ซินจู๋ (Hsinchu)ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของไต้หวัน เป็นที่รู้จักกันดีในอีกชื่อว่า ‘นครแห่งสายลม’ เนื่องจากเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลความเย็นของลมทะเลจากช่องแคบไต้หวัน ทำให้ไม่ว่าเราจะไปเดินเที่ยวตรงไหนของเมืองก็จะได้สัมผัสไปกับลมเย็นๆ ที่กระทบเข้ากับผิวกาย โดยเมืองนี้เป็นเหมือนเมืองตากอากาศที่พอเข้าสู่หน้าร้อนเมื่อไหร่ คนเค้าก็นิยมมาเที่ยวพักผ่อนกันเยอะม๊าก ด้วยความที่เมืองเค้าอากาศดี ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเมืองมีความสโลว์ไลฟ์ อีกทั้งยังเดินทางง่าย จากไทเปมาที่นี่ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ส่งผลให้ ซินจู๋ (Hsinchu) เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเค้าชอบมากัน
ด้วยความที่เมืองเค้ามันมีความน่ารัก และไม่วุ่นวาย ผู้คนที่นี่ยังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ การมาเที่ยว ซินจู๋ (Hsinchu) ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการหาเมืองสงบๆ มาพักใจ พักกาย ดื่มด่ำไปกับความเขียวขจีของธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศสบายๆ ซึ่งแพลนเที่ยวของก๊อตก็จะออกจากไทเปไปช่วงสายๆ แล้วอยู่เดินเล่นในถนนคนเดินของเค้า แล้วก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กิน จากนั้นก็กลับเข้ามาไทเปแบบเช้า-เย็นกลับได้เลย บอกก่อนเลยว่าแม้เที่ยว ซินจู๋ (Hsinchu) จะไม่หวือหวา แต่ก๊อตเชื่อว่าทุกคนมาเมืองนี้แล้วจะต้องหลงรักแน่นอน
แพลนเที่ยวในซินจู๋ (Hsinchu)
สำหรับแพลนเที่ยวในซินจู๋ (Hsinchu) ครั้งนี้ บอกก่อนว่าเราไม่ได้ไปกันหลายที่ มีแค่ไปเดินเล่นชิลๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของร้านค้าท้องถิ่นในถนนคนเดินที่มีกลิ่นอายความโฮมมี่แบบสุดๆ จากนั้นก็แวะไปหาอะไรกิน แล้วกลับเลยเท่านั้น แพลนเที่ยวเมืองนี้ เลยจะเป็นการเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง สำหรับคนที่รู้สึกว่าแค่นี้มันน้อยไป๊ เราอาจจะลองเพิ่ม วัดเทพเจ้าเมืองซินจู๋ (Hsinchu City God Temple), พิพิธภัณฑ์ Military Community Museum หรือจะเป็น พิพิธภัณฑ์กระจก เมืองซินจู๋ (Glass Museum of Hsinchu City) เข้าไปในแพลนด้วยก็ได้นะ เอ้อออ
ที่เที่ยวในซินจู๋ (Hsinchu) | 1. ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) |
ร้านอาหารในซินจู๋ (Hsinchu) | 2. Chungeng Restaurant |
ส่วนลด OTA | ส่วนลด Klook ส่วนลด Agoda ส่วนลด Booking ส่วนลด Expedia ส่วนลด Hotels |
วิธีการเดินทางมาซินจู๋ (Hsinchu)
วิธีเดินทางมาเที่ยวซินจู๋ (Hsinchu) เราสามารถเดินทางได้หลายวิธีเลย ซึ่งนี่จะยึดการเดินทางจากจุดเริ่มต้นที่ไทเป (Taipei) เป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยว หรือคนไทยที่บินมาไต้หวันมักจะบินมาลงที่ไทเป จากนั้นค่อยเริ่มเที่ยวในประเทศเค้า โดยการเดินทางมาซินจู๋ (Hsinchu) ก็ไม่ยุ่งยากเลย ด้วยความที่ระบบขนส่งสาธารณะของเค้ามีการจัดการดีและมีให้เลือกขึ้นหลากหลาย ใครชอบแบบไหน ถนัดทางใด สามารถตามตัวเลือกด้านล่างนี้ได้เลย
