สาวกดิสนีย์พลาดไม่ได้กับ 2 สวนสนุก Disneyland ในแคลิฟอร์เนีย (California) คือ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) คนที่กำลังแพลนมาเที่ยวสวนสนุกทั้ง 2 ที่นี้ เตรียมตัวได้เลย เพราะในรีวิวนี้จะบอกทุกอย่าง ตั้งแต่การจองตั๋วไปถึงเครื่องเล่นไฮไลท์ห้ามพลาด พร้อมแล้วไปเที่ยวพร้อมกันเล้ยยย
⚡️ รีวิวหน้านี้จะเป็นรีวิวเจาะสวนสนุก ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) อันเดียวเท่านั้น ใครที่อยากอ่านรีวิวเจาะเฉพาะ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) คลิกที่นี่เลย
ทริปอเมริกาครั้งแรก #อเมริกาคนเดียว
ในที่สุดก๊อตก็ได้มาเที่ยวอเมริกากับเค้าสักที นี่คือการเที่ยวอเมริกาครั้งแรกของก๊อต และยังเป็นการเที่ยวคนเดียวอีกด้วย ตื่นเต้นสุดๆ ทริปนี้ก๊อตไปเที่ยวมาทั้งหมด 48 วัน เริ่มตั้งแต่ Chicago - San Francisco - Paciffic Coast Highway Road Trip (Monterey, Carmel-By-The-Sea, Big Sur, Morro Bay, Santa Barbara) - Los Angeles - San Diego - Joshua Tree National Park - Death Valley National Park - Yosemite National Park - Washington D.C. - New York City เป็นการเที่ยวแบบจัดเต็มมาก ก๊อตแบ่งรีวิวไว้ทั้งหมด 15 EP ด้วยกัน ใครที่กำลังแพลนว่าจะไปเที่ยวอเมริกาก็สามารถเที่ยวตามก๊อตได้เลยเด้อ
EP.0 - USA Travel 101 กำลังเขียน
EP.0 (2) – 8 เหตุผล ทำไมต้องไปเที่ยวอเมริกาซักครั้งในชีวิต
EP.1 - Chicago
EP.2 - San Francisco กำลังเขียน
EP.3 - Pacific Coast Highway : Monterey + Carmel-By-The-Sea กำลังเขียน
EP.4 - Pacific Coast Highway : Big Sur กำลังเขียน
EP.5 - Pacific Coast Highway : Morro Bay + Santa Barbara กำลังเขียน
EP.6 - Los Angeles
EP.7 - Universal Studios Hollywood
EP.8 - Disneyland Park
EP.9 - Disney California Adventure Park
EP.10 - San Diego กำลังเขียน
EP.11 - Joshua Tree National Park
EP.12 - Death Valley National Park กำลังเขียน
EP.13 - Yosemite National Park กำลังเขียน
EP.14 - Washington D.C. กำลังเขียน
EP.15 - New York City
รู้จัก ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) + แตกต่างกันอย่างไร?
ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) เป็นสวนสนุกของ Walt Disney แห่งแรกของโลก เมื่อก่อนที่นี่มีชื่อน่ารักๆ ว่า The Mickey Mouse Park แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อ Disneyland อย่างที่เราเรียกกัน ที่นี่เปิดให้เข้ามาใช้บริการครั้งแรกปี 1955 โดยมีคอนเซปต์ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก และต่อมาในปี 2001 ก็ได้มีการเปิดสวนสนุกโซนใหม่ขึ้นมาเพิ่ม เรียกว่า ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park)
ขอเริ่มจากภาพรวมของ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) นั้นจะมีความเป็นดิสนีย์แบบที่เราคุ้นเคย ความเจ้าหญิง ปราสาทฟรุ้งฟริ้ง สีหวานๆ แต่มีความคลาสสิคกว่าที่อื่น เครื่องเล่นหลากหลาย มีให้เล่นตั้งแต่เด็กเล็กจนวัยผู้ใหญ่แบบเรา ซึ่งเค้ามาครบทั้งตระกูลเจ้าหญิง ไปจนถึงไฮไลท์เด็ดสุดคือโซน Star Wars ที่ถือเป็นโซนใหม่ล่าสุดที่มีไม่กี่แห่งบนโลก ดังนั้น ใครที่มากันเป็นครบครัวคือเหมาะที่สุด ส่วนใครที่เป็นแฟนดิสนีย์ และ Star Wars อยู่แล้ว ก็ห้ามพลาดอย่างยิ่งเลย
ส่วน ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) จะค่อนข้างตรงกันข้ามนิดหน่อย ฝั่งนี้เค้าเน้นเครื่องเล่นผาดโผน หวาดเสียว เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าแฟนหนัง Marvel นี่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเค้ามีโซนเปิดใหม่อย่าง Avengers Campus ที่ตอนนี้มีแค่ที่นี่ที่เดียวในโลกด้วย รับรองว่าสนุกและมันส์มาก!
