรรยากาศจริงๆ โดยเค้าจะมีค่าเข้า Gold Museum อยู่ที่ $80 แต่ถ้าใครอยากจะเข้า Benshan No.5 Tunnel ด้วยละก็ เสียเพิ่มอีก $50 นาจ๊าา
และเมื่อเราจ่ายตังค์เรียบร้อย เค้าจะให้ผ้าเรามาอันนึง ซึ่งพวกผมก็งงมากว่าให้มาทำไร ตอนจะเข้าก็ถึงบางอ้อ .. มันคือผ้ารองหัวตอนเราใส่หมวกนิรภัยนั่นเอง มีความนึกถึงความสะอาดและกลิ่นหัว 5555555
เมื่อเราฟังเค้าอธิบายนิดๆหน่อยๆ ว่าที่นี่มันคืออะไร เราก็เดินเข้ามาในเหมืองซึ่งเป็นทางเดินยาวๆ มืดๆ ให้เราเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ระหว่างทางมันก็จะมีป้ายพร้อมหุ่นขี้ผึ้งคนงาน ทำท่าการทำเหมืองอยู่ เอ้อออ .มันก็เพลินๆดี ใช้เวลาเดินอยู่ในนั้นซัก 20 นาทีก็หมดล้าวว
เดินออกมาจาก Benshan No.5 Tunnel แล้วจะเห็นวิว เมืองจินกัวสือ (Jinguashi) สวยเชียว ออกมาแล้วอย่าลืมมากินเต้าฮวยเย็นล่ะ อร่อยชื่นใจดี อยู่ตรงทางเข้า Benshan No.5 Tunnel นั่นแหละ ถือว่าดีย์และหายเหนื่อยยยย
รถเมล์ฉิ่งฉับ สาย 891 นั่งรถเที่ยวจินกัวสือ (Jinguashi)
— อัพเดท 2023 ไม่แน่ใจว่ายังมีมั้ยนะ แต่ลองถามๆ ดูก่อนได้ 🤣
หลังจากเราเดินออกมาจาก Gold Museum คือ จากที่แพลนไว้ว่าเราต้องได้ไปที่อื่นๆในจินกัวสืออีก แต่.. แต่แกร มันเริ่มเย็นแล้วว่ะ เดี๋ยวเรากลับไปเดินตลาดจิ่วเฟิ่นไม่ทัน นี่เลยกะจะไปแค่ที่เดียวคือ น้ำตกสีทอง หรือ Golden Waterfall ซึ่งเค้าบอกว่า สวยมว๊าก
ด้วยความที่ต้องนั่งรถเมล์ต่อใช่ป่ะ แล้วมันมีรถเมล์สาย 891 มาจอดพอดี นี่ก็ถามลุงคนที่อยู่ในรถเมล์ นางก็ตอบว่าไปๆ เอ้อ ไอ้เราก็กระโดดขึ้นไปนั่งเรียบร้อย พอรถออกเท่านั้นแหละ เฮ้ย แม่งงงง เป็นรถฉิ่งฉับที่เราสามารถนั่งรถเที่ยว ดูวิวได้เกือบครบหมดโดยที่เราไม่ต้องลงไปเดินซักนิด เค้าจะวนเป็นลูป เริ่มต้นสายที่ Golden Museum แล้วก็มาปล่อยเราลงตรงนี้ที่เดิม ด้วยความที่รีบอยู่แล้ว เออ อ่ะก็เลยตามเลยจ้า 55555555555
จุดสำคัญที่รถเมลสาย 891 นี้จะผ่านคือ Golden Waterfall และ Yin Yang Sea จำราคารถเมล์ไม่ได้ แต่รู้ว่าถูกมาก ค่ารถเมล์น่าจะราวๆ $15 ม้าง โดยลุงที่เห็นถือป้าย 891 นั้น คือเหมือนเค้าก็ทำหน้าที่เป็นไกด์ไปด้วยว่าที่นี่มีอะไร ประวัติอย่างไรบ้าง น่าเสียดายที่ลุงเค้าพูดเป็นภาษาจีน โคตรน่าเสียดาย ฮือออ เวลารถเมล์ผ่านตรงไหน ลุงก็จะบอกทุกคนในรถว่า เตรียมกล้องนะ เตรียมถ่ายตรงนี้ ด้านขวา-ด้านซ้ายคือบอกหมด ไอ้คนในรถก็ลุกกันไปลุกมาเพื่อถ่ายรูป โคตรตลก 5555555555
👀 ลุงบอกว่าภูเขาลูกนี้ ภาพเหมือนกำลังคนปีนเขาอยู่ ลองสังเกตดูว่าตรงไหน
หลังจากนั้นเราก็จะผ่าน Golden Waterfall ในรูปมันดูเล็ก แต่ของจริงก็ดูใหญ่เหมือนกันนะ แถมหินเป็นสีเหลืองๆทองๆ มันเลยกลายเป็นชื่อนี้ ‘น้ำตกสีทอง’
