บาธ (Bath) ตอนแรกคือไม่ได้มีแพลนจะมาเที่ยวแหละ แต่เนื่องจากหลายคนบอกว่ามาเหอะ เป็นเมืองที่เราสามารถเที่ยวได้ชิลๆ และมีสถานที่สำคัญอันนึงที่ดีมากๆ และดังมากๆ คือ โรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) แถมยังมาด้วยรถไฟได้ง่ายๆ จากลอนดอนอีก ตอนแรกชั่งใจอยู่นานมาก แต่พอได้ไปคือชอบเหมือนกัน รู้สึกเป็นเมืองที่ชิลจริง และเมืองน่ารักจริงๆ ถ้าใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ล่ะก็ แนะนำให้ลองอ่านรีวิวดูก่อนเด้อ แล้วมาตัดสินใจดูว่าชอบหรืออินมั้ย ถ้ารู้สึกว่าใช่ก็ไปโลด!
รีวิว เที่ยวอังกฤษ + แพลนเที่ยวอังกฤษ
สำหรับการไปเที่ยวอังกฤษรอบนี้ ถือเป็นการเที่ยวอังกฤษรอบที่สองหลังจากรอบแรก ภายในหนึ่งเดือนแค่นั้นเอง คือจะเรียกบ้าก็ว่าบ้า เพราะครั้งแรกไปแล้วรู้สึกยังไม่เต็มอิ่ม แถมไปแค่ลอนดอนที่เดียว มารอบสองรอบนี้เลยจัดเต็มชุดใหญ่เลยจ้าแม่ ใช้เวลาทั้งหมด 11 วัน 10 คืน โดยเราจะบินไป-กลับไทย จากลอนดอน และไปเที่ยวยังเมืองต่างๆ ตั้งแต่ ยอร์ค (York) เอดินบะระ (Edinburgh) อินเวอร์เนสส์ (Inverness) เกาะสกาย (Isle of Skye) บาธ (Bath) และจัดเต็มก่อนกลับไทยที่ ลอนดอน (London) นั่นเอง ใครที่อยากตามรอยอะไรแบบนี้ ดูแพลนแบบละเอียดด้านล่างเลยจ้า ทำมาเป็นตารางให้แล้วจ้าา
รีวิวประเทศอังกฤษ ทั้งหมดของ Hashcorner
1. รีวิว ยอร์ค (York) คลิก
2. รีวิว เอดินบะระ (Edinburgh) คลิก
3. รีวิว อินเวอร์เนสส์ (Inverness) คลิก
4. รีวิว เกาะสกาย (Isle of Skye) คลิก
5. รีวิว บาธ (Bath) คลิก
6. รีวิว ลอนดอน (London) #1 คลิก
7. รีวิว ลอนดอน (London) #2 คลิก
มาเมืองบาธ (Bath) ด้วยรถไฟ
วิธีการมาเที่ยว บาธ (Bath) วิธีที่สะดวกที่สะดวกที่สุดนั่นคือการนั่งรถไฟมาเหมือนเดิมนั่นเอง โดยเราสามารถนั่งตรงมาจากลอนดอน สถานี Paddington Station ได้เล้ย ซึ่งเราจะใช้เวลาในการรถไฟเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้นเอง
Single Ticket / Return Ticket
สำหรับใครที่ไม่ได้มีพาสรถไฟ BritRail ที่เดินทางไม่จำกัดล่ะก็ นี่แนะนำให้เราจองตั๋วรถไฟไว้ล่วงหน้า เพราะบางเส้นทางยอดฮิตอย่างเช่น ลอนดอน-เอดิบะระ (London-Edinburgh) หรือ ลอนดอน-บาธ (London-Bath) รถไฟบางรอบที่เป็นช่วงพีคนี่แทบจะเต็มเกือบทุกตู้รถนะเออ ดังนั้น จองตั๋วรถไฟไว้ล่วงหน้าเถอะ จะได้อุ่นใจและได้เดินทางตามที่แพลนไว้นั่นเอง
💸🚈 ส่วนเว็บไซต์ที่ก๊อตแนะนำสำหรับการจองตั๋วรถไฟในอังกฤษ คงเป็น Trip.com เพราะว่ามี Support ภาษาไทย เผื่อมีปัญหาบลาๆ เรายังสามารถโทรคุยภาษาไทยได้สะดวกงี้ และเท่าที่ลองจิ้มๆกดๆมา (ยังไม่ได้ลองซื้อจริง ใช้จริงนะ เพราะส่วนตัวใช้ BritRail) คือเค้าไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง แถมเที่ยวรถไฟบางรอบยังถูกกว่าเว็บอื่นๆด้วยนะเออ เห็นแบบนี้แล้วต้องลอง เมื่อจองที่เว็บแล้ว ต้องไปเอาตั๋วที่สถานีโดยไปรับตั๋วที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัตินะจ้าา เข้าซื้อตั๋วรถไฟที่อังกฤษที่ Trip.com คลิกที่นี่เลย
