หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หนึ่งในทะเลใต้ที่สวยจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ต้องมีชื่อของหมู่เกาะพีพี ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราอยู่ด้วย โดยเค้ามีด้วยกัน 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เป็นแหล่งทะเลอันดามันที่สวยขึ้นชื่อในจังหวัดกระบี่ และไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามของท้องทะเล แต่ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ปะการัง เกาะน้อยใหญ่ และชายหาดที่สวยมากราวกับสวรรค์บนดินเลย โดยเฉพาะอย่างอ่าวมาหยา ที่เค้าปิดฟื้นฟูพื้นที่ไปกว่า 3 ปี และเพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งในทริปนี้เอง ก๊อตได้มีโอกาสไปเยือนอ่าวมาหยาชื่อดังอีกด้วย บอกเลยว่าสวยจนตะลึงและว้าวมากกก เอาล่ะ ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวเกาะพีพี อ่านกันได้เลย
เที่ยวหมู่เกาะพีพี หนึ่งวันกับทัวร์
การเที่ยวหมู่เกาะพีพีแบบหนึ่งวันที่จัดเต็มทั้งดำน้ำและดูปะการัง แถมยังเดินทางสะดวกและง่ายที่สุด ก๊อตแนะนำให้เราซื้อทัวร์ไปดีกว่านะ ไม่ว่าจะมาจากฝั่งภูเก็ต หรือฝั่งกระบี่เอง เพราะการมาเที่ยวหมู่เกาะพีพีกับทัวร์นั้น อย่างแรกเลยเราจะได้รับความสะดวกสบายมีทีมงานคอยดูแล แถมยังรู้สึกปลอดภัยเพราะกัปตันเรือเค้ามีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีไกด์ที่คอยแนะนำและให้ข้อมูลสถานที่ต่างๆ ระหว่างที่เราเที่ยวอีกด้วย ส่วนใครจะเลือกทัวร์เจ้าไหน อาจจะลองดูตัวเองก่อนได้เลยว่าสะดวกออกจากกระบี่ หรือภูเก็ต จากนั้นค่อยเลือกบริษัททัวร์เนอะว่าอันไหนดี ยังไงลองดูลิสจากด้านล่างนี้ได้เลย
จองทัวร์หมู่เกาะพีพีออนไลน์
สำหรับโปรแกรมเที่ยวเกาะพีพี สามารถจองผ่าน Klook หรือ KKday ได้เล้ย โดยตัวก๊อตเองนั้นได้ซื้อทัวร์ของบริษัท Koh Phi Phi Tour นะ นอกจากนี้ ใน Klook และ KKday เค้ายังมีหลากหลายตัวเลือกอื่นๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแบบสปีดโบ้ท หรือเรือหางยาว หรือแบบเฉพาะดูพระอาทิตย์ตก ยังไงลองดูจากด้านล่างนี้ได้เล้ย
🛥 ทัวร์หมู่เกาะพีพี ที่ออกจากจังหวัดภูเก็ต
- [Klook] ทัวร์หนึ่งวันจากกระบี่ไปเกาะพีพีด้วยเรือสปีดโบ๊ท โดย TTD (Koh Phi Phi Tour) คลิก
- [Klook] ทัวร์เกาะพีพีหนึ่งวันด้วยเรือสปีดโบ๊ทจากกระบี่ โดย Sea Eagle คลิก
🛥 ทัวร์หมู่เกาะพีพี ที่ออกจากจังหวัดภูเก็ต
เที่ยวหมู่เกาะพีพี กับ Phi Phi Tour
สำหรับรีวิวนี้ จะเป็นการไปเที่ยวเกาะพีพี กับ Koh Phi Phi Tour (หรือ TTD ใน Klook) โดยเรือจะออกจากท่าเรือส่วนตัวของเค้าที่จังหวัดกระบี่เลย สำหรับขั้นตอนการเดินทางมาก็แสนง่าย เพราะเค้ามีรถรับส่งจากโรงแรมที่เราพักไปยังท่าเรือ ทั้งขาไปและขากลับ แถมไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เพราะ Koh Phi Phi Tour เค้ามีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 30 ปี