อีกสิ่งที่เราจะเห็นคือ Yin Yang Sea มันคือน้ำทะเลที่มีสองสี เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากไรไม่รู้ง่ะ ฟังภาษาจีนที่เค้าอธิบายไม่ออก โอยยย ฮ่าๆ เอาเป็นว่า .. แปลกดี
เดินเล่น Jiufen Old Street
หลังจากไปทัวร์รถเมล์ที่จินกัวสือเสร็จ กลับมาถึงจิ่วเฟิ่นประมาณ 4 โมงกว่า ช่วงนี้แหละคือช่วงที่ท้องฟ้าสวย ถ่ายรูปออกมาคือดูดีมาก ก่อนที่เราจะเข้าทางเดินตลาดจิ่วเฟิ่น หรือ Jiufen Old Street เราจะมาจุดชมวิวที่บอกตอนแรก ดูวิวทะเลและภูเขาเมื่อเราหันหน้าออกจากเมืองจิ่วเฟิ่นกันก่อน มันสวยมากกก! หากใครอยากได้จุดชมวิวดีๆ มันจะมีตึกสองชั้นตรงข้าง Family Mart (ตรงข้าม 7-Eleven) ใกล้ๆทางเข้าตลาด Jiufen Old Street สามารถขึ้นไปได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่าย 😍
หลังจากดูวิวเสร็จ เดินเข้า Jiufen Old Street โลดเลย ตลาดทางเดินที่มีโคมแดงทอดยาวไปตลอดทางนี้นี่แหละ ที่เราสามารถฝากท้องได้ ของกินเยอะ ไม่ว่าจะของคาว ของหวาน ชานม หรือจะของฝาก ของจุ๊กจิ๊ก ที่นี่มีให้เลือกทุกอย่างเลยจริงๆ และบอกเลยว่าตรงนี้คนเยอะมาก แทบจะเบียดกันเลยทีเดียว 555
👀 ตรงนี้ บอกเลยว่าของกินเยอะม๊ากกกกกก แบบเยอะที่สุดในจิ่วเฟิ่นแล้ว ยังไงคนที่กำลังหิวอยู่ ก็หาของกินจุ๊บจิ๊บกินตรงนี้ได้เลย
โรงน้ำชา A Mei Teahouse
ใน Jiufen Old Street ถ้าเดินมาเรื่อยๆ เราจะเห็นทางแยกเดินลงไปได้ ทางลงนี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของจิ่วเฟิ่นเลยล่ะ และเมื่อเราเดินลงไปเรื่อยๆ ตรงนี้จะมีร้านชาชื่อดังของจิ่วเฟินอยู่ นั่นคือร้าน A Mei Teahouse โดยเค้าบอกกันว่าร้านนี้คือ ร้านน้ำชาที่เป็นแรงบันดาลใจของการ์ตูนชื่อดังอย่าง Spirited Away จาก Studio Ghibli ที่เป็นโรงอาบน้ำในการ์ตูนแหละ
หมดอายุ: 11-11-2024
หมดอายุ: 11-11-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
นี่คิดว่าไว้จะมาถ่ายโรงน้ำชาอีกทีตอนกลางคืน เพราะตอนเย็น ถ่ายไม่ได้เลยจ้า คนเยอะสุดอะไรสุด เดินแบบเบียดกันมา เดินลงมานี่แทบตาย อย่างไรก็ตาม ตามทางเดินก็ยังมีร้านขายของ หรือมุมให้หลบให้เข้าไปยืนเล่นนะ อย่างที่เจอคือร้านขายหน้ากาก แม่งเจ๋งมากกก อีกอันคือเป็นถ้ำที่ผนังเต็มไปด้วยตัวอักษรจีน นี่คิดว่ามันเก๋ดี
🏮 ในที่สุดก็รอดตายเดินลงมาอย่างปลอดภัย คนเยอะอลังการล้านแปดมาก แต่นั่นแหละ บรรยากาศก็ดีด้วยเช่นกัน โคมแดงเต็มไปหมด มันสวยมากอยู่นะว่าไป
ร้านอาหารวิวดี แต่โคตรไม่อร่อย
