สาวกดิสนีย์พลาดไม่ได้กับ 2 สวนสนุก Disneyland ในแคลิฟอร์เนีย (California) คือ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) คนที่กำลังแพลนมาเที่ยวสวนสนุกทั้ง 2 ที่นี้ เตรียมตัวได้เลย เพราะในรีวิวนี้จะบอกทุกอย่าง ตั้งแต่การจองตั๋วไปถึงเครื่องเล่นไฮไลท์ห้ามพลาด พร้อมแล้วไปเที่ยวพร้อมกันเล้ยยย
⚡️ รีวิวหน้านี้จะเป็นรีวิวเจาะสวนสนุก ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) อันเดียวเท่านั้น ใครที่อยากอ่านรีวิวเจาะเฉพาะ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) คลิกที่นี่เลย
ทริปอเมริกาครั้งแรก #อเมริกาคนเดียว
ในที่สุดก๊อตก็ได้มาเที่ยวอเมริกากับเค้าสักที นี่คือการเที่ยวอเมริกาครั้งแรกของก๊อต และยังเป็นการเที่ยวคนเดียวอีกด้วย ตื่นเต้นสุดๆ ทริปนี้ก๊อตไปเที่ยวมาทั้งหมด 48 วัน เริ่มตั้งแต่ Chicago - San Francisco - Paciffic Coast Highway Road Trip (Monterey, Carmel-By-The-Sea, Big Sur, Morro Bay, Santa Barbara) - Los Angeles - San Diego - Joshua Tree National Park - Death Valley National Park - Yosemite National Park - Washington D.C. - New York City เป็นการเที่ยวแบบจัดเต็มมาก ก๊อตแบ่งรีวิวไว้ทั้งหมด 15 EP ด้วยกัน ใครที่กำลังแพลนว่าจะไปเที่ยวอเมริกาก็สามารถเที่ยวตามก๊อตได้เลยเด้อ
EP.0 - USA Travel 101 กำลังเขียน
EP.0 (2) – 8 เหตุผล ทำไมต้องไปเที่ยวอเมริกาซักครั้งในชีวิต
EP.1 - Chicago
EP.2 - San Francisco กำลังเขียน
EP.3 - Pacific Coast Highway : Monterey + Carmel-By-The-Sea กำลังเขียน
EP.4 - Pacific Coast Highway : Big Sur กำลังเขียน
EP.5 - Pacific Coast Highway : Morro Bay + Santa Barbara กำลังเขียน
EP.6 - Los Angeles
EP.7 - Universal Studios Hollywood
EP.8 - Disneyland Park
EP.9 - Disney California Adventure Park
EP.10 - San Diego กำลังเขียน
EP.11 - Joshua Tree National Park
EP.12 - Death Valley National Park กำลังเขียน
EP.13 - Yosemite National Park กำลังเขียน
EP.14 - Washington D.C. กำลังเขียน
EP.15 - New York City
รู้จัก ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) + แตกต่างกันอย่างไร?
ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) เป็นสวนสนุกของ Walt Disney แห่งแรกของโลก เมื่อก่อนที่นี่มีชื่อน่ารักๆ ว่า The Mickey Mouse Park แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อ Disneyland อย่างที่เราเรียกกัน ที่นี่เปิดให้เข้ามาใช้บริการครั้งแรกปี 1955 โดยมีคอนเซปต์ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก และต่อมาในปี 2001 ก็ได้มีการเปิดสวนสนุกโซนใหม่ขึ้นมาเพิ่ม เรียกว่า ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park)
ขอเริ่มจากภาพรวมของ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) นั้นจะมีความเป็นดิสนีย์แบบที่เราคุ้นเคย ความเจ้าหญิง ปราสาทฟรุ้งฟริ้ง สีหวานๆ แต่มีความคลาสสิคกว่าที่อื่น เครื่องเล่นหลากหลาย มีให้เล่นตั้งแต่เด็กเล็กจนวัยผู้ใหญ่แบบเรา ซึ่งเค้ามาครบทั้งตระกูลเจ้าหญิง ไปจนถึงไฮไลท์เด็ดสุดคือโซน Star Wars ที่ถือเป็นโซนใหม่ล่าสุดที่มีไม่กี่แห่งบนโลก ดังนั้น ใครที่มากันเป็นครบครัวคือเหมาะที่สุด ส่วนใครที่เป็นแฟนดิสนีย์ และ Star Wars อยู่แล้ว ก็ห้ามพลาดอย่างยิ่งเลย
ส่วน ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) จะค่อนข้างตรงกันข้ามนิดหน่อย ฝั่งนี้เค้าเน้นเครื่องเล่นผาดโผน หวาดเสียว เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าแฟนหนัง Marvel นี่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเค้ามีโซนเปิดใหม่อย่าง Avengers Campus ที่ตอนนี้มีแค่ที่นี่ที่เดียวในโลกด้วย รับรองว่าสนุกและมันส์มาก!
⚡️ เอาจริงๆ ทั้งสองพาร์คมีความเด็ดดวงทั้งคู่แบบไม่มีใครยอมใคร ฝั่งนึงก็มี Star Wars อีกฝั่งก็มี Marvel กับเหล่าบรรดา Avengers ดังนั้น บินไกลมาถึงอเมริกาทั้งที ควรเก็บให้หมดดดดด! ซึ่งเอาจริงป่ะ นี่ว่าดิสนีย์เค้าคิดมาแล้ว ยูจะมาเสียตังค์แค่อันเดียวได้ไง พวกยูต้องเสียตังค์ให้ฉันหมดทั้งสองพาร์คโว้ย เออ ก็ตามนั้นแหละ 5555555555
ควรเที่ยวดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย กี่วันดี?
คนที่กำลังแพลนมาเที่ยวสวนสนุกทั้ง 2 ที่ ก๊อตแนะนำให้ใช้เวลา 2 วัน แล้วเที่ยวไปวันละสวนสนุกไปเลย เพราะว่าแต่ละสวนสนุกนั้นมีไฮไลท์และเครื่องเล่นเยอะมาก การใช้เวลา 1 วันต่อ 1 สวนสนุก ถือว่ากำลังดี และสามารถเก็บเครื่องเล่นและกิจกรรมอื่นๆ ได้ครบหมดตามที่ต้องการเลย
แต่ถ้าใครที่มีเวลาน้อยหน่อย จะเที่ยวแค่วันเดียวก็ทำได้ด้วยการแบ่งเที่ยวสวนสนุกละครึ่งวัน ซึ่งเค้าจะมีบัตรแบบ Hopper Ticket ที่เราสามารถเที่ยวสลับไปมาได้อยู่ แต่ต้องบอกก่อนว่าการเที่ยวแบบนี้ เราจะเก็บเครื่องเล่นไม่ครบแน่นอน และก๊อตไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่เลย
เลือกที่พัก/โรงแรม แถวไหน?
