ปาย เป็นอีกเมืองที่โคตรจะฮิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเคยได้ยินเมืองปายจากหนังเรื่อง ปายอินเลิฟ (ซึ่งเราไม่เคยดู) ที่สร้างชื่อเมื่องปายให้เป็นกระแสฮิตติดลมบนที่ทุกคนต้องแวะ เราก็ได้ยินชื่อเมืองปายมาว่ะแกร แต่ไม่เคยมาเที่ยวเลยจ้าาา และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาปาย เดินทางมาจากเชียงใหม่ผ่านโค้ง 762 โค้ง ถึงเมืองเล็กๆน่าฮักที่ไม่ค่อยอยู่ในกระแสคนไทยเท่าไหร่แล้ว แต่ฮิตในหมู่ฝรั่ง ฮิตยังไงมาดูกัน
วิธีไปเที่ยวปาย
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากเชียงใหม่ ใช้เส้น 107 ผ่านแม่ริมจนถึงอำเภอแม่แตง ผ่านแยกแม่มาลัยเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 1095 สู่ถนน เส้นแม่มาลัย-ปาย ผ่านโป่งเดือดป่าแป๋ ห้วยน้ำดัง ระยะทางประมาณ 103 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง แม้จะมีความคดเคี้ยวสูงชัน แต่ทิวทัศน์สองข้างทางที่ให้มุมมองแบบสูงสวยงาม
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
มีทั้งรถตู้และรถโดยสารออกจากเชียงใหม่-ปาย, เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน และจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน- ปาย – เชียงใหม่ ตลอดทั้งวันการเดินทางจากเชียงใหม่ ให้ขึ้นรถแดงไปที่ขนส่งอาเขตเชียงใหม่ แล้วนั่งรถตู้หรือรถบัสของ บ.เปรมประชา ไปปายประมาณ 3 ชั่วโมง อีกทางเลือกหนึ่งคือ รถตู้ของ AYA ขึ้นได้ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ สะดวกสำหรับคนที่นั่งรถไฟมาแล้วไปต่อปายเลย
สถานีขนส่งอาเขต โทร. 0-5324-2664
บริษัทเปรมประชาขนส่งจำกัด เชียงใหม่ 0-5324-4737, 0-5330-4748 (ดูตารางเวลารถตู้ได้ที่เว็บ www.premprachatransports.com)
การเดินทางจากแม่ฮ่องสอน : ขึ้นรถที่สถานีขนส่งแม่ฮ่องสอนสอบถามรายละเอียดๆได้ที่ โทร. 0 5368 1347
เริ่มเที่ยวปายกันได้เลย!
สะพานบุญโขกู้โส่
นี่ภูมิใจนำเสนอโขกู้โส่ หรือ สะพานบุญ มากกกก! ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอันใหม่ล่าสุดในเมืองปายเลย เริ่มแรก ชาวบ้านเค้าไม่ได้ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรอกนะ แต่สะพานบุญนี้เกิดขึ้นมาได้จากความศรัทธาของชาวบ้าน ‘บ้านแพมบก’ ที่ต้องการสร้างสะพานไม้ไผ่จากถนนสายหลักลัดเข้าไปยังพุทธอุทยานห้วยคายคีรีที่ตั้งอยู่ด้านในสุดตรงชายป่า เพื่อความสะดวกต่อพระที่เดินออกมาบิณฑบาตรได้ง่าย ไม่ต้องเดินลุยโคลนหรือพื้นแฉะในหน้าฝนนั่นเอง โดยช่วงที่แนะนำให้มาเที่ยวคือช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนกันยายน-พฤศจิกายน ที่ทุ่งนาเขียวขจีพร้อมเก็บ
โขกู้โส่ เป็นภาษาไทยใหญ่ คำว่าโข แปลว่าสะพาน และ กู้โส่ แปลว่า กุศล หรือ บุญ แปลเป็นภาษาไทยว่า สะพานบุญโขกู้สุ่ย