⚡️ เอาจริงๆ ทั้งสองพาร์คมีความเด็ดดวงทั้งคู่แบบไม่มีใครยอมใคร ฝั่งนึงก็มี Star Wars อีกฝั่งก็มี Marvel กับเหล่าบรรดา Avengers ดังนั้น บินไกลมาถึงอเมริกาทั้งที ควรเก็บให้หมดดดดด! ซึ่งเอาจริงป่ะ นี่ว่าดิสนีย์เค้าคิดมาแล้ว ยูจะมาเสียตังค์แค่อันเดียวได้ไง พวกยูต้องเสียตังค์ให้ฉันหมดทั้งสองพาร์คโว้ย เออ ก็ตามนั้นแหละ 5555555555
ควรเที่ยวดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย กี่วันดี?
คนที่กำลังแพลนมาเที่ยวสวนสนุกทั้ง 2 ที่ ก๊อตแนะนำให้ใช้เวลา 2 วัน แล้วเที่ยวไปวันละสวนสนุกไปเลย เพราะว่าแต่ละสวนสนุกนั้นมีไฮไลท์และเครื่องเล่นเยอะมาก การใช้เวลา 1 วันต่อ 1 สวนสนุก ถือว่ากำลังดี และสามารถเก็บเครื่องเล่นและกิจกรรมอื่นๆ ได้ครบหมดตามที่ต้องการเลย
แต่ถ้าใครที่มีเวลาน้อยหน่อย จะเที่ยวแค่วันเดียวก็ทำได้ด้วยการแบ่งเที่ยวสวนสนุกละครึ่งวัน ซึ่งเค้าจะมีบัตรแบบ Hopper Ticket ที่เราสามารถเที่ยวสลับไปมาได้อยู่ แต่ต้องบอกก่อนว่าการเที่ยวแบบนี้ เราจะเก็บเครื่องเล่นไม่ครบแน่นอน และก๊อตไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่เลย
เลือกที่พัก/โรงแรม แถวไหน?
ส่วนเรื่องที่พัก ส่วนตัวก๊อตแนะนำให้เรามานอนค้างที่เมืองอนาไฮม์ (Anaheim) โดยเลือกที่พักใน Disneyland Resort หรือโรงแรมใกล้กับสวนสนุกไปเลย เพราะถ้าเราพักแถว Hollywood หรือ Downtown ใน LA มันต้องใช้เวลาขับรถค่อนข้างนานเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครไม่รู้ฤทธิ์รถติดของ LA ล่ะก็ บอกเลยว่าพลาด ยิ่งๆ เช้าๆ คนที่นี่เค้าขับรถไปทำงานกัน รถยิ่งติดมากกกกกกก
💰 ราคาโรงแรมใน Disneyland Resort ราคาจะค่อนข้างแรง โดยราคาต่ำสุดจะเริ่มอยู่ที่ 9,500 บาท/คืน ถ้าใครไม่ไหว รอบๆ ข้าง Disneyland Park ยังมีโรงแรมอีกเยอะให้เราเลือกนะ ลองส่องๆ ดูก่อนได้
เช่ารถขับเองในอเมริกา 🇺🇸🗽
⚡️ ถ้าใครกำลังรถเช่าขับในอเมริกาล่ะก็ ทริปอเมริการอบนี้เป็นครั้งแรกที่ก๊อตได้หารถเช่าจาก Klook และเช่ายาวกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งราคาเช่ารถที่ก๊อตได้มาถือว่าถูกกว่าจองตรงอีก ยังไงก๊อตแนะนำให้เราลองเช็คราคารถเช่ากันก่อนเพื่อเปรียบเทียบราคากันดูเนอะ รับรองไม่ผิดหวัง เช็คราคารถเช่าผ่าน KLOOK
โรงแรมแนะนำใกล้ Disneyland Park
1. Courtyard by Marriott Anaheim Theme Park Entranceโรงแรมที่ใกล้ทางเข้า Disneyland มากที่สุด สามารถเดินเข้าสวนสนุกได้ง่ายมาก ความเก๋คือ โรงแรมนี้มีสวนน้ำให้เล่น สามารถเห็นพลุปราสาทดิสนีย์ได้ในโรงแรม และแน่นอนว่ามั่นใจคุณภาพได้ เพราะเป็นโรงแรมในเครือแมริออทนั่นเอง (+ เก็บแต้มได้สำหรับสมาชิก Marriott Bonvoy) ราคาเริ่มต้น 9,000 บาท/คืน | 2. Hotel 414 Anaheimเป็นโรงแรมที่ก๊อตเลือกนอนในทริปนี้ ถือเป็นโรงแรมที่คุ้มค่ามาก ห้องใหม่ สะอาด กว้างขวาง และราคาไม่แรง อยู่ออกมาจาก Disneyland นิดนึง ถ้าเดินไป-กลับสวนสนุกจะอยู่ที่ 20 นาที แต่สามารถนั่งรถเมล์ได้ ใกล้ๆ โรงแรมมีปั้มน้ำมันที่มี Starbucks และ Taco Bell ดีงาม สามารถดูรีวิวเต็มได้ท้ายรีวิว ราคาเริ่มต้น 4,000 บาท/คืน |
ซื้อบัตร ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ที่ไหนดี?