หากนั่งรถไฟไปหลายเมือง แนะนำใช้ BritRail Pass ไปเลย
ถ้าใครเดินทางข้ามเมืองด้วยรถไฟเยอะและหลายครั้งล่ะก็ นี่จะแนะนำให้เราซื้อ Britrail Pass ไว้แทนการซื้อตั๋วทีละรอบ ซึ่งถ้าใครที่คุ้นชินกับการใช้ JR Pass ที่ญี่ปุ่น มันคือรูปแบบเดียวกันเล้ย คือเราจะนั่งรถไฟระหว่างเมืองได้ไม่จำกัดตามจำนวนวันที่เราซื้อไว้ โดยมีให้ซื้อตั้งแต่ 2, 3, 4, 8, 15, 22 และ 30 วันแบบติดต่อกัน หรือแบบ Flexi ที่เลือกวันเดินทางได้ภายใน 1 เดือน นอกจากจำนวนวันแล้ว เค้ายังมีให้เราเลือกคลาสที่นั่งอีกทั้งแบบ Standard Class และ First Class อีกด้วย ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความสะดวกและกำลังเงินของแต่ละคนเล้ย
สุดท้ายที่สำคัญสุดๆ BritRail ยังแบ่งเป็นพาสย่อยสำหรับการขึ้นรถไฟตามภูมิภาคต่างๆ และยังมีแบบที่ใช้รถไฟได้ทั้งประเทศอีก (เหมือน JR Pass เป๊ะ) โดยเค้าจะแบ่งตามนี้ คือ BritRail Pass, BritRail England Pass, BritRail London Plus Pass, BritRail Spirit of Scotland, BritRail Central Scotland Pass, BritRail Scottish Highlands Pass, BritRail South West Pass บอกตามตรงว่า อันนี้เราต้องดูแพลนตัวเองว่าไปไหนบ้างในอังกฤษ ทีนี้เราจะรู้เองว่าเราควรซื้อแบบไหน และจำนวนกี่วันนั่นเอง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บ BritRail ได้ ที่นี่
💸🚈 ส่วนสถานที่ซื้อ BritRail Pass นั้น ก๊อตยังคงแนะนำให้ซื้อที่ KLOOK เพราะราคาที่ถูกกว่าเว็บอื่นๆ มีตัวเลือก BritRail ที่ครบทุกแบบ แถมยังมีส่วนลดโปรโมชั่นประจำเดือนที่ KLOOK เค้ามีตลอดเวลานั่นเอง ดูพาส BritRail ทั้งหมดใน KLOOK คลิกที่นี่// ดูส่วนลด KLOOK ประจำเดือน คลิกที่นี่
สำหรับสิ่งที่ควรรู้ไว้สำหรับการซื้อ BritRail คือ
1. หากเราซื้อ BritRail Pass ที่เป็นแบบกระดาษ (ไม่ใช่แบบ E-Ticket) เราควรซื้อพาสล่วงหน้าก่อนวันเดินทางไปอังกฤษ เอาแบบเซฟๆ ปลอดภัย แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าสองอาทิตย์ เพราะ KLOOK เค้าใช้เวลาส่งไปรษณีย์มาถึงบ้านเราประมาณ 7 วัน และเผื่อโชคร้าย เกิดดีเลย์ในการส่งนั่นเอง
2. เมื่อเราได้ BritRail Pass แล้ว เมื่อนำไปใช้ที่อังกฤษ เราต้อง Activate ตัวพาสก่อนใช้ครั้งแรก โดยไปสแตมป์ที่เคาท์เตอร์ออกตั๋ว หรือ เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่สถานีรถไฟนะเออ การสแตมป์นี้เสมือนเป็นการประทับตราแสดงว่าเริ่มใช้วันไหน
3. BritRail Pass ที่ครอบคลุมในส่วนของลอนดอน สามารถใช้ขึ้น Heathrow Express ได้นาจา
โรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths)
