ระยอง หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ แบบที่ว่าขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมงถึง แถมยังเต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวมากมาย ครบครันทั้งทะเล ภูเขา และผืนป่า ที่แต่ละสถานที่นั้นสวยงามมากๆ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า ระยองเป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในประเทศเลยเน้อ เริ่ดไม่ไหว แถมเค้ายังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อมากมาย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจม๊ากกก ไม่ว่าจะเป็นในด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการเกษตรกรรม ก็มีครบจบในจังหวัดเดียว
โดยรอบนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปเที่ยวระยองกันแบบ 2 วัน 1 คืน กันแบบเรื่อยๆ ชิลๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ต้องข้ามเกาะ ซึ่งเราจะไปนั่งบีชคลับคาเฟ่สุดมินิมอล ไปเดินเทรลสบายๆ กันที่เขาแหลมหญ้า ภูเขาสวยๆ ที่ยื่นออกสู่ทะเลท่ามกลางวิวหลักล้าน รวมถึงไปเดินเล่นรับลมกันที่ชายหาดแสงจันทร์ และดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ กันที่ชายหาดแม่รำพึง แถมยังพาเข้าป่าไปสำรวจธรรมชาติกันที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองอีกด้วย บอกเลยว่าทริปนี้เป็นทริปพักผ่อนจริงๆ เอาล่ะ ทริประยองรอบนี้จะสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหน มาตามรอยก๊อตไปเที่ยวระยองกันได้เล้ยย
แพลนเที่ยวระยอง 2 วัน 1 คืน
วัน | ที่เที่ยวระยอง |
1 | 1. หาดแสงจันทร์ 2. Cherocco Beach Club 3. เขาแหลมหญ้า 4. หาดแม่รำพึง |
2 | 5. โครงการป่าในเมือง 6. สวนพฤกษศาสตร์ระยอง 7. บ้านพัฒก์คาเฟ่ |
ส่วนลด OTA | ส่วนลด Klook ส่วนลด Agoda ส่วนลด Booking ส่วนลด Expedia ส่วนลด Hotels |
Day 1 :
หาดแสงจันทร์
มาเริ่มต้นเที่ยวระยองที่แรกกันที่ หาดแสงจันทร์ หนึ่งในชายหาดสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเยอะมาก ถือเป็นชายหาดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนอีกแห่งหนึ่งในระยองเลย แต่ด้วยความที่คลื่นลมที่ค่อนข้างแรงของชายหาดแสงจันทร์ ทำให้เค้าได้สร้างแนวหิน ที่เรียกว่า ‘เขื่อนหินทิ้ง’ มากั้นเพื่อป้องกันการกัดเซาะของคลื่นลมยาวไปตลอดแนวชายฝั่ง ระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร โดยสร้างเป็นรูปตัวที ทำให้หาดแสงจันทร์มีขายหาดที่โค้งเว้าคล้ายรูปเกือกม้ายาวไปจนสุดถนน และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คถ่ายรูปสวยของจังหวัดเล้ยยย
สำหรับก๊อตแล้ว ชายหาดแสงจันทร์ เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยเอาเรื่อง มู้ดมันเหมือนเราเดินเล่นอยู่ปูซานในเกาหลีเลย ยิ่งลงไปเดินเล่นใกล้ๆ กับหินที่เค้าเอามาถมตามชายหาด ท่ามกลางแบล็คกราวด์ข้างหลังที่เป็นท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา มู้ดมันคือชายหาดที่ต่างประเทศดีๆ นั่นเอง สวยแบบที่ว่าถ่ายบรรยากาศลงสตอรี่ไอจี เพื่อนถึงขั้นส่งข้อความมาถามเลยว่า ‘ก๊อตอยู่ที่ไหน’
