รีวิว ไทเป #1 (Taipei) เที่ยวไต้หวัน ทั่วประเทศ!

 

ไทเป (Taipei) เมืองที่ทุกคนต้องมาเมื่อมาเที่ยวไต้หวัน เพราะไทเปเป็นเมืองที่เกือบทุกคนจะต้องมาแลนด์ดิ้งที่นี่ก่อนที่จะไปเที่ยวเมืองอื่น ใครที่ชอบช็อปปิ้ง ชอบความเป็นเมืองมีตึกสูง ชอบกินของกินอร่อยๆ หรือจะชอบเดินเทรลสูดอากาศธรรมชาติ ไทเปคือมีทุกอย่างให้เราได้เที่ยวนะ และรีวิวนี้เราจะไปเที่ยวสถานที่วัยรุ่นชอบไปเท่านั้น พวกสถานที่ที่คนส่วนมากอย่างรุ่นพ่อรุ่นแม่ อากง อาม่าชอบไปไปเราจะไม่ไป ยกเว้นวัดหลงซานที่อยากให้ไปไหว้เพื่อขอพร อิอิ

ไทเปรีวิวนี้ ผมจะแบ่งเป็น 3 วัน 2 คืน สองวันแรกจะอยู่หน้านี้ ส่วนวันสุดท้ายเราจะไป อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan​ National Park) ซึ่งจะเขียนแยกไปอีกรีวิวนึงเลย เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะ … และ ยังเขียนไม่เสร็จ รอก่อนเด้อ อ่านอันนี้ไปก่อน 5555555

! ถ้าอ่านรีวิว #ไต้หวันซัมเมอร์ นี้ใน Hashcorner ครั้งแรก
ให้อ่านตรงนี้ก่อนว่า รีวิวนี้มีไปไหน และมีรีวิวอะไรบ้าง?
ใครอ่านตอนอื่นแล้ว ข้ามไปได้เลยจ้า

ทริป #ไต้หวันซัมเมอร์ ทริปนี้ ถือว่าเป็นการเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบมหากาพย์มาก เราเดินทางกันทั้งหมด 11 วัน ตะลอนเที่ยวซีกขวาเกือบทั้งหมดของเกาะไต้หวัน โอ้ยย .. มันเยอะมากกก

 

ลงจากเครื่อง เราตรงดิ่งไปยังเมืองเสน่ห์แรงบันดาลใจการ์ตูนดังอย่าง Sprited Away ที่ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) และขึ้นฉิ่งฉับรถเมล์ไปเที่ยวที่ จินกัวสือ (Jinguashi) ก่อน จากนั้นลากยาวมายังเมืองที่ตั้งอยู่ด้านขวาของเกาะไต้หวันอย่าง ฮัวเหลียน (Hualien) แวะเข้า อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko National Park) จากนั้นเริ่มต้นความสนุกด้วย Road Trip จากฮัวเหลียน มายัง ไถตง (Taitung) ลากยาวมาจุดใต้สุดของเกาะไต้หวันที่ อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park) อุทยานชายฝั่งทะเลที่แนะนำให้ขึ้นเขาไปดูวิว (แม่งพีค)

 

สุดท้ายแวะนอนที่ ไถจง (Taichung) แล้วขึ้นเขาไปยัง ฟาร์มแกะชิงจิ้ง (Cingjing Farm) และดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูเขาเหอหวน (Hehuanshan) ปิดท้ายการเที่ยวทริปนี้ด้วย อุทยานแห่งชาติหยางหมินซาน (Yangmingshan National Park) และ ไทเป (Taipei) แบบชิคๆ คูลๆ ก่อนกลับบ้าน ทั้งหมดนี้ถือเป็นทริปที่สวยงามมากมึง 5555555555