ส่วนเรื่องที่พัก ส่วนตัวก๊อตแนะนำให้เรามานอนค้างที่เมืองอนาไฮม์ (Anaheim) โดยเลือกที่พักใน Disneyland Resort หรือโรงแรมใกล้กับสวนสนุกไปเลย เพราะถ้าเราพักแถว Hollywood หรือ Downtown ใน LA มันต้องใช้เวลาขับรถค่อนข้างนานเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครไม่รู้ฤทธิ์รถติดของ LA ล่ะก็ บอกเลยว่าพลาด ยิ่งๆ เช้าๆ คนที่นี่เค้าขับรถไปทำงานกัน รถยิ่งติดมากกกกกกก
💰 ราคาโรงแรมใน Disneyland Resort ราคาจะค่อนข้างแรง โดยราคาต่ำสุดจะเริ่มอยู่ที่ 9,500 บาท/คืน ถ้าใครไม่ไหว รอบๆ ข้าง Disneyland Park ยังมีโรงแรมอีกเยอะให้เราเลือกนะ ลองส่องๆ ดูก่อนได้
โรงแรมแนะนำใกล้ Disneyland Park
- Courtyard by Marriott Anaheim Theme Park Entrance: โรงแรมที่ใกล้ทางเข้า Disneyland มากที่สุด สามารถเดินเข้าสวนสนุกได้ง่ายมาก ความเก๋คือ โรงแรมนี้มีสวนน้ำให้เล่น สามารถเห็นพลุปราสาทดิสนีย์ได้ในโรงแรม และแน่นอนว่ามั่นใจคุณภาพได้ เพราะเป็นโรงแรมในเครือแมริออทนั่นเอง (+ เก็บแต้มได้สำหรับสมาชิก Marriott Bonvoy) ราคาเริ่มต้น 9,000 บาท/คืน
จองผ่าน Marriott Bonvoy / จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Booking / จองผ่าน Expedia - Hotel 414 Anaheim: เป็นโรงแรมที่ก๊อตเลือกนอนในทริปนี้ ถือเป็นโรงแรมที่คุ้มค่ามาก ห้องใหม่ สะอาด กว้างขวาง และราคาไม่แรง อยู่ออกมาจาก Disneyland นิดนึง ถ้าเดินไป-กลับสวนสนุกจะอยู่ที่ 20 นาที แต่สามารถนั่งรถเมล์ได้ ใกล้ๆ โรงแรมมีปั้มน้ำมันที่มี Starbucks และ Taco Bell ดีงาม สามารถดูรีวิวเต็มได้ท้ายรีวิว ราคาเริ่มต้น 4,000 บาท/คืน
จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Booking / จองผ่าน Expedia
เช่ารถขับเองในอเมริกา 🇺🇸🗽
⚡️ ถ้าใครกำลังรถเช่าขับในอเมริกาล่ะก็ ทริปอเมริการอบนี้เป็นครั้งแรกที่ก๊อตได้หารถเช่าจาก Klook และเช่ายาวกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งราคาเช่ารถที่ก๊อตได้มาถือว่าถูกกว่าจองตรงอีก ยังไงก๊อตแนะนำให้เราลองเช็คราคารถเช่ากันก่อนเพื่อเปรียบเทียบราคากันดูเนอะ รับรองไม่ผิดหวัง เช็คราคารถเช่าผ่าน KLOOK
ซื้อบัตร ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ที่ไหนดี?
บัตร Disneyland Park นั้นหลักๆ มีประมาณ 6 แบบ โดยแบ่งออกเป็นจำนวนวัน คือ 1-3 วัน และจำนวนพาร์คที่เราต้องการเข้า คือ Single Park หรือ Hopper ซึ่งแต่ละวัน ราคาเค้าก็จะแตกต่างกันออกไปตาม Tier ที่ดิสนีย์เค้ากำหนดไว้ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษ ราคาจะแพงกว่าวันธรรมดาแน่นอน ดังนั้น วางแผนวันไปกันไว้ดีๆ เลย
ซึ่งตัวก๊อตเองเลือกซื้อแบบ 2 Days Single Park Ticket คือ เล่นเต็มที่หนึ่งวันต่อหนึ่งพาร์คไปเลย (ไม่สามารถ Hopping ไปอีกพาร์คได้) โดยก๊อตซื้อบัตรผ่านทาง KLOOK เพราะสะดวกและซื้อได้อย่างรวดเร็วเช่นเดิม และแน่นอนว่าราคาของเค้าดี และถูกกว่าซื้อตรงจากเว็บ Disneyland นะ
ดูราคาหรือซื้อบัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park ให้เราลองคลิกลิงค์จากลิสด้านล่างนี้ได้เลย
💥 ขอย้ำหน่อยว่าสำหรับการซื้อบัตรที่ Disneyland แม้ว่าเราจะซื้อผ่านทาง KLOOK มาแล้วแต่เรายังต้องเข้าไปกดจองวันเข้าสวนสนุกในเว็บของ Disneyland ด้วย ซึ่งเค้าจะจำกัดจำนวนคนเข้าสวนสนุกแต่ละวัน ถ้าเต็มนี่คืออดเข้าจริงๆนะ เพราะเพื่อนก๊อตโดนมาแล้วกับตัวคือ จองและเลือกวันจากเว็บ Klook แต่ไม่ได้จองวันในเว็บ Disneyland แล้วพอมาจองดันเต็ม ไปขอร้องหน้าสวนสนุก เค้าก็ไม่ให้เค้านะเออ อันนี้สำคัญมาก ดังนั้น วางแผนดีๆ และควรที่จะซื้อก่อนล่วงหน้านานๆ เลยด้วย
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวและอยากจะซื้อบัตรใน KLOOK ก๊อตแนะนำว่าให้ เช็คส่วนลดประจำเดือนของ KLOOK (คลิกที่นี่) ด้วยนะ เพราะว่า KLOOK เค้ามีการอัพเดทโปรโมชั่นอยู่เรื่อยๆ และส่วนลดที่เค้าให้แต่ละรอบนั้นเยอะมาก อย่าลืมเช็คส่วนลดก่อนไปกดจองน้า จะได้เที่ยวแบบคุ้มๆ
เครื่องเล่นห้ามพลาดไฮไลท์ของ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park)
ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) แบ่งออกได้ประมาณ 9 โซนหลักๆ คือ Star Wars: Star Wars: Galaxy’s Edge, Fantasyland, Tomorrowland, Adventureland, Critter Country, Frontierland, New Orleans Square, Main Street U.S.A. และ Mickey’s Toontown ซึ่งแต่ละโซนเค้าก็จะมีเครื่องเล่นไฮไลท์หลักของแต่ละโซนอยู่ ก๊อตแนะนำว่า ถ้าเราอยากเล่นอันไหนก่อน ให้พุ่งตัวไปโซนนั้นเป็นที่แรก หลังจากนั้นค่อยตามเก็บไปทีละโซนเป็นวงกลมได้เลย
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดของ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) คือตัวเด็ด ตัวไฮไลท์ของแต่ละโซน โดยก๊อตขอแนะนำทั้งหมด 8 เครื่องเล่น แต่ละเครื่องคือสนุกหมด และคุ้มค่าแก่การต่อคิวที่สุด ใครไม่รู้จะเล่นอะไร ปักหมุดพวกนี้ไว้ก่อนเลย
เหตุผล | เครื่องเล่นห้ามพลาด |
ต้องเล่น! เป็นประสบการณ์ใหม่มากก | – Star Wars: Rise of the Resistance / โซน Star Wars: Galaxy’s Edge – Millennium Falcon: Smugglers Run / โซน Star Wars: Galaxy’s Edge |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | – Splash Mountain / โซน Critter Country – Big Thunder Mountain Railroad / โซน Frontierland – Matterhorn Bobsleds / โซน Fantasyland – Space Mountain / โซน Tomorrowland |
เครื่องเล่นสายว้าว ตื่นตาตื่นใจ | - Pirates of the Caribbean / โซน New Orleans Square – Haunted Mansion Holiday / โซน New Orleans Square |
วันที่ 1 – ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park)
สำหรับการเที่ยวดิสนีย์แลนด์ครั้งนี้ก๊อตแบ่งเป็น 2 วัน สำหรับในวันแรกก๊อตมาที่ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ก่อน อย่างที่บอกว่าที่นี่จะมีความเป็นดิสนีย์แลนด์แบบออริจินอล เพราะเป็นดิสนีย์แลนด์ที่แรกของโลก ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1955 และยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ทั้งความคลาสสิค ความเจ้าหญิงและเหล่าตัวละครดิสนีย์ในตำนาน
โซน Star Wars: Galaxy’s Edge
โซน Star Wars: Galaxy’s, Fantasyland เป็นโซนที่ห้ามพลาดเลยเพราะตอนนี้มีแค่ 2 ที่ในอเมริกาเท่านั้นคือ Walt Disney World ฟลอริดา และ Disneyland Park แห่งนี้ ใครเป็นแฟนสตาร์วอร์ต้องอินที่นี่มากแน่ๆ เพราะทันทีที่เดินเข้ามาโซนนี้ก็จะได้เห็น ยานแม่ Millennium Falcon แบบเดียวกับที่อยู่ในหนังเป๊ะๆ ให้ความรู้สึกโคตรยิ่งใหญ่ เหมือนเราหลุดออกไปอยู่ในโลกสตาร์วอร์ พร้อมที่จะเดินทางสู่ดาวดวงใหม่ที่ชื่อว่า Batuu และไปกู้กาแล็กซีกับ อัศวินเจไดและ Luke Skywalker เค้าแหละ
สำหรับพร็อพและฉากในโซน Star Wars: Galaxy’s Edge ต้องยอมให้เค้าจริง ฉากคือทำดี งานพร็อพคือละเอียดเว่อร์วังมาก ถือว่าทำได้ดีมาก ถ่ายรูปก็เริ่ดเลอ ถ้าเทียบกับทุกโซนแล้ว Star Wars: Galaxy’s Edge ถือว่าต้องมา เพราะมันอลังการจริง อันนี้ชมจากใจเลย
Star Wars: Rise of the Resistance ⭐️⭐️⭐️
ภายในโซนนี้มีเครื่องเล่นที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดอยู่ทั้งหมด 2 เครื่องเล่น เครื่องเล่นแรกคือ Star Wars: Rise of the Resistance ไฮไลท์ที่เด็ดทื่สุด นี่คือเครื่องเล่นที่เราจะได้เข้าไปลุ้นระทึกกับการต่อสู้ระหว่าง First Order และ The Resistance ต้องบอกว่าทุกอย่างคือโคตรอลังการงานสร้าง และเครื่องเล่นนี้คือประสบการณ์ใหม่ของการเล่นสวนสนุกมากจริงๆ เว้ย
มันไม่ใช่รถไฟเหาะนะ แต่มันคือการที่เรานั่งอยู่บนรถที่วิ่งเข้าไปอยู่ในฉากและเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งฉาก แสง สี เสียง ทุกอย่างคือพีคมากจนขนลุก น้ำตาไหล ซึ่งก๊อตขอเล่าแค่นี้พอ เดี๋ยวสปอยไปหมด แค่อยากให้รู้ว่า Star Wars: Rise of the Resistance คือเครื่องเล่นที่ก๊อตประทับใจ และอยากกลับมาเล่นมากที่สุดของการมาเที่ยวสวนสนุกทั้งสองพาร์คเลยจริงๆ ฮือ
Millennium Falcon: Smugglers Run ⭐️⭐️⭐️
อีกเครื่องเล่นที่น่าสนใจและก๊อตชอบมากกก จนยอมต่อแถวเล่นวนไป 2 รอบ นั่นก็คือ Millennium Falcon: Smugglers Run ที่เราจะต้องรวมทีมให้ได้ครบ 4 คน (ใครมาไม่ครบ 4 ไม่เป็นไร เดี๋ยวสต๊าฟเค้าจะจัดทีมให้เอง) จากนั้นเราจะได้เข้าไปขับยาน Millennium Falcon โดยทีม 4 คนนั้น จะถูกแบ่งหน้าที่เป็น คนขับเครื่องบิน คนยิงปืน และวิศวกรที่คอยซัพพอร์ทอยู่ด้านหลัง ซึ่งทั้งหมด เราต้องขับยานและทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงนั่นเอง นี่อยากบอกว่า อันนี้เป็นอีกเครื่องเล่นที่สนุกและตื่นเต้นมากเว้ย