บัตร Disneyland Park นั้นหลักๆ มีประมาณ 6 แบบ โดยแบ่งออกเป็นจำนวนวัน คือ 1-3 วัน และจำนวนพาร์คที่เราต้องการเข้า คือ Single Park หรือ Hopper ซึ่งแต่ละวัน ราคาเค้าก็จะแตกต่างกันออกไปตาม Tier ที่ดิสนีย์เค้ากำหนดไว้ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษ ราคาจะแพงกว่าวันธรรมดาแน่นอน ดังนั้น วางแผนวันไปกันไว้ดีๆ เลย
ซึ่งตัวก๊อตเองเลือกซื้อแบบ 2 Days Single Park Ticket คือ เล่นเต็มที่หนึ่งวันต่อหนึ่งพาร์คไปเลย (ไม่สามารถ Hopping ไปอีกพาร์คได้) โดยก๊อตซื้อบัตรผ่านทาง KLOOK เพราะสะดวกและซื้อได้อย่างรวดเร็วเช่นเดิม และแน่นอนว่าราคาของเค้าดี และถูกกว่าซื้อตรงจากเว็บ Disneyland นะ
ดูราคาหรือซื้อบัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park ให้เราลองคลิกลิงค์จากลิสด้านล่างนี้ได้เลย
💥 แต่ขอย้ำหน่อยว่าสำหรับการซื้อบัตรที่ Disneyland แม้ว่าเราจะซื้อผ่านทาง KLOOK มาแล้วแต่เรายังต้องเข้าไปกดจองวันเข้าสวนสนุกในเว็บของ Disneyland ด้วย ซึ่งเค้าจะจำกัดจำนวนคนเข้าสวนสนุกแต่ละวัน ถ้าเต็มนี่คืออดเข้าจริงๆนะ เพราะเพื่อนก๊อตโดนมาแล้วกับตัวคือ จองและเลือกวันจากเว็บ Klook แต่ไม่ได้จองวันในเว็บ Disneyland แล้วพอมาจองดันเต็ม ไปขอร้องหน้าสวนสนุก เค้าก็ไม่ให้เค้านะเออ อันนี้สำคัญมาก ดังนั้น วางแผนดีๆ และควรที่จะซื้อก่อนล่วงหน้านานๆ เลยด้วย
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวและอยากจะซื้อบัตรใน KLOOK ก๊อตแนะนำว่าให้ เช็คส่วนลดประจำเดือนของ KLOOK (คลิกที่นี่) ด้วยนะ เพราะว่า KLOOK เค้ามีการอัพเดทโปรโมชั่นอยู่เรื่อยๆ และส่วนลดที่เค้าให้แต่ละรอบนั้นเยอะมาก อย่าลืมเช็คส่วนลดก่อนไปกดจองน้า จะได้เที่ยวแบบคุ้มๆ
วันที่ 2 : ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park)
สำหรับวันที่ 2 ในดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ก๊อตขอมาเอาใจวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ที่ชอบเล่นเครื่องเล่นสนุกๆ เสียวๆ กันบ้างดีกว่า กับสวนสนุกฝั่ง ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ที่ก๊อตรับประกันว่ามีเครื่องเล่นหลายตัวที่พีคและสนุกเอาเรื่อง และสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลยของที่นี่ตอนนี้ คือ Avenger Campus ที่เปิดใหม่ล่าสุดในปี 2021 นี่แหละ
ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) เป็นสวนสนุกที่เปิดครั้งแรกเมื่อปี 2001 โดยสร้างตามหลัง ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ซึ่งธีมความแอดเวนเจอร์ของดิสนีย์นั้น ได้แรงบันดาลใจมากจากรัฐแคลิฟอร์เนียที่ตั้งอยู่
เครื่องเล่นห้ามพลาด + ไฮไลท์ของ Disney California Adventure Park
ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ถูกแบ่งออกได้ประมาณ 6โซนหลักๆ คือ Avengers Campus, Cars Land, Grizzly Peak, Paradise Gardens Park, Pixar Pier และ Hollywood Land ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีไฮไลท์แตกต่างกันไป
เหตุผล | เครื่องเล่นห้ามพลาด |
ต้องเล่น! เป็นอะไรที่สนุก และมีที่ Disney California Adventure Park เดียว | – WEB SLINGERS: A Spider-Man Adventure (* ต้องจอง Virtual Queue ผ่านแอพ Disneyland เท่านั้น / Walk-in เข้าไปเล่นเองไม่ได้) – Radiator Springs Racers |
เครื่องเล่นโคตรสนุก-หวาดเสียว | – Incredicoaster – Guardians of the Galaxy – Mission: BREAKOUT! – Grizzly River Run |
น่าประทับใจ | – Soarin’ Around the World |
สำหรับแพลนการเล่นนั้น เริ่มแรกก่อนเข้าสวนสนุก ให้เรากด Virtual Queue ตัวเครื่องเล่น Spiderman ก่อน เมื่อเรารู้รอบและเวลาค่อยจัดตารางเวลาเอา จากนั้นเมื่อเราเข้าปาร์คแล้ว อาจจะเดินวนเป็นวงกลมไปทีละโซน คล้ายๆ กับดิสนีย์แลนด์ปาร์ค (Disneyland Park) และเล่นไปเรื่อยๆ ได้เลย เมื่อถึงเวลาเล่น Spiderman ค่อยแว๊บไปเล่นเนอะ