อ่านแล้วอาจจะงงว่าแบบ ‘แม่งคือไรวะ?’ เอาน่า รู้ว่าชื่อเมือง ชื่อที่เที่ยวมันเยอะ
อ่านรีวิวของแต่ละจุด แล้วน่าจะเข้าใจมากขึ้น ว่านี่ไปเที่ยวไหนมาบ้าง
อ่านรีวิวทั้งหมดเสร็จแล้ว บิดแพลนนิดหน่อยให้เข้ากับตัวเอง แล้วตามรอยเที่ยวไต้หวันแบบทริปนี้ได้เล้ย 💞

สารบัญ: #ไต้หวันซัมเมอร์ PANTIP
รีวิวเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองจบในทริปเดียว

 

1. Taipei (ไทเป) – เที่ยวแบบวัยรุ่นกับที่ฮิปและโคตรคูลที่สุดในไต้หวัน
2. Yangmingshan National Park (อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน) – ปีนเขา เดินเทรล ชมธรรมชาติแบบไม่ต้องไปไกลจากไทเป
3. Jiufen + Jinguashi (จิ่วเฟิ่น + จินกัวสือ) – ตามรอยอนิเมะ Spirited Away
4. Hualien (ฮัวเหลียน) – เดินเทรลดูเขาหินอ่อน
5. Taroko National Park (อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ) – เดินเล่นทะเลหินดำ
6. Taitung (ไถตง) – ขับรถเที่ยว Road Trip แวะจุดชมวิว
7. Kenting (เขิ่นติง) – ชมวิวขอบทะเลใต้สุดของไต้หวัน
8. Cingjing + Hehuanshan (ซิงจิง + เหอหวนชาน) – ธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์ไต้หวัน

แถมรีวิว #ไต้หวันคนเดียว จากปีที่แล้ว เผื่อสนใจอยากไป

1. Alishan (อาลีซาน) – เดินเทรลในป่าสน ฟินทะเลหมอกฤดูหนาว .. อันนี้พีคมากก
2. Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา) – ทะเลสาปสีฟ้าเขียว ผืนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน

อ่านรีวิวไต้หวันทั้งหมดครึ่งประเทศทั้งหมดที่นี่ คลิก

 

 

เอาล่ะ สำหรับใครที่พร้อมจะไปเที่ยว ไทเป (Taipei) แล้วล่ะก็ ตามกันมาได้เลย นี่พร้อมจะพาไปเที่ยวแล้วเด้อ

วันแรก: Huashan 1914 Creative Park

เริ่มต้นวันแรกในไทเปด้วย Huashan 1914 Creative Park ที่ถูกรีโนเวทจากโรงงานไวน์เก่ามาเป็นครีเอทีฟปาร์คที่เต็มไปด้วยอีเวนท์ติสๆ ร้านกาแฟเก๋ๆ รวมถึงร้านขายของคูลๆ ที่คนวัยรุ่นไต้หวันสร้างสรรค์ผลงานแล้วเอามาตั้งแผงวางขายให้กับคนที่ได้แวะเวียน

วิธีการมา Huashan 1914 Creative Park –  การเดินทางมายังที่นี่ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่เรานั่งรถไฟสายสีน้ำเงินมาที่สถานี Zhong Xiao Xing Sheng (忠孝新生) ให้ออกประตู 1 แล้วเดินมาอีกนิดนึงก็ถึงแล้ว

วันที่ผมไปมีอีเวนท์เซเลอร์มูนอยู่ ฮ่าๆ ♥️

 

ใน Huashan 1914 Creative Park นั้นค่อนข้างใหญ่มากเลยทีเดียวนะ คือเราสามารถใช้เวลาประมาณครึ่งวันกับการเดินเล่น ดูของ และนั่งกินกาแฟที่นี่ได้แบบไม่น่าเบื่อ แล้วคือที่นี่ร้านของน่ารักๆและของติสท์ๆเยอะมาก เยอะแบบหลากหลายตั้งแต่ของกระจุกกระจิก ของแต่งบ้านยันเสื้อผ้า ขนม ของฝาก คือถ้าใครคิดว่าอยากจะซื้อของฝากให้ใครละก็ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการหาซื้อของฝากเลยล่ะ

