น่าน ถือเป็นจังหวัดมาแรงที่หลายคนอยากไปเที่ยวกันมากที่สุดของปีนี้เลยแหละ ด้วยธรรมชาติของภูเขา น้ำตก ลำธาร ทุ่งนาที่สวยแบบพีคๆแล้ว ที่พักและโฮมสเตย์ของน่านเค้าก็ไม่ธรรมดา ซึ่งของเค้าถือว่าดังมาก ถ่ายรูปลงโซเชียลทุกคนต้องอิจฉา จนหลายที่พักนั้นต้องจองกันข้ามปีกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าน่านเค้าไม่ธรรมดา ไม่เชื่อมาตามรอย 28 พิกัด ที่ก๊อตได้ไปเที่ยวมาแล้วแบบติดกันสองรอบกันได้เล้ย!
27 ที่เที่ยวน่าน สะปัน-บ่อเหลือ-สันติสุข-ปัว-สกาด-เมืองน่าน
สำหรับ 28 พิกัด ที่เที่ยวน่าน ด้านล่างนี้ คืออันที่ก๊อตได้ไปเที่ยวจริง พักจริงมาแล้วจากทริปน่าน 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยก๊อตขอแบ่งที่เที่ยวและที่พักออกเป็นแต่ละโซน เพื่อง่ายแก่การเข้าใจ และวางแผนเที่ยวได้ถูก ยังไงลองเลือกและอ่านรีวิวแต่ละที่ได้เลย
บ้านสะปัน : อำเภอบ่อเกลือ
บ้านสะปัน จังหวัดน่าน เริ่มกลายเป็นจุดมุ่งหมายยอดฮิตของคนไทยที่ต้องการความเงียบสงบและมาพักผ่อน เพราะธรรมชาติของหมู่บ้านสะปันถือว่าดีและครบเครื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนาเขียวๆ โอบล้อมด้วยภูเขาเกือบทุกด้าน ตอนเช้ามีหมอกสวยๆ แถมยังมีน้ำตกให้เที่ยวเล่นอีก โดยรวมถือเป็นอีกที่หนึ่งที่โคตรดีของจังหวัดน่าน และไม่อยากให้พลาดเมื่อเรามาเที่ยวจังหวัดน่านกันเนอะ
หมู่บ้านสะปัน
อันนี้ขอพูดในมุมกว้างๆ ถึงหมู่บ้านสะปันเนอะ ซึ่งเค้าคือหมู่บ้านเล็กที่โอบล้อมด้วยภูเขา เราสามารถเดินเล่นได้แบบเอื่อยๆ ชิลๆ พร้อมชมวิวทั้งภูเขา ทุ่งนา และวิถีชีวิตชาวบ้านได้เลย โดยช่วงที่แนะนำให้มาเที่ยวบ้านสะปันคือช่วงทุ่งนาเขียว คือ เดือน สิงหาคม-ตุลาคม เนอะ ส่วนใครอยากดูหมอก อาจจะต้องเป็นหน้าหนาว แต่ส่วนตัวก๊อตคิดว่า ทุ่งนาเขียวๆ คือพีคกว่า
จุดชมวิว วัดสะปัน
จุดชมวิวที่ห้ามพลาดของบ้านสะปัน นี่อยากแนะนำให้เราขึ้นไปดูทุ่งนาสวยๆในมุมท็อปตรง ‘วัดสะปัน’ ได้เลย ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่เราสามารถเดินเล่น ดูวิวหมู่บ้านสะปันพร้อมทุ่งนาสวยๆ ได้แบบพาโนรามา ซึ่งนี่ถือเป็นอีกจุด Hidden Gem ที่หลายคนอาจจะไม่รู้เลยแหละ
สำหรับใครที่เป็นสายกางเต๊นท์แคมป์ปิ้งล่ะก็ ตรงหน้าวัดสะปัน เค้ามีลานกางเต็นท์ด้วย ซึ่งทางวัดเองจะเก็บค่าบำรุงสถานที่นิดหน่อย ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่คนละ 100 บาท เท่านั้นเอง
อุ่นไอมาง ณ สะปัน
สำหรับใครที่อยากกินกาแฟสดดีๆ ในบรรยากาศสุดฟินที่สะปันล่ะก็ นี่ขอแนะนำกับ อุ่นไอมาง ณ สะปัน เลยล่ะ เพราะนอกจากที่นี่จะเป็นที่พักยอดฮิตของใครหลายๆคนที่ได้มาเที่ยวสะปันแล้ว อุ่นไอมาง ณ สะปัน ยังเป็นคาเฟ่กาแฟสดแห่งเดียวในหมู่บ้านที่ทำกาแฟได้อร่อย และมีบรรยากาศอบอุ่นอีกด้วย ดังนั้น ถึงแม้ใครจะไม่ได้มาพักที่นี่ แต่เราก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศความชิลๆ นั่งกินกาแฟริมแม่น้ำแบบคนอื่นได้เช่นเดียวกันเด้อ