นอกจากนี้บริเวณริมถนนเลียบชายหาดของเค้า ยังถูกแบ่งให้เป็นเลนสำหรับปั่นจักรยาน รวมถึงแบ่งโซนจอดรถยนต์เอาไว้เป็นจุดๆ ซึ่งสองข้างทางจะเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ไปจนถึงรถขายอาหารเคลื่อนที่ ที่เราไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหิว ไม่มีของกิน ฮ่า โดยช่วงที่ก๊อตไปนั้น เป็นช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากน้ำทะเลใสๆ อากาศไม่ร้อนมากแล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังไม่พลุกพล่านอีกด้วย ก๊อตเลยมากางทาร์ปนั่งกินลมชิลๆ เดินเล่นเรียบชายหาดกันได้แบบสบายๆ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ในการมาพักผ่อนมากเลย ถือว่าดีงาม
Cherocco Beach Club
เราไปต่อกันที่ Cherocco Beach Club คาเฟ่บีชคลับสไตล์บาหลีที่ตั้งอยู่ริมชายหาดแหลมเจริญ ใกล้ๆ กันกับหาดแสงจันทร์ที่เราพึ่งไปกันมา ซึ่งมู้ดและบรรยากาศเค้าดีมาก ตกแต่งสวยด้วยโทนขาวตัดไม้สไตล์บีชคลับแบบมินิมอล ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะ มีฟีลความเป็นร้าน Instagrammable โดยเค้ามีทั้งโซนอินดอร์ เอาท์ดอร์ และชั้นสองให้เราได้ถ่ายรูปกันสนุกแบบไม่อั้นเลย
โดยก๊อตได้ลองสั่งเมนูเครื่องดื่มของเค้ามา คือ Caramel Dream (125 บาท) เครื่องดื่มคาราเมลหวานหอมเย็นๆ ตัดด้วยความเข้มจากกาแฟ ที่ให้รสสัมผัสนวลละมุน ท็อปด้านบนด้วยช็อกโกแลตสไลด์ ราดด้วยคาราเมลเพิ่มความหอมมาบนฟองนมหนานุ่ม แต่กลับละลายเวลาดื่มเข้าปาก เป็นแก้วที่ให้รสสัมผัสเป็นเลเยอร์ ไม่หวาน ไม่ขมเกินไป ใครไม่กินกาแฟสั่งเมนูนี้ลองดูได้ แต่ก๊อตแนะนำให้สั่งหวานน้อยน้า รสชาตินัวกำลังดีเลย
ตามติดมาด้วยอีกเมนูเครื่องดื่มที่เข้ากับบรรยากาศทะเลจัดอย่าง Yuzu Honey (145 บาท) ยูสุฮันนี่ โซดา ที่เสิร์ฟมาด้วยสีสันสดใส แบ่งเลเยอร์ด้านล่างเป็นยูสุเข้มข้น ที่พอดื่มไปพร้อมๆ กับโซดา จะได้รสชาติเปรี้ยวหวานซ่าในทีเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนมีส้มทั้งสวนกระจายไปตามโพรงปาก ปิดด้วยความหอมจากส้มชิ้นโต และโรสแมรี่ที่ท็อปมาด้านบน เป็นเครื่องดื่มที่เติมความเฟรซได้ดีเชียวล่ะ ยิ่งกินคู่กับ ครัวซองต์อัลมอนหน้ากรอบ (95 บาท) ยิ่งเข้ากั๊นเข้ากัน ครัวซองต์ชิ้นใหญ่ เสิร์ฟมาบนจานสุดคิ้วท์ ด้านบนท็อปมาด้วยอัลมอนสไลด์บนครีมเนยกรอบๆ ช่างลงตัวกับเครื่องดื่มจริงๆ
โดยรวมแล้ว Cherocco Beach Club เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ใครมาเที่ยวระยองก๊อตแนะนำว่าควรมา บรรยากาศร้านดีมาก มีความมินิมอลจัด แถมยังมีโซนนั่งเยอะให้ได้เลือกนั่งกันแบบสบายๆ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่คนเข้าร้านเยอะก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึกอัดเลย เพราะที่นั่งเยอะจริงไรจริง แถมฝั่งตรงข้ามร้านเค้ายังทำเป็นที่นั่งเก๋ๆ หลากรูปทรงให้เราได้ไปถ่ายรูปเล่นอีกด้วยน้า บอกเลยว่าสาย Cafe Hopping คือพลาดไม่ได้
เขาแหลมหญ้า