 

ที่นี่มี Starbucs Reserve ด้วยนะเออ สตาร์บัคที่นี่ไม่ธรรมดานะแจ๊ะ ร้านใหญ่อลังการ แถมยังมีจัดนิทรรศการของสตาร์บัคเอง รวมถึงสาธิตวิธีการทำกาแฟด้วย

Wonderful Life คืออีกร้านที่แนะนำให้ลองเดินเล่นดู ร้านนี้คือขายของน่ารักทุกอย่างที่ทำขึ้นจากไม้ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาไขลาน กล่องดนตรี รวมถึงของเล่น ของตกแต่งบ้าน // กลับมาไทย เราเห็น Wonderful Life มีขายในไทยด้วยแหะ แต่มีไม่กี่ชิ้นที่ขายในไทย แต่ที่ไต้หวันคือร้านใหญ่โคตร ฮ่าๆ

Songshan Cultural Creative Park

เดินเล่น Huashan 1914 Creative Park เสร็จ นี่จะพามาอีกครีเอทีฟปาร์คที่ชื่อว่า Songshan Cultural Creative Park (การเที่ยววันนี้คือการเที่ยวแบบติสๆท์ เดินครีเอทีฟปาร์ค 5555) ที่นี่จะไม่ค่อยคึกคักเหมือนที่แรก เพราะร้านน้อยกว่า

 

 

แต่ถ้ามีงาน Exibition ที่จัดที่นี่เมื่อไหร่ บอกเลยว่าที่นี่คนเยอะชิบหาย ถึงแม้ว่าวันที่ผมไปจะไม่มีจัดงานอะไร ที่นี่ก็น่ามาเดินเล่นอยู่ดีนา เพราะต้นไม้ที่นี่เยอะมาก แถมยังมีร้านหนังสือที่มีคาเฟ่อยู่ด้านใน รวมถึงร้านที่ขายของเก๋ๆให้เดินเลือกซื้อของอีกด้วย น่าจะถูกใจคนติส คนฮิปพอสมควร

 

วิธีการมา Songshan Cultural Creative Park – ให้นั่งรถไฟสายสีน้ำเงินมายัง Taipei City Hall Station (市政府) ออกประตู 1 จากนั้นพิมพ์หาใน Google Map แล้วเดินตามโลด

ร้าน Design Pin ร้านนี้ของที่ขายคือโคตรดีย์ ส่วนตัวผมว่าดีกว่าร้านที่ Huashan 1914 Creative Park อีก เพราะของที่นี่จะเน้นไลฟ์สไตล์และดีไซน์ผสมผสานเข้าด้วยกัน เป็นของที่ไม่ได้หาง่ายๆได้ทั่วไปเหมือน Huashan 1914

ปีนเขาเซียนซาน (Xiangshan) ดูพระอาทิตย์ตก

ที่สุดท้ายสำหรับวันแรกในการเที่ยวไทเป เราจะไปออกกำลังกายโดยการปีน เขาเซียนซาน (Xiangshan) หรือบางคนเรียกว่า เขาช้าง (Elephant Mountain) เพื่อขึ้นไปดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไทเปกันซักหน่อย อีกทั้งที่นี่คือจุดชมวิวตึก Taipei 101 ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วยนาา สุดท้ายที่ดีย์งามสุดคือมันฟรี แค่ต้องแลกกับกำลังกายและเหงื่อนิดหน่อยเท่านั้น 5555

วิธีการมาเขาเซียนซาน (Xiangshan) – ให้นั่งรถไฟใต้ดินมายังสถานี Xiangshan สุดสายสีแดง ออกประตู 2 จากนั้นเดินตรงมาเรื่อยๆตามป้ายปีนเขา เปิด Google Map ง่ายสุด