น้ำตกสะปัน
น้ำตกสะปัน ที่เป็นน้ำตกขนาดกลางซ่อนตัวอยู่ในป่าบริเวณใกล้ๆกับหมู่บ้านนั่นเอง เราสามารถขับรถเข้าไปจอดยังทางเข้า และเดินเข้าไปยังตัวน้ำตกด้านในได้เลย ซึ่งน้ำตกสะปันนั้นเป็นน้ำตกขนาดกลาง มีทั้งหมดอยู่ 3 ชั้น ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 20 นาทีในการเดินเข้าไปด้านในสุด
สะปัน Riva ที่พักโฮมสเตย์
การมาเที่ยวบ้านสะปันรอบที่สอง ก๊อตได้มีโอกาสมาพักที่ สะปัน Riva ที่ถือว่าเป็นที่พักใหม่ล่าสุด จากตอนแรกที่เค้าทำที่พักเป็นแคมป์ปิ้งริมน้ำ แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนและย้ายมาที่ใหม่ที่กลายเป็นบ้านเดี่ยวเล็กๆ แบบไพรเวทที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาเชิงเขาในหมู่บ้านสะปันนี้นี่เอง
ถ้าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว บอกเลยว่าที่ สะปัน Riva ตอบโจทย์มาก เพราะแต่ละคืน เค้าจะรับกลุ่มคนเข้าพักแค่ 1 กลุ่ม (1-3 คน) ต่อคืนเท่านั้น ดังนั้น มันจะเงียบสงบและไม่วุ่นวายเลย ตัวบ้านก็น่ารัก โดยเป็นสองชั้นเล็กๆ ข้างล่างเป็นโซนนั่งเล่น มีสระน้ำแช่ตัว ส่วนด้านบนจะเป็นที่นอนแบบ Open Air เปิดโล่ง แต่ล้อมรอบด้วยทุ่งข้าว และเห็นวิวทุ่งนาด้านล่างอีก คือดีย์ 💚
จะบอกว่า มาพักที่นี่จะไม่ไปไหนเลยก็ได้นะ คืออยู่แต่ที่พักไปเลย ฮ่าๆ เพราะเมื่อเราไปถึงที่พัก เค้าจะเริ่มเสิร์ฟชาร้อนให้หายเหนื่อยก่อน จากนั้นว่างๆ เราจะลงแช่สระน้ำภายในตัวบ้านก็ได้ โดยน้ำที่เค้าใส่ในสระคือน้ำจากภูเขาที่เย็นชื่นใจจริงๆ พอตกเย็นช่วงหกโมง พี่เค้าก็จะเสิร์ฟอาหารเย็นเป็นขันโตกให้เรากินแบบอิ่มๆ ซึ่งรสชาติอาหารก็ดี และอิ่มตื้อมากทีเดียว
รุ่งเช้า อากาศดีๆ พี่เค้าก็จะเสิร์ฟกาแฟดริปให้เราทานอีก ซึ่งใครที่ชอบกินกาแฟน่าจะชอบมาก เพราะเราจะได้บดกาแฟรวมถึงดริปกินเองแบบสดๆเลยแหละ จากนั้นก็กินข้าวเช้าต่อ โดยเค้าจะมาเป็นข้าวต้ม ไข่ต้ม ไส้กรอก และผลไม้ ซึ่งรวมๆ ถือว่าให้มาเยอะและกินอิ่มเช่นเคย ดีจริงๆ
บ้านสะปัน Retreat ที่พักโฮมสเตย์
สำหรับรอบแรกของการมาเที่ยวบ้านสะปัน บ้านสะปัน Retreat โดยก๊อตพักอยู่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามที่แยกออกมาจากอาคารที่พักหลักของเค้าที่ติดแม่น้ำนั่นเอง และการมาเที่ยวสะปันรอบแรก ก็ทำให้ก๊อตรู้จักกับพี่เก่ง เจ้าของบ้านพักที่นี่ด้วยแหละ ซึ่งความชิลของ บ้านสะปัน Retreat คือ เค้าเป็นที่พักติดริมน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ทำให้เรารู้สึกโคตรชิล
ส่วนตัวบ้านที่ก๊อตได้พักนั้น คือใหญ่โตโคตร สามารถเข้าพักแบบครอบครัวได้สบาย เพราะมีเตียงใหญ่ที่นอนได้สองคน รวมถึงมีเตียงสองชั้นที่ให้เด็กๆ นอนได้ด้วย นอกจากนี้ ที่พักเค้ายังมีเตียงเล็กๆ ที่เราสามารถนั่งเล่นและนอนเล่นด้านนอกได้อีก รวมถึงมีห้องครัว ตู้เย็น และโต้ะกินข้าว ที่ก๊อตเองขอเรียกมันว่าเป็นบ้านที่ครบครันได้เลยทีเดียว คือดีมากก!