ทั้งนี้กัปตันเรือยังมีความเชี่ยวชาญการขับเรือ ทิศทางลม และร่องน้ำกระบี่มาอย่างยาวนานเช่นกัน นอกจากนี้เรือแต่ละลำนั้นจะมีพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อคอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับลูกทัวร์แบบเราๆ และยังมีไกด์ประจำที่คอยให้ข้อมูลสถานที่ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ยังไม่หมดเท่านั้น ในระหว่างวันที่เราล่องเรือเที่ยวกันนั้น ทาง Koh Phi Phi Tour เค้าจะมีน้ำดื่มเย็นๆ และผลไม้มาเสิร์ฟกันแบบหนำใจ และที่สำคัญมีอาหารกลางวันสำหรับลูกทัวร์ทุกคน แถมใครที่อยากจะมาดำน้ำดูปะการัง ทาง Koh Phi Phi Tour เค้าก็มีชุดแว่นดำน้ำ พร้อมเสื้อชูชีพเตรียมไว้ให้เราเสร็จสรรพ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ เล้ยย ไปกับทัวร์นี่ไปแต่ตัวจริงๆ น้าา
8 ที่เที่ยวเดย์ทริป หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
ที่เที่ยวเกาะพีพี | 1. เกาะไม้ไผ่ 2. อ่าวมาหยา 3. ลากูนอ่าวปิเละ 4. ถ้ำไวกิ้ง หรือ Viking Cave 5. อ่าวหยงกาเส็ม หรือ อ่าวลิง 6. ดำน้ำ ดูปะการังที่อ่าวโละซะมะ 7. ดำน้ำที่อ่าวโละลานา |
ที่พักในกระบี่ | 8. Krabi Aonang Hill |
ส่วนลด OTA | ส่วนลด Klook ส่วนลด Agoda ส่วนลด Booking ส่วนลด Expedia ส่วนลด Hotels |
เกาะไม้ไผ่
หลังจากขึ้นเรือและใช้เวลาเดินทางอยู่ประมาณ 40 นาที ที่แรกของทริปทัวร์หมู่เกาะพีพีที่เรามาถึงก็คือ เกาะไม้ไผ่ เกาะเล็กๆ กลางทะเลอันดามัน ที่ทางทัวร์เค้าจะให้เวลาเราเดินเล่น เล่นน้ำตามอัธยาศัยราวๆ 40 นาที สำหรับก๊อตแล้วเกาะไม้ไผ่ถือว่าสงบอยู่ ด้วยความที่เราไปทัวร์กันตั้งแต่เช้า และเรายังเป็นเรือลำแรกๆ ที่เข้ามาเทียบท่าเกาะไผ่ คนเลยยังไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ โดยชายหาดของที่นี่จะเชื่อมกันลงมาตั้งแต่ทิศเหนือไล่ยาวมาจนถึงทิศตะวันออก ทำให้เราสามารถเดินวนเที่ยวได้ทั่วเกาะนั่นเอง โดยบนเกาะจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ห้องน้ำ และลานกางเต็นท์ ด้วยนะ ถึงแม้จะดูสงบ แต่ก็ครบครันในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกเลยหล่ะ
ความพิเศษของ เกาะไม้ไผ่ นอกจากจะมีมุมส่วนตัว ไม่ติดนักท่องเที่ยวให้ได้พักผ่อน และถ่ายรูปแล้ว ชายหาดของที่นี่ยังขาวสะอาดตา แถมน้ำทะเลก็ใสแจ๋วให้เราได้ลงไปแหวกว่ายเล่นด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า เกาะไม้ไผ่ อุดมสมบูรณ์ถึงขั้นมีดงปะการังแสนไร่ เพราะทางทิศใต้ของเกาะไม้ไผ่นี้เองมีปะการังอยู่หลากหลายชนิด และเป็นอีกหนึ่งเกาะในกระบี่ที่ได้ฉายาว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลย
ส่วนตัวก๊อตเองก็เล่นน้ำ ดำผุด ดำว่ายกันอยู่พักใหญ่ แล้วก็ไปเดินเล่นตามชายหาดให้พอหอมปากหอมคอ ก่อนจะขึ้นเรือไปกันต่อที่ไฮไลท์เด็ดของทัวร์วันนี้ นั่นคือ อ่าวมาหยา ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที จากเกาะไม้ไผ่ เท่านั้น
อ่าวมาหยา