จริงๆมันมาปีนเขาดูวิวเมืองไทเปได้ตลอดทั้งวันนะ แต่เวลาที่อยากแนะนำมากที่สุดคือช่วงตอนเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกจะเป็นช่วงที่สวยมากที่สุด เพราะจะได้เห็นวิวสามแบบแตกต่างกันคือ ทั้งตอนสว่าง ตอนพระอาทิตย์กำลังตก และตอนมืด

เมื่อเราเดินขึ้นมาเราจะเจอกับแพลตฟอร์มดูวิวเมืองไทเปอยู่ ถ้าใครเหนื่อยแล้ว ไม่ไหวจะปีนขึ้นอีก จะพักอยู่ตรงนี้ก็ได้ แต่ถ้าใครยังมีแรง แนะนำให้เดินขึ้นต่อไปอีกประมาณ 15 นาที เราจะได้เห็นวิวที่กว้างกว่า สวยกว่า แต่คนไม่น้อยกว่าเลย ฮ่าๆ ปักหลักตรงนี้ดูวิวจนมืดได้เล้ยแกร๊

หากใครเคยเห็นมุมที่ยืนบนหินแล้วเห็นตึก Taipei 101 อยู่ด้านหลัง มุมนี้อยู่บนเขาเซียงซานนี่แหละจาา แล้วคือคนต่อแถวเพื่อปีนหินถ่ายรูปเยอะมาก นี่เลยไม่ถ่าย คนเยอะเกิน 5555

และสามภาพถัดไปคือบรรยากาศที่แตกต่างกันระหว่างช่วงตอนเย็นจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แนะนำมากๆให้เรามาตอนเย็นเนี่ยแหละดีที่สุด 😆

สวยไม่สวย .. ดูเอาเอง เราไม่ต้องไปขึ้น Observation Deck ที่ไหนให้เสียตังค์แพงๆ ที่นี่แหละฟรี และสวยมาก ❤

วันที่สอง: วัดหลงซาน (Longshan Temple)

ตื่นเช้ามากับอากาศที่แจ่มใสของไทเป นี่อยากให้ทุกคนเริ่มวันดีย์ๆกับการไปไหว้พระขอพรที่ วัดหลงซาน (Longshan Temple) กันเด้อ โดยวัดหลวงซานแทบจะเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน มีอายุเกือบ 300 ปี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1738 โดยคนไต้หวันเลื่อมใสและศรัทธาวัดนี้มากๆ จากการที่วัดนี้ถูกทำลายหลายครั้ง รวมถึงถูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย แต่ที่น่าแปลกคือ “พระโพธิสัตว์กวนอิม” ที่เป็นองค์ประธานวัดนี้กลับไม่ได้รับความเสียหาย ทำให้คนไต้หวันเลื่อมใสและศรัทธาวัดนี้มากขึ้นไปอีก ดังนั้น ใครที่ศรัทธาเจ้าแม่กวนอิม แนะนำให้มาวัดนี้มากๆเลยล่ะครับ

วิธีการมาวัดหลงซาน (Longshan Temple) – ให้นั่งรถไฟใต้ดินมายังสถานี  Longshan Temple Station ออกประตู 1 เดินมาอีกหน่อยก็เจอเลย ง่ายมาก

 

สำหรับเวลาแนะนำที่ในการมาวัดหลงซานนั้น แนะนำให้มาช่วงเวลา 6 โมงเช้า, 8 โมงเช้า และ 5 โมงเย็น เพราะจะมีผู้ศรัทธามารวมตัวเพื่อสวดมนต์อธิฐานกัน

การเดินเข้าวัดหลงซานนั้น หากเราหันหน้าเข้าวัดหลงซาน แนะนำให้เราเดินวนขวา โดยการเดินเข้าประตูมังกรที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาที่มีน้ำตกตั้งอยู่ (น้ำตกรูปด้านบน) ถ้าเราไม่ได้เตรียมของมาไหว้ ที่วัดมีขาย.. ไม่ต้องห่วง เรื่องวิธีการไหว้นั้น แนะนำให้เราหาป้าย Longshan Temple Guide Map ในวัด ป้ายนี้จะมีวิธีการไหว้ที่ถูกต้องบอกไว้ รวมถึงวิธีโยนไม้ปวยเพื่อถามคำถามกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