บ้านหยุดเวลา ณ สะปัน พูลวิลล่า
บ้านหยุดเวลา ณ สะปัน เป็นบ้านพักแบบพูลวิลล่า เจ้าของเดียวกันกับ บ้านสะปัน Retreat ที่เค้าสร้างมาเพื่อเป็นบ้านแบบส่วนตัวก่อน โดยยังไม่มีกำหนดการว่าจะเปิดให้คนทั่วไปจองเข้าพักได้เมื่อไหร่ แต่ตอนที่ก๊อตได้ไปนั้น คือโชคดีมากที่พี่เจ้าของเค้าพาไปดู นี่ก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปมาฝาก พร้อมทั้งนั่งชิลๆ แช่น้ำ และดูวิวระดับเวิลด์คลาสของบ้านสะปันนั่นเอง บอกเลยว่าโคตรสวย และทุกคนถามว่าอีก๊อต ที่นี่คือที่ไหนนาจา
บ่อเกลือใต้ : อำเภอบ่อเกลือ
นอกจากบ้านสะปัน ในอำเภอบ่อเกลือที่ตอนนี้หลายคนนิยมมาเที่ยวแล้ว ในอำเภอนี้ยังมีอีกโซนที่หลายคนนิยมมาท่องเที่ยวมาก และนิยมมานานแล้วคือ แถวบ่อเกลือใต้ ที่มีบ่อเกลือสินเธาว์โบราณแห่งเดียวในไทยตั้งอยู่ นั่นเลยทำให้ที่ท่องเที่ยวหลายแห่งเริ่มผุดขึ้นมาแถวๆนี้ ทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร ส่วนตัวก๊อตเองไปมานิดหน่อย ตามนี้เล้ย
บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ
ไม่ต้องบอกก็อาจจะเดาได้ว่าทำไมชื่ออำเภอของที่นี่ถึงชื่อว่า ‘บ่อเกลือ’ นั่นเป็นเพราะที่นี่คือแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ หรือ เกลือภูเขา แห่งเดียวในโลก และตรง บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ ก็คือบ่อเกลือโบราณที่เป็นแหล่งผลิตจริงๆ ที่มีอายุมามากกว่า 800 ปีแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ที่เค้าแปลงพื้นที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้คนทั่วไป สามารถศึกษาการทำเกลือสินเธาว์ได้ โดยเค้าจะมีวิธีการสาธิตการตักน้ำเกลือจากบ่อ รวมถึงวิธีการต้มเกลือแบบโบราณจริงในบ้านเค้าจริงๆ ด้วย
นอกจากนี้ บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ เค้ายังมีร้านค้าที่ขายเกลือเป็นของฝากให้เราขนกลับบ้านเน้อ นี่ขนกลับกรุงเทพมาแล้ว โดยเกลือของที่น่านเค้าก็อร่อยจริงแหละ มีทั้งเกลือบริสุทธิ์ เกลือทำอาหารที่เติมไอโอดีนแล้ว หรือเกลือแปรรูปอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกลือขัดผิวต่างๆ ซึ่งเค้ามีให้เลือกซื้อเยอะม๊าก ใครที่กำลังหาของฝากอยู่ การซื้อเกลือชื่อดังจากน่านก็เป็นไอเดียที่เก๋ไก๋อยู่นา ฮ่าๆ
ร้านหัวสะพาน
ร้านหัวสะพาน เป็นร้านอาหารที่ก๊อตบังเอิญไปเสิร์จร้านอาหารแล้วเจอในกูเกิ้ลแมพ ซึ่งในนั้นให้คะแนนรีวิวเค้าสูงม๊าก และบอกว่าร้านนี้อาหารอร่อยแถมบรรยากาศดีงามอีก ด้วยความหิวและตัวร้านอาหารเองอยู่ไม่ไกลจากที่พักตัวเอง (อาโปเดอมาง) นี่ก็เลยไม่รีรอที่จะไปลองกินอาหารเค้านี่แหละ โดยตัวร้านของหัวสะพานนั้นก็หลบอยู่ด้านใน ซึ่งเราต้องจอดรถตรงสนามหญ้าด้านนอกแล้วเดินเข้าไปเอง เพราะตัวรถไม่สามารถเข้าได้
บรรยากาศของร้านหัวสะพานคือดีเลยแหละ ร้านอยู่ติดริมลำธารเล็กๆ ที่เราได้ยินเสียงน้ำไหล ส่วนเรื่องอาหารก็ถือว่าดีงามตามคำรีวิวเหมือนกัน โดยอาหารเค้าเป็นสไตล์ภาคเหนือรสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับท้องถิ่นจริงๆ ทุกอันที่สั่งคืออร่อยมากกก เลือกไม่ถูกเลยแกร๊
อาโปเดอมาง (Arpo De Mang)
อีกหนึ่งที่พักบรรยากาศดีในบ่อเกลือใต้ คือ อาโปเดอมาง (Arpo De Mang) ที่หลบซ่อนอยู่ในหลืบท่ามกลางหุบเขา มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านที่ให้บรรยากาศสบายๆ และโคตรดีย์ โดยมุมซิกเนอเจอร์ของเค้าที่หลายคนมักจะคุ้นเคยคือ สะพานไม้ไผ่ที่สร้างข้ามแม่น้ำทอดยาวเข้าไปในโซนที่พักนั่นเอง บรรยากาศดีมากๆ เลยแหละ
อาโปเดอมาง (Arpo De Mang) มีที่พักหลายแบบให้เลือกนอน ตั้งแต่เป็นบ้านหลังเล็กๆ สำหรับสองคน ราคา 3,000 บาท/คืน จนถึงแบบเต้นท์นอนได้สองคน ราคา 1,500 บาท/คืน โดยราคาที่พักเค้าก็รวมทั้งอาหารเย็นและอาหารเช้าแบบขันโตกเรียบร้อยแล้ว โดยรวมคือบรรยากาศดี อาหารก็อร่อย จะมีก็เรื่องราคา ส่วนตัวคิดว่าแรงไปหน่อยกับห้องพักที่เราได้มา