เติมพลังด้วยของหวานเสร็จแล้ว เราไปต่อกันที่ เขาแหลมหญ้า ภูเขาหญ้าทรงแหลมยื่นไปในทะเลที่สวยมาก อีกทั้งยังมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งเขาแหลมหญ้านั้นจะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดที่ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและทะเล ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเค้านิยมมาเดินเล่น ชมธรรมชาติของภูเขาและท้องทะเลอ่าวไทยอันงดงาม บอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่งที่เที่ยวในระยองที่ก๊อตชอบมากที่สุดอีกจุดนึงเลย
สำหรับวิวของเขาแหลมหญ้า คือดีย์และสวยงามมากๆ แถมเค้ายังมีเส้นทางเดินเทรลระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรเอาไว้ให้ได้เดินเล่นกันด้วยนะ ซึ่งความสนุกมันอยู่ที่เราจะได้ปีนหินเลียบชายฝั่งเพื่อไปดูวิวทะเลอ่าวไทย พร้อมเห็นเกาะเสม็ดใกล้ๆ จากนั้นเราก็สามารถปีนเขาระยะสั้นๆ เพื่อพิชิตเขาแหลมหญ้าได้อีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเค้าก็ชอบมาเดินส่องธรรมชาติกัน ซึ่งตอนนี้ทางอุทยานเค้าก็ทำทางเดินอย่างดี ไม่ได้มีความลำบากหรือเหนื่อยมากแต่อย่างใด แถมเดินไปก็มีลมทะเลพัดเข้าตัวตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ถือว่าเดินได้แบบชิลๆ เล้ย
เขาแหลมหญ้ารอบนี้ ก๊อตมาแบบชิลๆ เอาแบบหอมปากหอมคอ โดยเดินเทรลเบาๆ ลัดเลาะไปตามโขดหินโดยเดินไปนิดหน่อย ไม่ได้ถึงขั้นเดินไปพิชิตปลายแหลมและยอดเขาแหลมหญ้า เอาจริ๊งง แค่นี้บรรยากาศก็ดีมากแล้ว ทั้งเสียงคลื่นทะเลที่พัดกระทบเข้าหาโขดหิน ลมเย็นๆ ที่ตีเข้าหน้าตลอดเวลา เป็นมู้ดที่ดีย์ แถมธรรมชาติที่นี่ก็ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ทำให้เขาแหลมหญ้ามันยังดูอุดมสมบูรณ์และสวยงามอยู่เสมอ นี่มาเที่ยวกี่ครั้งก๊อตก็ยังประทับใจทุกครั้งเลยแหละ
หาดแม่รำพึง
ปิดท้ายวันแรกของการไปเที่ยวระยอง ด้วยการไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกกันที่ ‘หาดแม่รำพึง’ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาแหลมหญ้ามากนัก ขับรถออกมาประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว โดยที่นี่เค้าเป็นอีกหนึ่งชายหาดยอดฮิตในระยอง มีความยาวหาดทั้งหมด 12 กิโลเมตร โดยมีถนนเลียบหาดยาวทั้งหมดประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งจุดในจังหวัดระยองที่มาดูวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยมากกกกก
ชายหาดแม่รำพึงเค้ามีตำนานด้วยนะเออ โดยเค้าเล่าต่อกันมาว่า มีหญิงสาวที่ผิดหวังจากความรักมากระโดดเรือ แล้วเสียชีวิต ทำให้ชาวบ้านระแวกนี้เค้าเรียกชายหาดนี้ว่า ‘หาดแม่รำพึง’ ทั้งยังได้ตั้งศาลเจ้าแม่รำพึงขึ้นมาในพื้นที่เพื่อสักการะบูชา ซึ่งเค้าว่ากันว่าท่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ
สำหรับก๊อตแล้ว ชายหาดแม่รำพึง เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่ทรายสวยและน้ำใสเอาเรื่องนะ โดยบรรยากาศเค้านั้นมีความสงบมากกว่าหาดแสงจันทร์ที่เราไปมาช่วงเช้า ใครจะมาแนะนำมาช่วงเย็นเลย เราจะได้ดูพระอาทิตย์ตกน้ำกันแบบใกล้ๆ เล้ย แสงสีทองสุดท้ายของวันที่ลาลับขอบฟ้าไปบนผิวน้ำทะเล ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดลู่ไปตามต้นไม้ ผู้คนที่กำลังเดินเล่นริมชายหาด บ้างก็ลงเล่นน้ำทะเล ถือเป็น Vibes ที่โรแมนติก และดูอบอุ่นมากก ใครมาระยองก๊อตแนะนำเล้ยย