นั่งเรือจากเกาะไผ่มาไม่นานเท่าไหร่ เราก็มาถึง อ่าวมาหยา ที่ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี อ่าวมาหยา เกิดจากการพังทลายของหน้าผา จนแหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวโอบล้อมด้วยเขาหินปูน ความงดงามของอ่าวมาหยานั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยชายหาดสีขาวที่ว่ากันว่าทรายนุ่มละมุนราวกับผงแป้ง ซึ่งก๊อตคอนเฟิร์มเลยว่าไม่เกินจริง เพราะทรายนิ่มม๊ากกก นอกจากนี้น้ำทะเลในอ่าวมาหยาก็สวยงามเป็นสีเขียวมรกต รายล้อมไปด้วยผาหินสูงและธรรมชาติ โดยในปีนี้ทางหนังสือพิมพ์ Daily Star ของประเทศอังกฤษ ได้เผยแพร่การจัดอันดับ World’s 20 most Beautiful Beaches ซึ่งอ่าวมาหยานั้น ติดหนึ่งใน 20 ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก โดยอยู่อันดับที่ 12 อีกด้วย ก๊อตบอกเลยว่าครั้งนึงในชีวิต อยากให้ลองมาเที่ยวอ่าวมาหยากัน การันตีเลยว่าดีย์มากๆ
เอาล่ะ! พอถึงแล้ว เรือสปีดโบ้ทที่เรานั่งกันมานั้น เค้าจะจอดเทียบท่าที่ท่าเรือโล๊ะซามะก่อนน้า บรรยากาศรอบๆ นั้น นักท่องเที่ยวมหาศาลมากแม๊ เรือแต่ละลำต้องต่อแถวเพื่อเข้ามาจอดเทียบท่า และให้นักท่องเที่ยวลงจากเรือกันทีละลำสองลำ แต่ก๊อตยังรู้สึกชิลๆ เพราะเค้าทำทางขึ้น-ลง แบ่งฝั่งกันชัดเจน ทำให้คนสามารถเดินเข้า-ออกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งลงถึงท่าเทียบเรือแล้วนั้นมันยังไม่ถึงตัวชายหาดเน้อ เราจะต้องเดินเท้าเข้ามาด้านในอีกราวๆ 50 เมตรน้า
และที่รู้กันอยู่แล้วว่า อ่าวหมายา ที่หมู่เกาะพีพีเค้าปิดปรับปรุงไปตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากปัญหานักท่องเที่ยวล้นมากเกินกว่าที่จะรับไหว จนส่งผลกระทบต่อทรัพยากรรอบๆ อ่าว ไม่ว่าจะเป็นปะการัง และสัตว์น้ำหลากหลายชนิดเลย พอทริปนี้เราจะได้มาที่นี่ ทำให้ทริปอ่าวมาหยาของก๊อตรอบนี้ เลยค่อนข้างตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะได้มาสัมผัสความงดงามของอ่าวมาหยาในรอบสามปีแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงมากในหมู่ชาวต่างชาติที่เค้ารู้จักกันในชื่อของ The Beach (เดอะบีช) ชื่อของภาพยนตร์ที่มี ลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ เป็นนักแสดงนำ โดยหนังเรืองนี้ได้เข้ามาถ่ายทำกันที่อ่าวมาหยาในช่วงปี 2542 จนทำให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เรียกได้ว่าใครมาเที่ยวไทย จะต้องมาอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพีกันสักครั้ง