บ้านกิ่วม่วง-ศรีนาม่าน : อำเภอสันติสุข
สำหรับโซน บ้านกิ่วม่วง-ศรีนาม่าน ในอำเภอสันติสุขนั้น มีที่พักโด่งดังมากในโลกโซเชียลมากถึง 2 แห่งที่เป็นจุดหมายของใครหลายคนที่อยากมาพักผ่อน นั่นคือ น่านเนทีฟ กิ่วม่วง (Nan Native Kew Muang) และ ศรีนาม่าน (Srinaman) ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ เจ้าของคือคนเดียวกันนั่นเอง และนอกจากสองที่พักโคตรดังสองที่นี่แล้ว เค้ายังพ่วงมากับหนึ่งร้านอาหารระดับฝีมือเชฟเฟิร์ส ผู้ชนะ Master Chef Thailand ซีซั่น 2 อีก เอ้ออ บอกเลยว่า อำเภอสันติสุขเค้าไม่ธรรมนะจ๊ะ
น่านเนทีฟ กิ่วม่วง (Nan Native Kew Muang)
บ้านกิ่วม่วง มีร้านอาหารระดับท็อฟเชฟเปิดใหม่อย่าง น่านเนทีฟ กิ่วม่วง (Nan Native Kew Muang) ที่อยากให้เราแวะเวียนเข้าไปทานข้าวกันแหละ ความปังของที่นี่คือคาเฟ่และร้านอาหารของ เชฟเฟิร์ส ธนภัทร แชมป์มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ซีซั่น 2 ที่คิดค้นเมนูอาหารของร้านนี้ขึ้นนั่นเอง ใครที่เป็นแฟนคลับ หรืออยากลิ้มลองรสชาติอาหารแชมป์มาสเตอร์เชฟนี่ ห้ามพลาดเลยแหละ
อาหารของ น่านเนทีฟ กิ่วม่วง (Nan Native Kew Muang) นั้นจะเป็นการประยุกต์อาหารเหนือดั้งเดิมมาฟิวชั่นใหม่ในรูปแบบร่วมสมัยที่น่าสนใจมากขึ้น มีทั้งเสิร์ฟเป็นคอร์ส อาหารจานเดี่ยว หรือแม้แต่ขนม และ Afternoon Tea Set ด้วย
โดยรวมของรสชาติอาหารนั้น บอกก่อนว่ารสชาติอาหารอาจจะไม่ได้รสจัดจ้าน เนื่องจากมันเป็นฟิวชั่นร่วมสมัยและลดทอนความดั้งเดิมลงแล้วนั่นเอง แต่โดยรวมค่อนข้างโอเค ใครที่อยากมาลองรสชาติอาหารฝีมือเชฟเฟิร์สเค้า ก็ต้องลงมากินดู
กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) ที่พัก
กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) ถือเป็นโฮมสเตย์หนึ่งที่ฮอตฮิตมาก แถมยังจองยากมากเช่นกัน เพราะด้วยจำนวนแคมป์ที่น้อยที่มีอยู่แค่ 4 ห้องเท่านั้น คนเลยจองเต็มยาวยันสิ้นปีเลยทีเดียว ด้วยบุญที่สะสมมาเล็กน้อย ก๊อตได้มีโอกาสเข้าไปพักเนื่องจากมีห้องหลุดในช่วงที่ก๊อตไปน่านพอดี นี่คือสุดจริง ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เข้าพักที่นี่นั่นเอง ฮ่าๆ
ใครที่คิดจะมาพักที่ กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) บอกเลยว่า ไม่ต้องไปที่ไหนอื่นแล้ว แนะนำให้พักผ่อน ชิลๆ อยู่ที่แคมป์ตลอดเวลาได้เลย เพราะตั้งแต่เราเช็คอิน เค้าจะมีอะไรมาให้เราทำตลอด ไม่ว่าจะกิน เล่น ถ่ายรูป บลาๆ และคอนเฟิร์มว่า ที่นี่ถ่ายรูปปังมาก สะเทือนทั้ง Instagram จน Follower ต้องอิจฉา
ความพีคที่สุดของก๊อตที่ได้พักที่ กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) คือตอนเช้า ซึ่งก๊อตแนะนำให้เราตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าใครที่ไปหน้าฝนแบบก๊อต จงภาวนาให้เมื่อคืนฝนตกหนักๆ เพราะตอนเช้าหมอกจะฟุ้งมาก อันนี้แล้วแต่ดวงแต่กรรมเลย // แต่ถ้าใครที่มีพักตอนหน้าหนาว อาจจะมีโอกาสลุ้นเยอะ เพราะหมอกน่าจะมีตลอดช่วงเด้อ (ลองถามที่พักอีกทีเนอะ)
กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) โฮมสเตย์นี้ไม่ธรรมดา พรีเมี่ยมด้วยบริการระดับโรงแรม 5 ดาว และน่ารักในความดีงามของคนท้องถิ่นจนเราเองเกรงใจ มุมถ่ายรูปคือเยอะมาก เยอะจนอัพรูปไม่ทัน ชาบูและอาหารเช้าคืออร่อย โดยรวมคือเหมาะสมกับราคาแล้ว หากใครที่คิดว่าแพง แต่ถ้าเราได้มาพักจริง เราจะรู้ได้เลยว่า มันเหมาะสมกับราคาที่เค้าตั้งแล้วแหละ ถือเป็นอีกโฮมสเตย์หนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจมากๆ เลยทีเดียว รัก ♥️
ศรีนาม่าน (Srinaman) ที่พัก