ด้วยความที่ผิดหวังเล็กน้อยจากโรงน้ำชา A Mei Teahouse เพราะมันไม่มีข้าวขาย แล้วคือหิวมาก คนก็เยอะ นี่เลยเดินลงบันไดมาจนสุดทาง เลี้ยวขวาเดินมานิดหน่อย เจอร้านนึงที่ดูดี และมั่นใจว่าวิวสวยมาก พวกผมเลยเดินกันเข้าไปเลยจย้าาาา เป็นการเข้าร้านอาหารที่ไม่ได้รีเสิร์ชมาก่อนเลย แต่เห็นแล้วเดินเข้า เพราะหิวไม่ไหวแล้ว
ร้านใน Google Map ชื่อ 九份山城憶棧 (GPS 25.109264, 121.843719) อาหารไม่ค่อยอร่อย จืดชืด ก้างปลาโคตรเยอะ แต่วิวเทพมากกกกก ฮืออออออออ ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง เพราะร้านอื่นน่าจะถูกปากมากกว่า
ร้านเค้าตั้งหันหน้าออกไปสู่อ่าวทะเล ซึ่งสวยโคตรๆ อีกทั้งยังมีมุมที่เราสามารถมองเห็นเมืองจิ่วเฟิ่นใกล้ๆกับทางเดินตรงโรงน้ำชา A Mei Teahouse อีกด้วย ทำเลคือเทพ ยิ่งผมมากันตอนพระอาทิตย์จะตก สุดเกินจะบรรยาย
ถ่ายรูปดื่มด่ำบรรยากาศเสร็จเรียบร้อย อาหารที่สั่งได้มาเรียบร้อย ถึงกับร้องไห้ จนสุดท้ายผมต้องไปหาไรกินอีกรอบที่แฟมิลี่มาร์ท เพราะไม่ค่อยอร่อย แล้วก็ไม่อิ่มอีกด้วย // ตายๆ นี่ไม่ได้ดิสเครดิตนะ 5555555555555
กินเสร็จเดินออกมามืดหมดแล้ว แต่คนก็ยังเยอะอยู่เลย ฮ่าๆๆ
Night Walk Tour ของโฮสเทล
OwlStay Jiufen Wander ที่พักที่ผมนอน เค้าก็จะมี Night Walk Tour เดินชมเมืองจิ่วเฟินฟรี โดยมีสต๊าฟเป็นคนเล่าเรื่องความเป็นมาของจิ่วเฟิ่น ทำให้เรารู้เรื่องราวของเมืองนี้ขึ้นมาบ้าง ด้วยฟีลของเมืองจิ่วเฟิ่นมีความเป็นญี่ปุ่นโคตรๆ เกือบ 80% ทีนี้ก็ถึงกับบางอ้อว่า จิ่วเฟิ่นเคยถูกปกครองโดยญี่ปุ่น โดยสมัยนั่นเค้ามาเน้นทำเหมือง ขุดทองนั่นเอง
จุดแรกที่เค้าพามาดู คือ ถนนลอดถ้ำ โดยคนนำทัวร์เค้าบอกว่า ถ้ำนี้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการ์ตูน Spirited Away เหมือนกัน
นี่ก็ได้แต่มองไกลๆ ไม่กล้าเดินเข้าไป เพราะมันมืดและน่ากลัวหน่อยๆ ฮ่าๆ จากนั้นเค้าก็พาเราเดินไปยังจุดดูวิวที่เห็นเมืองจิ่วเฟิ่นได้ทั้งเมือง เค้าบอกว่า ถนนใหญ่ที่เราๆนั่งรถเมล์กันขึ้นมานั้นเป็นถนนตัดใหม่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เมื่อก่อนยังเป็นแค่ทางเดินซอกซอยเล็กๆอยู่เลย พอการท่องเที่ยวบูมเพราะกระแสการ์ตูน Spirited Away คนล่ะมาตรึม โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น
ต่อมา เค้าก็จะพาเราเดินทั่วๆ จิ่วเฟิ่น กลับมาเดินดูโรงน้ำชา A Mei Teahouse อีกรอบ และเดิน Jiufen Old Street ไปเรื่อยๆ ฟีลลิ่งช่างแตกต่างจากเมื่อตอนเย็นโคตรๆ ที่คนที่เยอะชิบหาย ตอนนี้แทบไม่มี เหลือแต่โคมแดงห้อยโตงเตงที่ทำให้ความรู้สึกมันเปลี่ยนจริงๆ