เริ่มต้นเที่ยว Disney California Adventure Park กันเล้ย
โซน Grizzly Peak
สำหรับโซนแรกของดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ก๊อตจะพาทุกคนมาที่ Grizzly Peak ก่อนเลย โซนนี้เป็นการสร้างจำลองมาจากอุทยานแห่งชาติดังๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) และ อุทยานแห่งชาติโรสวู้ด (Rosewood National Park) บรรยากาศในโซนนี้เลยดูเหมือนเราอยู่ในอุทยาน ป่าเขาลำเนาไพรจริงๆ เลยแหละ 55555
ในโซน Grizzly Peak นี้จะมีเครื่องเล่นอย่าง Soarin’ Around the World, Grizzly River Run และ Redwood Creek Challenge Trail ซึ่งก๊อตจะพาไปเล่นสองตัวด้วยกัน
Soarin’ Around the World ⭐️⭐️
สำหรับคนที่มาความฝันอยากไปเที่ยวรอบโลก แต่ยังไม่มีโอกาสสักที Soarin’ Around the World เป็นทางออกที่ดีมาก เพราะเราจะได้เดินทางรอบโลกผ่านเครื่องเล่นนี้ที่พาเราโบยบิยกับโปรเจ็คเตอร์ยักษ์สูง 24 นิ้วแหละ
ทริปเที่ยวทั่วโลกกับ Soarin’ Around the World จะเริ่มออกเดินทางที่เทือกเขาสวิสแอลป์ (Swiss Alps) สุดตระการตา แล้วก็ลอยไปบนฟ้าเรื่อยๆ แวะไปเจอน้องโพล่าแบร์ในกรีนแลนด์ แล้วก็บินโฉบอ่าวซิดนีย์ที่ออสเตรเลีย และตามด้วยไปดูยอดเขาคิลิมันจาโร (Mount Kilimanjaro) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีความสูงที่สุดของแอฟริกา
เท่านั้นยังไม่พอเราจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ทั่วทั้งโลก ผ่านการเล่น Soarin’ Around the World แค่ครั้งเดียว ตั้งแต่ กำแพงเมืองจีน พีระมิด ทัชมาฮาล หอไอเฟล และอีกเยอะมากๆ เรียกได้ว่าเล่นครั้งเดียวได้เที่ยวรอบโลกเล้ย (ถ้ามีประเทศไทยด้วยนี่คงน้ำตาไหลเอิบหน้า 5555)
สำหรับก๊อตเอง นี่ถือเป็นเครื่องเล่นที่น่าประทับใจนะ ก๊อตเคยเล่นครั้งแรกที่ Disneyland Paris แล้วโคตรชอบ การได้กลับมาเล่นอีกครั้งที่อเมริกา ก็ยังทำให้ก๊อตตื่นเต้นอยู่ ซึ่งมันดีมากๆ สำหรับคนชอบเที่ยวแบบเราเลยแหละ เยิฟ
Grizzly River Run ⭐️⭐️
ถ้าใครเคยเล่นเครื่องเล่นล่องแก่งที่สวนสนุกบ้านเราแล้วรู้สึกว่าสนุก ก๊อตจะบอกว่า Grizzly River Run นั้นสนุกกว่าเป็นเท่าตัว มันจะเป็นเครื่องเล่นที่ให้เราเข้าไปนั่งบนแพวงกลมล่องแก่งไปตามหาหมีกริซลี่ ระหว่างทางเราก็จะลัดเลาะล่องไปตามทางน้ำ ด้วยความที่แพมันเป็นวงกลมใช่ป่ะ มันก็จะหมุนติ้ว โครงเครง น้ำสาดกระจาย ซึ่งความตื่นเต้นของการเล่นมันคือ ‘กูจะเปียกม้ายยย 5555555’ นั่นแหละ สรุปคือ ก็เปียกสิโว้ย โอ้ย
จะบอกว่าเจ้าหมีกริซลี่เนี่ยเค้าเป็นสัญลักษณ์ประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) เลยนะเว้ยยย ซึ่งเจ้าหมีตัวนี้มีที่มาที่ไปมาจากนิทานพื้นบ้าน ตามเรื่องแล้ว Grizzly Peak เป็นเจ้าหมียักษ์ที่มีชื่อว่า Oo-soo’-ma-te ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหินเพื่อดูแลและปกป้องภูเขาลูกนี้นี่เอง
สำหรับ Grizzly River Run ก๊อตคิดว่ามันสนุกนะ ด้วยความลุ้นว่ามันจะเปียกไหมๆ ยิ่งถ้ามาเล่นกับเพื่อนแล้ว บอกเลยว่ากรี๊ดและมันส์สุดด แกร๊
โซน Paradise Gardens Park
เดินมาไม่ไกลจาก Grizzly Peak ก็จะมาถึง Paradise Gardens Park ซึ่งเป็นโซนที่คนชอบมานั่งพักผ่อนข้างๆ ทะเลสาบใน ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ความเก๋ของตรงนี้คือเค้าสร้างมาจากวิถีชีวิตของคนอเมริกาที่ชอบไปเดินเล่นริมทะเลชายฝั่งแคลิฟอร์เนียกันเยอะมากๆ เค้าเลยจำลองสถานที่ตรงนี้ให้เหมือนกับท่าเรือริมชายฝั่งทะเลได้มานั่งชิลๆ ริมทะเลเลยล่ะ