สำหรับ ศรีนาม่าน (Srinaman) นี้ เป็นอีกโฮมสเตย์ที่ก๊อตอยากไปพักมาก หลังจากที่ได้ไปพัก กิ่วม่วงเมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) มาเรียบร้อย และนั่นเองทำให้ก๊อตได้มาเที่ยวอีกรอบในสองเดือนถัดมา และได้มาพักศรีนาม่านตามใจหวัง โดยพามาทั้งแฟน รวมถึงพ่อ-แม่ของก๊อตเองด้วย ทำให้ศรีนาม่านของก๊อต ได้ลองพักทั้งห้องใหม่ล่าสุดอย่าง ‘โดมนา’ และ ‘ห้องพูลวิลล่า 1’ ที่มีสระน้ำส่วนตัวนั่นเอง
สำหรับห้องที่ก๊อตอยู่นั้น จะอยู่ห้อง ‘โดมนา’ ซึ่งเป็นห้องแบบโดมอันเดียวที่อยู่กลางทุ่งนาแหละ ส่วนที่พักที่เป็นโดมขึ้นไปสูงๆ (รูปด้านบนๆ) เค้าจะเรียกว่า ‘โดมป่า’ ซึ่งโดยรวมทั้งหมดของห้องพักแบบโดมนั้นจะคล้ายกัน ทั้งที่นอนที่อยู่ในโดมกลมขาวๆ อ่างอาบน้ำเอาท์ดอร์ ส่วนความแตกต่างกันของแต่ละโดมนั้น จะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยและตัววิวนั่นเอง
แน่นอนว่า คอนเซ็ปการบริการจะเหมือนที่ กิ่วม่วง เมาน์เทนไฮแคมป์ (Kew Muang Mountain High Camp) เกือบทุกอย่าง เช็คอินแล้วไม่ต้องไปไหน แนะนำให้ใช้เวลาอยู่แต่ที่พักเนี่ยแหละ แค่กินและถ่ายรูปก็หมดวันแล้วจ้า โดยตอนเราเช็คอินเข้ามา เราจะมีพี่ๆ ศรีนาม่านเข้ามาคอยต้อนรับ และถามเราว่าอยากให้เสิร์ฟ Afternoon Tea / ตีฟองอ่างอาบน้ำ / เสิร์ฟอาคารค่ำเมื่อไหร่ รวมถึงให้เลือกเซ็ตกลิ่นของสบู่อาบน้ำและแชมพูที่เราชอบนั่นเอง
Afternoon Tea เค้ามาเหมือนกันกับที่ กิ่วม่วงแคมป์ (ขอเรียกย่อๆ) เป๊ะ โดยมาเป็นชาร้อน แซนวิช บราวนีย์ บิสกิต และพานาคอตต้า ซึ่งทางพี่เค้าก็จะจัดโต๊ะให้พร้อมถ่ายรูปเลยจ้า ฮ่าๆ
สำหรับด้านในตัวโดมจะสวยเว่อร์วัง เหมาะแก่การถ่ายรูปตอนกลางคืนเมื่อเปิดไฟแหละ กลายเป็นอีก Instagramable Spot ที่ดีย์ ส่วนเรื่องความนอนสบาย ส่วนตัวก๊อตว่าเฉยๆ อยู่ในระดับมาตรฐาน และถ้าใครกลัวจะร้อน ไม่ต้องกังวล เพราะเค้าติดแอร์ในตัวโดมเด้อ เปิดหนาวๆ ได้เลย ฮ่า
สำหรับพ่อแม่ก๊อตเองจะนอน ห้องพูลวิลล่า ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัวและยังมีบ้านไม้สองชั้นด้านข้างแบบโอเพ่นสเปซให้ได้นั่งเล่นอีก ถือเป็นอีกห้องที่ดีงามเลิศเลอมาก มาพักห้องนี้แทบไม่ต้องไปไหนเหมือนกัน อยู่นี่ได้ทั้งวัน ถ่ายรูปไป กินไป เล่นน้ำ แช่ตัวในอ่างอาบน้ำ รวมถึงกินข้าวเย็นได้ยาวๆ จนนอนเล้ย
ห้องโดมนา ราคาอยู่ที่ 4,800 บาท/คืน สำหรับ 2 คน รวม Afternoon Tea, อาหารเย็น, อาหารเช้า เรียบร้อย ราคาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างโอเค ไม่ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงเด้อ // ห้องพูลวิลล่า 1 อยู่ที่ราคา 5,500 บาท/คืน รวม Afternoon Tea, อาหารเย็น และอาหารเช้าด้วยเหมือนกัน ซึ่งราคานี้ นี่ถือว่าไม่แพงเล้ย
ศรีนาม่าน (ศรีนาม่าน) ถือว่าดีงามเต็มสิบโดยมีการบริการของเค้าดีเลิศตั้งแต่การต้อนรับเข้าเช็คอินเลยทีเดียว เราสามารถใช้ชีวิตในนี้ได้เลยจนเช็คเอาท์ออก เพราะมีทั้ง Afternoon Tea อาหารเย็น และอาหารเช้าให้พร้อม นอกจากนี้ ความดีงามที่สุดของศรีนาม่าน คือมุมถ่ายรูปที่เราสามารถถ่ายได้ไม่มีเบื่อเลยแหละแกรเอ้ย คือมุมถ่ายเยอะมาก เยอะจนเมมโมรีการ์ดอาจเต็มได้ แล้วแต่ละมุมก็ไม่ธรรมดา เพราะเค้าจัดมุมพร้อมพร็อพปังๆ มาให้หมดแล้ว ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นจุดเด่น และกลายเป็นที่พักโด่งดังในโลกโซเชียลจนตอนนี้ก็เต็มยาวเช่นเดียวกัน สรุปคือ ดีงาม และแนะนำให้มาพักซักครั้งเมื่อเรามาเที่ยวน่านเด้อ 💚
อำเภอปัว
ถนนลอยฟ้า สันติสุข-บ่อเกลือ
ถนนลอยฟ้า เส้นสันติสุข-บ่อเกลือ เป็นถนนเส้นที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดน่านเค้าเลยแหละ เนื่องจากตัวถนนที่เชื่อระหว่างอำเภอสันติสุข และอำเภอบ่อเกลือนั้นได้พาดผ่านภูเขาดอยต่างๆ เป็นเส้นยาว โดยที่ด้านข้างถนนนั้นเป็นเนินเขาลาดต่ำลงไป ดังนั้น เมื่อเราขับรถอยู่บนถนน เราจะได้เห็นวิวภูเขาและดอยต่างๆ ยาวไกลสุดลูกหูลูกตาโดยที่ไม่ค่อยมีอะไรมาขวางกั้นเลยแหละ และแน่นอนว่า ภาพมุมสูงของถนนลอยฟ้านั้น สวยเกินบรรยายมาก!