สะพานบุญโขกู้สุ่ย มีความยาวทั้งหมด 815 เมตร สูงจากพื้นดินประมาณ 1-2 เมตร สร้างขึ้นจากโครงปูนและเหล็ก ใช้ไม้ไผ่สานเป็นพื้นด้านบน กว้างประมาณ 1 เมตร สองฟากฝั่งทางเดินจะเป็นนาข้าวสุดกว้างไกล ซึ่งถือว่าเป็นสะพานไม้ไผ่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามและยาวมาก
เดินตามสะพานไปด้านในสุดจะเจอกับสำนักสงฆ์ห้วยคายคีรีมฤคทายวัน
กองแลน (ปายแคนยอน)
คำว่ากองแลนมาจาก ‘กอง’ และ ‘แลน’ คำว่ากองหมายถึงถนนหนทาง ส่วนคำว่าแลนหมายถึงตะกวด เอามารวมกันเป็นถนนหนทางของตะกวดที่ใช้สัญจร (ใช่หรอวะ) แต่ภาษาพื้นเมืองคืออย่างนี้จริงๆนะเว้ย ฮ่าๆ ที่นี่มีชื่อภาษาอังกฤษอีกชื่อว่า ‘ปายแคนยอน’ เพื่อให้ชาวต่างชาติเรียกได้ง่ายๆ เพราะที่นี่ถือเป็นสถานที่เที่ยวที่เค้าต้องมาอันดับต้นๆเลย เพราะเค้าจะมาปีนป่ายไปตามทางเดินของภูเขาแคบๆไปเรื่อย เอาดีๆ คือ ถ้าคิดจะปีน อาจจะเสียวบ้าง ดังนั้นต้องระมัดระวังกันหน่อย เพราะทางเดินบางช่วงนั้นค่อนข้างอันตราย
ส่วนมากมีแต่ฝรั่ง ส่วนคนไทยส่วนมากจะยืนสวยๆตรงทางเข้า ไม่กล้าเดินหรือเข้าไปลึกๆ แต่เราก็เดินเข้าไปนะ แหม มาทั้งที.. ใครจะปีนหรือจะเดินเข้าไปก็ต้องดูสังขารและดูตัวเองด้วยเพราะทางแคบและลื่นมากก สำหรับช่วงเวลาที่เค้าฮิตมาเที่ยวปายแคนยอน คือช่วงเย็นเพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกดินเนอะ
กองแลนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการถูกกัดเซาะของลมและฝน จนกลายเป็นทางเส้นเล็กๆบนสันเขา ท่ามกลางภูเขาสลับซับซ้อน
สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
สะพานนี้ดูแล้วคลับคล้ายกับสะพานข้ามแม่น้ำแควในกาญจนบุรีเลยว่ะแกร แต่จะว่าไป ประวัติของสะพานที่นี่ก็มีเรื่องราวไม่แพ้กัน
เริ่มต้นเรื่องราวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ. 2484) เมื่อญี่ปุ่นได้เคลื่อนกำลังพลเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย ทีนี้เนี่ย.. ญี่ปุ่นต้องการลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์เพื่อเข้าโจมตีพม่า แต่เส้นทางค่อนข้างลำบาก แถมยังมีแม่น้ำปายกั้นระหว่างทางอีก ญี่ปุ่นเลยเกณฑ์ชาวบ้านสร้างสะพานจากไม้ซุงขึ้น แต่พอสงครามจบลงในปี 2489 ญี่ปุ่นถอยทัพกลับดันเผาสะพานนี้ทิ้งไปด้วยสะงั้น จากการที่มีสะพานข้ามลำน้ำปายที่ชาวบ้านใช้สัญจรข้ามไปมากลับกลายเป็นไม่มี ชาวบ้านก็ต้องสร้างสะพานไม้ขึ้นใหม่มาทดแทนสะพานอันเก่าที่ญี่ปุ่นเผาไป
ยัง ยัง เรื่องยังไม่จบ ในปี 2516 เกิดน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ พัดเอาสะพานไม้ที่ชาวบ้านสร้างพัดหายไปหมดเลยจ้าาา ตายแล้ววว สะพานไม้ท่าจะไม่โอเค ดังนั้นชาวบ้านจึงขอสะพานเหล็ก ‘นวรัฐ’ สะพานเหล็กที่ไม่ใช้แล้วจากเมืองเชียงใหม่ ย้ายมาประกอบและสร้างทดแทนอันเดิมที่นี่จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบันเนี่ยแหละเธอ แต่เค้าไม่ใช้สะพานนี้ในการสัญจรแล้วนะ เค้ามีสะพานปูนขนาบข้างแทน สะพานนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน
โป่งน้ำร้อนท่าปาย
โป่งน้ำร้อนท่าปายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังแหละ มีอุณหภูมิบนผิวดินประมาณ 80-100 องศา กิจกรรมหลักนอกจากการแช่บ่อน้ำแร่กับการต้มไข่ ที่นี่สามารถมากางเต็นท์นอนได้ด้วย สำหรับใครที่อยากจะแช่บ่อน้ำร้อนก็มาแช่ได้ (แต่นี่ไม่ได้แช่แหละ) แนะนำเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะคนเยอะมาก ส่วนบ่อน้ำร้อนแบ่งเป็นหลายๆบ่อเล็ก หลายระดับความร้อนตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งร้อนขึ้นเลยล่ะ ใครที่มาอย่าลืมเอาไข่มาด้วย เพราะที่นี่เค้านิยมมานั่งต้มไข่กันในบ่อนั่นเอง 5555
หากต้องการจะต้มไข่ แนะนำให้ซื้อไข่มาจากข้างนอกรวมถึงภาชนะใส่ไข่ตอนต้ม เอาแบบมีหูหิ้วที่สามารถเอาไม้เกี่ยวได้มาด้วย เพราะถ้ามาซื้อที่นี่เราว่ามันค่อนข้างแพงแหะ สนนราคา 3 ลูก 25 บาท ตกลูกละ 8 บาทเลยนะเฟ้ย แต่ที่ดีคือเค้าใส่ตะกร้าไม้สานมาเรียบร้อย แต่ถ้าขี้เกียจก็มาซื้อที่นี่เหมือนเราก็ได้จ้าาาา ฮ่า
ทริคการต้มไข่ในบ่อน้ำร้อนคือ จุ่มลงทั้งตระกร้า แช่ในบ่อน้ำร้อนประมาณ 20 นาที มันไม่สุกเกินไป อร่อยกำลังดี ฮ่า (อร่อยกว่าต้มหม้อที่บ้านอีก อันนี้อาจจะคิดไปเอง)
ถนนคนเดินเมืองปาย
ถนคนเดินเมืองปายนี่ก็อยู่ในตัวเมืองเลย เค้าก็จะเริ่มตั้งร้านตั้งแต่ตอนเย็นช่วง 5-6 โมงยาวจนถึงสามทุ่ม ทีนี้เนี่ย ด้วยความที่เมืองปายตอนนี้ นักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างชาติสะส่วนใหญ่ บาร์ ร้านอาหารฝรั่ง รวมถึงของขายที่เน้นขายฝรั่ง อย่างพวกเสื้อผ้า สร้อย กำไรข้อมือฟีลชาวเขาเยอะมว๊ากกก แล้วทุกร้านคือป้ายเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทยไม่ค่อยมีเล้ย
ถนนคนเดินปายที่นี่จะไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ ร้านค้าจะไม่ค่อยหนาแน่นเหมือนที่อื่น ก็แหมม .. เมืองปายก็ไม่ได้ใหญ่เนอะ เดินแปปเดียวก็หมดแล้ว แต่ที่ชอบคือบรรยากาศของถนนคนเดินปายนี่แหละที่ฟีลกู๊ดดี ฝรั่งเยอะ เฮฮาปาจิงโกะดีอยู่น้า
จุดชมวิวหยุนไหล
มาปายใช่ว่าจะดูทะเลหมอกไม่ได้ ใครอยากดูทะเลหมอกให้มาที่นี่กับจุดชมวิวหยุนไหล แนะนำให้ตื่นตีห้าบึ่งจากปายไปหมู่บ้านสันติชลประมาณ 20 นาทีแล้วต้องต่อรถสองแถวของชาวบ้านที่นี่ขึ้นไปบนจุดชมวิว เค้าไม่ให้เอารถส่วนตัวขึ้นเองว่ะแกร อันนี้ก็ไม่รู้ โดยเหมารถขึ้นและลง 300 บาท ตอนที่นี่ไปคือมี 3 คน ก็ตกคนละ 100 บาทแน่ะ พอถึงที่จอดรถด้านบนแนะนำให้จำป้ายทะเบียนและขอเบอร์โทรศัพท์ของคนขับไว้ เดินเข้าไปต้องเสียอีกคนละ 20 บาท เมื่อเราฟินกับหมอกหรือเที่ยวข้างบนเสร็จพร้อมที่จะลงให้โทรหาเค้าให้มารับได้เลย