ย่านฮิปฟูจิน สตรีท (Fujin Street)

ย่านสุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือ ย่านฟูจินสตรีท (Fujin Street) ย่านนี้เป็นถนนเส้นเล็กๆไม่ใหญ่มากชื่อว่าฟูจิน (Fujin) ถนนเส้นนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ร้านค้าที่ขายของอาร์ตๆ และร้านกาแฟเก๋ๆที่เหมาะกับการมาเดินอ้อยอิ่งแบบชิลๆ ที่ชิลเพราะที่นี่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ อีกทั้งของที่ขายย่านนี้มันไม่แมส คนเลยไม่เยอะ ทำให้เราชิลเปื่อยๆได้จริงๆ ฮ่า ถ้าจะให้เทียบบรรยากาศในไทยแล้ว ย่านนี้จะฟีลเหมือนซอยเล็กๆที่อยู่ตามย่านเอกมัย-ทองหล่อยังไงยังงั้นเลย

วิธีการมาฟูจินสตรีท (Fujin Street) – ให้เรามาลงที่สถานี Songshan Airport ทางออก 3 แล้วหาชื่อ Fujin Street ใน Google Map แล้วเดินตามทางได้เล้ย หรือถ้าใครขี้เกียจเดินก็โบกแท็กซี่เอาก็ได้ เพราะมันก็ไม่ได้ใกล้จากสถานีรถไฟ MRT มาก

 

นอกจากที่บอกมา ถนนฟูจินยังเป็นที่ตั้งของ BEAMS ร้านดังจากญี่ปุ่นที่ตั้งที่นี่ในไต้หวันเป็นที่แรก ซึ่ง BEAMS นั้นจะขายของแฟชั่นทั้งของแบรนด์ BEAMS เอง และแบรนด์อื่นๆที่คูลๆในแบบที่เค้าคัดสรรมาให้เราไว้เรียบร้อยหมดแล้วนั่นเอง รวมถึงร้าน FREITAG ที่ขายกระเป๋าคอนเซ็ปเจ๋งๆ ที่เค้านำเอาผ้าใบของรถบรรทุกมาทำเป็นกระเป๋าอีกด้วยน้า ซึ่งจริงๆ  BEAMS กับ FREITAG นี้ก็มีร้านอยู่ที่ไทยนะ แต่บอกไว้เผื่อใครอยากตามหาของที่อาจจะไม่มีขายในไทยอะไรแบบนี้ ฮี่ฮี่

 

ส่วนร้านขายของอื่นๆ นี่ลองเข้าไปเดินเล่นมาเหมือนกัน จะบอกว่าของคูลเว่อร์ คือมันเป็นของมีดีไซน์ที่ดีย์งาม แต่ราคาก็แรงตามความสวยของมันเช่นกัน ฮ่าๆ รับประกันว่าซื้อไปคือไม่ซ้ำแบบใครในไทยแน่นอน เพราะดูจากของที่ขายหลายอย่างในร้านคือเค้าคัดสรรมาแล้วแบบดิบดี

Fujin Tree CAFE

หลังจากเดินเล่นดูของเรียบร้อยแล้ว เรามาจบย่านนี้ด้วยการนั่งกินกาแฟกัน ร้านที่แนะนำและอยากให้มากินให้ได้คือร้าน Fujin Tree Cafe เป็นคาเฟ่ร้านแรกๆบนถนนย่านนี้ แถมบาริสต้ายังมีดีกรีความเป็นแชมป์ 2016 World Cup Barista Championship อีกด้วย อ่ะ .. เชื่อหรือยังว่าของเค้าดี 5555

 