นอกจากเครื่องเล่นแล้วในโซน Star Wars: Galaxy’s Edge ก็ยังมีร้านขายของฝาก และร้านอาหารด้วย ซึ่งความพิเศษคือ นี่เป็นครั้งแรกและเป็นโซนเดียวที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในดิสนีย์แลนด์ แต่สำหรับคนที่โนแอลก็แนะนำเป็น Blue Milk ซึ่งเป็นเมนูที่เราได้เห็น Luke Skywalker ดื่มในภาค A New Hop นั่นเอง
โซน Critter Country
Critter Country ถือเป็นโซนที่สงบที่สุดในดิสนีย์แลนด์เลยแหละ ด้วยความที่สระน้ำตรงกลางขนาดใหญ่พร้อมต้นไม้ร่มรื่น แถมยังเครื่องเล่นไม่เยอะ ที่นี่เลยเหมาะกับครอบครัวเพื่อมาพักเหนื่อย และหลบแดดร้อนๆ กัน
Splash Mountain ⭐️⭐️
สำหรับเครื่องเล่น Splash Mountain ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ก๊อตชอบมากนะ ถึงแม้มันจะไม่ได้หวาดเสียว แต่มันสนุกเพราะต้องลุ้นว่าเราจะเปียกหรือเปล่า เพราะเราจะต้องนั่งอยู่บนรถท่อนไม้ที่ล่องในแม่น้ำบายู (Bayou) เพื่อตามไปดูเรื่องราวต่างๆ ของเจ้ากระต่าย Br’er Rabbit ตัวการ์ตูนเก่าแก่ของดิสนีย์ที่ฉายมาตั้งแต่ปี 1946 ที่กำลังตามหา ‘Laughing Place’ ของตัวเองอยู่ แต่การเดินทางของเจ้ากระต่ายก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเว้ย เพราะเจ้ากระต่ายดันถูกหมาป่า Br’er Fox กำลังตามล่าอยู่นั่นเอง
บอกเลยว่า Splash Mountain เป็นอีกเครื่องเล่นที่ห้ามพลาด เพราะนอกจากจะเสียวๆ แบบกรุบกริบแล้ว การลุ้นว่าจะเปียกหรือไม่เปียก หรือกูเปียกแล้วจะเปียกอีกมั้ยเนี่ย คือโคตรสนุก ดังนั้นเตรียมใจตัวเปียกไว้ได้เลย 555555555
สำหรับ Splash Mountain ธีม Br’er Rabbit กำลังจะถูกเปลี่ยนเนื้อเรื่องเป็น The Princess and the Frog เร็วๆ นี้ ซึ่งทางดิสนีย์เองก็ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ แต่น่าจะเป็นช่วงปี 2022-2023 ดังนั้น ใครที่ไปหลังนี้อาจจะได้เจอธีมใหม่ ซึ่งจะสนุกและไฉไลกว่าเดิม หรือเปียกยิ่งกว่าเดิมก็ไม่ ก็ต้องรอดู ฮี่ฮี่
The Many Adventures of Winnie the Pooh
เครื่องเล่น Dark Ride สุดคิ้วท์ ที่เราจะต้องเข้าไปนั่งอยู่ในรถทรงรังผึ้งในเรื่องหมีพูห์ เพื่อไปผจญภัยในโลกของหมีพูห์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอนิเมชั่นคลาสสิกของดิสนีย์เรื่อง The Many Adventures of Winnie the Pooh ที่ฉายเมื่อปี 1977 หรือกว่า 45 ปีที่แล้วนั่นเอง
แน่นอนว่าเครื่องเล่นนี้ น้องๆ หนูๆ ต้องชอบ เพราะเราจะได้เห็นความน่ารักของหมีพูห์ และผองเพื่อนอย่างพิกเล็ต อียอร์ ทิกเกอร์ และตัวอื่นๆ ในป่า Hundred Acre ซึ่งเค้าทำออกมาได้น่ารักมาก ทั้งฉาก แสง สี เสียง คือน่ารักไปหมดจริงๆ
โซน New Orleans Square
โซน New Orleans Square ถือเป็นโซนพิเศษแบบ Exclusive ของ ดิสนีย์แลนด์ปาร์ค (Disneyland Park) ที่ไม่มีที่ไหนในดิสนีย์แลนด์ที่อื่น โดยการตกแต่งของโซนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองนิวออร์ลีน (New Orleans) รัฐหลุยส์เซียนา (Louisiana) ในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งถ้าใครที่อยากถ่ายรูปฟีลเมืองอเมริกันยุคเก่า ให้มาถ่ายโซนนี้ได้เลย เค้าทำตึกรามบ้านช่องได้ดีมากจริงๆ
สำหรับเครื่องเล่นเด็ดของโซน New Orleans Square ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Haunted Mansion และ Pirates of the Caribbean ที่ถือเป็นอีกสองตัวเด็ดของที่ดิสนีย์แลนด์ปาร์คนะเอ้อ
Haunted Mansion Holiday ⭐️⭐️⭐️
ต้องบอกก่อนว่าช่วงที่ก๊อตไปเป็นช่วงใกล้เทศกาลฮาโลวีนมากๆ เครื่องเล่น Haunted Mansion เลยมีการตกแต่งธีมฮาโลวีนด้วยผีฟักทองคิวท์ๆ เพื่อให้เข้ากับเทศกาลนี้มากขึ้น เลยเกิดเป็นเครื่องเล่นเวอร์ชั่นพิเศษ ‘Haunted Mansion Holiday’ ที่มีเฉพาะช่วงกันยายนจนถึงต้นเดือนมกราคม ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ฮอตฮิตของดิสนีย์แลนด์ และถือเป็นเครื่องเล่นออริจินอลที่สร้างขึ้นเป็นที่แรกของโลกอีกด้วยนะเว้ย
เห็นเป็นบ้านผีสิงแบบนี้ แต่จริงๆ มันไม่ใช่บ้านผีสิงที่มันจะมีผีตุ้งแช่โผล่ออกมาให้เราตกใจนะเว้ย แต่มันเป็นสตอรี่ที่ดิสนีย์สร้างขึ้น จากการที่ต้องการสร้างเครื่องเล่นสไตล์บ้านพี่สิงออกมาจนออกมาเป็น Haunted Mansion ที่เราเห็นนี่แหละ