ดอยกว่าง
สำหรับจุดแวะพักบนถนนลอยฟ้า สันติสุข-บ่อเกลือ ไม่ว่าจะพักขา พักเหนื่อย พักดูวิว หรือพักหาอะไรเย็นๆ กินล่ะก็ นี่แนะนำให้เราแวะมาที่ร้านดอยกว่างที่ขายทั้งกาแฟ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง ‘น้ำผึ้งมะนาว’ ที่ป้าเจ้าของร้านบอกว่า ทำจากน้ำผึ้งป่าแท้เลยทีเดียว นอกจากนี้ ใครที่ไม่เคยเห็นน้องกว่างสามเขา หากโชคดี เราอาจจะได้เห็นน้องที่นี่ด้วย เพราะชื่อร้านเค้าก็มาจากชื่อของน้องนั่นแหละ
ส่วนวิวถนนลอยฟ้าที่ดอยกว่าง บอกเลยว่าหลักล้าน และโคตรสวย นี่แนะนำให้ไปนั่งจิบกาแฟ หรือน้ำผึ้งมะนาวที่หลังร้านเพื่อชมวิวไปด้วย เราจะได้เห็นวิวภูเขารอบๆ รวมถึงเรายังสามารถขึ้นไปดาดฟ้าของร้านเพื่อดูวิวถนนลอยฟ้าชื่อดังของจังหวัดน่านได้อีกด้วย
ถนนเลข 3
ถนนเลข 3 ตรงถนนลอยฟ้าสันติสุข-บ่อเกลือนั้น เป็นอีกจุดที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปมาก ด้วยความที่ถนนนั้นเป็นถนนซิกแซ็กเป็นรูป 3 ขึ้นภูเขาไปนั่นเอง ของจริงดูสวยอยู่นะ และถ้าใครจะแวะถ่ายรูป แนะนำให้ระมัดระวังรถกันด้วย เพราะรถที่ขับผ่านไปมามักจะขับกันเร็ว เนื่องจากเป็นถนนที่ขึ้นและลงเขา ดั้งนั้น ดูแลตัวเองกันดีๆด้วย
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูอาหารที่ทำด้วยเห็ด โดยตัวเด็ดเค้าคือพิซซ่าหน้าเห็ดของเค้านั่นเอง ซึ่งเค้าเคลมเลยว่า อาหารของเค้าไม่ใส่ผงชูรสด้วย นอกจากนี้ ที่ชอบมากคือการสร้างบ้านไม้ของเค้าที่ทำเป็นร้านอาหารนี่แหละ ถือว่าเป็นร้านที่ทำดูดีและสวยมาก ส่วนด้านหน้ายังมีลานที่เราสามารถเดินไปดูวิวทุ่งนาได้อีก ถือว่าดีมากกก
ส่วนเรื่องรสชาติอาหารของ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ นี่กินมาแล้ว ตัวพิซซ่าเค้าอร่อยจริงแหละ ส่วนอาหารจานอื่นๆ สำหรับก๊อตถือว่าโอเคในระดับนึงแหละ ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ฝากท้องได้ // ที่ตลกของก๊อตเองคือ ชอบจำชื่อร้านเค้าไม่ได้ และจะเรียกชื่อเค้าว่า บ้านหัวเห็ด ตลอดเวลา 55555
กาแฟบ้านไทลื้อ
กาแฟบ้านไทลื้อ ถือเป็นร้านกาแฟยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบมาแวะกันเมื่อมาเที่ยวจังหวัดปัวแหละ โดยตัวร้านกาแฟเค้ามีจุดเด่นตรงที่ร้านเค้าตั้งอยู่กลางทุ่งนาและมองเห็นวิวทุ่งนาสวยๆ พร้อมสะพานไม้ไผ่ที่เราสามารถไปเดินเล่นชมวิวได้อีก (เสียดายที่ตอนที่ก๊อตไปคือช่วงที่นาข้าวแห้งๆ อยู่) นอกจากนี้ อีกจุดฮิตที่คนชอบถ่ายรูปมากคือ ทางเดินยาวๆ ที่ตกแต่งด้วยการแขวนผ้าทอหลากหลายสีสัน ซึ่งนี่ถือเป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปได้คิวท์ๆดีแหละ
วัดภูเก็ต
วัดภูเก็ต เป็นวัดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ต แต่เป็นวัดในจังหวัดน่านที่มีวิวหลักล้าน ตั้งอยู่บนภูเขาเล็กๆที่คนเหนือจะเรียกกันว่า ‘ภู’ ส่วนคำว่า ‘เก็ต’ นั้น เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามชื่อตามหมู่บ้านตรงนั่นเอง ด้านหลังของวัด เราสามารถไปยืนมองเห็นทุ่งนากว้างๆด้านหลังได้อย่างสุดลูกหูลูกตาเลยแหละ ถือว่าเป็นวิวหลักล้านมาก แถมตรงเชิงเขาด้านล่างของวัดภูเก็ต ยังมีลำธารและบ่อน้ำเลี้ยงปลาด้วย ซึ่งตรงนี้ทางวัดจัดเป็นเขตอภัยทาน ห้ามจับสัตว์น้ำ โดยนั่งท่องเที่ยวสามารถมาให้อาหารปลาได้ด้วย
ในส่วนของพระอุโบสถหลักของวัดนั้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่มี หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา ที่คนจังหวัดน่านศรัทธา ใครที่อยากมากราบไหว้ ขอพร หรือเสี่ยงเซียมซี สามารถเข้ามาและร่วมทำบุญได้เล้ย
จุดชมวิวภูคา 1715