Day : 2
โครงการป่าในเมือง
เริ่มวันที่สองด้วยการไปสูดโอโซนเข้าปอดกันที่โครงการป่าในเมือง หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ‘ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ’ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำระยอง ตำบลปากน้ำและตำบลเนินพระ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นป่าที่ทอดยาวไปกับพื้นที่เมือง และยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในระยอง โดยไฮไลท์ที่อยากให้มากัน คือเค้าทำสะพานศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวไปกับป่าชายเลน ที่เราจะได้เพลิดเพลินไปกับสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ แถมยังมีพระเจดีย์กลางน้ำที่ตั้งสง่าโดดเด่นอยู่กลางน้ำกันเลยทีเดียว
โดยพื้นที่ป่าตรงนี้เค้าใช้เวลาก่อสร้างกันอยู่หลายปีกว่าจะทำโครงการนี้เสร็จสิ้นทั้งหมด 4 ส่วน ระยะทางเดินยาว 7 กิโลเมตร โดยตอนที่ก๊อตไปนั้นเค้าเปิดให้เดินกันครบทุกส่วนเลยน้า ตัวสะพานไม้เค้าทำโครงสร้างแข็งแรง และเดินง่ายมาก ซึ่งเดินไปในแต่ละจุดเค้าจะมีจุดนั่งพัก รวมทั้งมีป้ายบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งความสนุกมันอยู่ที่เราได้เล่นไปกับการเอาโทรศัพท์ไปสแกนคิวอาร์โค้ดตามป้าย แล้วเค้าจะมี AR ที่เป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ลอยออกมาพร้อมเสียงร้องของสัตว์ตัวนั้นดังออกมาจากโทรศัพท์อีกด้วย อันนี้เก๋มากกกก
สำหรับพระเจดีย์กลางน้ำที่เป็นจุดไฮไลท์ เราจะต้องเดินไปตามสะพานลงไปเรื่อยๆ ถึงจะเจอเข้ากับพระเจดีย์ รูปทรงระฆังสูงถึง 10 เมตร ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเลย โดยพระเจดีย์นี้สร้างมาตั้งแต่ ปี 2416 ในสมัยของพระยาศรีสมุทรโภคชัยชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) ซึ่งป็นเจ้าเมืองระยอง โดยเค้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้กับชาวเรือหรือคนที่นั่งเรือผ่านมาว่าถึงจังหวัดระยองแล้วนั่นเอง ใครที่เดินมาถึงกลางนน้ำแล้วอยากจะมาไหว้สักการะ เค้าก็มีธูปเทียนดอกไม้ให้บูชาด้วยน้า ใครอยากเสริมแต้มบุญห้ามพลาดเลย
โครงการป่าในเมือง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในระยองที่ก๊อตรู้สึกว่า เค้าทำให้เราได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ และกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว แม้จะถูกสร้างเคียงคู่ไปกับตัวเมือง แต่พอได้มาเดินเล่นอยู่ตามแนวสะพานมันเหมือนหลุดเข้าไปในในอีกโลกนึงเลย มันเหมือนเวลาเดินเล่นอยู่ที่นี่ทุกอย่างมันดูช้าลง ก๊อตได้ยินเสียงธรรมชาติมากขึ้น ร่างกายมันผ่อนคลายขึ้นแบบที่ว่า ‘นี่สินะที่เค้าเรียกว่าธรรมชาติบำบัด’
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง
ตามก๊อตไปเที่ยวให้ธรรมชาติบำบัดกันต่อที่ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้ท้องถิ่นภาคตะวันออกและพรรณไม้หายากที่ใกล้สูญพันธุ์กว่า 400 ชนิด โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เค้าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้ที่นี่มีกิจกรรมให้เราได้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักยานศึกษาธรรมชาติ พายเรือคายัค และล่องเรือชมธรรมชาติ ซึ่งไฮไลท์เด็ดเลยคือ มาสัมผัสแพหญ้าหนังหมา และชมนกน้ำมากมายหลายชนิด รวมถึงมาดูป่าเสม็ดดึกดำบรรพ์ ที่บอกเลยว่าสายรักธรรมชาติมาแล้วจะไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว
สำหรับ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เค้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและรวบรวมพรรณไม้ของภาคตะวันออก และยังสร้างไว้เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืชของสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด รวมถึงต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ใครมาแล้วเหมือนได้มาพักผ่อนท่ามกลางผืนป่า สายน้ำ และธรรมชาติสวยๆ นั่นเอง
โดยรอบนี้ที่ก๊อตมาเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ก๊อตเลือกทำกิจกรรมพายเรือคายัคไปชมธรรมชาติรอบๆ พื้นที่ ซึ่งเราสามารถเช่าเรือคายัคกับเจ้าหน้าที่เค้าได้เลยน้า ค่าบริการจะอยู่ที่คนละ 100 บาท/ชั่วโมง เท่านั้นเอง โดยเส้นทางที่เราจะพายคายัคไปนั้นจะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่โอบล้อมรอบพื้นที่ป่าเอาไว้ โดยเราสามารถพายไปตามเส้นทางของเค้าได้ โดยในแต่ละจุดจะมีผ้าสีเขียวผูกไว้เครื่องหมายนำทางที่เราสามารถพายผ่านจุดนี้ได้ ซึ่งการพายคายัคที่นี่ก็เพลินๆ กับวิวล้อมรอบ และสัตว์น้ำตัวจิ๋วที่เราสามารถเห็นน้องวิ่งกันบนผิวน้ำเลย แถมในบางจุดจะมีดงดอกบัวสวยๆ บานสะพรั่ง ให้เราได้พายไปดูใกล้ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า พื้นที่ของ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง นั้นค่อนข้างที่จะอุดมสมบูรณ์มาก ซึ่งเราสามารถดื่มด่ำท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ได้อย่างเต็มอิ่มเลย
ส่วนใครที่อยากมาเที่ยว แต่ไม่อยากลงน้ำ พายคายัคแบบก๊อต ที่นี่เค้ายังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เราเลือกอีกเยอะมาก ตั้งแต่การเดินศึกษาธรรมชาติบนเกาะกลางบึง ที่เค้ามีมากถึง 5 เกาะ ด้วยกัน คือ เกาะแต้วใหญ่ เกาะแต้วเล็ก เกาะชะมวง เกาะกก และ เกาะนรก รวมถึงการมาเที่ยวชมป่าเสม็ดพันปีแห่งภาคตะวันออก ซึ่งป่าเสม็ดที่นี่ได้รับฉายาว่า ป่าเสม็ดพันปี โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยต้นเสม็ดขาว แต่ก็มีต้นเสม็ดแดงแซมๆ มาด้วย ใครที่มาแล้วกลัวหาไม่เจอสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนได้น้า หรือถ้าใครกลัวไม่ได้รูปสวยๆ ตอนพายเรือคายัค กลัวหามุมไฮไลท์ไม่เจอ ก็สามารถจ้างพี่พนักงานให้เค้ามาเป็นคนนำทาง ซึ่งเค้าจะพาเราพายไปยังจุดที่เป็นเหมือน Hidden Gem ของพื้นที่แบบใกล้ๆ เลยล่ะ เป็นการเที่ยวส่องธรรมชาติที่สนุก และได้รูปสวยๆ กลับบ้านเพียบเลย ก๊อตแนะนำว่าต้องมา!