ตรงนี้ไม่ได้เป็นแค่ที่เดินเล่นชิลๆ นั่งสบายๆ เท่านั้นนะ ตรงนี้ก็มีเครื่องเล่นสนุกๆ ให้เล่นกันหลายเครื่องเลย แต่ละอันก็เป็นเครื่องเล่นไม่หวาดเสียว เด็กๆ สามารถเล่นได้อย่าง Golden Zephyr, Jumpin’ Jellyfish, Silly Symphony Swings และ The Little Mermaid ~ Ariel’s Undersea Adventure ที่ให้เราไปติดตามเรื่องราวของเจ้าหญิงแอเรียลได้แบบใกล้ชิดมากเลยย
สำหรับโซน Paradise Gardens Park เป็นอีกหนึ่งจุดฮิตถ่ายรูปกับรถไฟเหาะ Incredicoaster และชิงช้าสวรรค์ที่มีหน้ามิกกี้เมาส์อยู่นะ ถือเป็นจุด Instagrammable Spot ของ Disney California Adventure Park เลย
The Little Mermaid ~ Ariel’s Undersea Adventure
ใครสาวกน้องแอเรียล จาก The Little Mermaid ห้ามพลาดเครื่องเล่นนี้ เพราะเราจะได้รู้สตอรี่ของแอเรียลตั้งแต่ต้นจนจบ ประหนึ่งว่าเราได้มาอยู่ใต้ท้องทะเลเพื่อติดตามชีวิลแอเรียลเลยแหละ (คือจบยันนางแต่งงานเลยอ่ะ 555555555)
เราจะไม่ได้เจอแค่ Ariel นาจา เพราะนางมาหมดทั้ง Flounder, Sebastian, Scuttle, King Triton และที่ขาดไม่ได้เลยคือ Ursula แม่มดครึ่งคนครึ่งปลาหมึกยักษ์ที่เปิดตัวมาให้น้องๆ หนูๆ ได้อ้าปากหวอกันกรุบๆ
The Little Mermaid ~ Ariel’s Undersea Adventure เป็นเครื่องเล่นที่ถูกใจเด็กๆ และแฟนคลับเจ้าหญิงดิสนีย์แน่นอน เพราะเครื่องเล่นนี้เค้าทำไว้ดีมาก การตกแต่งเอย เสียงเอย แสงเอย คือเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ และแน่นอนว่าใครที่ชอบร้องเพลงดิสนีย์ เครื่องเล่นนี้มีเพลงเพราะๆ ให้ได้ร้องตามกันเยอะมาก อย่างเช่น Part of Your World, Under the Sea, Poor Unfortunate Souls และ Kiss the Girl อันนี้ดีจริง มาเลยย
โซน Pixar Pier
ขอเอาใจแฟนคลับ Pixar ด้วยโซนที่อยู่ตรงข้ามกับ Paradise Gardens Park ที่นี่ได้รวมหนังและตัวละครทุกเรื่องจาก Pixar มาไว้ในที่เดียว เช่น The Incredibles, Toy Story และ Inside Out โซนนี้ก็จะชิลๆ เหมือนเป็นโซนพักผ่อน มาเดินเล่นถ่ายรูปได้สวยมากๆ ยิ่งมาตอนค่ำๆ ที่เค้าเปิดไฟแล้วตรงนี้โครตน่ารักเลย
โซนนี้จะเป็นท่าเรือติดกับทะเลสาบที่ข้างในก็จะมีพวกบูทกิจกรรมและเกมส์ต่างๆ ของหนังแต่ละเรื่อง และมีเครื่องเล่นน่ารักๆ เหมาะสำหรับครอบครัว หรือคนที่ชอบเล่นเครื่องเล่นไม่น่ากลัวมาก เช่น Jessie’s Critter Carousel, Pixar Pal-A-Round, Games of Pixar Pier, และ Inside Out Emotional Whirlwind
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
Incredicoaster ⭐️⭐️⭐️
คนที่ชอบเล่นเครื่องเล่นรถไฟเหาะผาดโผนแบบคลาสสิค ให้ตรงดิ่งมาที่ Incredicoaster เลย เพราะมันคือรถไฟเหาะที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด เร็วที่สุด (สูงสุด 89 กม./ชม.) ของดิสนีย์แคลิฟอร์เนียนะเออ โดยธีมของรถไฟเหาะก็เอามาจากอนิเมชั่นเรื่อง The Incredible ทั้งภาค 1 และภาค 2 เล้ย
นอกจากความสนุก และความเสียว เมื่อเราโดนแรงดันพุ่งไปด้านบน เราสามารถมองเห็นวิว Disney California Adventure Park ได้แบบสุดลูกหูลูกตา จากนั้นเราจะโดนเหวี่ยงกลับด้วยความเร็วแล้วเจอรางทั้งขึ้น-ลง หมุนเกลียว ตีลังกาหนึ่งตลบจนจบ คือโคตรสนุกและมันส์มาก และด้วยความที่ก๊อตมาเที่ยวคนเดียว นี่ก็เล่นลัดคิวด้วย Single Ride เล่นเครื่องนี้ไป 4 รอบอ่ะ คิดดู้วว 55555
Toy Story Midway Mania! ⭐️
อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ก๊อตชอบ ถึงแม้มันจะไม่ใช่เสียวๆ แต่ Toy Story Midway Mania! ก็เป็นเครื่องเล่นที่ก๊อตจอยอยู่เหมือนกัน คือเราจะได้นั่งรถหมุนพร้อมใส่แว่น 3 มิติ แล้วไปเล่นยิงเป้ากับแก๊ง Toy Story โดยเราสามารถแข่งกับเพื่อนได้ เพราะมันมีเก็บคะแนนแข่งกันในแต่ละรอบเว้ย ซึ่งแต่ละเป้าที่เรายิงมันก็มีคะแนนสูงต่ำแตกต่างกันตามความยาก ให้เรายิงสะสมคะแนนไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ดีอยู่นะ