บนเส้นถนนปัว-บ่อเกลือ (ทางหลวงหมายเลข 1256) ที่ผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ระหว่างทางจะมี จุดชมวิวภูคา 1715 ที่หลายคนเมื่อขับรถผ่านแล้วต้องแวะพักรถ พักขา เข้าห้องน้ำ และไปยืนชมวิวให้หายเหนื่อยกัน ตรงนี้ถือว่าจุดชมวิวเล็กๆ ที่เราสามารถมองเห็นภูเขาอีกฝั่งที่ทอดตัวยาวไปทางตัวเมืองน่าน ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่น่าแวะมาเมื่อเราขับรถผ่านถนนเส้นนี้เลยล่ะ
ดอยสกาด
บ้านจักษ์กะพัฒน์ โฮมสเตย์ + คาเฟ่
บ้านจักษ์กะพัฒน์ คือบ้านพักโฮมสเตย์และคาเฟ่ที่ก๊อตหลงรักมากที่สุดบนดอยสกาดแหละ ซึ่งทริปดอยสกาดรอบนี้ ก๊อตก็เข้าพักที่นี่ ใช้ชีวิตแบบเอื่อยๆ ชมวิวดอยสกาด กินกาแฟ รวมถึงได้พูดคุยกับเจ้าของที่นี่ นั่นก็คือพี่น้องฝาแฝด ‘พี่จักษ์’ กับ ‘พี่พัฒน์’ ที่หลงรักการทำกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ มีไร่กาแฟของตัวเอง ปลูกเอง คั่วเอง เปิดคาเฟ่เอง รวมถึงมีที่พักให้คนมาอ้อยอิ่งกับธรรมชาติสวยๆของดอยสกาดด้วยนั่นเอง บอกเลยว่าที่นี่คือโคตรดีย์ และแนะนำมากกก
รอบนี้ก๊อตได้มาพักในห้องใหญ่สุดที่ถือเป็นห้องที่ถ่ายรูปสวยที่สุดของ บ้านจักษ์กะพัฒน์ ที่มีกระจกเต็มผนัง หันหน้าออกไปเห็นวิวหมู่บ้านดอยสกาด พร้อมเตียงขนาดพอดีสำหรับสองคน และห้องน้ำที่ออกแบบโดยการนั่งโถส้วมดูวิวได้ คือโคตรเก๋
นอกจากห้องใหญ่สุดที่บอกไป บ้านจักษ์กะพัฒน์เค้ายังมีอีกสองห้องเล็กที่น่ารัก พร้อมห้องน้ำส่วนตัวด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้าใครที่ได้มาพักที่นี่ เค้าก็จะมีอาหารเย็น อาหารเช้าเสิร์ฟให้ รวมถึงให้กาแฟฟรีอีกหนึ่งแก้วด้วย ถือว่าดีงามเต็มสิบ
สำหรับใครที่ไม่ได้มาเข้าพักที่บ้านจักษ์กะพัฒน์ เราสามารถมาเที่ยวคาเฟ่เค้าได้เลย ส่วนตัวก๊อตว่ากาแฟที่นี่ดีงาม เจ้าของคือคนที่รู้เรื่องกาแฟแบบแท้จริง ซึ่งก๊อตยกให้ร้านนี้เป็น Specialty Coffee ที่ต้องมาลอง กาแฟทุกตัวของเค้าคืออร่อยและดีย์ และตัวที่ประทับใจคือ กาแฟมัชฉะ ซึ่งชาเขียวผสมกาแฟที่อร่อยม๊าก อีกอันที่ชอบคือแซนวิชอโวคาโด ที่กินกรุบกริบคู่กับกาแฟคือดีงาม สรุปคือ มาเถ้ออ!
สกาดคอฟฟี่ โฮมสเตย์ + คาเฟ่
สกาดคอฟฟี่ คืออีกหนึ่งร้านกาแฟที่ได้แวะเวียนตอนที่ไปเที่ยวดอยสกาดแหละ นอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่แล้ว สกาดคอฟฟี่ยังเป็นโฮมสเตย์ที่เปิดให้เข้าพักชมวิวภูเขาสวยๆด้วยเหมือนกัน ส่วนใครที่ไม่ได้เข้าพัก เราก็สามารถเข้ามาเพื่อนั่งกินกาแฟชมวิวสวยๆได้ ซึ่งที่นี่ เราสามารถมองเห็นวิวได้ไกลๆ อีกทั้งยังมีสะพานเหล็กที่เหมือนกิมมิคของคาเฟ่ที่นี่ ที่ทุกคนมักจะชอบถ่ายรูปกับวิวภูเขาเล่นกันนั่นเอง
ตัวเมืองน่าน
วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์ เป็นวัดทรงจัตุรมุข คือเป็นพระอุโบสถและพระวิหารสร้างไขว้กันเป็นกากบาท มีอยู่ที่เดียวในประเทศไทยเท่านั้น อีกทั้งวัดนี้ยังมีพญานาคสองตัวทอดยาวทั้งด้านหน้าและด้านหลังทางเข้าอีกด้วย สวยงามขนาดนี้ วัดภูมินทร์มีอายุประมาณ 400 ปีแล้ว และถ้าใครที่ได้ลอดซุ้มพญานาคที่วัดภูมินทร์นั้นจะโชคดี และได้กลับมาเที่ยวเมืองน่านอีกด้วย เอ้อ
มาแล้วอย่าลืมเข้าไปยังตรงใจกลางพระอุโบสถของ วัดภูมินทร์ ด้วย ในนั้นมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สี่องค์ประดิษฐาน และหันหน้าออกทางประตูทั้งสี่ทิศ และที่ห้ามพลาดเลยคือ ภาพกระซิบรัก ปู่ม่านย่าม่าน ที่เล่าเรื่องมนต์รักเมืองน่าน ซึ่งภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของเมืองน่านไปเรียบร้อยแล้ว
บ้านหลวงธนานุสร (ช่วง โลหะโชติ) / บ้านคุณหลวง
หลายคนอาจจะสะดุดตากับบ้านที่อยู่ตรงข้ามวัดภูมินทร์ที่ร่มรื่น แถมยังมีอเมซอนคาเฟ่ตั้งอยู่อย่างกลมกลืนกับตัวเมืองน่านได้อย่างดิบดี ที่ดินแห่งนี้ถูกเรียกว่า ‘บ้านหลวงธนานุสร (ช่วง โลหะโชติ)’ หรือ ‘บ้านคุณหลวง’ ที่อดีต อำมาตย์ตรีหลวง ธนานุสร (ช่วง โลหะโชติ) ได้มาซื้อที่ดินต่อจาก เจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ไว้หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคลังจังหวัดคนแรกของน่านนั่นเอง