วิธีการเดินทางจาก ไทเป (Taipei) <-> ซินจู๋ (Hsinchu)
- 🚅 รถไฟความเร็วสูง (THSR): ⭐️ แนะนำ : ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ราคาเริ่มต้น 290 TWD ต่อเที่ยว / สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่นี่ คลิก [ซื้อผ่าน Klook แบบลด 20%] / [ซื้อผ่าน Klook แบบตั๋ว 1 แถม 1] / [ซื้อผ่าน KKday แบบตั๋ว 1 แถม 1]
- 🚞 รถไฟธรรมดา (TRA): ให้นั่งรถไฟจาก Taipei Main Station มาลงที่ สถานีรถไฟ Hsin-chu Station (新竹) โดยรอบรถไฟจะออกตั้งแต่ 05:56 น. และออกกเดินทางทุกๆ 20 นาที ใช้เวลาเดินทาง 1.39 นาที (แล้วแต่รถไฟ) ราคา NT$123-195 (~140-220 บาท)
- 🚕 แท็กซี่: นั่งแท็กซี่จากไทเป (Taipei) มาลงที่ซินจู๋ (Hsinchu) ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ราคา NT$2,215-2,745 (~2,500-3,100 บาท)
- 🚌 รถบัส: ขึ้นรถบัสของ Aloha Bus สาย 3999 จากไทเป (Taipei) มาลงที่ Hsin-chu Station ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1.05 ชั่วโมง ราคา NT$133-230 (~150-260 บาท)
- 🚗 เช่ารถขับ: ใครที่ชอบขับรถเที่ยว ที่ทั้งสะดวกและไม่ต้องเวลารอขึ้นรถสาธาณะ แนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวโลด โดยตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับเที่ยวเองได้แล้วในไต้หวันนะ สำหรับใครที่อยากเช่ารถขับเที่ยวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง รวมถึงต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง นี่รวมข้อมูลที่ต้องรู้ทั้งหมดในการเช่ารถขับในไต้หวันมาฝากแล้ว คลิกอ่านที่นี่ได้เล้ย
> เช็ครถและราคาเช่ารถในไต้หวันผ่าน Klook คลิก
> เช็ครถและราคาเช่ารถในไต้หวันผ่าน KKDay / Chailease / IWS
THSR Pass – พาสรถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูง (THSR) ที่ไต้หวันเค้ามีพาสรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยนะ ใครที่คิดว่าแพลนเราต้องเดินทางด้วยรถไฟความสูง (THSR) หลายครั้ง อาจจะลองเทียบราคาดูว่าคุ้ม และประหยัดกว่าเดิมมั้ยหากเราซื้อพาสเนอะ โดยเค้าจะแบ่งพาสออกเป็นตามนี้เลย
- THSR 3-Day Pass (ราคา 2,200 TWD): เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแบบไม่จำกัดภายใน 3 วันติดต่อกัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
- THSR Flexible 2-Day Pass (ราคา 2,500 TWD): เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแบบไม่จำกัด 2 วัน (ไม่จำเป็นต้องเป็นวันติดกัน) ในระยะเวลา 7 วัน [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street)
มาเริ่มเดินเที่ยวชิลๆ กันที่ ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) ถนนสายดั้งเดิมที่แต่ก่อนนั้นเป็นทางเดินหลักไปยังผืนป่า ก่อนจะถูกปรับปรุงและมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้น จนกลายมาเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งใครที่มาเที่ยวเมืองซินจู๋ (Hsinchu) ต่างก็ต้องแวะเวียนมาเดินเล่น จับจ่ายใช้สอยที่นี่กัน เพราะถนนสายนี้มีของขายอยู่เยอะมากก