ต้องบอกเลยว่าคนที่มาเที่ยว เมืองบาธ (Bath) ส่วนใหญ่คือเค้าจะมาเที่ยว โรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) ที่ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์และทรงคุณค่าที่สุดแห่งในของยุโรปเลยทีเดียว โดยด้านในที่เห็นๆ นั้น มันไม่ได้มีแค่บ่อน้ำตรงกลางให้เที่ยวอย่างเดียว แต่เค้ามีทั้งน้ำพุร้อน ซากวัดโรมัน โรงอาบน้ำ และพิพิธภัณฑ์ด้านในอีก ซึ่งถ้านับเวลาเที่ยวทั้งหมดนั้น เผื่อเวลาขั้นต่ำไว้เลย 2 ชั่วโมง
เมื่อเราซื้อตั๋วแล้วเดินเข้ามาในตัวโรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) แล้ว เราจะเจอกับทางเดินที่เต็มไปด้วยรูปปั้นวิคตอเรียนที่เป็นรูปกษัตริย์โรมันเรียงรายอยู่ ตรงนี้แนะนำให้เราหันหลังกลับไปมอง มหาวิหารบาธ (Bath Abbey) ซึ่งมุมนี้คือโคตรสวย และนี่คิดว่าเป็นมุมที่ดีที่สุดของมหาวิหารเค้าเลย
ส่วนเส้นทางการเดินของที่นี่ เราสามารถเดินตามรูทเค้าได้เลยแหละ โดยเราจะผ่านทั้งบ่อน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ พิพิธภัณฑ์ รวมถึงสระน้ำขนาดใหญ่ที่คนเค้าชอบถ่ายรูปกัน โดยรวมคือเดินโคตรเพลิน และเราสามารถอินได้มากขึ้นโดยการฟังออดิโอไกด์ที่เราได้เมื่อตอนเราซื้อตั๋วนะจ๊ะ บอกเลยว่าไม่น่าเบื่อ แถมยังสนุกอีก ส่วนตัวนี้ชอบมาก และทำให้เราได้รู้จักเมืองนี้ได้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะด้วย
บาธ (Bath) ถือเป็นเมืองเก่าแก่ (เก่าแก่แบบมากกก โดยมีชื่อเก่าชื่อว่า ‘Aquae Sulis’ เทพธิดาซูริส) และมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 60 ในโรมันบริเตน (Roman Britain) ของอาณาจักรโรมัน ซึ่งตรงโรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) นี่ถือเป็นศูนย์กลางของเมืองที่มีวัดของเทพธิดาแห้งน้ำ ‘ซูริส มิเนอวา’ (Temple of Sulis Minerva) ตั้งควบคู่อยู่กับโรงอาบน้ำและน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดินกว่า 3,000 เมตร มีแร่ธาตุประมาณ 43 ชนิด และมีน้ำผุดมากกว่า 1 ล้านลิตรต่อวันด้วย น่าเสียที่ตอนนี้ตัววัดเหลือแต่ซากฐาน คงไว้แต่โรงอาบน้ำและนำพุร้อนที่เค้าบำรุงรักษาอย่างดี
สุดท้ายของการเดิน เราจะมาจบที่สระน้ำขนาดใหญ่ ที่เค้าเรียกกันว่า The Great Bath ซึ่งตรงนี้จริงๆ ถือว่าเป็นไฮไลท์หลักของโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) เพราะมันคือสระที่คนโรมันสมัยก่อนใช้อาบน้ำจริงๆ โดยตัวสระมีความลึกประมาณ 1.6 เมตร โดยน้ำไหลมาจากบ่อน้ำพุร้อนที่เราผ่านมาก่อนนี้นั่นเอง
สุดท้ายก่อนที่เราจะออกจากโรงอาบน้ำ อย่าลืมที่จะลองกินน้ำแร่ธรรมชาติจริงๆของที่นี่กันด้วย โดยตรงปลายเค้าจะมีแก้วให้เรารองน้ำเพื่อดื่มได้เลย นี่ลองมาแล้วรสชาติก็จะปะแล่มๆ หน่อยๆ 55555555
มหาวิหารบาธ (Bath Abbey)