บ้านคุณหลวง หลังเก่านั้นถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ปัจจุบันก็ยังมีผู้อาศัยอยู่ ส่วนตึกตรงคาเฟ่อเมซอนนั้น เป็นหลังใหม่ที่ทายาทได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย รวมถึงเปิดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ รวมถึงมีคาเฟ่อเมซอนไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาพบปะกันที่นี่เนอะ
อันนี้บอกก่อน รูปเรือนบ้านหลังเก่าที่เห็นในรีวิวนี้ของ บ้านหลวงธนานุสร (ช่วง โลหะโชติ) คือก๊อตมีโอกาสได้เจอกับพี่เจ้าของที่ดิน ที่เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของที่ผืนนี้ และก๊อตขอพี่เค้ามาถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆ บ้านเรียบร้อยแล้วเนอะ ซึ่งถ้าหากเราต้องการเดินชม หรืออยากเดินสำรวจ ต้องขออนุญาตพี่เค้าก่อนนะครับ เพราะตรงนี้ยังถือเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
ก่อนที่จะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่านนั้น ที่นี่เคยเป็นทั้งที่ประทับของพระเจ้าน่านสมัยก่อนโน้น หลังจากนั้นก็ถูกยกให้รัฐบาลกลายมาเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดน่าน จนล่าสุดกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่านในปัจจุบัน ทั้งหมดสามสมัยของอาคารหลังนี้ นับรวมอายุได้เกือบ 120 ปี แล้วววว !
ถ้าใครว่างลองค้นหารูป พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ในกูเกิ้ล เราอาจจะเห็นอาคารหลังนี้เป็นสีขาวนวลที่มีหลังขาเป็นสีเขียว ปัจจุบันนี้กรมศิลปากรได้บูรณะใหม่โดยการดูจากจดหมายเหตุว่า ออริจินอลดั้งเดิมของอาคารนี้เป็นอย่างไร กรมศิลป์เค้าก็ต้องการฟื้นร่างอาคารเดิมหลังนั้นกลับมาอีกครั้ง โดยเปลี่ยนสีตัวตึกรวมถึงทำหลังคาใหม่ให้ดูเหมือนเดิม
ซุ้มลีลาวดี
ซุ้มลีลาวดี เป็นอีกจุดที่หลายคนชอบมาเที่ยวและถ่ายรูปกัน โดยพิกัดของซุ้มลีลาวดีนี้อยู่ตรงด้านของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่านเลยล่ะ เราสามารถเดินเข้าไปเพื่อถ่ายรูปได้เลย มันจะเป็นทางเดินยาวที่มีต้นลีลาวดีปลูกริมสองฟากฝั่ง ร่มรื่นมากๆเลยล่ะ
วัดพระธาตุเขาน้อย
หากเรานึกถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุดในตัวเมืองจังหวัดน่าน ทุกคนต้องแนะนำให้เรามาที่นี่กับ วัดพระธาตุเขาน้อย ที่เป็นตั้งของพระธาตุเจดีย์ รวมถึงองค์พระใหญ่ ‘พระพุทธมหาอุตมมงคมนันทบุรีศรีเมืองน่าน’ ตั้งตระหง่านกลางลานชมวิวที่เราสามารถมองเห็นเมืองน่านได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย
องค์พระธาตุเขาน้อย ถือเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่และสำคัญของน่าน ถูกสร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 โดยด้านในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และเค้าสันนิษฐานกันว่า พระธาตุเขาน้อยมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ พระธาตุแช่แห้ง เช่นเดียวกัน
ใครอยากจะมาดูไหว้พระธาติเขาน้อย สามารถมาเที่ยวและกราบไหว้ได้ทั้งวันเลย แต่ถ้าใครอยากมาดูวิวเมืองน่านสวยๆล่ะก็ นี่แนะนำตอนเช้าที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้น เราสามารถเห็นหมอกสวยๆ ตรงหน้าได้เลย แต่ถ้าใครชอบแสงเย็น จะมาตอนเย็นก็สวยอีกแบบเช่นกัน
ทั้งหมดนี้แหละคือที่เที่ยวน่านที่ก๊อตได้ไปมา
เที่ยวรอบเดียวอาจจะไม่หมด แนะนำให้มาเที่ยวน่านกันหลายๆรอบเลย
ของเค้าดีจริง! 🧡
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