หลังจากอ่าวมาหยาเค้าปิดปรับปรุง ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของอ่าวเกือบ 3 ปี ทำให้ช่วงที่ก๊อตไปนั้น ทางอุทยานเค้าจะมีป้ายประกาศข้อห้ามก่อนเราเดินเข้าไปในอ่าวมาหยาตามนี้เลยนะ บอกก่อนว่าค่อนข้างเคร่งครัดเลย อย่างเช่น ห้ามทาครีมกันแดดที่มีสารเคมี เพราะสารเคมีในครีมกันแดดสามารถทำร้ายปะการังใต้ท้องทะเลได้เลยนะ และอีกข้อห้ามที่ก๊อตเชื่อว่าทุกคนจะเห็นเมื่อไปถึงชายหาด คือห้ามลงเล่นน้ำ อันนี้ใครที่เผลอเดินลงทะเลไปลึกหน่อย เจ้าหน้าที่เค้าจะเป่านกหวีดเตือนให้ขึ้นมาบนหาดทันที บอกเลยว่าพี่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานค่อนข้างเข้มงวดจริงจัง แต่เราก็ต้องเข้าใจ เพราะทั้งหมดที่พี่ๆเค้าทำนั้น ก็เพื่อที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติให้เราอยู่กับเราไปนานๆ นั่นเอง
เอาล่ะ! เราเดินเข้าไปเที่ยวด้านในของเกาะพีพีเลกัน ต้องบอกว่าตอนนี้ทางอุทยานเค้าจัดระเบียบการเข้าชมบนเกาะได้ดีมากๆ รวมถึงการทำทางเดินต่างๆ ไว้ได้ดีพอสมควรเลย โดยเราจะเดินบนสะพานไม้ยาวที่ทอดยาวไปจนถึงชายหาดอ่าวมาหยาเลย ความรู้สึกตอนนั้นที่ไปถึงก็คือว้าวาก เพราะหาดเค้าสวยแบบสับมาก ฟีลเหมือนสวรรค์บนดินสุดโดยเฉพาะตอนที่เท้าเราได้สัมผัสหาด ทรายคือโคตรนุ่มสบายเท้าเป็นที่สุด ซึ่งส่วนตัวก๊อตเองยังไม่เคยได้เหยียบทรายที่ไหนแล้วนุ่มขนาดนี้มาก่อนเลย อันนี้คือเรื่องจริงงงงง
สัมผัสของทรายว่าฟินแล้ว น้ำทะเลเค้าก็สวยโดยเป็นสีเขียวมรกตใสกริ้ง แถมวิวของอ่าวมาหยายังรายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนสูงใหญ่ ตรงกลางมีช่องเขาทะลุออกไปยังทะเล ที่โคตรอันซีน ซึ่งก๊อตเองนั้นรู้สึกทึ่งในความงามที่ธรรมชาติเค้าสรรสร้างเอาไว้จริงๆ
สำหรับคนที่อยากหนีฝูงชนตรงหน้าหาด ก๊อตแนะนำว่าให้เดินไปจนสุดถึงภูเขาหินทางด้านขวามือเลยนะ บริเวณนี้จะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เราจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แถมถ่ายรูปยังได้ฟีลอลังด้วยวิวภูเขาหินปูนสูงขนาดใหญ่ด้านหลังบวกเข้ากับผืนน้ำทะเล บอกเลยว่าที่นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ ยิ่งถ้าได้เห็นฉลามครีบดำที่เข้ามาว่ายอยู่ใกล้ๆ ชายฝั่งนะ คืออันซีนสุดดดด อย่างวันที่ก๊อตไปก็เห็นน้องตัวนึง ว่ายเข้ามาใกล้ๆ เลย ซึ่งการที่ฉลามครีบดำว่ายเข้ามาขนาดนี้ มันเป็นเครื่องหมายการันตีได้ว่าอ่าวมาหยาได้ถูกฟื้นฟูจนธรรมชาติเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งจริงๆ แล้วนั่นเอง
สำหรับก๊อตแล้ว อ่าวมาหยามันให้ความรู้สึกว่าเราอยู่ในเวิ้งอ่าวที่ถูกโอบกอดไปด้วยภูเขาหิน มีไฮไลท์เด็ดคือหาดทรายที่คือที่สุดของความนุ่ม ทุกย่างก้าวที่ก๊อตเดินย่ำลงไป มันเหมือนเราเดินเล่นบนพรมนิ่มๆ สัมผัสที่ได้โคตรดี ทรายเนื้อละเอียดที่ยุบตัวตามน้ำหนักเท้า ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นที่สุด คือตั้งแต่ไปเที่ยวทะเลมา ยังไม่เคยสัมผัสทรายที่ไหน นุ่มได้ขนาดนี้ นี่อยากให้ทุกคนมาเห็นเองกับตา มันคือที่สุดของที่สุด เชื่อก๊อต
อ่าวปิเละ (ปิเละลากูน)