การจะนั่งที่นี่ มันอาจจะมีเงื่อนไขซักหน่อยนะ เพราะว่าคนที่มานั่งจะต้องสั่งอย่างน้อยคนละ 1 แก้ สมมุต มากัน 3 คน จะมาสั่งสองแก้วไม่ได้ อันนี้แอบโหดนิดๆ

และนี่คือสิ่งที่สั่งมา แท่นแท๊นน .. คาปูชิโน อเมริกาโน ดาร์กบราวชูการ์ลาเต้ กับ กรีนทีโรล ยอมรับว่าอร่อยโคตร (แต่ราคาก็แรงโคตรเช่นกัน) กาแฟเริ่มต้น $140-$200 เลยทีเดียว ฮือ ที่แนะนำคือ Dark Brown Sugar Latte ที่หอมกลิ่นน้ำตาลทรายแดงมาก รสดีย์ กินแล้วเคลิ้ม

กินจนมืดค่ำ จากนั้นก็กลับโรงแรมนอนแบบสบายใจเฉิบ ฮ่า 😂

วันที่สาม: อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan​ National Park)

ใครคิดว่าไทเปมีแต่ตึก ตึก ตึก ไทเปยังมีอุทยานแห่งชาติให้เราได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ไม่ไกลจากใจกลางเมือง ที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan​ National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่โคตรใหญ่ จะเที่ยวที่นี่ทั้งทีคือต้องให้เวลากับมันหนึ่งวันเลยทีเดียว (จริงๆ วันเดียวเที่ยวไม่หมดด้วยซ้ำ)

ด้วยความที่ อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan​ National Park) มันใช้เวลาเที่ยวแบบหนึ่งวันเต็มๆ และรายละเอียดการเที่ยวเยอะมาก ผมเลยจะแยกไปอีกหนึ่งรีวิวเลยละกันเนาะ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเขียนอยู่ ฮ่าๆ อดใจรอกันซักนิด มาแน่นอน 😄

ที่พักแนะนำในไทเป PANTIP

ที่พักที่ผมได้พักจริงในไทเปนั้นจะมี 2 ที่พักคือ Posh Packer ที่พักยอดฮิตที่คนไทยชอบไปพักกัน กับอีกหนึ่งที่พักใหม่ Finders Hotel ที่ต้องบอกเลยว่า คูลเว่อร์ เหมาะกับวัยรุ่นอย่างเรามาก ทั้งสองที่นั้นอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่คืออยู่แถวๆ Taipei Main Station ที่ผมเลือกโซนนี้เพราะว่ามันใกล้กันกับสถานีขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในไทเป จะเดินทางไปเที่ยวไหนก็สะดวก ไม่ว่าเราจะออกต่างจังหวัดทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง หรือแม้แต่เที่ยวในไทเปเองนั่นเอง

ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking, Hotels.com และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook ปี 2022

※ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡

> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า) > ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง) >  ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย) > ส่วนลด Hotels.com (โฮเทลส์) > ส่วนลด Klook (คลุก) > ส่วนลด LAZADA (ลาซาด้า) > ส่วนลด Shopee (ช้อปปี้) 

Finders Hotel

โรงแรมที่เราไปพักที่แรกในเมืองไทเปเลยคือ Finders Hotel อันนี้อยากแนะนำมากกกกกกกกก เป็นโรงแรมที่พึ่งเปิดใหม่ไม่นาน ดีไซน์คูลเว่อร์ แถมราคาไม่แรง เดินไม่ไกลจากสถานี Taipei Main Station เท่าไหร่ และที่ดีสุดๆเลยคือ ล็อบบี้ส่วนกลางของโรงแรมคือดีชิบหาย

 

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวาง มีโซฟาให้นั่งเล่น มีเกมและกิจกรรมสนุกๆให้ทำ มีห้องฉายหนังให้ดู ที่นี่ยังมีมาม่า น้ำอัดลม ขนมกุ๊กกิ๊ก ชากาแฟ และป๊อปคอร์นให้เราหยิบกินฟรีที่ล็อบบี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย โคตรดีย์จนผมต้องแนะนำแบบออกตัวแรงเลยทีเดียว // ปล. ที่นี่ไม่มีอาหารเช้าให้นะแจ๊ะ