แต่ถ้าใครที่มาเล่นช่วงเทศกาลที่เป็น Haunted Mansion Holiday แบบก๊อต เนื้อเรื่องมันจะเปลี่ยนไปโดยรวมเอาสตอรี่ของ Haunted Mansion และหนังเรื่อง The Nightmare Before Christmas เข้ามารวมกัน โดยเราจะได้นั่งรถเข้าไปยังบ้านผีสิง และได้เห็นตัวละครหลักอย่าง Jack Skellington และเหล่าผีทั้งหลายมาเฉลิมฉลอง และจอยไปกับเทศกาลฮาโลวีนในบ้านผีสิงแห่งนี้
Pirates of the Caribbean ⭐️
อีกหนึ่งไฮไลท์ของเครื่องเล่นโซน New Orleans Square คือ Pirates of the Caribbean กับเครื่องเล่น Dark Ride ที่ให้เรานั่งเรือเข้าไปชมเรื่องราวของกลุ่มโจรสลัดในหมู่เกาะ West Indies รอบทะเลแคริบเบียนในศตวรรษที่ 17 และ 18 ที่มีทั้งโจรมาบุกปล้นเมืองแคริบเบียน รวมถึงน Dead Man’s Cove ที่เราจะได้เห็นผีโจรสลัดที่คอยเฝ้าทรัพย์สมบัติอันเลอค่าของพวกเขา ก่อนจะจบท้ายด้วย ‘กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ( Captain Jack Sparrow)’ จากหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean ที่หลายคนรู้จักกันดี
เรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean คือ นี่เป็นเครื่องเล่นสุดท้ายที่ วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ได้ออกแบบและสร้างเสร็จก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงสามเดือนก่อนหน้าที่เครื่องเล่นจะเปิดจริง นอกจากนี้ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเครื่องเล่นนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1967 และใช้ชื่อนี้มาก่อนจะมีหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean ด้วย! ซึ่งภายหลัง ดิสนีย์เค้าพึ่งจะเอา กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ( Captain Jack Sparrow) เข้ามาอยู่ในฉากด้านใน เมื่อปี 2006 นี่เองงง
แน่นอนว่าเค้าทำทุกอย่างออกมาได้ดีมาก ทั้งฉากที่มีเรือโจรสลัดขนาดใหญ่รวมกับแสง สี เสียง ซึ่งการนั่งเรือดูฉากต่างๆ เหล่านี้มันก็เพลินๆ ตามแบบฉบับออริจินอลดั้งเดิม ซึ่งคล้ายๆ กันหมดทั่วโลกยกเว้นแต่ที่เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) ที่ก๊อตเคยไปเล่นมาแล้ว บอกเลยว่าทุกที่ หรือแม้แต่ที่อเมริกา ก็เทียบความอลังที่เซี่ยงไฮ้ไม่ติดจริงๆ 5555555
เพราะที่เซี่ยงไฮ้ เครื่องเล่น Pirates of the Caribbean เค้าอิงสตอรี่จากหนังแทบจะ 100% ตามความคุ้นเคยของคนจีนที่รู้จักกันอยู่แล้ว (รวมถึงเราด้วย) อีกทั้งใช้เทคโนโลยีโปรเจ็คเตอร์ที่โคตรล้ำ ทำให้ทุกอย่างแม่มว้าวซ่า ขนลุกขนชันมากกก ดังนั้น การได้มาเล่น Pirates of the Caribbean แบบออริจินอลที่อเมริกา เลยรู้สึกธรรมด๊า ธรรมดาไปเลย แง้งง
โซน Adventureland
Adventureland เป็นอีกโซนยอดนิยมที่มีอยู่ในดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกเลย โดยธีมเค้าจะเหมือนกำลังมาเที่ยวอยู่ในพื้นที่ป่าเขตร้อน พร้อมที่จะให้เราเข้าไปผจญภัยในป่า ซึ่งดิสนีย์เองได้แรงบันดาลใจมาจากป่าแอฟริกาและเอเชียอันไกลโพ้นนั่นเอง
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
Indiana Jones™ Adventure ⭐️⭐️⭐️
ไฮไลท์ของโซน Adventureland นี้ ก๊อตยกให้ Indiana Jones™ Adventure เลย ถึงแม้ว่าเครื่องเล่นนี้ไม่ได้ผาดโผนหวาดเสียว แต่มันเป็น Dark Ride ที่ว้าวด้วยเอฟเฟ็ค แสง สี เสียงต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกสนุก ตื่นตาตื่นใจ และลุ้นตามอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบเลย โดยเนื้อเรื่องนั้นมาจากหนังเรื่อง Indiana Jones™ ที่จะต้องเข้าไปผจญภัยใน Temple of the Forbidden Eye ที่ถูกค้รพบโดยอินเดียนา โจนส์ ที่นี่วัดอินเดียต้องคำสาปโบราณซึ่งถูกน้ำท่วมขังเมื่อสองพันปีที่แล้ว โดยตำนานเชื่อกันว่าที่นี่มีเทพเจ้า ชื่อ Mara ที่คอยประทานพร 1 ใน 3 ข้อให้กับคนที่เข้ามาในที่นี้คือ ความรวย ความเป็นอมตะตลอดกาล และสามารถรู้อนาคตได้ แต่มีเงื่อนไขของการเข้ามาในวัดคือทุกคนห้ามมองไปที่ตาของเทพองค์นี้เด็ดขาด