เดินวนไปเรื่อยๆ นี่ก็เดินตามเค้าไปแบบไม่รู้ทิศทาง ฮ่าๆ เดินจนมาถึงกับหน้าเหมืองขุดทองอีกอันหนึ่ง ซึ่งบันไดเค้าวาดลวดลายเหมืองขุดทองที่เป็น 3D Effect อีกด้วย มันคือเอ็ฟเฟ็คที่เราต้องยืนให้ตรงจุด ถึงจะมองเห็นรูปมันปะติดปะต่อกัน จากนั้นก็เดินวนกลับเข้าโรงแรม แฮปปี้แล้ววันนี้ วันนี้แค่วันเดียว รู้สึกว่าเราเที่ยวคุ้มมากกกก 55555 😂
วันที่สอง: เก็บตกเล็กน้อยก่อนไปฮวาเหลียน (Hualien)
จากเมื่อคืนที่ผมเดิน Night Walk Tour แล้วยังติดใจตรงถ้ำและจุดดูวิวเมืองจิ่วเฟิ่นนิดหน่อย คือจริงๆไม่ได้อะไร แค่อยากดูวิวแบบตอนกลางวันเฉยๆ ผมจึงเดินไปดูอีกรอบก่อนจะออกจากจิ่วเฟิ่น แถวนี้มันก็จะเงียบๆอยู่ริมขอบเมืองจิ่วเฟิ่น ถ่ายรูปสะดวกดี ฮ่าา อีกทั้งก่อนที่จะไปคือไปส่องถ้ำที่เราเดินไปดูกันเมื่อคืนตอน Night Walk ของโฮสเทล จะบอกว่ามันไม่มีอะไรเลย 5555555
การออกจากเมืองจิ่วเฟิ่นไปไทเป ก็แค่นั่งรถเมล์สายเดิมที่มา ใครสะดวกอันไหนก็ไปอันนั้นเลย แต่ถ้าจะไปต่อ ฮวาเหลียน (Hualien) เหมือนผมละก็ ให้นั่งรถเมล์สาย 866, 788, 1062 มาลงสถานีรถไฟ TRA Ruifang จากนั้นนั่งรถไฟต่อไปฮวาเหลียนได้เลย
Spirited Away ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองจิ่วเฟิ่น จริงหรอ?
เอาเรื่องจริงๆเลยนะ Hayao Miyazaki ผู้สร้าง Spirited Away เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่าการ์ตูน Spirited Away ไม่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองจิ่วเฟิ่น ต้นเรื่องคือมันมีหนังสือไกด์บุคมาเขียนโมเมเองว่า Spirited Away มันมาจากจิ่วเฟิ่น ทีนี้คนทุกทั่วสารทิศก็ฮิตกันมาเที่ยวที่นี่เลยจย้าา .. โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น เค้าปักหมุดเลยว่า เมื่อมาเที่ยวไต้หวัน เค้าต้องมาจิ่วเฟิ่น จนตอนนี้กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันไปทั่วนั่นแหละ
ที่พักในจิ่วเฟิ่น
OwlStay Jiufen Wander
OwlStay Jiufen Wander เป็นโฮสเทลเล็กๆ อยู่เกือบริมสุดของเมืองจิ่วเฟิ่น มีความฮิปติสท์ๆ และคูลหน่อยๆ โดยเค้าจะมีหลายตึกติดๆกัน ด้านขวาคือล็อบบี้ ส่วนตึกมืดๆ ดำ คือตึกที่ผมได้นอน ซึ่งพอเมื่อเราเปิดประตูเข้ามาจะมีที่นั่งโซฟา ตู้หนังสือขนาดโคตรใหญ่ บาร์ และห้องครัวเล็กๆที่เราสามารถทำอะไรเล็กน้อยกินได้ ตึกนี้เราจะแชร์กันกับคนอื่นเพราะมีสองห้องนอน อยู่ชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งถือว่าน้อยคนมาก ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ชั้นสองจะมีที่นั่งเล่นเช่นกัน ห้องนอนเราจะอยู่ชั้นนี้แหละแกร๊ เดี๋ยวพาไปดู ส่วนบันไดที่ขึ้นไปชั้นสามนั้นคือจะมีอีกหนึ่งห้องนอนที่มีคนพักอยู่เหมือนกัน โดยความเก๋ของตึกนี้คือ มีต้นไม้ของจริงตั้งอยู่กลางบ้าน และหลังต้นไม้นั่นคือห้องนอนของผม! ฟีลเปิดโล่งที่มีม่านปิดได้ และเรียบง่ายมากๆ 555555