จากนั้นเราก็ออกเรือ และชมความงามของ อ่าวปิเละ (ปิเละลากูน) ที่รายล้อมไปด้วยเขาหินปูน และน้ำทะเลสีเขียวมรกต โดยบางจุดเราสามารถมองลงไปเห็นปะการังใต้ท้องทะเลได้เลย จุดนี้ถือว่าสวยงามไม่แพ้กัน เป็นมุมฮิตที่ทัวร์ต่างๆ จะพานักท่องเที่ยวมาจอดถ่ายรูป เราเลยจะเห็นเรือหางยาว สปี๊ดโบ๊ทกันเต็มไปหมด และแน่นอนว่าทางเกาะพีพีทัวร์กระบี่ เค้าก็จอดให้เราได้ขึ้นไปถ่ายรูปบริเวณหัวเรือ และหลังเรือด้วยนะ ซึ่งตรงนี้ทางพี่ๆ เจ้าหน้าที่บนเรือเค้ายังจะคอยช่วยถ่ายรูปให้อีกด้วย คือกดรัวๆ เหมือนรู้ใจให้เราได้ไปนั่งเลือกรูปที่ดีที่สุดมาโพสต์ลงโซเชี่ยลได้แบบกิ๊บเก๋ ก๊อตประทับใจมากกกก
ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave)
ได้รูปสวยๆ กันจนเครื่องแทบค้าง เราไปกันต่อที่ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave) ถ้ำกลางทะเลที่ถูกค้นพบโดยนักเดินเรือโบราณ เป็นถ้ำที่อยู่บริเวณเชิงผาหินกลางทะเลที่แล่นเรือออกมาจากลากูนอ่าวปิเละ แปปเดียวก็ถึงแล้ว ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยและเป็นที่ทำรังของนกนางแอ่น ไฮไลท์ของถ้ำไวกิ้ง จะเป็นภาพบนผนังถ้ำที่เป็นรูปของเรือใบสามเสา หัวงอน และรูปสัตว์ต่างๆ เป็นที่มาของชื่อถ้ำไวกิ้ง ถือเป็นถ้ำเก่าแก่ที่อยู่คู่ท้องทะเลมาอย่างยาวนานนั่นเอง
สำหรับถ้ำไวกิ้งนั้น เรือสปีดโบ้ทเค้าจะชลอเรือเบาๆ ให้เราดูความสวยงามของถ้ำจากด้านหน้าอย่างเดียว โดยปัจจุบัน แบรนด์สก๊อต เค้าได้เป็นผู้ถือครองสัมปทานในการเก็บรังนกในถ้ำแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวแบบเราๆ ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวข้างในถ้ำได้นาจาา
อ่าวหยงกาเส็ม หรือ อ่าวลิง
ทริปเที่ยวเกาะพีพีองเรายังไม่หมดแค่นี้ แล่นเรือมาอีกนิดหน่อยในเวลาไม่ถึงสามนาทีจากถ้ำไวกิ้ง เรือเค้าจะพาแวะ อ่าวหยงกาเส็ม หรือ อ่าวลิง อ่าวเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางทะเล และเนื่องจากช่วงเวลาที่เราไปนั้น น้ำค่อนข้างขึ้นสูงแล้ว บริเวณนี้เราทำได้แค่มาจอดดูวิวและน้องลิงที่ไต่ไปมาตามภูเขาหินปูน ความน่ารักมันอยู่ตรงที่เราสามารถมองออกไปจากเรือเห็นน้องลิงนั่งหลับบ้าง วิ่งเล่นบ้างนี่หล่ะ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ก๊อตเอนจอยมาก ตรงนี้ทางเรือเค้าก็จะชะลอให้เราได้ถ่ายรูปส่องน้องลิงด้วยนะ
อ่าวโละซะมะ
จากนั้นเวลาที่คนชอบว่ายน้ำ และดำน้ำตื้นก็มาถึง เพราะที่ อ่าวโละซะมะ นั้นเป็นจุดที่อยู่ของปะการัง และปลาหลากหลายชนิด โดยวันที่ก๊อตไปน้ำทะเลใสมาก แต่คลื่นค่อนข้างแรงเอาเรื่อง เพราะช่วงที่เราไปกระบี่นั้น ฝนตกแทบทุกบ่ายเล้ย โชคดีหน่อยที่ทัวร์ทริปเกาะพีพีวันนี้ไม่มีฝนนี่แหละ
สำหรับการดำน้ำตื้นดูปะการัง ทางเกาะพีพีทัวร์เค้าเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำเอาไว้ให้เราครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำ ซึ่งพี่คนดูแลบนเรือเค้าจะแจกให้กับทุกคนที่ไปทัวร์เลย ตรงนี้ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ก่อนลงเรือสามารถแจ้งกับพี่ๆ ที่ดูแลเค้าได้นะ เพราะเค้าจะลงน้ำไปช่วยดูแลใกล้ๆ หรือบางคน พี่เค้าจะให้เราเกาะห่วงยาง แล้วว่ายลากพาไปดำน้ำดูปะการัง ซึ่งอันนี้ถือว่าดีมากสำหรับที่ว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น เพราะเค้าจะดูแลเราอย่างดีและปลอดภัย ซึ่งเค้าใส่ใจลูกทัวร์สุดๆ จริงๆ
