อินเวอร์เนสส์ (Inverness) ใครที่รู้จักประเทศอังกฤษอย่างดี และได้มีโอกาสมาเที่ยวสกอตแลนด์นี่ น่าจะรู้จักและเคยได้ยินเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า อินเวอร์เนสส์ (Inverness) กันบ้างแหละ เพราะที่นี่ยังมีทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) ที่ดังระดับโลก โดยมีตำนานเล่าขานถึงสัตว์ประหลาดลึกลับอย่าง เนสซี (Nessie) นั่นเอง ซึ่งทริปนี้บอกเลยว่า ก๊อตไม่ได้ไปตามล่าเนสซีแต่อย่างใด 5555555
นอกจากนี้ เรายังจะไปเก็บแลนด์มาร์คปราสาทติดท็อปของสกอตแลนด์อีกสองแห่งที่ห้ามพลาด ก่อนที่เราจะขับรถข้ามไปเที่ยวยังเกาะสกาย หรือ Isle of Skye นั่นเอง เอาเป็นว่า อย่ารอช้า เรามาตามรอยเที่ยวโรดทริปสกอตแลนด์แบบเก๋ไก๋กันดีกว่าแม่ รับรองว่าเริ่ดและอลังการงานสร้าง!
รีวิว เที่ยวอังกฤษ + แพลนเที่ยวอังกฤษ
สำหรับการไปเที่ยวอังกฤษรอบนี้ ถือเป็นการเที่ยวอังกฤษรอบที่สองหลังจากรอบแรก ภายในหนึ่งเดือนแค่นั้นเอง คือจะเรียกบ้าก็ว่าบ้า เพราะครั้งแรกไปแล้วรู้สึกยังไม่เต็มอิ่ม แถมไปแค่ลอนดอนที่เดียว มารอบสองรอบนี้เลยจัดเต็มชุดใหญ่เลยจ้าแม่ ใช้เวลาทั้งหมด 11 วัน 10 คืน โดยเราจะบินไป-กลับไทย จากลอนดอน และไปเที่ยวยังเมืองต่างๆ ตั้งแต่ ยอร์ค (York) เอดินบะระ (Edinburgh) อินเวอร์เนสส์ (Inverness) เกาะสกาย (Isle of Skye) บาธ (Bath) และจัดเต็มก่อนกลับไทยที่ ลอนดอน (London) นั่นเอง ใครที่อยากตามรอยอะไรแบบนี้ ดูแพลนแบบละเอียดด้านล่างเลยจ้า ทำมาเป็นตารางให้แล้วจ้าา
| วันที่ | เมือง / สถานที่ท่องเที่ยว |
| 1 | บินตรง BKK-LHR สายการบินไทย 0.55am – 7.15am เที่ยวยอร์ค (York) คลิกอ่านรีวิว พาสรถไฟ: BritRail Pass (Flexi 4 วัน) / Day 1 พักเมือง: ยอร์ค (York) |
| 2 | นั่งรถไฟจาก ยอร์ค (York) ไป เอดินบะระ (Edinburgh) ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เที่ยวเอดินบะระ (Edinburgh) คลิกอ่านรีวิว พาสรถไฟ: BritRail Pass (Flexi 4 วัน) / Day 2 พักเมือง: เอดินบะระ (Edinburgh) |
| 3 | เที่ยวเอดินบะระ (Edinburgh) คลิกอ่านรีวิว รับรถเช่าที่เอดินบะระ (Edinburgh) ขับรถไปยังเมืองอินเวอร์เนสส์ (Inverness) พักเมือง: อินเวอร์เนสส์ (Inverness) |
| 4 | Road Trip: อินเวอร์เนสส์ (Inverness) > เกาะสกาย (Isle of Skye) คลิกอ่านรีวิว พักเมือง: พอร์ทรี (Portree) |
| 5 | Road Trip: เกาะสกาย (Isle of Skye) คลิกอ่านรีวิว พักเมือง: พอร์ทรี (Portree) |
| 6 | ขับรถกลับจากเกาะสกาย (Isle of Skye) ไปยังเอดินบะระ (Edinburgh) คืนรถ แล้วนั่งรถไฟกลับ ลอนดอน (London) พาสรถไฟ: BritRail Pass (Flexi 4 วัน) / Day 3 |
| 7 | เที่ยวบาธ (Bath) คลิกอ่านรีวิว พาสรถไฟ: BritRail Pass (Flexi 4 วัน) / Day 4 พักเมือง: ลอนดอน (London) |