ด้วยข่าวของวัดนี้ที่แซ่ซ้องไปยังหมู่นักโบราณคดี หลายคนจึงเกิดความสนใจอยากเข้าไปสัมผัสที่นี่ จน Sallah เพื่อนของ อินเดียนา โจนส์ เลยจัดเป็นทัวร์ขึ้นมา หวังว่าจะได้กำไรเพิ่มเพื่อเป็นทุนในการขุดโบราณสถานที่นี่ต่อ นักท่องเที่ยวหลายรายก็ได้รับโชคกันไป แต่นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งก็ไม่รอดออกมาเนื่องจากเผลอไปมองตาของเทพ Mara และต้องถูกไปอยู่ใน Gates of Doom ที่มีลูกดอกพิษ มัมมี่ส่งเสียงร้องโหยหวน แมลงยักษ์ ฝูงหนูยั้วเยี้ย และลาวาร้อนๆ ด้วยเรื่องราวนี้ เราเลยต้องเข้าไปร่วมภารกิจกับ Indiana Jones ที่ต้องไปค้นหาผู้สูญหาย รวมถึงไขปริศของสิ่งลี้ลับเหนือธรรมในวัดแห่งนี้
Indiana Jones™ Adventure ถือเป็นเครื่องเล่นที่สนุกและอยากให้ทุกคนได้มาเล่น ด้วยความที่มันเป็น Dark Ride ด้านในเค้าเลยจัดเต็มทั้งฉากเอ็ฟเฟ็ค และแสงสี ที่ทำให้เราว้าวได้ตลอดระยะเวลาที่นั่งบนรถเครื่องเล่นเลยล่ะ ถือว่าดีย์
Jungle Cruise ⭐️
ใครอยากพักเหนื่อนแล้วนั่งชิลๆ ล่องเรือสนุกๆ ก๊อตแนะนำเครื่องเล่น Jungle Cruise เลย เพราะเราจะได้ล่องเรือตามแม่น้ำสายสำคัญๆ หลายสายของเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ที่เค้าจำลองขึ้นมา ซึ่งในแต่ละโซน เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของสัตว์ป่ามากมายตามทวีปนั้นๆ ซึ่งเค้าทำมาได้แบบสมจริงมาก ดีเทลของน้องสัตว์คือเหมือนตัวจริงสุด ไม่ว่าจะเป็น ช้าง ลิง เสือ ฮิปโป และอีกเยอะเลยแหละ
เครื่องเล่น Jungle Cruise นั้น ถือเป็นเครื่องเล่นคลาสสิคของดิสนีย์แลนด์ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1955 แล้วนะ โดยแรงบันดาลใจของเครื่องเล่นมาจากหนัง True-Life Adventure โดยใช้เอฟเฟ็คเรื่องเสียงของสัตว์มาเป็นจุดขายของเครื่องเล่นนี้แหละ
เรือแต่ละลำที่เรานั่ง เค้าจะมีพี่ไกด์ที่เค้าคอยเล่าว่าตอนนี้อยู่ไหน ตรงนี้มีอะไรบ้าง ซึ่งเค้าก็เล่าแบบตลกๆ สนุกสนานตามสไตล์ดิสนีย์แลนด์ ความเริ่ดของสตอรี่ Jungle Cruise คือ เราจะได้ล่องเรือในแม่น้ำวิเศษชื่อดัง ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยเริ่มตั้งแต่แม่น้ำโขงและแม่น้ำอิรวดีใกล้ๆ บ้านเรา จากนั้นจะล่องเรือต่อไปยังแอฟริกาและอเมริกาใต้ ผ่านเรืองราวต่างๆ ที่เค้าเซ็ตเป็นฉากขึ้นมา
ส่วนตัวก๊อตว่ามันดีและสนุกนะเว้ย และเด็กๆ น่าจะชอบมากด้วย เพราะนอกจากฉากและพร็อพจะสวยแล้ว คนบรรยายก็ตลกโปกฮา มีความโยนมุกตลอด ก๊อตเลยคิดว่า การมาเล่น Jungle Cruise คือดีย์ และเป็นการได้พักจากเครื่องเล่นผาดโผนด้วย ฟีลแบบ กูขอชิลบ้างค่าาา 5555
โซน Frontierland
Big Thunder Mountain Railroad ⭐️⭐️
โซน Frontierland จะมาในธีมอเมริกันยุคคาวบอย หรือยุคขุดทองในสมัยก่อน โดยมีเครื่องไฮไลท์เด็ดๆ เลยคือ Big Thunder Mountain Railroad ซึ่งตอนที่ก๊อตไปเที่ยวนั้น เค้าปิดปรับปรุงเครื่องเล่น สรุปคืออดเล่นนั่นแหละ แต่ยังไงก็ตาม ก๊อตเคยเล่นที่ปารีสมาแล้ว และมันก็ไม่ได้ต่างกันมากมาย ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ห้ามพลาดเช่นกันสำหรับสายรถไฟเหาะเนอะ
เนื้อเรื่องมันเริ่มมาจากว่ามีคนไปค้นพบภูเขาที่เรียกว่าเป็นขุมทรัพย์ทองคำ ชื่อว่า Big Thunder Mountain ในเมือง Rainbow Ridge ซึ่งชาวบ้านเค้าก็นับถือภูเขาลูกนี้และมีความเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่มีคนคิดจะมาบุกรุกที่นี่ก็จะเรื่องร้ายแรงขึ้น แล้ววันนึง ก็ได้มีบริษัททำเหมืองขุดทองได้มารู้จักที่นี่ และทำเหมืองขุดทองโดยที่ก็ไม่ได้แคร์ความเชื่อของชาวบ้านทั้งนั้น ทำไปทำมา ธุรกิจมีความปังและรวย จนเมืองนี้ได้ถูกขนานนามว่า ‘The Biggest Little Boom Town in the West’
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความเชื่อของชาวบ้านก็เหมือนจะเป็นจริง เพราะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองนี้ จนทำให้คนตายไปเยอะมาก เรียกว่าแทบจะหมดเมืองเลยทีเดียว และเมือง Rainbow Ridge ก็กลายมาเป็นเมืองร้างในที่สุด ซึ่งเครื่องเล่น Big Thunder Mountain Railroad ก็คือการที่เราขึ้นไปนั่งรถเหมืองผีสิงที่วิ่งลัดเลาะไปตามภูเขา Big Thunder เนี่ยแหละ และที่เรียกว่ามันเป็นรถเหมืองผีสิงก็เพราะว่า เมืองนี้มันกลายเป็นเมืองร้างแล้วยังไงล่ะ แล้วใครจะมาบังคับรถในเหมืองนี้ล่ะ จริงมั้ยยยย 55555
สำหรับก๊อตเองคือเสียดายที่มาเที่ยวรอบนี้แล้วไม่ได้มาเล่น แต่ถ้าใครมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ อย่าลืมเล่นกันล่ะ เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นไฮไลท์ของเค้าเล้ยยย!