ก๊อตบอกได้เลยว่าบริเวณอ่าวโละซะมะนั้นดำน้ำสนุกมากกกก และได้รูปสวยๆ เยอะมากเช่นกัน คือเราสามารถมองลงไปเห็นโขดหิน น้องปลาหน้าตาหลากหลาย รวมทั้งปะการังจำนวนมาก ราวกับเป็นศูนย์รวมของบุปผาใต้ท้องทะเล นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับสีสันใต้ทะเลแล้ว เรายังได้ปล่อยใจไปกับธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย ก๊อตเลิฟการดำน้ำจุดนี้โคตรๆ
อ่าวโละลานา
จากตรงนี้ ถือว่าตารางทัวร์ช่วงเช้าของเราคอมพลีทอยู่นะ พอเราดำน้ำเสร็จแล้ว ทางเกาะพีพีทัวร์ เค้าก็จะพาเราไปพักกินข้าวเที่ยงกันบนเกาะพีพีดอน ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ที่ตักได้ไม่อั้น เติมพลังด้วยอาหารกันแบบจุกๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปดำน้ำกันต่อกับจุดที่สอง ตรงบริเวณอ่าวโละลานา โดยคำว่า ‘โละ’ แปลว่าหาด ส่วนคำว่า ‘ลานา’ นั้น ทางพี่มัคคุเทศน์เล่าว่าน่าจะมาจากชื่อหญิงสาว ซึ่งบริเวณอ่าวโละลานา นั้นจะมีรูปร่างคล้ายเกือกม้า ปลายอ่าวทั้งสองด้านมีภูเขาล้อมรอบ และมีชายหาดยาวประมาณ 500 เมตร เลยทีเดียว
สำหรับจุดดำน้ำตื้นตรงนี้มีปะการัง และปลาให้เราได้เห็นอยู่พอสมควร แต่เมื่อเทียบกับจุดแรกที่ อ่าวโละซะมะ ช่วงเช้า น้ำบริเวณนั้นจะใสกว่า แต่บริเวณอ่าวโละลานั้น น้ำจะขุ่นกว่าหน่อยๆ และคลื่นนั้นมีความนิ่งและสงบกว่า ทำให้ง่ายต่อการดำน้ำตื้นนั่นเอง คือเรียกได้ว่าไม่ดูดพลังเรามากเกินไปนั่นแหละ 5555
ซึ่งตัวก๊อตเองก็ดำน้ำส่องปะการังกันแบบจัดเต็มตามเวลาที่เค้ามีให้เลย และแม้ว่าน้ำตรงจุดนี้จะขุ่นกว่าอีกจุดที่เราไปมาก่อนหน้า แต่ก๊อตก็ยังได้เห็นเหล่าฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อยที่มาว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ได้ผ่อนคลายไปกับการลอยตัวเล่นน้ำ และบรรยากาศท้องทะเลที่เงียบสงบ ถือเป็นการปิดจบทริปทัวร์เกาะพีพีแบบเต็มวันของก๊อตได้อย่างคอมพลีทสุดๆ ไว้รอบหน้าก๊อตจะมาตามเก็บการดำน้ำที่กระบี่ในอีกหลายๆ ที่เลย สัญญาน้าา
เอาล่ะ! พอทีมงานเค้าเรียกให้เรากลับขึ้นเรือ เรือก็จะพาเรากลับไปส่งที่ท่าเรือที่เราขึ้นมากันในตอนเช้า โดยจะมีรถตู้มาจอดคอยรับเราเพื่อพากลับไปส่งที่โรงแรม เรียกได้ว่าการมาทัวร์กับเกาะพีพี ทัวร์นั้นครบรส เป็นอีกวันที่สนุกและประทับใจสุดๆ ทั้งยังเต็มอิ่มกับการเล่นน้ำทะเล ดำน้ำดูปะการัง รวมทั้งได้มาสัมผัสความงดงามของอ่าวมาหยาซักที ยกให้เป็นวันดีๆ ในกระบี่ ที่อยากให้ทุกคนมาตามรอย และสัมผัสของจริงกันด้วยตา
ที่พักในจังหวัดกระบี่
Krabi Aonang Hill