ข้างบนเค้าจะมีร้านขายของที่ระลึกรวมถึงข้าวต้ม หมั่นโถว ซาลาเปา ปาท่องโก๋ และชา กาแฟอีกด้วย ทีนี้ถ้าจะกินไปด้วยดูหมอกไปด้วยก็ได้ เพราะเค้ามีที่นั่งหันหน้าเข้าวิวที่พระอาทิตย์ที่ขึ้นเลย
เค้าบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ที่ไว้บอกรัก และเป็นหนึ่งใน 20 สถานที่ขอแต่งงานในไทยด้วยนะก๊ะ ใครมีแฟนที่มีความคิดอยากจะขอเค้าแต่งงาน มาเที่ยวที่นี่อาจจะต้องขอเค้าแต่งซะแล้วววว
หมู่บ้านสันติชล
หากลงมาจากจุดชมวิวหยุนไหลแล้ว ให้เที่ยวต่อที่หมูบ้านสันติชลต่อได้เลย ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเกือบปิดเพราะปัญหายาเสพติดทำให้คนภายนอกไม่กล้าเข้าไปเที่ยวในชุมชน ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้หมดไปหลังนโยบายปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านบรรยากาศ เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาสู่ ประเทศจีน เลย เนื่องจากลักษณะของการตกแต่งสถานที่จะเป็นสไตล์จีนยูนนานทั้งหมด เราสามารถเดินเล่น และซื้อของฝากได้ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ถ่ายรูปสวยๆก็พอ ฟีลโดยรวมเหมือนอยู่เมืองจีนสมัยก่อนจริงๆ
ที่พักในปายที่อยากแนะนำ
ที่พักที่อยากแนะนำคือ Hotel des Artists, Rose of Pai โรงแรมที่ผมคิดว่าดีที่สุดในเมืองเลยนะ ไม่ได้ยอเกินจริง ที่นี่เป็นเฮือนไต (เรือนไทย) ริมแม่น้ำปิงเรือนสุดท้ายที่มีในเมืองปาย และรีโนเวทเป็นที่พักฉบับ 5 ดาวในกรอบบ้านหลังเก่า ที่ให้ความรู้สึกโคตรอบอุ่น และประทับใจ ใครที่สนใจ Hotel des Artists, Rose of Pai ดูรีวิวแบบเต็มๆที่นี่เลย
ดูเรทและจองผ่าน Agoda ดูเรทและจองผ่าน Expedia ดูเรทและจองผ่าน Trip ดูเรทและจองผ่าน Hotelsดูเรทและจอง Hotel des Artists, Rose of Pai สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง
เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย 🚀
สรุป ปาย
ที่เที่ยวทั้งหมดข้างบน ผมเก็บได้ภายใน 3 วัน 2 คืน แถมมีเวลาถมถื่อทำอย่างอื่นต่ออีกด้วยนาจา สรุปการมาเที่ยวปายคือ ‘ซักครั้งในชีวิตคือต้องมา’ ถึงแม้ปายจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่เมืองปายคือมีเสน่ห์และน่าฮัก! นี่ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมฝรั่งถึงชอบมา สิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัวเมืองปายก็มีครบหมด หากใครจะมาปายแล้วนั่งชิลหาร้านกาแฟดื่มก็ยังน่ามาอยู่ ช่วงที่แนะนำให้มาเที่ยวคือช่วงพฤศจิกายนยาวจนถึงกุมภาพันธ์เนี่ย อากาศหนาวกำลังดี ฟินๆกับไอหมอก 🙂
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