โซน Cars Land
มากันที่โซนต่อไปกับ Cars Land แค่ชื่อก็พอจะรู้แล้วใช่มั้ยว่ามาจากเรื่องอะไร โซนนี้สร้างจำลอง Radiator Spring มาจากในหนังเรื่อง Cars ได้สวยมาก เรียกได้ว่าเหมือนยกฉากในหนังมาไว้ตรงนี้ได้โคตรเป๊ะ ในโซน Cars Land นอกจากเค้าจะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Cars แล้ว ก็ยังได้แรงบันดาลใจจาก Route 66 ไฮเวย์สายหลักในตำนานของอเมริกาที่มีรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) เป็นจุดสิ้นสุดอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกโซนที่ Vibes ดี มีความเป็นแคลิฟอร์เนียสุด
สำหรับเครื่องเล่นในโซนนี้มีอยู่ 3 อัน และยังมีเป็นพวกซุ้มเกมส์ ร้านอาหาร ร้านค้าด้วย แต่อันที่เป็นไฮไลท์หลักที่ต้องเข้ามาเล่นคือ Radiator Springs Racers ที่แบบเริ่ดมากกก
Radiator Springs Racers ⭐️⭐️⭐️
Radiator Springs Racers คืออีกหนึ่งเครื่องเล่นโคตรดีย์ของ Disney California Adventure Park ที่เราจะได้ขึ้นไปนั่งบนรถน่ารักจากเรื่อง Cars และไปเที่ยวชม Ornament Valley จนถึง Radiator Spring เมืองเล็กๆ ที่น่ารักที่สุดใน Carburetor County
ระหว่างทางที่เตรียมตัวจะไปซิ่งรถแข่งกับคันข้างๆ เราจะได้เจอกับตัวละครอื่นๆ เช่น Lightning McQueen, Mater, Doc Hudson, Sally, Mack จากเรื่อง Cars ที่จะมาคอยเชียร์เรา จากนั้นจะเริ่มการแข่งรถที่พุ่งตัวแรงจนหลังติดเบาะ ซึ่งการแข่งก็คือแข่งกับรถคันข้างๆ ที่มาเล่นด้วยกันเนี่ยแหละ 5555555
การเล่นของเรานั้น ไม่ต้องบังคับอะไร แค่นั่งเฉยๆเป็นพอ ซึ่งความสนุกมันคือการที่เราได้ฟีลนั่งรถแข่งบนแทร็คที่ลัดเลาะหุบเขา ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมาก แถมฉากเฉิกยังสวย ถือเป็นเครื่องเล่นหวาดเสียวที่ไม่ได้เหาะเหินเดินอากาศเหมือนอันอื่นๆ แต่สนุก และเป็นเครื่องเล่นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลย
โซน Avengers Campus
โซนสุดฮิตล่าสุดของ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) กับ Avenger Campus ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมิถุนายนในปี 2021 ที่ผ่านมานี้เอง โซนนี้เราสามารถเจอกับเหล่าซุเปอร์ฮีโร่ในจักรวาล Marvel ได้ครบถ้วน ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะวนเวียนกันออกมาให้เราได้ถ่ายรูป บางช่วงก็มีโชว์ให้เราได้ดูด้วย ใครที่เป็นแฟน Marvel คือโคตรห้ามพลาด
WEB SLINGERS: A Spider-Man Adventure ⭐️⭐️⭐️
เครื่องเล่นไฮไลท์ของโซน Avengers Campus ที่ดิสนีย์จัดเป็นตัวท็อปสุดของฝั่ง Adventure นั่นคือ WEB SLINGERS: A Spider-Man Adventure เครื่องเล่นที่เราจะต้องเขาไปใน Worldwide Engineering Brigade หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า WEB เป็นบริษัทที่ทำให้เรามีพลังวิเศษแบบสไปเดอร์แมนได้แบบง่ายโคตรๆ ซึ่งตามเนื้อเรื่องคือเราจะโดนส่งเข้าไปในอคาเดมี่เพื่อเรียนรู้การปล่อยใยแมงมุม โดยเราจะต้องขึ้นไปนั่งอยู่บนรถแล้วก็ทำมือปล่อยใยเหมือนในหนังเพื่อยิงสไปเดอร์บอทที่จะเข้ามาโจมตีเรานั่นแหละ
💥 ขอย้ำทุกคนว่า WEB SLINGERS: A Spider-Man Adventure เป็นเครื่องเล่นที่ต้องจอง Virtual Queue ผ่านทางแอพของ Disneyland Park เท่านั้น ซึ่งเค้าจะเปิดให้จอง 2 เวลา คือ 7 โมงเช้า และตอนเที่ยง ซึ่งคิวหมดภายใน 3 นาที ใครจองไม่ได้นี่คืออดเล่นไปเลยนะ เพราะไม่สามารถที่จะเข้าไปเล่นแบบ Walk-in ได้ คนที่ตั้งใจจะไปที่นี่ก็อย่าลืมเข้าแอพไปจองก่อนน้า ไม่งั้นพลาดแล้วพลาดเลยยยยย แล้วจะช้ำใจ