สำหรับเน่ยวาน (Neiwan) ตั้งอยู่ในเขตเหิงชาน (Hengshan Township) ในเมืองซินจู๋ (Hsinchu) ที่นี่เป็นชุมชนที่ล้อมรอบด้วยเนินเขาและสายน้ำ ทำให้บรรยากาศโดยรอบมันเงียบสงบ เหมือนเราเดินเล่นอยู่บนภาคเหนือบ้านเราเลย โดยเส้นทางเดินของเค้าก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เป็นตรอกถนนขนาดไม่ใหญ่มากบนเนินเขาที่ไม่ได้ลาดชัน หรือเดินยากเลย สองข้างทางเรียงรายไปด้วยบ้านไม้ และอาคารแบบดั้งเดิมที่มีทั้งเป็นโซนที่อยู่อาศัย และเปิดเป็นร้านค้า ซึ่งทั้งเส้นนั้นร้านค้าละลานตามาก มีทั้งของกิน คาเฟ่ ของฝากขายอยู่ โดยของขึ้นชื่อของเค้าคือ ข้าวเหนียวรสดอกขิง ชาฮากกา เค้กข้าวฮากกา (Muachi) และพลับอบแห้ง โดยเมืองซินจู๋ (Hsinchu) นั้นเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในการส่งออกขายพลับ รวมถึงในแต่ละปีเค้าจะมีเทศกาลพลับด้วยนะเออ เพราะฉะนั้นใครที่มาเที่ยวซินจู๋ (Hsinchu) แล้ว อย่าลืมลองซื้อพลับติดไม้ติดมือมาชิมดู ซึ่งนี่เองก็ได้ลองกินพลับอบแห้งมา รสชาติหวานนิดๆ มีความนุ่มแต่เนื้อหนุบหนับอร่อยเพลินเลยเชียวล่ะ
นอกจากเส้นทางเดินตรงไปตามแนวถนนหลักแล้ว บริเวณ ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) ยังมีตรอกซอกซอยให้เราเดินทะลุเข้าไปเดินเล่นได้อีกด้วย ซึ่งบรรยากาศ และร้านค้าก็จะหน้าตาใกล้เคียง อีกทั้งยังขายของที่คล้ายๆ กันเลยล่ะ นอกจากนี้ในตรอกเค้ายังมีโรงละครเน่ยวาน (Neiwan) ที่เราสามารถเดินเข้าไปดูบรรยากาศได้ใกล้ๆ และยังมีทางเดินเชื่อมไปถึงสถานีรถไฟเน่ยวาน สเตชั่น (Neiwan Station) ซึ่งอยู่ติดกับ ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) ใครที่มีเวลาเยอะๆ สามารถเดินทอดน่องไปได้เรื่อยๆ เดินเข้าออกร้านนั้นที ร้านโน้นที แล้วก็เดินไปถ่ายรูปเล่นตามมุมต่างๆ มันสนุกเอาเรื่องอยู่นาา
ที่ปลายทางของถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ซ่อนอยู่ นั่นคือสะพานเน่ยวาน (Neiwan Bridge) สะพานแขวนที่พาดผ่านลำธารขนาดใหญ่ด้านล่าง รายล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้ เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเค้านิยมเดินมาถ่ายรูปเล่นกัน เพราะบรรยากาศมันสงบ ร่มรื่นสุดๆ ใครที่มาเดินเที่ยว ถนนเก่าเน่ยวาน (Neiwan Old Street) ลองเดินมาจนถึงปลายทาง แล้วแวะมาถ่ายรูปเล่นที่สะพานกันได้
Chungeng Restaurant
เดินเล่นจนขาแทบลาก ก่อนกลับเข้าไทเปขอแวะเติมพลังก่อนกลับที่ร้านอาหาร Chungeng Restaurant ร้านอาหารท้องถิ่นของคนไต้หวัน ที่ใครอยากลิ้มรสชาติอาหารไต้หวันแท้ๆ จะต้องมาลอง ตัวร้านเค้าเป็นอาคารสองชั้น ที่ด้านล่างจะมีเคาท์เตอร์ทำอาหาร และมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งอยู่แค่ไม่กี่โต๊ะ ต่างจากชั้นสองของร้าน ที่ที่นั่งถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน มีทั้งโซนที่นั่งแยกออกไปเป็นห้อง และที่นั่งรวมกันอยู่โถงตรงกลาง โดยเราเลือกนั่งกันในห้องแยกออกมาเพื่อความเป็นส่วนตัว
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