| 8 | ลอนดอน (London) คลิกอ่านรีวิว – Churchill War Rooms พักเมือง: ลอนดอน (London) |
| 9 | ลอนดอน (London) คลิกอ่านรีวิว – The British Museum ที่พัก: La Suite West Hotel London |
| 10 | ลอนดอน (London) คลิกอ่านรีวิว – ตลาดโคเวนท์การ์เดน (Covent Garden) ที่พัก: La Suite West Hotel London 👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️ ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙 |
| 11 | บินตรง LHR-BKK สายการบินไทย |
รีวิวประเทศอังกฤษ ทั้งหมดของ Hashcorner
1. รีวิว ยอร์ค (York) คลิก
2. รีวิว เอดินบะระ (Edinburgh) คลิก
3. รีวิว อินเวอร์เนสส์ (Inverness) คลิก
4. รีวิว เกาะสกาย (Isle of Skye) คลิก
5. รีวิว บาธ (Bath) คลิก
6. รีวิว ลอนดอน (London) #1 คลิก
7. รีวิว ลอนดอน (London) #2 คลิก
ขับรถเที่ยว Scottish Highlands
Road Trip การขับรถเที่ยวของ สก็อตติช ไฮแลนด์ (Scottish Highlands) นั้น นี่วางทริปไว้ 4 วัน 3 คืน แต่ใช้เวลาเที่ยวจริงๆ คือ 2 วันเต็ม โดยอีก 2 วัน คือการขับรถไป-กลับจาก เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) ที่ก๊อตเช่ารถมานั่นเอง (ใครงงนี่ แนะนำให้ลองอ่านแพลนอังกฤษด้านบน น่าจะเข้าใจมากขึ้น) นี่เลยต้องบอกก่อนว่า จริงๆทริปนี้มีเวลาน้อยม๊าก ก๊อตเลยวางแพลนแบบรวบรัดเจาะเฉพาะไฮไลท์หลักๆ โดยเมืองที่ก๊อตจะเที่ยวนั้นจะเป็นเมือง อินเวอร์เนสส์ (Inverness) โดยการขับรถผ่านปราสาทหลักต่างๆ แล้วไปเที่ยวจริงๆที่ เกาะสกาย (Isle of Skye) นั่นเอง ดังนั้น เผื่อเวลาไว้เลย 4 วันเหมือนก๊อตได้ (แต่ขับรถเหนื่อยหน่อย) แต่ถ้าใครมีเวลาเหลือล่ะก็ นี่อยากแนะนำจริงๆให้ขยายวันเพิ่มอีกซัก 1-2 วัน เราจะไม่เหนื่อยขับรถมากโดยเฉพาะวันสุดท้าย แถมเราจะยังได้แวะเที่ยวที่อื่นเพิ่ม และมีเวลาชิลๆมากขึ้นอีกนั่นเอง
เช่ารถที่เอดินบะระ (Edinburgh)
สำหรับการเช่ารถทริปนี้ ก๊อตได้เช่ารถจากเมืองเอดินบะระ (Edinburgh) กับ SIXT Car Rental โดยการจองตรงผ่านเว็บเค้าเลย สำหรับเหตุผลที่เลือกจองที่นี่ไม่ใช่อะไร เพราะก๊อตมีบัตร SIXT Platinum มันได้ส่วนลด 15% และอัพเกรดรถฟรี 55555555 // ทำให้เรทราคาเช่ารถที่ก๊อตได้ ถือว่าถูกกว่าร้านเช่าร้านอื่น ส่วนสาขา SIXT ที่ก๊อตเลือกนั้นคือสาขา Edinburgh Waverley Station ที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟตามชื่อเลยจ้า ตัวออฟฟิศเค้าจะไปอยู่ตรง Q-Park OMNI ไม่ไกลจากสถานีรถไฟแทน
เรทราคาเช่ารถของก๊อต จาก SIXT : รถแบบ Compact Citroen C4 Cactus เช่า 3 วัน + คนขับเพิ่ม 1 คน ทั้ง 3 วัน = 151.96 GBP รวมประกันพื้นฐานเรียบร้อย (แต่ไม่ใช่แบบ Zero Deductible Excess) แต่วันจริงได้อัพเกรดเป็นรถ SUV Peugeot 3008 เด้อ