นี่ว่าเครื่องเล่นนี้คืออีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ของการเล่นสวนสนุกนะ เพราะเราไม่ต้องใส่อุปกรณ์อะไรเลยในการยิงใยใส่สไปเดอร์บอท คือเราสามารถยิงจากมือเปล่าได้เลย โดยมันจะมี Motion Sensor จับมือเรา (คล้ายกับเครื่อง Kinect) แล้วคือสนุกมาก เพราะมันมีการเก็บคะแนนแข่งกันด้วย เล่นเสร็จคือปวดมือ เอาดีๆ 555555
Guardians of the Galaxy – Mission: BREAKOUT! ⭐️⭐️⭐️
ถ้ายังรู้สึกสนุกไม่พอ นี่ขอแนะนำต่อกับ Guardians of the Galaxy – Mission: BREAKOUT! เครื่องเล่นที่ฮิตมากในโซน Avenger Campus ที่ต้องต่อคิวเล่นยาวกว่า 2 ชั่วโมงเลยกว่าจะได้เล่น (ดังนั้น ใครที่ไม่อยากรอนาน ให้ไปเก็บที่นี่ก่อนตอนเช้าก็ได้) เราจะได้เข้าไปอยู่บนตึกสูง 6 ชั้น เพื่อร่วมทำภารกิจกับแรคคูน Rocket เพื่อช่วย Star-Lord, Gamora, Drax และ Groot จากหนังเรื่อง Guardians of the Galaxy ที่โดนจับไปขังไว้บนตึกนี้
เครื่องเล่นนี้มันคือ Drop Tower ที่สนุกกว่าที่อื่นมาก ด้วยความที่มันปูเนื้อเรื่องมาดี อลังการด้วยเอฟเฟ็คตามแบบฉบับดิสนีย์ เครื่องนี้มันเลยจุกด้วยความสนุก ความเสียวไส้เพราะตัวลอยจากแรงโน้มถ่วง และความตื่นเต้นที่เราเหมือนกำลังไปช่วย Rocket ช่วยคนอื่นอยู่จริงๆ ตามเหตุการณ์ในแต่ละชั้นต่างๆ ของตัวตึก ซึ่งโคตรดีย์
สำหรับใครที่มาเที่ยวช่วงฮาโลวีน (กันยายน-ตุลาคม) แบบก๊อต เค้าจะมีเวอร์ชั่นฮาโลวีน ‘Guardians of the Galaxy – Monsters After Dark’ ที่เปิดให้เล่นตอนกลางคืนเท่านั้น ตัวก๊อตเองไม่ได้เล่นเพราะคิวยาวม๊ากก สู้ไม่ไหวจริง แต่ถ้าใครมานี่อย่าพลาดนะ ก๊อตมั่นใจว่ามันดีมากแน่นอน
โซน Hollywood Land
โซนสุดท้าย Hollywood Land ที่จำลองถนนสาย Hollywood Walk of Fame มาไว้ใน ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ได้อย่างน่ารักมากๆ ทำให้นึกถึงตอนที่มาเที่ยว ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) วันแรกที่เที่ยวแถว Hollywood เลย ฮ่าๆ
บริเวณนี้ก็จะมีบรรยากาศเหมือนที่จริงเลย เพราะตลอดทางของ Hollywood Land ก็จะตกแต่งด้วยต้นปาล์มที่ถือว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของที่นี่เค้าล่ะ แล้วก็มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่เยอะ เป็นอีกโซนที่คนชอบมานั่งพักเหนื่อย ช้อปปิ้งของฝาก หาของอร่อยๆ กินกัน และยังเป็นโซนที่มี Disney Theater ด้วย นอกจากนี้ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้เราเข้ามาร่วมเล่นกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Animation Academy, Mickey’s PhilharMagic, Sorcerer’s Workshop และ Turtle Talk with Crush
Monsters, Inc. Mike & Sulley to the Rescue! ⭐️
เครื่องเล่นที่มีเรื่องราวสุดน่ารักที่ให้เราได้นั่งรถแท็กซี่จาก Monstropolis Transit Terminal เพื่อไปชมเมืองชิลๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิกขึ้น เพราะว่ามีเด็กผู้หญิงจากโลกมนุษย์ที่ชื่อว่า “บู” ได้หลุดเข้ามาอยู่ใน Monstropolis และเค้าก็มีการประกาศตามหาตัวกันให้วุ่นวายเลย
แต่ด้วยความน่ารักของเจ้าไมค์และซัลลีย์จากเรื่อง Monsters, Inc. ที่แข่งกันดูแลรักษาความปลอดภัยให้น้องบู และพยายามจะพาประตูพาน้องกลับไปส่งที่โลกมนุษย์อย่างปลอดภัย นี่เลยเป็นเครื่องเล่นที่ก๊อตว่ามันน่ารักดี ฟีลแบบอบอุ่น ได้ติดตามเรื่องราวของสัตว์ประหลาดที่เอ็นดูเด็กน้อย คิ้วท์มากกก แถมลูกเล่นด้านในยังดีมากอีกด้วยนะ
กลับมา โซน Paradise Gardens Park อีกรอบ
หลังจากที่ไปเล่นเครื่องเล่นมาทุกโซน รู้ตัวอีกทีก็ตอนเย็นแล้ว ก๊อตเลยกลับมาที่โซน Paradise Gardens Park เพื่อมาถ่ายรูปกับชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Pixar Pal-A-Round ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) เพราะว่าตอนกลางคืนเวลาตรงนี้เปิดไฟแล้วมันสวยมากก คนละฟีลกับตอนกลางวันเลย ชอบมากๆ