โซน Fantasyland
เวลาพูดถึงดิสนีย์แลนด์แล้วจะไม่นึกถึงปราสาทเจ้าหญิงก็คงจะไม่ได้ และโซน Fantasyland นี่แหละที่ถือว่าเป็นโซนที่ต้องมีอยู่ในทุกดิสนีย์แลนด์บนโลกนี้ ซึ่งดิสนีย์แลนด์แต่ละที่ รูปทรงปราสาทก็จะสร้างแตกต่างกันออกไปตามปราสาทของเจ้าหญิงองค์ไหน
สำหรับ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ที่แคลิฟอร์เนียนั้นจะเป็น ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ถือเป็นปราสาทดิสนีย์แลนด์ออริจินอลที่เก่าแก่ที่สุด โดยการออกแบบปราสาทนั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก ปราสาทน็อยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) ในแคว้นบาวาเรีย เยอรมันนั่นเอง
ด้วยความที่เป็นโซนเจ้าหญิงคิวท์ๆ โซนนี้ก็เลยเน้นเครื่องเล่นน่ารักกรุบกริบ เหมาะสำหรับวัยเด็กแรกเริ่มเล่นสวนสนุก ใครที่พาน้องๆ หนูๆ มาเที่ยวด้วย พาเข้าโซนนี้โลด เครื่องเล่นเค้าก็จะมี Snow White’s Enchanted Wish, Casey Jr. Circus Train, Dumbo the Flying Elephant, King Arthur Carrousel, Mad Tea Party, Mr. Toad’s Wild Ride, It’s a Small World, Pinocchio’s Daring Journey และ อีกหลายอย่างเลย
Matterhorn Bobsleds ⭐️
สำหรับก๊อตแล้ว โซนนี้ก็มีเครื่องเล่นห้ามพลาด คือ Matterhorn Bobsleds ที่สร้างเลียนแบบยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น (Matterhorn) ในเทือกเขาสวิสแอลป์ชื่อดัง ซึ่งนี่ถือเป็นเครื่องเล่นเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1959 โดยเป็นรถไฟเหาะรางเหล็กที่วิ่งหมุนเกลียวต่อเนื่องรางแรกของโลก และยังเป็นเครื่องเล่นที่เสียวที่สุดในโซนนี้ด้วยนะเอ้อออ
Matterhorn Bobsleds มันจะเป็นรถไฟเหาะ 2 เส้นทางที่จะพาเราไปลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามซอกภูเขา Matterhorn ด้วยความเร็วปรี๊ดปร๊าด ไหนจะพาเราไปมุดถ้ำ วิ่งผ่านผิวน้ำ และผ่านเส้นทางทรหดอีกมากมาย มันเลยกลายเป็นเครื่องเล่นที่สนุกเอาเรื่องอยู่ โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ คือต้องร้องกรี๊ดแน่นอน ถือว่าดีน้า
It’s a Small World
นับว่าเป็นเครื่องเล่นในตำนานที่อยู่เคียงคู่กับดิสนีย์แลนด์มานานแสนนานเลย กับ It’s a Small World เครื่องเล่นสุดคิ้วท์น่ารัก ที่จะพาเราล่องเรือเข้าไปเห็นวัฒนธรรม การแต่งกายผ่านตุ๊กตาน้องๆ หนูๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งด้านในมีของไทยเราด้วยน้า
It’s a Small World เป็นเครื่องเล่นนี้ที่ถูกจัดเป็นนิทรรศการใน New York World’s Fair ที่สนับสนุนโดย UNICEF ในช่วงปี 1964-1965 ซึ่งทั้งหมดออกแบบโดย Walt Disney ก่อนที่จะย้ายเครื่องเล่นทั้งหมดมาเปิดที่ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) ในปี 1966 นะ
ตลอดเส้นทาง จะมีทั้งตัวละครจิ๋วๆ แต่ละตัวที่เค้าสร้างคาแรคเตอร์มาตามแต่ละประเทศได้เต็มสิบ ทั้งหน้าตา สีผิว ชุดประจำชาติ สัญลักษณ์ต่างๆ รวมไปถึงธงชาติด้วย นอกจากนี้เค้ายังเอาตัวละครในหนังดิสนีย์ เข้าไปซ่อนตัวตามจุดต่างๆ ด้วย โดยรวมก็เพลินๆ พร้อมฟังเพลง It’s a Small World ตลอดทาง ซึ่งเครื่องเล่นนี้เหมาะกับน้องๆ หนูๆ เป็นที่สุด ส่วนตัวก๊อตเองคือ มีหลับบนเรือด้วย ฟังเพลงจนเคลิ้มอะคิดดู 55555555555555
โซน Tomorrowland
โซน Tomorrowland ถือเป็นโซนคลาสสิกที่มีอยู่ในดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกแหละ แน่นอนว่ามันคือโลกอนาคต ที่ดิสนีย์พยายามเอาจินตนาการที่มักจะอยู่ในแบบพิมเขียวในโลกวิทยาศาสตร์ มาสร้างให้เป็นของจริง โดยเฉพาะเรื่องอวกาศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่จะได้สร้างโลกใหม่ในอนาคตนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า เครื่องเล่นโซนนี้ก็จะเป็นแนวล้ำๆ อวกาศๆ ซึ่งตัวเด็ดของโซนนี้คือเครื่องเล่น Space Mountain ที่ต้องห้ามพลาดเลย
Star Tours – The Adventures Continue ⭐️⭐️
เครื่องเล่น Star Wars สุดคลาสสิกที่มีอยู่ในดิสนีย์หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นที่โตเกียว หรือแม้แต่ปารีสที่ก๊อตเคยเล่นมาครั้งนึงแล้ว แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยลองเล่น Star Tours มาก่อนล่ะ แนะนำให้มาเล่นโลด โดยเราจะต้องใส่แว่น 3D เข้าไปนั่งในห้องเสมือนอยู่ในยาน และมีหุ่นดรอยด์ C-3PO ที่คอยบังคันยาน และพาเราทัวร์ไปยังโลกของ Star Wars ซึ่งโยกไปมาตามเนื้อเรื่อง ซึ่งก็สนุกแบบเพลินๆ นะเออ
ส่วนเนื้อเรื่องที่เราจะได้ดูตอนเล่นนั้น ถูกแรนดอมแต่ละส่วนออกมาผสมกัน ซึ่งถ้าคิดความน่าจะเป็นของเนื้อเรื่องแล้ว จะมีความแตกต่างที่เป็นไปได้กว่า 54 เรื่องเลยทีเดียว ดังนั้น ถึงแม้เราจะเข้ามากี่ๆ รอบ ก็ยากมากที่เนื้อเรื่องมันจะซ้ำกันแหละ 555555
Buzz Lightyear Astro Blasters
อีกหนึ่งเครื่องเล่นคลาสสิกกับ Toy Story 2 ที่ก๊อตเจอทุกรอบ เวลาไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่โตเกียว ฮ่องกง ปารีส เซี่ยงไฮ้ คือเจอมาโม๊ดดด 5555555555