ออกมาจาก โรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) เรามาเที่ยวกันต่อกับสถานที่ที่ตั้งอยู่ติดกันเลยคือ มหาวิหารบาธ (Bath Abbey) ที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี โดยตัวมหาวิหารนั้นถูกสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 757 และถ้านับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตรงนี้ พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นมหาวิหารมากถึง 2 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นและพังลง โดยมหาวิหารบาธ (Bath Abbey) อันปัจจุบันนั้นคือมหาวิหารแห่งที่ 3 ที่อยู่มาจนถึงตอนนี้เด้อ
ตอนที่ก๊อตไปเที่ยวนั้น น่าเสียดายที่ มหาวิหารบาธ (Bath Abbey) ปิดไปส่วนหนึ่งเพื่อทำการบูรณะอยู่ นี่เลยได้เห็นความสวยงามประมาณ 1/4 ของมหาวิหารแค่นั้นเอง โดยนี่แนะนำให้เราเดินไปดูด้านนอกทางประตูของวิหารก่อน ซึ่งถ้าเราสังเกตดีๆ ตรงสองฝั่งข้างประตูวิหารจะมีบันได้ที่มีเทวดาปีนขึ้นลงอยู่ ซึ่งเค้าบอกกันว่า ดีไซน์ตรงนี้มาจากบิชอปที่ฝันเห็นเทวดา ปีนบันไดขึ้น-ลงอยู่ จนเกิดกลายเป็นกิมมิคของการตกแต่งวิหารที่นี่
อีกอันที่อยากให้เข้าไปดูคือ เพดานประตูโค้งของ มหาวิหารบาธ (Bath Abbey) ที่เค้าถือว่าสมบูรณ์และสวยที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษเลยนะแจ๊ะ โดยสองฝั่งของเพนดานนั้นสร้างกันคนละยุคด้วย เพราะตอนแรกที่เค้าสร้างคือช่วงศตวรรษที่ 15 แต่ดันสร้างไม่เสร็จ แล้วมาสร้างต่อตอนศตวรรษที่ 17 ดังนั้น ถ้าใครสังเกตดีๆ คือมันจะมีความต่างกันเล็กน้อย // แต่นี่สังเกตไม่ค่อยออก 555555
เซาท์เกท (SouthGate)
เดินเล่นในวิหารอยู่พักนึงแล้วก็เดินออกมาชมเมืองต่อ เอาจริง การมาเที่ยวที่บาธ (Bath) คือเรามีเวลาเหลือเฟือมาก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเค้าไม่ได้เยอะมาก เน้นชิล ดังนั้น ถ้าใครว่างเหมือนก๊อต แนะนำให้เรามาเดินเล่น เซาท์เกท (SouthGate) ที่อยู่ติดกับ มหาวิหารบาธ (Bath Abbey) และ โรงอาบน้ำโรมัน (The Roman Baths) ต่อได้เลย มันจะเป็นช้อปปิ้งสตรีทกลางตัวเมืองที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และอื่นๆ อีกเยอะแยะม๊าก นี่หาร้านกาแฟนั่งชิลแปปนึงคือดีย์
สะพานพัลต์นีย์ (Pulteney Bridge)
ที่สุดท้ายที่เราจะมาดูก่อนที่จะนั่งรถไฟกลับลอนดอน คือ สะพานพัลต์นีย์ (Pulteney Bridge) บนแม่น้ำเอวอน ที่เราสามารถเห็นวิวแม่น้ำไหลเป็นน้ำตกสวยๆ พร้อมทั้งสะพานที่ดูน่ารักคลาสสิคและโรแมนติกมาก แต่ถ้าใครที่อยากโรแมนติกมากกว่าเดิม จะไปล่องเรือในแม่น้ำเอวอนก็ได้น้า ส่วนใครที่เดินแบบเรา นี่แนะนำให้ไปเดินเล่นตรงสะพาน เพราะความเก๋ของสะพานนี้คือเป็น 1 ใน 4 สะพานของโลกที่มีช็อปร้านค้าตลอดทั้งสะพานนะจ๊ะ หู้ยยยยยยย 5555555
สรุปการมาเที่ยวเมืองบาธ (Bath) ครั้งนี้คือชิลมากกก
แต่ก็ชอบมากเช่นกัน เพราะเมืองเค้าน่ารัก และสถานที่เค้าสวยจริงๆ เลิฟ 💙
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
1 comment
I love Bath. We visited there last year and it’s a great location for architectural photography! You have some great images!