 

สำหรับห้องพักนั้น ตัวผมนั้นจองห้องนอนแบบสามคน ห้องพักคือทำได้ดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบตามที่คาดหวังไว้  เตียงดี หมอนโอเค ห้องน้ำเริ่ด ทุกอย่างดีนั้นแหละ ฮ่าๆๆ แต่มันไม่ได้ตกแต่งหวือหวาดีไซน์จี๊ดเหมือนล็อบบี้แค่นั้น

 

 

และจากที่ได้พักมา ส่วนมากผมกับเพื่อนก็จะขลุกตัวอยู่ล็อบบี้ซะส่วนมาก ซึ่งคนที่พักอยู่ที่นี่ก็มารวมตัวกันอยู่ล็อบบี้หลายคนเป็นกลุ่มเป็นก้อนเหมือนกัน ผมกับเพื่อนก็นั่งต้มมาม่ากินพร้อมนั่งเล่นหมากรุกไปด้วย มีความสุขแฮปปี้จิงกะเบลกับโรงแรมนี้มาก บอกเลย ฮี่ฮี่

Posh Packer Hotel

Posh Packer Hotel ที่พักยอดฮิตของคนไทย ปีที่แล้วที่ผมไปเที่ยวไต้หวันคนเดียว ผมก็พักที่นี่ ปีนี้ก็กลับมาอีกครั้งเพราะประทับใจจากครั้งแรกค่อนข้างมากเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจขอไปซบหมอนที่ Finders Hotel แทนละกันนาจา ถึงใจจะเปลี่ยน ก็ขอรีวิวด้วยเลยแล้วกัน ฮี่ฮี่

ความดีย์ของที่นี่คือ มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องรวมให้เลือก ทำเลดี ราคาถูก ร้านอาหารและของกินล้อมรอบ ตั้งอยู่ใกล้ Taipei Main Station ทำให้เดินทางสะดวกมากก สุดท้าย ที่นี่เป็นห้องน้ำรวมนะจ๊ะ

เนื่องจากผมไม่ได้ถ่ายรูปที่โรงแรมนี้ไว้ เนื่องจากความเหนื่อยและเร่งรีบตอนนั้น จึงขอนุญาตลงรูปจากปีที่แล้วแทนแล้วกันเด้อ 🙂

 

อ่านรีวิวไต้หวันอื่นๆ

นอกจาก รีวิวเที่ยวไทเป (Taipei) เรายังมีที่อื่นอีก ซึ่งกำลังทยอยเขียนอยู่ รอหน่อยเด้อออ 55555

1. Alishan (อาลีซาน) – เดินเทรลในป่าสน ฟินทะเลหมอกฤดูหนาว .. อันนี้พีคมากก
2. Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา) – ทะเลสาปสีฟ้าเขียว ผืนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
   
3. Taipei (ไทเป) – เที่ยวแบบวัยรุ่นกับที่ฮิปและโคตรคูลที่สุดในไต้หวัน
4. Yangmingshan National Park (อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน) – ปีนเขา เดินเทรล ชมธรรมชาติแบบไม่ต้องไปไกลจากไทเป
5. Jiufen + Jinguashi (จิ่วเฟิ่น + จินกัวสือ) – ตามรอยอนิเมะ Spirited Away
6. Hualien (ฮัวเหลียน) – เดินเทรลดูเขาหินอ่อน
7. Taroko National Park (อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ) – เดินเล่นทะเลหินดำ
8. Taitung (ไถตง) – ขับรถเที่ยว Road Trip แวะจุดชมวิว
9. Kenting (เขิ่นติง) – ชมวิวขอบทะเลใต้สุดของไต้หวัน
10. Cingjing + Hehuanshan (ซิงจิง + เหอหวนชาน) – ธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์ไต้หวัน