บ้านพัฒก์คาเฟ่
ปิดท้ายทริประยองด้วยการแวะพักร่างหาอะไรเย็นๆ ดื่มที่ บ้านพัฒก์คาเฟ่ คาเฟ่สุดน่ารักที่มีความมินิมอลแต่แฝงความโฮมมี่ในสีเขียวที่รายล้อมไปด้วยบ่อน้ำ ป่าโกงกาง ท่ามกลางธรรมชาติเขียวๆ ที่ทำให้บรรยากาศของคาเฟ่มันดูร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะมานั่งจิบกาแฟชิลๆ ที่สุด
โดยภายในคาเฟ่ของเค้ามันมีความเก๋ตรงที่ โต๊ะ-เก้าอี้สำหรับลูกค้ามันไม่ได้ถูกแยกเป็นโต๊ะใครโต๊ะมัน แต่ภายในร้านกลับมีเพียงโต๊ะไม้ยาวขนาดใหญ่ พร้อมเก้าอี้ที่วางเรียงรายอยู่เท่านั้น โดยไอเดียตรงนี้มาจากเจ้าของร้านที่เค้าต้องการให้คนรักในคาเฟ่ ชอบในการดื่มเครื่องดื่ม และกินขนม ที่ต่างมากหน้าหลายตา บ้างก็ไม่รู้จักกันมาก่อน ได้มานั่งกินร่วมโต๊ะเดียวกัน เพื่อเป็นการเพิ่มการสื่อสารให้กับผู้คนมากขึ้น ถือเป็นแนวคิดที่ดีเหมือนเรามาแล้วได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้สื่อสารกันในชีวิตจริงๆ มากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าใครอยากจะนั่งดื่มด่ำกับธรรมชาติ เค้าก็มีโซนที่นั่งแบบเอ้าท์ดอร์ด้านนอก ที่เป็นมุมม้านั่งไม้ตั้งอยู่ตามมุมสวนต่างๆ แยกออกมาด้วยน้า แถมเค้ายังมีพนักงานเสิร์ฟสี่ขาสุดน่ารักสองตัวที่วิ่งวุ่นคอยรับแขกที่แวะเวียนมาที่ร้าน น้องหมาสุดแสบที่ก๊อตพยายามเอามือไปเล่นด้วยก็สะบัดบ๊อบใส่ แต่พอลูกค้าคนใหม่ๆ เข้าร้านมาก็วิ่งวนอย่างกับพนักงานต้อนรับเล้ย 555555
โดยเมนูที่ก๊อตสั่งมาลองกันคือ Iced Cocoa Latte (75 บาท) โกโก้รสเข้มข้นกำลังดี กลมกล่อมที่เข้ากันดีกับ Croffle Mochi (75 บาท) ครอฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน ที่มีความหนึบของโมจิที่เค้าใส่เข้าไปและอบพร้อมกัน โดยกินคู่กับน้ำผึ้งหวานๆ ที่ราดมาฉ่ำๆ เป็นของหวานอีกจานที่ลงตัวดีมาก
ก่อนที่จะปิดจ๊อบด้วยการดื่ม Affogato (70 บาท) กาแฟรสเข้มข้นตัดด้วยรสหวานมันจากคาราเมลที่แทรกเข้ามาในตอนดื่ม และเพิ่มความหอมยิ่งขึ้นอีกด้วยไอติมรสมะพร้าวด้านบนที่พอดื่มแก้วนี้รวมกันในคำเดียวนะ นัวมากก แนะนำให้ลองเล้ย
สำหรับใครที่มาเที่ยวระยองอยากหาคาเฟ่น่ารัก บรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ แถมราคาเครื่องดื่มไม่ได้สูงมากนัก ก๊อตแนะนำบ้านพัฒก์คาเฟ่เลย เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่เหมือนไม่ได้มาคาเฟ่ แต่ให้อารมณ์เหมือนมาผ่อนคลายท่ามกลางบ้านพักตากอากาศ ประมาณนั้นเลย
และนี่ก็คือทั้งหมดของทริปเที่ยวระยองของก๊อตในครั้งนี้ ขอยกให้ระยองเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวที่เหมาะมาพักผ่อนมาก เพราะเค้ามีที่เที่ยวเยอะ มีหมดทั้งทะเล ภูเขา เหล่าธรรมชาติ ที่สำคัญชายหาดเค้าสวย น้ำทะเลใสอยู่น้า บรรยากาศก็ดี แถมถนนเลียบชายหาดก็ขับรถสนุก คนไม่พลุกพล่าน นอกจากนี้ระยอง ยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพอีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ใครที่อยากเที่ยวทะเลที่มู้ดดีๆ ลองเพิ่มระยองเข้าไว้ในลิสต์เที่ยวได้ รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
> ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)