พูดว่าเจอทุกรอบแบบนี้ แต่ก็เล่นเกือบทุกรอบนะเออ คอนเซ็ปต์เครื่องเล่นนั้นจะเหมือนกันคือ มันเป็นเกมแบบ Interactive ที่เราจะต้องเข้าไปยิงเป้าเก็บแต้มแข่งกัน ซึ่งจะว่าสนุกมันก็สนุกนะเว้ย และแน่นอนว่า ถ้าใครที่ยังไม่เคยเล่น ก็ต้องเล่นนาจา ยิ่งถ้ามากับเพื่อนนี่ก็ดีย์ ยิ่งแข่งกันมันส์ไปเล้ย
Space Mountain ⭐️⭐️
Space Mountain อีกหนึ่งรถไฟเหาะแนะนำที่อยากให้มาเล่นมาก โดยเฉพาะสายชอบความเสียว เพราะมันคือรถไฟเหาะแบบ Dark Ride ที่จำลองให้เราขึ้นไปนั่งอยู่บนจรวดเพื่อไปท่องโลกกาแล็กซี่ ซึ่งมันสนุกมากกกก เพราะเป็นรถไฟเหาะในความมืดที่วิ่งเร็วสุด มองอะไรไม่เห็นเลยโว้ย เห็นแต่ดวงดาวระยิบระยับ ประหนึ่งเหมือนเราลาลาลอย ล่องลอยไปในอวกาศอะแกร 55555
โซน Mickey’s Toontown
โซนสุดท้ายกับ Mickey’s Toontown เป็นโซนด้านในที่หลบตัวซ่อนอยู่หลัง It’s a Small World ที่มีเครื่องเล่นเด็กเยอะมาก ด้วยความก๊อตเองแก่มากแล้ว ก็เลยแวะไปถ่ายรูปกับ Mickey Mouse, Minnie Mouse และ Goofy พอกรุบกริบพอ ซึ่งโซนนี้เองก็ตกแต่งน่ารักมาก ใครที่อยากถ่ายรูปธีมดิสนีย์คิวท์ๆ แนะนำให้แวะมาโซนนี้เลย น่าร้ากกก
Fireworks at Disneyland Park
สุดท้ายและท้ายสุดของการเที่ยว Disneyland Park ที่ห้ามพลาดเลยคือการดูพลุและแสง สี เสียงของปราสาทดิสนีย์ ซึ่งช่วงที่ก๊อตไปคือช่วงฮาโลวีนพอดี โชว์ของเค้าจะมาในธีมฮาโลวีนกับโชว์ ‘Halloween Screams’ ที่เอาตัวละครจาก The Nightmare Before Christmas รวมถึงมี Maleficent และ Ursula มาแสดงโดยการฉายโปรเจคเตอร์ลงบนปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ความอลังการไม่ต้องพูดถึง เพราะดีงามตามแบบฉบับดิสนีย์เค้าอยู่แล้ว แต่จะมีเฟลนิดหน่อยที่วันนั้นดันไม่มีพลุด้วย ซึ่งก๊อตมารู้ทีหลังว่าเค้าสลับวันโชว์พลุทุกสองวัน แงงงง
สรุป ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park)
ถึงแม้ที่นี่จะเป็น ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) ที่เก่าแก่สุด แต่เพราะมันเป็นดิสนีย์ออริจินอลที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวเว้ย มีเครื่องเล่นหลายตัวที่เป็นประสบการณ์ใหม่ของการเล่นสวนสนุกมาก อย่างพวก Star Wars นี่คือที่สุดของจริง ถือเป็น ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) ที่ก๊อตประทับใจมากที่สุดทั่วโลก เท่าที่ก๊อตเคยไปมาเลย (แต่หลายคนก็บอกว่าที่ฟลอริด้า คือเริ่ดกว่า อันนี้เดี๋ยวต้องหาโอกาสไปเล่นต่อบ้างแล้ว
⚡️ อย่างไรก็ตาม การเที่ยว ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) ของก๊อตรอบนี้ก็ถือว่าประทับจิต ประทับใจม๊ากก แต่ว่านี่ยังไม่จบนะเว้ย เพราะเรายังเหลืออีกหนึ่งปาร์ค นั่นคือ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Disney California Adventure Park) ที่เตรียมพร้อมสำหรับการไปเที่ยวแล้วพรุ่งนี้ ยังไง อ่านรีวิวกันต่ออีกปาร์คนึงได้เลย 55555
ส่วนคนที่กำลังหาซื้อบัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park อยู่ ซื้อจากตรงนี้ได้!
ขอย้ำอีกครั้งว่า สำหรับใครที่คิดว่าจะมาเที่ยวที่ ดิสนีย์แลนด์ ปาร์ค (Disneyland Park) แล้ว ก๊อตแนะนำให้มา 2 วันขึ้น เพราะมาวันเดียวมันไม่พอจริงๆ และควรจองตั๋วก่อนนานๆ ที่สำคัญเลยคือไม่ว่าจะซื้อตั๋วผ่านทาง KLOOK (ที่ง่ายแสนง่าย และมีส่วนลดเยอะมากๆ) แล้วต้องไม่ลืมที่จะเข้าไปกดจองในเว็บของ Disneyland อีกทีด้วยนะ ไม่งั้นอดเข้าเด้ออ
1. บัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park แบบ 1 วัน (ทั้ง 2 ประเภท) | คลิก ดูหรือซื้อผ่าน KLOOK
2. บัตร Disneyland Park + Disney California Adventure Park แบบ 2-3 วัน (ทั้ง 2 ประเภท) | คลิก ดูหรือซื้อผ่าน KLOOK
3. ส่วนลดประจำเดือนของ KLOOK | คลิก
คลิกอ่านรีวิว Disney California Adventure Park
รีวิวเที่ยวอเมริกาครั้งแรก ยังไม่หมดเท่านี้ 🇺🇸🗽
เที่ยวอเมริกาให้เยอะขึ้นอีกจากรีวิวอเมริกาด้านล่างนี้ได้เลย
EP.0 (1) – USA Travel 101 กำลังเขียน
EP.0 (2) – 8 เหตุผล ทำไมต้องไปเที่ยวอเมริกาซักครั้งในชีวิต
EP.1 – Chicago
EP.2 – San Francisco กำลังเขียน
EP.3 - Pacific Coast Highway : Monterey + Carmel-By-The-Sea กำลังเขียน
EP.4 - Pacific Coast Highway : Big Sur กำลังเขียน
EP.5 - Pacific Coast Highway : Morro Bay + Santa Barbara กำลังเขียน
EP.6 – Los Angeles
EP.7 – Universal Studios Hollywood
EP.8 – Disneyland Park
EP.9 – Disney California Adventure Park
EP.10 – San Diego กำลังเขียน
EP.11 – Joshua Tree National Park
EP.12 – Death Valley National Park กำลังเขียน
EP.13 – Yosemite National Park กำลังเขียน
EP.14 – Washington D.C. กำลังเขียน
EP.15 – New York City
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
สวนสนุกอื่นๆ
- Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
- Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
- Ocean Park / ฮ่องกง
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