สำหรับเมนูที่ต้องสั่งเลย คือ ปลากะพงนึ่งจานใหญ่ ที่เสิร์ฟปลาทั้งตัวมาบนน้ำซอสรสกลมกล่อม โปะด้วยผักสาระพัดอย่างที่เพิ่มความหอมให้กับเนื้อปลา จานนี้รสชาติดีมาก น้ำซอสเค้ามีความเค็ม แต่เป็นเค็มที่กลมกล่อม ไม่ได้เค็มโดด เนื้อปลากะพงนึ่งสุกมากำลังดี กินแล้วสัมผัสได้ถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบ เป็นเมนูง่ายๆ แต่ทำรสชาติออกมาได้ดีเลย
อีกจานที่อยากให้ลองสั่ง คือผัดสายบัวใส่เห็ด จานนี้หากมองผิวเผินก็คงเหมือนกับผัดผักทั่วไป แต่เจ้าเส้นเขียวๆ ที่เห็นในจานนั้นเค้าคือสายบัว ซึ่งนี่พยายามไปหาข้อมูลมาแล้วว่าเค้าใช้บัวอะไรมาผัดให้กิน ซึ่งเจอแต่รูป และหน้าตาตอนผัดเสร็จเท่านั้น แต่ใครนึกภาพไม่ออกว่ามันเป็นส่วนไหนของต้นบัว ที่จริงมันก็คือสายบัวเหมือนที่เราเอามาตำใส่ส้มตำ อันนี้เค้าก็ใช้ส่วนเดียวกันมาทำเลย แต่สายบัวเค้าจะเส้นเล็ก และเป็นสีเขียว โดยรสชาติของจานเหมือนกับผัดผัก มีความหวานเค็มลงตัว แต่ที่อยากให้ลองเพราะไม่ค่อยจะเห็นสายบัวหน้าตาแบบนี้สักเท่าไหร่ เหมือนต้องมาที่ไต้หวันถึงจะได้กิน สำหรับเมนูผัดอื่นๆ ก็รสชาติกลางๆ สามารถสั่งมาลองกินได้เลย
โดยรวม Chungeng Restaurant เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ยากให้มาลองกัน บรรยากาศร้านเหมือนภัตตาคารอาหารจีนเลย ที่ร้านเค้ามีเมนูหลากหลายให้ได้สั่ง ในส่วนของรสชาติก็กลมกล่อมอร่อยถูกปาก ใครมาเที่ยวซินจู๋ (Hsinchu) แล้วไม่รู้จะไปฝากท้องไว้ที่ไหน สามารถมาฝากไว้ที่นี่ได้
และนี่ก็คือการมาเที่ยวซินจู๋ (Hsinchu) ในครั้งนี้ ต้องบอกก่อนว่า รอบนี้เรามาแบบปุบปับทัวร์มาก เลยจะไม่ได้ไปเที่ยวในหลายๆที่ เน้นเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศออกมาเที่ยวในเมืองชิลๆ ไม่ต้องวุ่นวาย เดินเล่น ซื้อของ ส่องธรรมชาติเสียส่วนใหญ่ ใครที่ต้องการพักผ่อนแบบไม่หวือหวา ซินจู๋ (Hsinchu) เป็นอีกเมืองที่น่ารักโคตรๆ อีกทั้งบรรยากาศดี แถมอากาศก็เย็นสบาย มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา สมกับที่เป็นเมือง ‘แห่งสายลม’ จริงๆ
รีวิวเที่ยวไต้หวันหมดจาก HASHCORNER!
โซนภาคเหนือ ไตหวัน
1. ไทเป (Taipei) #1
2. ไทเป (Taipei) #2
3. หยางหมิงซาน (Yangmingshan)
4. จิ่วเฟิ่น-จินกัวสือ (Jiufen-Jinguashi)
5. ปี๋โถวเจี่ยว (Bitoujiao)
6. ซินจู๋ (Hsinchu)
7. จีหลง (Keelung)
8. นิวไทเป ซิตี้ (New Taipei City)
9. เถาหยวน (Taoyuan)
โซนภาคกลาง ไต้หวัน
10. ไทจง (Taichung)
11. ซันมูนเลค / ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)
โซนภาคใต้ ไต้หวัน
12. ไถหนาน (Tainan)
13. อาลีซาน (Alishan)
14. ชิงจิ้ง-เหอหวนซาน (Cingjing-Hehuanshan)
โซนภาคตะวันออก ไต้หวัน
15. ฮัวเหลียน (Hualien)
16. ทาโรโกะ (Taroko)
17. ไถตง (Taitung)
18. เกาสง (Kaohsiung)
19. เขิ่นติง (Kenting)
20. ไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
21. อี้หลาน (Yilan)
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเที่ยวไต้หวัน
22. เช่ารถขับในไต้หวัน [อัปเดท 2023]
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