Goofy’s Sky School
กลับมาโซน Paradise Gardens Park อีกรอบ นี่เลยขอเก็บเครื่องเล่นสุดท้ายก่อนกลับ นั่นคือ Goofy’s Sky School ซึ่งสตอรี่เค้าคือ เราจะเข้าไปในโรงเรียนสำหรับนักบินมือใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การบินมาก่อนก็ได้ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรถไฟเหาะของเด็กนั่นแหละ ถึงแม้เครื่องเล่นนี้จะดูไม่ได้มีความหวาดเสียวเท่ารถไฟเหาะอื่น แต่แหม๊ แต่ละโค้งมันเหวี่ยงตัวแรงอยู่เด้อ ตัวจะบิดปลิวออกจากรถจริง 5555555
การเล่นเครื่องนี้มันก็จะชิลๆ แบบได้อยู่ มองเห็นโซน Paradise Gardens Park อีกมุมได้สวยมาก คนที่มีเวลาเหลือ หรือมากับเด็กๆ ก็สามารถมาเล่นด้วยกันที่เครื่องเล่นนี้ได้เลย
สรุป ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ทั้ง 2 สวนสนุก
บอกได้เลยว่า โคตรดีย์! ก๊อตของยกให้ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ทั้ง 2 สวนสนุกเป็นสวนสนุกของ Disneyland ที่ชอบที่สุดที่ก๊อตเคยได้ไปเที่ยวมาทั้งชีวิต ด้วยความที่มันมี 2 ฝั่งและก๊อตได้ไปเที่ยวมาแบบจัดเต็มทั้งคู่ ทำให้ก๊อตได้เล่นเครื่องเล่นพีคทุกอันได้ทั้งหมดเลยแล้วแต่ละอันมันเจ๋งจริงๆ สำหรับ Disney California Adventure Park สำหรับก๊อต ถือว่าชอบมากนะ เครื่องเล่นส่วนใหญ่ที่รักมากจะอยู่ในฝั่งนี้หมด เพราะด้วยความที่ตัวเองชอบเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวหน่อยๆ ที่นี่เลยตอบโจทย์สำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่อย่างเรา ที่ไม่ได้ต้องการความคิวท์มากนักนั่นเอง 55555
ส่วนคนที่กำลังหาซื้อบัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park อยู่ ซื้อจากตรงนี้ได้!
ขอย้ำอีกครั้งว่า สำหรับใครที่คิดว่าจะมาเที่ยวที่ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) แล้ว ก๊อตแนะนำให้มา 2 วันขึ้น เพราะมาวันเดียวมันไม่พอจริงๆ และควรจองตั๋วก่อนนานๆ ที่สำคัญเลยคือไม่ว่าจะซื้อตั๋วผ่านทาง KLOOK (ที่ง่ายแสนง่าย และมีส่วนลดเยอะมากๆ) แล้วต้องไม่ลืมที่จะเข้าไปกดจองในเว็บของ Disneyland อีกทีด้วยนะ ไม่งั้นอดเข้าเด้ออ
1. บัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park แบบ 1 วัน (ทั้ง 2 ประเภท) | คลิก ดูหรือซื้อผ่าน KLOOK
2. บัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park แบบ 2-3 วัน (ทั้ง 2 ประเภท) | คลิก ดูหรือซื้อผ่าน KLOOK
3. ส่วนลดประจำเดือนของ KLOOK | คลิก
คลิกอ่านรีวิว Disneyland Park
รีวิวเที่ยวอเมริกาครั้งแรก ยังไม่หมดเท่านี้ 🇺🇸🗽
เที่ยวอเมริกาให้เยอะขึ้นอีกจากรีวิวอเมริกาด้านล่างนี้ได้เลย
EP.0 (1) – USA Travel 101 กำลังเขียน
EP.0 (2) – 8 เหตุผล ทำไมต้องไปเที่ยวอเมริกาซักครั้งในชีวิต
EP.1 – Chicago
EP.2 – San Francisco กำลังเขียน
EP.3 - Pacific Coast Highway : Monterey + Carmel-By-The-Sea กำลังเขียน
EP.4 - Pacific Coast Highway : Big Sur กำลังเขียน
EP.5 - Pacific Coast Highway : Morro Bay + Santa Barbara กำลังเขียน
EP.6 – Los Angeles
EP.7 – Universal Studios Hollywood
EP.8 – Disneyland Park
EP.9 – Disney California Adventure Park
EP.10 – San Diego กำลังเขียน
EP.11 – Joshua Tree National Park
EP.12 – Death Valley National Park กำลังเขียน
EP.13 – Yosemite National Park กำลังเขียน
EP.14 – Washington D.C. กำลังเขียน
EP.15 – New York City
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
สวนสนุกอื่นๆ
- Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
- Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
- Ocean Park / ฮ่องกง
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