แล้วถ้าถามว่าที่ SIXT Car Rental นี่โอเคมั้ย เห้ย มันโอเคอยู่นะ แถมวันที่ก๊อตคืนรถวันอาทิตย์นี่ ด้วยความที่เค้าปิดเร็วมาก และก๊อตมาเลทนิดหน่อยจากเวลาคืนรถที่นัดไว้ คนที่ออฟฟิศเช่ารถคือปิดประตูเตรียมกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว เค้าเลยบอกว่า เราสามารถหย่อนกุญแจรถได้ที่กล่องด้านหน้าเลย นั่นแสดงว่า ถ้าสมมุตเราเลทตอนออฟฟิศปิด เรายังสามารถคืนรถได้โดยโยนกุญแจกเข้ากล่องรับรถคืนนั่นเอง ดังนั้น ก๊อตว่าที่นี่ดีอยู่ เพราะนี่ก็ไม่รู้จะแนะนำที่ไหนเหมือนกันจ้า เอาเป็นว่า หากเจอร้านเช่ารถชื่อดังเจ้าไหนราคาถูกกว่า (เอาร้านที่มีชื่อเสียงหน่อย) แนะนำให้เลือกเจ้านั้นโลด
วันที่ 00 Scottish Highlands :
ขับรถไปอินเวอร์เนสส์ (Inverness) + ที่พักในเมือง
เมื่อเสร็จจากการปีนเขา เดินเทรลเบาๆที่อาร์เธอร์ส ซีท (Arthur’s Seat) ในเมืองเอดินบะระ (Edinburgh) เรียบร้อยแล้ว นี่ก็เลยเดินเล่นอีกนิดหน่อย และหาข้าวกินก่อนที่เราจะไปรับรถกันที่ SIXT Car Rental ตอนบ่ายแก่ๆ จากนั้นก็ถึงเวลา Road Trip ของ Scottish Highlands เสียที เย่ และแพลนของเราวันนี้คือไม่มีอะไรเลย คือมีแค่การขับรถไปที่เมืองอินเวอร์เนสส์ (Inverness) และพักในเมืองก่อน จากนั้นตอนเช้าเราค่อยพุ่งตัวออกไปเที่ยวกันต่อโดยขับรถแวะเที่ยวตามทาง และยาวจนถึงเกาะสกาย (Isle of Skye) นั่นเอง
ที่พักในอินเวอร์เนสส์ (Inverness)
Taigh Katie – Airbnb
สำหรับที่พักในอินเวอร์เนสส์ (Inverness) นั้น ตัวก๊อตเลือกเอาจาก Airbnb ที่ชื่อว่า Taigh Katie ซึ่งเค้าจะเป็นบ้านพักน่ารักๆ ขนาดพอดี แบ่งซอยออกเป็นหลายห้องในตัวบ้าน ซึ่งก๊อตก็จองห้องด้านบนไว้ โดยเป็นห้องนอนส่วนตัวพร้อมห้องน้ำส่วนตัวด้านนอกที่อยู่ติดกับห้องนอนของเรา
ส่วนตัวคิดว่าที่พักที่นี่ค่อนข้างโอเคเลยแหละ บ้านและห้องมีความเป็นสไตล์อังกฤษหน่อยๆ มีที่จอดรถ และสามารถเข้าบ้านด้วยรหัสผ่านที่เราได้มาจากเจ้าของบ้านได้เลย ห้องนอนขนาดพอดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีตู้เย็นเล็กๆ กับกาต้มน้ำร้อนให้ แต่ที่เสียดายคือ น่าจะมีไมโครเวฟหรือครัวเล็กๆรวมถึงช้อนส้อม จานชาม ให้ซักหน่อยด้วย นี่ก็เลยหักคะแนนตรงนี้นิดนึง
ส่วนตัวห้องน้ำนั้น ใหญ่และสวยเว่อร์วังเพราะเค้าพึ่งรีโนเวทใหม่นั่นเอง ความดีคือห้องน้ำอันนี้คือเป็นของเราเลย ไม่ต้องไปแชร์กับใคร แต่ข้อเสียมากๆคือ ตอนอาบน้ำนี่แหละ ด้วยความที่มันเป็นอ่างน้ำเหมือนในรูปที่มีมาพร้อมกับฝักบัวเรนโชวเวอร์ อาบน้ำทีคือโคตรลำบาก เพราะเราต้องคลุมม่านไม่ให้น้ำกระเด็นรอบตัว และเสมือนเราอาบน้ำในรูแคบๆงี้ เอ้ออออ และที่พีคคือ มันอาบน้ำลำบากมาก แถมที่วางขวดสบู่ แชมพูก็ไม่มีเด้อ ก็เลยต้องวางในอ่างอาบน้ำไปด้วยเลย 55555