ทริปกระบี่เที่ยวนี้ก๊อตมาพักกันที่ Krabi Aonang Hill รีสอร์ทบรรยากาศโคตรดี รายล้อมไปด้วยภูเขา และธรรมชาติเหมือนเราได้พักอยู่ท่ามกลางป่าเขา อารมณ์แบบฮีลใจ ผ่อนคลาย และเงียบสงบสุดๆ แถมใครพักที่นี่ ยังเดินทางสะดวกมาก เพราะเค้าอยู่ใกล้กับชายหาด ขับรถเพียง 4 นาทีเท่านั้น โดยห้องพักที่นี่จะแบ่งเป็นโซนบ้านพักแยกเป็นหลัง และแยกในส่วนของอาคารที่เป็นห้องพักต่างหากเอาไว้น้า ซึ่งก๊อตพักเป็นห้องพักสำหรับ 3 คน ในราคาสุดคุ้มเพียง 1,800 บาท/คืนเท่านั้น
นอกจากบรรยากาศโดยรอบของ Krabi Aonang Hill จะร่มรื่นเหมาะกับการมาพักผ่อนแล้ว ห้องพักของที่นี่ภายในยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผม เครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงผ้าขนหนูที่มีเตรียมเอาไว้ให้เราได้ใช้ในห้อง และมีผ้าขนหนูแยกสำหรับเอาไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ หรือจะเอาไปใช้เวลาเราไปเล่นน้ำตามชายหาดแยกไว้ให้อีกด้วย อันนี้สะดวกต่อการไปทัวร์เกาะของก๊อตมาก เลิฟเลย
อีกทั้งบรรยากาศในห้องพักก็กว้างขวาง ก๊อตนอนกัน 3 คนไม่รู้สึกอึดอัดเลย เตียงนอนก็นุ่มนิ่มหลับสบายทั้งคืน และที่เอนจอยมาก คือห้องพักที่ก๊อตจองมานั้น เค้ามีระเบียงกว้างๆ ที่ยื่นออกไปสู่สระว่ายน้ำอีกด้วยนะ บริเวณระเบียงเค้าจะมีชุดโต๊ะ-เก้าไม้ให้มานั่งรับลมเย็นๆ และถ้าใครเป็นสายตื่นเช้าๆ หน่อยนะ ก๊อตแนะนำให้มานั่งชมนก ชมต้นไม้ยามเช้า เราจะได้ยินเสียงธรรมชาติอยู่รายล้อมรอบตัวเลย โดยมีแบรคกราวน์ฉากหลังเป็นภูเขาและผาหินสูงอยู่ด้านหลัง บรรยากาศนี่ฟินโคตรๆ
ดูห้องพัก ชมบรรยากาศกันไปแล้ว มาในส่วนของอาหารเช้า โดยที่ Krabi Aonang Hill จะเป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่เลยน้า มีอาหารค่อนข้างหลากหลายเลยเชียวล่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรืออาหารฝรั่ง รวมถึงพวกซีเรียล นม ขนม และผลไม้ ก็มีหลายอย่างให้เลือกกินได้ตามชอบเลย สำหรับรสชาติอาหาร ก๊อตว่าอร่อยถูกปากทุกคนแน่นอน ให้คะแนนเต็มสิบไม่หัก เพราะมีของกินเยอะดีย์ 55555
ได้เห็นบรรยากาศ และห้องพัก รวมถึงสาระพัดอาหารในมื้อเช้าที่ Krabi Aonang Hill ส่วนตัวก๊อตนั้นยกให้เป็นอีกหนึ่งที่พักในกระบี่ที่ราคาดี ค่าห้องหารกันออกมาตกคนละ 600 บาท คุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักสะอาดกว้างขวาง แถมยังตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศโคตรดี ต้นไม้เขียวๆ รายล้อมช่วยฮีลใจ เหมาะกับการชวนครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด ใครแพลนเที่ยวกระบี่ อยากหาที่พักไม่ไกลจากแหล่งที่เที่ยว และชายหาดมากนัก ก๊อตแนะนำที่ Krabi Aonang Hill เลย คุ้มค่า คุ้มราคาที่เราจ่ายไปแน่นอน
⚡️ ห้องพัก Krabi Aonang Hill ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท / คืน
ดูราคาและจองผ่าน > Agoda / Booking.com / Expedia / Trip.com
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)
> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)
> ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)
> ส่วนลด Klook (คลุก)
> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)