ที่ดีงามของโฮสเทลที่นี่คือ มีชั้นลอยที่เราสามารถไปนั่งเล่นได้ด้วย (แต่ไม่ได้ถ่ายมา รูปข้างล่างคือรูปของโฮสเทลเค้านะ) อีกทั้งเค้ามี Free Night Walk Tour ด้วยแกร๊ ด้วยความที่สต๊าฟกับเราจะมีความเป็นกันเองตามสไตล์โฮสเทล ช่วงสองทุ่ม เค้าจะพาลูกค้าโฮสเทลเดินทัวร์ทั่วเมืองจิ่วเฟิ่นเลย เดี๋ยวเรามาว่ากัน
นอกจากห้องที่ผมนอน มันยังมีห้องอื่นๆที่เป็นห้องเดี่ยว และห้องรวมด้วย ทั้งหมดคือรวมอาหารเช้าง่ายๆ อีกหนึ่งเรื่องคือที่ตั้งของโฮสเทลนี้จะอยู่ไกลจาก Jiufen Old Street ราวๆประมาณ 500 เมตรนะจ๊ะ ไกลกว่าที่พักอื่นหน่อยๆ แต่มันไม่ได้ลำบากอะไร สุดท้าย ถึงแม้ว่าที่นี่จะแพงเกินราคาโฮสเทล แต่ก็ถือว่าถูกกว่าที่พักเจ้าอื่นในจิ่วเฟิ่นแล้ว 55555
ดูเรทและจอง OwlStay Jiufen Wander สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง
เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย 🚀
ดูผ่าน Booking.com / ดูผ่าน agoda.com
อ่านรีวิวไต้หวันอื่นๆ
นอกจาก รีวิวเที่ยวจิ่วเฟิ่น (Jiufen) และ จินกัวสือ (Jinguashi) เรายังมีที่อื่นอีก ซึ่งกำลังทยอยเขียนอยู่ รอหน่อยเด้อออ 55555
- Alishan (อาลีซาน) – เดินเทรลในป่าสน ฟินทะเลหมอกฤดูหนาว .. อันนี้พีคมากก
- Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา) – ทะเลสาปสีฟ้าเขียว ผืนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
- Taipei (ไทเป) – เที่ยวแบบวัยรุ่นกับที่ฮิปและโคตรคูลที่สุดในไต้หวัน
- Yangmingshan National Park (อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน) – ปีนเขา เดินเทรล ชมธรรมชาติแบบไม่ต้องไปไกลจากไทเป
- Jiufen + Jinguashi (จิ่วเฟิ่น + จินกัวสือ) – ตามรอยอนิเมะ Spirited Away
- Hualien (ฮัวเหลียน) – เดินเทรลดูเขาหินอ่อน
- Taroko National Park (อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ) – เดินเล่นทะเลหินดำ
- Taitung (ไถตง) – ขับรถเที่ยว Road Trip แวะจุดชมวิว
- Kenting (เขิ่นติง) – ชมวิวขอบทะเลใต้สุดของไต้หวัน
- Cingjing + Hehuanshan (ซิงจิง + เหอหวนชาน) – ธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์ไต้หวัน
5 comments
ภาพสวยมากค่ะ ปรับยังไงหรอคะ พอดีซื้อมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้เลยค่ะ เพราะปรับไม่ค่อยเป็นอ่ะค่ะ555
891 ที่พาทวร์คือรถพาทัวร์ นั่งไปและกลับมาที่จุดป้านรถเมลตรงแถว gold museum เลยไม๊คะ หรือว่าต้องหาป้ายรถทัวร์นั่งกลับลงมาเองตรงไหนเหรอคะ
นั่งกลับมาลงจุดเดิมเลยจ้า
รีวิวดีมากเลยค่ะ