ก็นี่แหละ คือที่พักที่เลือกจาก Airbnb และรีวิวตามความสัตย์จริง คือโดยรวมมันดีย์ อยู่กลางเมืองแต่สงบเรียบร้อย แต่มันก็จะมีข้อเสียเล็กน้อยบ้างอยู่นิดหน่อย เอาเป็นว่า ถ้าใครหาที่อื่นที่คิดว่าดีกว่าที่นี่ได้ ก็เอาไปเล้ย แต่ถ้าใครขี้เกียจ จะเลือกอันนี้มันก็โอเคอยู่ ฮ่า
ราคาห้องพักเริ่มต้น 2,000 บาท/คืน ดูเรทและจอง Taigh Katie – Airbnb สามารถจองลิงค์ผ่าน Airbnb คลิกที่นี่ | สำหรับคนที่ไม่เคยจอง Airbnb มาก่อน สามารถคลิกสมัครผ่านลิงค์นี้ เพื่อรับส่วนลด 1,000 บาทได้เลย
ดูเรทและจองผ่าน Airbnb ส่วนลด Airbnb 1,000 บาท สำหรับการจองครั้งแรกวันที่ 01 Scottish Highlands :
ทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness)
หากใครที่เคยได้ยินชื่อสัตว์ประหลาดลึกลับในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีรูปร่างเหมือนไดโนเสาร์อย่าง เนสซี (Nessie) ล่ะก็ เรื่องราวทั้งหมดของสัตว์ตัวนี้ คือเกิดขึ้นจาก ทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) ที่เรามาเที่ยวอยู่นี่แหละ ซึ่งเรื่องราวของ เนสซี (Nessie) ทำให้ทะเลสาบที่นี่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสกอตแลนด์เลย โดยเริ่มจากการที่มีคนเคยเห็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ คอยาวเหมือนไนโดเสาร์โผล่อยู่กลางทะเลสาบ ทำให้นี่กลายเป็นตำนานเล่าขานกันมาจนถึงปัจจุบัน และใครต่อใครหลายคนเค้าก็ต้องมาพิชิตและสำรวจเจ้าตัวเนสซี (Nessie) นี่แหละ ซึ่งก่อนที่จะก๊อตจะมาที่นี่คือไม่รู้เรื่องเลยแหละ มารู้จากแฟนที่บอกตอนไปเที่ยว และมาเปิดยูทูปดูทีหลัง เออ ดังจริงด้วย 555555
สำหรับเรื่องราวที่เค้าเชื่อว่า เนสซี (Nessie) มีจริง เพราะมีทั้งหลักฐานของรูปและวิดีโอที่จับภาพสัตว์นี้ได้ และถึงแม้หลักฐานมันจะไม่ได้เห็นชัดๆ แต่เค้าก็ยังเชื่อกันอยู่ดี เพราะก่อนที่ผืนน้ำตรงนี้จะเป็น ทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) ตรงนี้คือเป็นทะเลมาก่อน และเมื่อเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ ผืนน้ำตรงนี้ถูกปิดกลายเป็นทะเลสาบ ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของใต้น้ำยังดีอยู่นั่นเอง เล่ามายาวขนาดนี้ไม่ใช่อะไรหรอก นี่คิดว่าการรู้เรื่องราวพื้นหลังของสถานที่ คือทำให้เราอินกับการท่องเที่ยวตรงนั้นได้มากกกก เลยมาเล่าเฉยๆ 5555555
สำหรับใครที่ว่างๆ จะล่องเรือชมทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) ด้วยเรือ Jacobite แล้วไปเที่ยวปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle) ได้เน้อ ใช้เวลาอยู่ประมาณครึ่งวัน ตอนแรกนี่จะจองเหมือนกัน แต่ไปๆมาๆ คือมีเวลาน้อย เลยขับรถไปปราสาทแล้วขับไปเลยดีกว่า ใครสนใจล่องเรือ ซื้อผ่านเว็บของ Jacobite ได้เลย คลิกนี่ jacobite.co.uk
ปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle)
สำหรับสถานที่เที่ยวแรกที่เราจะแวะจริงจังนั่นคือ ปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle) ที่ตั้งโดดเด่นเคียงคู่กับทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) มาอย่างยาวนาน และยังเป็นปราสาทติดอันดับท็อปของสกอตแลนด์ที่คนมาเที่ยวมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งตัวปราสาทที่เราจะได้เห็นนั้น เป็นเพียงปราสาทที่หลงเหลืออยู่จากการโดนปล่อยร้างไว้จากการรบไปรบมาในสมัยก่อน อีกทั้งยังโดนพายุลูกใหญ่ซัดเข้าไปอีก ที่ทำให้ปราสาทหลังนี้พังทลายไปอย่างเยอะ แต่จะว่าไป ที่นี่ก็ยังสวยและน่าเข้าอยู่ดีแหละน่า เพราะวิวปราสาทกับทะเลสาบเนสส์คือโคตรสวย และนี่ไม่อยากให้พลาดเมื่อเราไปเที่ยว สก็อตติช ไฮแลนด์ (Scottish Highlands) เลยล่ะ
และถ้านับอายุของ ปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle) นี่ เค้ามีอายุมาเกือบพันปีแล้วนะเออ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมาก ตั้งแต่จากเหตุการณ์ช่วงของการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ (Glorious Revolution) ที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2 ถูกเนรเทศโดยสหภาพนักรัฐสภานิยมชาวอังกฤษ และเจ้าชายวิลเลียมแห่งออเรนจ์-นัสเซา (William III of Orange-Nassau) จากการที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2 ได้เข้ารีตนิกายคาทอลิกและสนิทแนบแน่นกับฝรั่งเศสนั่นเอง (ตอนนั้นคนอังกฤษส่วนมากปฏิรูปความเชื่อและการปกครอง จากคาทอลิกไปเป็นโปรเตสแตนต์เรียบร้อยแล้ว) และมาพังสุดๆกับ กบฎจาโคไบต์ (Jacobite Rebellion) ที่โอรสของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ‘เจมส์ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด สจวต (James Francis Edward Stuart)’ มาทวงบัลลังก์อังกฤษคืน
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ยืดเยื้อกว่า 50 ปี โดยฝั่งอังกฤษได้ตั้งหลักปักฐานทัพที่ปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle) เป็นป้อมปราการนี่แหละ และหลังจากที่เหตุการณ์นี้จบลง ทหารอังกฤษได้ถอนกำลังออกไปในปี 1692 และพังปราสาทนี้ลงเหลือแต่ซากตามที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง
ปราสาทอีเลียนโดนัน (Eilean Donan Castle)
ขับรถต่อมาเรื่อยๆ จากปราสาทเออคูฮาร์ท (Urquhart Castle) ผ่านเส้นถนน A82 และ A87 ถนนเส้นนี้เค้าบอกกันว่าเป็นถนนอีกเส้นที่สวยขึ้นชื่ออีกแห่งของสกอตแลนด์เชียวนะ ขับเพลินๆ ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงจุดหมายและเห็น ปราสาทอีเลียนโดนัน (Eilean Donan Castle) ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่ด้านหน้า นี่จะบอกว่าปราสาทนี้โคตรสวยและเป็นอีกปราสาทที่ดังมากของสกอตแลนด์ ซึ่งเค้าขนานนามกันเลยว่า ปราสาทแห่งนี้คือปราสาทที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของสกอตแลนด์เลยทีเดียวเชียว ดังนั้น ห้ามพลาดที่จะแวะมาเที่ยวก่อนที่เราจะข้ามไปยังเกาะสกาย (Isle of Skye) เลยเด้อ
ปราสาทอีเลียนโดนัน (Eilean Donan Castle) ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ที่สามทะเลสาบมาบรรจบกัน โดยปราสาทหลังนี้นั้นได้มีส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์อยู่ 2 เหตุการณ์ใหญ่ๆ แหละ อย่างแรกก็คือ ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นป้อมปราการสำหรับการป้องกันพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ที่คนท่องถิ่นเค้าเรียกว่า คินเทล (Kintail) จากกลุ่มคนไวกิ้ง (Viking) ที่เข้ามารุกราน และครอบครองสกอตแลนด์ฝั่งเหนือและตะวันตก
อีกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นที่ ปราสาทอีเลียนโดนัน (Eilean Donan Castle) คือตอนเกิดกบฎจาโคไบต์ (Jacobite Rebellion) ในช่วงศตวรรษที่ 17-18 ที่ทำให้ปราสาทหลังนี้ย่อยยับพังทลายที่สุดตั้งแต่มีปราสาทแห่งนี้มา เพราะทหารสเปนได้บุกยึดปราสาทแห่งนี้เพื่อตั้งรับและสนับสนุนกลุ่มจาโคไบต์ และอังกฤษได้ส่งเรือรบมาระเบิดปราสาทนี้ทิ้ง จนปราสาทพังเหลือแต่ซากฐานอยู่ 200 กว่าปีนั่นแหละ
จนเมื่อ Colonel John MacRae-Gilstrap ได้มาซื้อเกาะและชุบชีวิตปราสาทโดยการสร้างขึ้นมาใหม่ และกลายเป็นสถานที่ฮิตของนักท่องเที่ยวที่ได้มาถ่ายรูป รวมถึงมาเที่ยวชมด้านในห้องต่างๆ ที่เค้าจัดแสดงเป็นกึ่งๆ พิพิธภัณฑ์นั่นเอง ที่เล่ามาซะยืดยาว เพราะจริงๆ อยากให้รู้เรื่องราวเบื้องหลังก่อน เพราะนี่มั่นใจว่า เราจะอินมากกว่าเดิมและดีกว่าการไปเที่ยวที่เราไม่รู้อะไรเลยนะจ๊ะ ฮ่า // ซึ่งก๊อตเองก็มารู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ก็ตอนที่เขียนรีวิวนี่แหละ โอ้ย 555555
หลังจากเที่ยวปราสาทอีเลียนโดนัน (Eilean Donan Castle) เสร็จเรียบร้อย
ก็ได้เวลาขับรถเข้าสู่ เกาะสกาย (Isle of Skye)อย่างเป็นทางการ
ซึ่งก๊อตจะขอแยกเป็นรีวิวเกาะสกาย (Isle of Skye) โดยเฉพาะเลยละกันเนอะ
ตามอ่านโลด 🧡
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลกหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
> ส่วนลด Agoda.com (อโกด้า)> ส่วนลด Booking.com (บุคกิ้ง)> ส่วนลด Expedia (เอ็กซ์พีเดีย)> ส่วนลด Klook (คลุก)> ส่วนลด KKday ( เคเคเดย์)
